เซิ่งตงฉยงไม่เคยคาดคิดเลยว่าหวังหยวนจะโหดร้ายถึงเพียงนี้!พวกเขาเพิ่งใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายเพื่อสอนบทเรียนให้กับหวังหยวน แต่แล้วหวังหยวนกลับส่งคนมาระเบิดเมืองหลวงของเขา!เจ้าเด็กคนนี้ช่างเหิมเกริมเสียจริง!ตอนนี้หวังหยวนเลือกใช้วิธีการเช่นนี้ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกจริง ๆ!ยิ่งไปกว่านั้น คือวิธีการที่เขาใช้นั้นมีจุดประสงค์เพื่อกำจัดผู้ส่งสารของหวังหยวนที่นี่ แต่จนถึงตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวเท่านั้น แต่เขายังต้องยอมให้หงหยิ่งติดตามเฉินอวิ๋นจื้อไปที่เมืองหวงด้วย!พูดตามตรง เซิ่งตงฉยงไม่รู้จะเริ่มต้นจัดการกับหวังหยวนอย่างไรจริง ๆ!รู้สึกเหมือนจะไม่สามารถเอาชนะได้ ไม่สามารถแม้แต่จะพยายามวางแผนเอาชนะได้ด้วยซ้ำ!เขาเป็นดั่งเขื่อนเหล็กกั้นน้ำ!ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่อาจฝ่าไปได้!พูดตามตรงคือเรื่องเช่นนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกอย่างมาก!“ดูเหมือนว่าถ้าต้องการจัดการหวังหยวน คงต้องรอแก้แค้นทีหลัง!”“การฆ่าเขาด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลเซิ่งในตอนนี้ยังยากเกินไปสักหน่อย!”เซิ่งตงฉยงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้ววางแผนจะยอมแพ้เรื่องนี้เพราะสุดท้ายก็มีบางสิ่งที่ต้องยอมรับ!หลี่ซื่อหานให้ก
เซิ่งตงฉยงย่อมเข้าใจว่าพ่อของเขากำลังคิดเช่นไรและเขาเองก็มีความคิดแบบเดียวกันด้วย“ไม่เลว เจ้ามีความคิดอะไรบ้างหรือไม่?”หลังจากเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “การแก้ปัญหาเรื่องตระกูลไป๋ยังคงเป็นเรื่องยากด้วยวิธีการของเรา!”“ข้อได้เปรียบของเราคือเราไม่ต้องกังวล!”“แต่ตระกูลไป๋นั้นแตกต่างออกไป พวกเขาไม่เพียงแต่กังวลเรื่องตระกูลเซิ่งของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องเมืองหวงด้วย!”“เพราะฝ่ายเมืองหวงที่ต้องการบุกต้าเย่นั้นใจร้อนมานานแล้ว!”“และครั้งล่าสุดที่ตระกูลไป๋ขับไล่เมืองหวงออกจากต้าเย่ได้ ข้าเชื่อว่าเมืองหวงก็รู้สึกโกรธแค้นอยู่ในใจเช่นกัน!”เซิ่งฟางสี่ฟังแล้วก็พยักหน้า“ใช่ พ่อเองก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะรวมกับต้าเย่ แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีศัตรูถาวร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไป๋เหยียนเฟยกับตระกูลไป๋ก็ต้องแตกต่างออกไป”“พวกนางจะไม่ยอมเข้าร่วมกับพวกเราเพื่อกัดกินตระกูลไป๋ ดังนั้นในกรณีนี้เมืองหวงเป็นทางออกที่ดีจริง ๆ!”“ก็แค่... หากเจ้าต้องการทำเช่นนี้ เจ้าต้องเริ่มต้นให้ดี!”เซิ่งตงฉยงฟังแล้วจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ท่านพ่
อ๋องเจิ้นตงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตระกูลเซิ่งนี้เต็มไปด้วยเล่ห์กลและโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง จึงเกรงว่าร่วมมือกับพวกเขาจะไม่ง่ายสำหรับเราพ่ะย่ะค่ะ”เชื่อว่าพวกเขาทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าตระกูลตระกูลเซิ่งมีวิสัยเช่นนี้นับตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเซิ่งเซิ่งฟางสี่มีความคิดมากมายในใจ มีเล่ห์กลทุกประเภทและเป็นความคิดที่น่ากลัวอย่างยิ่งแต่สำหรับอ๋องถูหนานกลับนึกเย้ยหยัน“แม้ว่าตระกูลเซิ่งจะไม่ธรรมดา แต่นี่ก็เป็นโอกาสสำหรับเราเช่นกัน หากเรากำจัดตระกูลไป๋ออกไปแล้วบุกเข้าไปในสามแคว้นได้ ก็สามารถใช้เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นได้”“แม้ว่าจะหันมาแว้งกัดเราก็ไม่กลัวพวกเขา”“เพราะเมื่อพูดถึงการต่อสู้ ตระกูลเซิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเรา”ความคิดของอ๋องถูหนานนั้นเรียบง่ายมาก ไม่ว่าตระกูลเซิ่งจะต้องการทำอะไรก็เพียงแค่ตอบตกลงไปก่อนไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดแล้วจะสามารถทำอะไรได้?เพราะการศึกครั้งสุดท้ายขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของกองทหาร!ความแข็งแกร่งทางทหารของพวกเขาในเมืองหวงนั้น ตระกูลเซิ่งไม่สามารถเทียบได้!หลังจากเซียวฉู่ฉู่ได้ฟังแล้วจึงพยักห
ขณะนี้เซิ่งตงฉยงที่อยู่ในโรงเตี๊ยมกำลังถือจดหมายและยกยิ้มอ่อน“เมืองหวงเรียกข้าเข้าไปในวังหลวงเพื่อเจรจาลับตามที่คาดไว้”หลังจากที่เขาพูดจบ ผู้ติดตามของเขาก็เป็นกังวลมากจึงพูดว่า “นายน้อย เมืองหวงจะคิดร้ายกับท่านหรือไม่ขอรับ?”เซิ่งตงฉยงโบกมือแล้วพูดอย่างใจเย็น “การสังหารข้าจะไม่ส่งผลดีต่อเมืองหวงของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นคือหากพวกเขาต้องการเปิดประตูสู่ต้าเย่ พวกเขาต้องจัดการกับตระกูลไป๋ก่อน ซึ่งการฆ่าข้าก็เท่ากับการสร้างศัตรู เป็นกำไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย”“หากพวกเขาไม่ต้องการร่วมมือกับเราก็สามารถเมินเฉยต่อข้าได้ แต่พวกเขาเรียกข้าไปเพื่อเจรจาเรื่องความร่วมมือ!”เซิ่งตงฉยงไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเลย อย่างที่เขาพูดว่าตนไม่ได้เสี่ยงอันตราย!“เอาล่ะ พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปที่นั่นคนเดียว”เมื่อเซิ่งตงฉยงออกมาจากโรงเตี๊ยมก็มีการเตรียมรถม้ามารอรับด้านนอกแล้วนี่คือวิธีการของอ๋องหลงซี ในเมืองหวงแห่งนี้มีเขาเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้ในไม่ช้าเซิ่งตงฉยงก็เข้าไปในวังหลวงของเมืองหวงเซียวฉู่ฉู่แอบมาพบกับเซิ่งตงฉยง นอกจากนางแล้วยังมีอ๋องอีกสามองค์มาร่วมประชุมด้วย“ถวายบังคมไทเฮ
หลังจากที่เซิ่งตงฉยงพูดจบ เซียวฉู่ฉู่และคนอื่น ๆ ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง“อ้าว? ถ้าไม่แบ่งเช่นนี้จะแบ่งอย่างไรเล่า?”เซียวฉู่ฉู่ถามด้วยรอยยิ้มทันทีเมื่อเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นก็ตอบว่า “สองดินแดน! ตระกูลเซิ่งของเราต้องการสองดินแดน!”เซียวฉู่ฉู่และคนอื่น ๆ มองหน้ากันแล้วหัวเราะ“หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่คิดว่าจะมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือ พวกข้ามีกองกำลังนับแสนที่พร้อมต่อสู้กับตระกูลไป๋ หากบรรลุข้อตกลงก็อาจร่วมมือกับตระกูลเซิ่งได้”เซียวฉู่ฉู่ไม่ใช่คนโง่เขลา นางพูดตามตรง และคำพูดที่นางพูดทำให้สีหน้าของเซิ่งตงฉยงเปลี่ยนไปทันที!“ไท่จื่อแห่งอาณาจักรต้าอัน พวกเรามีความจริงใจ แต่สิ่งที่เจ้าพูดดูเหมือนจะไม่จริงใจสักเท่าใด ใช่หรือไม่?”เซียวฉู่ฉู่พูดอีกครั้ง หลังจากเซิ่งตงฉยงได้ฟังดังนั้นจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางครุ่นคิดแล้วพูดตามตรง“แต่หวังหยวนนั้นรับมือได้ยากไม่ใช่หรือ?”เซียวฉู่ฉู่รีบโบกมือแล้วพูดว่า “หวังหยวนนั้น แม้ว่าเขาจะทรงพลังมาก แต่เขาก็มีกองกำลังไม่มากนัก สำหรับวิธีการของเขา พวกเราสามารถคิดหาวิธีโต้ตอบได้ แต่ระหว่างพวกข้ากับตระกูลไป๋นั้นเป็นคู่ต่อสู้กันอย่างแท้จริง เจ้าเองก
หลังจากที่เซิ่งตงฉยงกลับไปถึงที่พักของตนแล้วก็ถอนหายใจ เดิมทีเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะจัดการกับตระกูลไป๋ และปล่อยให้เมืองหวงจัดการกับหวังหยวน แต่ไม่คาดคิดเขาจะถูกเซียวฉู่ฉู่ขัดเสียก่อนแน่นอนว่าจุดที่สำคัญที่สุดก็คือการจัดการกับหวังหยวน เป็นเรื่องยากสำหรับเมืองหวงพวกเขาอยู่ห่างไกลจึงยืดมือไปไม่ถึง!ยิ่งไปกว่านั้นคือหวังหยวนยังอยู่ในต้าเป่ย หากมีปัญหากับตระกูลไป๋หวังหยวนก็คงจะไม่ยืนเฉย“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน... ทำให้ข้าปวดหัวเสียจริง!”เซิ่งตงฉยงถอนหายใจแล้วเดินไปรอบ ๆ กลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งแล้ว!ขณะนี้ต้องการโอกาสอย่างเร่งด่วน!โอกาสที่จะโจมตีหวังหยวนให้หนัก!โอกาสนี้สำคัญมาก ตราบใดที่มีอะไรเกิดขึ้นกับหวังหยวน แผนการของพวกเขาก็จะสามารถดำเนินไปได้อย่างง่ายดายแต่ว่า...จะแก้ปัญหาเรื่องหวังหยวนอย่างไร?นี่เป็นปัญหาหนัก!คนที่เขาสามารถพึ่งพาได้คือหงหยิ่งแต่หงหยิ่งยังไม่สามารถครอบงำเฉินอวิ๋นจื้อได้อย่างสมบูรณ์!ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาทางแก้ปัญหานี้ให้ได้!วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสืบหาองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของหวังหยวนในต้าอัน ตราบใดที่องค์กรเครือข่ายผีเสื้อของพวกเขาได้รับความเสียห
หวังหยวนย่อมไม่รู้เรื่องนี้ตระกูลไป๋เองก็ไม่รู้ว่าตระกูลเซิ่งกำลังเตรียมลงมือจัดการพวกเขาอยู่!เมื่อเทียบกับต้าเย่แล้ว ตระกูลไป๋ถือเป็นกองกำลังที่ต่อกรด้วยยากลำบากที่สุด!เพราะหากต้องการโจมตีตระกูลไป๋ คนแรกที่จะต้องโจมตีก็คือหวังหยวน!ตระกูลเซิ่งไม่เคยลังเลเลยในประเด็นนี้!แต่หวังหยวนนี้เปรียบเสมือนถังเหล็กที่ปิดสนิทจนเข็มยังไม่สามารถเข้าไปได้ และน้ำก็ไม่สามารถทะลุผ่านได้ จัดการได้ยากมาก!แม้ว่าเซิ่งตงฉยงจะมีคนเก่งอย่างหงหยิ่ง แต่เขาก็รู้ดีว่าเพียงเท่านี้นั้นไม่เพียงพอ!ดังนั้น...หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องใช้กลอุบายเพิ่มเติมกับหวังหยวน!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถรับประกันได้ว่าไร้ข้อผิดผลาด!แต่ยังไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในหมู่บ้านต้าหวังแห่งนี้ได้เลย!แต่เซิ่งตงฉยงก็ไม่มีทางเลือกอื่น!ตระกูลไป๋และหวังหยวนนั้นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และเชื่อใจซึ่งกันและกัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการหว่านความขัดแย้ง!ตราบใดที่มีความขัดแย้งระหว่างตระกูลไป๋และหวังหยวนก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น!จะดีกว่านี้ถ้าทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันเอง!เซิ่งตงฉยงมีสายตาเย็นชาขณ
เมื่อคิดว่าลูกชายของเขาจะค่อย ๆ เติบโตขึ้น หวังหยวนจึงคิดที่จะทำผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กด้วยเพื่อให้เด็กทุกคนในแผ่นดินนี้เติบโตได้แข็งแรงสมวัยในอนาคต!สิ่งแรกที่เขาคิดจะผลิตย่อมเป็นผ้าอ้อมเด็ก!สิ่งนี้เหมือนกับพวกโซฟี เพียงแต่เป็นผ้าอ้อมแบบกางเกงที่ขยายขนาดขึ้นเท่านั้น!อย่างที่สองคือสบู่เด็ก!ต้องสกัดมาจากพืชบริสุทธิ์ และจะต้องแปรรูปอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน!ด้วยเหตุนี้หวังหยวนจึงเริ่มลงมือทำ!เขาใช้เวลาทั้งวันอยู่ในโรงงานแห่งนี้!ในอีกด้านหนึ่ง เซิ่งตงฉยงกำลังคิดถึงวิธีหว่านความขัดแย้งระหว่างหวังหยวนและตระกูลไป๋หลังจากครุ่นคิดมานานเขาก็มีวิธีแล้ว!อย่างเดียวเกี่ยวกับหวังหยวนที่เขาสามารถเข้าไปยุ่งได้ในตอนนี้ คือเส้นทางการค้า!รวมไปถึงกลุ่มโจรที่หวังหยวนควบคุมที่เขาไม่สามารถควบคุมทุกคนอย่างทั่วถึงได้!เพราะเขามีคนจำนวนจำกัดในอาณาจักรต้าเป่ย!คนเหล่านี้ยังคงเป็นตัวหมากรุกที่ซุ่มซ่อนมานาน!“ดังนั้นเรามาเริ่มกันที่เส้นทางการค้ากันเถอะ!”เซิ่งตงฉยงเรียกคนสนิทของเขาสองคนมาทันที!“เจ้าสองคน ไปที่อาณาจักรต้าเป่ย รวบรวมกองกำลังของเรา แต่งตัวเป็นโจรแล้วปล้นพ่อค้าที่ผ่านไปมา จำไว้
นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต
หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่
“ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า
แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้
“ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”
“ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล
ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด
“ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก
เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น