แชร์

บทที่ 284

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หลังจากถูกโบยด้วยไม้เท้าห้าสิบไม้ เขาจะต้องนอนพักเป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะไม่ตายก็ตาม แล้วเขาจะร่วมมือกับชาวหวงทั้งภายในและภายนอกได้อย่างไร

แต่ไม่มีทหารพ่ายศึกคนใดที่อยู่รอบตัวเขากล้าช่วยเหลือ ได้แต่เฝ้ามองเขาถูกลากออกไปอย่างช่วยไม่ได้

“อ๊าก อ๊าก...”

ทหารทั้งหมดเงียบท่ามกลางเสียงกรีดร้อง!

เสียงของหวังหยวนดังขึ้น “ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่ายนี้ ปรับปรุงอาหารของพวกเขา ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับทหารที่เฝ้าเมือง!”

พลทหารฟางจิ่งผู้ดูแลค่ายพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทหารทุกคนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ!

หวังหยวนกล่าวอีกครั้ง “ไปที่กรมยุทธภัณฑ์ แล้วเบิกเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมา ข้าจะจ่ายให้พวกเขา!”

ฟางจิ่งตกใจ “ท่านเสนาธิการทหาร พวกเขาทำให้เสียกำแพงด่านหลงโถวไป เหตุใดพวกเขาต้องได้รับค่าจ้างทางทหารด้วยขอรับ?”

หวังหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ราชสำนักเป็นหนี้ค่าจ้างทหารพวกเขาในอดีต แม้ว่าราชสำนักอยากจะลงโทษพวกเขาในอนาคต แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าจ้างทหาร!”

“ท่านเสนาธิการทหาร!”

ทหารหลายคนหลั่งน้ำตา!

ทหารพ่ายศึกมักจะถูกส่งไปยังสนามรบ หากตายก็จบ!

ไม่เคยมีแม่ทัพคนใดจ่ายค่าจ้างทหารแก่พวกเขา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้!

“น้อมรับ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 285

    “อ๊ะ!”เมื่อได้ยินว่าเสนาธิการทหารจำชื่อของตนได้ ทหารผ่านศึกจางฉีก็ถึงกับหลั่งน้ำตา “ท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยมีพื้นเพมาจากเมืองชิง ครอบครัวเคยมีบ้านและทุ่งนา เป็นชาวหวงที่ฆ่าพ่อแม่ของข้าน้อย และทำให้ภรรยาของข้าต้องแปดเปื้อนมลทิน มันฆ่าลูกชายของข้า ลูกชายของข้าอายุแค่แปดขวบเท่านั้น ชาวหวงฟันหัวเขาขาดด้วยดาบเพียงครั้งเดียว... อ่า ลูกชายของข้า พวกชาวหวงสมควรตาย!”“ฆ่าเด็กอายุแปดขวบได้ลงคอ ชาวหวงเป็นสัตว์ร้ายจริง ๆ เลวร้ายเสียยิ่งกว่าหมูหมา!”ทหารหลายคนกัดฟัน คนที่คิดถึงเรื่องที่ทำให้ตนอาฆาตแค้นก็ยิ่งตาแดง!หวังหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่คือความพยาบาทที่ต้องชำระ อีกไม่นานก็จะได้ล้างแค้น กลั้นน้ำตาระงับความเกลียดชังในใจของเจ้าก่อน รอให้มันปะทุออกมาอีกครั้งในสนามรบ!”จางฉีเดินกลับมาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าหวังหยวนชี้ไปที่ชายวัยกลางคนอีกครั้ง “หลี่เฉิง เจ้าก็ดูโกรธแค้น เจ้ามีความแค้นกับชาวหวงบ้างหรือไม่ ลุกขึ้นบอกทุกคนสิ!”“ท่านเสนาธิการทหาร ข้ามาจากเมืองชิงเหมือนกันขอรับ ข้ากำลังจะได้แต่งงานกับคนรักแสนสวยของข้า แต่พวกชาวหวงมาฆ่าพ่อแม่ของข้า เผาบ้านของข้า และย่ำยีคนรักของข้าที่ยังไม่ได้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 286

    หวังหยวนยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นก็เตรียมตัวตามแผนเดิม!”เหล่าทหารกำลังหลับใหล!กู้ชิงนอนอยู่บนพื้น พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ!ชาวหวงสังหารครอบครัวของเขา และเขาแปรพักตร์ไปเป็นคนของชาวหวง เพราะกลัวความตาย เขาจึงแทงเจ้านายของตัวเอง แล้วยอมไปอยู่ฝ่ายเดียวกับชาวหวง จากนั้นกลับมาซุ่มซ่อนตัวเป็นไส้ศึกเดิมทีเขาไม่สบายใจอยู่แล้ว แต่ทันทีที่ 'การประชุมระบายแค้น' เริ่มต้นขึ้น เขาก็รู้สึกละอายใจต่อบรรพบุรุษตัวเองจนนึกอยากตายขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาพร้อมใช้ดาบยาวจ่อคอ “เสนาธิการทหารต้องการพบเจ้า มากับเรา อย่าส่งเสียงดัง!”ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม!กู้ชิงมาถึงห้องอันห่างไกล แล้วคุกเข่าลงทันที “เคารพท่านเสนาธิการทหาร!”“ลุกขึ้น!”เมื่อมองชายหนุ่มผู้วิตกกังวลคนนี้ หวังหยวนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนรอยยิ้ม “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามา!”หัวใจของกู้ชิงสั่นเทา เขาพูดตะกุกตะกักหลังส่ายหน้า “ไม่ ไม่รู้ขอรับ!”“คนทำผิดไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการกลับใจไม่ได้!”หวังหยวนถอนหายใจ “ข้ากับแม่ทัพหนุ่มรู้ดี ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียกเจ้ามา ขณะนี้มีกองทัพชาวหวงอยู่นอกเม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 287

    ทั้งหมดนี้แตกต่างจากตอนที่เขามาที่หมู่บ้านต้าหวัง เมื่อสามปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง!เสียงหัวเราะ เสียงฝึกวรยุทธ์ เสียงเล่าเรียนเขียนอ่าน เสียงทำอาหารดังขึ้นปะปนกันหลี่ซานซือตกตะลึง ที่แห่งนี้คือดินแดนแสนสงบสุข แต่น่าเสียดายที่มันจะถูกทำลายในไม่ช้า!หลายคนในหมู่บ้านสังเกตเห็นเขา จึงไปเรียกหลี่ซื่อหานมาให้!ไม่นานหลังจากนั้น เสียงประหลาดใจก็ดังขึ้น “พี่ชาย ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ!”“ซื่อหาน!”เมื่อเห็นผิวพรรณของน้องสาวเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อย ๆ หลี่ซานซือก็หัวเราะ “พี่เพิ่งกลับมาจากเมืองจิ่วซาน พี่สะใภ้ของเจ้าคิดถึงเจ้า ข้าก็เลยพานางมาเยี่ยม!”“อ๋อ!”หลี่ซื่อหานเปลี่ยนเรื่อง “แล้วท่านได้พบสามีของข้าหรือไม่ ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง!”“พบแล้ว!”หลี่ซานซือยกยิ้มแล้วเล่าว่า “เขาได้แก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตค้าเกลือ ทั้งดอกเกลือ และเกลือธรรมดาทั้งหมดแล้ว เขายังขายดาบราชวงศ์ถังสามเล่ม ในราคามากกว่าสามหมื่นตำลึงทองด้วย ทั้งยังแต่งบทกวีที่โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย ได้รับการยกย่องให้เป็นสหายคนสนิทของท่านไห่เทียนด้วย ตอนนี้เขามีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมืองแล้ว!”เขาตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องหูเมิ่งอิ๋ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 288

    หยางเฟิ่งกั๋ว เสนาบดีฝ่ายซ้ายยืนขึ้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท หวังหยวนค่อนข้างมีระเบียบวินัยในทุกการกระทำ ไม่ว่าเขาจะขอให้ผู้ส่งสารออกมาพูด หรือจัด 'การประชุมระบายแค้น' ล้วนเป็นไปเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน และทำให้กองทัพและประชาชนมีความเกลียดชังศัตรูเหมือนกัน ส่วนการสู้รบให้แตกหักภายในครึ่งเดือนนั้น เขาและแม่ทัพหนุ่ม จะต้องคิดกลยุทธ์เพื่อเอาชนะศัตรูไว้แล้วเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ซิงหลงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อว่าทั้งสองคนจะเอาชนะศัตรูได้!หลี่ซื่อฉี เจ้ากรมกรมยุติธรรมกล่าวว่า “ฝ่าบาท อู๋หลิงรู้จักกองทัพเป็นอย่างดี แต่ในมือมีกองทหารชั้นสอง จะต่อสู้กับทหารชั้นยอดของชาวหวงได้อย่างไร! มันจะดีกว่าหากเขาเข้าเมืองไปรอกำลังเสริม แต่ตอนนี้เขาเริ่มออกนอกเมืองไปต่อสู้กับพวกชาวหวง ถือเป็นการกระทำที่จะนำไปสู่ความหายนะพ่ะย่ะค่ะ!”กู้จี๋เต้า เจ้ากรมกรมพลเรือนและการคลังยังกล่าวอีกว่า “ฝ่าบาท ท่านทอดพระเนตรคำสั่งของอู๋หลิงเถอะพ่ะย่ะค่ะ ท่านรับสั่งให้ยุบกองทัพเกราะดำเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่เขากล้าที่จะออกคำสั่งเรียกให้ออกมารวมกันอีกจริง ๆ! ซ้ำยังให้ผู้พิพากษาของเมืองจิ่วซานซื้อวัวในไร่ของประชาชน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 289

    ผิงเจี้ยนหันมามองด้วยสีหน้าเย็นชา “หนิงสือซาน เจ้ากลายเป็นขี้ข้าของราชสำนักอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าพวกเขาปฏิบัติต่อแม่ทัพมู่อย่างไร แม้ว่าชาวหวงจะโจมตีเมืองจิงตู และสังหารฮ่องเต้จอมร้ายกาจนั่น ก็ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้แม่ทัพมู่ไป ข้าคงขอบคุณพวกเขาด้วยซ้ำ”หนิงสือซานกัดฟัน “เจ้าบ้าผิง เจ้าคิดว่าข้ายอมสละชีวิตเพื่อราชสำนักงั้นหรือ! ราชสำนักแต่งตั้งแม่ทัพหนุ่มเป็นผู้บัญชาการ หากเขาแพ้ศึกครั้งนี้ ราชสำนักจะปล่อยเขาไปหรือ แล้วเจ้ากับข้าจะทรยศแม่ทัพมู่หรือไม่!”“แม่ทัพหนุ่มยังมีชีวิตอยู่!”ดวงตาของผิงเจี้ยนสั่นไหว เขารีบวิ่งลงไปจากเนินเขา!หนิงสือซานขี่ม้าตามไป “เจ้าบ้าผิง เจ้ากำลังทำบ้าอะไรอยู่!”ผิงเจี้ยนตอบโดยไม่หันกลับไป “แน่นอนว่าต้องไปที่เมืองจิ่วซาน เพื่อช่วยให้แม่ทัพหนุ่มชนะการต่อสู้ครั้งนี้!”“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาด!”หนิงสือซานหัวเราะ แล้วโยนถุงใบเล็กไปให้!ผิงเจี้ยนคว้ามันไว้ได้ เมื่อเปิดมันออกก็ตกตะลึง “ทองคำ!”หนิงสือซานพ่นลมหายใจ “เสนาธิการทหารจ่ายทองคำสิบตำลึงเป็นค่าตั้งถิ่นฐานของเจ้า ด้วยเงินจากกระเป๋าของเขาเอง!”ผิงเจี้ยนประหลาดใจ “เสนาธิ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 290

    “สามี!”ผู้หญิงหน้าซีดคว้าชายคนนั้นไว้ แล้วพูดว่า “ท่านจะต่อสู้เพื่อราชสำนักอีกแล้วหรือ ท่านต่อสู้เพื่อราชสำนักมาสิบปีแล้ว และเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ตอนนี้ครอบครัวเราไม่มีอาหารกินด้วยซ้ำ ข้ากับลูกจะต่างต้องกินรากหญ้าประทังชีวิต หากท่านจากไปตอนนี้อีก ท่านจะไม่ได้เจอเราอีกเมื่อกลับมา!”อวี๋เถี่ยซานอ้าปากด้วยสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“พี่สะใภ้ไม่ต้องกลัว!”ทหารผู้ส่งสารหยิบถุงผ้าออกมา แล้วพูดว่า “เสนาธิการทหารคิดล่วงหน้าไว้แล้ว ว่าชีวิตพวกเจ้าอาจจะลำบาก จึงสั่งให้พวกเรานำเงินหนึ่งร้อยตำลึง มาจ่ายให้ทหารผ่านศึกของกองทัพเกราะดำทุกคน เพื่อไว้ใช้เลี้ยงชีพ”“เสนาธิการทหาร?”ชายคนนั้นรับถุงผ้าไปเปิดดูเงินที่อยู่ข้างใน แล้วยื่นให้หญิงสาวทั้งน้ำตา “ดูแลลูก ๆ ให้ดี แม่ทัพหนุ่มคือลูกชายของแม่ทัพมู่ เมื่อเขากำลังเดือดร้อน ข้าต้องช่วยเขา หลังจบศึกครั้งนี้ ข้าจะกลับมา!”“สามี ท่านต้องรอดชีวิตกลับมา ข้ากับลูก ๆ รอท่านอยู่!”ผู้หญิงคนนั้นถือกระเป๋าเงิน กอดลูกทั้งสองร้องไห้...ห่างออกไปสามร้อยลี้ในเมืองผิง ในวัดร้างที่ทรุดโทรม มีขอทานกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่มุมถนน นั่งอาบแดดต้นฤดูหนาว ล้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 291

    สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหลายแห่งในเมืองจิ่วซาน เมื่อทหารผู้ส่งสารตะโกนว่า “ทหารผ่านศึกกองทัพเกราะดำอยู่ที่ไหน แม่ทัพหนุ่มขอความช่วยเหลือ” ก็จะมีคนรีบเร่งมาทันทีโจรบางคนยอมเสียตำแหน่งหัวหน้าโจร เจ้าของร้านบางคนยอมทิ้งร้านค้าขนาดใหญ่ ตำรวจบางคนยอมทิ้งดาบ แม้แต่คนธรรมดาสามัญก็โยนจอบทิ้ง!ไม่ใช่เพราะราชสำนัก แต่เป็นเพราะคำพูดที่ว่า ทหารผ่านศึกกองทัพเกราะดำอยู่ที่ไหน แม่ทัพหนุ่มขอความช่วยเหลือ!เหล่าทหารที่ถูกปลดประจำการมานานหลายปี ต่างรีบเร่งไปที่เมืองจากทั่วทุกสารทิศในเมืองจิ่วซานการเดินทางครั้งนี้ไม่รู้จะกลับมาได้กี่คน แต่กลับไม่มีใครหวั่นเกรง!...ในกระโจมขนาดใหญ่ของกองทัพชาวหวง มีจดหมายลับกองหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ อ๋องถูหนานอ่านจดหมายเหล่านั้นทีละฉบับ!จดหมายลับบางส่วนรายงานความวุ่นวายทางทหารในเมืองช่วงนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับหวังหยวน“เอาชนะหลี่ฉาง ตำรวจ และผู้ตรวจการ ล้างบางค่ายซานหู่ รวมไปถึงพวกใช้อำนาจบาตรใหญ่!”“ทำสบู่และน้ำตาลที่ขายดีไปทั่วโจวเฉิงและเมืองอื่น ๆ!”“ด้วยคนเพียงสิบคน สามารถขู่กรรโชกเงินโจรห้าถึงหกร้อยคนได้ และรอดพ้นไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ!”“แต่ง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 292

    ไม้กระดานขนาดใหญ่ที่วางไว้พันก้าวแตกออก!ฉึก!ไม้กระดานหนึ่งพันห้าสิบก้าวถูกแทงทะลุ!ฉึก!ไม้กระดานที่อยู่ห่างไปหนึ่งพันหนึ่งร้อยก้าว ลูกธนูเกือบจะเข้าเป้าแต่ก็ร่วงลงเสียก่อน!ทั้งสามคนขี่ม้าไปดู!หวังหยวนสรุป “หลังจากการทดสอบหลายครั้ง ระยะที่มีประสิทธิภาพของหน้าไม้ซานกงฉวงนั้น มีระยะสูงสุดหนึ่งพันก้าว หากเกินกว่านั้น ความรุนแรงจะยังไม่เพียงพอ!”“มันเยี่ยมยอดแล้ว!”อู๋หลิง ผิงเจี้ยนและหวังหานซานต่างตกตะลึง!ระยะการยิงเช่นนี้ แตกต่างจากหน้าไม้ยักษ์ถึงสามร้อยก้าว!“เช่นนั้นก็ส่งสุดยอดหน้าไม้ซานกงฉวงไปที่กำแพงเมืองเลย!”หวังหยวนเตือนว่า “ต้องส่งคนที่เชื่อถือได้ไปคอยเฝ้าไว้ เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล! ฝนตั้งเค้าย่อมต้องป้องกันฝนและหิมะ!”ทุกวันนี้ในค่ายทิศเหนือ พบว่ามีไส้ศึกชาวหวงและองครักษ์เหยี่ยวดำแทรกซึมเข้ามาเขาจึงผลิตหน้าไม้ซานกงฉวงในแผนกหน้าไม้เท่านั้น และต้องใช้มาตรการการรักษาความลับเต็มรูปแบบอีกด้วย!เป็นเวลากว่าสิบวันแล้ว ที่มีการสร้างหน้าไม้นับร้อยโดยไม่แจ้งให้ใครรู้“ข้าจะจัดคนไป!”อู๋หลิงมองหวังหานซานแล้วพูดว่า “ลุงหานซาน คืนนี้ช่วยพาพวกพี่ชายไปสังสรรค์กันดี ๆ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status