หยางซั่วขมวดคิ้วพูดว่า “ในเวลานี้ พวกครอบครัวที่ร่ำรวยต่างก็กำลังขายทรัพย์สินของของตัวเอง และราคาก็ต่ำพอ ๆ กับราคากะหล่ำปลี ถือเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีใครซื้อ!”“เฮ้อ ถูกต้อง เมื่อกองทัพชาวหวงเข้ามาในเมือง ทุกอย่างก็จะตกเป็นของชาวหวง แล้วใครล่ะจะซื้อ!”หยางว่านหลี่ถอนหายใจ “ไม่ได้การแล้ว รีบเก็บของแล้วไปทางใต้ของเมืองโจวกันเถอะ!”พูดจบคนรับใช้ก็วิ่งเข้ามา “นายน้อยสาม นายน้อยเล็ก จากร้านพ่อค้านายหน้า บอกว่ามีคนต้องการซื้อคฤหาสน์ของท่านขอรับ แต่ราคาเป็นหนึ่งในสิบของราคาเดิม อยากถามท่านว่าต้องการจะขายหรือไม่ขอรับ!”“หนึ่งในสิบของราคาเดิม นี่ นี่มัน!”เดิมทีราคามันเท่า ๆ กับกะหล่ำปลี แต่นี่ยังมากถึงหนึ่งในสิบของราคาเดิม หยางซั่วจำใจจริง ๆ เขาจึงหลับตาแล้วโบกมือ “ขาย ขาย ขาย!”หยางว่านหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หากยังสามารถขายทรัพย์สินได้ในเวลานี้ ก็นับว่าเป็นบุญของตระกูลหยางของข้าแล้ว!”ไม่เพียงแต่ตระกูลหยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตระกูลใหญ่หลายตระกูลในเมืองด้วย เมื่อเกิดภาวะสงครามเช่นนี้ ทรัพย์สินทั้งหมดจะมีราคาต่ำกว่าราคากะหล่ำปลีถึงสิบเท่า!ในเวลาเดียวกัน ประตูเมืองก็ย
ค่ายทางเหนือ หลบหนีจากกำแพงด่านหลงโถวกลับมาที่ค่าย กองทหารม้ายืนรายล้อม!กำแพงด่านหลงโถวถูกตีแตกพ่าย ทหารมากกว่าหนึ่งหมื่นนายหลบหนีกลับไป แต่อาวุธและชุดเกราะถูกยึดไปหมดแม้จะบอกว่าถูกจับกุม แต่ความจริงแล้ว สภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ต่างจากในค่ายทหารช่วงสงคราม!ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนการต่อสู้ มีการให้อาหารสามมื้อตามปกติ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำนี่เป็นความคิดปกติของทหารพ่ายศึก!แต่ทหารที่ยอมจำนนต่อชาวหวง กลับวิตกกังวลราวกับถูกขังอยู่ในคุก!อาหารของขุนพลหนิวเวยทุกมื้อมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก แต่ก็ยากที่จะกลืนหลังจากพ่ายแพ้การต่อสู้ในคืนนั้น ชาวหวงก็สั่งให้ทหารสังหารหัวหน้าของตัวเองทันที!ทหารคนใดก็ตามที่ปฏิเสธ จะถูกชาวหวงลากตัวออกไป แล้วใช้ดาบฟันจนตาย!เขากลัวความตาย จึงแทงแม่ทัพของตนเอง ยอมรับตำแหน่งขุนพลจากชาวหวง แล้วพาทหารกลุ่มหนึ่งที่ทรยศเช่นกันกลับมา ในฐานะทหารพ่ายศึก เพื่อเป็นไส้ศึกคืนนั้นทหารจำนวนมากถูกจับ เขาคาดเดาว่าทหารหลายคนก่อกบฏ!เมื่อกลับมาในเมือง เขาได้แอบเตรียมร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอก!แต่น่าเสียดายที่คนในเมืองรู้ตัวเร็วเกินไป จึงถอดชุดเ
“เราอยากพบท่านแม่ทัพ พวกเราไม่สมควรถูกกักตัวไว้เช่นนี้!”ผู้คนนับหมื่นสร้างปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ!เฮ เฮ เฮ...ทันใดนั้นทหารสองกองพันก็วิ่งเข้ามากองพันหนึ่งเป็นนักดาบ ส่วนอีกกองพันหนึ่งเป็นนักธนูหน้าไม้ และผู้นำคือชายหนุ่ม!“ท่านเสนาธิการทหารมาแล้ว!”ทหารรักษาการณ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสายตาของหนิวเวยขุ่นมัว เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงาม สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นเขาเคยได้ยินเรื่องเสนาธิการทหารคนนี้ ทันทีที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เขาก็จ่ายเงินค่าจ้างให้ทหารอย่างเหมาะสม เขาเป็นที่นิยมในหมู่ทหารมาก!ทหารคนหนึ่งนำเก้าอี้มาให้ หวังหยวนขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น สูงกว่าผู้ชมมากกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วหยิบลำโพงไม้ขึ้นมา “ทุกคนเงียบ!”ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ...กึ้ง กึ้ง กึ้ง...ด้านหลังหวังหยวนมีกองทหารสองกองพัน ที่มีดาบยาวและหน้าไม้ที่เต็มไปด้วยลูกธนูอ๊ะ!ทหารหลายคนตกตะลึงและเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงพูดอีกหนิวเวยตะโกน “ท่านเสนาธิการทหารช่างสง่าผ่าเผยนัก พวกเราเพิ่งบอกว่ามีปัญหาเรื่องอาหาร ถึงกับต้องนำดาบและหน้าไม้มา คิดจะฆ่าพวกเราทุกคนหรือ!”“ใช่แล้ว ห้องครัวกำลังหักงบค่าอาหารและค่าจ้างของเรา แล้วเราจะออ
