แม้ว่าคนรับใช้จะลังเลอยู่บ้าง แต่ก็พยักหน้าในไม่ช้าอ๋องเจิ้นตงกับอาเจี้ยนก็มาถึงจวนอ๋องหลงซีทั้งสองปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วซ่อนตัวอยู่ในความมืดทันทีแต่ในไม่ช้าสีหน้าของอาเจี้ยนก็เปลี่ยนไป“ท่านพ่อ จวนอ๋องหลงซีดูเหมือนจะไม่มีคนเลยขอรับ เหตุใดจึงเงียบนัก!”“แม้แต่องครักษ์... ก็ไม่มีเลย...”เมื่อเขาพูดประโยคนี้จบลง อ๋องเจิ้นตงก็ขมวดคิ้ว!“หรือว่า... อ๋องหลงซีรู้แผนการของเราแล้ว?”เขาประหลาดใจนัก วันนี้เขาลงมืออย่างกะทันหัน มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นที่รู้!และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว จะมีใครรู้ข่าวของพวกเขาได้อย่างไร?จะเก่งกาจเกินไปแล้ว!“อาจจะเป็นไปได้ขอรับ แต่ถ้าไม่มีคนก็ยิ่งดี เราแค่แอบเข้าไปก็พอแล้ว!”อาเจี้ยนไม่ได้สนใจ จากนั้นก็เดินนำหน้าความเร็วของเขาไม่เร็วนัก แต่ก็ยังระมัดระวังอย่างมาก!ในไม่ช้าทั้งสองก็เข้ามาในสวนหลังจวน และมาถึงหน้าห้องตำราของอ๋องหลงซี!ดึกมากแล้ว แต่ห้องตำราของอ๋องหลงซียังเปิดไฟอยู่!ไม่เพียงเท่านั้น ประตูกว้างยังเปิดรออยู่ด้วย!นี่หมายความว่าอย่างไร?“ดูเหมือนว่าอ๋องหลงซีจะรู้ว่าข้ามาแล้ว!”“จงใจถอนทหารองครักษ์ออกไป ฮึ่ม! เขาหมายความว่าอย่างไร? ต
อ๋องหลงซีทุ่มเทอุทิศแด่เมืองหวงหมดทั้งใจ!กล่าวได้ว่าหากปราศจากอ๋องหลงซีแล้ว ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็คงไม่มีบารมีดังเช่นทุกวันนี้!หากไม่มีเขาคอยสนับสนุนและช่วยเหลือไทเฮาในยามที่เมืองหวงอ่อนแอที่สุด!เมืองหวงในปัจจุบันก็คงไม่ได้เจริญรุ่งเรืองดังเช่นที่เห็น!ส่วนอ๋องเจิ้นตงนั้นหรือ?คนผู้นี้...ไม่อาจเป็นฮ่องเต้ได้!“ฮึ่ม! เซียวฉู่ฉู่ปรีชาสามารถก็จริง แต่กระนั้นนางก็ยังคงเป็นสตรี!”“ข้าจะบอกเจ้าว่าตั้งแต่โบราณกาล หากสตรีใดได้ครองราชย์ อาณาจักรนั้นจะต้องล่มสลาย!”“แล้วเจ้าจะตอบแทนฮ่องเต้ผู้ล่วงลับได้อย่างไร?”อ๋องเจิ้นตงมีสีหน้าดูถูก ความสามารถของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาจริง!แต่นางเป็นสตรี ซึ่งไม่อาจยอมรับได้!“เป็นสตรีหรือ? แล้วอย่างไร? ผู้มีคุณธรรมขึ้นครองราชย์ คือหนทางแห่งฮ่องเต้!”“ยิ่งกว่านั้น คือในอดีตเมื่อฮ่องเต้เริ่มเสื่อมอำนาจลง เขาก็อยากจะแตะต้องพวกเราด้วย!”“เซียวฉู่ฉู่เป็นคนช่วยพวกเราไว้ ท่านลืมเรื่องนี้ไปแล้วหรือ?”คำพูดของอ๋องหลงซีทำให้สีหน้าของอ๋องเจิ้นตงลังเล!เมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ผู้ล่วงลับประชวรจนใกล้สิ้นไป เขาประสงค์จะปลดพวกเขาทั้งสี่ออกจากตำแห
นางอาจพูดเช่นนั้นเพื่อจะครอบครองราชสำนักและเพื่อเอาใจพวกเขา!เป็นดั่งกลอุบายของฮ่องเต้!แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาจึงทราบว่าเป็นความจริง!บัดนี้ไท่จื่อก็ไม่ใช่โอรสสืบสายเลือดของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ แต่เป็นเพียงโอรสองค์เดียวของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ!แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่กระทำเช่นไร พวกเขาทั้งหลายต่างก็เห็นอยู่!