Share

2

"อาหยี ของหวานที่เจ้าชอบ เจ้ากินเสียสิ แม่ลงมือเข้าครัวทำให้เจ้าเองเชียวนะ" เซียนฮูหยินยิ้มให้บุตรสาว

"ท่านแม่ข้าอ้วนขนาดนี้ ท่านยังจะให้ข้ากินของหวานพวกนี้อีก" เซียนหยีอารมณ์เสียแล้ว นึกชังมารดา สรรหาแต่ของหวานมาให้เจ้าของร่างเดิมกิน

เซียนฮูหยินตกใจกับคำพูดบุตรสาว แต่ก่อนบุตรสาวของนางชอบขนมหวานมิใช่รึ

"ข้าจะให้บ่าวเอาไปทิ้ง"

"ท่านแม่อีกอย่าง อย่าทำขนมหวานให้ข้ากินอีกนะ แล้วใบหน้าข้ามีแผลเป็นได้ยังไง" รอยแผลเป็นตรงคางมาจากไหน

นี่คือสิ่งที่เซียนหยีต้องการคำตอบ ภาพเซียนหยีตอนเด็กผุดขึ้นมา นางจำได้ว่าเมื่อตอนเด็กเซียนหยี หุ่นดีและใบหน้างดงามเหตุใดถึงกลายเป็นหญิงอ้วนอัปลักษณ์ไปได้เล่า

เซียนฮูหยินพลันนั่งคิดเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นบุตรสาวของนางอายุเพียงห้าขวบเท่านั้น

"ตอนนั้น เจ้าเล่นกันพี่ใหญ่น้องสาม ทำให้เจ้าลื่นล้มใบหน้ากระทบกับภูเขาจำลอง อีกทั้งระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าป่วยไข้ มีท่านหมอมารักษาเจ้า หลังจากนั้น เจ้าก็อ้วนขึ้น อีกทั้งใบหน้าของเจ้ารักษาไม่หาย" เป็นเช่นนี้นี่เอง เรื่องใบหน้า เซียนหยีมิได้กังวล

นางรักษาใบหน้าของนางได้ เนื่องจากว่าห้องยาวิจัยทะลุมิติมาพร้อมกับนาง

"ท่านแม่ วันพรุ่งข้าต้องไปสำนักศึกษาใช่รึไม่" นางถามมารดา ไม่รู้ว่าสำนักศึกษาโบราณจะเป็นเช่นไร

"ลูกรัก แม่ขอโทษ วันพรุ่งเจ้าไปสำนักศึกษาผู้คนต้องล้อเจ้าเรื่องเซียวอ๋องเป็นแน่แท้" 

เซียนหยีไม่สนใจเรื่องของวันวาน นางสนเพียงว่านางจะหาข้ออ้างยกเลิกงานแต่งนี้ได้อย่างไร กำหนดงานแต่งคืออีกหกเดือนข้างหน้า เซียนหยีรู้สึกปวดกบาลนัก

"ท่านแม่ข้าขออยู่คนเดียว ข้าอยากพักผ่อน" มารดามองบุตรสาวก่อนจะให้สาวใช้มาเก็บของหวานออกไป

"นับแต่นี้ข้าจะไม่กินของหวานพวกนี้" เซียนฮูหยินได้แต่สงสารบุตรสาวที่ป่วยจนกินอะไรไม่ลง นางทำได้แค่เพียงมองบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงแล้วเดินออกจากเรือนไป

เซียนหยีรีบไล่เสี่ยวอิงออกไปให้สาวใช้ออกไปพำนักที่เรือนเสี่ยวอิงไม่ต้องเฝ้านาง เซียนหยีล็อคประตู

พลันมองที่แขนเมื่อวานทายาแผนโบราณใช่ว่าแผลที่แขนจะหาย

หญิงสาวพลันนึกถึงห้องวิจัย นางพลันหยิบยาทาโลกปัจจุบันออกมา ค่อยยังชั่วหน่อย

เซียนหยีพลันเดินมาที่หน้าคันฉ่องสีเหลืองทอง ใบหน้านี้มีแผลเป็นใต้คาง แผลนี้เป็นรอยนูนแดงช่างน่าเกลียดจริง ๆ

มืออวบพลันสัมผัส เอาล่ะไม่เป็นไรขอเวลานางไม่วันใบหน้าจะหายเป็นปกติ เซียนหยีพลันหาผ้าขาวบางมาปกปิดไว้เสียก่อน เพื่อมิให้ผู้คนพลันหวาดกลัวนาง

คืนนี้นางคงต้องนอนได้แล้ว เพราะวันพรุ่งไปสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้แต่เช้า ร่างอ้วนจึงล้มตัวลงนอนอย่าง่ายดาย...

เสียงเคาะประตูห้องแต่เช้า ทำให้ร่างอ้วนพลันสะดุ้งตื่น

"คุณหนูรองเจ้าคะ ล้างหน้าเปลี่ยนชุดไปสำนักศึกษาหลวงได้แล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงพลันตะโกนหน้าเรือน

ร่างอ้วนพลันได้สติรีบเปิดประตูให้สาวใช้ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ นางก็พลันรู้สึกสดชื่น นางนำแปรงออกมาจากห้องวิจัย ยุคนี้ไม่ค่อยมีแปรงสีฟัน 

เสี่ยวอิงพลันมองของสิ่งนั้นของคุณหนู "อะไรเจ้าคะ" 

"อย่าถามมาก มาช่วยข้าเปลี่ยนชุด" นางอยากไปสำนักศึกษาหลวงจะแย่อยู่แล้ว เสี่ยวอิงรีบหาชุดสตรีสีฟ้าของสำนักศึกษาหลวงมาให้คุณหนู

เซียนหยีพลันมองชุดดูเหมือนว่าจะรัดไปเสียหน่อย อีกทั้งเสี่ยวอิงทำผมให้นางรวบขึ้นจนหมดแล้วปักด้วยปิ่นสีขาวของสำนักศึกษาหลวง

เซียนหยีมองผ่านคันฉ่องเห็นเพียงแต่ดวงตาอันงดงามของนางเท่านั้น 

บนรถม้าคันใหญ่ของจวนเซียน แน่นอนว่าย่อมต้องมีคุณหนูสามอย่างเซียนโหรวนั่งมาด้วย แม้นางจะเป็นลูกอนุภรรยาแต่บิดารักนางมากจึงให้นางเรียนสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้ด้วย โดยไม่สนคำครหาใด ๆ ของผู้คน

"พี่รอง ท่านไปเรียนครั้งนี้ไม่รู้ว่า ผู้คนในสำนักศึกษาจะมองท่านว่าอย่างไรนะ ปิดเรียนไปหลายวันท่านก่อเรื่องงามหน้าไว้เช่นนี้..." เข็มพิษเฉียดหน้าของเซียนโหรวปักตรงด้านหลังของนาง

เซียนโหรวอึ้งงัน 

"พี่รอง ท่านจะฆ่าข้ารึไง" แววตาเซียนหยีพลันมองเซียนโหรวอย่างเหลืออด

"หากเจ้าพูดมากกว่านี้ ข้าจะใช้เข็มเย็บปากสุนัขของเจ้าเสีย" เซียนหยีอดไม่ไหวจริง ๆ เดิมทีคิดว่าเซียนโหรวจะสงบปากสงบคำ 

เซียนโหรวมองพี่รองของนางอย่างหวาดกลัว นังอ้วนอัปลักษณ์ เหตุใดถึงได้เก่งเพียงนี้ 

ทันทีที่รถม้าถึงสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้ สาวใช้ก็พลันเปิดม่านหาที่รองให้เจ้านายเหยียบ

เซียนหยีพลันลงเป็นคนแรกโดยมีเสี่ยวอิงคอยประคอง เซียนโหรวเดินรั้งท้ายโดยทีสาวใช้ของนางคอยถือของ

เซียนหยีพลันมองสตรีและบุรุษพวกนั้นต่างมองมาที่นาง เกรงว่าคงจะหนีไม่พ้นเรื่องเซียวอ๋องเป็นแน่แท้

แน่นอนว่ามีกลุ่มสตรีสามคนที่ขวางทางมิให้เซียนหยีเข้าไปในสำนักศึกษา แม้เซียนหยีจะเดินไปทางซ้ายหรือทางขวา พากนางก็ขวางทางไว้

เซียนโหรวพลันรอชมละครงิ้วสนุก ๆ ของนังอ้วนอัปลักษณ์ ทุกคนในสำนักศึกษาหลวงชอบดูเรื่องสนุก ๆ เซียนหยีพลันมองสตรีนางนั้น ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status