แชร์

บทที่ 279

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เปรี้ยง!

ราวกับสายฟ้าลงมากลางวันแสก ๆ ทำให้ทั้งกองทัพตกตะลึงกันไปหมด!

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น เขาสู้ตายกับอ๋องถูหนาน นี่มันรนหาที่ตายไม่ใช่หรือ?

เป็นแค่บัณฑิตที่เป็นนำกองทัพ ไอคนเก่งแต่ปาก กำลังทำลายชาติบ้านเมือง!

“ข้าคัดค้าน!”

แม่ทัพหวางห่าวเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาคัดค้าน "สู้รบแบบเผชิญหน้า มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอาชนะกองทหารม้าของชาวหวง ในครึ่งเดือนหากสู้กันมีแต่ตายกับตาย!"

เว่ยชิงซานยังกล่าวอีกว่า "ท่านที่ปรึกษา เจ้าไม่รู้หรอกว่ากองทหารม้าของชาวหวงนั้นทรงพลังขนาดไหน เจ้าเห็นชีวิตของทหารทั้งหมดในกองทัพเป็นของเล่นรึไง!"

ทั้งสองได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเสวี่ย ในขณะนี้พวกเขารู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลจึงคัดค้านอย่างไร้ความปราณี

หวู่หยวนก็ก้าวออกมาข้างหน้า "ท่านที่ปรึกษา คิดให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำ หากเราตะโกนออกไปแล้ว ในครึ่งเดือนหลังจากนั้นไม่สู้ตายกันล่ะก็ ขวัญกำลังใจของทหารเราก็จะลดลงจนถึงขีดสุด เมื่อถึงเวลานั้นชาวหวงบุกโจมตีอย่างหนักก็คงไม่อาจรักษาเมืองไว้ได้แล้ว!”

เจิ้งฝาเป่ยยังแนะนำอีกว่า "ท่านที่ปรึกษา เราตั้งหลักในเมือง มีข้อได้เปรียบในการปกป้องเมือง เรายังสามารถระดมกำลังจากภ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 280

    ชาวหวงที่ได้รับคำสั่งลงมาได้ออกไปเเล้ว!อ๋องถูหนานโบกมือและพวกแม่ทัพทั้งหมดก็ออกไป เขามองไปทางลูกชายแล้วพูดว่า "อากู่ฉา ไปแจ้งหน่วยอินทรีดำ เรียกระดมพลทหารกลับเข้าหน่วยโดยเร็วที่สุด แล้วไปสืบเกี่ยวกับที่ปรึกษาคนนั้นมาอย่างละเอียดซะ!”อากู่ฉาขมวดคิ้ว “เสด็จพ่อทรงกังวลว่าในศึกนี้ที่ปรึกษาคนนั้นจะเล่นลูกไม้อะไรอีกรึ?”อ๋องถูหนานขำเล็กน้อย "อากู่ฉา เจ้าจำไว้นะว่า ภายใต้ความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงนั้น การเล่นลูกไม้หรืออุบายใด ๆ ก็ไร้ประโยชน์ เขาแค่ดิ้นรนก่อนตาย และถ่วงเวลาไว้เท่านั้น ถ้าภายในครึ่งเดือนไม่ออกมาสู้ ขวัญกำลังใจของเมืองทั้งเมืองต่ำตกจนถึงขีดสุด ถึงตอนนั้นเรายกพลไปโจมตีทั้งภายในและภายนอก มันก็จะง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ และศึกครั้งนี้ก็จะจบลง”...“ภายในครึ่งเดือน แม่ทัพหนุ่มจะนำกองทัพออกจากเมืองไปตัดหัวอ๋องสุนัขถูหนาน!”“อ๋องถูหนานแก่แล้ว ตอนนี้ในแต่ละมื้อเขากินข้าวได้แค่ครึ่งชาม เขามาตื่นแปดครั้งในตอนกลางคืน ชอบฉี่เปียกรองเท้า เรื่องนี้ท่าจะไม่ไหวแล้ว!”"ในศึกนี้ พวกชาวหวงจะแพ้อย่างแน่นอน!""ตัดหัวอ๋องถูหนาน ล้างแค้นให้กับครอบครัวและญาติพี่น้องของเราที่ตายจากการเหยียบย่ำขอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 281

