Share

4

"อาหยี เจ้าเก่งมากจริง ๆ "เมื่อออกมาจากห้องเรียนแล้ว เมิ่งชีชีชมสหายรักอย่างไม่จบสิ้น เซียนหยี

ยามนี้เป็นยามพักเที่ยง ที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในโรงอาหาร ทุกสายตาจ้องมาที่พวกนางสองคน เซียนหยีคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่แท้

"เหตุใดคนพวกนี้ถึงได้จ้องเจ้ากับข้าอย่างกับพวกเราสองคนไปฆ่าคนตายอย่างนั้นแหละ" เซียนหยีพลันคิดว่าต้องมีอันใดเกิดขึ้น

ภายในโรงอาหารของสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้ หลินซีกับกลุ่มสหายของนาง อย่างตงฮวาและหลีหลานนั่งในโรงอาหารพลันมองหน้าประตูทางเข้า

ใบหน้าของทั้งสามคนฉายแววชั่วร้าย แน่นอนว่าต้องมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับเซียนหยีนังอ้วนอัปลักษณ์อย่างเซียนหยีแน่นอน

เซียนหยีกับเมิ่งชีชีเดินมาถึงหน้าโรงอาหารแต่ทว่าหยุดตรงประตูทางเข้า ดูเหมือนว่าคนด้านในนั้นมองอะไรสักอย่าง 

"พี่หญิงรองหากไม่เข้าไปก็อย่ามาเกะกะขวางทางคนจะไปกินข้าว" เป็นเซียนโหรวกับสหายของนาง อย่างคุณหนูรองเหวินซูลูกอนุเหมือนกัน อีกทั้งเซาเย่บุตรสาวลูกอนุขุนนางขั้นสามทั้งสองคน พวกนางต่างไม่ชอบเซียนหยีอยู่เพราะทั้งโง่และอ้วน แต่ทว่าวันนี้เซียนหยีทำตัวเด่นเป็นพิเศษที่สามารถวาดภาพจนได้คะแนนเต็มสิบ ทำให้พวกนางไม่พอใจหญิงอ้วนอย่างเซียนหยี

เซียนหยีกับเมิ่งชีชีหันไปมองทั้งสามคน ดูเหมือนว่าสามคนนี้รีบร้อนเสียจริง

"หากเจ้ารีบกินข้าวก็เข้าไปก่อนเลย" เซียนหยีกับเมิ่งชีชีหลีกทางให้สามคนนั้น 

ทันทีที่ทั้งสามคนก้าวผ่านประตูเข้าไป น้ำเย็นจัดราดลงบนศีรษะของทั้งสาม

ตุบ !!!!

กรี๊ด !!!

ทั้งสามคนพลันเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า คนในโรงอาหารบางคนต่างสมน้ำหน้าสามคนนั้น คนที่ก่อเรื่องนี้ต่างหนีหายไปแล้ว 

เซียนหยีกับเมิ่งชีชีพลันถือว่าโชคดีมาก นางติดสินบนเด็กชายอายุเจ็ดขวบ แน่นอนว่าสำนักศึกษาหลวงรับเด็กตั้งแต่ห้าขวบขึ้นไปจนถึงอายุสิบห้าปี ในตอนที่เซียนหยีกับเมิ่งชีชีพลันเดินมาแล้วมีคนมองอย่างมาก

เซียนหยีมีลางสังหรณ์ไม่ดี จึงติดสินบนเจ้าเด็กน้อยให้ไปสืบข่าวในโรงอาหาร นางเสียเงินตั้งหายอีแปะให้เจ้าเด็กนั่น 

ในตอนที่ทราบข่าวนางกำลังว่าจะไม่กินข้าว แต่ใครจะไปคิดว่าเซียนโหรวกับเหล่าสหายจะมารับเคราะห์กรรมนี้แทนเซียนหยี คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นหลินซี

เซียนหยีกับเมิ่งชีชีรีบเผ่นเข้าห้องเรียนดีกว่า นางไม่กินแล้วข้าวโชคดีที่เมิ่งชีชีมีแป้งทอดที่ซื้อเมื่อเช้าพอให้ได้ประทังไปก่อน

หลังเลิกเรียนเซียนหยีกลับมาถึงจวน ยังไม่ทันที่นางจะได้นั่งสบายก็ถูกเชิญตัวมาที่เรือนใหญ่เสียแล้ว

"ท่านพ่อ พี่หญิงรองไม่ช่วยข้าเลย หลังจากที่ข้าเดินผ่านประตูไป นางก็หนีไปดื้อ ๆ" เซียนโหรวกอดมารดาแล้วเช็ดน้ำตา วันนี้หลังจากเกิดเรื่องที่น่าอายในโรงอาหาร นางกับเหล่าสหายขอลาอาจารย์เพื่อกลับจวน ไม่สามารถเรียนต่อได้ช่วงบ่าย 

"เจ้ามาแล้ว" เซียนฮูหยินพลันมองบุตรสาวเดินเข้ามาตามด้วยสาวใช้อย่างเสี่ยวอิง

 "คารวะท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่" เซียนหยียังคงยืนนั่งพลันมองสองแม่ลูกการละครที่ร่ำไห้

"อาหยี เหตุใดเจ้ามิช่วยน้องสาวของเจ้า" บิดาสมองสุนัขอย่างเซียนเจิง จะให้นางช่วยเซียนโหรวได้อย่างไร

"ท่านพ่อ ข้าผิดอะไร ข้ากำลังจะเข้าไปในโรงอาหาร แต่เป็นน้องสามต่างหากที่บอกว่าหิวข้าวให้ข้าหลบให้นางก่อน กระนั้นข้าจึงให้นางกับเหล่าสหายของนางเข้าไปก่อน หากนางไม่แย่งข้า มีรึนางจะโดนน้ำสาด" สิ่งที่เซียนหยีกล่าวมานั้นถูกต้อง หากเซียนหยีเดินผ่านประตู นั่นย่อมเป็นเคราะห์กรรมของเซียนหยี

แต่ทว่าเซียนโหรวต่างหากที่รับเคราะห์ เรื่องนี้จะโทษผู้ใดได้

"เอาล่ะ เรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุ เจ้าควรไปนอนพักผ่อนเถอะ อย่าได้เอาแต่โทษพี่หญิงของเจ้าเลย" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนพลันเอ่ยขึ้น แล้วมองเซียนโหรวที่ช่างโชคร้าย 

นางรู้ว่าเซียนเจิงค่อนข้างรักและเอ็นดูนังหนูสามมาก แต่ทว่าจะไปโทษนังหนูรองได้อย่างไร นังหนูสามโชคไม่ดีเอง ไปแย่งเคราะห์กรรมของผู้อื่น

เซียนโหรวกับมารดาพลันหน้างอเดินออกไป เซียนเจิงมองอนุคนงามกับลูกรักไปแล้ว

"เจ้าหุบปาก" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนเอ็ดบุตรชาย เซียนเจิงเป็นบุตรชายคนเดียวของนาง

 แต่ก่อนครอบครัวสกุลเซียนยากจนมาก โชคดีหน่อยได้เงินจากเซียนฮูหยินมาคอยช่วยเหลือจึงได้มีทุกวันนี้ 

"ท่านแม่"

"เจ้าจะไปไหนก็ไป" นางพลันไล่บุตรชาย สายตาของเซียนเจิงมอง เซียนฮูหยินกับเซียนหยีอย่างนึกชัง เซียนหยีพลันคิดว่านางโชคดีมากอย่างน้อยมีท่านย่าที่ใจดีและเข้าข้างพวกนางสองแม่ลูก

"หลายปีมานี้ ก็ได้สะใภ้อย่างเจ้าคอยดูแล แม้ว่าบุตรชายของข้าจะหลงอนุมากไปเสียหน่อย ขอให้เจ้าอย่าได้ถือสาเขาเลย" 

ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนเอ็นดูพวกนางสองแม่ลูกอย่างมาก 

"ขอบคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ" เซียนฮูหยินรู้สึกโชคดีอย่างหนึ่ง แม้สามีจะไม่รักนาง แต่แม่สามีรักนางก็เพียงพอแล้ว ทั้งสองคนรีบกลับเรือน เซียนหยีให้มารดามาที่เรือนของนางก่อน

"อาหยีมีอันใดจะคุยกับแม่"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status