แชร์

บทที่ 1012

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หมานต๋าถูกับหมานจิ้งกำลังนั่งอยู่ในกระโจม สายตาจับจ้องไปที่แผนผังจำลองทำด้วยทราย

หลังจากที่หมานจิ้งรู้ข่าว สายตานางก็เคร่งขรึม ขณะถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ท่านพี่ พวกเราจะต่อสู้กับต้าเย่จริงหรือเจ้าคะ?”

“แน่นอน”

หมานต๋าถูยกยิ้มอ่อนด้วยสีหน้าสงบ

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ขณะพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าตั้งตารอวันนี้มานานแล้ว!”

เมื่อเห็นพี่ชายดูมีความสุขมาก หมานจิ้งก็ยิ้มกว้างทันที แล้วพูดว่า “ท่านพี่ ดูเหมือนท่านจะมั่นใจมากเลยนะเจ้าคะ”

“จะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร?”

สีหน้าของหมานต๋าถูเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด แล้วพูดว่า “ความจริงข้าอยากจะเริ่มสงครามมานานแล้ว การต่อสู้ระหว่างตระกูลเซิ่งและราชวงศ์ครั้งนี้ เป็นโอกาสที่หายากสำหรับเรา!”

“โอกาสหรือเจ้าคะ? ท่านพี่ นี่หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?”

หมานจิ้งถามด้วยความสับสน

“ฮ่าฮ่า ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด อย่างน้อยเราก็สามารถบุกเมืองสู่ได้แล้ว!”

“และตอนนี้ในต้าเย่ ตระกูลเซิ่งได้ดำเนินการกับราชวงศ์แล้ว ฮองเฮาแห่งต้าเย่คงประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มดำเนินการกับต้าเย่!”

“นั่นเป็นข่าวดีจริง ๆ เจ้าค่ะ ท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
ก็ได้แต่พูดแบบเดิมหวังว่าพระเอกจะไม่ช่วย ถ้าช่วยนี่โคตร2มาตรฐาน แก้แค้นตระกูลเซิ่งแต่ไม่แก้แค้นไอ้ชิงหลงถึงมันตายไปแล้วก็ยังมีลูกหลานมันสืบทอดเจตนารมณ์ คิดว่าลูกมันพอโตขึ้นจะไม่จัดการกับพระเอกเหรอ หรือพระเอกจะแก้แค้นไอ้ชิงหลงโดยจับเมียมันมาทำเมียและฆ่าลูกของมัน ถ้าทำแบบนี้โคตรระยำเลยนะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1013

    “เด็กหนุ่มหวังหยวนคนนั้น เป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยากในแผ่นดินจริง ๆ!”“ความสามารถและกลยุทธ์ของเขาไม่มีใครเทียบได้ หากเขาดำเนินการเพราะเรื่องนี้จริง ๆ มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะรับมือ”“แต่เราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้หรอก อู๋หลิงมาถึงถิ่นของเราแล้ว ขณะที่เมืองหวงเดินทัพ หวังหยวนทำได้เพียงไปจัดการกับเมืองหวงเท่านั้น”หมานต๋าถูยกยิ้มมุมปาก พยักหน้าแล้วพูดว่า “ดังนั้นให้เมืองหวงปวดหัวกับเรื่องนี้ไปเถิด”หลังจากได้ยินดังนั้น หมานจิ้งก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมืองหวงล้มเหลว เพราะหวังหยวนนั้นเก่งกาจมาก หากเขาต้องการจัดการกับเมืองหวง มันก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาใช่หรือไม่?”“เจ้าพูดถูก”หมานต๋าถูตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “แต่หวังหยวนอาจจะไม่ดำเนินการใด ๆ เลย”“เอ๊ะ เหตุใดหรือเจ้าคะ?”หมานจิ้งถามอย่างสงสัย“เพราะหวังหยวนเป็นคนฉลาด เขาจึงเห็นแล้วว่าแผ่นดินกำลังสับสนวุ่นวาย”น้ำเสียงของหมานต๋าถูเคร่งขรึมมากขณะอธิบาย “ตอนนี้ตระกูลเซิ่งกำลังกระหายอำนาจ เพื่อที่จะได้ครองบัลลังก์ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาปฏิเสธญาติพี่น้องทั้งหมด และใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม!”“เพราะเรื่องเหล่าน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1014

    แม้ว่าต้าเย่จะมีปัญหาทั้งภายในและภายนอก แต่ความแข็งแกร่งก็ไม่อาจมองข้ามได้ หากพวกเขาต่อสู้จริง ๆ ย่อมชนะ แต่ก็จะต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกันเมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าต้าเย่จะเจ็บหนัก แต่ก็ยังมีหมานอี๋อยู่ค่อย ๆ กลืนกินต้าเย่ไปทีละน้อยแม้ว่าจะช้า แต่ก็มีความมั่นคงมากกว่า!“ในเมื่อเจ้าทั้งสองมีความตั้งใจนี้ เช่นนั้นก็เดินหน้าต่อไปเลย ทันทีที่หมานอี๋และอู๋หลิงลงมือ เราจะใช้โอกาสนี้โจมตีชายแดน เพื่อยึดครองดินแดน!”หลังจากที่เซียวฉู่ฉู่พูดจบ อากู่ต๋าก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จึงพูดว่า “ไทเฮา ข้าคิดถึงใครบางคน ... “หลังจากพูดเช่นนี้ อ๋องหลงซีก็ขมวดคิ้วแล้วสูดหายใจเข้าลึกไทเฮาย่อมทราบดีว่าเขากำลังนึกถึงใคร“เจ้าหมายถึง หวังหยวน อ๋องเป่ยหลิง...”หลังจากที่ไทเฮาพูดจบ อากู่ต๋าก็พยักหน้า“ใช่แล้ว ไทเฮา แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับหวังหยวนจะดี แต่เขาจะไม่เฝ้าดูเราโจมตีต้าเย่ ถ้าเขาขัดขวาง... ด้วยกลยุทธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขา ข้าเกรงว่า...”อากู่ต๋าชื่นชมหวังหยวนมาก!ชายคนนี้ร้ายกาจเกินไปจริง ๆ! เรื่องวางแผนการ อาจไม่มีใครในแผ่นดินเทียบได้ เขากลัวจริง ๆ ว่าหวังหยวนจะด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1015

    ในขณะนี้เซิ่งตงหยวนกล่าวว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้อู๋หลิงได้จัดการกับหมานอี๋แล้ว อาจไม่มีใครในเมืองจิงตูที่เป็นคู่ต่อสู้ของเรา ไม่เช่นนั้น หากเราไปบุกเมืองจิงเลยจะได้หรือไม่ขอรับ?”แม้ว่าแนวคิดนี้จะฟังดูเหิมเกริมมาก แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นไปได้!แต่เมื่อเซิ่งฟางสี่ได้ยินดังนั้น เขาก็ส่ายหน้า“ลูกชาย เจ้ายังคิดว่าราชสำนักต้าเย่นั้นเรียบง่ายเกินไป!”หลังจากที่เซิ่งฟางสี่พูดจบ เซิ่งตงหยวนก็สับสน“เหตุใดล่ะขอรับ ท่านพ่อ หลังจากที่อู๋หลิงจากไป แม้ว่าจะมีทหารในเมืองหลวง พวกเขาก็ไม่อาจสู้กับท่านพ่อได้!”เซิ่งตงหยวนไม่เข้าใจว่าเหตุใดพ่อของเขาถึงระมัดระวังถึงเพียงนี้“เมืองจิง นั่นคือหนึ่งในดินแดนทั้งเก้า สถานที่ที่มีป้อมปราการมากที่สุด มีเมืองล้อมรอบมากกว่าสองดินแดนของเราเสียอีก!”“แต่ละเมืองมีผู้พิทักษ์อย่างน้อยห้าพันคน!”“ดังนั้น กองทหารรักษาการณ์ในเมืองจะต้องมีจำนวนอย่างน้อยสี่หมื่นถึงห้าหมื่นคน!”“ทั้งยังมีกองทหารจักรวรรดิมากกว่าหนึ่งหมื่นนายในเมืองจิง และทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือ หากตระกูลเซิ่งของเราต้องการยึดเมืองจิง เราจะไม่สามารถทำได้ หากไม่มีคนถึงหนึ่งแสนคน!”เซิ่งฟางสี่รู้ดีว่าเมืองจิงเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1016

    เซิ่งฟางสี่พูดด้วยสายตาเยาะเย้ย“ฮองเฮาเพิ่งจะครองแผ่นดิน ด้วยการบริหารของนาง ทำให้ต้าเย่เกิดความสับสนวุ่นวาย เจ้าคิดว่าผู้คนในแผ่นดินนี้จะคิดอย่างไรกัน?”“สำหรับตระกูลเซิ่งของเรายังมีองค์ชายใหญ่อยู่ จิตใจของทุกคนก็ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาใช่หรือไม่?”แผนการของเซิ่งฟางสี่นั้นดีจริง ๆ!หากยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ ก็จะประสบความสำเร็จได้จริงๆ!“ใช่แล้ว! หากเราเผยแพร่ข่าวลือต่อไป เกรงว่าข้าราชบริพารและผู้คนในแผ่นดินจะเริ่มคิดอย่างรอบคอบจริง ๆ!”“ใช่แล้ว! เมื่อผู้คนในแผ่นดินผิดหวังในตัวฮองเฮา นางก็จะอยู่ไม่ไกลจากความล้มเหลว!”เซิ่งตงหยวนกับน้องชายยกยิ้ม พลางคิดว่าแผนการของพ่อพวกเขายอดเยี่ยมมาก!“เพราะอย่างไรเสีย ตระกูลเซิ่งของเราก็มีสถานะอันชอบธรรม เรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!”เซิ่งฟางสี่ยกยิ้มอ่อน ดูเหมือนว่าเขามั่นใจในชัยชนะในขณะนี้ เกาเล่อกลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังแล้ว สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก“คุณชาย พวกหมานอี๋ได้ดำเนินการแล้ว มีข่าวมาจากเมืองหวงว่ากองทัพชายแดนได้เคลื่อนไหวแล้ว...”เกาเล่อมาจากเมืองหวง เขาจึงคอยระวังเมืองหวงอยู่เสมอแต่เขาไม่คาดคิดว่าเมืองหวงและหมานอี๋จะตกลง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1017

    ไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้รับผลประโยชน์!ดินแดนทั้งเก้าของต้าเย่ไม่เพียงแต่สวยงามน่าหมายปองเท่านั้น!ต้องใช้เวลาและกองกำลังจำนวนมากในการโจมตี!ดินแดนทั้งเก้านั้นยากที่จะพิชิต ไม่เช่นนั้นคงไม่มีราชวงศ์มากมายในต้าเย่แต่ว่า...แม้ว่าจะยังไม่มีวิกฤติใหญ่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถละเลยการบุกรุกนี้ได้จิตใจของหวังหยวนฟุ้งซ่านในขณะนี้ พยายามคิดอย่างรอบคอบเพื่อหามาตรการรับมือหลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดเขาก็พูดออกมา“เกาเล่อ เราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“อย่าเข้าไปยุ่งหรือ? เหตุใดกัน?”เกาเล่อไม่เข้าใจ หวังหยวนไม่อยากให้ต้นต้าเย่สั่นคลอน แต่เหตุใดเขาถึงไม่เข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้?หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าเราเข้าไปแทรกแซง เราจะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเรา และทำให้ทั้งราชวงศ์ ตระกูลเซิ่ง และตระกูลไป๋เกรงกลัวเราทุกฝ่าย”“เมื่อกลัวแล้ว สถานการณ์ของเราก็จะไม่ดี”“แม้ข้าจะไม่อยากเห็นต้าเย่วุ่นวาย แต่ถ้าเราตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์จะเป็นอันตราย ข้าไม่อาจล้อเล่นกับชีวิตของพวกเจ้าได้!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1018

    อู๋หลิงรีบนำทหารทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่เมืองสู่อย่างรวดเร็ว!หลังจากมาถึงเมืองสู่ เมื่อมองจากระยะไกลก็เห็นกองทัพหมานอี๋กำลังเข้าใกล้ชายแดนจำนวนห้าหมื่นคน เหตุการณ์นี้น่าตกใจและน่ากลัวมาก!เมื่อเห็นเช่นนี้ แม้ว่าอู๋หลิงจะตกใจจริง ๆ แต่เขาก็รู้สึกกดดันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!แต่เขาไม่ได้เครียดมากเกินไป เพราะเขามีความมั่นใจในความสามารถในการต่อสู้ของตนมาก!อู๋หลิงจึงนำกองทัพเตรียมประจำการที่นี่ทันที!ในไม่ช้ากองทัพก็ประจำการ จากนั้นอู๋หลิงก็เริ่มวางแผนการรบและเริ่มฝึกทหาร!แม้ว่าอู๋หลิงจะมีคนไม่มากนัก เมื่อรวมกับเชลยศึกและคนจากตระกูลไป๋ที่ช่วยเขา ก็มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันคน ซึ่งเพียงพอที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ยิ่งฝึกฝนมากเท่าใด อู๋หลิงก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น!เขายังคงสร้างขวัญกำลังใจอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด จากนั้นจึงค่อยอธิบายให้ฮองเฮาและทั่วต้าเย่รับรู้!แต่ไม่กี่วันก็มีข่าวมาถึง!กองทหารฝ่ายศัตรูแอบเข้ามา และพยายามเผาเสบียงและหญ้า!สีหน้าของรองขุนพลจางผิงเคร่งขรึมมาก เขาโค้งคำนับ แล้วมองอู๋หลิงขณะกำมือแน่น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ขุนพลอู๋

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1019

    “มันแปลกจริง ๆ” อู๋หลิงไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเหตุใดพวกเขาถึงใช้กลอุบายเช่นนี้“เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขารู้ว่าเอาชนะพวกเราไม่ได้ จึงยอมพ่ายแพ้ด้วยการถอยทัพกลับ ไม่ยอมต่อสู้?”“เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง จึงแสร้งทำเป็นอยากทำศึกกับพวกเรา ใช้กลอุบายเล็กน้อยแล้วก็จากไปงั้นหรือ?”หลังจากได้ฟังคำพูดของจางผิง สีหน้าของอู๋หลิงก็ดูจริงจังมากในขณะนี้สายตาเขาเคร่งขรึมและมืดมน ก่อนพูดด้วยเสียงเย็นชาคนกลุ่มนี้แสร้งทำเช่นนี้มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?ขณะที่ทั้งสองคนยังคงงุนงงสับสน พวกเขาก็เห็นทหารคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ขณะยื่นจดหมายให้อู๋หลิงทันที“รายงานขุนพลอู๋ หมานอี๋ได้ส่งจดหมายมาแล้วขอรับ!”“จดหมายจากหมานอี๋หรือ?”อู๋หลิงรีบจดหมายมาเปิดอ่านด้วยความสับสน เมื่อเขาอ่านเนื้อหาในจดหมายชัดเจน สีหน้าก็ยิ่งเคร่งเครียดกว่าเดิม ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเขาจะสู้กับข้าหรือ?”“อะไรนะขอรับ?”รองขุนพลจางผิงเงยหน้าขึ้นถามด้วยความสับสน “ขุนพลอู๋ หมานอี๋มีไพร่พลมากมาย ถ้าต้องต่อสู้จริง ๆ ทั้งข้าศึกและเราจะประสบความสูญเสียอย่างหนักแน่นอนขอรับ!”“แต่เขาเพิ่งส่งจดหมายมาที่นี่ ตอนนี้เข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1020

    ทั้งสองต่างชมเชยกัน แต่แล้วจู่ ๆ อ๋องหมานอี๋ก็ยกยิ้มอย่างมีเลศนัย ขณะจ้องมองอู๋หลิงด้วยดวงตาดั่งลุกเป็นไฟ แล้วพูดเสียงเบา “ขุนพลอู๋ โชคชะตานำพาให้พวกเรามาพบกันในวันนี้”“ข้าไม่ได้อยากต่อสู้กับเจ้า คนมากมายกำลังตกที่นั่งลำบาก เจ้าควรถอยทัพออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้”“เอ๊ะ?”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของอู๋หลิงก็กลายเป็นตกตะลึงทันทีเขามองอ๋องหมานอี๋ด้วยความสับสน ทันใดนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าอ๋องหมานอี๋หมายความว่าอย่างไร เจ้าคิดว่าข้า อู๋หลิงจะกลัวเจ้างั้นหรือ?”“ฮ่าฮ่าฮ่า”อ๋องหมานอี๋แสยะยิ้ม ความเย้ยหยันในสีหน้าของเขาปรากฏชัด“ขุนพลอู๋พูดผิดแล้ว ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะเอาชนะพวกข้าไม่ได้ เพราะเจ้าทำศึกแต่ละครั้งย่อมประสบความสำเร็จ เก่งกาจทรงพลังไปทั่วทุกสารทิศ ใครบ้างไม่ทราบเรื่องนี้?”“ต้าเย่มีขุนพลผู้แข็งแกร่งเช่นเจ้า ดั่งเสาค้ำทะเลบูรพาอย่างแท้จริง!”หลังจากถ้อยคำสรรเสริญนั้นออกมาจากปากอีกฝ่าย สีหน้าของอู๋หลิงก็จริงจังมากขึ้น เขาขมวดคิ้วถามอย่างเคร่งขรึม “เช่นนั้นเพราะเหตุใด?”“มันง่ายมาก”หมานต๋าถูยกยิ้มมุมปาก แล้วพูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “ความจริงแล้ว พวกเราชาวหมา

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status