พูดตามตรงคือ...มันมากเกินไปแล้ว!สิ่งที่หมานต๋าถูเกลียดที่สุดคือตระกูลเซิ่ง!ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องยึดดินแดน เขาคงอยากจะนำทัพทหารม้าหมานอี๋ทั้งหมดไปสังหารตระกูลเซิ่ง!ฆ่าล้างบางให้หมด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต!“สั่งการให้เอ้อร์ฮานำทหารม้าห้าหมื่นนายไปซุ่มโจมตีชายแดน เพื่อรอเข้าร่วมกองกำลังของหวังหยวน!”หมานต๋าถูออกคำสั่งทันที หลังจากนั้น กองทัพหมานอี๋ห้าหมื่นนายก็เริ่มเคลื่อนตัวไปยังชายแดนเมืองสู่!ซึ่งทางฝ่ายเซิ่งตงฉยงก็ทราบข่าวนี้แล้ว“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ได้ยกทัพมาแล้ว มีกันห้าหมื่นคน อาจบุกโจมตีเมืองสู่ของเราขอรับ!”หลังจากที่ไส้ศึกมารายงานข่าว แม่ทัพหลายคนในกระโจมใหญ่ก็เริ่มพูดกันทีละคน“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ตั้งใจแน่วแน่มากจนกล้ายกทัพมาบุกเมืองสู่!”“ใช่ขอรับ คุณชายใหญ่ กองทัพสามหมื่นนายของพวกเรา สามารถสังหารทหารทั้งห้าหมื่นนายของฝ่ายเขาได้แน่นอน!”เหล่าแม่ทัพไม่เกรงกลัวเลย!แต่กลับยิ่งมีความฮึกเหิมในการต่อสู้มากขึ้น!ด้วยการกระทำเช่นนี้ คงคาดหวังว่าจะสามารถกวาดล้างตระกูลเซิ่งทั้งหมดได้!เมื่อได้ฟังแล้ว เซิ่งตงฉยงก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าเข้าใจสิ่งที่พวกเจ้าพูด ไม่ต้อง
ณ ชายแดนเมืองสู่เซิ่งตงฉยงนำกองทหารม้าสามหมื่นนายมาตั้งค่ายรวมตัวกันที่นี่ในเวลานี้ เอ้อร์ฮาฝั่งตรงข้ามก็ทราบข่าวแล้วว่าเซิ่งตงฉยงกำลังตั้งค่ายที่นี่ขณะนี้ใบหน้าของรองขุนพลที่อยู่ข้างกายเอ้อร์ฮาก็เคร่งเครียดทันที จากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เซิ่งตงฉยงผู้นี้กล้ามาตั้งค่ายที่นี่จริง ๆ!”ความกังวลและความสับสนปรากฏบนใบหน้าของเขา เขามองเอ้อร์ฮาอย่าร้อนรน แล้วพูดอย่างกังวล “เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดีขอรับ เซิ่งตงฉยงนำทหารม้ามาสามหมื่นนาย มีคนมากมายจนเราไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้...”เมื่อเห็นรองขุนพลที่ตื่นตระหนก และมีร่องรอยของความสับสนในดวงตา เอ้อร์ฮาก็ยกยิ้มจางพลางโบกมือเบา ๆ แล้วพูดว่า “ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหาหรอก!”“ชายที่ชื่อเซิ่งตงฉยงคนนั้น ถ้าเขากล้าบุกมาที่นี่ เขาจะต้องตายแน่นอน!”“เอ๊ะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของรองขุนพลของเอ้อร์ฮาก็ฉายแววประหลาดใจสายตาเขาบ่งบอกว่าลังเล ก่อนจะถามด้วยความสับสน “เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้เล่าขอรับ?”ใบหน้าของเอ้อร์ฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่แยแส ขณะพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะจุดประสงค์ของข้าคือการล่อพวกเขามาที่นี่”“หากพวกเขากล้าบุกเข้
เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ยินเช่นนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นระเบิดเสียงหัวเราะทันทีนัยน์ตาเขาฉายแววเย่อหยิ่ง หัวเราะเสร็จก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ฮ่าฮ่า เจ้ายังกล้าพูดเช่นนั้นกับข้าอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ”สายตาของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและการเสียดสี เขาถามอย่างเหน็บแนม “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าครั้งที่แล้วข้าเอาชนะเจ้าได้อย่างไร?”ทันทีที่ได้ยินเซิ่งตงฉยงพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็กลายเป็นเคร่งเครียดอย่างมากดวงตาของเขาฉายแววมืดมน ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ครั้งที่แล้วมันเป็นเพียงเพราะโชคของเจ้าเท่านั้น”“เจ้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสโชคดีเช่นนั้นได้ทุกครั้งหรือ?”ดวงตาของเซิ่งตงฉยงฉายแววดุร้าย เขากำหมัดแน่น มีสีหน้าดุดันขณะพูดเย้ย “ครั้งสุดท้ายข้าได้ไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รีบหนีกลับไปอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ทว่ายังกล้ารนหาที่ตายที่นี่อีกงั้นหรือ?”“ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว หากเจ้ารนหาที่ตายเองเช่นนี้ จงอย่าโทษข้าว่าไร้ความปรานีกับเจ้าก็แล้วกัน!”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงโหดเหี้ยมมาก สายตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี
ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะนี้เขารู้สึกว่าเขาหงุดหงิดเพราะเจ้าเด็กชื่อเอ้อร์ฮาคนนี้มาก เขาอยากจะจับตัวอีกฝ่ายมาถลกหนังทั้งเป็น แล้วกรีดเลือดออกมาดื่ม และทรมานเขาให้ตายอย่างโหดเหี้ยม!ทันใดนั้นใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็จริงจัง เขาขมวดคิ้วพูดอย่างมีเลศนัย “หากสู้กันจริง เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก เจ้าแค่รนหาที่ตายที่นี่เท่านั้น”“บอกเลยว่าด้วยทหารห้าหมื่นคนของเจ้านั้น แม้ว่าจะมีมาเพิ่มอีกห้าหมื่นคน เจ้าก็ยังไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี หากข้าต้องการสังหารเจ้า มันเป็นเรื่องง่ายที่ไม่ต้องใช้ความพยายามเลย!”คำพูดของเอ้อร์ฮาทำให้ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมืดมนกว่าเดิมใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจจนถึงกับตะคอกว่า “เจ้าหนู จะตะโกนอยู่ที่นี่อีกนานเพียงใด?”“ตัวเจ้าเองมีความสามารถระดับใด เจ้าไม่รู้ตัวหรือ มายืนพูดเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ให้เสียเวลาจะมีประโยชน์อะไร?”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมีรอยยิ้มเย็นชาน่าสะพรึงกลัว ดวงตาของเขาดูมืดมน ขณะกล่าวว่า “ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง วันนี้เจ้าจะต่อสู้กับข้าอีกครั้งหรือไม่?”“วันนี้ลองดูอีกครั้ง ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้จริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที
หลังจากนั้นทันที เซิ่งตงฉยงก็รีบนำทัพของเขากลับไปยังค่ายที่กองทัพประจำการอยู่แผนการของเซิ่งตงฉยงล้มเหลว หัวของเอ้อร์ฮายังไม่หลุดออกจากบ่า และหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ!เขากลับไปยังกระโจมด้วยความโกรธ สีหน้าหงุดหงิดมาก!ขณะนี้เขาอดไม่ได้ที่จะทุบโต๊ะ แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าบ้าเอ้อร์ฮานี่ ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าไม่ควรเชื่อสิ่งที่เขาพูด!”“คำพูดที่ออกมาจากปากของเจ้าสารเลวคนนี้ ไม่มีคำใดเป็นความจริงเลย!”หลังจากพูดจบ ความโกรธบนใบหน้าของเซิ่งตงฉยงยังไม่ทันจางหายไป เขาก็ได้ยินเสียงทหารคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเขารีบเปิดม่านวิ่งเข้ามาในกระโจม แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเซิ่งตงฉยงโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงก็เคร่งเครียดทันทีนัยน์ตาฉายแววเคร่งขรึม ขณะถามด้วยน้ำเสียงดุดัน “มีอะไรเกิดขึ้น?”ใบหน้าของทหารคนนั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เขาลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นพูดขณะตัวสั่นเทา “ใต้เท้าเซิ่ง เอ้อร์ฮาอยู่ข้างนอกขอรับ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับกองทัพทหารม้าของเขาขอรับ!”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของเซิ่งตงฉยงก็บ่งบอกว่า เขากำลังจริงจังและหยิ่งผยองขณะนี
