“คุณพบไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน แล้วก็ห้ามส่งเสียง ห้ามออกมาจนกว่ากว่าติ๊บจะเปิดประตูให้” พลอยชมพูลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่สนหรอกว่าจะโป๊เปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าพี่เพลิงจะรู้ว่าเธอกับเจ้านายมีอะไรเกินเลยกันแล้ว คนตัวเล็กลากร่างสูงกำยำลงมาจากเตียง พบรักลงมาแต่โดยดี ไม่ได้กลัวไอ้หมาบ้าเพลิงที่เคาะประตูอยู่หรอก แต่เขายอมลุกดีๆก็เพราะมีอาหารตาให้มองต่างหาก
“เอาเสื้อผ้าคุณพบเข้าไปด้วย” พลอยชมพูก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเขา แล้วยัดใส่มือให้ หญิงสาวรุนหลังเขาไปหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้แล้วออกแรงผลักเขาให้เข้าไป ทว่าคนตัวโตกลับไม่ยอมขยับ
“สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”
“โอ๊ย! ไม่มีเวลามาสัญญิงสัญญาอะไรแล้วค่ะ คุณพบหลบเข้าไปอยู่ในตู้ก่อนนะคะ”
“ไม่! ผมจะไม่เข้าไปอยู่ในตู้ จนกว่ากระติ๊บจะสัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”
พบรักมองสบตาคู่สวยแน่วแน่ พลอยชมพูถอนหายใจแรง คนขี้โกงมาบังคับเอาคำสัญญาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานนี่นะ
“ค่ะ ติ๊บจะไม่หนีกลับบ้าน”
พบรักยิ้มในหน้าเขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในตู้
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
“ทำไมต้องเป็นเต็นด้วยล่ะพี่ต่าย ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้!” เสียงเข้มดุของพี่ชายที่เกิดก่อนเกือบสี่ปีทำให้พลอยไพลินหน้าหงิกงอลงทันที หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดยืนข้างพี่ชาย ผู้ซึ่งเอาแต่ก้มหน้าสนใจงานในมือ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะพอใจหรือไม่พอใจกับงานที่เขามอบหมายให้ พลอยไพลินนั่งคุกเข่าลงบนพื้น สองมือเกาะพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้แน่น หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตาปริบๆมองพี่ชาย ดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ และปั้นหน้าเศร้าให้ดูน่าสงสาร “พี่กระต่ายขา...” เสียงอ้อนหวานเจี๊ยบจนน่าขนลุกทำให้เพชรนิลมองน้องสาวอย่างไม่ไว้วางใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลุบตามองคนลงทุนคุกเข่าอ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ “อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก พี่ไม่ใจอ่อนหรอก” เพชรนิลบอกเสียงเข้ม แล้วขยับนั่งตัวตรงตามเดิม สายตาคมจ้องมองงานบนหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า ไม่ชำเลืองแม้หางตาดูน้องสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน “พี่กระต่ายขา...” พลอยไพลินยังคงเกาะพนักเก้าอี้ไว้ไม่ยอมปล่อย ห
“มีเรื่องอะไรหนักใจ กระเต็นบอกพี่ได้นะครับ พี่ยินดีรับฟัง และเต็มใจเป็นที่ปรึกษาให้” ภาสกรยื่นมือออกไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาบีบเบาๆ มองหญิงสาวด้วยสายตาหวานเชื่อม พลอยไพลินยิ้มแหยๆกับการถึงเนื้อถึงตัวเธอของเขา หญิงสาวชักมือกลับช้าๆ ไม่ให้เป็นการดูเสียมารยาท “ขอบคุณพี่กรนะคะ แต่ไม่เป็นไร เต็นทำได้แน่นอนค่ะ” พลอยไพลินค่อยๆเลื่อนสองมือลงจากโต๊ะวางไว้บนตัก ซุกซ่อนมันจากการฉวยโอกาสของเขาภาสกรมองตามอย่างแสนเสียดาย เพราะแม้ว่าพลอยไพลินจะยอมรับนัดเขาบ่อยๆ หรือกระทั่งเธอเป็นคนนัดเขาเอง แต่หญิงสาวก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวเลย แม้เธอจะดูเป็นปาร์ตี้เกิร์ลแต่เธอก็ไว้ตัวราวกับนางพญา“น้องกระเต็นของพี่เก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีแน่นอน”“ค่ะ” พลอยไพลินยิ้มแหยอีกครั้งกับคำว่า น้องกระเต็นของพี่ อยากจะถามเขาเหลือเกินว่า ฉันไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไรกันยะ เธอรู้สึกว่า คิดผิดเสียแล้วที่เลือกโทรหาอีตานี่ให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวฟังเพลงตอนแรกๆที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก็เห็นเขาเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็เลยไว้ใจ
“โกหกใช่ไหม” คิ้วเข้มเลิกสูงเป็นเชิงถาม พลอยไพลินส่ายหน้าเร็ว “โกหกอะไร เต็นไม่ได้โกหกนะคะ เรารีบออกไปดูที่ลานจอดรถกันเถอะค่ะ เผื่อโจรมันจับยัยติ๊บไปด้วย” วาโยส่ายหน้าน้อยๆ แล้วถอนหายใจ ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้เคาะสองครั้งเบาๆที่ข้างใบหูตนเอง ขณะที่สายตาดุไม่ละไปจากใบหน้าของคนที่เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาตามมือ พลอยไพลินเบิกตากว้างเมื่อเห็นหูฟังแบบไร้สายที่เชื่อมต่อกับวิทยุสื่อสารติดอยู่กับใบหูเขา หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าว มองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ “เอ่อ...ลูกน้องพี่โยว่าไงบ้างคะ จะ...จับโจรได้แล้วใช่ไหมคะ” วาโยส่งเสียงหึในลำคอ ก้าวเท้าเข้าหาร่างบอบบางในชุดราตรีเกาะอกยาวกรอมเท้าสีเข้ม ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มให้ดูสวยเด่นกว่ายามปกติปกปิดความซีดเผือดของสีหน้าได้เป็นอย่างดี หากแต่แววตาหลุกหลิกของคนทำผิดกลับแสดงออกชัดเจนว่ามีเรื่องปิดบังอยู่ “พี่รู้ว่ากระเต็นโกหกตั้งแต่เดินยังไม่ถึงห้องนี้ด้วยซ้ำ ลูกน้องพี่รายงานมาแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี” วาโยบอกเสียงเข้ม ใบหน้าเรียบเฉยไร้การแสดงออกซึ่งอารมณ์ใดๆของเขาทำให้พลอยไพลินหายใจไม่ทั่วท้อง “เต็นไม่ได้โกหก” “หลอกพี่
กรี๊ด! ที่ไหนก็ไม่ได้ คนหน้ามึน คนเอาแต่ใจ ตัวไม่ใช่แฟนเค้านะ จะมาจูบเค้าเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ พลอยไพลินกรีดร้องอยู่ในใจ เธอเป็นสาวมั่น ออกจะก๋ากั่นในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลับกลายเป็นสาวน้อยไร้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา พี่โยทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้เธอหงอ จนพ่อแม่พี่น้องหรือใครๆต่างก็คิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่เก่งทำให้เธอเชื่อฟังได้ ขนาดพี่ชายแท้ๆของเธอยังยอมให้เขาจัดการเธอได้ตามแต่เห็นสมควรเลย ทุกคนเชื่อใจเขาจนเธอหมั่นไส้ เธออยากจะเปิดโปงความจริงว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดี เขาเป็นพี่ชายที่คิดไม่ซื่อกับน้องสาวอย่างเธอต่างหาก“พี่โยขยับไปนั่งดีๆสิคะ จะมานั่งเบียดเต็นทำไม” แม้ในใจจะเดือดปุดๆ แต่พลอยไพลินพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดกับเขาดีๆ“จุ๊บพี่ทีหนึ่งก่อน แล้วพี่จะยอมทำตามที่เต็นบอก”“พี่โย!” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง อยากจะเลื่อนมือขึ้นไปบีบคอเขานักวาโยเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม รอคอยด้วยความมั่นใจว่า หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของเขาแน่นอนพลอยไพลินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจห
“หลับตาสิคะ” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นน้อยๆ คนรอจูบหลับตาลงอย่างว่าง่าย วาโยยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อร่างอรชรขยับเข้าแนบชิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าดื่มด่ำกำซาบกับกลิ่นหอมจากกายสาวจนชุ่มปอด และเมื่อริมฝีปากนุ่มๆอุ่นๆแนบประกบ เขาก็เผยอปากรับอย่างเต็มใจเป็นที่สุด“อื้อ!” พลอยไพลินประท้วงในลำคอ เพราะเพียงแค่เธอแตะแต้มริมฝีปากลงบนปากหยักได้รูป ก็ถูกเขาใช้มือแข็งแรงตรึงท้ายทอยไว้แน่น วงแขนอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรวบเอวคอดเกี่ยวกอดเธอจนเกยขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง จูบของพี่โยเร่าร้อนราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ลงตรงนี้ จูบของเขาเรียกร้องเอาแต่ใจ หวามหวานซาบซ่านราวกับจะหลอมเธอให้ละลายคาอก กระนั้นคนที่ถูกทำโทษด้วยการจูบมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังจูบตอบอย่างเท่าเทียม เสียงครางระงมในลำคออีกฝ่ายทำให้หญิงสาวฮึกเหิม เขาไม่ได้ทำให้เธอหัวหมุนอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ทำให้เขาหัวหมุนได้เหมือนกัน“กระเต็น!” วาโยถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย เขาดันบ่าบอบบางออก จ้องตาเธอในระยะใกล้ ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่หยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจเลยเถิดไปไกลสุดกู่ เขายังไม่อยากล่วงเกินน้องมากไปกว่านี้“เก่งเ
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม
“คุณพบไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน แล้วก็ห้ามส่งเสียง ห้ามออกมาจนกว่ากว่าติ๊บจะเปิดประตูให้” พลอยชมพูลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่สนหรอกว่าจะโป๊เปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าพี่เพลิงจะรู้ว่าเธอกับเจ้านายมีอะไรเกินเลยกันแล้ว คนตัวเล็กลากร่างสูงกำยำลงมาจากเตียง พบรักลงมาแต่โดยดี ไม่ได้กลัวไอ้หมาบ้าเพลิงที่เคาะประตูอยู่หรอก แต่เขายอมลุกดีๆก็เพราะมีอาหารตาให้มองต่างหาก“เอาเสื้อผ้าคุณพบเข้าไปด้วย” พลอยชมพูก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเขา แล้วยัดใส่มือให้ หญิงสาวรุนหลังเขาไปหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้แล้วออกแรงผลักเขาให้เข้าไป ทว่าคนตัวโตกลับไม่ยอมขยับ“สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”“โอ๊ย! ไม่มีเวลามาสัญญิงสัญญาอะไรแล้วค่ะ คุณพบหลบเข้าไปอยู่ในตู้ก่อนนะคะ”“ไม่! ผมจะไม่เข้าไปอยู่ในตู้ จนกว่ากระติ๊บจะสัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักมองสบตาคู่สวยแน่วแน่ พลอยชมพูถอนหายใจแรง คนขี้โกงมาบังคับเอาคำสัญญาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานนี่นะ“ค่ะ ติ๊บจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักยิ้มในหน้าเขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในตู้
“อยู่กับผมนะครับ” เสียงกระซิบทุ้มนุ่มของพบรักทำให้คนที่หลับอยู่บนอกเขาครางงึมงำขยับตัวเล็กน้อย คนเข้าข้างตัวเองตีความเอาว่านั่นคือเสียงตอบรับจากเธอ พลอยชมพูขยับตัวไล่ความเมื่อยขบที่เกาะกินไปทั้งสรรพางค์กาย ความอบอุ่นที่แนบชิดอยู่ทำให้เธอไม่อยากตื่น ในห้วงฝันเลือนรางเธออิ่มเอมสุขล้ำเสมือนจริงเสียจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเพียงความฝัน หญิงสาวถอนหายใจบางเบา ซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นอีกนิด ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานละมุน จนคนที่ตื่นก่อนและแอบมองเธออยู่นานแล้วพลอยยิ้มตามไปด้วย “ตื่นได้แล้วครับ สายแล้ว” เสียงกระซิบอยู่เหนือศีรษะทำให้คนที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งขมวดคิ้วมุ่น พลอยชมพูลืมตาขึ้นแล้วกะพริบปริบๆ หญิงสาวกลอกตาไปมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนก้มสำรวจมองตัวเอง แต่เพียงแค่ขยับก็รับรู้ได้ว่าเธอไม่ได้นอนอยู่คนเดียว ใบหน้างามค่อยๆแหงนเงยขึ้นมองเจ้าของเสียงที่ปลุกเธอเมื่อครู่ ใบหน้าคุ้นเคยที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบทำใ
“โอ้ว! กระติ๊บ” พบรักขบกรามแน่น แหงนเงยหน้าขึ้น เส้นเลือดลำคอปูดโปนเด่นชัด เขาต้องใช้ความอดทนอย่างที่สุด ที่จะไม่บุกทะยานไปข้างหน้า“ชู่ว์...อยู่นิ่งๆนะครับ” พบรักสอดมืออีกข้างลงใต้แผ่นหลังเนียน กอดเธอแนบแน่น ทิ้งน้ำหนักตัวลงกดทับเธอไว้ทั้งหมด เพื่อกักกันให้เธอสงบนิ่ง กระทั่งมือที่ทั้งจิกข่วนผลักไสเขาเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นโอบกอดรัดรอบตัวเขาไว้ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจบางเบา พรมจูบบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อ พร่ำคำปลอบโยนให้เธอคลายความตื่นตระหนก“ดีขึ้นไหมครับ” พบรักถามเสียงเอื้อเอ็นดู เขาผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าน่ารัก เธอหลับตาพริ้มหอบหายใจหนัก“ไม่ดีเลยค่ะ” พลอยชมพูเบะปากคล้ายจะร้องไห้ เธออึดอัด และคับแน่นเหมือนจะปริแตก“มันจะดีหลังจากนี้” พบรักบอก พร้อมกับเริ่มส่ายวนสะโพกโยกคลึงตัวตนในแอ่งเนื้อแน่นหนึบ พลอยชมพูลืมตาขึ้น มองสบสายตาคมอย่างสงสัยใคร่รู้ เพียงแค่เขาเคลื่อนไหวเนิบนาบบนตัวเธอ ก็ก่อเกิดความแปลบปลาบหวามไหว ท้องน้อยแขม่วเกร็ง กล้ามเนื้อในร่องรักสาวตอดรัดความเป็นชายหนุบหนับ กลีบเนื้ออ่อนเหมือนขยับตอบรับสิ่งที่เขาทำ เธอรู้สึกเสียววาบในช่องท้อง แล้วความเจ็บเมื่อสั
เขาตวัดปลายลิ้นเหนือปุ่มที่ไวต่อสัมผัส เสียงครางแว่วหวานทำให้เขารัวลิ้นเร็วขึ้น เขาหงายฝ่ามือ ค่อยๆสอดนิ้วกลางเข้าสู่ช่องทางที่บีบรัดแน่นหนึบจนสุดโคนนิ้ว แช่นิ่งเพียงครู่ ก่อนชักออกสอดเข้าเชื่องช้า และเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงน้ำในแอ่งเนื้อนุ่มปะทะฝ่ามือใหญ่ดังหยาบโลนต่อเนื่องพลอยชมพูหวีดร้องเสียงหลง ใบหน้าแหงนเชิด หลับตาแน่น ร่างสาวสั่นสะท้านหวามไหว เมื่อถูกเขาเร่งเร้าผลักส่งจนใกล้ถึงจุดสิ้นสุดความอดทน บั้นท้ายอวบอัดแอ่นหยัดลอยเหนือที่นอน หัวใจกระตุกวูบ ให้ความรู้สึกราวกับร่วงหล่นจากที่สูง วูบไหว วาบหวิว ดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ เธอไม่รู้ว่าก้นบึ้งของหุบเหวกามานี้จะสิ้นสุดตรงไหน หญิงสาวกรีดร้องระงมให้กับความรู้สึกเสียวสะท้านแทบขาดใจ กระทั่งพบรักรวบดูดสัดส่วนหวงแหนของเธอเต็มปากแนบแน่น และกระทุ้งนิ้วสุดแรงครั้งสุดท้าย พลอยชมพูสะท้านเฮือก กรีดร้องสุดเสียง หญิงสาวปลดปล่อยตัวเองให้แตกซ่านหลั่งน้ำสวาทหยาดเยิ้ม ก่อนทิ้งตัวลงแนบที่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรงราวกับอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ลอยคว้างบางเบาอยู่ท่ามกลางปุยเมฆนุ่มขาว สุขสม ผ่อนคลาย พลอยชมพูหลับตา หอบหายใจหนักเพียงครู่ ก่อ
พบรักถอนจูบอ้อยอิ่ง คลอเคลียใบหน้ากับดวงหน้าใส ทั้งเขาและเธอหอบหายใจหนักพอกัน จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เร่าร้อนที่ปะทุรุนแรงอยู่ภายใน แต่เธอกำลังสับสนกับความต้องการที่ถูกเขาปลุกเร้าขึ้นมา “กระติ๊บ” พบรักเรียกเสียงแตกพร่า เขาเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวผ่อง พลอยชมพูกึ่งรู้ตัวกึ่งหลับ มันเหมือนฝันมากกว่าที่จะเป็นความจริง แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวเอาเสียเลย ความวาบหวิวถูกปลุกให้ตื่นเพริด จูบอ่อนหวานเรียกร้องทำให้เลือดในกายสาวแล่นพล่าน สัมผัสจากมือระอุร้อนทำให้เธอสั่นสะท้าน สัดส่วนลี้ลับในกายสาวปวดหน่วงบีบรัดตอบสนองต่อการปลุกเร้า หญิงสาวบิดกายน้อยๆ ครางเสียงหวานแผ่วเบา ต่อเมื่อเต้าทรวงอวบอิ่มถูกปากร้อนครอบครองเชยชม สองมือบางก็ยกขึ้นขยุ้มเส้นผมดกหนาของคนที่ซุกซบอยู่แนบอก แผ่นหลังแอ่นโค้งเย้ายวนโดยไม่รู้ตัว “อืม...” ในความสับสนแสนร้อนรุ่ม พลอยชมพูถูกชักนำได้โดยง่าย เธอเหมือนเด็กน้อยที่ถูกล่อลวงด้วยขนมหวาน รสชาติของมันละมุนลิ้นแต่แฝงไว้ด้วยความหวานหวามน่าลิ้มลอง ผู้
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