ไป๋เฟยเฟยพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ นี่เป็นความคิดของหวังหยวนอย่างแน่นอน เขาต้องการทราบว่าตระกูลเซิ่งต้องการทำอะไรกันแน่ และจะใช้โอกาสนี้จัดการตระกูลเซิ่งให้ได้ในคราวเดียว!”ไป๋ชิงชางได้ฟังดังนั้นจึงพยักหน้า“เช่นนั้นนำเรื่องนี้ไปหารือกับท่านพ่อก่อนดีหรือไม่?”เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจัง และเขาไม่กล้าตัดสินใจตามลำพัง เขาจึงอยากคุยกับพ่อของเขาโดยเร็วที่สุด!“ดีเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้ต้องปรึกษาหารือกันให้ดี!”ไป๋เฟยเฟยกล่าว จากนั้นไป๋ชิงชางก็ไปพบไป๋เจิ้นถังเพื่อแจ้งเรื่องเดียวกันนี้เมื่อไป๋เจิ้นถังได้ฟังแล้ว ปฏิกิริยาของเขาก็เหมือนกับไป๋ชิงชางในตอนแรก คือเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!แต่กลับมีบางอย่างแปลก ๆ ผุดขึ้นมาในใจของไป๋เจิ้นถัง!“หากทำเช่นนี้ได้จริง ก็จะเผยให้เห็นข้อบกพร่องของตระกูลเซิ่งอย่างแน่นอน…”หลังจากที่ไป๋เจิ้นถังพูดจบ ไป๋เฟยเฟยและไป๋ชิงชางก็ยกยิ้มเช่นกัน!“ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ เมื่อตระกูลเซิ่งเปิดเผยข้อบกพร่องออกมา เราก็จะจัดการกับพวกเขาได้ง่ายขึ้นมาก!”ไป๋ชิงชางหัวเราะ ใครจะคิดว่าพวกเขาจะแสร้งทำจริง ๆ!จากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็จะง่ายขึ้น แล้วไป๋ชิงชางก็เริ่มว
หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบเซิ่งฟางสี่ก็พยักหน้า“ดี เช่นนั้นก็แจ้งให้เมืองหวงทราบได้เลย”เซิ่งฟางสี่รู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว ตระกูลไป๋และหวังหยวนกำลังแตกคอกัน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขา!เกรงว่าจะไม่มีโอกาสที่ดีเช่นนี้อีกแล้วในชีวิต!ในเวลานี้หวังหยวนมาถึงวังหลวงของตระกูลไป๋แล้วจริง ๆ!หวังหยวนเข้าไปในเมืองหลวงพร้อมกับการประโคมข่าวครั้งใหญ่ว่าทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็ถูกราชองครักษ์เข้าจับกุมเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของวังหลวง!ไม่มีใครเข้ามาพบเจอเขาได้!ซึ่งหวังหยวนไม่ได้คัดค้านและไม่มีอะไรจะพูดไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยรีบมาหาเขาในทันที“พี่หวังต้องลำบากเสียแล้ว”ไป๋ชิงชางพูดด้วยรอยยิ้ม ส่วนหวังหยวนก็เพียงแค่ยกยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ“สภาพแวดล้อมที่นี่ดีมาก ไม่ได้ลำบากเลยสักหน่อย”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็รีบพูดว่า “พี่หวัง เราได้ส่งกองกำลังทั้งหมดของเราไปคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเซิ่งแล้ว!”“แต่ตอนนี้ยังไม่มีผล!”“แต่... เราพบว่าตระกูลเซิ่งได้เริ่มตระเตรียมเสบียงอาหารกันแล้ว!”หวังหยวนฟังแล้วก็ยกยิ้ม“ดูเหมือนว่าตระกูลเซิ่งกำลังจะยกทัพ! ตามที่เราคาดไว้ พวกเขากำล
“พี่หวัง ท่านพอจะมีวิธีใดในการขัดขวางพวกเขาหรือไม่?”ขณะนี้ไป๋ชิงชางถามขึ้นมา สิ่งที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจนมากคือต้องการให้หวังหยวนช่วย!หวังหยวนยกยิ้มแล้วถามกลับว่า “เพียงแค่ถ่วงเวลาพวกเขางั้นหรือ?”พวกเขาได้ฟังแล้วก็ตกตะลึง!ไป๋เฟยเฟยและไป๋ชิงชางย่อมเข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้!ไม่คิดจะถ่วงเวลาและผัดวันประกันพรุ่ง แต่อยากจะ...กวาดล้างพวกเขา!ทั้งสองไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน!เมื่อได้ฟังคำพูดของหวังหยวนจึงตกใจ!“พี่หวัง ท่านหมายความว่าอย่างไร…?”ไป๋ชิงชางถามตามตรง หวังหยวนได้ฟังแล้วก็ยกยิ้ม“ดังที่เจ้าคิดนั่นแหละ!”หวังหยวนไม่ต้องการให้อภัยตระกูลเซิ่ง เพราะตระกูลเซิ่งนี้ก่อปัญหามาโดยตลอด ความสงบสุขที่แท้จริงอาจเกิดขึ้นหากพวกเขาถูกกวาดล้าง!หวังหยวนจึงต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดตระกูลเซิ่งให้สิ้นซาก!ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ลงทุนมาถึงที่นี่!“แม้ว่า… เรื่องนี้จะฟังดูน่าสนใจมาก แต่หากลงมือทำจริง ก็เกรงว่าจะทำได้ไม่ง่ายนักใช่หรือไม่?”ไป๋ชิงชางไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ในสายตาของเขาก็ยังมองว่าเรื่องนี้จัดการได้ยาก!แต่หวังหยวนกล่าวว่า “ทั้งหมดเป็นเรื่องของความร