เซิ่งตงฉยงสะบัดชายเสื้อคลุมเดินออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว เขาพาทหารทุกคนไปที่ประตูค่ายทันที แน่นอนว่าทันทีที่ไปถึง เขาได้เห็นหน้าเอ้อร์ฮาที่กำลังตะโกนยั่วยุ “ฮ่าฮ่าฮ่า เซิ่งตงฉยง เจ้ามันเต่าขี้ขลาดหดหัวอยู่ในกระดอง!”“เจ้าเอาแต่หลบอยู่ในกระดองจริง ๆ ไม่เข้าใจเลยว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ถูกยั่วยุหนักถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยหรือ?”“เจ้าเต่าเฒ่า หากแน่จริง เหตุใดไม่ออกมาต่อสู้กับพวกข้าล่ะ?”หลังจากได้ฟังประโยคท้าทายเหล่านี้ ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงที่มืดมนก็กลายเป็นเย็นชาอย่างยิ่งใบหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจและโกรธจัด เขากำหมัดแน่น พลางกัดฟันด้วยความโกรธเจ้าคนสารเลวนี่กล้าดูถูกเขาเช่นนี้จริง ๆ!เรื่องเช่นนี้ยังทำได้ลง จะมีอะไรทำไม่ได้อีก!แต่เมื่อเซิ่งตงฉยงกำลังจะนำทหารม้าออกไปต่อสู้กับเอ้อร์ฮาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เอ้อร์ฮาก็ชักม้าหันกลับไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มทหารที่อยู่ข้างหลังเขาก็วิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามองเช่นกันในขณะนี้ ความโกรธสุดขีดก็ถาโถมเข้ามาในใจเซิ่งตงฉยง!เจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาแทบจะควบคุมไม่ได้!เขาแทบรอไม่ไหวที่จะจับเอ้อร์ฮามาหั่น
ก่อนที่เขาจะมองเห็นได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ลอยมาตกเหล่านี้คืออะไร เขาก็ได้ยินเสียง 'ตูม ตูม ตูม!’มีเสียงระเบิดดังขึ้นติดกันหลายครั้ง มันระเบิดทันทีที่ตกลงสู่พื้น!ขณะนี้เซิ่งตงฉยงเบิกตากว้าง ร้องตะโกนด้วยความไม่เชื่อ “อะไรระเบิด ไอ้พวกสารเลวนี่กล้าใช้อาวุธที่ซ่อนไว้จริง ๆ...”“ใต้เท้าเซิ่ง หลบเร็วขอรับ!”ทันใดนั้นทหารหนุ่มก็กระโจนเข้าใส่เซิ่งตงฉยงจนลงไปนอนบนพื้นด้วยกัน ความตื่นตระหนกฉายแววไปทั่วใบหน้า ขณะที่เขาพูดอย่างหวาดกลัว “มีอาวุธซ่อนเร้นมา!”ทั้งสองรีบหมอบลงกับพื้นทันที!ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง ตามมาด้วยคลื่นลมร้อนจำนวนนับไม่ถ้วนที่แหวกอากาศทันที!เซิ่งตงฉยงรู้สึกเพียงว่าหลังของตนเหมือนจะถูกไฟเผา มันแผดเผาร้อนแรงมาก!ดวงตาเขาฉายแววหวาดกลัว ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนกการไม่มองยังจะดีเสียกว่า แต่เมื่อมองก็เห็นว่ามีซากศพกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งน่าสังเวชมาก!ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้การศึกครั้งนี้แล้วอย่างสิ้นเชิง!ในระยะไกล เอ้อร์ฮาที่เพิ่งหลบหนีไปได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากค่ายของเซิ่งตงฉยง จึงรู้ทันที
ก่อนจะมาที่นี่ หวังหยวนได้รับข่าวแล้วว่าตระกูลไป๋กำลังจะร่วมมือกับอู๋หลิง เพื่อจัดการกับตระกูลเซิ่ง!วันนี้พวกเขาได้ยกทัพไปแล้ว!เซิ่งตงฉยงถูกเขากับหมานอี๋ควบคุม จึงไม่มีทางที่ทหารฝีมือดีเหล่านี้จะกลับไปได้ทัน จึงเกรงว่าวันนี้จะเป็นจุดจบของตระกูลเซิ่ง!เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!“เจ้าพูดอะไร!”เขาไม่อยากจะเชื่อเลย!ตระกูลไป๋ร่วมมือกับอู๋หลิงเพื่อจัดการกับพวกเขาจริงหรือ!เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร?ตระกูลเซิ่งติดตามความเคลื่อนไหวของตระกูลไป๋ แต่ไม่เคยสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวใด ๆ จากตระกูลไป๋เลย!จู่ ๆ จะลงมือกะทันหันได้อย่างไร?เรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้!หวังหยวนยกยิ้มแล้วพูดว่า “เซิ่งตงฉยง ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า หากเจ้าต้องการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์นี้ ข้าเกรงว่ามันจะไม่ง่ายถึงเพียงนั้น!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็โบกมือ หงเยี่ยและพรรคพวกรวมกว่าร้อยคนก็ปรากฏตัวข้างล่างกำแพงเมือง แต่ละคนถือตะกร้าใส่ระเบิดไว้ในมือข้างหน้ามีกองทัพหมานอี๋ห้าหมื่นคน ข้างหลังมีคนของหวังหยวนหลายร้อยคน โจมตีจากทั้งสองฝ่าย!ใบหน้าของเซ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห