แชร์

บทที่ 1358

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ดังนั้น...ข้าจึงต้องจากไป”

หลังจากที่เชียนหลงพูดจบ หวังหยวนก็ขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “เชียนหลง ข้ารู้ว่าเจ้ามีเรื่องมากมายที่ปิดบังพวกเรา แต่... ข้าคิดว่า... อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว บางเรื่องเจ้าควรบอกข้า”

“ยิ่งกว่านั้น คือข้าก็รู้บางอย่างแล้วด้วย เจ้าปิดบังข้าไม่ได้นานเกินไปหรอก!”

หวังหยวนพูดตามความจริง!

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทียนไว่เทียนหรือซานไว่ซาน เขาก็รู้ดี!

ดังนั้นแม้ว่าเชียนหลงจะปิดบังเขา แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรู้อยู่ดี!

เชียนหลงมองหวังหยวนแล้วสูดหายใจเข้าลึก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณชาย ไม่ใช่ว่าข้าต้องการปิดบังท่าน แต่... แม้ท่านจะรู้ก็ไม่มีหนทางใดที่จะช่วยแก้ไขได้!”

“ข้า... เป็นคนที่จะต้องตายในไม่ช้า...”

“ตายเร็วหรือตายช้าก็เหมือนกัน”

“ข้าไม่พูดเพียงเพราะไม่อยากให้พวกท่านต้องกังวลใจ”

เชียนหลงเอ่ยขึ้นตามตรง ขณะพูดเช่นนี้ ดวงตาของนางก็แดงก่ำ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยังไม่ทันที่หวังหยวนจะได้เอ่ยปาก หวงเจียวเจียวพูดด้วยความไม่พอใจ!

“พูดอะไรเช่นนั้น!”

“เชียนหลง! เจ้าเป็นเพื่อนของพวกเรา เป็นเหมือนคนในครอบครัวของเรา เจ้าไม่คิดว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1359

    ตั้งแต่เด็กจนโต สตรีเหล่านี้ล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด!เพื่อสิ่งใดเล่า หากไม่ใช่เพื่อศึกใหญ่ในอีกหกสิบปีข้างหน้า!ต้องฝึกฝนบำเพ็ญเพียรทั้งวันทั้งคืน!เพื่อประลองตัดสินความเป็นความตาย!ไร้ซึ่งความสุขใด ๆ!สำหรับเชียนหลงแล้วยิ่งทรมานยิ่งนัก ตั้งแต่เยาว์วัยนางต้องทุกข์ทรมานเพราะโรคหนาวเย็นในร่างกาย ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น!จนบัดนี้แทบจะควบคุมไม่อยู่แล้ว!กล่าวตามจริงแล้ว เชียนหลงมีชีวิตอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง!เมื่อนึกถึงการประลองเทียนซานในอีกหกสิบปีข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง! หัวใจของเชียนหลงก็ค่อย ๆ สงบลง!ความตายไม่ได้น่ากลัวเลย!สิ่งที่น่ากลัวคือความหวังต่างหาก!หวังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็สิ้นหวัง นั่นต่างหากที่น่ากลัวที่สุด!เมื่อเชียนหลงมีสีหน้าเศร้าหมอง หวงเจียวเจียวก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ!เมื่อเทียบกับนางแล้ว ถือว่านางช่างโชคดีนัก!แม้ว่าจะต้องแฝงตัวอยู่ที่ต้าเย่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยมีความทุกข์ใจใด ๆ!บัดนี้ได้แต่งงานกับหวังหยวนแล้ว ยิ่งมีความสุขขึ้นมาก!กล่าวตามจริงแล้ว ชีวิตนี้ของนางคงจะสุ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1360

    สิ่งที่เขาสนใจคือความปลอดภัยของนาง!หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึกแล้วมองไปที่เชียนหลง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “เชียนหลง ข้ารู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญกับเทียนไว่เทียนมาก แต่ข้าคิดว่าทั้งพ่อและแม่ของเจ้าล้วนไม่ต้องการให้เจ้ากลายเป็นเหยื่อ!”“ดังนั้น เจ้าจงทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน!”ความคิดของหวังหยวนนั้นเรียบง่าย!เขากังวลเพียงว่าเชียนหลงจะเป็นอะไรไป!ความคิดที่เรียบง่ายที่สุดของหวังหยวน ก็คือหวังให้เชียนหลงปลอดภัย!นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด!ดังนั้นการประลองเทียนซานจึงเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด!เมื่อเชียนหลงได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจ นางเข้าใจในสิ่งที่หวังหยวนกล่าว!และรู้ว่าบทบาทของนางนั้นน้อยนิด!นางเคยคิดที่จะละทิ้งทุกสิ่งแล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขในช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายนี้ แต่ในใจของนางก็อยากจะแบกรับความรับผิดชอบนี้เช่นกัน!แต่ว่า...นางเป็นคนตระกูลเสวี่ย!หากถอยหนีเช่นนี้ ต่อไปคงไม่กล้าไปพบกับวิญญาณบรรพบุรุษ“คุณชาย ข้าเข้าใจ แต่ว่า... ข้ายังต้องเข้าร่วมการประลอง ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ข้าก็ไม่มีความเสียใจ!”ดวงตาของเชียนหลงฉายแววแน่วแน่ หวังหยวนถอนหายใจแม้ว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1361

    เชียนหลงรับปืนมาเก็บไว้ แล้วมองไปที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณและความอาวรณ์“อืม ข้าจะทำเช่นนั้นแน่นอนเจ้าค่ะ!”ดวงตาของเชียนหลงแดงก่ำ บอกตามตรงว่านางรู้สึกเสียดายที่ต้องจากหวังหยวนและคนอื่น ๆ ไปจริง ๆแต่ว่า...นางกังวลว่าซานไว่ซานจะเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง ดังนั้น...จึงไม่มีหนทางใดอื่นนอกจากต้องจากที่นี่ไปเชียนหลงขึ้นหลังม้าแล้วจากไป หวังหยวนถอนหายใจเมื่อมองตามร่างของนาง“หญิงสาวที่แสนดีเช่นนี้ น่าเสียดาย... กลับต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้าย มันช่าง... ไม่ยุติธรรมเลย!”หวังหยวนถอนหายใจ แต่เรื่องเช่นนี้ ใครเล่าจะทำอะไรได้?บางครั้งสวรรค์ก็ไม่ยุติธรรมเช่นนี้ ทั้งที่เป็นคนดี แต่ใครจะคิดว่าจะมีโรคภัยเช่นนี้บางทีสวรรค์อาจจะอิจฉาคนเก่งก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้นหญิงสาวที่แสนดีอย่างเชียนหลงคงจะมีความสุขมาก“เฮ้อ... ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีก บอกตามตรงว่าข้ารู้สึกเสียดายนางยิ่งนัก”ตอนนี้หวงเจียวเจียวพูดขึ้นมา เมื่อนางพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะ“เสียดายหรือ? เพราะต่อไปนี้จะไม่มีใครช่วยเจ้าทำงานแล้วใช่หรือไม่?”หวังหยวนพูดเล่น หวงเจียวเจียวจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1362

    “เอ่อ... จะว่าอย่างไรดี ก็คิดอยู่บ้าง”“เพราะว่า... เชียนหลงแสนดีเช่นนี้ ข้าก็อยากจะเป็นพี่น้องกับนาง ผิดตรงไหนเจ้าคะ?”หวงเจียวเจียวพูดอย่างจริงจังนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของนาง!ไม่เช่นนั้นหากในอนาคตมีโอกาสอีก แล้วได้พบคนที่พวกนางชอบและชอบหวังหยวนด้วย พวกนางก็จะช่วยหาให้เขาล่วงหน้า!เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกเขินอาย“ไม่จำเป็นเลย มีภรรยาคนใดบ้างหาผู้หญิงให้สามีของตนเอง...”หวังหยวนรู้สึกสิ้นหวัง เขายอมแพ้พวกนางจริง ๆ“จริงหรือ?”หวงเจียวเจียวกะพริบตาแล้วหัวเราะ“จริงสิ เรื่องเช่นนี้ต้องเกิดจากความรักซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าหาให้ข้าแล้วก็จะได้เลย”“ข้าไม่ใช่คนที่เห็นหญิงสาวสวยแล้วก้าวเดินไม่ได้ ข้ามองว่าการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาต้องใส่ใจเรื่องความรู้สึก ไม่ใช่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เข้าใจหรือไม่?”หวังหยวนพูดความจริงไม่ว่าจะเป็นหลี่ซื่อหาน หูเมิ่งอิ๋ง หรือแม้แต่หวงเจียวเจียว พวกนางล้วนฟันฝ่าอุปสรรคมาด้วยกันกับเขา!ไม่ใช่ว่าจะเห็นหน้ากันครั้งเดียว แล้วเห็นความงามของอีกฝ่ายจึงตกหลุมรักกัน จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?“เอาเถิด... แต่ว่า ข้าเชื่อว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1363

