แชร์

บทที่ 1348

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แม้ว่าคนรับใช้จะลังเลอยู่บ้าง แต่ก็พยักหน้า

ในไม่ช้าอ๋องเจิ้นตงกับอาเจี้ยนก็มาถึงจวนอ๋องหลงซี

ทั้งสองปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วซ่อนตัวอยู่ในความมืดทันที

แต่ในไม่ช้าสีหน้าของอาเจี้ยนก็เปลี่ยนไป

“ท่านพ่อ จวนอ๋องหลงซีดูเหมือนจะไม่มีคนเลยขอรับ เหตุใดจึงเงียบนัก!”

“แม้แต่องครักษ์... ก็ไม่มีเลย...”

เมื่อเขาพูดประโยคนี้จบลง อ๋องเจิ้นตงก็ขมวดคิ้ว!

“หรือว่า... อ๋องหลงซีรู้แผนการของเราแล้ว?”

เขาประหลาดใจนัก วันนี้เขาลงมืออย่างกะทันหัน มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นที่รู้!

และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว จะมีใครรู้ข่าวของพวกเขาได้อย่างไร?

จะเก่งกาจเกินไปแล้ว!

“อาจจะเป็นไปได้ขอรับ แต่ถ้าไม่มีคนก็ยิ่งดี เราแค่แอบเข้าไปก็พอแล้ว!”

อาเจี้ยนไม่ได้สนใจ จากนั้นก็เดินนำหน้า

ความเร็วของเขาไม่เร็วนัก แต่ก็ยังระมัดระวังอย่างมาก!

ในไม่ช้าทั้งสองก็เข้ามาในสวนหลังจวน และมาถึงหน้าห้องตำราของอ๋องหลงซี!

ดึกมากแล้ว แต่ห้องตำราของอ๋องหลงซียังเปิดไฟอยู่!

ไม่เพียงเท่านั้น ประตูกว้างยังเปิดรออยู่ด้วย!

นี่หมายความว่าอย่างไร?

“ดูเหมือนว่าอ๋องหลงซีจะรู้ว่าข้ามาแล้ว!”

“จงใจถอนทหารองครักษ์ออกไป ฮึ่ม! เขาหมายความว่าอย่างไร? ต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1349

    อ๋องหลงซีทุ่มเทอุทิศแด่เมืองหวงหมดทั้งใจ!กล่าวได้ว่าหากปราศจากอ๋องหลงซีแล้ว ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็คงไม่มีบารมีดังเช่นทุกวันนี้!หากไม่มีเขาคอยสนับสนุนและช่วยเหลือไทเฮาในยามที่เมืองหวงอ่อนแอที่สุด!เมืองหวงในปัจจุบันก็คงไม่ได้เจริญรุ่งเรืองดังเช่นที่เห็น!ส่วนอ๋องเจิ้นตงนั้นหรือ?คนผู้นี้...ไม่อาจเป็นฮ่องเต้ได้!“ฮึ่ม! เซียวฉู่ฉู่ปรีชาสามารถก็จริง แต่กระนั้นนางก็ยังคงเป็นสตรี!”“ข้าจะบอกเจ้าว่าตั้งแต่โบราณกาล หากสตรีใดได้ครองราชย์ อาณาจักรนั้นจะต้องล่มสลาย!”“แล้วเจ้าจะตอบแทนฮ่องเต้ผู้ล่วงลับได้อย่างไร?”อ๋องเจิ้นตงมีสีหน้าดูถูก ความสามารถของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาจริง!แต่นางเป็นสตรี ซึ่งไม่อาจยอมรับได้!“เป็นสตรีหรือ? แล้วอย่างไร? ผู้มีคุณธรรมขึ้นครองราชย์ คือหนทางแห่งฮ่องเต้!”“ยิ่งกว่านั้น คือในอดีตเมื่อฮ่องเต้เริ่มเสื่อมอำนาจลง เขาก็อยากจะแตะต้องพวกเราด้วย!”“เซียวฉู่ฉู่เป็นคนช่วยพวกเราไว้ ท่านลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรือ?”คำพูดของอ๋องหลงซีทำให้สีหน้าของอ๋องเจิ้นตงลังเล!เมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ผู้ล่วงลับประชวรจนใกล้สิ้นไป เขาประสงค์จะปลดพวกเขาทั้งสี่ออกจากตำแห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1350

    นางอาจพูดเช่นนั้นเพื่อจะครอบครองราชสำนักและเพื่อเอาใจพวกเขา!เป็นดั่งกลอุบายของฮ่องเต้!แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาจึงทราบว่าเป็นความจริง!บัดนี้ไท่จื่อก็ไม่ใช่โอรสสืบสายเลือดของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ แต่เป็นเพียงโอรสองค์เดียวของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ!แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่กระทำเช่นไร พวกเขาทั้งหลายต่างก็เห็นอยู่!อ๋องหลงซีจึงเชื่อมั่นอย่างสนิทใจ!เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาได้เข้าเฝ้าไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ และได้พูดคุยถึงอนาคตของเมืองหวง และยังได้พูดถึงความปรารถนาที่จะครอบครองอาณาจักรต้าเย่แต่ในเวลานั้น คำพูดเพียงประโยคเดียวของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็ทำให้อ๋องหลงซีละทิ้งความคิดทั้งหมด!คำพูดของนางมีดังนี้“การรุกรานอาณาจักรต้าเย่นั้นต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ตราบใดที่เมืองหวงของเรายังคงฝึกฝนกองทัพและพัฒนาอย่างเต็มที่ เราก็จะแซงหน้าแคว้นต้าเย่ได้ในเร็ววัน ยิ่งกว่านั้น หน้าที่ของนางคือการส่งต่อเมืองหวงอันรุ่งเรืองให้แก่ไท่จื่อองค์ปัจจุบัน!”คำพูดนี้เพียงประโยคเดียว!ทำให้อ๋องหลงซีเต็มใจที่จะพลีชีพเพื่อนาง!เพราะเขาทราบว่าคำพูดนี้ปราศจากข้อผิดพลาด!นี่คือสิ่งที่คนเป็นฮ่องเต้ควรพิจารณา ความ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1351

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ อ๋องเจิ้นตงก็หน้าเสียในทันที!“ท่าน... ท่านรู้ทุกอย่างจริง ๆ!”อ๋องเจิ้นตงรู้สึกโมโห เขาพยายามมานานแสนนาน แต่ผลลัพธ์กลับ...ยังคงเป็นเช่นเดิม!เขาไม่พอใจมาก!“อ๋องเจิ้นตง ข้ารู้ว่าท่านไม่ยินยอม แต่ตอนนี้ท่านเป็นอ๋อง ยังคงมีอำนาจและเกียรติยศสูงส่ง ในอนาคตอาปู้ชาจะกลายเป็นมือขวาของไท่จื่อ ตำแหน่งของท่านจะสืบทอดต่อไป!”“แต่หากท่านเสี่ยงในเวลานี้จะเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด!”“ตำแหน่งของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างของท่านจะไม่มีอีกแล้ว!”“ท่านไม่คิดถึงตัวเองก็ได้ แต่ไม่คิดถึงอาปู้ชาบ้างหรือ?”อ๋องหลงซีกล่าว หลังจากได้ฟังเช่นนั้นสีหน้าของอ๋องเจิ้นตงก็เปลี่ยนไป ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา!ใช่แล้ว... เขายังมีลูกชายอีกคน!ลูกชายที่กตัญญู!หากเขาพ่ายแพ้ ลูกชายของเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน!และทั้งตระกูลจะต้องถูกประหาร!ไม่มีใครรอดชีวิต...เขาทรุดตัวลงนั่งบนพื้นด้วยความเจ็บปวดใจ!บัลลังก์สูงสุดนั้น เขาเคยจินตนาการไว้หลายครั้งว่าจะได้นั่ง!อีกทั้งยังได้เข้าใกล้ตำแหน่งนั้นมากแล้ว!แต่ว่า...ความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำให้เขากลับมายังจุดเดิม!ความรู้สึกนั้น... มัน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1352

    เมื่อเกิดความสงสัยจึงนึกขึ้นได้ว่าแท้จริงแล้วคือเซียวฉู่ฉู่!“จริงหรือ? จะกลับเมื่อใด?” หลังจากที่หวังหยวนสอบถาม เชียนหลงจึงตอบว่า “พรุ่งนี้จะกลับมาถึงเมืองหวงเจ้าค่ะ!”เมื่อหวังหยวนได้ยินเช่นนี้จึงโล่งใจ ความรับผิดชอบของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ในใจรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก!“ดีมาก เมื่อนางกลับมา ทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม และถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปแล้ว!”หวังหยวนยืดเส้นยืดสาย แม้ว่าเมืองหวงจะดี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าหมู่บ้านต้าหวัง!เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เซียวฉู่ฉู่กลับมาและไปประชุมราชสำนักทันที!เมื่อเห็นเซียวฉู่ฉู่กลับมา ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!ช่วงเวลานี้เมืองหวงได้ประสบเหตุการณ์มากมาย แต่โชคดีที่ไม่มีผลกระทบใด ๆ เลย เซียวฉู่ฉู่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก!ยิ่งได้รู้ว่าอ๋องเจิ้นตงถูกอ๋องหลงซีเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ได้ก็ยิ่งรู้สึกดีใจ!ตลอดหลายปีมานี้ นางไม่สามารถลบล้างความคิดของอ๋องเจิ้นตงได้!บัดนี้เขาได้ยอมแพ้แล้ว สำหรับเซียวฉู่ฉู่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด!การเดินทางในครั้งนี้สำหรับเซียวฉู่ฉู่แล้วไม่ธรรมดา นางได้รู้เรื่องราวมากมาย!เรื่องราวมากมายที่คนธรรมดาไม่สาม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1353

    เชียนหลงรีบเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเซียวฉู่ฉู่เป็นเช่นนี้แล้วนางรู้สึกอึดอัดใจทั้งสองได้เรียกขานกันเป็นพี่น้องแล้ว เหตุใดจึงยังคุกเข่าอยู่เล่า!“คุณหนูเชียนหลง การคำนับครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขอบคุณแล้ว ยังเป็นเพราะฐานะของเราอยู่ห่างกันมากด้วย เดิมทีข้าไม่ทราบฐานะของท่าน จึงได้เรียกขานกันเป็นพี่น้อง”“บัดนี้ข้าได้ทราบแล้วจึงไม่กล้าล่วงเกิน...”เซียวฉู่ฉู่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หญิงสาวตรงหน้าผู้นี้คือว่าที่ผู้นำแห่งเทียนไว่เทียนในอนาคต!ฐานะสูงส่งยิ่งนัก!นางที่เป็นเพียงไทเฮาแห่งโลกมนุษย์ธรรมดาจะเทียบได้อย่างไร!แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้ยังมีพลังเช่นนี้อยู่!บัดนี้ได้รู้แล้วจึงยิ่งรู้สึกตกใจกับตัวตนของเชียนหลงมากขึ้น“โอ้ พี่เซียว อย่าได้พูดเล่นเลย พวกเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ท่านทำเช่นนี้ไม่ดีเลย!”“ลุกขึ้นมาเถิด!”กล่าวจบเชียนหลงก็รีบพยุงนางขึ้นมาขณะนี้เซียวฉู่ฉู่มองใบหน้าของเชียนหลงด้วยความตกใจ!“ใบหน้าของท่าน... นี่คือรูปโฉมที่แท้จริงของท่านหรือ!”“แท้จริงแล้ว... งามล้ำเลิศยิ่งนัก!”เซียวฉู่ฉู่หัวเราะ แม้แต่ตัวนางซึ่งเป็นหญิงงามก็ยังอดตกตะลึงเพราะใบหน้าของเชียนหลงไม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1354

    “ให้เขาเข้ามาในโลกของข้า!”“ข้าคิดว่าการทำเช่นนั้น... ไม่สมควรเลย!”เชียนหลงกล่าวตามความจริง นางไม่อาจทนได้ หากต้องให้หวังหยวนเข้ามาพัวพันกับโลกของพวกนาง!เพราะนางรู้ดีว่ามันเป็นหนทางเช่นไร!เพียงแต่เมื่อเซียวฉู่ฉู่ได้ยินดังนั้นกลับรีบกล่าวว่า “หวังหยวนอาจจะเต็มใจ!”“ในโลกนี้เขาได้ทำทุกสิ่งจนถึงขีดสุดแล้ว หากเขาเต็มใจก็สามารถสร้างบรรลุจุดสูงสุดได้”“บางทีหนทางนั้นอาจทำให้เขามีพลังอำนาจมากขึ้น!”“ไม่เช่นนั้นแล้ว ด้วยอายุเท่านี้ เขาก็สามารถครองโลกได้แล้ว แล้วจะต้องอยู่เช่นนี้ไปตลอดชีวิตหรือ?”“ข้าเชื่อว่าหวังหยวนจะต้องชอบโลกของพวกท่านอย่างแน่นอน!”เซียวฉู่ฉู่รู้ดีว่าแม้หวังหยวนจะดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานมากนักแต่นางมองออกว่าในใจของหวังหยวนนั้นต้องการทำสิ่งใด!เขาไม่สนใจโลกนี้มากนักแต่เขาเป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งในชีวิตของตนให้ได้!หากเขาได้พบว่ายังมีหนทางอื่นที่สามารถเดินได้ ซึ่งเป็นหนทางใหม่!และเป็นหนทางที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!เขาจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน!“ข้า...ข้าไม่รู้ พี่เซียว ข้าเองก็คิดไม่ออกเช่นกัน...”เชียนหลงย่อมรู้สถานการณ์ของหวังหยวนโ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1355

    เส้นทางกลับสู่เมืองหลิง เป็นเส้นทางที่หวังหยวนและคณะเดินทางมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเมื่อนึกถึงว่าจะได้กลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง หวังหยวนก็ดีใจมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้พบกับซื่อหานและเมิ่งอิ๋ง เขารู้สึกคิดถึงพวกนางอย่างมาก!ตลอดทางก็อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงไปด้วย!หวงเจียวเจียวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเรื่องกลับบ้านแต่เป็นเพราะว่าตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา นางก็ยังไม่มีทายาทเสียที!เรื่องนี้ทำให้หวงเจียวเจียวหดหู่ใจเป็นอย่างมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งสองก็จะร่วมอภิรมย์กันจนถึงยามดึกดื่นเสมอ และทุกครั้งก็มีความสุขล้นเหลือ แต่กลับไม่มีทายาทเสียที!ในตอนแรกหวงเจียวเจียวคิดว่าเป็นเพราะร่างกายของนาง แต่ก็ไม่ใช่!แต่คงเป็นเพราะ...สวรรค์ยังไม่ประทานบุตรให้กับนางต่างหาก!หวงเจียวเจียวจึงรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา!ระยะเวลาครึ่งปี อย่างไรก็ควรจะมีทายาทแล้ว แต่ใครจะคิดล่ะว่าจะเป็นเช่นนี้!“เป็นอะไรไปหรือ? เหตุใดถึงหน้าบึ้ง?”ในเวลานี้หวังหยวนเห็นว่าสีหน้าของหวงเจียวเจียวไม่ค่อยดีนัก จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเมื่อได้ยินคำถามนี้ หวงเจียวเจีย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1356

    แม้แต่เขาเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารเกราะดำคนใดคนหนึ่งก็ยังไม่สามารถฆ่าได้ในทันที!แต่พวกเขากลับทำได้!ยิ่งไปกว่านั้น คือพวกเขายังลงมืออย่างรวดเร็ว จนแม้แต่เกาเล่อก็ยังมองไม่เห็นท่าทางของพวกเขาด้วยซ้ำ!เพียงแค่เห็นว่าพวกเขาสังหารทหารเกราะดำได้อย่างง่ายดาย!ความเร็วเช่นนั้น ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่!”เกาเล่อตะโกนถาม โจรเหล่านั้นหัวเราะขึ้นมา“บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าให้ทิ้งทรัพย์สินกับผู้หญิงไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”เกาเล่อรู้ว่าวันนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากเข้าแล้ว จึงไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบตะโกนขึ้นว่า!“พี่หยวน รีบหนีไป คนเหล่านี้ไม่ธรรมดา!”เดิมทีหวังหยวนไม่ได้สนใจอะไร ยังคงอยู่ในรถม้า เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รีบกระโดดลงมา เมื่อมองออกไปก็ต้องตกใจ!ทหารเกราะดำตายหมดแล้ว!ในเวลานี้เชียนหลงก็ออกมาด้วย นางก็ตกใจเช่นกัน!นางรู้ดีถึงพลังการต่อสู้ของทหารเกราะดำ!หากไม่ใช่ปรมาจารย์ชั้นสูง ก็ไม่สามารถจัดการได้!แสดงว่าสิบคนนี้ต้องเป็นปรมาจารย์ชั้นสูงในบรรดาปรมาจารย์ที่แท้จริง!ไม่เช่นนั้นสิบคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา!แต่เป็น...ปรมาจารย์เ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status