หากพวกเขาร่วมมือกับเมืองหวงก็ย่อมสามารถบรรลุสิ่งที่ต้องการได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน!แต่ก็ต้องย้ำอีกครั้งว่ามีความเสี่ยงสูง!เพราะหากจู่ ๆ เมืองหวงเปลี่ยนข้างก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลไป๋!พวกเขาเชื่อใจหวังหยวนแต่ไม่เชื่อใจเมืองหวง!ยิ่งไปกว่านั้นคือนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตายของคนในอาณาจักร!จึงแน่นอนว่าต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน!“พี่หวัง แม้ว่าเราจะเชื่อท่าน แต่... เรื่องนี้จะราบรื่นจริงหรือ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า... จู่ ๆ เมืองหวงก็แปรพักตร์…”ตอนนี้ไป๋ชิงชางพูดตามตรง หวังหยวนฟังแล้วก็ยกยิ้มเขารู้ว่าไป๋ชิงชางไม่ไว้ใจเรื่องเช่นนี้อย่างเห็นได้ชัดเพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของราชวงศ์ของพวกเขาอย่างมาก!แต่หากจะวางแผนเรื่องนี้ในระยะยาว นี่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้“พวกเจ้าต้องรีบคุยกันเรื่องนี้ เพราะกองทัพกำลังใกล้เข้ามา ไม่มีเวลาให้คิดมาก”หวังหยวนกล่าว ไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยฟังแล้วจึงพยักหน้า เพราะทั้งสองต่างก็รู้ว่าเรื่องนี้ยากเพียงใด!ดังนั้น...พวกเขาจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับบิดาก่อน“และตอนนี้ข
ขณะนี้ไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยกำลังรีบไปที่ห้องตำราของไป๋เจิ้นถัง“น้องสาว เจ้าคิดว่า...แผนการของหวังหยวนจะสำเร็จหรือไม่?”ไป๋ชิงชางยังคงมีความกังวลฉายแววในดวงตา“ข้าไม่คิดว่าพี่หวังจะโกหกเรา หลังจากที่ติดต่อกันมานานแล้วยังไม่แน่ใจอีกหรือ? หากเขาไม่ยินยอม ก็เกรงว่าเราจะไม่สามารถพิชิตดินแดนสามแคว้นได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้หรอกเจ้าค่ะ”ไป๋เฟยเฟยเข้าใจสิ่งที่พี่ชายของตนกำลังคิดจึงตอบด้วยรอยยิ้มไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้นก็มีรอยยิ้มเช่นกัน“พูดมีเหตุผล...”ทั้งสองมาถึงห้องตำราหลวงแล้วเข้าไปพบไป๋เจิ้นถัง เพื่อบอกแผนการของหวังหยวนให้ไป๋เจิ้นถังฟังแต่หลังจากได้ฟังแล้ว สีหน้าของไป๋เจิ้นถังกลับค่อนข้างเปลี่ยนไป“ตระกูลเซิ่งจะรวมตัวกับเมืองหวงเพื่อจัดการกับเรา…”นั่นเป็นประเด็นที่ยุ่งยากสำหรับเรื่องนี้!แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา แต่ไป๋เจิ้นถังยังคงมั่นใจ!ถ้าจะยึดดินแดนสามแคว้นไว้ก็ยังทำได้!เพราะพวกเขามีป้อมปราการเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่คอยปกป้องจากข้าศึก!ยิ่งไปกว่านั้นคือตระกูลไป๋ยังมีทหารมากถึงหนึ่งแสนสองหมื่นนาย หากข้าศึกพยายามจะบุกยึดก็ยังสามารถสู้ได้!“ท่านพ่อ ถ้าเราทำต
แต่รอยยิ้มของไป๋เจิ้นถังกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง“ลูกเอ๋ย ความคิดของเจ้ายังเรียบง่ายเกินไป!”“เรียบง่ายยิ่งนัก... เจ้าคิดถึงเพียงแค่ปัจจุบันเท่านั้น!”ไป๋ชิงชางสับสน ไม่ค่อยเข้าใจว่าพ่อของเขาจะสื่ออะไรกันแน่ไป๋เจิ้นถังมองลูกชายแล้วก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่เห็นคุณค่าของมิตรภาพ แน่นอนว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในฐานะเพื่อน!แต่หากเขาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้!ก็ยังคงขาดประสบการณ์อยู่!ดังนั้น...วันนี้เขาจึงต้องการอธิบายเรื่องนี้ให้ลูกชายฟัง!“ลูกเอ๋ย สิ่งที่พ่อจะพูดต่อไปนี้ เจ้าต้องจดจำมันไปชั่วชีวิต!”ไป๋เจิ้นถังจ้องมองลูกชายของตน หลังจากไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพยักหน้า“ท่านพ่อโปรดชี้แนะด้วยขอรับ”ไป๋เจิ้นถังกล่าวว่า “สิ่งแรกที่พ่อต้องการพูดถึงคือตัวเจ้าเอง เจ้าเป็นไท่จื่อที่มีจริยธรรมทางการปกครองที่ดี หลายคนชื่นชมเจ้าว่าเจ้าเป็นคนชอบธรรม นี่คือข้อดีของเจ้า”“แต่ว่า... เจ้าขาดความโหดเหี้ยมแบบฮ่องเต้!”“ฮ่องเต้ต้องมีความโหดเหี้ยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ไร้เหตุผลเลย นี่คือเรื่องแรกที่พ่อต้องการจะพูด!”“แม้ว่าความภักดีจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตอนนี้เจ้
พูดตามความจริงคือเป็นเรื่องยากที่จะหาจุดบกพร่องของเขา!หากเขากลายมาเป็นคู่ต่อสู้...ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!“ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อ... แต่ว่า... เรากำลังร่วมมือกับเขาในตอนนี้... มันจะไม่ยุติธรรมเกินไปหรือเปล่าขอรับ...”ไป๋ชิงชางรีบพูดอย่างรวดเร็ว เขาก็กลัวหวังหยวนเช่นกัน แต่เขาวางแผนร่วมกับหวังหยวนมานานแล้ว และจู่ ๆ ก็จะหักหลัง เขาคงไม่กล้าสู้หน้าหวังหยวนจริง ๆ!ไป๋เจิ้นถังถอนหายใจแล้วพูดว่า “พ่อบอกเจ้าไว้เลยว่าความซื่อสัตย์สำหรับฮ่องเต้นั้นอันตรายเพียงใด”“ลูกเอ๋ย พ่อจะบอกเจ้าว่าพ่อระแวงหวังหยวนมาโดยตลอด พ่อยังอยากให้น้องสาวของเจ้าแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา แต่เจ้าก็เห็นว่าหลังจากเวลาผ่านไปนาน เขาก็ยังไม่มีความคิดเช่นนั้น”“แม้ว่าน้องสาวของเจ้าจะแต่งงานกับเขา แต่เจ้าแน่ใจได้หรือไม่ว่าอำนาจของตระกูลไป๋ของเราจะคงอยู่ไปหลายชั่วอายุคน?”“ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นคนไกลหรอก เจ้าเองก็เห็นอาของเจ้าแล้ว นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาต้าเย่ที่เหมือนเรือที่มีใบเรือหักเอาไว้!”“หากอาของเจ้าไม่เข้ามาแทรกแซง เราอาจจะยึดครองแผ่นดินได้ไปตั้งนานแล้ว!”“เจ้าเองก็รู
หลังจากที่ไป๋เจิ้นถังพูดจบ ไป๋ชิงชางก็ส่ายหน้าเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร!พูดตามตรงคือเขาไม่อยากขัดแย้งกับหวังหยวนเลย!แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดต่อกับหวังหยวนมากนัก แต่เขาก็ชื่นชมหวังหยวนมากที่สุด!ไป๋ชิงชางชื่นชมทั้งบุคลิก ความกล้าหาญ ความรู้แม้กระทั่งความฉลาดปราดเปรื่อง และด้านอื่น ๆ ของหวังหยวน!ในสายตาของเขา หวังหยวนคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เป็นเพื่อนสนิทที่สามารถพูดคุยอะไรกันก็ได้!“ท่านพ่อ ข้า... ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไรขอรับ”“อีกทั้ง... ตอนนี้เมืองหวงและตระกูลเซิ่งได้รุกคืบเข้ามาแล้ว เราควร... ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อนหรือไม่ขอรับ?”ไป๋ชิงชางรีบพูด แต่ในใจเขา เขายังคงไม่ต้องการจัดการกับหวังหยวนเมื่อไป๋เจิ้นถังได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจ เขารู้ว่าลูกชายของเขาเป็นคนจิตใจอ่อนโยน จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย“พ่อเข้าใจว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ในกรณีนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ พ่อจะจัดการอย่างเต็มที่เอง”ไป๋เจิ้นถังพูดตามตรง ไป๋ชิงชางฟังแล้วจึงถอนหายใจก่อนพูดว่า “ท่านพ่อ ไม่ว่าเราจะวางแผนอะไรอยู่ตอนนี้ แต่เราก็ควรปล่อยหวังหยวนไปใช่หรือไม่ขอรับ?”“เพราะตราบใดที่มีเขาอย
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น