หลังจากถูกโบยด้วยไม้เท้าห้าสิบไม้ เขาจะต้องนอนพักเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะไม่ตายก็ตาม แล้วเขาจะร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอกได้อย่างไรแต่ไม่มีทหารพ่ายศึกคนใดที่อยู่รอบตัวเขากล้าช่วยเหลือ ได้แต่เฝ้ามองเขาถูกลากออกไปอย่างช่วยไม่ได้“อ๊าก อ๊าก...”ทหารทั้งหมดเงียบท่ามกลางเสียงกรีดร้อง!เสียงของหวังหยวนดังขึ้น “ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่ายนี้ ปรับปรุงอาหารของพวกเขา ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับทหารที่เฝ้าเมือง!”พลทหารฟางจิ่งผู้ดูแลค่ายพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทหารทุกคนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ!หวังหยวนกล่าวอีกครั้ง “ไปที่กรมยุทธภัณฑ์ แล้วเบิกเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมา ข้าจะจ่ายให้พวกเขา!”ฟางจิ่งตกใจ “ท่านเสนาธิการทหาร พวกเขาทำให้เสียกำแพงด่านหลงโถวไป เหตุใดพวกเขาต้องได้รับค่าจ้างทางทหารด้วยขอรับ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ราชสำนักเป็นหนี้ค่าจ้างทหารพวกเขาในอดีต แม้ว่าราชสำนักอยากจะลงโทษพวกเขาในอนาคต แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างทหาร!”“ท่านเสนาธิการทหาร!”ทหารหลายคนหลั่งน้ำตา!ทหารพ่ายศึกมักจะถูกส่งไปยังสนามรบ หากตายก็จบ!ไม่เคยมีแม่ทัพคนใดจ่ายค่าจ้างทหารแก่พวกเขา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!“น้อมรับ
“อ๊ะ!”เมื่อได้ยินว่าเสนาธิการทหารจำชื่อของตนได้ ทหารผ่านศึกจางฉีก็ถึงกับหลั่งน้ำตา “ท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยมีพื้นเพมาจากเมืองชิง ครอบครัวเคยมีบ้านและทุ่งนา เป็นชาวหวงที่ฆ่าพ่อแม่ของข้าน้อย และทำให้ภรรยาของข้าต้องแปดเปื้อนมลทิน มันฆ่าลูกชายของข้า ลูกชายของข้าอายุแค่แปดขวบเท่านั้น ชาวหวงฟันหัวเขาขาดด้วยดาบเพียงครั้งเดียว... อ่า ลูกชายของข้า พวกชาวหวงสมควรตาย!”“ฆ่าเด็กอายุแปดขวบได้ลงคอ ชาวหวงเป็นสัตว์ร้ายจริง ๆ เลวร้ายเสียยิ่งกว่าหมูหมา!”ทหารหลายคนกัดฟัน คนที่คิดถึงเรื่องที่ทำให้ตนอาฆาตแค้นก็ยิ่งตาแดง!หวังหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่คือความพยาบาทที่ต้องชำระ อีกไม่นานก็จะได้ล้างแค้น กลั้นน้ำตาระงับความเกลียดชังในใจของเจ้าก่อน รอให้มันปะทุออกมาอีกครั้งในสนามรบ!”จางฉีเดินกลับมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าหวังหยวนชี้ไปที่ชายวัยกลางคนอีกครั้ง “หลี่เฉิง เจ้าก็ดูโกรธแค้น เจ้ามีความแค้นกับชาวหวงบ้างหรือไม่ ลุกขึ้นบอกทุกคนสิ!”“ท่านเสนาธิการทหาร ข้ามาจากเมืองชิงเหมือนกันขอรับ ข้ากำลังจะได้แต่งงานกับคนรักแสนสวยของข้า แต่พวกชาวหวงมาฆ่าพ่อแม่ของข้า เผาบ้านของข้า และย่ำยีคนรักของข้าที่ยังไม่ได้
หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็เตรียมตัวตามแผนเดิม!”เหล่าทหารกำลังหลับใหล!กู้ชิงนอนอยู่บนพื้น พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ!ชาวหวงสังหารครอบครัวของเขา และเขาแปรพักตร์ไปเป็นคนของชาวหวง เพราะกลัวความตาย เขาจึงแทงเจ้านายของตัวเอง แล้วยอมไปอยู่ฝ่ายเดียวกับชาวหวง จากนั้นกลับมาซุ่มซ่อนตัวเป็นไส้ศึกเดิมทีเขาไม่สบายใจอยู่แล้ว แต่ทันทีที่ 'การประชุมระบายแค้น' เริ่มต้นขึ้น เขาก็รู้สึกละอายใจต่อบรรพบุรุษตัวเองจนนึกอยากตายขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาพร้อมใช้ดาบยาวจ่อคอ “เสนาธิการทหารต้องการพบเจ้า มากับเรา อย่าส่งเสียงดัง!”ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม!กู้ชิงมาถึงห้องอันห่างไกล แล้วคุกเข่าลงทันที “เคารพท่านเสนาธิการทหาร!”“ลุกขึ้น!”เมื่อมองชายหนุ่มผู้วิตกกังวลคนนี้ หวังหยวนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนรอยยิ้ม “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามา!”หัวใจของกู้ชิงสั่นเทา เขาพูดตะกุกตะกักหลังส่ายหน้า “ไม่ ไม่รู้ขอรับ!”“คนทำผิดไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการกลับใจไม่ได้!”หวังหยวนถอนหายใจ “ข้ากับแม่ทัพหนุ่มรู้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกเจ้ามา ขณะนี้มีกองทัพชาวหวงอยู่นอกเม
ทั้งหมดนี้แตกต่างจากตอนที่เขามาที่หมู่บ้านต้าหวัง เมื่อสามปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง!เสียงหัวเราะ เสียงฝึกวรยุทธ์ เสียงเล่าเรียนเขียนอ่าน เสียงทำอาหารดังขึ้นปะปนกันหลี่ซานซือตกตะลึง ที่แห่งนี้คือดินแดนแสนสงบสุข แต่น่าเสียดายที่มันจะถูกทำลายในไม่ช้า!หลายคนในหมู่บ้านสังเกตเห็นเขา จึงไปเรียกหลี่ซื่อหานมาให้!ไม่นานหลังจากนั้น เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้น “พี่ชาย ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ!”“ซื่อหาน!”เมื่อเห็นผิวพรรณของน้องสาวเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อย ๆ หลี่ซานซือก็หัวเราะ “พี่เพิ่งกลับมาจากเมืองจิ่วซาน พี่สะใภ้ของเจ้าคิดถึงเจ้า ข้าก็เลยพานางมาเยี่ยม!”“อ๋อ!”หลี่ซื่อหานเปลี่ยนเรื่อง “แล้วท่านได้พบสามีของข้าหรือไม่ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง!”“พบแล้ว!”หลี่ซานซือยกยิ้มแล้วเล่าว่า “เขาได้แก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือ ทั้งดอกเกลือ และเกลือธรรมดาทั้งหมดแล้ว เขายังขายดาบราชวงศ์ถังสามเล่ม ในราคามากกว่าสามหมื่นตำลึงทองด้วย ทั้งยังแต่งบทกวีที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย ได้รับการยกย่องให้เป็นสหายคนสนิทของท่านไห่เทียนด้วย ตอนนี้เขามีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองแล้ว!”เขาตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องหูเมิ่งอิ๋ง
หยางเฟิ่งกั๋ว เสนาบดีฝ่ายซ้ายยืนขึ้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท หวังหยวนค่อนข้างมีระเบียบวินัยในทุกการกระทำ ไม่ว่าเขาจะขอให้ผู้ส่งสารออกมาพูด หรือจัด 'การประชุมระบายแค้น' ล้วนเป็นไปเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน และทำให้กองทัพและประชาชนมีความเกลียดชังศัตรูเหมือนกัน ส่วนการสู้รบให้แตกหักภายในครึ่งเดือนนั้น เขาและแม่ทัพหนุ่ม จะต้องคิดกลยุทธ์เพื่อเอาชนะศัตรูไว้แล้วเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่าทั้งสองคนจะเอาชนะศัตรูได้!หลี่ซื่อฉี เจ้ากรมกรมยุติธรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท อู๋หลิงรู้จักกองทัพเป็นอย่างดี แต่ในมือมีกองทหารชั้นสอง จะต่อสู้กับทหารชั้นยอดของชาวหวงได้อย่างไร! มันจะดีกว่าหากเขาเข้าเมืองไปรอกำลังเสริม แต่ตอนนี้เขาเริ่มออกนอกเมืองไปต่อสู้กับพวกชาวหวง ถือเป็นการกระทำที่จะนำไปสู่ความหายนะพ่ะย่ะค่ะ!”กู้จี๋เต้า เจ้ากรมกรมพลเรือนและการคลังยังกล่าวอีกว่า “ฝ่าบาท ท่านทอดพระเนตรคำสั่งของอู๋หลิงเถอะพ่ะย่ะค่ะ ท่านรับสั่งให้ยุบกองทัพเกราะดำเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่เขากล้าที่จะออกคำสั่งเรียกให้ออกมารวมกันอีกจริง ๆ! ซ้ำยังให้ผู้พิพากษาของเมืองจิ่วซานซื้อวัวในไร่ของประชาชน