อ๋องหลงซีจึงเชื่อมั่นอย่างสนิทใจ!เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาได้เข้าเฝ้าไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ และได้พูดคุยถึงอนาคตของเมืองหวง และยังได้พูดถึงความปรารถนาที่จะครอบครองอาณาจักรต้าเย่แต่ในเวลานั้น คำพูดเพียงประโยคเดียวของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ก็ทำให้อ๋องหลงซีละทิ้งความคิดทั้งหมด!คำพูดของนางมีดังนี้“การรุกรานอาณาจักรต้าเย่นั้นต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ตราบใดที่เมืองหวงของเรายังคงฝึกฝนกองทัพและพัฒนาอย่างเต็มที่ เราก็จะแซงหน้าแคว้นต้าเย่ได้ในเร็ววัน ยิ่งกว่านั้น หน้าที่ของนางคือการส่งต่อเมืองหวงอันรุ่งเรืองให้แก่ไท่จื่อองค์ปัจจุบัน!”คำพูดนี้เพียงประโยคเดียว!ทำให้อ๋องหลงซีเต็มใจที่จะพลีชีพเพื่อนาง!เพราะเขาทราบว่าคำพูดนี้ปราศจากข้อผิดพลาด!นี่คือสิ่งที่คนเป็นฮ่องเต้ควรพิจารณา ความ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ อ๋องเจิ้นตงก็หน้าเสียในทันที!“ท่าน... ท่านรู้ทุกอย่างจริง ๆ!”อ๋องเจิ้นตงรู้สึกโมโห เขาพยายามมานานแสนนาน แต่ผลลัพธ์กลับ...ยังคงเป็นเช่นเดิม!เขาไม่พอใจมาก!“อ๋องเจิ้นตง ข้ารู้ว่าท่านไม่ยินยอม แต่ตอนนี้ท่านเป็นอ๋อง ยังคงมีอำนาจและเกียรติยศสูงส่ง ในอนาคตอาปู้ชาจะกลายเป็นมือขวาของไท่จื่อ ตำแหน่งของท่านจะสืบทอดต่อไป!”“แต่หากท่านเสี่ยงในเวลานี้จะเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด!”“ตำแหน่งของท่าน ทุกสิ่งทุกอย่างของท่านจะไม่มีอีกแล้ว!”“ท่านไม่คิดถึงตัวเองก็ได้ แต่ไม่คิดถึงอาปู้ชาบ้างหรือ?”อ๋องหลงซีกล่าว หลังจากได้ฟังเช่นนั้นสีหน้าของอ๋องเจิ้นตงก็เปลี่ยนไป ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา!ใช่แล้ว... เขายังมีลูกชายอีกคน!ลูกชายที่กตัญญู!หากเขาพ่ายแพ้ ลูกชายของเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน!และทั้งตระกูลจะต้องถูกประหาร!ไม่มีใครรอดชีวิต...เขาทรุดตัวลงนั่งบนพื้นด้วยความเจ็บปวดใจ!บัลลังก์สูงสุดนั้น เขาเคยจินตนาการไว้หลายครั้งว่าจะได้นั่ง!อีกทั้งยังได้เข้าใกล้ตำแหน่งนั้นมากแล้ว!แต่ว่า...ความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำให้เขากลับมายังจุดเดิม!ความรู้สึกนั้น... มัน
เมื่อเกิดความสงสัยจึงนึกขึ้นได้ว่าแท้จริงแล้วคือเซียวฉู่ฉู่!“จริงหรือ? จะกลับเมื่อใด?” หลังจากที่หวังหยวนสอบถาม เชียนหลงจึงตอบว่า “พรุ่งนี้จะกลับมาถึงเมืองหวงเจ้าค่ะ!”เมื่อหวังหยวนได้ยินเช่นนี้จึงโล่งใจ ความรับผิดชอบของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ในใจรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก!“ดีมาก เมื่อนางกลับมา ทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม และถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปแล้ว!”หวังหยวนยืดเส้นยืดสาย แม้ว่าเมืองหวงจะดี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าหมู่บ้านต้าหวัง!เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เซียวฉู่ฉู่กลับมาและไปประชุมราชสำนักทันที!เมื่อเห็นเซียวฉู่ฉู่กลับมา ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!ช่วงเวลานี้เมืองหวงได้ประสบเหตุการณ์มากมาย แต่โชคดีที่ไม่มีผลกระทบใด ๆ เลย เซียวฉู่ฉู่ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก!ยิ่งได้รู้ว่าอ๋องเจิ้นตงถูกอ๋องหลงซีเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ได้ก็ยิ่งรู้สึกดีใจ!ตลอดหลายปีมานี้ นางไม่สามารถลบล้างความคิดของอ๋องเจิ้นตงได้!บัดนี้เขาได้ยอมแพ้แล้ว สำหรับเซียวฉู่ฉู่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด!การเดินทางในครั้งนี้สำหรับเซียวฉู่ฉู่แล้วไม่ธรรมดา นางได้รู้เรื่องราวมากมาย!เรื่องราวมากมายที่คนธรรมดาไม่สาม
เชียนหลงรีบเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเซียวฉู่ฉู่เป็นเช่นนี้แล้วนางรู้สึกอึดอัดใจทั้งสองได้เรียกขานกันเป็นพี่น้องแล้ว เหตุใดจึงยังคุกเข่าอยู่เล่า!“คุณหนูเชียนหลง การคำนับครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขอบคุณแล้ว ยังเป็นเพราะฐานะของเราอยู่ห่างกันมากด้วย เดิมทีข้าไม่ทราบฐานะของท่าน จึงได้เรียกขานกันเป็นพี่น้อง”“บัดนี้ข้าได้ทราบแล้วจึงไม่กล้าล่วงเกิน...”เซียวฉู่ฉู่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หญิงสาวตรงหน้าผู้นี้คือว่าที่ผู้นำแห่งเทียนไว่เทียนในอนาคต!ฐานะสูงส่งยิ่งนัก!นางที่เป็นเพียงไทเฮาแห่งโลกมนุษย์ธรรมดาจะเทียบได้อย่างไร!แต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้ยังมีพลังเช่นนี้อยู่!บัดนี้ได้รู้แล้วจึงยิ่งรู้สึกตกใจกับตัวตนของเชียนหลงมากขึ้น“โอ้ พี่เซียว อย่าได้พูดเล่นเลย พวกเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน ท่านทำเช่นนี้ไม่ดีเลย!”“ลุกขึ้นมาเถิด!”กล่าวจบเชียนหลงก็รีบพยุงนางขึ้นมาขณะนี้เซียวฉู่ฉู่มองใบหน้าของเชียนหลงด้วยความตกใจ!“ใบหน้าของท่าน... นี่คือรูปโฉมที่แท้จริงของท่านหรือ!”“แท้จริงแล้ว... งามล้ำเลิศยิ่งนัก!”เซียวฉู่ฉู่หัวเราะ แม้แต่ตัวนางซึ่งเป็นหญิงงามก็ยังอดตกตะลึงเพราะใบหน้าของเชียนหลงไม
“ให้เขาเข้ามาในโลกของข้า!”“ข้าคิดว่าการทำเช่นนั้น... ไม่สมควรเลย!”เชียนหลงกล่าวตามความจริง นางไม่อาจทนได้ หากต้องให้หวังหยวนเข้ามาพัวพันกับโลกของพวกนาง!เพราะนางรู้ดีว่ามันเป็นหนทางเช่นไร!เพียงแต่เมื่อเซียวฉู่ฉู่ได้ยินดังนั้นกลับรีบกล่าวว่า “หวังหยวนอาจจะเต็มใจ!”“ในโลกนี้เขาได้ทำทุกสิ่งจนถึงขีดสุดแล้ว หากเขาเต็มใจก็สามารถสร้างบรรลุจุดสูงสุดได้”“บางทีหนทางนั้นอาจทำให้เขามีพลังอำนาจมากขึ้น!”“ไม่เช่นนั้นแล้ว ด้วยอายุเท่านี้ เขาก็สามารถครองโลกได้แล้ว แล้วจะต้องอยู่เช่นนี้ไปตลอดชีวิตหรือ?”“ข้าเชื่อว่าหวังหยวนจะต้องชอบโลกของพวกท่านอย่างแน่นอน!”เซียวฉู่ฉู่รู้ดีว่าแม้หวังหยวนจะดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานมากนักแต่นางมองออกว่าในใจของหวังหยวนนั้นต้องการทำสิ่งใด!เขาไม่สนใจโลกนี้มากนักแต่เขาเป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งในชีวิตของตนให้ได้!หากเขาได้พบว่ายังมีหนทางอื่นที่สามารถเดินได้ ซึ่งเป็นหนทางใหม่!และเป็นหนทางที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!เขาจะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน!“ข้า...ข้าไม่รู้ พี่เซียว ข้าเองก็คิดไม่ออกเช่นกัน...”เชียนหลงย่อมรู้สถานการณ์ของหวังหยวนโ
