แชร์

บทที่ 1057

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลไป๋นี้ยังคงเป็นตระกูลที่ไป๋เหยียนเฟยเติบโตขึ้นมา นางจะสามารถทำลงคอได้จริงหรือ?

ไป๋เหยียนเฟยหัวเราะ ขณะน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ข้าไม่ได้อยากตัดสินใจทำเช่นนี้เลย แต่เจ้าต้องการให้ข้าละทิ้งต้าเย่ไปหรือ? ความจริงข้าสามารถทำได้”

“มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการแบกคนไร้ความสามารถไว้บนหลัง มันไม่สำคัญสำหรับข้า อย่างน้อยถ้าปล่อยให้แผ่นดินเป็นหน้าที่ของตระกูลไป๋ ทั้งข้าและชางเอ๋อร์ก็ยังสามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยได้”

“แต่ข้าสัญญากับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไปแล้วว่าจะปกป้องต้าเย่ของตระกูลจี ข้าไม่อาจผิดสัญญาได้!”

“ถ้าเจ้าเต็มใจจะช่วยข้า ข้าก็ขอขอบคุณจากใจจริง”

“แต่ถ้าเจ้าไม่เต็มใจจะช่วยข้า ข้าก็จะไม่เสียใจ”

ไป๋เหยียนเฟยมองอู๋หลิงแล้วพูดตามตรง หลังจากพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ถอนหายใจ ครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพยักหน้า

“เรื่องนี้… กระหม่อมจะจัดการเอง”

อู๋หลิงตอบ เขาไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ

ไม่เพียงแต่เพื่อความมั่นคงของแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังเพื่อความไว้วางใจของบิดาของเขาด้วย

อู๋หลิงจึงเห็นด้วย แม้ว่าจะมีความละอายใจมากก็ตาม

ในขณะนี้ เมื่อไป๋เจิ้นถังออกจากวังหลวง และกลับมายังจวนตระกูลไป๋ เขาก็กำลังนึกถึงเรื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1058

    เมื่อไป๋เฟยเฟยนึกถึงหวังหยวน รอยยิ้มจางพลันปรากฏบนใบหน้า นัยน์ตาฉายแววสนุกสนานไป๋เจิ้นถังได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้า แล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก หวังหยวนกำลังจะโจมตีเซิ่งตงฉยง ขณะที่ฝ่ายเราเองก็กำลังจะเริ่มดำเนินการกับตระกูลเซิ่ง”ไป๋เฟยเฟยตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้“ท่านพ่อ ท่านจะให้พี่ชายลงมือหรือเจ้าคะ?”ไป๋เจิ้นถังส่ายหน้าทันที “ไม่ พ่อยังไม่อยากเปิดเผยพลังของพี่ชายของเจ้า หากเซิ่งตงฉยงถูกหวังหยวนแทรกแซง จะไม่มีกองกำลังพร้อมรบประจำในสามแคว้นของตระกูลเซิ่ง”“ตราบใดที่เรามีทหารม้าห้าหมื่นนาย เราก็สามารถกวาดล้างตระกูลเซิ่งได้”“ติดต่ออาของเจ้า บอกให้นางขอความช่วยเหลือจากอู๋หลิงอย่างเต็มที่ ส่วนฝ่ายเราจะเริ่มดำเนินการอย่างลับ ๆ เข้าโจมตีตระกูลเซิ่งจากทั้งสองทาง!”ไป๋เจิ้นถังพูดเสียงดังด้วยสีหน้าเย็นชาแม้แต่เซิ่งฟางสี่ก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะเคลื่อนไหวในตอนนี้!ในเวลาเดียวกัน หวังหยวนก็ตั้งรกรากอยู่ในเมืองหยาง พวกเขามีเพียงสิบคนเท่านั้น การซ่อนตัวอยู่ในเมืองหยางอันกว้างใหญ่แห่งนี้จึงเป็นเรื่องง่ายสิ่งแรกที่หวังหยวนทำ คือการใช้นกพิราบสื่อสารส่งจดหมายถึงหมานต๋าถูเนื่องจากเขาต้องกา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1059

    พูดตามตรงคือ...มันมากเกินไปแล้ว!สิ่งที่หมานต๋าถูเกลียดที่สุดคือตระกูลเซิ่ง!ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องยึดดินแดน เขาคงอยากจะนำทัพทหารม้าหมานอี๋ทั้งหมดไปสังหารตระกูลเซิ่ง!ฆ่าล้างบางให้หมด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต!“สั่งการให้เอ้อร์ฮานำทหารม้าห้าหมื่นนายไปซุ่มโจมตีชายแดน เพื่อรอเข้าร่วมกองกำลังของหวังหยวน!”หมานต๋าถูออกคำสั่งทันที หลังจากนั้น กองทัพหมานอี๋ห้าหมื่นนายก็เริ่มเคลื่อนตัวไปยังชายแดนเมืองสู่!ซึ่งทางฝ่ายเซิ่งตงฉยงก็ทราบข่าวนี้แล้ว“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ได้ยกทัพมาแล้ว มีกันห้าหมื่นคน อาจบุกโจมตีเมืองสู่ของเราขอรับ!”หลังจากที่ไส้ศึกมารายงานข่าว แม่ทัพหลายคนในกระโจมใหญ่ก็เริ่มพูดกันทีละคน“คุณชายใหญ่ หมานอี๋ตั้งใจแน่วแน่มากจนกล้ายกทัพมาบุกเมืองสู่!”“ใช่ขอรับ คุณชายใหญ่ กองทัพสามหมื่นนายของพวกเรา สามารถสังหารทหารทั้งห้าหมื่นนายของฝ่ายเขาได้แน่นอน!”เหล่าแม่ทัพไม่เกรงกลัวเลย!แต่กลับยิ่งมีความฮึกเหิมในการต่อสู้มากขึ้น!ด้วยการกระทำเช่นนี้ คงคาดหวังว่าจะสามารถกวาดล้างตระกูลเซิ่งทั้งหมดได้!เมื่อได้ฟังแล้ว เซิ่งตงฉยงก็ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าเข้าใจสิ่งที่พวกเจ้าพูด ไม่ต้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1060

    ณ ชายแดนเมืองสู่เซิ่งตงฉยงนำกองทหารม้าสามหมื่นนายมาตั้งค่ายรวมตัวกันที่นี่ในเวลานี้ เอ้อร์ฮาฝั่งตรงข้ามก็ทราบข่าวแล้วว่าเซิ่งตงฉยงกำลังตั้งค่ายที่นี่ขณะนี้ใบหน้าของรองขุนพลที่อยู่ข้างกายเอ้อร์ฮาก็เคร่งเครียดทันที จากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เซิ่งตงฉยงผู้นี้กล้ามาตั้งค่ายที่นี่จริง ๆ!”ความกังวลและความสับสนปรากฏบนใบหน้าของเขา เขามองเอ้อร์ฮาอย่าร้อนรน แล้วพูดอย่างกังวล “เช่นนั้นเราควรทำอย่างไรดีขอรับ เซิ่งตงฉยงนำทหารม้ามาสามหมื่นนาย มีคนมากมายจนเราไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้...”เมื่อเห็นรองขุนพลที่ตื่นตระหนก และมีร่องรอยของความสับสนในดวงตา เอ้อร์ฮาก็ยกยิ้มจางพลางโบกมือเบา ๆ แล้วพูดว่า “ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหาหรอก!”“ชายที่ชื่อเซิ่งตงฉยงคนนั้น ถ้าเขากล้าบุกมาที่นี่ เขาจะต้องตายแน่นอน!”“เอ๊ะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของรองขุนพลของเอ้อร์ฮาก็ฉายแววประหลาดใจสายตาเขาบ่งบอกว่าลังเล ก่อนจะถามด้วยความสับสน “เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้เล่าขอรับ?”ใบหน้าของเอ้อร์ฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่แยแส ขณะพูดด้วยรอยยิ้ม “เพราะจุดประสงค์ของข้าคือการล่อพวกเขามาที่นี่”“หากพวกเขากล้าบุกเข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1061

    เมื่อเซิ่งตงฉยงได้ยินเช่นนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นระเบิดเสียงหัวเราะทันทีนัยน์ตาเขาฉายแววเย่อหยิ่ง หัวเราะเสร็จก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ฮ่าฮ่า เจ้ายังกล้าพูดเช่นนั้นกับข้าอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ”สายตาของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความดูหมิ่นและการเสียดสี เขาถามอย่างเหน็บแนม “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าครั้งที่แล้วข้าเอาชนะเจ้าได้อย่างไร?”ทันทีที่ได้ยินเซิ่งตงฉยงพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้ว ใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็กลายเป็นเคร่งเครียดอย่างมากดวงตาของเขาฉายแววมืดมน ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ครั้งที่แล้วมันเป็นเพียงเพราะโชคของเจ้าเท่านั้น”“เจ้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสโชคดีเช่นนั้นได้ทุกครั้งหรือ?”ดวงตาของเซิ่งตงฉยงฉายแววดุร้าย เขากำหมัดแน่น มีสีหน้าดุดันขณะพูดเย้ย “ครั้งสุดท้ายข้าได้ไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับไม่รีบหนีกลับไปอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ทว่ายังกล้ารนหาที่ตายที่นี่อีกงั้นหรือ?”“ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว หากเจ้ารนหาที่ตายเองเช่นนี้ จงอย่าโทษข้าว่าไร้ความปรานีกับเจ้าก็แล้วกัน!”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงโหดเหี้ยมมาก สายตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1062

    ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะนี้เขารู้สึกว่าเขาหงุดหงิดเพราะเจ้าเด็กชื่อเอ้อร์ฮาคนนี้มาก เขาอยากจะจับตัวอีกฝ่ายมาถลกหนังทั้งเป็น แล้วกรีดเลือดออกมาดื่ม และทรมานเขาให้ตายอย่างโหดเหี้ยม!ทันใดนั้นใบหน้าของเอ้อร์ฮาก็จริงจัง เขาขมวดคิ้วพูดอย่างมีเลศนัย “หากสู้กันจริง เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก เจ้าแค่รนหาที่ตายที่นี่เท่านั้น”“บอกเลยว่าด้วยทหารห้าหมื่นคนของเจ้านั้น แม้ว่าจะมีมาเพิ่มอีกห้าหมื่นคน เจ้าก็ยังไม่เหมาะที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี หากข้าต้องการสังหารเจ้า มันเป็นเรื่องง่ายที่ไม่ต้องใช้ความพยายามเลย!”คำพูดของเอ้อร์ฮาทำให้ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมืดมนกว่าเดิมใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจจนถึงกับตะคอกว่า “เจ้าหนู จะตะโกนอยู่ที่นี่อีกนานเพียงใด?”“ตัวเจ้าเองมีความสามารถระดับใด เจ้าไม่รู้ตัวหรือ มายืนพูดเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ให้เสียเวลาจะมีประโยชน์อะไร?”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงมีรอยยิ้มเย็นชาน่าสะพรึงกลัว ดวงตาของเขาดูมืดมน ขณะกล่าวว่า “ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง วันนี้เจ้าจะต่อสู้กับข้าอีกครั้งหรือไม่?”“วันนี้ลองดูอีกครั้ง ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้จริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1063

    หลังจากนั้นทันที เซิ่งตงฉยงก็รีบนำทัพของเขากลับไปยังค่ายที่กองทัพประจำการอยู่แผนการของเซิ่งตงฉยงล้มเหลว หัวของเอ้อร์ฮายังไม่หลุดออกจากบ่า และหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ!เขากลับไปยังกระโจมด้วยความโกรธ สีหน้าหงุดหงิดมาก!ขณะนี้เขาอดไม่ได้ที่จะทุบโต๊ะ แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าบ้าเอ้อร์ฮานี่ ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าไม่ควรเชื่อสิ่งที่เขาพูด!”“คำพูดที่ออกมาจากปากของเจ้าสารเลวคนนี้ ไม่มีคำใดเป็นความจริงเลย!”หลังจากพูดจบ ความโกรธบนใบหน้าของเซิ่งตงฉยงยังไม่ทันจางหายไป เขาก็ได้ยินเสียงทหารคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเขารีบเปิดม่านวิ่งเข้ามาในกระโจม แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเซิ่งตงฉยงโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงก็เคร่งเครียดทันทีนัยน์ตาฉายแววเคร่งขรึม ขณะถามด้วยน้ำเสียงดุดัน “มีอะไรเกิดขึ้น?”ใบหน้าของทหารคนนั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เขาลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นพูดขณะตัวสั่นเทา “ใต้เท้าเซิ่ง เอ้อร์ฮาอยู่ข้างนอกขอรับ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับกองทัพทหารม้าของเขาขอรับ!”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของเซิ่งตงฉยงก็บ่งบอกว่า เขากำลังจริงจังและหยิ่งผยองขณะนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1064

    เซิ่งตงฉยงสะบัดชายเสื้อคลุมเดินออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว เขาพาทหารทุกคนไปที่ประตูค่ายทันที แน่นอนว่าทันทีที่ไปถึง เขาได้เห็นหน้าเอ้อร์ฮาที่กำลังตะโกนยั่วยุ “ฮ่าฮ่าฮ่า เซิ่งตงฉยง เจ้ามันเต่าขี้ขลาดหดหัวอยู่ในกระดอง!”“เจ้าเอาแต่หลบอยู่ในกระดองจริง ๆ ไม่เข้าใจเลยว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ถูกยั่วยุหนักถึงเพียงนี้ แต่กลับไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยหรือ?”“เจ้าเต่าเฒ่า หากแน่จริง เหตุใดไม่ออกมาต่อสู้กับพวกข้าล่ะ?”หลังจากได้ฟังประโยคท้าทายเหล่านี้ ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงที่มืดมนก็กลายเป็นเย็นชาอย่างยิ่งใบหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจและโกรธจัด เขากำหมัดแน่น พลางกัดฟันด้วยความโกรธเจ้าคนสารเลวนี่กล้าดูถูกเขาเช่นนี้จริง ๆ!เรื่องเช่นนี้ยังทำได้ลง จะมีอะไรทำไม่ได้อีก!แต่เมื่อเซิ่งตงฉยงกำลังจะนำทหารม้าออกไปต่อสู้กับเอ้อร์ฮาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เอ้อร์ฮาก็ชักม้าหันกลับไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มทหารที่อยู่ข้างหลังเขาก็วิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามองเช่นกันในขณะนี้ ความโกรธสุดขีดก็ถาโถมเข้ามาในใจเซิ่งตงฉยง!เจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาแทบจะควบคุมไม่ได้!เขาแทบรอไม่ไหวที่จะจับเอ้อร์ฮามาหั่น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1065

    ก่อนที่เขาจะมองเห็นได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ลอยมาตกเหล่านี้คืออะไร เขาก็ได้ยินเสียง 'ตูม ตูม ตูม!’มีเสียงระเบิดดังขึ้นติดกันหลายครั้ง มันระเบิดทันทีที่ตกลงสู่พื้น!ขณะนี้เซิ่งตงฉยงเบิกตากว้าง ร้องตะโกนด้วยความไม่เชื่อ “อะไรระเบิด ไอ้พวกสารเลวนี่กล้าใช้อาวุธที่ซ่อนไว้จริง ๆ...”“ใต้เท้าเซิ่ง หลบเร็วขอรับ!”ทันใดนั้นทหารหนุ่มก็กระโจนเข้าใส่เซิ่งตงฉยงจนลงไปนอนบนพื้นด้วยกัน ความตื่นตระหนกฉายแววไปทั่วใบหน้า ขณะที่เขาพูดอย่างหวาดกลัว “มีอาวุธซ่อนเร้นมา!”ทั้งสองรีบหมอบลงกับพื้นทันที!ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง ตามมาด้วยคลื่นลมร้อนจำนวนนับไม่ถ้วนที่แหวกอากาศทันที!เซิ่งตงฉยงรู้สึกเพียงว่าหลังของตนเหมือนจะถูกไฟเผา มันแผดเผาร้อนแรงมาก!ดวงตาเขาฉายแววหวาดกลัว ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนกการไม่มองยังจะดีเสียกว่า แต่เมื่อมองก็เห็นว่ามีซากศพกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งน่าสังเวชมาก!ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกว่าเขาพ่ายแพ้การศึกครั้งนี้แล้วอย่างสิ้นเชิง!ในระยะไกล เอ้อร์ฮาที่เพิ่งหลบหนีไปได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากค่ายของเซิ่งตงฉยง จึงรู้ทันที

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status