แชร์

บทที่ 1098

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
หมานต๋าถูตกใจมาก!

เขารู้จากครั้งที่แล้วว่าสิ่งนี้ทรงพลังเพียงใด แต่เขายังไม่เคยเห็นมันมาก่อน!

แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้ว...

ทำให้เขาตกประหวั่นพรั่นพรึง!

ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต เขาจึงไม่ต้องการจะยอมแพ้

แต่เมื่อเขาเห็นอาวุธที่ซ่อนอยู่ในมือของถังหม่างเขาก็ลังเลทันที!

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าทหารแปดหมื่นนายของเขาจะสามารถสังหารทหารหนึ่งหมื่นนายของถังหม่างได้ แต่ครึ่งหนึ่งของทหารของเขาก็อาจจะถูกสังหารด้วยการระเบิดนี้!

ถึงตอนนั้นฝ่ายเขาจะมีทหารเพียงสี่หมื่นนายเท่านั้น...

เกรงว่าจะเอาชนะได้ยาก!

ยิ่งไปกว่านั้นคือคนผู้นี้อยู่ในดินแดนต้าเย่และสังหารคนต้าเย่ได้!

ถ้าล้มเหลวก็อาจจะ...

ยากที่จะกลับมาแล้ว!

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของหมานต๋าถูก็เคร่งเครียดมาก จากนั้นเขาก็พูดด้วยความโกรธ “ถังหม่าง กลับไปบอกหวังหยวนว่าข้าจดจำเรื่องนี้ไว้แล้ว สักวันหนึ่งข้าจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม!”

พูดจบหมานต๋าถูก็ทำได้เพียงสั่งถอยทัพเท่านั้น!

ถังหม่างเห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มอ่อน ก่อนจะสั่งให้ทหารบุกเข้าควบคุมเมืองสู่อย่างแข็งขัน!

ใช้เวลาอีกสองวันเรื่องก็จะจบลงแล้ว!

ในเวลาเดียวกัน อากู่ต๋าที่สูญเสียทห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1099

    อากู่ต๋าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าจะมีสายลับเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงท่าทีหุนหันพลันแล่น เพราะเมื่อไปค้นหาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมไว้แล้วอย่างแน่นอน!สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของสายลับนี้คือทำให้สามารถตรวจสอบทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ได้พวกเขาอยากจะลงมือโจมตี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารพร้อมกันหมด!ตราบใดที่หนึ่งในนั้นส่งสัญญาณเตือน พวกเขาจะล้มเหลว!“ให้ตายเถอะ! หวังหยวน เจ้าไม่ได้มาด้วยแต่ก็ยังคงยอดเยี่ยมจริง ๆ!”อากู่ต๋าพูดตามตรง ความโกรธเกรี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา!ในขณะนี้ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ยากที่จะพิชิตได้ในทันที!นักสืบมารายงานตัวว่าค้นพบกองกำลังของตระกูลไป๋แล้วทั้งเซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงจึงเครียดมาก!ไม่จำเป็นต้องบอกว่าความพากเพียรของอู๋หลิงนั้นไม่ลดลงเลย สิ่งสำคัญคือยังมีกองกำลังจำนวนมากของตระกูลไป๋กำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่ ซึ่งมันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขาเลย!“ลูกเอ๋ย วันนี้... เราควรจะแข็งแกร่งพอที่จะยึดเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!”เซิ่งฟางสี่ถอนหายใจ ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะได้ตอนนี้เลยก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1100

    หวังหยวนรู้ดีว่าตอนจบเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขได้!ไม่มีอะไรที่ใครทำได้เลย!แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนย่อมสรุปได้ว่าทั้งสามเสาหลักจะต้องแยกออกจากกัน!เพราะเมื่อเสือทั้งสามตัวต่อสู้กันย่อมไม่กล้าไปไกลเกินไป ต้าเย่ที่เหลืออยู่แม้ว่าจะไม่ใช่เสือที่ดุร้ายนัก แต่หากอยู่ในช่วงพลบค่ำก็ยังไม่อาจประมาทได้!ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน แผ่นดินต้าเย่กลับมามีเสถียรภาพแล้ว!หวังหยวนรู้สึกได้ว่าการปกครองเช่นนี้จะมั่นคงเป็นเวลาอย่างน้อยสามหรือห้าปี!“ตอนนี้เราอยู่ใน... ดินแดนของตระกูลไป๋แล้ว...”หวังหยวนยกยิ้มแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะนี่คือสิ่งที่เขาหวังมากที่สุดถ้าเมืองหลิงถูกแยกจากตระกูลเซิ่งก็เกรงว่าตระกูลเซิ่งจะเข้าไปรุกรานเป็นครั้งคราว“ใช่แล้ว ตอนนี้แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนอย่างสมบูรณ์แล้ว พี่หยวน เราควรทำอย่างไรดี?”ในเวลานี้เกาเล่อถามขึ้นมา“แน่นอนว่าต้องสะสมกำลังไว้ ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไร? เริ่มทำสงครามกับพวกเขาหรือ? เหนื่อยเกินไปหรือไม่”หวังหยวนโบกมือ ไม่มีอะไรที่เขาอยากทำในสถานการณ์นี้สามอาณาจักรนั้นมีเสถียรภาพที่สุดมาโดยตลอด สองฝ่ายถูกยึดเข้ามากันเหมือนแผ่นเหล็ก ไม่มีใครสามาร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1101

    ข่าวนี้แพร่ไปยังเมืองหวงด้วยเซียวฉู่ฉู่มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อทราบข่าว!“เป็นเรื่องคาดไม่ถึงจริง ๆ ที่ต้าเย่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน สามารถบอกได้ว่าอาณาจักรเมืองหวงของเราเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก…”เซียวฉู่ฉู่ถอนหายใจ แต่นี่เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น หากหารือกันอย่างงจริงจัง อาณาจักรนี้ก็เกือบจะเหมือนกับหนึ่งในสามอาณาจักรนั้น!เพราะดินแดนทั้งเก้านั้นอุดมสมบูรณ์มาก ดินแดนของพวกเขาเทียบไม่ได้เลย!“ไทเฮา เมื่อต้าเย่แบ่งออกเป็นสามส่วนแล้ว เราจะฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ในเวลานี้อากู่ต๋าถามตามตรง“เราอยู่ใกล้กับอาณาจักรต้าเป่ยของตระกูลไป๋มากที่สุด หากเราร่วมมือกับอาณาจักรต้าอันของตระกูลเซิ่งเพื่อทำงานร่วมกัน เราอาจจะทำลายพวกเขาได้!”เซียวฉู่ฉู่โบกมือหลังจากได้ฟังเช่นนี้ นางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แม้ว่าตระกูลไป๋จะอยู่ใกล้กับเรามากที่สุด แต่ในดินแดนของตระกูลไป๋มีหวังหยวนอยู่ด้วย...”หลังจากได้ฟังเช่นนี้อากู่ต๋าก็พยักหน้าและถอนหายใจเขายังไม่ลืมว่ากองกำลังสองหมื่นนายของหวังหยวนขัดขวางคนของพวกเขาได้อย่างไรหลังจากที่หมานต๋าถูทราบเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาก็โกรธแค้นเดิมทีพ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1102

    หลังจากที่ไป๋ชิงชางพูดเช่นนั้น ไป๋เจิ้นถังก็สามารถเข้าใจได้ว่าแม้ว่าการก่อตั้งอาณาจักรของตระกูลไป๋จะไม่ราบรื่นและสงบสุขนักในความคิดของผู้คน แต่จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากเกินไปเพราะเมื่อก่อตั้งอาณาจักรนี้แล้ว พวกเขาจะสามารถดำเนินการหลายเรื่องได้ง่ายขึ้นมาก!สำหรับจิตใจของราษฎรนั้น หากบอกว่าง่ายที่จะพิชิตก็ง่าย หากบอกว่ายากที่จะพิชิตก็ยาก!เพราะแล้วคนเหล่านี้จำเป็นต้องเลี้ยงปากท้องตนเองเปรียบเสมือนต้าเย่เป็นบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่เมื่ออยู่กับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ชีวิตของพวกเขากลับแร้นแค้นจนน่าสังเวชตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นี่กับพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง หากพวกเขามีชีวิตที่ดี มีอาหารและเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอ แม้ว่าพวกเขาจะยังผูกพันกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่พวกเขาก็ย่อมรู้ว่าใครดีต่อพวกเขา!หากใจคนรวมกันเป็นหนึ่งได้ บางทีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาเคยมีก็อาจจางหายไปในท้ายที่สุดดังนั้นไป๋เจิ้นถังจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนในทั้งสามแคว้น!“ตอนนี้เสาหลักทั้งสามกำลังพัฒนาอยู่ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อพว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1103

    “อีกทั้งหวังหยวนยังมีความสามารถเลิศล้ำ ข้าคิดว่าหากเขาเข้ามาในตระกูลไป๋ของเราก็คงจะดีกว่า และตอนนี้ยังมีโอกาส…”ทันทีที่ได้ฟังเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจในทันใด“เจ้าคิดว่า… เฟยเอ๋อร์หรือ?”ไป๋เจิ้นถังถาม ไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วจึงพยักหน้า“ใช่ขอรับท่านพ่อ ความจริงแล้ว... ข้าคิดไว้เช่นนั้น สาเหตุแรกเป็นเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว หากน้องสาวกับหวังหยวนอยู่ด้วยกันจริง ๆ ก็ย่อมเป็นประโยชน์กับตระกูลไป๋ของเราขอรับ”“สาเหตุที่สอง... ในโลกนี้มีคนไม่มากนักที่มีอำนาจมากกว่าหวังหยวน ไม่ว่าจะเป็นอู๋หลิง เซิ่งตงฉยง หรือแม้แต่อ๋องหมานอี๋ ข้าก็คิดว่าพวกเขาไม่ดีเท่าหวังหยวน ไม่ต้องพูดถึงว่าท่านพ่อเองก็คงไม่คิดจะให้น้องสาวแต่งงานนอกต้าเป่ย ใช่หรือไม่ขอรับ?”คำพูดของไป๋ชิงชางไม่ได้มาจากมุมมองเพื่อคนตระกูลไป๋ทั้งหมด แต่เป็นมุมมองเพื่อน้องสาวของเขาด้วยหวังหยวนเป็นคนพิเศษมาก น้องสาวของเขาจะไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน หากนางติดตามเขาดังนั้น...ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็คงจะดีถ้าตระกูลไป๋และหวังหยวนเป็นทองแผ่นเดียวกันได้ไป๋เจิ้นถังย่อมเข้าใจเรื่องนี้“นั่นก็จริง เช่นนั้น...

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1104

    รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋ชิงชางเขามองไป๋เฟยเฟยด้วยสายตาจริงจังแล้วถามว่า “น้องสาว เจ้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าควรจะแต่งงานแล้ว”สีหน้าของไป๋เฟยเฟยเปลี่ยนเป็นลังเลทันทีที่ได้ฟังดังนั้นไป๋ชิงชางแสร้งทำเป็นไม่เห็น เขามองไป๋เฟยเฟยด้วยรอยยิ้มแล้วถามเบา ๆ“น้องสาว ช่วงนี้เจ้าได้ติดต่อกับผู้ชายไม่กี่คน คนเดียวที่มีความสามารถเทียบเท่าเจ้าก็คือ เซิ่งตงฉยง จากตระกูลเซิ่ง”“น่าเสียดายที่เขามาจากตระกูลเซิ่ง เจ้าทั้งสองจึงไม่ได้ถูกลิชิตให้คู่กัน”เมื่อได้ฟังเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เฟยเฟยก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมาทันทีนางส่ายหน้าโดยไม่ลังเลแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เซิ่งตงฉยงแข็งแกร่งมากจริง ๆ และความสามารถของเขาในการนำทัพยามเกิดศึกสงครามก็ไม่เลว แต่ถ้าข้าต้องต่อสู้กับเขาจริง ๆ ข้าคงไม่แพ้เขาหรอก”ไป๋เฟยเฟยมีสีหน้าภาคภูมิใจมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ตระกูลเซิ่งเป็นคู่ต่อสู้ของพวกนางด้วย แม้ว่าเมื่อก่อนจะไม่ใช่ แต่นางก็ไม่กลัวเลย!นางรู้ดีว่าคนอย่างเซิ่งตงฉยงเจ้าเล่ห์เพทุบายและมีไหวพริบ คนเช่นนี้จะเข้ากับนางได้ดีได้อย่างไร?เมื่อเห็นความมุ่งมั่นบนใบหน้าของไป๋เฟยเฟย ราวกับว่านาง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1105

    เมื่อได้ฟังเช่นนั้นหัวใจของไป๋เฟยเฟยก็เต้นแรงทันทีไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อนางได้ยินพี่ชายพูดเช่นนั้น ใบหน้าของหวังหยวนจึงปรากฏขึ้นในใจของนางช่างแปลกประหลาดนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้น...นางหลงรักหวังหยวนเข้าแล้วหรือเปล่า?เมื่อตระหนักได้ดังนั้น นางก็รู้สึกตื่นตระหนก จนทำให้สีหน้านางดูไม่เป็นธรรมชาติเลยใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินอาย สีหน้ากลับกลายเป็นลังเล และไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้เป็นเวลานานไป๋ชิงชางเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาถามอย่างสงสัย “น้องสาว เจ้าคิดอย่างไรกับหวังหยวน?”หัวใจของไป๋เฟยเฟยเริ่มเต้นอย่างประหม่าทันทีหลังจากได้ยินคำถามของพี่ชาย นางหายใจถี่ขึ้นมากขณะพยายามจะสงบสติอารมณ์อย่างหนัก จากนั้นตอบกลับไปว่า “พี่ใหญ่ หวังหยวนมีภรรยาตั้งสามคนแล้ว”“ข้า... ข้าจะไม่แต่งงานกับเขาหรอกเจ้าค่ะ”เมื่อพูดออกไปได้ครึ่งประโยค ไป๋เฟยเฟยกลับรู้สึกค่อนข้างหงุดหงิดก่อนที่พี่ชายจะทันได้เอ่ยออกมา นางก็ชิงพูดก่อนว่าจะไม่แต่งงานกับเขา แต่ความจริงดูเหมือนนางจะร้อนใจจนแทบทนรอไม่ไหวแล้ว...เมื่อไป๋ชิงชางได้ฟังเช่นนั้น จึงเข้าใจทันทีว่าน้องสาวของเขากำลังคิดอะไรอยู่เขาจึงยกยิ้มและ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1106

    ไป๋ชิงชางเก่งถนัดเรื่องการเกลี้ยกล่อมทีละขั้น เขาพูดโน้มน้าวด้วยรอยยิ้ม “เฟยเฟย หากเจ้าพลาดคนอย่างหวังหยวนไป ในอาคตการที่เจ้าจะได้เจอคนเช่นเขาอีกคงยากน่าดู”“หากเจ้าหลงรักเขาจริง ๆ เจ้าควรจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ให้เร็วที่สุด!”ไป๋ชิงชางตบหลังมือไป๋เฟยเฟยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เจ้าถึงวัยที่จะแต่งงานแล้ว หากเจ้ามัวลังเลเรื่องนี้อยู่ เมื่อเจ้าอายุมากขึ้น เจ้าจะยอมแต่งงานกับคนที่เจ้าไม่ได้ชอบหรือเปล่า? เมื่อไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ่งมีสีหน้าลังเลทันทีสิ่งที่พี่ชายของนางพูดนั้นถูกต้องจริง ๆ ในโลกนี้คนที่มีความสามารถเทียบเทียมกับนางได้อันดับหนึ่งคือหวังหยวนเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดว่าเขาเป็นอันดับสอง!พวกเซิ่งตงฉยง อู๋หลิง และแม้แต่หมานต๋าถูผู้เป็นอ๋องหมานอี๋ก็ไม่อาจเทียบหวังหยวนได้แม้แต่ปลายเล็บ!นางจึงไม่ได้สนใจจะชายตามองพวกเขาเลย!ต้องเป็นหวังหยวนเท่านั้น...เขาเปิดเส้นทางการค้า ช่วยเหลือต้าเย่และมีความรอบรู้มาก แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยกลอุบายอันแยบยล แต่เขาก็ยังคงมีจิตใจอบอุ่นและมีเมตตา!นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนนั้นไม่มีเลย และยังถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในตัวหวังหยวนด้วย!เมื่

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2237

    ในขณะที่หวังหยวนกับเกาเล่อกำลังพูดคุยกัน พลันได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น“เขาพูดถูก หากตกลงมาจากยอดเขานี้ ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกรก็จะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน!”“ถึงตอนนั้น สภาพย่อมดูไม่จืด!”หวังหยวนกับเกาเล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด รีบหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ทันสังเกตว่าในความมืดมิดนั้นยังมีผู้อื่นซ่อนอยู่ด้วย!“พวกท่านไม่ต้องเครียด! ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกท่าน!”ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด เขาแต่งกายด้วยชุดผ้าป่าน อายุใกล้เคียงกับหวังหยวน ใบหน้าใต้แสงจันทร์ ของเขาเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”“เหตุใดจึงมาที่นี่ในยามนี้?”ภูเขาทางเหนือตั้งอยู่ในที่ห่างไกล รอบด้านไม่มีบ้านเรือนผู้คน แม้แต่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้!ไม่เช่นนั้น หวังหยวนคงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาหลายชั่วยาม!แต่ในสถานที่เช่นนี้กลับมีคนแปลกหน้าปรากฏตัว จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร?ชายคนนั้นยิ้มพลางโบกมือเอ่ยว่า “ข้าก็เพียงแค่เดินทางผ่านมาที่นี่ เห็นพวกท่านทั้งสองกำลังเตรียมปีนหน้าผา จึงคิดจะดูความสนุกสักหน่อย”“แต่ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2236

    ในใจนางก็รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และที่พูดเช่นนี้กับไฉจวิ้นก็เพราะว่านางมองว่าไฉจวิ้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนางเองไม่ใช่หรือ?หากปฏิบัติต่อคนนอกย่อมไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้หยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง หลิ่วหรูเยียนอาจจะรู้สึกเหนื่อยจึงหลับไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น หลังจากที่หวังหยวนกินอาหารเสร็จก็ได้ออกไปอย่างเงียบเชียบหลายชั่วยามต่อมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืน หวังหยวนมายืนอยู่ตรงหน้าผาของภูเขาทางเหนือเมื่อมองออกไป อาจเป็นเพราะความมืดมิด จึงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหน้าผา ให้ความรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก!หวังหยวนกอดอกยืนอยู่ด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสง่างาม“พายุใหญ่คลื่นยักษ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเจอ?”“สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยประสบ?”“เพียงแค่หน้าผา คิดจะขวางทางข้าได้หรือ?”“ช่างน่าขันนัก!”ขณะที่พูด หวังหยวนก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่า ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวมาจากด้านหลังเขาหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ สายตาจับจ้องไปที่ผู้มาเยือน ผู้ที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเกาเล่อ!ท่ามกลางความมืดมิด ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังหวัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2235

    “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ...”เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวของหวังหยวน ไท่สื่อลี่ก็ไม่ได้กล่าวต่ออีก สุดท้ายก็จำต้องจากไปส่วนหวังหยวนนั่งลงศึกษาแผนที่อย่างละเอียดภายในห้องเมื่อไฉจวิ้นกลับมา หลิ่วหรูเยียนก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไฉจวิ้นอย่างรวดเร็ว พลิกดูห่อผ้าในมือเขาอย่างตื่นเต้น“ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก!”“ซื้อของดี ๆ มาฝากข้ามากมายเพียงนี้เลยหรือ?”“ต่อไปต้องมอบเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าจัดการแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนลูบศีรษะของไฉจวิ้น พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มไฉจวิ้นรู้สึกอึดอัด นี่นางเห็นเขาเป็นเด็กน้อยชัด ๆ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว อายุอานามก็ไม่น้อย กลับถูกปฏิบัติเหมือนเด็กงั้นหรือ?ช่างน่าเจ็บใจนัก!แต่พี่สะใภ้ผู้นี้ก็เป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกิน จึงทำได้เพียงอดทนหากเป็นผู้อื่นที่กล้าลูบศีรษะของเขา นี่ถือว่าเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ!“จริงสิ พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”“เมื่อครู่เขาออกไปกับไท่สื่อลี่ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่กลับมาอีก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนกินขนมพลางเอ่ยถามไฉจวิ้นชี้ไปที่นอกประตู แล้วตอบว่า “พี่ใหญ่อยู่ในลานบ้านขอรับ เมื่อครู่ตอนที่ข้าเข้ามา เขากำลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2233

    “ช่างสมกับเป็นท่านหวัง ไม่มีสิ่งใดปิดบังท่านได้จริง ๆ”ไท่สื่อลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนไม่ได้แอบหนีออกมาจากห้อง เขาจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับท่านหมอเทวดาอันแล้ว เขาได้บอกอาการของฮูหยินกับข้าทั้งหมดแล้วขอรับ”“อีกทั้งยังบอกวิธีที่จะทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นด้วย”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาพลันเป็นประกาย“ท่านหมายถึง...”หวังหยวนไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา แต่ชี้ไปที่ท้องของตนไท่สื่อลี่เข้าใจความหมายในทันที จากนั้นก็พยักหน้า“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”“เช่นนั้นรีบบอกข้ามา วิธีแก้ต้องทำอย่างไร?”“อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ข้าได้ถามท่านหมอเทวดาแล้วว่ามีวิธีใดที่จะทำให้อาการของภรรยาข้าดีขึ้นหรือไม่ ท่านหมอเทวดาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ข้านึกว่าไม่อาจรักษาภรรยาของข้าให้หายได้...”“ดูท่าแล้ว ท่านหมอเทวดาจงใจปิดบังข้า!”หวังหยวนเข้าใจดีว่าอันจูหมิงคงมีเหตุผลที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บอกเรื่องนี้กับไท่สื่อลี่ไท่สื่อลี่รีบโบกมือกล่าวว่า “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าท่านหมอเทวดาอันไม่อยากบอกท่าน แต่เป็นเพราะว่าตัวยาที่ใช้รักษาฮูหยินนั้นหายา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2232

    เมื่อกลับถึงห้อง ด้วยการดูแลของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนจึงจำต้องนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นนางพลิกตัวไปมาไม่หยุด หวังหยวนก็เข้าใจได้ในทันที นี่เป็นเพราะนางไม่อยากนอนหลับ“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงได้ดื้อรั้นเพียงนี้?”“ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรในตัวเจ้า!”“หากรู้ล่วงหน้าว่าการเดินทางครั้งนี้จะพบเจอกับเรื่องราวมากมายเพียงนี้ ก็ควรจะให้เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังแต่แรก เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย”“สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของข้า...”หวังหยวนจิบชาพลางพึมพำกับตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ภาพในความคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของอันจูหมิงก่อนหน้านี้ยามนี้เขาก็ยังคงคิดหาวิธีที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิ่วหรูเยียนไม่ได้สำหรับหวังหยวนแล้ว การไม่อาจตั้งครรภ์ได้นั้นสำคัญตรงไหนกัน?ครอบครัวของเขามีเหล่าภรรยาที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่สำหรับหลิ่วหรูเยียนแล้ว สตรีที่ไม่มีบุตรก็ไม่นับว่าเป็นสตรีเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ หวังหยวนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?ดูท่าแล้วคงต้องหาจังหวะที่เหมาะสม จากนั้นค่อยบอกความจริงกับหลิ่วหรูเยียน นางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก“นี่ท่านกำลังคิดอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2231

    “เอาล่ะ!”“ตอนนี้เจ้าเชื่อฟังพี่ใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่?”“พี่ใหญ่ของเจ้าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นคำพูดของพี่สะใภ้ก็ไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ข้าจะออกไปเดินเล่นเอง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า พี่ใหญ่ของเจ้าจะต้องมาเอาเรื่องกับเจ้า ถึงตอนนั้นก็คอยดูเถิดว่าจะเป็นอย่างไร!”หลิ่วหรูเยียนเฉลียวฉลาด ไฉจวิ้นผู้ไม่ประสีประสาจะต่อกรกับนางได้อย่างไร?เพียงชั่วครู่ ไฉจวิ้นถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็รีบวิ่งตาม พลางประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้! ท่านอย่าได้ทำให้ช้าต้องลำบากใจเลยขอรับ ตกลงหรือไม่?”“ท่านเพิ่งจะหายป่วย สภาพร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่ดี อีกทั้งท่านหมอเทวดาก็บอกแล้วว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ท่านถึงจะหายดี ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนนะขอรับ!”“แต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะออกไป เช่นนั้นพวกเราเดินเล่นเพียงครู่เดียว จากนั้นก็รีบกลับมาก็ได้ ตกลงหรือไม่ขอรับ?”ในที่สุดไฉจวิ้นก็ยอมอ่อนข้อให้ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน!ล่วงเกินหวังหยวนก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าพวกเขาล้วนเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2230

    “นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status