เส้นทางกลับสู่เมืองหลิง เป็นเส้นทางที่หวังหยวนและคณะเดินทางมาแล้วหลายครั้ง จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเมื่อนึกถึงว่าจะได้กลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง หวังหยวนก็ดีใจมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้พบกับซื่อหานและเมิ่งอิ๋ง เขารู้สึกคิดถึงพวกนางอย่างมาก!ตลอดทางก็อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงไปด้วย!หวงเจียวเจียวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเรื่องกลับบ้านแต่เป็นเพราะว่าตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา นางก็ยังไม่มีทายาทเสียที!เรื่องนี้ทำให้หวงเจียวเจียวหดหู่ใจเป็นอย่างมาก!ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งสองก็จะร่วมอภิรมย์กันจนถึงยามดึกดื่นเสมอ และทุกครั้งก็มีความสุขล้นเหลือ แต่กลับไม่มีทายาทเสียที!ในตอนแรกหวงเจียวเจียวคิดว่าเป็นเพราะร่างกายของนาง แต่ก็ไม่ใช่!แต่คงเป็นเพราะ...สวรรค์ยังไม่ประทานบุตรให้กับนางต่างหาก!หวงเจียวเจียวจึงรู้สึกผิดหวังเป็นธรรมดา!ระยะเวลาครึ่งปี อย่างไรก็ควรจะมีทายาทแล้ว แต่ใครจะคิดล่ะว่าจะเป็นเช่นนี้!“เป็นอะไรไปหรือ? เหตุใดถึงหน้าบึ้ง?”ในเวลานี้หวังหยวนเห็นว่าสีหน้าของหวงเจียวเจียวไม่ค่อยดีนัก จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเมื่อได้ยินคำถามนี้ หวงเจียวเจีย
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน
“ท่านหวังมาแล้วหรือ?”เมื่อหวังหยวนและพรรคพวกเข้ามาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่แฝงด้วยความอ่อนแอดังมาจากด้านในไป๋ลั่วหลีรีบเข้าไปในกระโจม เปิดม่านทั้งสองข้าง หวังหยวนจึงเห็นไป๋เหยียนเฟยนอนอยู่บนเตียงอาการของไป๋เหยียนเฟยดูย่ำแย่กว่าที่เขาคิด ไม่เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดเท่านั้น แม้แต่ริมฝีปากไร้สีเลือดฝาด ดูอ่อนแรงมาก!หวังหยวนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้พบกันนาน เหตุใดฝ่าบาทจึงเป็นเช่นนี้?”“ไม่ได้เชิญหมอมารักษาหรือ?”“แค่ก แค่ก”ไป๋เหยียนเฟยไอสองสามครั้ง ไป๋ลั่วหลีช่วยพยุงนางขึ้น นางเงยหน้ามองหวังหยวน แล้วส่ายหน้ายิ้มอย่างจนใจก่อนกล่าวว่า “เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว จะทำเช่นไรได้?”“ข้าตามหาหมอมารักษา หมอชื่อดังทั่วดินแดนทั้งเก้าต่างบอกว่าหมดหนทาง บางทีนี่อาจเป็นเจตจำนงของสวรรค์ก็ได้ไม่ใช่หรือ?”“เมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้าตาย ข้าจะฝืนได้อย่างไร?”“แต่น่าเสียดาย กลุ่มกบฏทางเหนือกลับบุกอาณาจักรข้า! ประกอบกับอาณาจักรต้าเป่ยต่างจ้องมองพวกข้าอยู่ ข้าจึงให้ไป๋ลั่วหลีไปเชิญท่านมา หวังว่าท่านจะช่วยปราบกบฏพวกนั้นได้!”หวังหยวนรู้สึกสงสารในบรรดาสี่อาณาจักรใหญ่ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาณาจักรต้าเย่ และ
“ครั้งนี้คงไม่นาน ข้าจะรีบพาทุกคนกลับมา!”“ยิ่งกว่านั้น ยังมีต้าหู่และขุนพลต่งอยู่กับข้าด้วย พวกเจ้าไม่ต้องกังวล”“แค่รออยู่ที่บ้านก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารู้ว่าตนเองรู้สึกผิดต่อพวกนาง แต่บุรุษเกิดมาแล้วย่อมต้องสร้างฐานะไม่ใช่หรือ?สวรรค์ให้โอกาสเขาเกิดใหม่ จึงต้องใช้ความสามารถสร้างความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้!“น้องหรูเยียนยังไม่ค่อยสนิทกับพวกเจ้า ครั้งนี้ข้าจะพานางไปอาณาจักรต้าเย่ก่อน รอให้พวกเรากลับมาแล้วค่อยทำความรู้จักกัน”หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีกในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้ว พวกนางก็ได้แต่ทำตามภรรยาย่อมต้องเชื่อฟังสามี!“ท่านตงฟาง!”หลังจากพูดคุยกับภรรยาแล้ว หวังหยวนก็มองไปที่ตงฟางฮั่น“หลังจากที่ข้าไปแล้ว ต้องรบกวนท่านและท่านถงช่วยดูแลที่นี่ด้วย”“ข้าได้สั่งเอ้อหู่ ให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของพวกท่าน ห้ามกระทำการโดยพลการ!”“เมืองหลิงคือรากฐานของข้า จึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นเด็ดขาด!”“คนของอาณาจักรต้าเป่ยจ้องมองพวกเราอยู่ หานเทาพร้อมจะสู้รบกับข้าทุกเมื่อ พวกท่านต้องระวังตัว!”หวังหยวนกำชับหลายครั้งตงฟางฮั่นแ
ทันใดนั้น เสียงไอก็ขัดจังหวะหวังหยวนเขาหันไปมองตามเสียงจึงเห็นตงฟางฮั่นทั้งสองแค่สบตากันก็เข้าใจความคิดของกันและกัน“คุณหนูไป๋”“ข้าขอคิดทบทวนก่อน จึงค่อยให้คำตอบ! วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องหนักใจเช่นนี้เลย รอให้ดื่มกันให้หนำใจก่อน แล้วค่อยพูดคุยกันดีกว่า เจ้าว่าเช่นไร?”หวังหยวนให้เกียรติไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวจากท่านหวังเจ้าค่ะ!”เมื่องานเลี้ยงเลิกราและจัดการเรื่องที่พักของไป๋ลั่วหลีแล้ว หวังหยวนก็รีบออกไปข้างนอกพร้อมกับตงฟางฮั่นริมถนน หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเล่นไปพลางคุยกัน “ท่านตงฟาง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าคิดว่าควรส่งกองกำลังไปช่วย!”“ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสงคราม โครงการชลประทานทำให้อาณาจักรอื่น ๆ เห็นถึงประโยชน์ เท่าที่ข้ารู้ แม้แต่อาณาจักรต้าเป่ยก็กำลังเร่งสร้างโครงการชลประทานเหมือนกัน!”“ในเมื่อพวกเราสร้างเสร็จก่อน ก็ควรใช้โอกาสนี้ขยายอาณาเขต!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้ว รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “ท่านตงฟาง ท่านลืมแล้วหรือ ครั้งก่อนที่พวกเราพบกันที่หอหลิวหลี ต่างให้สัญญากันว่าจะไม่ทำสงครามเพื่อให้โลกสงบสุข!”“หากข้ายกทัพตอน
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท