เซียนหยีพลันมองใบหน้าที่หมองคล้ำของมารดา เซียนฮูหยินเป็นคนหน้าตาดี แต่ทว่าไม่รู้จักดูแลตัวเอง เซียนหยีมองตลับครีมหน้าขาว
"ให้ท่านแม่ประทินโฉมเจ้าค่ะ" เซียนฮูหยินพลันมองตลับครีมสีดำ
"ขอบใจเจ้ามาก อาหยีพักผ่อนเถอะ แม่ไม่รบกวนแล้ว" เซียนฮูหยินพลันออกจากเรือนบุตรสาว เซียนหยีให้เสี่ยวอิงไปรับอาหารเย็นจากห้องครัวมาให้นาง จากนั้นก็ไล่สาวใช้ออกไป
เซียนหยีพลันกินข้าวต้มปลาอิ่ม พอใช้ได้รสชาติมิได้แย่
นางพลันมาที่คันฉ่องสีเหลืองทองมองแผลเป็นขนาดใหญ่ใต้คาง ฉีดยาแผนปัจจุบันก็หาย นางดึงตัวยาออกมาจากห้องแล็บจากนั้นพลันฉีดเข้าไปในคาง รู้สึกว่ารอยนูนพลันยุบลง คิดว่าทำทุกวันน่าจะหายไม่เกินหนึ่งเดือน ส่วนน้ำหนักตัวเกือบร้อยกิโล ลดไม่อยาก
นางกินยาลดน้ำหนักของโลกปัจจุบันที่มีในห้องแล็บ เซียนหยีพลันอาบน้ำในอ่างไม้ จากนั้นนางก็มานอนที่เตียงเตามาร์คหน้าด้วยแผ่นมาร์คอย่างสบายใจ...
เช้าวันถัดมาเสี่ยวอิงพลันเข้ามาในเรือนของเจ้านายของนาง
"คุณหนูตื่นไปเรียนได้แล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงพลันเดินมาถึงเตียงพบว่ามีบางอย่างติดที่ใบหน้าของเซียนหยี
"ผีหลอก!!!" เสียงกรีดร้องของสาวใช้ ทำให้เซียนหยีพลันลืมตาขึ้นมา
"เสี่ยวอิงเจ้าเป็นอะไร" เซียนหยีเอาแผ่นมาร์คหน้าออก เสี่ยวอิงได้สติขึ้นมา
"บ่าวนึกว่าผีหลอกเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงพลันเอ่ยขึ้น
"เอาล่ะ สิ่งนี้คือแผ่นมาร์คหน้าทำให้หน้าขาวใส เจ้ามาแต่งตัวให้ข้าได้แล้ว ประเดี๋ยวไปเรียนสาย"
เสี่ยวอิงเตรียมเสื้อผ้าของสำนักศึกษาเรียบร้อย หลังจากแต่งกายเสร็จสองนายบ่าวพลันรีบมาที่หน้าจวน พบว่ามีรถม้าสองคัน เซียนหยีพลันรู้ทันทีว่าน้องสามของนาง ขอรถม้าอีกคันกับบิดาแน่ ๆ นางไม่สนใจคนไร้สมองอย่างเซียนโหรว
ที่สำนักศึกษาในยามนี้ทุกคนต่างตั้งใจเรียนวิชาคุณธรรม อาจารย์จ้าวหวันพลันสอนตามเคย หลังจากจบช่วงเช้าไปแล้วยังต้องเรียนตีคลีช่วงบ่าย
"ตอนบ่ายไปที่สวนด้านหลัง เพราะจะให้พวกเจ้าเรียนตีคลีกัน" เหล่าศิษย์ทุกคนต่างคำนับอาจารย์
เมิ่งชีชีพลันหาวนอน ยามนี้ได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้ว
หลังกินข้าวอิ่มเซียนหยีกับเมิ่งชีชีมาที่สวนด้านหลังของสำนักศึกษาหลวง
"เอาล่ะ ลูกศิษย์ทั้งหลาย การแข่งขันตีคลีครั้งนี้ เซียวอ๋องกับหนานอ๋องร่วมเป็นกรรมการตัดสินด้วย" เจ้าอ๋องบ้าผู้นั้นก็มาด้วยรึ เซียนหยีพลันคิดในใจ
ทุกสายตาพลันมองไปที่นั่งของกรรมการ พบว่าเป็นเซียวอ๋องโอวหยางเสียน เขาประสูติแด่หยางฮองเฮา อีกทั้งมีหนานอ๋องโอวหยางเย่ประสูติแด่กุ้ยเฟย ทั้งสองมองที่เหล่าลูกศิษย์ของสำนักศึกษาหลวง
เซียวอ๋องพลันมองไปที่หญิงอ้วนอัปลักษณ์ที่ปีนเตียวเขาหลายวันก่อน นางทำไม่สำเร็จ แต่ทว่าเรื่องนี้ไปถึงหูของพระบิดา กระนั้นจึงทำให้พระบิดาพระราชทานสมรสให้เขา เขาช่างเจ็บใจนัก
"พระชายาเอกของท่านพี่มองมาที่ท่านด้วย" หนานอ๋องพลันเย้าพระเชรษฐาเล่น ช่างตลกเสียจริง
"หุบปาก" เซียวอ๋องทำหน้าไม่พอใจ
หนานอ๋องพลันมีความสุขที่ทำให้พี่ชายของเขาอยู่ไม่เป็นสุข
การแข่งขันตีคลีครั้งนี้แบ่งออกเป็นกลุ่มละสี่คน เซียนหยี เมิ่งซีซี เสิ่นอ้าย เหมยอิง อีกกลุ่มนำโดยหลินซี หลีหลาน ตงฮวา เซียนโหรว
เมื่อได้ยินเสียงระฆังเป็นสัญญาณให้แข่งขันได้ ฝ่ายของเซียนหยีนั้นเลี้ยงลูกหวาย นางใช้ไม้ตีไปเรื่อย ๆ ส่งมันไปให้เมิ่งชีชี หลินซีมีรึจะยอม นางแย่งลูกหวายจากเมิ่งชีชี แล้วตีเข้าฝ่ายตรงข้ามจนสำเร็จ
"ฝ่ายแดงเข้าเป้า" เหล่าอาจารย์พลันประกาศ เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น
เซียนหยีพลันคิดว่ายังมีเวลา กระนั้นนางจึงรีบแย่งลูกคลีจากฝ่ายตรงข้าม หมายจะยิ่งเข้าเป้า แต่ทว่าเซียนโหรวผลักเซียนหยีแล้วแย่งลูกแพรตีเข้าฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ
"ฝ่ายแดงเข้าเป้าอีกแล้ว" หลินซีกับเหล่าสหายของนางพลันดีใจ
เซียนหยีพลันหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ร่างนี้อ้วนเกินไปแล้ว
เอาล่ะนางจะสู้อีกสักครั้ง หากพวกนางแพ้ กลุ่มพวกนางจะได้ไปทำความสะอาดคอกม้า หากชนะ พวกนางจะคะแนนเต็มสิบคะแนน
เซียนหยีแย่งลูกแพรได้ กระนั้นนางตีเข้าฝ่ายตรงข้าม เมิ่งชีชีกับเหล่าสหายในกลุ่มต่างดีใจอย่างมาก แน่นอนว่าเซียนหยีเข้าสามลูกติดต่อกันแล้ว นำคะแนนฝ่ายแดงอีกแล้ว
"ฝ่ายน้ำเงินนำแล้ว" เสียงอาจารย์พลันประกาศ
หลินซีพลันยิ้มเย็นแม้นางหมูตอนมันจะชนะ นางจะทำให้ทำทุกคนเห็นว่านังเซียนหยีมันร้ายกาจเพียงใด
เซียนหยีคิดว่าหากนางตีลูกแพรเข้าช่องของฝ่ายตรงข้ามอีกลูก ถือว่านางชนะ หญิงสาวกำลังจะตีเข้าฝ่ายตรงข้าม หลินซีพลันอยู่ตรงหน้านาง จากนั้นล้มลง ลูกแพรเข้าฝ่ายตรงข้าม
"หลินซีโดนตีแล้ว" เสียงคนร้องตะโกนขึ้น ทุกคนต่างมองเซียนหยี
"คุณหนูหลินเป็นอย่างไรบ้าง" ทุกคนในสำนักศึกษาต่างเป็นห่วงหลินซี
"คุณหนูรองเซียน เจ้าไม่เห็นต้องผลักข้าเลย" ทันทีที่หลินซีเอ่ยขึ้นทุกสายตามองเซียนหยี
"อาซี" หนานอ๋องกับเซียวอ๋องพลันเดินลงมาที่สนามพร้อมกัน หนานอ๋องอุ้มคู่หมั้นของเขา
"เจ้ามันหญิงอัปลักษณ์ใจดำ" เซียวอ๋องด่านางท่ามกลางคนมากมาย
เซียนหยีตกใจ หลินซีล้มลงเองต่างหาก "กลุ่มของเซียนหยีล้างคอกม้าหนึ่งอาทิตย์"
อาจารย์จ้าวหวันเอ่ยขึ้น ทุกคนต่างสลายออกไป เพราะไม่อยากอยู่ใกล้คนใจดำอย่างเซียนหยี
"พี่หญิงรองข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ ท่านเป็นคนใจดำ" เซียนโหรวสาระแนอีกแล้ว
"อาหยีข้าเชื่อเจ้า" สหายสามคนนั้นเชื่อเซียนหยี
"นังอ้วนสารเลว กล้ามาก กล้าปีนเตียงเซียวอ๋อง" ใบหน้าอวบอ้วนโดนตบจนแดงก่ำ เซียนหยีพลันรู้สึกตัวพบว่าตัวนางโดนอีบ่าวชั่วสองคนนั้นจับตัวไว้นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่ เธอจำได้ว่าเธออยู่ในห้องวิทยาศาสตร์มิใช่รึ เธอเป็นหมอทดลองยาชีวะในห้องต้องการหาตัวยาใหม่ไปรักษาโรคของคนไข้แล้วไหนมาโผล่โลกแห่งนี้ได้ล่ะ สตรีใบหน้างามล้ำสวมชุดฟ้ากำลังจะตบที่ใบหน้าอวบของเซียนหยีอีกครั้ง"คุณหนูตบบ่าวได้อย่างไรเจ้าคะ" สาวใช้ทั้งสองคนโดนเซียนโหรวตบเพราะเซียนหยีหลบทัน"นังสารเลวกล้าหลบข้า" เซียนโหรวหมายจะตบพี่รองของนางตุบ !!! เท้าอวบถีบเข้าหน้าท้องของเซียนโหรวอย่างแรง"คุณหนูสาม" บ่าวสองคนรีบมาดูเซียนโหรวทันที เซียนโหรวไม่คิดว่านังอ้วนสารเลวแรงจะเยอะเพียงนี้"แล้วอย่างไร ข้าสารเลวแล้วอย่างไร ลูกเมียน้อยอย่างเจ้ากล้าตบลูกเมียเอกอย่างข้ารึ" เซียนหยีไม่ยอมให้ผู้ใดเอาเปรียบนาง ตีนางหนึ่งครั้ง นางจะสนองคืนหมื่นเท่า"เจ้าอย่าเข้ามานะ" เซียนโหรวมองพี่สาวลูกภรรยาเอกกระชากศีรษะสาวใช้ทั้งสองคนแล้วถีบลงพื้น สาวใช้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด"อย่ารึ ตอนที่เจ้ากับสาวใช้รังแกข้าก่อนหน้านี้ ข้าขอร้องเจ้า ทำไมเจ้าไม่หยุด" เซียน
"อาหยี ของหวานที่เจ้าชอบ เจ้ากินเสียสิ แม่ลงมือเข้าครัวทำให้เจ้าเองเชียวนะ" เซียนฮูหยินยิ้มให้บุตรสาว"ท่านแม่ข้าอ้วนขนาดนี้ ท่านยังจะให้ข้ากินของหวานพวกนี้อีก" เซียนหยีอารมณ์เสียแล้ว นึกชังมารดา สรรหาแต่ของหวานมาให้เจ้าของร่างเดิมกินเซียนฮูหยินตกใจกับคำพูดบุตรสาว แต่ก่อนบุตรสาวของนางชอบขนมหวานมิใช่รึ"ข้าจะให้บ่าวเอาไปทิ้ง""ท่านแม่อีกอย่าง อย่าทำขนมหวานให้ข้ากินอีกนะ แล้วใบหน้าข้ามีแผลเป็นได้ยังไง" รอยแผลเป็นตรงคางมาจากไหนนี่คือสิ่งที่เซียนหยีต้องการคำตอบ ภาพเซียนหยีตอนเด็กผุดขึ้นมา นางจำได้ว่าเมื่อตอนเด็กเซียนหยี หุ่นดีและใบหน้างดงามเหตุใดถึงกลายเป็นหญิงอ้วนอัปลักษณ์ไปได้เล่าเซียนฮูหยินพลันนั่งคิดเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นบุตรสาวของนางอายุเพียงห้าขวบเท่านั้น"ตอนนั้น เจ้าเล่นกันพี่ใหญ่น้องสาม ทำให้เจ้าลื่นล้มใบหน้ากระทบกับภูเขาจำลอง อีกทั้งระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าป่วยไข้ มีท่านหมอมารักษาเจ้า หลังจากนั้น เจ้าก็อ้วนขึ้น อีกทั้งใบหน้าของเจ้ารักษาไม่หาย" เป็นเช่นนี้นี่เอง เรื่องใบหน้า เซียนหยีมิได้กังวลนางรักษาใบหน้าของนางได้ เนื่องจากว่าห้องยาวิจัยทะลุมิติมาพร้อมกับนาง"ท่านแม่ วันพรุ
"พวกเจ้าหลีกทางให้ข้าด้วย" เซียนหยีเอ่ยขอทางอย่างสุภาพ หลินซีพลันมองหน้าหญิงอ้วนนางนี้ที่ปีนเตียงคู่ม้าไผ่เหมยเขียวของนาง อย่างเซียวอ๋องเซียนหยีพลันมองสตรีสามคนที่ไม่เข้าใจภาษาคนไม่ยอมถอยให้นาง"คุณหนูรองเซียน เจ้ายังมีหน้ามาที่สำนักศึกษาหลวงเทียนตี้อยู่อีกรึ" เหตุใดนางจะมาไม่ได้เล่า "พวกเจ้าช่างไร้สาระเสียจริง" เซียนหยีไม่สนใจสามคนนั้น นางรีบเดินจนชนไหล่ของหลินซี "พี่หญิงรองทำไมท่านเสียมารยาทเช่นนี้เล่า ชนผู้อื่นแล้วไม่รู้จักขอโทษ มิใช่นิสัยของวิญญูชน" นังน้องสาวสาระแนผู้นี้ ช่างปากเก่งเสียจริง ๆใบหน้าอวบของเซียนหยีพลันโมโหโชคดีที่มีผ้าขาวบางปิดหน้า "น้องหญิงสาม ข้าหรือไร้มารยาท เป็นพวกนางต่างหากไม่หลบทางผู้อื่นยืนขวางทางข้า หากน้องสามมีตาก็น่าจะรู้ มิใช่มาป้ายความให้พี่สาวอย่างข้าว่าเป็นคนผิด" เซียนหยีเอ่ยเช่นนี้แล้วมุ่งหน้าเข้าห้องเรียนเหล่าคุณหนู คุณชายต่าง ๆ ตกใจมากในสิ่งที่เซียนหยีเอ่ยขึ้นนั้น เป็นความจริง เซียนโหรวไม่เข้าข้างพี่สาว แต่ยังไปเข้าข้างคนอื่นมันใช้ได้ที่ไหนกันเซียนโหรวพลันหน้าบางรีบเดินตามหลังเซียนหยีทันที หลินซีนางเป็นถึงบุตรสาวท่านราชครูหลิน นางเป็นคู่ม้าไ
"อาหยี เจ้าเก่งมากจริง ๆ "เมื่อออกมาจากห้องเรียนแล้ว เมิ่งชีชีชมสหายรักอย่างไม่จบสิ้น เซียนหยียามนี้เป็นยามพักเที่ยง ที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในโรงอาหาร ทุกสายตาจ้องมาที่พวกนางสองคน เซียนหยีคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่แท้"เหตุใดคนพวกนี้ถึงได้จ้องเจ้ากับข้าอย่างกับพวกเราสองคนไปฆ่าคนตายอย่างนั้นแหละ" เซียนหยีพลันคิดว่าต้องมีอันใดเกิดขึ้นภายในโรงอาหารของสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้ หลินซีกับกลุ่มสหายของนาง อย่างตงฮวาและหลีหลานนั่งในโรงอาหารพลันมองหน้าประตูทางเข้าใบหน้าของทั้งสามคนฉายแววชั่วร้าย แน่นอนว่าต้องมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับเซียนหยีนังอ้วนอัปลักษณ์อย่างเซียนหยีแน่นอนเซียนหยีกับเมิ่งชีชีเดินมาถึงหน้าโรงอาหารแต่ทว่าหยุดตรงประตูทางเข้า ดูเหมือนว่าคนด้านในนั้นมองอะไรสักอย่าง "พี่หญิงรองหากไม่เข้าไปก็อย่ามาเกะกะขวางทางคนจะไปกินข้าว" เป็นเซียนโหรวกับสหายของนาง อย่างคุณหนูรองเหวินซูลูกอนุเหมือนกัน อีกทั้งเซาเย่บุตรสาวลูกอนุขุนนางขั้นสามทั้งสองคน พวกนางต่างไม่ชอบเซียนหยีอยู่เพราะทั้งโง่และอ้วน แต่ทว่าวันนี้เซียนหยีทำตัวเด่นเป็นพิเศษที่สามารถวาดภาพจนได้คะแนนเต็มสิบ ทำให้พวกนางไม่พอใจหญิง