ใบพัดขับรถออกมาที่บ้านของรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน และเขาเป็นคนคอยป้อนงานให้เธอทุกอย่าง เมื่อก่อนหญิงสาวเป็นตำรวจที่เก่งมาก แต่ทว่ารายได้กลับไม่เพียงพอที่จะดูแลครอบครัวได้ เธอจึงเลือกที่จะลาออก และผันตัวมาทำงานเป็นสายลับ แน่นอนว่าเป็นอาชีพพิเศษแต่ได้เงินเยอะมาก นึกสภาพถ้าเกิดว่าครอบครัวของเธอไม่ทำตัวแบบนี้ ป่านนี้เธอคงมีเงินมากพอที่จะตั้งตัว หาอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่งได้โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน
กริ่ง!
หญิงสาวกดกริ่งอยู่ที่หน้าบ้านของรุ่นพี่ แค่เพียงไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับใบหน้างัวเงีย หัวฟูเนื่องจากว่ายังไม่ได้หวีผมเลยด้วยซ้ำ เพราะ ณ เวลานี้เป็นเวลาเช้าตรู่ ซึ่งโดยปกติเธอจะไม่มาหาเขาที่นี่
"อะไรของแกเนี่ยไอ้ใบ นี่มันเพิ่งจะกี่โมงกี่ยามทำไมแกมาแล้ว ปกติตื่นสายไม่ใช่เหรอ ทำไมสภาพเป็นแบบนั้นล่ะเกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าพ่อแม่สร้างเรื่องอีกแล้ว"
และเมื่อรุ่นพี่เห็นสภาพของรุ่นน้องก็รีบเอ่ยทักทายด้วยความเป็นห่วง เขารู้ว่าครอบครัวของหญิงสาวเป็นอย่างไร แต่ทว่ากลับช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่หางานดี ๆ ให้ทำ เธอจะได้มีเงินไปใช้จ่ายเกี่ยวกับครอบครัว แต่ดูเหมือนว่าทางนั้นจะไม่คิดสงสารลูกเลยแม้แต่นิดเดียว เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ถึงได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวแบบนั้น
"มีงานให้หนูทำไหม"
"เดี๋ยวก่อนนะฉันเพิ่งให้แกไป 200,000 บาท มาหางานทำอีกแล้วเหรอ พักบ้างดีไหมเดี๋ยวก็น็อคตายหรอก"
อาตี๋ถึงกับกุมขมับเมื่อใบพัดมาหางานทำอีกแล้ว การสายลับไม่ใช่ว่าจะมีงานทุกวัน แล้วถ้าเกิดว่างานไหนที่เสี่ยงอย่างเช่นเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพวกมาเฟีย เธอจะต้องหลบซ่อนเก็บตัวอยู่เป็นอาทิตย์ เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยถึงจะออกมาทำงานต่อไป แต่นี่เพิ่งจะข้ามวันมาหางานทำอีกแล้ว
"พ่อกับแม่ฉันแล้วบ้านไปจำนองอีกแล้ว คราวนี้น่าจะหลายแสน ก่อนออกมาวางเงินให้ 200,000 บาท ไม่รู้ว่าจะเอาไปเล่นพนันหรือจะเอาไปใช้หนี้"
ใบหน้าสวยดูเหนื่อยล้า ดูเหมือนเธอจะไม่บ่น หรือพูดว่ากล่าวอะไร แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะรู้สึกดี และไม่ได้เครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพียงแค่คิดว่าทำงานใช้หนี้ให้พ่อแม่ไปวัน ๆ เพื่อที่วันหนึ่งเธอจะหลุดพ้นจากเรื่องราวพวกนี้สักที
"พี่ว่าแกพอเถอะ ไม่ต้องเอาเงินไปให้อีกแล้ว ปล่อยครอบครัวเขาได้เรียนรู้บ้าง"
"ฉันทิ้งพ่อกับแม่ไม่ได้หรอกพี่ก็รู้ ฮือออ"
หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับร้องไห้โฮเสียงดังลั่น อาตี๋ต้องดึงเธอให้เข้าไปในบ้าน เพราะไม่อย่างนั้นข้างบ้านจะได้เอากระทะมาปาไล่ เนื่องจากว่ามาร้องไห้เสียงดังลั่นรบกวนคนอื่นตั้งแต่เช้าตรู่
"แกจะเสียงดังทำไมเนี่ยเข้ามาก่อน"
"สรุปว่ามีงานอะไรให้ทำไหม ฉันอยากทำงาน"
"มี... แต่ว่าลงเรือสำราญนะ งานสายลับอะไรไม่มีหรอก ประมาณ 2 อาทิตย์ เงินดีอยู่นะเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่บาร์บนเรือสำราญ รายวัน 3,000บาท แต่ว่าทิปน่าจะหนักอยู่"
เมื่อหญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็ตาโต และรีบพยักหน้าตกลงทันที ไม่ว่าจะเป็นเงินหลักพัน หรือหลักหมื่นเธอก็ไม่เคยดูถูก และไม่ว่าจะเป็นงานอะไรหญิงสาวก็ทำได้ทั้งนั้น
"เอาสิ แล้วต้องไปที่ไหนล่ะ"
"เดี๋ยวส่งโลเคชั่นให้ ถ้าอย่างนั้นแกรีบเดินทางไปเลยเพราะว่าเรือสำราญใกล้จะออกแล้ว เดี๋ยวพี่โทรไปบอกคนรู้จักที่อยู่ในนั้นให้"
ใบพัดจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่ด้วยความซาบซึ้งใจ เขายังคงดีกับเธอแบบนี้เสมอ แล้วไม่ว่าหญิงสาวต้องการอะไรเขาก็จะคอยซัพพอร์ตช่วยหางานมาให้ทำอยู่ตลอด
"ขอบคุณมากเลยนะพี่อาตี๋ เอาไว้จบจากงานนี้ฉันจะมารับงานสายลับต่อนะ"
"รีบไปก่อนเถอะไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้น แกควรจะพักงานเสี่ยงตายบ้างนะ คนเราไม่ได้โชคดีแบบนี้ตลอดไปหรอก ถ้าวันหนึ่งถูกจับได้ขึ้นมามันไม่คุ้มกับเงินที่ได้หรอกนะ"
อาตี๋เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง ผู้หญิงที่สวยและมีทัศนคติที่ดี ไม่ควรที่จะเกิดมาพบเจอกับครอบครัวที่ toxic ขนาดนี้ แต่ก็นั่นแหละกรรมใครกรรมมัน บางทีเจ้ากรรมนายเวรอาจจะมาในรูปแบบของพ่อแม่ ซึ่งถ้าเกิดว่าใบพัดขาดการติดต่อ และหนีออกไปเลย ทุกคนก็คงจะมองว่าเธอเป็นเด็กอกตัญญู ทั้งที่ผ่านมาเธอพยายามทำดีที่สุดแล้ว
"ตายไปเสียได้ก็ดี ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่แล้ว"
"พี่ไม่อยากให้แกคิดแบบนั้นเลยนะใบพัด คนดี ๆแบบแกจะต้องได้เจอคนที่พร้อมจะปกป้อง พี่เชื่อว่าแกจะเจอเร็ว ๆ นี้"
"ฉันไม่เอาตัวเองไปเป็นภาระของใครหรอก ถ้าอย่างนั้นหนูไปก่อนนะพี่ชาย"
ใบพัดยิ้มออกมาก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากบ้านทันที ตอนนี้มีงานอะไรให้ทำเธอก็ทำทุกอย่างแหละ จะให้อยู่เฉยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเธอทำงานมาตั้งแต่เด็ก แล้วถ้าวันนึงไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉย ๆ ก็คงจะรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไป
ทางด้านของท่าเรือ Pandorica ในตอนนี้กำลังลำเลียงสินค้าขึ้นไปไว้ใต้ท้องเรือ นอกจากเรือสำราญที่หรูหรามีทุกสิ่งครบครันอยู่ในนั้น นายใหญ่แห่ง Pandorica ยังทำธุรกิจขนสินค้าให้กับพวกมาเฟีย โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นของอันตราย อย่างเช่นพวกอาวุธ ซึ่งเป็นการจ่ายในราคาที่หนักเขาถึงยอมที่จะขนสินค้าให้ ยกเว้นพวกยาเสพติดที่เขาไม่ค่อยอยากจะยุ่งวุ่นวายเท่าไหร่ ในบรรดาคนรู้จักของเขารวมถึงเพื่อนสนิทอีกสามคน ไม่มีใครข้องเกี่ยวกับธุรกิจที่เป็นสีดำ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเทาพวกเขาเหยียบเท้าลงไปข้างหนึ่งแล้ว
"อาวุธพวกนี้ไปส่งที่ท่าเรือของ Allyga ตรงจุดนั้นลูกค้าบนเรือจะขึ้นฝั่งไปที่คาสิโน ระหว่างนั้นก็ขนสินค้าลงได้เลย"
"รับทราบครับนายใหญ่ ว่าแต่นายใหญ่จะไปด้วยตัวเองไหมครับ"
"งานนี้ค่อนข้างใหญ่ ฉันจะลงไปตรวจงานด้วยตัวเอง พวกนายไปเตรียมห้อง VIP ให้ฉันห้องหนึ่ง สองอาทิตย์นี้ฉันจะปาร์ตี้อยู่บนเรือสำราญให้หนำใจ หาสาวสวยมาดูแลสัก 2-3 คนสิ"
ไมลส์ เวยลีย์ นายใหญ่แห่ง Pandorica เจ้าพ่อมาเฟียเจ้าของท่าเรือ และ เจ้าของเรือสำราญภายใต้ชื่อ Pandorica นักธุรกิจที่ร่ำรวยหลักแสนล้าน ความร่ำรวยของเขานั้นเป็นที่เลื่องลือในหมู่มาเฟีย ซึ่งแน่นอนว่าคนระดับนี้ยังไม่มีภรรยาเป็นตัวตน เนื่องจากว่าเขาเป็นคนรักสนุก และยังไม่อยากผูกพันกับใคร แต่ถ้าเจอคนที่ถูกใจ และอยากครอบครอง ก็อาจจะเปลี่ยนความคิดทำให้เขาอยากจะสร้างครอบครัวก็เป็นได้
"เดี๋ยวช่วงค่ำผมจะคัดสาวสวยมาให้นายใหญ่เลือกครับ รับรองว่าสวยถูกใจแน่นอน"
ใบพัดขับรถมาถึงที่ท่าเรือของ Pandorica หญิงสาวฝากไว้กับโกดังรับฝากรถ จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินออกมายังท่าเรือ จ้องมองไปยังเรือสำราญลำใหญ่ที่จอดอยู่ตรงท่า ซึ่งตอนนี้กำลังลำเลียงขนของลงไปใต้ท้องเรือ โดยที่บรรดาลูกค้าทั้งหลายก็ขึ้นไปเชยชมบรรยากาศภายในนั้น หรูหราสมกับเป็นเรือราคาหลักหมื่นล้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในนั้นมีพร้อมทุกอย่าง ไม่รู้ว่าชาตินี้เธอจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของท่าเรือ และก็เรือสำราญแบบนี้หรือเปล่า ต้องทำบุญมามากมายขนาดไหนถึงได้เป็นเจ้าของสถานที่แบบนี้ได้"เฮ้อ!"เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความ แล้วตอนนี้คนรู้จักของพี่ชายคนสนิทให้เธอไปหาข้างในเรือสำราญ เธอเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเจอผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวชุดเดรสสีขาวดูเซ็กซี่ ยืนรออยู่ตรงหน้าทางเข้า"สวัสดีค่ะ ใช่พี่ปีโป้หรือเปล่าคะ"น้องชื่อใบพัดใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าทันทีก่อนจะยกมือไหว้พี่ปีโป้ ซึ่งคนนี้คือคนที่รุ่นพี่ของเธอได้บอกไว้ ว่าเป็นคนรู้จักที่สนิทกัน และถ้าเธอจะเข้ามาทำงานที่นี่ก็ต้องผ่านผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าเธอเป็นผู้จัดการที่บาร์ในเรือสำราญแห่งนี้"ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ""สวัสดีจ้ะ สวยใช้ได้เลยนะเนี่ยเรา ไปอยู
ใบหน้าสวยจ้องมองไปยังชายตรงหน้าด้วยแววตายั่วยวน ริมฝีปากเล็กเอื้อนเอ่ยคำหวานออกมาพร้อมกับส่งแก้วไวน์ไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า"ดื่มก่อนสิคะ เดี๋ยวเราจะได้ไปสนุกกันต่อ""หึ... ฉันอดใจไม่ไหวแล้วนะ"เจ้าพ่อมาเฟียร่างหนาดูกำยำยื่นมือไปโอบเอวของผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าหื่นกระหาย เขาอยากจะเชยชิมผู้หญิงตรงหน้าจะแย่แล้ว แต่ทว่าเธอยังคงเล่นตัวไม่ยอมให้เขาจัดการสักที"ใจเย็นก่อนสิคะ คุณจะรีบไปไหนล่ะ เราจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนอยู่แล้วนี่คะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งแก้วไวน์ไปให้เขายกขึ้นดื่มจนหมด ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อมาเฟียจะดื่มแอลกอฮอล์ไปเยอะพอสมควร จึงทำให้ตอนนี้รู้สึกร้อนรุ่มเปลือกตาเริ่มหย่อน ปฏิกิริยาภายนอกเริ่มแสดงอาการง่วงซึมอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาสะบัดหน้าไล่ความง่วงออกไป หันไปจ้องมองหญิงสาวที่ยิ้มมุมปากออกมาอย่างหื่นกระหาย และก่อนที่จะได้พูดอะไรเขาก็ล้มลงสลบเหมือดบนโซฟาเป็นที่เรียบร้อย"ปิดดีล..."หญิงสาวยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอขยับตัวลุกขึ้นล็อคประตูห้องให้แน่นหนา ก่อนจะเดินไปอีกฝั่ง ออกไปยังระเบียงห้อง จากนั้นพยายามปีนข้ามไปห้องข้างๆ ซึ่งเป็นห้องที่เธอจะต้องเข้าไปเอาความลับบ
น้ำเสียงที่ดูแสนจะผิดหวังดังเล็ดลอดเข้ามาทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนที่อยู่ภายในบ้านเผลอได้ยิน ก่อนจะเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้าของกัน และกันด้วยความตกใจ"ใบพัด! แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่""กลับมาตั้งแต่ที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน เรื่องที่เอาบ้านไปจำนอง หนูเพิ่งเอาบ้านออกมาจากธนาคารโดยใช้เงินไปเป็นล้าน ไม่ว่าหนูจะทำงานหาเงินมาได้มากมายขนาดไหน มันก็ไม่เพียงพอที่จะใช้หนี้ให้กับที่บ้าน"มือเล็กกำซองเงิน 200,000 บาทที่เพิ่งได้มาเอาไว้แน่น ทั้งชีวิตหาเงินได้ไม่รู้กี่ล้านบาท เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจนเอาตัวเองแทบไม่รอด แต่ทว่ากลับไม่เคยได้ใช้มันซื้อความสุขให้กับตัวเองเลย ต้องเอามาใช้หนี้ให้กับความไม่รู้จักพอของครอบครัว ติดหนี้การพนันมีอะไรก็เอาไปขายหมด ไม่รู้ว่าเวรกรรมตั้งแต่ชาติปางไหนถึงทำให้เธอตกอยู่ในชีวิตที่ลำบากมากมายขนาดนี้"แกฟังพ่อกับแม่ก่อนนะ พ่อแกนั่นแหละเอาบ้านไปจำนองแล้วก็ไปเล่นพนัน แม่ไม่รู้เรื่องเลยนะ""แต่แกก็เอาเงินส่วนหนึ่งไปกินเหล้ากับเพื่อนนะ จะมาโทษฉันฝ่ายเดียวได้ยังไง"สองสามีภรรยาหันไปทะเลาะกันต่อหน้าลูกสาว พวกเขาควรจะนึกถึงลูกให้มาก อาชีพของเธอเป็นงานที่เสี่ยงต่อชีวิตของตัวเอง และถ้าว