อากู่ต๋าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าจะมีสายลับเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงท่าทีหุนหันพลันแล่น เพราะเมื่อไปค้นหาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมไว้แล้วอย่างแน่นอน!สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของสายลับนี้คือทำให้สามารถตรวจสอบทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ได้พวกเขาอยากจะลงมือโจมตี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารพร้อมกันหมด!ตราบใดที่หนึ่งในนั้นส่งสัญญาณเตือน พวกเขาจะล้มเหลว!“ให้ตายเถอะ! หวังหยวน เจ้าไม่ได้มาด้วยแต่ก็ยังคงยอดเยี่ยมจริง ๆ!”อากู่ต๋าพูดตามตรง ความโกรธเกรี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา!ในขณะนี้ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ยากที่จะพิชิตได้ในทันที!นักสืบมารายงานตัวว่าค้นพบกองกำลังของตระกูลไป๋แล้วทั้งเซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงจึงเครียดมาก!ไม่จำเป็นต้องบอกว่าความพากเพียรของอู๋หลิงนั้นไม่ลดลงเลย สิ่งสำคัญคือยังมีกองกำลังจำนวนมากของตระกูลไป๋กำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่ ซึ่งมันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขาเลย!“ลูกเอ๋ย วันนี้... เราควรจะแข็งแกร่งพอที่จะยึดเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!”เซิ่งฟางสี่ถอนหายใจ ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะได้ตอนนี้เลยก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่
หวังหยวนรู้ดีว่าตอนจบเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขได้!ไม่มีอะไรที่ใครทำได้เลย!แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนย่อมสรุปได้ว่าทั้งสามเสาหลักจะต้องแยกออกจากกัน!เพราะเมื่อเสือทั้งสามตัวต่อสู้กันย่อมไม่กล้าไปไกลเกินไป ต้าเย่ที่เหลืออยู่แม้ว่าจะไม่ใช่เสือที่ดุร้ายนัก แต่หากอยู่ในช่วงพลบค่ำก็ยังไม่อาจประมาทได้!ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน แผ่นดินต้าเย่กลับมามีเสถียรภาพแล้ว!หวังหยวนรู้สึกได้ว่าการปกครองเช่นนี้จะมั่นคงเป็นเวลาอย่างน้อยสามหรือห้าปี!“ตอนนี้เราอยู่ใน... ดินแดนของตระกูลไป๋แล้ว...”หวังหยวนยกยิ้มแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะนี่คือสิ่งที่เขาหวังมากที่สุดถ้าเมืองหลิงถูกแยกจากตระกูลเซิ่งก็เกรงว่าตระกูลเซิ่งจะเข้าไปรุกรานเป็นครั้งคราว“ใช่แล้ว ตอนนี้แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนอย่างสมบูรณ์แล้ว พี่หยวน เราควรทำอย่างไรดี?”ในเวลานี้เกาเล่อถามขึ้นมา“แน่นอนว่าต้องสะสมกำลังไว้ ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไร? เริ่มทำสงครามกับพวกเขาหรือ? เหนื่อยเกินไปหรือไม่”หวังหยวนโบกมือ ไม่มีอะไรที่เขาอยากทำในสถานการณ์นี้สามอาณาจักรนั้นมีเสถียรภาพที่สุดมาโดยตลอด สองฝ่ายถูกยึดเข้ามากันเหมือนแผ่นเหล็ก ไม่มีใครสามาร
ข่าวนี้แพร่ไปยังเมืองหวงด้วยเซียวฉู่ฉู่มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อทราบข่าว!“เป็นเรื่องคาดไม่ถึงจริง ๆ ที่ต้าเย่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน สามารถบอกได้ว่าอาณาจักรเมืองหวงของเราเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก…”เซียวฉู่ฉู่ถอนหายใจ แต่นี่เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น หากหารือกันอย่างงจริงจัง อาณาจักรนี้ก็เกือบจะเหมือนกับหนึ่งในสามอาณาจักรนั้น!เพราะดินแดนทั้งเก้านั้นอุดมสมบูรณ์มาก ดินแดนของพวกเขาเทียบไม่ได้เลย!“ไทเฮา เมื่อต้าเย่แบ่งออกเป็นสามส่วนแล้ว เราจะฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ในเวลานี้อากู่ต๋าถามตามตรง“เราอยู่ใกล้กับอาณาจักรต้าเป่ยของตระกูลไป๋มากที่สุด หากเราร่วมมือกับอาณาจักรต้าอันของตระกูลเซิ่งเพื่อทำงานร่วมกัน เราอาจจะทำลายพวกเขาได้!”เซียวฉู่ฉู่โบกมือหลังจากได้ฟังเช่นนี้ นางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แม้ว่าตระกูลไป๋จะอยู่ใกล้กับเรามากที่สุด แต่ในดินแดนของตระกูลไป๋มีหวังหยวนอยู่ด้วย...”หลังจากได้ฟังเช่นนี้อากู่ต๋าก็พยักหน้าและถอนหายใจเขายังไม่ลืมว่ากองกำลังสองหมื่นนายของหวังหยวนขัดขวางคนของพวกเขาได้อย่างไรหลังจากที่หมานต๋าถูทราบเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาก็โกรธแค้นเดิมทีพ
หลังจากที่ไป๋ชิงชางพูดเช่นนั้น ไป๋เจิ้นถังก็สามารถเข้าใจได้ว่าแม้ว่าการก่อตั้งอาณาจักรของตระกูลไป๋จะไม่ราบรื่นและสงบสุขนักในความคิดของผู้คน แต่จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากเกินไปเพราะเมื่อก่อตั้งอาณาจักรนี้แล้ว พวกเขาจะสามารถดำเนินการหลายเรื่องได้ง่ายขึ้นมาก!สำหรับจิตใจของราษฎรนั้น หากบอกว่าง่ายที่จะพิชิตก็ง่าย หากบอกว่ายากที่จะพิชิตก็ยาก!เพราะแล้วคนเหล่านี้จำเป็นต้องเลี้ยงปากท้องตนเองเปรียบเสมือนต้าเย่เป็นบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่เมื่ออยู่กับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ชีวิตของพวกเขากลับแร้นแค้นจนน่าสังเวชตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นี่กับพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง หากพวกเขามีชีวิตที่ดี มีอาหารและเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอ แม้ว่าพวกเขาจะยังผูกพันกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่พวกเขาก็ย่อมรู้ว่าใครดีต่อพวกเขา!หากใจคนรวมกันเป็นหนึ่งได้ บางทีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาเคยมีก็อาจจางหายไปในท้ายที่สุดดังนั้นไป๋เจิ้นถังจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนในทั้งสามแคว้น!“ตอนนี้เสาหลักทั้งสามกำลังพัฒนาอยู่ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อพว
“อีกทั้งหวังหยวนยังมีความสามารถเลิศล้ำ ข้าคิดว่าหากเขาเข้ามาในตระกูลไป๋ของเราก็คงจะดีกว่า และตอนนี้ยังมีโอกาส…”ทันทีที่ได้ฟังเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจในทันใด“เจ้าคิดว่า… เฟยเอ๋อร์หรือ?”ไป๋เจิ้นถังถาม ไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วจึงพยักหน้า“ใช่ขอรับท่านพ่อ ความจริงแล้ว... ข้าคิดไว้เช่นนั้น สาเหตุแรกเป็นเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว หากน้องสาวกับหวังหยวนอยู่ด้วยกันจริง ๆ ก็ย่อมเป็นประโยชน์กับตระกูลไป๋ของเราขอรับ”“สาเหตุที่สอง... ในโลกนี้มีคนไม่มากนักที่มีอำนาจมากกว่าหวังหยวน ไม่ว่าจะเป็นอู๋หลิง เซิ่งตงฉยง หรือแม้แต่อ๋องหมานอี๋ ข้าก็คิดว่าพวกเขาไม่ดีเท่าหวังหยวน ไม่ต้องพูดถึงว่าท่านพ่อเองก็คงไม่คิดจะให้น้องสาวแต่งงานนอกต้าเป่ย ใช่หรือไม่ขอรับ?”คำพูดของไป๋ชิงชางไม่ได้มาจากมุมมองเพื่อคนตระกูลไป๋ทั้งหมด แต่เป็นมุมมองเพื่อน้องสาวของเขาด้วยหวังหยวนเป็นคนพิเศษมาก น้องสาวของเขาจะไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน หากนางติดตามเขาดังนั้น...ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็คงจะดีถ้าตระกูลไป๋และหวังหยวนเป็นทองแผ่นเดียวกันได้ไป๋เจิ้นถังย่อมเข้าใจเรื่องนี้“นั่นก็จริง เช่นนั้น...
รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋ชิงชางเขามองไป๋เฟยเฟยด้วยสายตาจริงจังแล้วถามว่า “น้องสาว เจ้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าควรจะแต่งงานแล้ว”สีหน้าของไป๋เฟยเฟยเปลี่ยนเป็นลังเลทันทีที่ได้ฟังดังนั้นไป๋ชิงชางแสร้งทำเป็นไม่เห็น เขามองไป๋เฟยเฟยด้วยรอยยิ้มแล้วถามเบา ๆ“น้องสาว ช่วงนี้เจ้าได้ติดต่อกับผู้ชายไม่กี่คน คนเดียวที่มีความสามารถเทียบเท่าเจ้าก็คือ เซิ่งตงฉยง จากตระกูลเซิ่ง”“น่าเสียดายที่เขามาจากตระกูลเซิ่ง เจ้าทั้งสองจึงไม่ได้ถูกลิชิตให้คู่กัน”เมื่อได้ฟังเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เฟยเฟยก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมาทันทีนางส่ายหน้าโดยไม่ลังเลแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เซิ่งตงฉยงแข็งแกร่งมากจริง ๆ และความสามารถของเขาในการนำทัพยามเกิดศึกสงครามก็ไม่เลว แต่ถ้าข้าต้องต่อสู้กับเขาจริง ๆ ข้าคงไม่แพ้เขาหรอก”ไป๋เฟยเฟยมีสีหน้าภาคภูมิใจมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ตระกูลเซิ่งเป็นคู่ต่อสู้ของพวกนางด้วย แม้ว่าเมื่อก่อนจะไม่ใช่ แต่นางก็ไม่กลัวเลย!นางรู้ดีว่าคนอย่างเซิ่งตงฉยงเจ้าเล่ห์เพทุบายและมีไหวพริบ คนเช่นนี้จะเข้ากับนางได้ดีได้อย่างไร?เมื่อเห็นความมุ่งมั่นบนใบหน้าของไป๋เฟยเฟย ราวกับว่านาง
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหัวใจของไป๋เฟยเฟยก็เต้นแรงทันทีไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อนางได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้น ใบหน้าของหวังหยวนจึงปรากฏขึ้นในใจของนางช่างแปลกประหลาดนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น...นางหลงรักหวังหยวนเข้าแล้วหรือเปล่า?เมื่อตระหนักได้ดังนั้น นางก็รู้สึกตื่นตระหนก จนทำให้สีหน้านางดูไม่เป็นธรรมชาติเลยใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินอาย สีหน้ากลับกลายเป็นลังเล และไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้เป็นเวลานานไป๋ชิงชางเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาถามอย่างสงสัย “น้องสาว เจ้าคิดอย่างไรกับหวังหยวน?”หัวใจของไป๋เฟยเฟยเริ่มเต้นอย่างประหม่าทันทีหลังจากได้ยินคำถามของพี่ชาย นางหายใจถี่ขึ้นมากขณะพยายามจะสงบสติอารมณ์อย่างหนัก จากนั้นตอบกลับไปว่า “พี่ใหญ่ หวังหยวนมีภรรยาตั้งสามคนแล้ว”“ข้า... ข้าจะไม่แต่งงานกับเขาหรอกเจ้าค่ะ”เมื่อพูดออกไปได้ครึ่งประโยค ไป๋เฟยเฟยกลับรู้สึกค่อนข้างหงุดหงิดก่อนที่พี่ชายจะทันได้เอ่ยออกมา นางก็ชิงพูดก่อนว่าจะไม่แต่งงานกับเขา แต่ความจริงดูเหมือนนางจะร้อนใจจนแทบทนรอไม่ไหวแล้ว...เมื่อไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้น จึงเข้าใจทันทีว่าน้องสาวของเขากำลังคิดอะไรอยู่เขาจึงยกยิ้มและ
ไป๋ชิงชางเก่งถนัดเรื่องการเกลี้ยกล่อมทีละขั้น เขาพูดโน้มน้าวด้วยรอยยิ้ม “เฟยเฟย หากเจ้าพลาดคนอย่างหวังหยวนไป ในอาคตการที่เจ้าจะได้เจอคนเช่นเขาอีกคงยากน่าดู”“หากเจ้าหลงรักเขาจริง ๆ เจ้าควรจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ให้เร็วที่สุด!”ไป๋ชิงชางตบหลังมือไป๋เฟยเฟยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เจ้าถึงวัยที่จะแต่งงานแล้ว หากเจ้ามัวลังเลเรื่องนี้อยู่ เมื่อเจ้าอายุมากขึ้น เจ้าจะยอมแต่งงานกับคนที่เจ้าไม่ได้ชอบหรือเปล่า? เมื่อไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งมีสีหน้าลังเลทันทีสิ่งที่พี่ชายของนางพูดนั้นถูกต้องจริง ๆ ในโลกนี้คนที่มีความสามารถเทียบเทียมกับนางได้อันดับหนึ่งคือหวังหยวนเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดว่าเขาเป็นอันดับสอง!พวกเซิ่งตงฉยง อู๋หลิง และแม้แต่หมานต๋าถูผู้เป็นอ๋องหมานอี๋ก็ไม่อาจเทียบหวังหยวนได้แม้แต่ปลายเล็บ!นางจึงไม่ได้สนใจจะชายตามองพวกเขาเลย!ต้องเป็นหวังหยวนเท่านั้น...เขาเปิดเส้นทางการค้า ช่วยเหลือต้าเย่และมีความรอบรู้มาก แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยกลอุบายอันแยบยล แต่เขาก็ยังคงมีจิตใจอบอุ่นและมีเมตตา!นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนนั้นไม่มีเลย และยังถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในตัวหวังหยวนด้วย!เมื่