เมื่อเกาเล่อได้ฟังเช่นนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่กล่าวว่า “พวกเราออกเดินทางกันก่อนเถิด บอกสถานที่ให้น้องสะใภ้ทราบ แล้วออกไปรอนางนอกเมืองหลวง”การกระทำเช่นนี้ทำให้เฉินอวิ๋นจื้อสับสนมากยิ่งขึ้น“เจ้าอย่ากังวลมากเกินไปเลย พวกเราต้องระมัดระวังทุกย่างก้าวในอาณาจักรต้าอัน ดังนั้นหากออกจากเมืองก่อน ตระกูลเซิ่งจะรับมือได้ยาก และเจ้าก็มีความสำคัญมาก หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นก็จบแล้ว!”ด้วยเหตุนี้เกาเล่อจึงพาเฉินอวิ๋นจื้อออกจากเมืองทันทีแต่เมื่อเขาจากไปก็ได้ทิ้งจดหมายบอกตำแหน่งนัดหมายให้หงหยิ่งไว้ฉบับหนึ่งแต่เกาเล่อจะไม่รอนางในตำแหน่งนั้นอย่างแน่นอน!ในไม่ช้าหงหยิ่งก็มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง!แต่นางค่อนข้างระมัดระวังมาก จึงไม่ละเลยเรื่องซ่อนเร้นตัวตน!ในไม่ช้านางก็มาถึงเมืองหลวง และมาถึงห้องตำราของเซิ่งตงฉยงเมื่อเซิ่งตงฉยงเห็นหงหยิ่งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะถาม“เหตุใดเจ้าจึงกลับมา?”ทันทีที่เขาเห็นหงหยิ่งก็รู้สึกได้ถึงความวิตกกังวลบนใบหน้าของนาง“นายน้อยเจ้าคะ จู่ ๆ ผู้นำองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของหวังหยวนก็มาพบเฉินอวิ๋นจื้อ แล้วขอให้เขาไปที่เมืองหวง ส่วนที่นี่จะมีคนอ
เซิ่งตงฉยงรู้ว่าบางทีนี่อาจเป็นโอกาส!แต่เขาก็รู้เช่นกัน!ว่านี่ก็เป็นการเดิมพันด้วย!เพราะว่า...สิ่งที่เขาต้องปล่อยไปคือนักรบแข็งแกร่งข้างกายเขา หากหงหยิ่งถูกยุยงให้กบฏ ก็จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเขา!หงหยิ่งเองก็รู้จักตระกูลเซิ่งดีเช่นกัน! นางรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเซิ่งมากมาย ถ้าหวังหยวนดึงนางไปได้ก็จะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาเลย!ดังนั้นเขาจึงมองหน้าหงหยิ่ง“หงหยิ่ง ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้ามาก แม้ว่าเจ้าจะไม่อยากไปเมืองหวง และข้าไม่อยากให้เจ้าไป แต่นี่เป็นโอกาสเดียวที่เจ้าจะได้ใกล้ชิดกับหวังหยวน!”“ดังนั้น...ข้าทำได้เพียงถามเจ้าให้แน่ใจ ว่าเจ้าจะไม่ทรยศต่อความไว้วางใจที่ข้ามีต่อเจ้าได้หรือไม่?”หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดเช่นนี้แล้ว หงหยิ่งก็พยักหน้าทันที และคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ“นายน้อยไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเจ้าค่ะ!”“ข้าจะต้องได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาอย่างแน่นอน!”หงหยิ่งพูดตามตรง หลังจากเซิ่งตงฉยงได้ฟังแล้วจึงยกยิ้มพยักหน้า“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ไป”หงหยิ่งได้ฟังแล้วจึงเดินออกจากประตูไปเช่นกันจากนั้นก็ออกมาจากเมืองหลวงเงียบ ๆ แล้วค่อยเดินไปยัง
“พี่หยวน จะเป็นอย่างไรหากสตรีผู้นี้เป็นคนเลวจริงๆ? ดังนั้น ข้าคิดว่าเราควรเตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด”เกาเล่อยังคงกังวลแม้ว่าจะมีสัญญาณต่างๆ มากมายบ่งบอกว่านางไม่ใช่คนเลวร้ายแต่ตัวตนของนางมีความลึกลับมาก แม้แต่เขาก็ยังไม่พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลย!แน่นอนว่าเขาจึงเต็มไปด้วยความกังวล!“ใช่ ในฐานะผู้นำองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ เจ้ามีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นเจ้าต้องวางแผนรับมือสำหรับกรณีที่แย่ที่สุด!”“เพราะเมื่อพวกเจ้าถูกเปิดเผยก็เหมือนตาบอดสนิท และหากหลายสิ่งหลายอย่างถูกเปิดเผย พวกเจ้าก็จะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน!”“พวกเจ้าอาศัยอยู่ในความมืดและสิ่งที่กำลังเผชิญก็ย่อมมาจากพลังมืดเช่นกัน สิ่งที่องค์กรเครือข่ายผีเสื้อทำนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเป็นความลับมากที่สุด... ซึ่งแน่นอนว่ามันอันตรายและยากกว่าการต่อสู้มาก!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็ยิ้มจาง“พี่หยวน ท่านไม่ได้วางแผนเตรียมรับมือเรื่องเลวร้ายที่สุดหรอกหรือ?”“ถ้าสตรีผู้นี้มีจุดประสงค์แอบแฝงจริง ๆ การบอกนางเรื่ององค์กรเครือข่ายผีเสื้อในเมืองหวงก็คงไม่เป็นอะไร”“ยิ่งกว่านั้น คือแม้ว่าจะไม่มีองค์กร
องค์กรเครือข่ายผีเสื้อของหวังหยวนนั้นไม่มีใครเทียบได้เลยแม้แต่น้อย ด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะมีคนใช้กลอุบายบ่อนทำลาย แต่ก็ทำได้เพียงจินตนาการว่าจะสามารถทำลายได้ในคราวเดียว!เฉินอวิ๋นจื้อพาหงหยิ่งไปที่เมืองหวง เซิ่งตงฉยงก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน แต่เขาต้องการเดิมพันครั้งใหญ่กว่า ครั้งนี้จึงตัดสินใจเช่นนี้!สถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างมีเสถียรภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรต้าเป่ย อาณาจักรต้าอัน หรือต้าเย่!นั่นเป็นเรื่องจริง!แม้แต่เมืองหวงและหมานอี๋ก็ยังเงียบสงบ!แต่ทุกคนรู้ดีว่าไม่ใช่เพราะจะไม่เกิดศึกสงคราม!แต่เป็นเพราะกำลังเตรียมพร้อมสำหรับศึกสงครามครั้งใหม่ต่างหาก!สงครามครั้งหน้าจะต้องเข้มข้นกว่านี้แน่นอน!ขณะนี้สองเดือนผ่านไปในชั่วพริบตาเดียว ท้องของหลี่ซื่อหานก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และแม้กระทั่งวันคลอดก็ใกล้จะถึงเต็มทีแล้วทั่วทั้งหมู่บ้านต้าหวังก็มีความตึงเครียดสูงเช่นกัน!ในขณะนี้ต้าหู่เรียกคนมากมายมาปิดล้อมและลาดตระเวนด้านนอกของหมู่บ้านต้าหวัง ทุกคนที่มาที่หมู่บ้านต้าหวังจะถูกค้นพบทันที!หลี่ซื่อหานเป็นภรรยาคนแรกของหวังหยวน และนางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อหมู่บ้านต้าหวังของพวกเขา!ในเวลานี้จ
“ดูเหมือนว่าเราต้องสอนบทเรียนให้ตระกูลเซิ่งเสียแล้ว! ไม่เช่นนั้นเขาจะคิดว่าข้า หวังหยวน เป็นคนที่สามารถรังแกได้ง่าย!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบต้าหู่ก็พยักหน้าทันใดนั้นเสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าก็ดังมาจากในบ้าน มีข่าวดีเกิดขึ้นแล้ว!ในที่สุดหวังหยวนก็รู้สึกโล่งใจ“บอกเกาเล่อว่าข้าโกรธมาก ในเมื่อพวกเขาต้องการฆ่าลูกชายของข้า เช่นนั้นมาระเบิดเมืองหลวงกันเลยดีกว่า”หวังหยวนบอกกับต้าหู่เช่นนั้น แล้วจึงเข้าไปในห้องต้าหู่ยอมรับคำสั่งทันที จากนั้นส่งจดหมายให้เกาเล่อด้วยนกพิราบสื่อสารทันทีในขณะนี้เกาเล่อพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา หลังจากได้รับจดหมายจากนกพิราบสื่อสาร“บังอาจโจมตีหมู่บ้านต้าหวังของเราในเวลานี้! รนหาที่ตาย!”พูดจบเขาก็เขียนจดหมายส่งไปกับนกพิราบสื่อสาร หลังจากนั้นคนมากมายในเมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าอันก็ได้รับคำสั่ง!พวกเขาต่างลักลอบหยิบระเบิดออกมา แล้วเดินออกจากบ้านไปท่ามกลางความมืดมิดขณะเดียวกัน เซิ่งตงฉยงกำลังนั่งรอฟังข่าวอยู่ในห้องตำราหวังว่าจะมีข่าวดี!ภรรยาของหวังหยวนคลอดลูกถือว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่ แต่เขาไม่รู้ว่าคนที่หมู่บ้านต้าหวังยิ่งมีความรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิมในสถาน
เซิ่งตงฉยงไม่เคยคาดคิดเลยว่าหวังหยวนจะโหดร้ายถึงเพียงนี้!พวกเขาเพิ่งใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายเพื่อสอนบทเรียนให้กับหวังหยวน แต่แล้วหวังหยวนกลับส่งคนมาระเบิดเมืองหลวงของเขา!เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหิมเกริมเสียจริง!ตอนนี้หวังหยวนเลือกใช้วิธีการเช่นนี้ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกจริง ๆ!ยิ่งไปกว่านั้น คือวิธีการที่เขาใช้นั้นมีจุดประสงค์เพื่อกำจัดผู้ส่งสารของหวังหยวนที่นี่ แต่จนถึงตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวเท่านั้น แต่เขายังต้องยอมให้หงหยิ่งติดตามเฉินอวิ๋นจื้อไปที่เมืองหวงด้วย!พูดตามตรง เซิ่งตงฉยงไม่รู้จะเริ่มต้นจัดการกับหวังหยวนอย่างไรจริง ๆ!รู้สึกเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้ ไม่สามารถแม้แต่จะพยายามวางแผนเอาชนะได้ด้วยซ้ำ!เขาเป็นดั่งเขื่อนเหล็กกั้นน้ำ!ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่อาจฝ่าไปได้!พูดตามตรงคือเรื่องเช่นนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกอย่างมาก!“ดูเหมือนว่าถ้าต้องการจัดการหวังหยวน คงต้องรอแก้แค้นทีหลัง!”“การฆ่าเขาด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเซิ่งในตอนนี้ยังยากเกินไปสักหน่อย!”เซิ่งตงฉยงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางแผนจะยอมแพ้เรื่องนี้เพราะสุดท้ายก็มีบางสิ่งที่ต้องยอมรับ!หลี่ซื่อหานให้ก
เซิ่งตงฉยงย่อมเข้าใจว่าพ่อของเขากำลังคิดเช่นไรและเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกันด้วย“ไม่เลว เจ้ามีความคิดอะไรบ้างหรือไม่?”หลังจากเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “การแก้ปัญหาเรื่องตระกูลไป๋ยังคงเป็นเรื่องยากด้วยวิธีการของเรา!”“ข้อได้เปรียบของเราคือเราไม่ต้องกังวล!”“แต่ตระกูลไป๋นั้นแตกต่างออกไป พวกเขาไม่เพียงแต่กังวลเรื่องตระกูลเซิ่งของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องเมืองหวงด้วย!”“เพราะฝ่ายเมืองหวงที่ต้องการบุกต้าเย่นั้นใจร้อนมานานแล้ว!”“และครั้งล่าสุดที่ตระกูลไป๋ขับไล่เมืองหวงออกจากต้าเย่ได้ ข้าเชื่อว่าเมืองหวงก็รู้สึกโกรธแค้นอยู่ในใจเช่นกัน!”เซิ่งฟางสี่ฟังแล้วก็พยักหน้า“ใช่ พ่อเองก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะรวมกับต้าเย่ แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีศัตรูถาวร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไป๋เหยียนเฟยกับตระกูลไป๋ก็ต้องแตกต่างออกไป”“พวกนางจะไม่ยอมเข้าร่วมกับพวกเราเพื่อกัดกินตระกูลไป๋ ดังนั้นในกรณีนี้เมืองหวงเป็นทางออกที่ดีจริง ๆ!”“ก็แค่... หากเจ้าต้องการทำเช่นนี้ เจ้าต้องเริ่มต้นให้ดี!”เซิ่งตงฉยงฟังแล้วจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ท่านพ่
อ๋องเจิ้นตงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตระกูลเซิ่งนี้เต็มไปด้วยเล่ห์กลและโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง จึงเกรงว่าร่วมมือกับพวกเขาจะไม่ง่ายสำหรับเราพ่ะย่ะค่ะ”เชื่อว่าพวกเขาทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าตระกูลตระกูลเซิ่งมีวิสัยเช่นนี้นับตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเซิ่งเซิ่งฟางสี่มีความคิดมากมายในใจ มีเล่ห์กลทุกประเภทและเป็นความคิดที่น่ากลัวอย่างยิ่งแต่สำหรับอ๋องถูหนานกลับนึกเย้ยหยัน“แม้ว่าตระกูลเซิ่งจะไม่ธรรมดา แต่นี่ก็เป็นโอกาสสำหรับเราเช่นกัน หากเรากำจัดตระกูลไป๋ออกไปแล้วบุกเข้าไปในสามแคว้นได้ ก็สามารถใช้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นได้”“แม้ว่าจะหันมาแว้งกัดเราก็ไม่กลัวพวกเขา”“เพราะเมื่อพูดถึงการต่อสู้ ตระกูลเซิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา”ความคิดของอ๋องถูหนานนั้นเรียบง่ายมาก ไม่ว่าตระกูลเซิ่งจะต้องการทำอะไรก็เพียงแค่ตอบตกลงไปก่อนไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดแล้วจะสามารถทำอะไรได้?เพราะการศึกครั้งสุดท้ายขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของกองทหาร!ความแข็งแกร่งทางทหารของพวกเขาในเมืองหวงนั้น ตระกูลเซิ่งไม่สามารถเทียบได้!หลังจากเซียวฉู่ฉู่ได้ฟังแล้วจึงพยักห
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น