ค่ายทางเหนือ หลบหนีจากกำแพงด่านหลงโถวกลับมาที่ค่าย กองทหารม้ายืนรายล้อม!กำแพงด่านหลงโถวถูกตีแตกพ่าย ทหารมากกว่าหนึ่งหมื่นนายหลบหนีกลับไป แต่อาวุธและชุดเกราะถูกยึดไปหมดแม้จะบอกว่าถูกจับกุม แต่ความจริงแล้ว สภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ต่างจากในค่ายทหารช่วงสงคราม!ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนการต่อสู้ มีการให้อาหารสามมื้อตามปกติ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำนี่เป็นความคิดปกติของทหารพ่ายศึก!แต่ทหารที่ยอมจำนนต่อชาวหวง กลับวิตกกังวลราวกับถูกขังอยู่ในคุก!อาหารของขุนพลหนิวเวยทุกมื้อมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก แต่ก็ยากที่จะกลืนหลังจากพ่ายแพ้การต่อสู้ในคืนนั้น ชาวหวงก็สั่งให้ทหารสังหารหัวหน้าของตัวเองทันที!ทหารคนใดก็ตามที่ปฏิเสธ จะถูกชาวหวงลากตัวออกไป แล้วใช้ดาบฟันจนตาย!เขากลัวความตาย จึงแทงแม่ทัพของตนเอง ยอมรับตำแหน่งขุนพลจากชาวหวง แล้วพาทหารกลุ่มหนึ่งที่ทรยศเช่นกันกลับมา ในฐานะทหารพ่ายศึก เพื่อเป็นไส้ศึกคืนนั้นทหารจำนวนมากถูกจับ เขาคาดเดาว่าทหารหลายคนก่อกบฏ!เมื่อกลับมาในเมือง เขาได้แอบเตรียมร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอก!แต่น่าเสียดายที่คนในเมืองรู้ตัวเร็วเกินไป จึงถอดชุดเ
“เราอยากพบท่านแม่ทัพ พวกเราไม่สมควรถูกกักตัวไว้เช่นนี้!”ผู้คนนับหมื่นสร้างปัญหารุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ!เฮ เฮ เฮ...ทันใดนั้นทหารสองกองพันก็วิ่งเข้ามากองพันหนึ่งเป็นนักดาบ ส่วนอีกกองพันหนึ่งเป็นนักธนูหน้าไม้ และผู้นำคือชายหนุ่ม!“ท่านเสนาธิการทหารมาแล้ว!”ทหารรักษาการณ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสายตาของหนิวเวยขุ่นมัว เมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงาม สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นเขาเคยได้ยินเรื่องเสนาธิการทหารคนนี้ ทันทีที่เขาเข้ารับตำแหน่ง เขาก็จ่ายเงินค่าจ้างให้ทหารอย่างเหมาะสม เขาเป็นที่นิยมในหมู่ทหารมาก!ทหารคนหนึ่งนำเก้าอี้มาให้ หวังหยวนขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น สูงกว่าผู้ชมมากกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วหยิบลำโพงไม้ขึ้นมา “ทุกคนเงียบ!”ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ...กึ้ง กึ้ง กึ้ง...ด้านหลังหวังหยวนมีกองทหารสองกองพัน ที่มีดาบยาวและหน้าไม้ที่เต็มไปด้วยลูกธนูอ๊ะ!ทหารหลายคนตกตะลึงและเงียบ ไม่กล้าส่งเสียงพูดอีกหนิวเวยตะโกน “ท่านเสนาธิการทหารช่างสง่าผ่าเผยนัก พวกเราเพิ่งบอกว่ามีปัญหาเรื่องอาหาร ถึงกับต้องนำดาบและหน้าไม้มา คิดจะฆ่าพวกเราทุกคนหรือ!”“ใช่แล้ว ห้องครัวกำลังหักงบค่าอาหารและค่าจ้างของเรา แล้วเราจะออ
หลังจากถูกโบยด้วยไม้เท้าห้าสิบไม้ เขาจะต้องนอนพักเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะไม่ตายก็ตาม แล้วเขาจะร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอกได้อย่างไรแต่ไม่มีทหารพ่ายศึกคนใดที่อยู่รอบตัวเขากล้าช่วยเหลือ ได้แต่เฝ้ามองเขาถูกลากออกไปอย่างช่วยไม่ได้“อ๊าก อ๊าก...”ทหารทั้งหมดเงียบท่ามกลางเสียงกรีดร้อง!เสียงของหวังหยวนดังขึ้น “ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่ายนี้ ปรับปรุงอาหารของพวกเขา ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับทหารที่เฝ้าเมือง!”พลทหารฟางจิ่งผู้ดูแลค่ายพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทหารทุกคนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ!หวังหยวนกล่าวอีกครั้ง “ไปที่กรมยุทธภัณฑ์ แล้วเบิกเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมา ข้าจะจ่ายให้พวกเขา!”ฟางจิ่งตกใจ “ท่านเสนาธิการทหาร พวกเขาทำให้เสียกำแพงด่านหลงโถวไป เหตุใดพวกเขาต้องได้รับค่าจ้างทางทหารด้วยขอรับ?”หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ราชสำนักเป็นหนี้ค่าจ้างทหารพวกเขาในอดีต แม้ว่าราชสำนักอยากจะลงโทษพวกเขาในอนาคต แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างทหาร!”“ท่านเสนาธิการทหาร!”ทหารหลายคนหลั่งน้ำตา!ทหารพ่ายศึกมักจะถูกส่งไปยังสนามรบ หากตายก็จบ!ไม่เคยมีแม่ทัพคนใดจ่ายค่าจ้างทหารแก่พวกเขา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!“น้อมรับ
“อ๊ะ!”เมื่อได้ยินว่าเสนาธิการทหารจำชื่อของตนได้ ทหารผ่านศึกจางฉีก็ถึงกับหลั่งน้ำตา “ท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยมีพื้นเพมาจากเมืองชิง ครอบครัวเคยมีบ้านและทุ่งนา เป็นชาวหวงที่ฆ่าพ่อแม่ของข้าน้อย และทำให้ภรรยาของข้าต้องแปดเปื้อนมลทิน มันฆ่าลูกชายของข้า ลูกชายของข้าอายุแค่แปดขวบเท่านั้น ชาวหวงฟันหัวเขาขาดด้วยดาบเพียงครั้งเดียว... อ่า ลูกชายของข้า พวกชาวหวงสมควรตาย!”“ฆ่าเด็กอายุแปดขวบได้ลงคอ ชาวหวงเป็นสัตว์ร้ายจริง ๆ เลวร้ายเสียยิ่งกว่าหมูหมา!”ทหารหลายคนกัดฟัน คนที่คิดถึงเรื่องที่ทำให้ตนอาฆาตแค้นก็ยิ่งตาแดง!หวังหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่คือความพยาบาทที่ต้องชำระ อีกไม่นานก็จะได้ล้างแค้น กลั้นน้ำตาระงับความเกลียดชังในใจของเจ้าก่อน รอให้มันปะทุออกมาอีกครั้งในสนามรบ!”จางฉีเดินกลับมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าหวังหยวนชี้ไปที่ชายวัยกลางคนอีกครั้ง “หลี่เฉิง เจ้าก็ดูโกรธแค้น เจ้ามีความแค้นกับชาวหวงบ้างหรือไม่ ลุกขึ้นบอกทุกคนสิ!”“ท่านเสนาธิการทหาร ข้ามาจากเมืองชิงเหมือนกันขอรับ ข้ากำลังจะได้แต่งงานกับคนรักแสนสวยของข้า แต่พวกชาวหวงมาฆ่าพ่อแม่ของข้า เผาบ้านของข้า และย่ำยีคนรักของข้าที่ยังไม่ได้
หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็เตรียมตัวตามแผนเดิม!”เหล่าทหารกำลังหลับใหล!กู้ชิงนอนอยู่บนพื้น พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ!ชาวหวงสังหารครอบครัวของเขา และเขาแปรพักตร์ไปเป็นคนของชาวหวง เพราะกลัวความตาย เขาจึงแทงเจ้านายของตัวเอง แล้วยอมไปอยู่ฝ่ายเดียวกับชาวหวง จากนั้นกลับมาซุ่มซ่อนตัวเป็นไส้ศึกเดิมทีเขาไม่สบายใจอยู่แล้ว แต่ทันทีที่ 'การประชุมระบายแค้น' เริ่มต้นขึ้น เขาก็รู้สึกละอายใจต่อบรรพบุรุษตัวเองจนนึกอยากตายขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาพร้อมใช้ดาบยาวจ่อคอ “เสนาธิการทหารต้องการพบเจ้า มากับเรา อย่าส่งเสียงดัง!”ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม!กู้ชิงมาถึงห้องอันห่างไกล แล้วคุกเข่าลงทันที “เคารพท่านเสนาธิการทหาร!”“ลุกขึ้น!”เมื่อมองชายหนุ่มผู้วิตกกังวลคนนี้ หวังหยวนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนรอยยิ้ม “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามา!”หัวใจของกู้ชิงสั่นเทา เขาพูดตะกุกตะกักหลังส่ายหน้า “ไม่ ไม่รู้ขอรับ!”“คนทำผิดไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการกลับใจไม่ได้!”หวังหยวนถอนหายใจ “ข้ากับแม่ทัพหนุ่มรู้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกเจ้ามา ขณะนี้มีกองทัพชาวหวงอยู่นอกเม
ทั้งหมดนี้แตกต่างจากตอนที่เขามาที่หมู่บ้านต้าหวัง เมื่อสามปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง!เสียงหัวเราะ เสียงฝึกวรยุทธ์ เสียงเล่าเรียนเขียนอ่าน เสียงทำอาหารดังขึ้นปะปนกันหลี่ซานซือตกตะลึง ที่แห่งนี้คือดินแดนแสนสงบสุข แต่น่าเสียดายที่มันจะถูกทำลายในไม่ช้า!หลายคนในหมู่บ้านสังเกตเห็นเขา จึงไปเรียกหลี่ซื่อหานมาให้!ไม่นานหลังจากนั้น เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้น “พี่ชาย ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ!”“ซื่อหาน!”เมื่อเห็นผิวพรรณของน้องสาวเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อย ๆ หลี่ซานซือก็หัวเราะ “พี่เพิ่งกลับมาจากเมืองจิ่วซาน พี่สะใภ้ของเจ้าคิดถึงเจ้า ข้าก็เลยพานางมาเยี่ยม!”“อ๋อ!”หลี่ซื่อหานเปลี่ยนเรื่อง “แล้วท่านได้พบสามีของข้าหรือไม่ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง!”“พบแล้ว!”หลี่ซานซือยกยิ้มแล้วเล่าว่า “เขาได้แก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือ ทั้งดอกเกลือ และเกลือธรรมดาทั้งหมดแล้ว เขายังขายดาบราชวงศ์ถังสามเล่ม ในราคามากกว่าสามหมื่นตำลึงทองด้วย ทั้งยังแต่งบทกวีที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย ได้รับการยกย่องให้เป็นสหายคนสนิทของท่านไห่เทียนด้วย ตอนนี้เขามีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองแล้ว!”เขาตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องหูเมิ่งอิ๋ง
หยางเฟิ่งกั๋ว เสนาบดีฝ่ายซ้ายยืนขึ้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท หวังหยวนค่อนข้างมีระเบียบวินัยในทุกการกระทำ ไม่ว่าเขาจะขอให้ผู้ส่งสารออกมาพูด หรือจัด 'การประชุมระบายแค้น' ล้วนเป็นไปเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน และทำให้กองทัพและประชาชนมีความเกลียดชังศัตรูเหมือนกัน ส่วนการสู้รบให้แตกหักภายในครึ่งเดือนนั้น เขาและแม่ทัพหนุ่ม จะต้องคิดกลยุทธ์เพื่อเอาชนะศัตรูไว้แล้วเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่าทั้งสองคนจะเอาชนะศัตรูได้!หลี่ซื่อฉี เจ้ากรมกรมยุติธรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท อู๋หลิงรู้จักกองทัพเป็นอย่างดี แต่ในมือมีกองทหารชั้นสอง จะต่อสู้กับทหารชั้นยอดของชาวหวงได้อย่างไร! มันจะดีกว่าหากเขาเข้าเมืองไปรอกำลังเสริม แต่ตอนนี้เขาเริ่มออกนอกเมืองไปต่อสู้กับพวกชาวหวง ถือเป็นการกระทำที่จะนำไปสู่ความหายนะพ่ะย่ะค่ะ!”กู้จี๋เต้า เจ้ากรมกรมพลเรือนและการคลังยังกล่าวอีกว่า “ฝ่าบาท ท่านทอดพระเนตรคำสั่งของอู๋หลิงเถอะพ่ะย่ะค่ะ ท่านรับสั่งให้ยุบกองทัพเกราะดำเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่เขากล้าที่จะออกคำสั่งเรียกให้ออกมารวมกันอีกจริง ๆ! ซ้ำยังให้ผู้พิพากษาของเมืองจิ่วซานซื้อวัวในไร่ของประชาชน
ผิงเจี้ยนหันมามองด้วยสีหน้าเย็นชา “หนิงสือซาน เจ้ากลายเป็นขี้ข้าของราชสำนักอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าพวกเขาปฏิบัติต่อแม่ทัพมู่อย่างไร แม้ว่าชาวหวงจะโจมตีเมืองจิงตู และสังหารฮ่องเต้จอมร้ายกาจนั่น ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้แม่ทัพมู่ไป ข้าคงขอบคุณพวกเขาด้วยซ้ำ”หนิงสือซานกัดฟัน “เจ้าบ้าผิง เจ้าคิดว่าข้ายอมสละชีวิตเพื่อราชสำนักงั้นหรือ! ราชสำนักแต่งตั้งแม่ทัพหนุ่มเป็นผู้บัญชาการ หากเขาแพ้ศึกครั้งนี้ ราชสำนักจะปล่อยเขาไปหรือ แล้วเจ้ากับข้าจะทรยศแม่ทัพมู่หรือไม่!”“แม่ทัพหนุ่มยังมีชีวิตอยู่!”ดวงตาของผิงเจี้ยนสั่นไหว เขารีบวิ่งลงไปจากเนินเขา!หนิงสือซานขี่ม้าตามไป “เจ้าบ้าผิง เจ้ากำลังทำบ้าอะไรอยู่!”ผิงเจี้ยนตอบโดยไม่หันกลับไป “แน่นอนว่าต้องไปที่เมืองจิ่วซาน เพื่อช่วยให้แม่ทัพหนุ่มชนะการต่อสู้ครั้งนี้!”“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด!”หนิงสือซานหัวเราะ แล้วโยนถุงใบเล็กไปให้!ผิงเจี้ยนคว้ามันไว้ได้ เมื่อเปิดมันออกก็ตกตะลึง “ทองคำ!”หนิงสือซานพ่นลมหายใจ “เสนาธิการทหารจ่ายทองคำสิบตำลึงเป็นค่าตั้งถิ่นฐานของเจ้า ด้วยเงินจากกระเป๋าของเขาเอง!”ผิงเจี้ยนประหลาดใจ “เสนาธิ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