หลังจากที่อ๋องหลงซีพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้ารับ เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมายอีก ในเมื่ออีกฝ่ายได้กล่าวตัดบทเช่นนั้นแล้ว และเขาก็เชื่อด้วยว่าอ๋องหลงซีไม่ใช่คนพูดจาโอ้อวดเกินจริง หากเขาบอกว่ามีหนทางก็ย่อมมีหนทางเป็นแน่!หลังจากที่อ๋องหลงซีจากไป หวังหยวนก็หาวออกมาแล้วจึงไปเข้านอนในขณะนี้อ๋องเจิ้นตงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!เขาถือปืนคาบศิลาไว้ในมือแล้วพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ยิ่งพิจารณาก็ยิ่งรู้สึกตกใจ!“นี่มันช่างวิเศษจริง ๆ! หวังหยวนช่างไม่ธรรมดานัก สิ่งนี้แม้แต่ยอดปรมาจารย์ในใต้หล้าก็ยังคงไม่สามารถต่อกรได้!”“ได้ยินมาว่าหวังหยวนมีเพียงหมื่นคนก็สามารถต้านทานกองทัพนับแสนของเมืองหวงได้ และสิ่งนี้ก็มีส่วนสำคัญ!”นอกจากอ๋องเจิ้นตงจะรู้สึกทึ่ง แล้วก็อดที่จะรู้สึกเหลือเชื่อไม่ได้!พูดตามจริงแล้วใครจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ นี้จะสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ถึงเพียงนั้น!“ด้วยสิ่งนี้ อ๋องหลงซีจะต้องตายอย่างแน่นอน!”อ๋องเจิ้นตงยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาของเขาฉายแววตื่นเต้น!ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้วางแผนไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะเลือกวันลงมือพรุ่งนี้เลย!เมื่ออ๋องเจิ้นตงคิดได้ดังนั้นก็เข้านอนเช่น
ทว่าในขณะนั้นขบวนเกี้ยวของอ๋องเจิ้นตงก็มาถึงแล้ว!อ๋องเจิ้นตงมองไปที่ประตู แล้วสั่งให้คนไปเคาะประตูแต่ในไม่ช้าก็ได้รับคำตอบว่าไม่รับแขก!อ๋องเจิ้นตงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ไม่รับแขกหรือ?นี่เป็นการเตรียมการมาอย่างดี!โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อขัดขวางเขานั่นเอง!เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเดินไปที่ประตูเพื่อเคาะประตูเอง จากนั้นพ่อบ้านก็ออกมา“ถวายบังคมอ๋องเจิ้นตงพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อพ่อบ้านพูดจบ อ๋องเจิ้นตงก็โบกมือแล้วถามว่า“อ๋องหลงซีอยู่ที่ไหน ข้าต้องการพบเขา”พ่อบ้านรีบพูดว่า “ขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง นายท่านกำลังป่วยอยู่ และได้สั่งการลงมาแล้วว่าไม่รับแขกพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านอ๋อง หากท่านมีเรื่องสำคัญ ข้าจะนำไปเรียนนายท่านให้พ่ะย่ะค่ะ”“แต่หากเพียงแค่มาเยี่ยม นายท่านได้สั่งการไว้ก่อนที่จะปิดประตูจวนว่าขอขอบคุณแขกทุกท่าน เมื่อนายท่านหายป่วยแล้ว จะไปเยี่ยมเยียนด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของพ่อบ้านนั้นไร้ช่องโหว่อย่างสมบูรณ์แบบต่อให้อ๋องเจิ้นตงจะพูดอะไรก็ไร้ประโยชน์!เพราะทุกคำพูดถูกปิดกั้นหมดแล้ว!เมื่อคิดได้ดังนั้น อ๋องเจิ้นตงก็ถอนหายใจแล้วพยักหน้า “ก็ได้ ปล่อยใ
เกาเล่อไม่เข้าใจ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง เหตุผลอะไร!อ๋องหลงซีกลัวตายหรือ?เรื่องนี้...ไม่น่าจะเป็นไปได้!คนผู้นี้วางแผนอย่างรอบคอบจนสามารถก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนั้นได้ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่กลัวตาย!แล้วจะเป็นเหตุผลอะไรได้?หวังหยวนมองไปที่เกาเล่อแล้วพูดว่า “ข้าถามเจ้าหน่อย อ๋องเจิ้นตงกับอ๋องหลงซีมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”เกาเล่อฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบโดยไม่ต้องคิด “เป็นญาติกัน พวกเขาทั้งสองล้วนเป็นสายเลือดของราชวงศ์ แม้ว่า... จะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็สนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด!”