แชร์

บทที่ 1146

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
อ๋องเจิ้นตงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตระกูลเซิ่งนี้เต็มไปด้วยเล่ห์กลและโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง จึงเกรงว่าร่วมมือกับพวกเขาจะไม่ง่ายสำหรับเราพ่ะย่ะค่ะ”

เชื่อว่าพวกเขาทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าตระกูลตระกูลเซิ่งมีวิสัยเช่นนี้

นับตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเซิ่ง

เซิ่งฟางสี่มีความคิดมากมายในใจ มีเล่ห์กลทุกประเภทและเป็นความคิดที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

แต่สำหรับอ๋องถูหนานกลับนึกเย้ยหยัน

“แม้ว่าตระกูลเซิ่งจะไม่ธรรมดา แต่นี่ก็เป็นโอกาสสำหรับเราเช่นกัน หากเรากำจัดตระกูลไป๋ออกไปแล้วบุกเข้าไปในสามแคว้นได้ ก็สามารถใช้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นได้”

“แม้ว่าจะหันมาแว้งกัดเราก็ไม่กลัวพวกเขา”

“เพราะเมื่อพูดถึงการต่อสู้ ตระกูลเซิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา”

ความคิดของอ๋องถูหนานนั้นเรียบง่ายมาก ไม่ว่าตระกูลเซิ่งจะต้องการทำอะไรก็เพียงแค่ตอบตกลงไปก่อน

ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดแล้วจะสามารถทำอะไรได้?

เพราะการศึกครั้งสุดท้ายขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของกองทหาร!

ความแข็งแกร่งทางทหารของพวกเขาในเมืองหวงนั้น ตระกูลเซิ่งไม่สามารถเทียบได้!

หลังจากเซียวฉู่ฉู่ได้ฟังแล้วจึงพยักห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1147

    ขณะนี้เซิ่งตงฉยงที่อยู่ในโรงเตี๊ยมกำลังถือจดหมายและยกยิ้มอ่อน“เมืองหวงเรียกข้าเข้าไปในวังหลวงเพื่อเจรจาลับตามที่คาดไว้”หลังจากที่เขาพูดจบ ผู้ติดตามของเขาก็เป็นกังวลมากจึงพูดว่า “นายน้อย เมืองหวงจะคิดร้ายกับท่านหรือไม่ขอรับ?”เซิ่งตงฉยงโบกมือแล้วพูดอย่างใจเย็น “การสังหารข้าจะไม่ส่งผลดีต่อเมืองหวงของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นคือหากพวกเขาต้องการเปิดประตูสู่ต้าเย่ พวกเขาต้องจัดการกับตระกูลไป๋ก่อน ซึ่งการฆ่าข้าก็เท่ากับการสร้างศัตรู เป็นกำไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย”“หากพวกเขาไม่ต้องการร่วมมือกับเราก็สามารถเมินเฉยต่อข้าได้ แต่พวกเขาเรียกข้าไปเพื่อเจรจาเรื่องความร่วมมือ!”เซิ่งตงฉยงไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเลย อย่างที่เขาพูดว่าตนไม่ได้เสี่ยงอันตราย!“เอาล่ะ พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปที่นั่นคนเดียว”เมื่อเซิ่งตงฉยงออกมาจากโรงเตี๊ยมก็มีการเตรียมรถม้ามารอรับด้านนอกแล้วนี่คือวิธีการของอ๋องหลงซี ในเมืองหวงแห่งนี้มีเขาเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้ในไม่ช้าเซิ่งตงฉยงก็เข้าไปในวังหลวงของเมืองหวงเซียวฉู่ฉู่แอบมาพบกับเซิ่งตงฉยง นอกจากนางแล้วยังมีอ๋องอีกสามองค์มาร่วมประชุมด้วย“ถวายบังคมไทเฮ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1148

    หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบ เซียวฉู่ฉู่และคนอื่น ๆ ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง“อ้าว? ถ้าไม่แบ่งเช่นนี้จะแบ่งอย่างไรเล่า?”เซียวฉู่ฉู่ถามด้วยรอยยิ้มทันทีเมื่อเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นก็ตอบว่า “สองดินแดน! ตระกูลเซิ่งของเราต้องการสองดินแดน!”เซียวฉู่ฉู่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันแล้วหัวเราะ“หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่คิดว่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือ พวกข้ามีกองกำลังนับแสนที่พร้อมต่อสู้กับตระกูลไป๋ หากบรรลุข้อตกลงก็อาจร่วมมือกับตระกูลเซิ่งได้”เซียวฉู่ฉู่ไม่ใช่คนโง่เขลา นางพูดตามตรง และคำพูดที่นางพูดทำให้สีหน้าของเซิ่งตงฉยงเปลี่ยนไปทันที!“ไท่จื่อแห่งอาณาจักรต้าอัน พวกเรามีความจริงใจ แต่สิ่งที่เจ้าพูดดูเหมือนจะไม่จริงใจสักเท่าใด ใช่หรือไม่?”เซียวฉู่ฉู่พูดอีกครั้ง หลังจากเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางครุ่นคิดแล้วพูดตามตรง“แต่หวังหยวนนั้นรับมือได้ยากไม่ใช่หรือ?”เซียวฉู่ฉู่รีบโบกมือแล้วพูดว่า “หวังหยวนนั้น แม้ว่าเขาจะทรงพลังมาก แต่เขาก็มีกองกำลังไม่มากนัก สำหรับวิธีการของเขา พวกเราสามารถคิดหาวิธีโต้ตอบได้ แต่ระหว่างพวกข้ากับตระกูลไป๋นั้นเป็นคู่ต่อสู้กันอย่างแท้จริง เจ้าเองก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1149

    หลังจากที่เซิ่งตงฉยงกลับไปถึงที่พักของตนแล้วก็ถอนหายใจ เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะจัดการกับตระกูลไป๋ และปล่อยให้เมืองหวงจัดการกับหวังหยวน แต่ไม่คาดคิดเขาจะถูกเซียวฉู่ฉู่ขัดเสียก่อนแน่นอนว่าจุดที่สำคัญที่สุดก็คือการจัดการกับหวังหยวน เป็นเรื่องยากสำหรับเมืองหวงพวกเขาอยู่ห่างไกลจึงยืดมือไปไม่ถึง!ยิ่งไปกว่านั้นคือหวังหยวนยังอยู่ในต้าเป่ย หากมีปัญหากับตระกูลไป๋หวังหยวนก็คงจะไม่ยืนเฉย“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน... ทำให้ข้าปวดหัวเสียจริง!”เซิ่งตงฉยงถอนหายใจแล้วเดินไปรอบ ๆ กลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งแล้ว!ขณะนี้ต้องการโอกาสอย่างเร่งด่วน!โอกาสที่จะโจมตีหวังหยวนให้หนัก!โอกาสนี้สำคัญมาก ตราบใดที่มีอะไรเกิดขึ้นกับหวังหยวน แผนการของพวกเขาก็จะสามารถดำเนินไปได้อย่างง่ายดายแต่ว่า...จะแก้ปัญหาเรื่องหวังหยวนอย่างไร?นี่เป็นปัญหาหนัก!คนที่เขาสามารถพึ่งพาได้คือหงหยิ่งแต่หงหยิ่งยังไม่สามารถครอบงำเฉินอวิ๋นจื้อได้อย่างสมบูรณ์!ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาทางแก้ปัญหานี้ให้ได้!วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสืบหาองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของหวังหยวนในต้าอัน ตราบใดที่องค์กรเครือข่ายผีเสื้อของพวกเขาได้รับความเสียห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1150

    หวังหยวนย่อมไม่รู้เรื่องนี้ตระกูลไป๋เองก็ไม่รู้ว่าตระกูลเซิ่งกำลังเตรียมลงมือจัดการพวกเขาอยู่!เมื่อเทียบกับต้าเย่แล้ว ตระกูลไป๋ถือเป็นกองกำลังที่ต่อกรด้วยยากลำบากที่สุด!เพราะหากต้องการโจมตีตระกูลไป๋ คนแรกที่จะต้องโจมตีก็คือหวังหยวน!ตระกูลเซิ่งไม่เคยลังเลเลยในประเด็นนี้!แต่หวังหยวนนี้เปรียบเสมือนถังเหล็กที่ปิดสนิทจนเข็มยังไม่สามารถเข้าไปได้ และน้ำก็ไม่สามารถทะลุผ่านได้ จัดการได้ยากมาก!แม้ว่าเซิ่งตงฉยงจะมีคนเก่งอย่างหงหยิ่ง แต่เขาก็รู้ดีว่าเพียงเท่านี้นั้นไม่เพียงพอ!ดังนั้น...หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องใช้กลอุบายเพิ่มเติมกับหวังหยวน!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถรับประกันได้ว่าไร้ข้อผิดผลาด!แต่ยังไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในหมู่บ้านต้าหวังแห่งนี้ได้เลย!แต่เซิ่งตงฉยงก็ไม่มีทางเลือกอื่น!ตระกูลไป๋และหวังหยวนนั้นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และเชื่อใจซึ่งกันและกัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการหว่านความขัดแย้ง!ตราบใดที่มีความขัดแย้งระหว่างตระกูลไป๋และหวังหยวนก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น!จะดีกว่านี้ถ้าทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันเอง!เซิ่งตงฉยงมีสายตาเย็นชาขณ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1151

    เมื่อคิดว่าลูกชายของเขาจะค่อย ๆ เติบโตขึ้น หวังหยวนจึงคิดที่จะทำผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กด้วยเพื่อให้เด็กทุกคนในแผ่นดินนี้เติบโตได้แข็งแรงสมวัยในอนาคต!สิ่งแรกที่เขาคิดจะผลิตย่อมเป็นผ้าอ้อมเด็ก!สิ่งนี้เหมือนกับพวกโซฟี เพียงแต่เป็นผ้าอ้อมแบบกางเกงที่ขยายขนาดขึ้นเท่านั้น!อย่างที่สองคือสบู่เด็ก!ต้องสกัดมาจากพืชบริสุทธิ์ และจะต้องแปรรูปอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน!ด้วยเหตุนี้หวังหยวนจึงเริ่มลงมือทำ!เขาใช้เวลาทั้งวันอยู่ในโรงงานแห่งนี้!ในอีกด้านหนึ่ง เซิ่งตงฉยงกำลังคิดถึงวิธีหว่านความขัดแย้งระหว่างหวังหยวนและตระกูลไป๋หลังจากครุ่นคิดมานานเขาก็มีวิธีแล้ว!อย่างเดียวเกี่ยวกับหวังหยวนที่เขาสามารถเข้าไปยุ่งได้ในตอนนี้ คือเส้นทางการค้า!รวมไปถึงกลุ่มโจรที่หวังหยวนควบคุมที่เขาไม่สามารถควบคุมทุกคนอย่างทั่วถึงได้!เพราะเขามีคนจำนวนจำกัดในอาณาจักรต้าเป่ย!คนเหล่านี้ยังคงเป็นตัวหมากรุกที่ซุ่มซ่อนมานาน!“ดังนั้นเรามาเริ่มกันที่เส้นทางการค้ากันเถอะ!”เซิ่งตงฉยงเรียกคนสนิทของเขาสองคนมาทันที!“เจ้าสองคน ไปที่อาณาจักรต้าเป่ย รวบรวมกองกำลังของเรา แต่งตัวเป็นโจรแล้วปล้นพ่อค้าที่ผ่านไปมา จำไว้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1152

    บนถนนสายหลักของเมืองหยางมีกองคาราวานกลุ่มหนึ่งขับเกวียนบรรทุกผ้าไปข้างหน้าช้า ๆสีหน้าของคนที่เดินนำเต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะพูดกับผู้คนรอบกายอย่างร่าเริง “ฮ่าฮ่า ถนนสายหลักในเมืองหยางสายนี้เรียบร้อยดีจริง ๆ!”“ใช่ ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนถนนสายนี้วุ่นวายมาก มีโจรอยู่ทุกหนทุกแห่งที่อยากจะกระโดดออกมาขโมยของและปล้นทรัพย์ ตอนนี้เราทุกคนมาถึงจุดที่ทุกอย่างราบรื่นได้แล้ว!”“ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกโจรจะกลับใจแล้ว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะหยุดปล้นเท่านั้น แต่ยังช่วยพาเราไปส่งถึงที่หมายด้วย!”แต่ชายที่สวมผ้าไหมแพรมีสีหน้าไม่พอใจขณะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าไม่คิดว่ามันจะดีตรงไหนเลย แม้ว่าพวกเขาจะพาเราไปส่งก็จริง แต่เรายังต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้พวกเขา!”ชายที่สวมจี้หยกหัวเราะเบา ๆ ก่อนโบกมือแล้วพูดว่า “ฮ่าฮ่า เป็นเช่นนี้ก็ดีมากแล้ว เงินที่พวกเขาต้องการก็ไม่ได้มากมายนัก เราสูญเสียเงินเพียงเล็กน้อย แต่หลีกเลี่ยงหายนะได้ก็ถือเป็นบุญของเราแล้ว!”“หากเราไม่ให้เงินจำนวนนี้แก่พวกเขา แล้วหากพวกเขาโกรธและปล้นทรัพย์ของเราทั้งหมด ความสูญเสียของเราจะไม่หนักหนาไปกว่านี้หรอกหรือ?”เมื่อชายในชุดผ้าไหมแพรได้ยินดังนั้นก็อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1153

    เมื่อครู่นี้พวกเขาเพิ่งยกย่องว่าโจรบนถนนสายนี้ล้วนเป็นคนมีคุณภาพแล้ว จะไม่ปล้นสินค้าตามใจชอบ แต่จะปกป้องความปลอดภัยของพวกเขาด้วยแต่ตอนนี้โจรกลุ่มนี้กลับกระโดดออกมาตะโกนว่าจะปล้น นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่!ชายในชุดผ้าไหมแพรพยายามควบคุมสติอย่างหนัก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล แต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มขณะเจรจากับพวกโจรอย่างเต็มที่ “พี่ใหญ่ทุกคน ข้ารู้ว่าพวกท่านต้องการอะไร มาเลยท่านทั้งหลาย ข้าจะให้เกียรติพวกท่าน!”ชายสวมชุดผ้าไหมแพรหยิบถุงเงินออกมายื่นให้โจรทันใดนั้นใบหน้าของโจรก็กลายเป็นดุร้ายมาก เขาปัดถุงเงินออกจากมือของชายสวมชุดผ้าไหมแพร แล้วชี้หน้าด่าทอเสียงดัง “เจ้าคิดว่าข้าเป็นแค่ขอทานหรือ ข้าต้องการสินค้าของพวกเจ้า!”เมื่อชายในชุดผ้าไหมแพรได้ยินดังนั้นก็ตื่นตระหนกทันทีเขารีบอธิบายทันที “ท่านทั้งหลาย พวกข้า... พวกข้าทุกคนไม่ได้ขัดขืนไม่ใช่หรือ ข้าจะให้เงินท่าน ท่านก็ต้องไม่ปล้นพวกเรา และปล่อยพวกเราไป!”“เหลวไหล ใครบอกว่าเห็นด้วยกับพวกเจ้า รีบขนสินค้ามาวางให้ข้า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าหยาบคายกับพวกเจ้า!”หลังจากพูดจบ กลุ่มโจรก็เข้ามารุมล้อมแบ่งสินค้าในเกวียนกัน!หลา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1154

    ในไม่ช้าชายสวมจี้หยกและชายสวมชุดผ้าไหมแพรก็มาถึงหน้าศาลาว่าการ ด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นทั้งสองคนตีกลองร้องทุกข์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาพวกเขาเข้าไปในศาลาว่าการเพื่อรายงานต่อเจ้าหน้าที่“ท่านผู้พิพากษา โปรดให้ความเป็นธรรมด้วยขอรับ ข้าน้อยกำลังคุ้มกันสินค้าไปตามถนนสายหลัก ตอนแรกก็เดินทางราบรื่นดี แต่จู่ ๆ กลุ่มโจรที่สวมชุดดำก็กระโดดออกมา!”“หลังจากที่พวกเขาทุบตีพวกข้าน้อยแล้วก็ขโมยสินค้าไปจนหมด แล้วจากไปด้วยท่าทีหยิ่งผยองยิ่งนักขอรับ!”ชายสวมจี้หยกและชายสวมชุดผ้าไหมแพรทรุดตัวลงกับพื้นพลางร้องไห้ ขณะรายงานพฤติกรรมเลวร้ายของพวกโจรเมื่อผู้พิพากษาได้ฟังดังนั้นก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันทีสินค้าถูกโจรขโมยไปหรือ?นี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ พวกโจรตามท้องถนนหยุดทำเรื่องเช่นนี้มานานแล้ว พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับพวกเขาเลย!ผู้พิพากษาครุ่นคิดเรื่องนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ค่อย ๆ ถาม “พวกเจ้าสองคนมีรายละเอียดใดที่ยังไม่ได้อธิบายให้พวกข้าฟังหรือไม่?”“มีขอรับ!”ชายสวมจี้หยกรีบคำนับแล้วพูดอย่างกระตือรือร้น “หลังจากที่เรา

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2242

    หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2241

    “ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2240

    หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2239

    ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2237

    ในขณะที่หวังหยวนกับเกาเล่อกำลังพูดคุยกัน พลันได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น“เขาพูดถูก หากตกลงมาจากยอดเขานี้ ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกรก็จะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน!”“ถึงตอนนั้น สภาพย่อมดูไม่จืด!”หวังหยวนกับเกาเล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด รีบหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ทันสังเกตว่าในความมืดมิดนั้นยังมีผู้อื่นซ่อนอยู่ด้วย!“พวกท่านไม่ต้องเครียด! ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกท่าน!”ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด เขาแต่งกายด้วยชุดผ้าป่าน อายุใกล้เคียงกับหวังหยวน ใบหน้าใต้แสงจันทร์ ของเขาเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”“เหตุใดจึงมาที่นี่ในยามนี้?”ภูเขาทางเหนือตั้งอยู่ในที่ห่างไกล รอบด้านไม่มีบ้านเรือนผู้คน แม้แต่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้!ไม่เช่นนั้น หวังหยวนคงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาหลายชั่วยาม!แต่ในสถานที่เช่นนี้กลับมีคนแปลกหน้าปรากฏตัว จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร?ชายคนนั้นยิ้มพลางโบกมือเอ่ยว่า “ข้าก็เพียงแค่เดินทางผ่านมาที่นี่ เห็นพวกท่านทั้งสองกำลังเตรียมปีนหน้าผา จึงคิดจะดูความสนุกสักหน่อย”“แต่ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2236

    ในใจนางก็รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และที่พูดเช่นนี้กับไฉจวิ้นก็เพราะว่านางมองว่าไฉจวิ้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนางเองไม่ใช่หรือ?หากปฏิบัติต่อคนนอกย่อมไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้หยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง หลิ่วหรูเยียนอาจจะรู้สึกเหนื่อยจึงหลับไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น หลังจากที่หวังหยวนกินอาหารเสร็จก็ได้ออกไปอย่างเงียบเชียบหลายชั่วยามต่อมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืน หวังหยวนมายืนอยู่ตรงหน้าผาของภูเขาทางเหนือเมื่อมองออกไป อาจเป็นเพราะความมืดมิด จึงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหน้าผา ให้ความรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก!หวังหยวนกอดอกยืนอยู่ด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสง่างาม“พายุใหญ่คลื่นยักษ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเจอ?”“สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยประสบ?”“เพียงแค่หน้าผา คิดจะขวางทางข้าได้หรือ?”“ช่างน่าขันนัก!”ขณะที่พูด หวังหยวนก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่า ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวมาจากด้านหลังเขาหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ สายตาจับจ้องไปที่ผู้มาเยือน ผู้ที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเกาเล่อ!ท่ามกลางความมืดมิด ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังหวัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2235

    “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ...”เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวของหวังหยวน ไท่สื่อลี่ก็ไม่ได้กล่าวต่ออีก สุดท้ายก็จำต้องจากไปส่วนหวังหยวนนั่งลงศึกษาแผนที่อย่างละเอียดภายในห้องเมื่อไฉจวิ้นกลับมา หลิ่วหรูเยียนก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไฉจวิ้นอย่างรวดเร็ว พลิกดูห่อผ้าในมือเขาอย่างตื่นเต้น“ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก!”“ซื้อของดี ๆ มาฝากข้ามากมายเพียงนี้เลยหรือ?”“ต่อไปต้องมอบเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าจัดการแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนลูบศีรษะของไฉจวิ้น พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มไฉจวิ้นรู้สึกอึดอัด นี่นางเห็นเขาเป็นเด็กน้อยชัด ๆ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว อายุอานามก็ไม่น้อย กลับถูกปฏิบัติเหมือนเด็กงั้นหรือ?ช่างน่าเจ็บใจนัก!แต่พี่สะใภ้ผู้นี้ก็เป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกิน จึงทำได้เพียงอดทนหากเป็นผู้อื่นที่กล้าลูบศีรษะของเขา นี่ถือว่าเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ!“จริงสิ พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”“เมื่อครู่เขาออกไปกับไท่สื่อลี่ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่กลับมาอีก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนกินขนมพลางเอ่ยถามไฉจวิ้นชี้ไปที่นอกประตู แล้วตอบว่า “พี่ใหญ่อยู่ในลานบ้านขอรับ เมื่อครู่ตอนที่ข้าเข้ามา เขากำลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status