    หยางซั่วขมวดคิ้วพูดว่า “ในเวลานี้ พวกครอบครัวที่ร่ำรวยต่างก็กำลังขายทรัพย์สินของของตัวเอง และราคาก็ต่ำพอ ๆ กับราคากะหล่ำปลี ถือเป็นการขาดทุนครั้งใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีใครซื้อ!”“เฮ้อ ถูกต้อง เมื่อกองทัพชาวหวงเข้ามาในเมือง ทุกอย่างก็จะตกเป็นของชาวหวง แล้วใครล่ะจะซื้อ!”หยางว่านหลี่ถอนหายใจ “ไม่ได้การแล้ว รีบเก็บของแล้วไปทางใต้ของเมืองโจวกันเถอะ!”พูดจบคนรับใช้ก็วิ่งเข้ามา “นายน้อยสาม นายน้อยเล็ก จากร้านพ่อค้านายหน้า บอกว่ามีคนต้องการซื้อคฤหาสน์ของท่านขอรับ แต่ราคาเป็นหนึ่งในสิบของราคาเดิม อยากถามท่านว่าต้องการจะขายหรือไม่ขอรับ!”“หนึ่งในสิบของราคาเดิม นี่ นี่มัน!”เดิมทีราคามันเท่า ๆ กับกะหล่ำปลี แต่นี่ยังมากถึงหนึ่งในสิบของราคาเดิม หยางซั่วจำใจจริง ๆ เขาจึงหลับตาแล้วโบกมือ “ขาย ขาย ขาย!”หยางว่านหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หากยังสามารถขายทรัพย์สินได้ในเวลานี้ ก็นับว่าเป็นบุญของตระกูลหยางของข้าแล้ว!”ไม่เพียงแต่ตระกูลหยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตระกูลใหญ่หลายตระกูลในเมืองด้วย เมื่อเกิดภาวะสงครามเช่นนี้ ทรัพย์สินทั้งหมดจะมีราคาต่ำกว่าราคากะหล่ำปลีถึงสิบเท่า!ในเวลาเดียวกัน ประตูเมืองก็ย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 282

    ค่ายทางเหนือ หลบหนีจากกำแพงด่านหลงโถวกลับมาที่ค่าย กองทหารม้ายืนรายล้อม!กำแพงด่านหลงโถวถูกตีแตกพ่าย ทหารมากกว่าหนึ่งหมื่นนายหลบหนีกลับไป แต่อาวุธและชุดเกราะถูกยึดไปหมดแม้จะบอกว่าถูกจับกุม แต่ความจริงแล้ว สภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ต่างจากในค่ายทหารช่วงสงคราม!ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนการต่อสู้ มีการให้อาหารสามมื้อตามปกติ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำนี่เป็นความคิดปกติของทหารพ่ายศึก!แต่ทหารที่ยอมจำนนต่อชาวหวง กลับวิตกกังวลราวกับถูกขังอยู่ในคุก!อาหารของขุนพลหนิวเวยทุกมื้อมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก แต่ก็ยากที่จะกลืนหลังจากพ่ายแพ้การต่อสู้ในคืนนั้น ชาวหวงก็สั่งให้ทหารสังหารหัวหน้าของตัวเองทันที!ทหารคนใดก็ตามที่ปฏิเสธ จะถูกชาวหวงลากตัวออกไป แล้วใช้ดาบฟันจนตาย!เขากลัวความตาย จึงแทงแม่ทัพของตนเอง ยอมรับตำแหน่งขุนพลจากชาวหวง แล้วพาทหารกลุ่มหนึ่งที่ทรยศเช่นกันกลับมา ในฐานะทหารพ่ายศึก เพื่อเป็นไส้ศึกคืนนั้นทหารจำนวนมากถูกจับ เขาคาดเดาว่าทหารหลายคนก่อกบฏ!เมื่อกลับมาในเมือง เขาได้แอบเตรียมร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอก!แต่น่าเสียดายที่คนในเมืองรู้ตัวเร็วเกินไป จึงถอดชุดเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 283

    “เราอยากพบท่านแม่ทัพ พวกเราไม่สมควรถูกกักตัวไว้เช่นนี้!”ผู้คนนับหมื่นสร้างปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ!เฮ เฮ เฮ...ทันใดนั้นทหารสองกองพันก็วิ่งเข้ามากองพันหนึ่งเป็นนักดาบ ส่วนอีกกองพันหนึ่งเป็นนักธนูหน้าไม้ และผู้นำคือชายหนุ่ม!“ท่านเสนาธิการทหารมาแล้ว!”ทหารรักษาการณ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสายตาของหนิวเวยขุ่นมัว เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงาม สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นเขาเคยได้ยินเรื่องเสนาธิการทหารคนนี้ ทันทีที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เขาก็จ่ายเงินค่าจ้างให้ทหารอย่างเหมาะสม เขาเป็นที่นิยมในหมู่ทหารมาก!ทหารคนหนึ่งนำเก้าอี้มาให้ หวังหยวนขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น สูงกว่าผู้ชมมากกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วหยิบลำโพงไม้ขึ้นมา “ทุกคนเงียบ!”ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ...กึ้ง กึ้ง กึ้ง...ด้านหลังหวังหยวนมีกองทหารสองกองพัน ที่มีดาบยาวและหน้าไม้ที่เต็มไปด้วยลูกธนูอ๊ะ!ทหารหลายคนตกตะลึงและเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงพูดอีกหนิวเวยตะโกน “ท่านเสนาธิการทหารช่างสง่าผ่าเผยนัก พวกเราเพิ่งบอกว่ามีปัญหาเรื่องอาหาร ถึงกับต้องนำดาบและหน้าไม้มา คิดจะฆ่าพวกเราทุกคนหรือ!”“ใช่แล้ว ห้องครัวกำลังหักงบค่าอาหารและค่าจ้างของเรา แล้วเราจะออ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 284

    หลังจากถูกโบยด้วยไม้เท้าห้าสิบไม้ เขาจะต้องนอนพักเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะไม่ตายก็ตาม แล้วเขาจะร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอกได้อย่างไรแต่ไม่มีทหารพ่ายศึกคนใดที่อยู่รอบตัวเขากล้าช่วยเหลือ ได้แต่เฝ้ามองเขาถูกลากออกไปอย่างช่วยไม่ได้“อ๊าก อ๊าก...”ทหารทั้งหมดเงียบท่ามกลางเสียงกรีดร้อง!เสียงของหวังหยวนดังขึ้น “ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่ายนี้ ปรับปรุงอาหารของพวกเขา ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับทหารที่เฝ้าเมือง!”พลทหารฟางจิ่งผู้ดูแลค่ายพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทหารทุกคนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ!หวังหยวนกล่าวอีกครั้ง “ไปที่กรมยุทธภัณฑ์ แล้วเบิกเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมา ข้าจะจ่ายให้พวกเขา!”ฟางจิ่งตกใจ “ท่านเสนาธิการทหาร พวกเขาทำให้เสียกำแพงด่านหลงโถวไป เหตุใดพวกเขาต้องได้รับค่าจ้างทางทหารด้วยขอรับ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ราชสำนักเป็นหนี้ค่าจ้างทหารพวกเขาในอดีต แม้ว่าราชสำนักอยากจะลงโทษพวกเขาในอนาคต แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างทหาร!”“ท่านเสนาธิการทหาร!”ทหารหลายคนหลั่งน้ำตา!ทหารพ่ายศึกมักจะถูกส่งไปยังสนามรบ หากตายก็จบ!ไม่เคยมีแม่ทัพคนใดจ่ายค่าจ้างทหารแก่พวกเขา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!“น้อมรับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 285

    “อ๊ะ!”เมื่อได้ยินว่าเสนาธิการทหารจำชื่อของตนได้ ทหารผ่านศึกจางฉีก็ถึงกับหลั่งน้ำตา “ท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยมีพื้นเพมาจากเมืองชิง ครอบครัวเคยมีบ้านและทุ่งนา เป็นชาวหวงที่ฆ่าพ่อแม่ของข้าน้อย และทำให้ภรรยาของข้าต้องแปดเปื้อนมลทิน มันฆ่าลูกชายของข้า ลูกชายของข้าอายุแค่แปดขวบเท่านั้น ชาวหวงฟันหัวเขาขาดด้วยดาบเพียงครั้งเดียว... อ่า ลูกชายของข้า พวกชาวหวงสมควรตาย!”“ฆ่าเด็กอายุแปดขวบได้ลงคอ ชาวหวงเป็นสัตว์ร้ายจริง ๆ เลวร้ายเสียยิ่งกว่าหมูหมา!”ทหารหลายคนกัดฟัน คนที่คิดถึงเรื่องที่ทำให้ตนอาฆาตแค้นก็ยิ่งตาแดง!หวังหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่คือความพยาบาทที่ต้องชำระ อีกไม่นานก็จะได้ล้างแค้น กลั้นน้ำตาระงับความเกลียดชังในใจของเจ้าก่อน รอให้มันปะทุออกมาอีกครั้งในสนามรบ!”จางฉีเดินกลับมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าหวังหยวนชี้ไปที่ชายวัยกลางคนอีกครั้ง “หลี่เฉิง เจ้าก็ดูโกรธแค้น เจ้ามีความแค้นกับชาวหวงบ้างหรือไม่ ลุกขึ้นบอกทุกคนสิ!”“ท่านเสนาธิการทหาร ข้ามาจากเมืองชิงเหมือนกันขอรับ ข้ากำลังจะได้แต่งงานกับคนรักแสนสวยของข้า แต่พวกชาวหวงมาฆ่าพ่อแม่ของข้า เผาบ้านของข้า และย่ำยีคนรักของข้าที่ยังไม่ได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 286

    หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็เตรียมตัวตามแผนเดิม!”เหล่าทหารกำลังหลับใหล!กู้ชิงนอนอยู่บนพื้น พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ!ชาวหวงสังหารครอบครัวของเขา และเขาแปรพักตร์ไปเป็นคนของชาวหวง เพราะกลัวความตาย เขาจึงแทงเจ้านายของตัวเอง แล้วยอมไปอยู่ฝ่ายเดียวกับชาวหวง จากนั้นกลับมาซุ่มซ่อนตัวเป็นไส้ศึกเดิมทีเขาไม่สบายใจอยู่แล้ว แต่ทันทีที่ 'การประชุมระบายแค้น' เริ่มต้นขึ้น เขาก็รู้สึกละอายใจต่อบรรพบุรุษตัวเองจนนึกอยากตายขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาพร้อมใช้ดาบยาวจ่อคอ “เสนาธิการทหารต้องการพบเจ้า มากับเรา อย่าส่งเสียงดัง!”ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม!กู้ชิงมาถึงห้องอันห่างไกล แล้วคุกเข่าลงทันที “เคารพท่านเสนาธิการทหาร!”“ลุกขึ้น!”เมื่อมองชายหนุ่มผู้วิตกกังวลคนนี้ หวังหยวนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนรอยยิ้ม “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามา!”หัวใจของกู้ชิงสั่นเทา เขาพูดตะกุกตะกักหลังส่ายหน้า “ไม่ ไม่รู้ขอรับ!”“คนทำผิดไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการกลับใจไม่ได้!”หวังหยวนถอนหายใจ “ข้ากับแม่ทัพหนุ่มรู้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกเจ้ามา ขณะนี้มีกองทัพชาวหวงอยู่นอกเม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 287

    ทั้งหมดนี้แตกต่างจากตอนที่เขามาที่หมู่บ้านต้าหวัง เมื่อสามปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง!เสียงหัวเราะ เสียงฝึกวรยุทธ์ เสียงเล่าเรียนเขียนอ่าน เสียงทำอาหารดังขึ้นปะปนกันหลี่ซานซือตกตะลึง ที่แห่งนี้คือดินแดนแสนสงบสุข แต่น่าเสียดายที่มันจะถูกทำลายในไม่ช้า!หลายคนในหมู่บ้านสังเกตเห็นเขา จึงไปเรียกหลี่ซื่อหานมาให้!ไม่นานหลังจากนั้น เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้น “พี่ชาย ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ!”“ซื่อหาน!”เมื่อเห็นผิวพรรณของน้องสาวเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อย ๆ หลี่ซานซือก็หัวเราะ “พี่เพิ่งกลับมาจากเมืองจิ่วซาน พี่สะใภ้ของเจ้าคิดถึงเจ้า ข้าก็เลยพานางมาเยี่ยม!”“อ๋อ!”หลี่ซื่อหานเปลี่ยนเรื่อง “แล้วท่านได้พบสามีของข้าหรือไม่ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง!”“พบแล้ว!”หลี่ซานซือยกยิ้มแล้วเล่าว่า “เขาได้แก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือ ทั้งดอกเกลือ และเกลือธรรมดาทั้งหมดแล้ว เขายังขายดาบราชวงศ์ถังสามเล่ม ในราคามากกว่าสามหมื่นตำลึงทองด้วย ทั้งยังแต่งบทกวีที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย ได้รับการยกย่องให้เป็นสหายคนสนิทของท่านไห่เทียนด้วย ตอนนี้เขามีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองแล้ว!”เขาตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องหูเมิ่งอิ๋ง

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status