หลังจากพูดจบ เขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็พูดว่า “หรือว่า... เป็นเพราะความสัมพันธ์นี้หรือ?”“ท่านคิดว่าอ๋องหลงซียังเป็น... คนที่ให้ความสำคัญกับสายสัมพันธ์ทางสายเลือดมากงั้นหรือ?”เกาเล่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากเชื่อนัก!หวังหยวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “อ๋องหลงซีไม่ต้องการให้เกิดการฆ่าฟันกันเองมากที่สุด หากไม่ใช่เพราะความชอบธรรมในหัวใจของเขา อาจเกิดความวุ่นวายขึ้นในเมืองหวงขึ้นแล้ว!”“เจ้าคิดว่าเหตุใดเซียวฉู่ฉู่จึงสามารถยึดครองเมืองหวงได้ตั้งนานหลายปี เหตุใดจึ
“พูดเป็นเล่น เกินจริงไปหน่อยแล้ว!”“ครั้งนี้อ๋องหลงซีต้องการจัดการกองกำลังของอ๋องเจิ้นตงทั้งหมด ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้โอกาสอ๋องเจิ้นตงด้วยเช่นกัน เพื่อดูว่าเขาจะลงมือหรือไม่!”“ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่อยากให้เขาลงมือ และไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาด้วยอาวุธด้วย!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็พยักหน้า“อ๋องหลงซีคิดเช่นนี้ก็เพราะใส่ใจสถานการณ์โดยรวม”“ตอนนี้... อ๋องหลงซีคงกำลังคิดถึงพี่ท่านมากใช่หรือไม่?”ขณะนี้เกาเล่อพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“เป็นไปได้มาก!”“ฮ่าฮ่า หากเป็นเช่นนั้นก็ไปพบกับอ๋องหลงซีกันเถิด!”หวังหยวนพูดกลั้วหัวเราะ อาจเป็นไปได้ที่อ๋องหลงซีต้องการพบเขา เพราะอย่างไรก็ต้องจัดการกับอ๋องเจิ้นตงอ๋องเจิ้นตงจะเกิดความคิดกบฏ หากทำได้ก็ควรจะหาทางหยุดยั้ง!หากลงมือจริง ก็ต้องทำให้รู้ชัดเจนก่อนว่าเขาจะมีไพ่ตายอะไร!หวังหยวนพูดจบก็ไปที่จวนของอ๋องหลงซี!เมื่อมาถึงหน้าประตู หวังหยวนก็ถูกปฏิเสธเช่นเดียวกับอ๋องเจิ้นตง!แต่ขณะที่หวังหยวนกำลังเตรียมตัวจะจากไป เขาก็เห็นพ่อบ้าน“ท่านอ๋องเป่ยหลิง นายท่านขอเชิญ แต่ท่านอาจต้อง... เข้ามาทางประตูหลัง เพื่อ... แอบไปพบพ่ะย่ะค่ะ...”หวังหยวนได้ฟ
อ๋องหลงซีไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนย่อมเกิดความสงสัย!หวังหยวนหรี่ตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอธิบาย“ความหมายของประโยคนี้ก็คือ...”“ท่านรู้ดีอยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามคิดจะทำอะไร แต่กลับล่อลวงให้เขาทำสิ่งนั้นต่อไป... นี่เรียกว่า 'หลอกปลาให้ติดเบ็ด'“เมื่อหวังหยวนพูดจบ อ๋องหลงซีก็ยิ้มแล้วพยักหน้า“เจ้าพูดเช่นนี้บางทีอาจเป็นอย่างนั้นจริง ๆ!”หลังจากที่อ๋องหลงซีพูดจบก็หันไปมองหวังหยวน แล้วจึงกล่าวว่า “หวังหยวน เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องอ๋องเจิ้นตง”หวังหยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “จากที่เห็นมา แนวทางของท่านถูกต้องแล้ว เพราะว่า... การไม่ต้องลงมือทำอะไรเลยนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!”อ๋องหลงซีก็คิดเช่นนั้นจึงได้ตัดสินใจเช่นนี้!แน่นอนว่าในใจของเขายังลังเลอยู่ว่าการทำเช่นนี้จะรุนแรงเกินไปหรือไม่!เพียงแต่สถานการณ์เช่นนี้ไม่มีหนทางอื่นใดที่ดีกว่าแล้ว!พูดตามตรงคือทั้งการหลอกปลาให้ติดเบ็ด และการเปิดโปงอ๋องเจิ้นตง อ๋องหลงซีก็ยังไม่แน่ใจนักว่าควรทำอย่างไรดี!เพราะว่า...ทั้งสองเป็นญาติร่วมสายเลือดเดียวกัน!“ข้าเข้าใจ... อ๋องเจิ้นตงไม่ควรเคลื่อนไหวใด ๆ ไม่เช่นนั้น... ข้าคงต้อง...”
แต่ว่า...กลับไม่สามารถแตะแม้แต่ชายเสื้อของเชียนหลงได้ด้วยซ้ำ!“เชียนหลง... เจ้า... เก่งเกินไปแล้วหรือเปล่า?”หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ ในเวลานี้เขาใช้พลังทั้งหมดแล้ว!แต่เชียนหลงก็ยังสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดายนางยกยิ้มจาง แม้ว่าตนจะไม่ได้เก่งมากนัก แต่ก็เก่งกว่าปรมาจารย์ระดับสูงในเวลานั้นหลายขั้นอย่างแน่นอน!“คุณชาย ดูเหมือนว่าท่านยังต้องฝึกฝนอย่างหนักให้บ่อยขึ้น!”เชียนหลงหัวเราะ ขณะที่ร่างกายหลบหลีกการโจมตีของหวังหยวน แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงอย่างฉับพลัน ก่อนที่ร่างกายจะล้มลงไปด้านหลังโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ!เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้หวังหยวนตกใจ!เขารีบคว้าตัวเชียนหลงไว้โดยไม่รู้ตัว ผลก็คือสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก! เพราะว่าหวังหยวนสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่น่ากลัวมากจากร่างกายของนาง!ความหนาวเย็นนั้นทำให้เขาตัวสั่นสะท้าน!“เกิดอะไรขึ้น!”เขารีบถามด้วยความตกใจ“เชียนหลง เจ้าเป็นอะไรไป?”สีหน้าของเชียนหลงซีดเซียว ร่างกายสั่นเทา แต่ยังคงพูดว่า “ข้า... ข้าไม่เป็นอะไรหรอก คุณชาย ท่านช่วยพาข้ากลับไปที่ห้อง ข้า... ข้าจะดีขึ้นในอีกสั
ใบหน้างามเลิศนี้ ทำให้แม้แต่หวงเจียวเจียวก็ยังตะลึงงัน!นางคิดว่าตนเองมีรูปโฉมงดงามนัก จัดเป็นหนึ่งในสตรีงามที่สุดในใต้หล้า!แต่ว่า...เมื่อเห็นเชียนหลงเผยโฉมหน้าที่แท้จริง ก็แทบจะตกตะลึงจนสิ้นสติ!นางไม่เคยพบหญิงงามถึงเพียงนี้มาก่อน!ขณะนั้นเหล่าสาวใช้ที่อยู่ใกล้ต่างก็ตะลึงงัน หวงเจียวเจียวเพิ่งจะได้สติจึงกล่าวว่า “สิ่งที่เห็นในวันนี้ พวกเจ้าจงปิดปากไว้ให้สนิท หากข้ารู้ว่ามีผู้ใดเผลอหลุดคำใดออกไป พวกเจ้าตายแน่!”“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน! เข้าใจหรือไม่!”หวงเจียวเจียวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อกล่าวจบสาวใช้เหล่านั้นต่างก็หวาดกลัว ชีวิตของพวกนางในจวนใหญ่แห่งนี้ เปรียบดังผักตบชวาไร้ค่าที่ลอยมาตามน้ำ!“พวกเจ้าออกไปเถิด”หวงเจียวเจียวเหลือบมองเชียนหลง ขณะนี้อาการของนางดีขึ้นมากแล้วจึงวางใจได้ขณะนั้นเอง หวังหยวนที่เห็นว่าพวกนางออกมาแล้วก็รีบถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง? ข้างในเป็นอย่างไร?”สาวใช้เหล่านั้นบอกหวังหยวนได้เพียงว่าอาการของนางดีขึ้นมากแล้วหวังหยวนยังคงไม่กล้าเข้าไป เพราะเชียนหลงยังคงเปลือยกายอยู่ ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยังเป็นผู้หญิงทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็เดินออกมาที่จริ
ทุกครั้งที่ความเย็นยะเยือกในร่างกายกำเริบ นางก็จะอยู่ในสภาพเช่นนี้นางลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วก็เห็นหวงเจียวเจียวที่นั่งหลับอยู่ข้าง ๆยิ่งเห็นถังน้ำที่วางอยู่ตรงนั้น นางก็เข้าใจทุกอย่างในทันทีเมื่อเห็นว่าตนเองสวมเสื้อผ้าที่สะอาดแล้ว นางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก“พี่เจียวเจียว”นางเรียกเบา ๆ หวงเจียวเจียวจึงลืมตาขึ้น“อ้าว เชียนหลง เจ้าฟื้นแล้ว!”เมื่อหวงเจียวเจียวเห็นเชียนหลงฟื้นขึ้นมาแล้วก็ดีใจมาก“เป็นอย่างไรบ้าง? ดีขึ้นหรือยัง?”เมื่อได้ยินดังนั้น เชียนหลงจึงตอบว่า “ดีแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณพี่เจียวเจียว ท่านคงเหนื่อยแย่แล้ว เพราะข้า ท่านจึงต้องวิ่งวุ่นไปมา ท่านไปพักผ่อนเถิด ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”หวงเจียวเจียวหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้รีบไปไหน กลับถามว่า “เชียนหลง เจ้าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ความหนาวเย็นนี้ช่างน่ากลัวนัก”เมื่อได้ยินดังนั้น เชียนหลงก็ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ข้าป่วยเป็นโรคประหลาด ด้วยความที่เป็นเช่นนี้ ข้าจึงหนีออกมาเพื่อไม่ให้คนในครอบครัวเป็นห่วง”“พี่เจียวเจียว ข้าจะบอกความจริงแก่ท่าน ข้าคง... มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปีแล้ว ดังนั้นในช่วงชีวิตที่เหลือของข้า ข้าอยากจะใช้