น้ำเสียงที่ดูแสนจะผิดหวังดังเล็ดลอดเข้ามาทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่อยู่ภายในบ้านเผลอได้ยิน ก่อนจะเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าของกัน และกันด้วยความตกใจ
"ใบพัด! แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"กลับมาตั้งแต่ที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน เรื่องที่เอาบ้านไปจำนอง หนูเพิ่งเอาบ้านออกมาจากธนาคารโดยใช้เงินไปเป็นล้าน ไม่ว่าหนูจะทำงานหาเงินมาได้มากมายขนาดไหน มันก็ไม่เพียงพอที่จะใช้หนี้ให้กับที่บ้าน"
มือเล็กกำซองเงิน 200,000 บาทที่เพิ่งได้มาเอาไว้แน่น ทั้งชีวิตหาเงินได้ไม่รู้กี่ล้านบาท เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจนเอาตัวเองแทบไม่รอด แต่ทว่ากลับไม่เคยได้ใช้มันซื้อความสุขให้กับตัวเองเลย ต้องเอามาใช้หนี้ให้กับความไม่รู้จักพอของครอบครัว ติดหนี้การพนันมีอะไรก็เอาไปขายหมด ไม่รู้ว่าเวรกรรมตั้งแต่ชาติปางไหนถึงทำให้เธอตกอยู่ในชีวิตที่ลำบากมากมายขนาดนี้
"แกฟังพ่อกับแม่ก่อนนะ พ่อแกนั่นแหละเอาบ้านไปจำนองแล้วก็ไปเล่นพนัน แม่ไม่รู้เรื่องเลยนะ"
"แต่แกก็เอาเงินส่วนหนึ่งไปกินเหล้ากับเพื่อนนะ จะมาโทษฉันฝ่ายเดียวได้ยังไง"
สองสามีภรรยาหันไปทะเลาะกันต่อหน้าลูกสาว พวกเขาควรจะนึกถึงลูกให้มาก อาชีพของเธอเป็นงานที่เสี่ยงต่อชีวิตของตัวเอง และถ้าวันหนึ่งคนพวกนั้นจับได้ว่าเธอเป็นใครขึ้นมา รับรองว่าอาจจะไม่มีชีวิตได้หายใจอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป แทนที่จะช่วยกันเก็บเงินเพื่อให้เธอหลุดพ้นจากอาชีพพวกนั้น แต่กลับต้องเอาตัวเองไปทำงานที่เสี่ยงมากกว่าเดิม เพื่อให้ได้เงินจำนวนมากในการมาใช้หนี้
"หนูไม่โกรธพ่อกับแม่หรอกค่ะ อยากจะเอาอะไรในบ้านไปขายก็ทำเลยค่ะ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าหนูหาเงินได้เยอะ อาชีพเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมันหาเงินได้เยอะนี่ พ่อกับแม่ก็เลยไม่ได้รู้สึกเสียดาย และก็ยังทำอีกเรื่อยๆ เพราะรู้ว่ายังไงหนูก็ต้องหาเงินมาจ่าย ไม่ต้องห่วงนะคะหนูจะเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อพวกมาเฟียเลวๆ เพื่อที่จะได้เงินมาก้อนใหญ่ เอามาจ่ายหนี้ที่พ่อกับแม่สร้างไว้ และถ้าวันใดที่หนูไม่กลับมาเหยียบที่นี่ ก็รู้ไว้นะคะว่าหนูตายไปแล้ว ถึงตอนนั้นหวังว่าพ่อกับแม่จะเลิกเป็นแบบนี้สักที"
ใบหน้าของเธอมีแต่ความเหนื่อยล้า และก็รู้สึกท้อแท้กับชีวิตที่เป็นอยู่ ครอบครัวไม่เคยซัพพอร์ตอะไรแม้แต่อย่างเดียว แต่หญิงสาวเองก็ไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย ก้มหน้าก้มตาทำงานเพื่อที่จะให้ครอบครัวสามารถลืมตาอ้าปากได้ เพียงแค่พวกท่านทั้งสองคนคิดได้ ช่วยเธอเก็บเงิน ป่านนี้คงร่ำรวยมีเงินเก็บหลายล้านแล้ว
"ทำไมเอ็งพูดแบบนั้นล่ะ พ่อขอโทษหลังจากนี้พ่อจะไม่ทำอีกแล้ว"
พ่อเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด ถึงปากจะบอกว่าจะไม่ทำอีกแต่เขาไม่เคยที่จะทำได้เลย และยิ่งลูกหาเงินไม่ได้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งใช้จ่ายเยอะมากขึ้นเท่านั้น แถมยังฟุ่มเฟือยไปกับเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะการเล่นหวย พนัน ชนไก่ สิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยคิดที่จะเลิกได้เลย
"ทำต่อสิคะพ่อไม่ต้องเลิกหรอก ถ้ามันเป็นความสุขของพ่อแม่ก็ทำไปเถอะค่ะ หนูจะหาเงินมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้กรรมเวรมันจบกันแค่ชาตินี้ก็พอ ชาติหน้าหนูจะได้ไม่ต้องมาชดใช้อีก"
พูดจบหญิงสาวก็เดินขึ้นห้องของตัวเองไปในทันที ไม่คิดเลยว่าชีวิตครอบครัวของตัวเองจะเลวร้ายมากมายขนาดนี้ ประตูห้องนอนถูกเปิดออกก่อนจะเอาตัวเองก้าวเข้าไปอยู่ข้างใน และเมื่อประตูปิดลง ใบหน้าสวยก็ร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้า
"ฮืออออออ ทำไมชีวิตของฉันต้องมาเจอครอบครัวแบบนี้ด้วย ฮึก!"
จากที่เธอเคยบ่นเคยบอกครอบครัวตลอดทุกวันให้หยุดทำเรื่องพวกนี้ จนตอนนี้เธอรู้สึกท้อเพราะว่าพูดอะไรไปก็เหมือนเป็นอากาศ หลังจากนี้เธอจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ชดใช้กับทุกสิ่งเพื่อให้มันจบเพียงแค่ชาตินี้ และชาติหน้าฉันใดขอให้เธออย่าเกิดมาในครอบครัวแบบนี้อีกเลย
วันต่อมา...
คุณพ่อกับคุณแม่รู้สึกผิดกับลูกสาวจึงรีบตื่นนอนขึ้นมา เข้าครัวแต่เช้าเพื่อทำของโปรดของลูก และอยากจะเอ่ยขอโทษที่ทำทุกอย่างพังไปหมด
"เอ็งใส่หมูไปเยอะๆ เลย ติดมันแบบนั้นแหละไอ้ใบมันชอบ"
"ฉันรู้แล้วน่า พี่จะพูดเยอะทำไมเนี่ย"
"ก็อยากจะช่วย"
"ถ้าอยากช่วยก็ไปล้างจานโน้น ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายหน้าเตา ฉันจะหงุดหงิดออกคำสั่งอยู่ได้"
สองสามีภรรยาทะเลาะเบาะแว้งกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพียงแค่อยากจะทำของอร่อยให้ลูกสาวกิน แต่ดูเหมือนว่าพูดอะไรนิดหน่อยก็จะต้องขัดใจกันตลอด
ทางด้านของใบพัดเธอตื่นนอนแต่เช้าเพื่อที่จะไปหารุ่นพี่ที่บ้าน เพราะว่าอยากจะหางานทำเสริมเนื่องจากว่าช่วงนี้เธอไม่ได้รับงานสายลับ จึงจำเป็นที่จะต้องทำงานอย่างอื่นเพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ให้ที่บ้าน
เธอเดินถือกระเป๋าลงมาจากห้องนอนด้วยสภาพอดหลับอดนอน ร้องไห้แทบทั้งคืนแต่เหมือนจะได้สติว่าทรมานตัวเองไปก็เท่านั้น เพราะท้ายที่สุดก็ไม่มีใครสงสารเธออยู่ดี
"ไอ้ใบเอ็งตื่นแล้วเหรอ มากินข้าวก่อนสิแม่ตื่นมาทำตั้งแต่เช้าเลย"
"พ่อกับแม่กินเถอะจ้ะ ฉันจะต้องออกไปทำงานข้างนอก คราวนี้น่าจะไปนานอยู่นะ คงเป็นอาทิตย์แหละไม่ต้องเป็นห่วงนะ นี่เงิน 200,000 บาท ฉันเพิ่งทำงานมาได้เมื่อคืน จะเอาไปเล่นพนัน หรือว่าจะเอาไปใช้หนี้ก็แล้วแต่นะ"
เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับขอบตาที่มันเริ่มมีน้ำเอ่อล้น หญิงสาวรีบกะพริบตาปริบเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อไม่ให้ใครได้เห็นน้ำตาของตัวเอง มือเล็กที่ถือซองสีน้ำตาลมีเงินอยู่ในนั้นปึกใหญ่ วางลงบนโต๊ะตรงหน้าของพ่อกับแม่ ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน และกัน บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบซึ่งทั้งคู่พูดอะไรไม่ออก
"ทำไมครั้งนี้ถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่เลวที่สุดเลยวะ"
"เพิ่งรู้ตัวหรือไง เพราะพี่นั่นแหละทำให้ลูกเป็นแบบนี้ ถ้าพี่ไม่ติดพนันเอาเงินที่บ้านไปถลุงหมด ลูกก็คงไม่ต้องไปทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบนี้"
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิด และไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ครอบครัวของเธอจะหยุดสร้างเรื่องสร้างราวเสียที เพราะเธอเองก็เริ่มที่จะรับไม่ไหวแล้ว...
ใบพัดขับรถออกมาที่บ้านของรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน และเขาเป็นคนคอยป้อนงานให้เธอทุกอย่าง เมื่อก่อนหญิงสาวเป็นตำรวจที่เก่งมาก แต่ทว่ารายได้กลับไม่เพียงพอที่จะดูแลครอบครัวได้ เธอจึงเลือกที่จะลาออก และผันตัวมาทำงานเป็นสายลับ แน่นอนว่าเป็นอาชีพพิเศษแต่ได้เงินเยอะมาก นึกสภาพถ้าเกิดว่าครอบครัวของเธอไม่ทำตัวแบบนี้ ป่านนี้เธอคงมีเงินมากพอที่จะตั้งตัว หาอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่งได้โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงินกริ่ง!หญิงสาวกดกริ่งอยู่ที่หน้าบ้านของรุ่นพี่ แค่เพียงไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับใบหน้างัวเงีย หัวฟูเนื่องจากว่ายังไม่ได้หวีผมเลยด้วยซ้ำ เพราะ ณ เวลานี้เป็นเวลาเช้าตรู่ ซึ่งโดยปกติเธอจะไม่มาหาเขาที่นี่"อะไรของแกเนี่ยไอ้ใบ นี่มันเพิ่งจะกี่โมงกี่ยามทำไมแกมาแล้ว ปกติตื่นสายไม่ใช่เหรอ ทำไมสภาพเป็นแบบนั้นล่ะเกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าพ่อแม่สร้างเรื่องอีกแล้ว"และเมื่อรุ่นพี่เห็นสภาพของรุ่นน้องก็รีบเอ่ยทักทายด้วยความเป็นห่วง เขารู้ว่าครอบครัวของหญิงสาวเป็นอย่างไร แต่ทว่ากลับช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่หางานดี ๆ ให้ทำ เธอจะได้มีเงินไปใช้จ่ายเกี่ยวกับครอบครัว แต่ดูเหมือนว่าทางนั้นจะไม่คิดสงสารลูกเลยแ
ใบพัดขับรถมาถึงที่ท่าเรือของ Pandorica หญิงสาวฝากไว้กับโกดังรับฝากรถ จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินออกมายังท่าเรือ จ้องมองไปยังเรือสำราญลำใหญ่ที่จอดอยู่ตรงท่า ซึ่งตอนนี้กำลังลำเลียงขนของลงไปใต้ท้องเรือ โดยที่บรรดาลูกค้าทั้งหลายก็ขึ้นไปเชยชมบรรยากาศภายในนั้น หรูหราสมกับเป็นเรือราคาหลักหมื่นล้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในนั้นมีพร้อมทุกอย่าง ไม่รู้ว่าชาตินี้เธอจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของท่าเรือ และก็เรือสำราญแบบนี้หรือเปล่า ต้องทำบุญมามากมายขนาดไหนถึงได้เป็นเจ้าของสถานที่แบบนี้ได้"เฮ้อ!"เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความ แล้วตอนนี้คนรู้จักของพี่ชายคนสนิทให้เธอไปหาข้างในเรือสำราญ เธอเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเจอผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวชุดเดรสสีขาวดูเซ็กซี่ ยืนรออยู่ตรงหน้าทางเข้า"สวัสดีค่ะ ใช่พี่ปีโป้หรือเปล่าคะ"น้องชื่อใบพัดใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าทันทีก่อนจะยกมือไหว้พี่ปีโป้ ซึ่งคนนี้คือคนที่รุ่นพี่ของเธอได้บอกไว้ ว่าเป็นคนรู้จักที่สนิทกัน และถ้าเธอจะเข้ามาทำงานที่นี่ก็ต้องผ่านผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าเธอเป็นผู้จัดการที่บาร์ในเรือสำราญแห่งนี้"ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ""สวัสดีจ้ะ สวยใช้ได้เลยนะเนี่ยเรา ไปอยู
ใบหน้าสวยจ้องมองไปยังชายตรงหน้าด้วยแววตายั่วยวน ริมฝีปากเล็กเอื้อนเอ่ยคำหวานออกมาพร้อมกับส่งแก้วไวน์ไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า"ดื่มก่อนสิคะ เดี๋ยวเราจะได้ไปสนุกกันต่อ""หึ... ฉันอดใจไม่ไหวแล้วนะ"เจ้าพ่อมาเฟียร่างหนาดูกำยำยื่นมือไปโอบเอวของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าหื่นกระหาย เขาอยากจะเชยชิมผู้หญิงตรงหน้าจะแย่แล้ว แต่ทว่าเธอยังคงเล่นตัวไม่ยอมให้เขาจัดการสักที"ใจเย็นก่อนสิคะ คุณจะรีบไปไหนล่ะ เราจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนอยู่แล้วนี่คะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งแก้วไวน์ไปให้เขายกขึ้นดื่มจนหมด ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อมาเฟียจะดื่มแอลกอฮอล์ไปเยอะพอสมควร จึงทำให้ตอนนี้รู้สึกร้อนรุ่มเปลือกตาเริ่มหย่อน ปฏิกิริยาภายนอกเริ่มแสดงอาการง่วงซึมอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาสะบัดหน้าไล่ความง่วงออกไป หันไปจ้องมองหญิงสาวที่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างหื่นกระหาย และก่อนที่จะได้พูดอะไรเขาก็ล้มลงสลบเหมือดบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อย"ปิดดีล..."หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอขยับตัวลุกขึ้นล็อคประตูห้องให้แน่นหนา ก่อนจะเดินไปอีกฝั่ง ออกไปยังระเบียงห้อง จากนั้นพยายามปีนข้ามไปห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องที่เธอจะต้องเข้าไปเอาความลับบ