    หลังจากหยอกล้อกันอยู่นาน พวกเขาก็สงบลงในที่สุดหลี่ซื่อหานและหูเมิ่งอิ๋งเข้ามาล้อมรอบหวังหยวน เพื่อสอบถามเรื่องราวของเมืองหวงแน่นอนว่าพวกนางรู้เรื่องราวบางอย่างอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ฟังจากปากของหวังหยวนโดยตรง ก็ยิ่งเห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้นหวังหยวนเล่าเรื่องราวของเมืองหวงในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาให้พวกนางฟังทั้งหมดส่วนเรื่องราวของเชียนหลง หวังหยวนไม่ได้เล่า แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหวงเจียวเจียวหวงเจียวเจียวมองไปที่หลี่ซื่อหานและหูเมิ่งอิ๋ง แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ซื่อหาน พี่เมิ่งอิ๋ง เชียนหลงไม่ได้กลับมาด้วย พวกท่านไม่ถามถึงกันบ้างเลยหรือ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกนางจึงนึกขึ้นได้!“จริงด้วย เชียนหลงอยู่ไหน? นางไม่ได้กลับมาด้วยหรือ?”หลี่ซื่อหานถามขึ้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำถามนั้น หวงเจียวเจียวก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “ฮึ่ม ข้าจะบอกพวกท่านว่าต่อให้ตอนนี้เชียนหลงจะอยู่ตรงหน้าพวกท่าน พวกท่านก็จำนางไม่ได้แล้วล่ะ!”เมื่อได้ยินคำพูดนั้น หลี่ซื่อหานและหูเมิ่งอิ๋งก็สบตากันด้วยความงุนงง!“นี่หมายความว่าอย่างไร?”หลี่ซื่อหานไม่เข้าใจและหูเมิ่งอิ๋งก็เช่นกัน“เชียนหลงนางไม่ใช

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1364

    แต่สิ่งเดียวที่กังวลก็คือเรื่องอาการป่วยของนางหลังจากนั้นทั้งครอบครัวก็รับประทานอาหารมื้อค่ำกันอย่างเอร็ดอร่อยสำหรับเรื่องราวในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาก็พอจะเข้าใจกันคร่าว ๆ แล้วตระกูลไป๋นั้นเตรียมตัวอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศึกครั้งใหม่ รวมถึงต้าเย่ด้วยด้วยการสนับสนุนของตระกูลเซิ่ง ต้าเย่จึงแข็งแกร่งขึ้นทุกวันแต่สองมหาอำนาจนี้ไม่มีความคิดที่จะต่อกรกับหมู่บ้านต้าหวังของหวังหยวน!ในเวลานี้เมืองหลิงแข็งแกร่งราวกับป้อมปราการ พวกเขาไม่สามารถแทรกแซงได้ด้วยอำนาจของตนเอง!หวังหยวนไม่สนใจเรื่องนี้ในตอนนี้หลังจากที่ได้รู้เรื่องราวลึกลับมากมาย พูดตามจริงแล้วพวกราชวงศ์ในโลกมนุษย์ธรรมดาไม่มีผลกระทบต่อหวังหยวนมากนักแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้น คือเขามีพลังที่จะครองทั้งแผ่นดินมานานแล้ว!ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะต้องการหรือไม่เท่านั้น!เดิมทีเขาไม่ต้องการให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป จึงไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย และใช้ชีวิตแบบมั่งคั่งแต่ในตอนนี้ เมื่อได้สัมผัสกับเรื่องราวมากมายขึ้น ความคิดในใจของหวังหยวนก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ“ในตอนนี้ข้าสามารถฝึกฝนตามตำราฝึกยุทธ์ได้แล้ว โลกของปรมาจารย์เคยอยู่ห่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1365

    ขณะเดียวกันนั้นที่ด้านนอกหมู่บ้านต้าหวัง ชายสามคนกำลังเดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบ แววตาเต็มไปด้วยความดูถูก“ลอบสังหารคนธรรมดาคนเดียวยังต้องให้พวกเราสามคนมาอีกหรือ ช่างน่าขันเสียจริง”หนึ่งในชายหนุ่มกลุ่มนั้นพ่นลมหายใจออกมาด้วยสีหน้าดูถูกเมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มอีกสองคนก็หัวเราะ“ก็แค่ฆ่าคนคนเดียวเอง ไม่เห็นเป็นอะไรเลย นานแล้วที่พวกเราไม่ได้มาเดินเล่นในโลกมนุษย์ ถือโอกาสนี้มาสูดอากาศเสียหน่อยก็ดี”“นั่นสิ ฆ่าคนที่ชื่อหวังหยวนนี่มันง่ายจะตาย ไม่ต้องคิดมากหรอก”ทั้งสามพูดคุยกันไปพลางเดินเข้ามาใกล้หมู่บ้านต้าหวัง แต่เมื่อมาถึงระยะหนึ่ง ทั้งสามก็ต้องหยุดชะงัก“โอ้? ไม่เลวเลย มีคนเฝ้ายามอยู่มากมายถึงเพียงนี้ คนหมู่บ้านต้าหวังนี้ดูจะมีฝีมืออยู่บ้างนะ”ชายร่างใหญ่ที่เป็นหัวหน้าพูดแต่ก็ยังคงมีสีหน้าดูถูก“ค่อนข้างน่าประทับใจ พวกนี้ล้วนแต่เป็นปรมาจารย์ทั้งนั้น ถ้าวันนี้ไม่ใช่พวกเราสามคนมา คนธรรมดาทั่วไปคงจะถูกจับได้ตั้งแต่ปรากฏตัวออกมาแล้ว”“ใช่แล้ว หวังหยวนผู้นี้ค่อนข้างไม่ธรรมดาเลย ถึงได้มีคนเฝ้าหมู่บ้านมากมายถึงเพียงนี้”ทั้งสามหัวเราะ ก่อนจะเคลื่อนไหวว่องไวรอดพ้นสายตาคน หลบหลี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1366

    ร่างของคนสามคนนี้รวดเร็วมาก ทำให้เหล่าปรมาจารย์ต้องตกใจ“อยู่ตรงนี้!”พวกเขาไม่รีรอรีบตะโกนออกมา จากนั้นก็มีคนมากกว่าสิบคนพุ่งเข้าใส่แต่เพียงแค่ปะทะกันครั้งเดียว สามคนในสิบกว่าคนนี้ก็ตายในทันที!ส่วนอีกเจ็ดคนที่เหลือก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที!“ปรมาจารย์ชั้นสูง!”“ท่าไม่ดีแน่!”“ใช้ปืนคาบศิลา!!”ในเวลานี้ทุกคนรู้ถึงความสามารถของศัตรูแล้ว จึงไม่ลังเลที่จะชักปืนคาบศิลาออกมาแล้วกระโจนเข้าใส่ต้าหู่และเอ้อหู่ก็เห็นคนสามคนนี้แล้วเช่นกัน จึงตะโกนขึ้นทันที“จับเป็น อย่าฆ่า!”คนทั้งสามยังคงนึกเย้ยหยัน จับเป็นหรือ? ช่างน่าขันเสียจริง!แต่ในวินาทีต่อมาทั้งสามก็ต้องตกตะลึง!เพราะขาของพวกเขาถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บและล้มลงไปกับพื้นในทันที“นี่มันอาวุธอะไรกัน! เหตุใดจึงเร็วถึงเพียงนี้!”พวกเขาอุทานออกมา ในขณะที่ต้าหู่และเอ้อหู่ก็เข้ามาดูคนทั้งสาม ก่อนจะชักปืนออกมายิงแขนของพวกเขาอีกหลายนัด!ในชั่วพริบตา ทั้งสามคนนั้นก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปทันที!ขาของแต่ละคนถูกยิงอย่างน้อยสองหรือสามนัด แขนก็เช่นเดียวกัน!แม้จะเป็นปรมาจารย์ แต่หากเคลื่อนไหวไม่ได้ก็ไม่อาจใช้กลยุทธ์ใดได้!“บั

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status