เส้นทางกลับสู่เมืองหลิง เป็นเส้นทางที่หวังหยวนและคณะเดินทางมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเมื่อนึกถึงว่าจะได้กลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง หวังหยวนก็ดีใจมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้พบกับซื่อหานและเมิ่งอิ๋ง เขารู้สึกคิดถึงพวกนางอย่างมาก!ตลอดทางก็อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงไปด้วย!หวงเจียวเจียวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเรื่องกลับบ้านแต่เป็นเพราะว่าตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา นางก็ยังไม่มีทายาทเสียที!เรื่องนี้ทำให้หวงเจียวเจียวหดหู่ใจเป็นอย่างมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งสองก็จะร่วมอภิรมย์กันจนถึงยามดึกดื่นเสมอ และทุกครั้งก็มีความสุขล้นเหลือ แต่กลับไม่มีทายาทเสียที!ในตอนแรกหวงเจียวเจียวคิดว่าเป็นเพราะร่างกายของนาง แต่ก็ไม่ใช่!แต่คงเป็นเพราะ...สวรรค์ยังไม่ประทานบุตรให้กับนางต่างหาก!หวงเจียวเจียวจึงรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา!ระยะเวลาครึ่งปี อย่างไรก็ควรจะมีทายาทแล้ว แต่ใครจะคิดล่ะว่าจะเป็นเช่นนี้!“เป็นอะไรไปหรือ? เหตุใดถึงหน้าบึ้ง?”ในเวลานี้หวังหยวนเห็นว่าสีหน้าของหวงเจียวเจียวไม่ค่อยดีนัก จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเมื่อได้ยินคำถามนี้ หวงเจียวเจีย
แม้แต่เขาเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารเกราะดำคนใดคนหนึ่งก็ยังไม่สามารถฆ่าได้ในทันที!แต่พวกเขากลับทำได้!ยิ่งไปกว่านั้น คือพวกเขายังลงมืออย่างรวดเร็ว จนแม้แต่เกาเล่อก็ยังมองไม่เห็นท่าทางของพวกเขาด้วยซ้ำ!เพียงแค่เห็นว่าพวกเขาสังหารทหารเกราะดำได้อย่างง่ายดาย!ความเร็วเช่นนั้น ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่!”เกาเล่อตะโกนถาม โจรเหล่านั้นหัวเราะขึ้นมา“บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าให้ทิ้งทรัพย์สินกับผู้หญิงไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”เกาเล่อรู้ว่าวันนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากเข้าแล้ว จึงไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบตะโกนขึ้นว่า!“พี่หยวน รีบหนีไป คนเหล่านี้ไม่ธรรมดา!”เดิมทีหวังหยวนไม่ได้สนใจอะไร ยังคงอยู่ในรถม้า เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รีบกระโดดลงมา เมื่อมองออกไปก็ต้องตกใจ!ทหารเกราะดำตายหมดแล้ว!ในเวลานี้เชียนหลงก็ออกมาด้วย นางก็ตกใจเช่นกัน!นางรู้ดีถึงพลังการต่อสู้ของทหารเกราะดำ!หากไม่ใช่ปรมาจารย์ชั้นสูง ก็ไม่สามารถจัดการได้!แสดงว่าสิบคนนี้ต้องเป็นปรมาจารย์ชั้นสูงในบรรดาปรมาจารย์ที่แท้จริง!ไม่เช่นนั้นสิบคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา!แต่เป็น...ปรมาจารย์เ
เมื่อหวังหยวนและเกาเล่อลั่นไกพร้อมกัน ก็สังหารผู้คนไปหลายคนได้ในพริบตา!เวลานี้แรงกดดันที่เชียนหลงต้องเผชิญจึงลดลงเล็กน้อย!ใช้ฝ่ามือตบศีรษะจนสลบไปหนึ่งคน แล้วเตะอีกคนจนล้มคว่ำ!พวกเขาทั้งหลายต่างก็ตกใจ พากันมองหวังหยวนด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ!หวังหยวนและเกาเล่อยังคงไม่ละเว้น ยิงปืนต่อไปเสียงปัง ปัง ปังดังสนั่น หลังจากนั้นจากคนทั้งหมดสิบคนก็มีเพียงสองคนเท่านั้นที่รอดชีวิต!ทว่าเมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยแล้ว คนทั้งสองที่เหลือก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ชิงฆ่าตัวตายไปในทันที!ในตอนนี้เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดตายแล้ว หวังหยวนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วรีบเดินเข้าไปหา“เชียนหลง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”ครั้งก่อนที่ประลองกัน เชียนหลงเกือบจะสิ้นใจ ครั้งนี้เขาจึงกังวลเป็นอย่างมากแต่โชคดีที่เชียนหลงไม่เป็นไร“วางใจเถิด คุณชาย ข้าสบายดี”แม้ว่าเชียนหลงจะกล่าวเช่นนี้ แต่คิ้วกลับขมวดเข้าหากัน นางก้มลงค้นหา จากนั้นก็พบแผ่นป้ายจากร่างของคนคนหนึ่ง!นี่คือแผ่นป้ายสีเลือด!มีคำว่า “สังหาร” เขียนอยู่ดูน่ากลัวและโหดเหี้ยมมาก เพียงแค่เห็นแผ่นป้ายนี้ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่สิ่งที่ดี!“นี่ค
“ดังนั้น...ข้าจึงต้องจากไป”หลังจากที่เชียนหลงพูดจบ หวังหยวนก็ขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “เชียนหลง ข้ารู้ว่าเจ้ามีเรื่องมากมายที่ปิดบังพวกเรา แต่... ข้าคิดว่า... อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว บางเรื่องเจ้าควรบอกข้า”“ยิ่งกว่านั้น คือข้าก็รู้บางอย่างแล้วด้วย เจ้าปิดบังข้าไม่ได้นานเกินไปหรอก!”หวังหยวนพูดตามความจริง!ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทียนไว่เทียนหรือซานไว่ซาน เขาก็รู้ดี!ดังนั้นแม้ว่าเชียนหลงจะปิดบังเขา แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรู้อยู่ดี!เชียนหลงมองหวังหยวนแล้วสูดหายใจเข้าลึก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณชาย ไม่ใช่ว่าข้าต้องการปิดบังท่าน แต่... แม้ท่านจะรู้ก็ไม่มีหนทางใดที่จะช่วยแก้ไขได้!”“ข้า... เป็นคนที่จะต้องตายในไม่ช้า...”“ตายเร็วหรือตายช้าก็เหมือนกัน”“ข้าไม่พูดเพียงเพราะไม่อยากให้พวกท่านต้องกังวลใจ”เชียนหลงเอ่ยขึ้นตามตรง ขณะพูดเช่นนี้ ดวงตาของนางก็แดงก่ำเมื่อได้ยินเช่นนั้น ยังไม่ทันที่หวังหยวนจะได้เอ่ยปาก หวงเจียวเจียวพูดด้วยความไม่พอใจ!“พูดอะไรเช่นนั้น!”“เชียนหลง! เจ้าเป็นเพื่อนของพวกเรา เป็นเหมือนคนในครอบครัวของเรา เจ้าไม่คิดว
ตั้งแต่เด็กจนโต สตรีเหล่านี้ล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด!เพื่อสิ่งใดเล่า หากไม่ใช่เพื่อศึกใหญ่ในอีกหกสิบปีข้างหน้า!ต้องฝึกฝนบำเพ็ญเพียรทั้งวันทั้งคืน!เพื่อประลองตัดสินความเป็นความตาย!ไร้ซึ่งความสุขใด ๆ!สำหรับเชียนหลงแล้วยิ่งทรมานยิ่งนัก ตั้งแต่เยาว์วัยนางต้องทุกข์ทรมานเพราะโรคหนาวเย็นในร่างกาย ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น!จนบัดนี้แทบจะควบคุมไม่อยู่แล้ว!กล่าวตามจริงแล้ว เชียนหลงมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง!เมื่อนึกถึงการประลองเทียนซานในอีกหกสิบปีข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง! หัวใจของเชียนหลงก็ค่อย ๆ สงบลง!ความตายไม่ได้น่ากลัวเลย!สิ่งที่น่ากลัวคือความหวังต่างหาก!หวังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็สิ้นหวัง นั่นต่างหากที่น่ากลัวที่สุด!เมื่อเชียนหลงมีสีหน้าเศร้าหมอง หวงเจียวเจียวก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ!เมื่อเทียบกับนางแล้ว ถือว่านางช่างโชคดีนัก!แม้ว่าจะต้องแฝงตัวอยู่ที่ต้าเย่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยมีความทุกข์ใจใด ๆ!บัดนี้ได้แต่งงานกับหวังหยวนแล้ว ยิ่งมีความสุขขึ้นมาก!กล่าวตามจริงแล้ว ชีวิตนี้ของนางคงจะสุ
สิ่งที่เขาสนใจคือความปลอดภัยของนาง!หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึกแล้วมองไปที่เชียนหลง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “เชียนหลง ข้ารู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญกับเทียนไว่เทียนมาก แต่ข้าคิดว่าทั้งพ่อและแม่ของเจ้าล้วนไม่ต้องการให้เจ้ากลายเป็นเหยื่อ!”“ดังนั้น เจ้าจงทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน!”ความคิดของหวังหยวนนั้นเรียบง่าย!เขากังวลเพียงว่าเชียนหลงจะเป็นอะไรไป!ความคิดที่เรียบง่ายที่สุดของหวังหยวน ก็คือหวังให้เชียนหลงปลอดภัย!นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด!ดังนั้นการประลองเทียนซานจึงเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด!เมื่อเชียนหลงได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจ นางเข้าใจในสิ่งที่หวังหยวนกล่าว!และรู้ว่าบทบาทของนางนั้นน้อยนิด!นางเคยคิดที่จะละทิ้งทุกสิ่งแล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขในช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายนี้ แต่ในใจของนางก็อยากจะแบกรับความรับผิดชอบนี้เช่นกัน!แต่ว่า...นางเป็นคนตระกูลเสวี่ย!หากถอยหนีเช่นนี้ ต่อไปคงไม่กล้าไปพบกับวิญญาณบรรพบุรุษ“คุณชาย ข้าเข้าใจ แต่ว่า... ข้ายังต้องเข้าร่วมการประลอง ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ข้าก็ไม่มีความเสียใจ!”ดวงตาของเชียนหลงฉายแววแน่วแน่ หวังหยวนถอนหายใจแม้ว
เชียนหลงรับปืนมาเก็บไว้ แล้วมองไปที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณและความอาวรณ์“อืม ข้าจะทำเช่นนั้นแน่นอนเจ้าค่ะ!”ดวงตาของเชียนหลงแดงก่ำ บอกตามตรงว่านางรู้สึกเสียดายที่ต้องจากหวังหยวนและคนอื่น ๆ ไปจริง ๆแต่ว่า...นางกังวลว่าซานไว่ซานจะเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง ดังนั้น...จึงไม่มีหนทางใดอื่นนอกจากต้องจากที่นี่ไปเชียนหลงขึ้นหลังม้าแล้วจากไป หวังหยวนถอนหายใจเมื่อมองตามร่างของนาง“หญิงสาวที่แสนดีเช่นนี้ น่าเสียดาย... กลับต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้าย มันช่าง... ไม่ยุติธรรมเลย!”หวังหยวนถอนหายใจ แต่เรื่องเช่นนี้ ใครเล่าจะทำอะไรได้?บางครั้งสวรรค์ก็ไม่ยุติธรรมเช่นนี้ ทั้งที่เป็นคนดี แต่ใครจะคิดว่าจะมีโรคภัยเช่นนี้บางทีสวรรค์อาจจะอิจฉาคนเก่งก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้นหญิงสาวที่แสนดีอย่างเชียนหลงคงจะมีความสุขมาก“เฮ้อ... ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีก บอกตามตรงว่าข้ารู้สึกเสียดายนางยิ่งนัก”ตอนนี้หวงเจียวเจียวพูดขึ้นมา เมื่อนางพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะ“เสียดายหรือ? เพราะต่อไปนี้จะไม่มีใครช่วยเจ้าทำงานแล้วใช่หรือไม่?”หวังหยวนพูดเล่น หวงเจียวเจียวจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่
“เอ่อ... จะว่าอย่างไรดี ก็คิดอยู่บ้าง”“เพราะว่า... เชียนหลงแสนดีเช่นนี้ ข้าก็อยากจะเป็นพี่น้องกับนาง ผิดตรงไหนเจ้าคะ?”หวงเจียวเจียวพูดอย่างจริงจังนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของนาง!ไม่เช่นนั้นหากในอนาคตมีโอกาสอีก แล้วได้พบคนที่พวกนางชอบและชอบหวังหยวนด้วย พวกนางก็จะช่วยหาให้เขาล่วงหน้า!เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกเขินอาย“ไม่จำเป็นเลย มีภรรยาคนใดบ้างหาผู้หญิงให้สามีของตนเอง...”หวังหยวนรู้สึกสิ้นหวัง เขายอมแพ้พวกนางจริง ๆ“จริงหรือ?”หวงเจียวเจียวกะพริบตาแล้วหัวเราะ“จริงสิ เรื่องเช่นนี้ต้องเกิดจากความรักซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าหาให้ข้าแล้วก็จะได้เลย”“ข้าไม่ใช่คนที่เห็นหญิงสาวสวยแล้วก้าวเดินไม่ได้ ข้ามองว่าการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาต้องใส่ใจเรื่องความรู้สึก ไม่ใช่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เข้าใจหรือไม่?”หวังหยวนพูดความจริงไม่ว่าจะเป็นหลี่ซื่อหาน หูเมิ่งอิ๋ง หรือแม้แต่หวงเจียวเจียว พวกนางล้วนฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกันกับเขา!ไม่ใช่ว่าจะเห็นหน้ากันครั้งเดียว แล้วเห็นความงามของอีกฝ่ายจึงตกหลุมรักกัน จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?“เอาเถิด... แต่ว่า ข้าเชื่อว่า
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน
“ท่านหวังมาแล้วหรือ?”เมื่อหวังหยวนและพรรคพวกเข้ามาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่แฝงด้วยความอ่อนแอดังมาจากด้านในไป๋ลั่วหลีรีบเข้าไปในกระโจม เปิดม่านทั้งสองข้าง หวังหยวนจึงเห็นไป๋เหยียนเฟยนอนอยู่บนเตียงอาการของไป๋เหยียนเฟยดูย่ำแย่กว่าที่เขาคิด ไม่เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดเท่านั้น แม้แต่ริมฝีปากไร้สีเลือดฝาด ดูอ่อนแรงมาก!หวังหยวนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้พบกันนาน เหตุใดฝ่าบาทจึงเป็นเช่นนี้?”“ไม่ได้เชิญหมอมารักษาหรือ?”“แค่ก แค่ก”ไป๋เหยียนเฟยไอสองสามครั้ง ไป๋ลั่วหลีช่วยพยุงนางขึ้น นางเงยหน้ามองหวังหยวน แล้วส่ายหน้ายิ้มอย่างจนใจก่อนกล่าวว่า “เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว จะทำเช่นไรได้?”“ข้าตามหาหมอมารักษา หมอชื่อดังทั่วดินแดนทั้งเก้าต่างบอกว่าหมดหนทาง บางทีนี่อาจเป็นเจตจำนงของสวรรค์ก็ได้ไม่ใช่หรือ?”“เมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้าตาย ข้าจะฝืนได้อย่างไร?”“แต่น่าเสียดาย กลุ่มกบฏทางเหนือกลับบุกอาณาจักรข้า! ประกอบกับอาณาจักรต้าเป่ยต่างจ้องมองพวกข้าอยู่ ข้าจึงให้ไป๋ลั่วหลีไปเชิญท่านมา หวังว่าท่านจะช่วยปราบกบฏพวกนั้นได้!”หวังหยวนรู้สึกสงสารในบรรดาสี่อาณาจักรใหญ่ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาณาจักรต้าเย่ และ
“ครั้งนี้คงไม่นาน ข้าจะรีบพาทุกคนกลับมา!”“ยิ่งกว่านั้น ยังมีต้าหู่และขุนพลต่งอยู่กับข้าด้วย พวกเจ้าไม่ต้องกังวล”“แค่รออยู่ที่บ้านก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารู้ว่าตนเองรู้สึกผิดต่อพวกนาง แต่บุรุษเกิดมาแล้วย่อมต้องสร้างฐานะไม่ใช่หรือ?สวรรค์ให้โอกาสเขาเกิดใหม่ จึงต้องใช้ความสามารถสร้างความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้!“น้องหรูเยียนยังไม่ค่อยสนิทกับพวกเจ้า ครั้งนี้ข้าจะพานางไปอาณาจักรต้าเย่ก่อน รอให้พวกเรากลับมาแล้วค่อยทำความรู้จักกัน”หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีกในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้ว พวกนางก็ได้แต่ทำตามภรรยาย่อมต้องเชื่อฟังสามี!“ท่านตงฟาง!”หลังจากพูดคุยกับภรรยาแล้ว หวังหยวนก็มองไปที่ตงฟางฮั่น“หลังจากที่ข้าไปแล้ว ต้องรบกวนท่านและท่านถงช่วยดูแลที่นี่ด้วย”“ข้าได้สั่งเอ้อหู่ ให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของพวกท่าน ห้ามกระทำการโดยพลการ!”“เมืองหลิงคือรากฐานของข้า จึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นเด็ดขาด!”“คนของอาณาจักรต้าเป่ยจ้องมองพวกเราอยู่ หานเทาพร้อมจะสู้รบกับข้าทุกเมื่อ พวกท่านต้องระวังตัว!”หวังหยวนกำชับหลายครั้งตงฟางฮั่นแ
ทันใดนั้น เสียงไอก็ขัดจังหวะหวังหยวนเขาหันไปมองตามเสียงจึงเห็นตงฟางฮั่นทั้งสองแค่สบตากันก็เข้าใจความคิดของกันและกัน“คุณหนูไป๋”“ข้าขอคิดทบทวนก่อน จึงค่อยให้คำตอบ! วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องหนักใจเช่นนี้เลย รอให้ดื่มกันให้หนำใจก่อน แล้วค่อยพูดคุยกันดีกว่า เจ้าว่าเช่นไร?”หวังหยวนให้เกียรติไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวจากท่านหวังเจ้าค่ะ!”เมื่องานเลี้ยงเลิกราและจัดการเรื่องที่พักของไป๋ลั่วหลีแล้ว หวังหยวนก็รีบออกไปข้างนอกพร้อมกับตงฟางฮั่นริมถนน หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเล่นไปพลางคุยกัน “ท่านตงฟาง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าคิดว่าควรส่งกองกำลังไปช่วย!”“ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสงคราม โครงการชลประทานทำให้อาณาจักรอื่น ๆ เห็นถึงประโยชน์ เท่าที่ข้ารู้ แม้แต่อาณาจักรต้าเป่ยก็กำลังเร่งสร้างโครงการชลประทานเหมือนกัน!”“ในเมื่อพวกเราสร้างเสร็จก่อน ก็ควรใช้โอกาสนี้ขยายอาณาเขต!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้ว รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “ท่านตงฟาง ท่านลืมแล้วหรือ ครั้งก่อนที่พวกเราพบกันที่หอหลิวหลี ต่างให้สัญญากันว่าจะไม่ทำสงครามเพื่อให้โลกสงบสุข!”“หากข้ายกทัพตอน
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท