หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบเซิ่งฟางสี่ก็พยักหน้า“ดี เช่นนั้นก็แจ้งให้เมืองหวงทราบได้เลย”เซิ่งฟางสี่รู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว ตระกูลไป๋และหวังหยวนกำลังแตกคอกัน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขา!เกรงว่าจะไม่มีโอกาสที่ดีเช่นนี้อีกแล้วในชีวิต!ในเวลานี้หวังหยวนมาถึงวังหลวงของตระกูลไป๋แล้วจริง ๆ!หวังหยวนเข้าไปในเมืองหลวงพร้อมกับการประโคมข่าวครั้งใหญ่ว่าทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็ถูกราชองครักษ์เข้าจับกุมเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของวังหลวง!ไม่มีใครเข้ามาพบเจอเขาได้!ซึ่งหวังหยวนไม่ได้คัดค้านและไม่มีอะไรจะพูดไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยรีบมาหาเขาในทันที“พี่หวังต้องลำบากเสียแล้ว”ไป๋ชิงชางพูดด้วยรอยยิ้ม ส่วนหวังหยวนก็เพียงแค่ยกยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ“สภาพแวดล้อมที่นี่ดีมาก ไม่ได้ลำบากเลยสักหน่อย”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็รีบพูดว่า “พี่หวัง เราได้ส่งกองกำลังทั้งหมดของเราไปคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเซิ่งแล้ว!”“แต่ตอนนี้ยังไม่มีผล!”“แต่... เราพบว่าตระกูลเซิ่งได้เริ่มตระเตรียมเสบียงอาหารกันแล้ว!”หวังหยวนฟังแล้วก็ยกยิ้ม“ดูเหมือนว่าตระกูลเซิ่งกำลังจะยกทัพ! ตามที่เราคาดไว้ พวกเขากำล
“พี่หวัง ท่านพอจะมีวิธีใดในการขัดขวางพวกเขาหรือไม่?”ขณะนี้ไป๋ชิงชางถามขึ้นมา สิ่งที่เขาจะสื่อนั้นชัดเจนมากคือต้องการให้หวังหยวนช่วย!หวังหยวนยกยิ้มแล้วถามกลับว่า “เพียงแค่ถ่วงเวลาพวกเขางั้นหรือ?”พวกเขาได้ฟังแล้วก็ตกตะลึง!ไป๋เฟยเฟยและไป๋ชิงชางย่อมเข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้!ไม่คิดจะถ่วงเวลาและผัดวันประกันพรุ่ง แต่อยากจะ...กวาดล้างพวกเขา!ทั้งสองไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน!เมื่อได้ฟังคำพูดของหวังหยวนจึงตกใจ!“พี่หวัง ท่านหมายความว่าอย่างไร…?”ไป๋ชิงชางถามตามตรง หวังหยวนได้ฟังแล้วก็ยกยิ้ม“ดังที่เจ้าคิดนั่นแหละ!”หวังหยวนไม่ต้องการให้อภัยตระกูลเซิ่ง เพราะตระกูลเซิ่งนี้ก่อปัญหามาโดยตลอด ความสงบสุขที่แท้จริงอาจเกิดขึ้นหากพวกเขาถูกกวาดล้าง!หวังหยวนจึงต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดตระกูลเซิ่งให้สิ้นซาก!ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ลงทุนมาถึงที่นี่!“แม้ว่า… เรื่องนี้จะฟังดูน่าสนใจมาก แต่หากลงมือทำจริง ก็เกรงว่าจะทำได้ไม่ง่ายนักใช่หรือไม่?”ไป๋ชิงชางไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ในสายตาของเขาก็ยังมองว่าเรื่องนี้จัดการได้ยาก!แต่หวังหยวนกล่าวว่า “ทั้งหมดเป็นเรื่องของความร
หากพวกเขาร่วมมือกับเมืองหวงก็ย่อมสามารถบรรลุสิ่งที่ต้องการได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน!แต่ก็ต้องย้ำอีกครั้งว่ามีความเสี่ยงสูง!เพราะหากจู่ ๆ เมืองหวงเปลี่ยนข้างก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลไป๋!พวกเขาเชื่อใจหวังหยวนแต่ไม่เชื่อใจเมืองหวง!ยิ่งไปกว่านั้นคือนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตายของคนในอาณาจักร!จึงแน่นอนว่าต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน!“พี่หวัง แม้ว่าเราจะเชื่อท่าน แต่... เรื่องนี้จะราบรื่นจริงหรือ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้า... จู่ ๆ เมืองหวงก็แปรพักตร์…”ตอนนี้ไป๋ชิงชางพูดตามตรง หวังหยวนฟังแล้วก็ยกยิ้มเขารู้ว่าไป๋ชิงชางไม่ไว้ใจเรื่องเช่นนี้อย่างเห็นได้ชัดเพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของราชวงศ์ของพวกเขาอย่างมาก!แต่หากจะวางแผนเรื่องนี้ในระยะยาว นี่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้“พวกเจ้าต้องรีบคุยกันเรื่องนี้ เพราะกองทัพกำลังใกล้เข้ามา ไม่มีเวลาให้คิดมาก”หวังหยวนกล่าว ไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยฟังแล้วจึงพยักหน้า เพราะทั้งสองต่างก็รู้ว่าเรื่องนี้ยากเพียงใด!ดังนั้น...พวกเขาจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับบิดาก่อน“และตอนนี้ข
ขณะนี้ไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยกำลังรีบไปที่ห้องตำราของไป๋เจิ้นถัง“น้องสาว เจ้าคิดว่า...แผนการของหวังหยวนจะสำเร็จหรือไม่?”ไป๋ชิงชางยังคงมีความกังวลฉายแววในดวงตา“ข้าไม่คิดว่าพี่หวังจะโกหกเรา หลังจากที่ติดต่อกันมานานแล้วยังไม่แน่ใจอีกหรือ? หากเขาไม่ยินยอม ก็เกรงว่าเราจะไม่สามารถพิชิตดินแดนสามแคว้นได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้หรอกเจ้าค่ะ”ไป๋เฟยเฟยเข้าใจสิ่งที่พี่ชายของตนกำลังคิดจึงตอบด้วยรอยยิ้มไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้นก็มีรอยยิ้มเช่นกัน“พูดมีเหตุผล...”ทั้งสองมาถึงห้องตำราหลวงแล้วเข้าไปพบไป๋เจิ้นถัง เพื่อบอกแผนการของหวังหยวนให้ไป๋เจิ้นถังฟังแต่หลังจากได้ฟังแล้ว สีหน้าของไป๋เจิ้นถังกลับค่อนข้างเปลี่ยนไป“ตระกูลเซิ่งจะรวมตัวกับเมืองหวงเพื่อจัดการกับเรา…”นั่นเป็นประเด็นที่ยุ่งยากสำหรับเรื่องนี้!แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา แต่ไป๋เจิ้นถังยังคงมั่นใจ!ถ้าจะยึดดินแดนสามแคว้นไว้ก็ยังทำได้!เพราะพวกเขามีป้อมปราการเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่คอยปกป้องจากข้าศึก!ยิ่งไปกว่านั้นคือตระกูลไป๋ยังมีทหารมากถึงหนึ่งแสนสองหมื่นนาย หากข้าศึกพยายามจะบุกยึดก็ยังสามารถสู้ได้!“ท่านพ่อ ถ้าเราทำต
แต่รอยยิ้มของไป๋เจิ้นถังกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง“ลูกเอ๋ย ความคิดของเจ้ายังเรียบง่ายเกินไป!”“เรียบง่ายยิ่งนัก... เจ้าคิดถึงเพียงแค่ปัจจุบันเท่านั้น!”ไป๋ชิงชางสับสน ไม่ค่อยเข้าใจว่าพ่อของเขาจะสื่ออะไรกันแน่ไป๋เจิ้นถังมองลูกชายแล้วก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่เห็นคุณค่าของมิตรภาพ แน่นอนว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในฐานะเพื่อน!แต่หากเขาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้!ก็ยังคงขาดประสบการณ์อยู่!ดังนั้น...วันนี้เขาจึงต้องการอธิบายเรื่องนี้ให้ลูกชายฟัง!“ลูกเอ๋ย สิ่งที่พ่อจะพูดต่อไปนี้ เจ้าต้องจดจำมันไปชั่วชีวิต!”ไป๋เจิ้นถังจ้องมองลูกชายของตน หลังจากไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพยักหน้า“ท่านพ่อโปรดชี้แนะด้วยขอรับ”ไป๋เจิ้นถังกล่าวว่า “สิ่งแรกที่พ่อต้องการพูดถึงคือตัวเจ้าเอง เจ้าเป็นไท่จื่อที่มีจริยธรรมทางการปกครองที่ดี หลายคนชื่นชมเจ้าว่าเจ้าเป็นคนชอบธรรม นี่คือข้อดีของเจ้า”“แต่ว่า... เจ้าขาดความโหดเหี้ยมแบบฮ่องเต้!”“ฮ่องเต้ต้องมีความโหดเหี้ยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ไร้เหตุผลเลย นี่คือเรื่องแรกที่พ่อต้องการจะพูด!”“แม้ว่าความภักดีจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตอนนี้เจ้
พูดตามความจริงคือเป็นเรื่องยากที่จะหาจุดบกพร่องของเขา!หากเขากลายมาเป็นคู่ต่อสู้...ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!“ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อ... แต่ว่า... เรากำลังร่วมมือกับเขาในตอนนี้... มันจะไม่ยุติธรรมเกินไปหรือเปล่าขอรับ...”ไป๋ชิงชางรีบพูดอย่างรวดเร็ว เขาก็กลัวหวังหยวนเช่นกัน แต่เขาวางแผนร่วมกับหวังหยวนมานานแล้ว และจู่ ๆ ก็จะหักหลัง เขาคงไม่กล้าสู้หน้าหวังหยวนจริง ๆ!ไป๋เจิ้นถังถอนหายใจแล้วพูดว่า “พ่อบอกเจ้าไว้เลยว่าความซื่อสัตย์สำหรับฮ่องเต้นั้นอันตรายเพียงใด”“ลูกเอ๋ย พ่อจะบอกเจ้าว่าพ่อระแวงหวังหยวนมาโดยตลอด พ่อยังอยากให้น้องสาวของเจ้าแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา แต่เจ้าก็เห็นว่าหลังจากเวลาผ่านไปนาน เขาก็ยังไม่มีความคิดเช่นนั้น”“แม้ว่าน้องสาวของเจ้าจะแต่งงานกับเขา แต่เจ้าแน่ใจได้หรือไม่ว่าอำนาจของตระกูลไป๋ของเราจะคงอยู่ไปหลายชั่วอายุคน?”“ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นคนไกลหรอก เจ้าเองก็เห็นอาของเจ้าแล้ว นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาต้าเย่ที่เหมือนเรือที่มีใบเรือหักเอาไว้!”“หากอาของเจ้าไม่เข้ามาแทรกแซง เราอาจจะยึดครองแผ่นดินได้ไปตั้งนานแล้ว!”“เจ้าเองก็รู
หลังจากที่ไป๋เจิ้นถังพูดจบ ไป๋ชิงชางก็ส่ายหน้าเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร!พูดตามตรงคือเขาไม่อยากขัดแย้งกับหวังหยวนเลย!แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดต่อกับหวังหยวนมากนัก แต่เขาก็ชื่นชมหวังหยวนมากที่สุด!ไป๋ชิงชางชื่นชมทั้งบุคลิก ความกล้าหาญ ความรู้แม้กระทั่งความฉลาดปราดเปรื่อง และด้านอื่น ๆ ของหวังหยวน!ในสายตาของเขา หวังหยวนคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เป็นเพื่อนสนิทที่สามารถพูดคุยอะไรกันก็ได้!“ท่านพ่อ ข้า... ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำอย่างไรขอรับ”“อีกทั้ง... ตอนนี้เมืองหวงและตระกูลเซิ่งได้รุกคืบเข้ามาแล้ว เราควร... ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อนหรือไม่ขอรับ?”ไป๋ชิงชางรีบพูด แต่ในใจเขา เขายังคงไม่ต้องการจัดการกับหวังหยวนเมื่อไป๋เจิ้นถังได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจ เขารู้ว่าลูกชายของเขาเป็นคนจิตใจอ่อนโยน จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย“พ่อเข้าใจว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ในกรณีนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ พ่อจะจัดการอย่างเต็มที่เอง”ไป๋เจิ้นถังพูดตามตรง ไป๋ชิงชางฟังแล้วจึงถอนหายใจก่อนพูดว่า “ท่านพ่อ ไม่ว่าเราจะวางแผนอะไรอยู่ตอนนี้ แต่เราก็ควรปล่อยหวังหยวนไปใช่หรือไม่ขอรับ?”“เพราะตราบใดที่มีเขาอย
“ท่านพี่ ท่านพ่อคุยอะไรกับท่านบ้างเจ้าค่ะ?”ไป๋เฟยเฟยรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงแอบหลบมาที่นี่ เพราะอย่างไรเสีย สถานะและความสามารถของนางก็ไม่ได้ด้อยเลย!ถ้าอยากจะออกจากตำหนักของตัวเองแล้วมายังตำหนักของพี่ชายก็ย่อมทำได้!“เฮ้อ...”ไป๋ชิงชางถอนหายใจ ไม่รู้จะเอ่ยคำใดเลยจริง ๆ!หากเขาบอกความจริงกับน้องสาวไป นางคงจะกังวลอย่างแน่นอน และอาจถึงกับบอกหวังหยวนด้วย ซึ่งถ้าพ่อรู้เข้า นางอาจจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง!แม้กระทั่ง...บางทีอาจทำให้เขาและหวังหยวนต้องทะเลาะกันก็ได้!เพราะเขายังไม่ได้คุยกับหวังหยวนเลย!หากการเจรจาเป็นไปด้วยดีในวันพรุ่งนี้ บางทีหวังหยวนอาจจะยอมตกลงที่จะเป็นมหาองครักษ์แห่งอาณาจักรต้าเป่ย!ดังนั้นหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋ชิงชางจึงกล่าวว่า “ท่านพ่อต้องการเกลี้ยกล่อมหวังหยวนให้เป็นมหาองครักษ์ของอาณาจักรต้าเป่ยของเรา ซึ่งเป็นหนึ่งในสามขุนนางชั้นสูงสุด!”ทันทีที่ไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนั้นก็ตกใจนางเข้าใจถึงเจตนาดีในเรื่องนี้ แต่ก็เข้าใจถึงอันตรายที่แฝงอยู่ด้วย!ท่านพ่อเลือกเกลี้ยกล่อมหวังหยวนในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการปล่อยเขาไป!และจะไม่ปล่อยเขาไปง่
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่
“ท่านหวัง ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ มีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”“หรือว่าข้าเผลอทำสิ่งใดผิดพลาด จนทำให้ท่านไม่พอใจ?”ไท่สื่อลี่มองหวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น พลางเอ่ยถามตะกุกตะกักหวังหยวนมีภูมิหลังและอำนาจยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหวังหยวน เขาก็ทำได้เพียงถ่อมตนเหมือนเด็กน้อยเกรงว่าจะทำให้หวังหยวนไม่พอใจ สุดท้ายตนเองก็จะไม่ได้ประโยชน์ ผลลัพธ์ย่อมเป็นไปในทางที่ไม่ดี!หวังหยวนโบกมืออย่างใจเย็น เดินไปข้างกายไท่สื่อลี่ รินสุราให้เขา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไท่สื่อไม่ต้องกังวลหรอก”“ที่ข้าให้ท่านอยู่ต่อ เพราะมีเรื่องอยากปรึกษาหารือด้วย แต่จะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”“ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ ก็จะไม่กระทบความสัมพันธ์ของเรา”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ พลางกล่าวไท่สื่อลี่พยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านหวังมีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”ตอนนี้เขารู้สึกกังวลใจ ไม่สามารถคาดเดาความคิดของหวังหยวนได้ครู่ต่อมา หวังหยวนก็กล่าวตามตรง “แท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก ที่ข้ามาที่นี่ ไม่เพียงเพื่อช่วยราชวงศ์ต้าเย่เท่านั้น แต่เพื่อช่วยเหลือตัวเองด้ว
แม้แต่ในอากาศยังคงมีกลิ่นคาวเลือด!หวังหยวนเชื่อมั่นในความสามารถของเกาเล่อ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยเจอเจียงเซี่ยวมาก่อน คาดว่าเกาเล่อคงตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิดตัว เขาจึงไม่ได้สนใจดูอีก!หวังหยวนกวาดสายตามองกลุ่มคนตรงหน้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขณะโบกมือให้ทุกคน แล้วชี้ไปที่ที่นั่งสองข้าง “ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ ข้าไม่ใช่เสือดุร้ายกินคน ไม่ต้องเกรงใจกันเกินไป นั่งลงได้เลย!”“ขอบพระคุณท่านหวัง!”ทุกคนกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงหวังหยวนนั่งบนบัลลังก์ ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าสงสัยว่าพวกท่านต่อต้านราชวงศ์ต้าเย่มาตลอด ถึงขั้นจะเอาชีวิตกัน แต่พอได้ยินว่าข้ามาก็ยอมแพ้เลยหรือ?”“หรือว่าชื่อเสียงของข้าเลื่องลือมาก เมื่อรู้ว่าต้องสู้กับข้าจึงยอมสยบเลยงั้นหรือ?”หวังหยวนรู้สึกค่อนข้างภูมิใจหากเรื่องนี้เล่าลือออกไปคงเป็นเรื่องเล่าขานกันเป็นตำนาน!ทุกคนมองหน้ากัน คนที่อยู่ใกล้หวังหยวนที่สุดกล่าว “ใช่แล้ว!”“พวกข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับท่านหวัง ยิ่งกว่านั้น พวกข้ารู้ดีว่าพวกข้ากับท่านหวังต่างชั้นกัน หากเปิดศึก แม้จะใช้ภูเขาเป็นกำแพง ป้องกันทุกวิถีทาง แต่คงไม่สามารถต้านทานได้นาน!”“ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมคาดเดาได
“เมื่อครู่มีกลุ่มคนมา ข้าเข้าไปสอบถามจึงรู้ว่าเป็นหัวหน้าเผ่าใหญ่!”“ตอนนี้พวกเขาได้ฆ่าเจียงเซี่ยวผู้นำพันธมิตรแล้ว และต้องการเจรจาสงบศึกกับพวกเรา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ?”เกาเล่อกล่าวด้วยรอยยิ้มศัตรูแตกคอกันเอง ช่างเป็นเรื่องดี!ไม่เพียงแต่ลดการสูญเสียเท่านั้น แต่ยังไม่ทำให้เกิดความแค้นกับชนเผ่าเหล่านี้ด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการควบคุมดินแดนในอนาคต!ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย เขารีบเดินไปหาเกาเล่อ แล้วจับมือเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น “เจ้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือ? จะมีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?”“ไม่มีแน่นอน!”เกาเล่อรีบส่ายหน้า “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ในกลุ่มพันธมิตรนี้ ย่อมรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีขอรับ!”“ครั้งนี้พวกเขานำหัวของเจียงเซี่ยวมาให้ และเจียงเซี่ยวก็เป็นผู้นำพันธมิตรจริง ๆ!”“หากท่านไม่เชื่อ คุณหนูไป๋คงยืนยันได้ พวกนางสู้รบกับชนเผ่าทางเหนือมาตลอด คงคุ้นเคยกับศัตรูดีใช่หรือไม่?”ขณะที่กล่าว เกาเล่อก็มองไปที่ไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีไม่ลังเล รีบพยักหน้าทันที“ถูกต้อง!”“ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือเจียงเซี่ยว เขาไม
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน