แชร์

3

ผู้เขียน: หยกขาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 10:41:02

"พวกเจ้าหลีกทางให้ข้าด้วย" เซียนหยีเอ่ยขอทางอย่างสุภาพ หลินซีพลันมองหน้าหญิงอ้วนนางนี้ที่ปีนเตียงคู่ม้าไผ่เหมยเขียวของนาง อย่างเซียวอ๋อง

เซียนหยีพลันมองสตรีสามคนที่ไม่เข้าใจภาษาคนไม่ยอมถอยให้นาง

"คุณหนูรองเซียน เจ้ายังมีหน้ามาที่สำนักศึกษาหลวงเทียนตี้อยู่อีกรึ" เหตุใดนางจะมาไม่ได้เล่า 

"พวกเจ้าช่างไร้สาระเสียจริง" เซียนหยีไม่สนใจสามคนนั้น นางรีบเดินจนชนไหล่ของหลินซี 

"พี่หญิงรองทำไมท่านเสียมารยาทเช่นนี้เล่า ชนผู้อื่นแล้วไม่รู้จักขอโทษ มิใช่นิสัยของวิญญูชน" นังน้องสาวสาระแนผู้นี้ ช่างปากเก่งเสียจริง ๆ

ใบหน้าอวบของเซียนหยีพลันโมโหโชคดีที่มีผ้าขาวบางปิดหน้า 

"น้องหญิงสาม ข้าหรือไร้มารยาท เป็นพวกนางต่างหากไม่หลบทางผู้อื่นยืนขวางทางข้า หากน้องสามมีตาก็น่าจะรู้ มิใช่มาป้ายความให้พี่สาวอย่างข้าว่าเป็นคนผิด" เซียนหยีเอ่ยเช่นนี้แล้วมุ่งหน้าเข้าห้องเรียน

เหล่าคุณหนู คุณชายต่าง ๆ ตกใจมากในสิ่งที่เซียนหยีเอ่ยขึ้นนั้น เป็นความจริง เซียนโหรวไม่เข้าข้างพี่สาว แต่ยังไปเข้าข้างคนอื่นมันใช้ได้ที่ไหนกัน

เซียนโหรวพลันหน้าบางรีบเดินตามหลังเซียนหยีทันที 

หลินซีนางเป็นถึงบุตรสาวท่านราชครูหลิน นางเป็นคู่ม้าไผ่เหมยเขียวเซียวอ๋อง เหตุใดนางถึงต้องมาได้หมั้นกับหยางอ๋อง ลูกของนางสนมชั้นต่ำ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้

แล้วทำไมนังอ้วนอัปลักษณ์แค่ปีนเตียงเซียวอ๋อง ฮ่องเต้โอวหยางตี้ถึงกับต้องพระราชทานสมรสให้ ทั้งที่ตระกูลเซียนเป็นเจ้ากรมการคลังเท่านั้น

หลินซียิ่งคิดยิ่งแค้น "อาซีพวกเราเข้าเรียนกันเถอะ" หลีหลานกับตงฮวาเอ่ยขึ้น กระนั้นทำให้หลินซีพลันได้สติ นางต้องหาทางให้นังอ้วนอัปลักษณ์ขายหน้า...

วันนี้สำนักศึกษาเปิดเรียนเป็นวันแรกหลังจากหยุดเรียนไปหลายวัน อาจารย์จ้าวที่สอนวิชาวาดภาพมองลูกศิษย์ทุกคนชายหญิงที่แบ่งฝั่งกัน ต่างคนต่างตั้งใจเรียน

"เอาล่ะวันนี้พวกเจ้าก็เปิดเรียนเป็นวันแรก ข้าให้เจ้าวาดภาพมาหนึ่งภาพพร้อมกับบอกความหมายเหตุใดถึงวาดภาพพวกนั้น" อาจารย์จ้าวเอ่ยเจ้า 

ลูกศิษย์ทุกคนเตรียมกระดาษกับพู่กันขึ้นมาเตรียมที่จะวาดภาพ

เซียนหยีนั่งคู่เมิ่งชีชี เมิ่งชีชีเป็นบุตรสาวของท่านผู้ตรวจการ เมิ่งฮูหยินเป็นสหายสนิทของเซียนฮูหยิน ในความทรงจำของเซียนหยี เมิ่งชีชีถือว่าเป็นสหายที่ดีเชียวล่ะ

ได้เวลาที่อาจารย์จ้าวจะตรวจภาพแล้ว กระนั้นเหล่าลูกศิษย์จึงรวบรวมภาพวาด มาให้อาจารย์จ้าวหวัน

"ภาพนี้ ดอกไห่ถังร่วงโรยรา มีความหมายว่าอย่างไร หลินซี" อาจารย์จ้าวหวันเรียกชื่อหลินชี พร้อมโชว์ภาพวาดที่งดงามให้เหล่าลูกศิษย์ชายหญิงได้ดูกัน

ทุกสายตาต่างมองไปที่โฉมงามผู้ใดก็รู้ว่าหลินซีเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าโจว เพลงพิณ กวี วาดภาพ หมากล้อม นางล้วนได้ที่หนึ่ง อาจารย์จ้าวหวันหยิบผลงานนางออกมาเป็นคนแรกย่อมให้เห็นว่า เขาชื่นชอบในตัวหลินซีอย่างยิ่ง

"ข้าขอบตอบอาจารย์ ความหมายของข้านั้น คือการรอคนรัก บุรุษให้คนหมั่นสัญญากับสตรี แต่ว่าวันหนึ่งเขาไม่รักษาสัญญา ไปมีหญิงอื่น ไม่ต่างจากภาพวาดนี้ บุปผาย่อมร่วงโรยรา มิสามารถรอเขาได้ต่อไป" หลินซีเอ่ยเป็นนัยยะ มองไปทางเซียนหยี

ตีวัวกระทบคราดชัด ๆ เซียนหยีรู้ว่าหลินซีชื่นชอบในตัวเซียวอ๋องหรือโอวหยางเสียนอย่างมาก แต่จะให้ทำยังไงเล่า

คิดว่านางชอบเจ้าคนเย็นชานั่นนักรึ นั่นมันเจ้าของร่างเดิมที่ตายไปแล้ว ส่วนนางคือวิญญาณโชคร้ายที่เข้ามาในร่างนี้แค่นั้น และทุกสายตาก็กำลังตำหนิเซียนหยีทางอ้อม เซียนโหรวเพียงแค่มองคนอื่นด่าพี่สาวของนางทางสายตา ช่างสาแก่ใจยิ่งนัก

"ดูเหมือนว่านางจะกัดเจ้าไม่ปล่อยนะ เพราะเจ้าได้หมั้นกับเซียวอ๋อง" เมิ่งชีชีพลันมองสหายรักอย่างน่าสงสาร

เซียนหยีมิได้ใส่ใจ 

"ภาพวาดคุณหนูหลินงดงามมาก" ทุกคนต่างเอ่ยปากชม อาจารย์จ้าวหวันพลันเห็นด้วย

แต่ทว่าสิ่งที่อาจารย์จ้าวหวันพลันรู้สึกตื่นเต้นนั่นคือ ภาพทหารทำสงครามเสียเลือด ศพกอดเท่าภูเขา

"เซียนหยีเหตุใดเจ้าถึงได้วาดภาพนี้" อาจารย์จ้าวหวันโชว์ภาพให้ทุกคนดู ภาพสงครามนั้นน่ากลัวมาก และก็งดงามมากเช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่าหญิงอ้วนที่เอาแต่กินจะมีความสามารถเช่นนี้

"ข้าขอตอบว่า ที่ข้าวาดภาพสงครามนี้ อยากจะให้เราทุกคนในแคว้นต้าโจวพึงตระหนักถึงทหารที่อยู่นอกเมืองที่ทำศึกสงคราม กว่าจะปกป้องดินแดนต้าโจวไว้ได้ พวกเราต้องเสียทหารไปกี่ร้อยศพ ไปกี่พันศพ กระนั้นขอให้พวกเราสามัคคีกัน อย่าได้อิจฉาริษยากันเลย" คำพูดของเซียนหยีมีนัยยะแฝงอยู่เช่นกัน

"ดีมากสหายข้า" เมิ่งชีชีชมสหายไม่คิดว่านางจะวาดภาพได้ดี อีกทั้งบรรยายได้ดีอีกด้วย

อาจารย์จ้าวหวันพลันมองหญิงอ้วนเสียใหม่ เขาไม่คิดเลยว่า เซียนหยีที่เอาแต่กินวันนี้จะพูดจามีเหตุผลช่างแปลกมาก หลินซีจะยอมได้อย่างไร เมื่อนางเคยเป็นที่หนึ่งของห้องเรียนมาตลอด

ยามนี้สายตาอาจารย์จ้าวหวันพลันมองเซียนหยีเปลี่ยนไป

"ดียิ่งนัก" ลูกศิษย์ทุกคนต่างมองอาจารย์ที่ชมนังอ้วนอัปลักษณ์

หลังจากที่อาจารย์จ้าวหวันได้ดูภาพวาดของทุกคนเสร็จแล้ว สรุปว่าเซียนหยีได้สิบคะแนนเต็มนำหน้าเพื่อนร่วมชั้นเรียน

เซียนโหรวพลันโกรธจนเก็บอาการไม่อยู่ หลินซีก็เช่นกัน...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   4

    "อาหยี เจ้าเก่งมากจริง ๆ "เมื่อออกมาจากห้องเรียนแล้ว เมิ่งชีชีชมสหายรักอย่างไม่จบสิ้น เซียนหยียามนี้เป็นยามพักเที่ยง ที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในโรงอาหาร ทุกสายตาจ้องมาที่พวกนางสองคน เซียนหยีคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่แท้"เหตุใดคนพวกนี้ถึงได้จ้องเจ้ากับข้าอย่างกับพวกเราสองคนไปฆ่าคนตายอย่างนั้นแหละ" เซียนหยีพลันคิดว่าต้องมีอันใดเกิดขึ้นภายในโรงอาหารของสำนักศึกษาหลวงเทียนตี้ หลินซีกับกลุ่มสหายของนาง อย่างตงฮวาและหลีหลานนั่งในโรงอาหารพลันมองหน้าประตูทางเข้าใบหน้าของทั้งสามคนฉายแววชั่วร้าย แน่นอนว่าต้องมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับเซียนหยีนังอ้วนอัปลักษณ์อย่างเซียนหยีแน่นอนเซียนหยีกับเมิ่งชีชีเดินมาถึงหน้าโรงอาหารแต่ทว่าหยุดตรงประตูทางเข้า ดูเหมือนว่าคนด้านในนั้นมองอะไรสักอย่าง "พี่หญิงรองหากไม่เข้าไปก็อย่ามาเกะกะขวางทางคนจะไปกินข้าว" เป็นเซียนโหรวกับสหายของนาง อย่างคุณหนูรองเหวินซูลูกอนุเหมือนกัน อีกทั้งเซาเย่บุตรสาวลูกอนุขุนนางขั้นสามทั้งสองคน พวกนางต่างไม่ชอบเซียนหยีอยู่เพราะทั้งโง่และอ้วน แต่ทว่าวันนี้เซียนหยีทำตัวเด่นเป็นพิเศษที่สามารถวาดภาพจนได้คะแนนเต็มสิบ ทำให้พวกนางไม่พอใจหญิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   5

    เซียนหยีพลันมองใบหน้าที่หมองคล้ำของมารดา เซียนฮูหยินเป็นคนหน้าตาดี แต่ทว่าไม่รู้จักดูแลตัวเอง เซียนหยีมองตลับครีมหน้าขาว "ให้ท่านแม่ประทินโฉมเจ้าค่ะ" เซียนฮูหยินพลันมองตลับครีมสีดำ"ขอบใจเจ้ามาก อาหยีพักผ่อนเถอะ แม่ไม่รบกวนแล้ว" เซียนฮูหยินพลันออกจากเรือนบุตรสาว เซียนหยีให้เสี่ยวอิงไปรับอาหารเย็นจากห้องครัวมาให้นาง จากนั้นก็ไล่สาวใช้ออกไปเซียนหยีพลันกินข้าวต้มปลาอิ่ม พอใช้ได้รสชาติมิได้แย่นางพลันมาที่คันฉ่องสีเหลืองทองมองแผลเป็นขนาดใหญ่ใต้คาง ฉีดยาแผนปัจจุบันก็หาย นางดึงตัวยาออกมาจากห้องแล็บจากนั้นพลันฉีดเข้าไปในคาง รู้สึกว่ารอยนูนพลันยุบลง คิดว่าทำทุกวันน่าจะหายไม่เกินหนึ่งเดือน ส่วนน้ำหนักตัวเกือบร้อยกิโล ลดไม่อยากนางกินยาลดน้ำหนักของโลกปัจจุบันที่มีในห้องแล็บ เซียนหยีพลันอาบน้ำในอ่างไม้ จากนั้นนางก็มานอนที่เตียงเตามาร์คหน้าด้วยแผ่นมาร์คอย่างสบายใจ...เช้าวันถัดมาเสี่ยวอิงพลันเข้ามาในเรือนของเจ้านายของนาง"คุณหนูตื่นไปเรียนได้แล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงพลันเดินมาถึงเตียงพบว่ามีบางอย่างติดที่ใบหน้าของเซียนหยี"ผีหลอก!!!" เสียงกรีดร้องของสาวใช้ ทำให้เซียนหยีพลันลืมตาขึ้นมา "เสี่ยวอิงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   6

    เซียนหยีกลับมาที่จวนนางนั่งยังไม่ทันได้ตูดเย็น อะไรกับชีวิตจริง ๆ ก็มีบ่าวจากเรือนใหญ่ให้นางไปพบนายท่านที่เรือน เซียนหยีคิดว่าคงไม่พ้นเรื่องของหลินซีทันทีที่นางมาถึงนายท่านเซียนเจิงให้นางคุกเข่า"คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้เจ้าลูกชั่ว อัปลักษณ์ยังไม่พอยังทำเรื่องทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ" เซียนเจิงช่างเป็นบิดาไร้สมองเสียจริง "เหตุใดเจ้าไม่ถามความบุตรสาวเสียก่อนเล่า เพียงแค่ฟังนังหนูสามเล่าเรื่องราว เจ้าก็กล่าวหานางเสียแล้วว่านางผิด" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนช่างเป็นคนมีความยุติธรรมยิ่งนัก เซียนหยีเลื่อมใสท่านย่าของนางเสียจริง"นั่นสิท่านพี่ ท่านฟังลูกรองเล่าความก่อน" เซียนฮูหยินพลันเห็นด้วยกับฮูหยินผู้เฒ่าเซียนเซียนโหรวกับอนุซูเหนียงพลันมองไปที่เซียนหยี เหตุใดคนโง่เหล่านั้นต้องช่วยนังอ้วนอัปลักษณ์ด้วยเล่า"ท่านพ่อ หลินซีล้มลงเอง ข้ามิได้ผลักนาง" เซียนหยีโต้แย้ง นางอธิบายจนปากฉีกถึงรูหูแล้ว เหตุใดคนพวกนั้นยังไม่ฟังนาง กล่าวหานางว่านางเป็นคนผลักหลินซี นางตัวใหญ่ทำให้บังร่างหลินซี หลินซีเลยได้เปรียบ หลินซีแสดงละครเก่งกระนั้นทำให้คนในสำนักศึกษาเกลียดเซียนหยี รวมทั้งบิดาที่บ้านด้วย"ไม่จริง พี่หญิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   7

    ในตอนเช้าข่าวลือไปทั่วเมืองต้าโจวว่าคุณหนูรองเซียนหยีนั้นแข่งตีคลีแพ้แล้วผลักคุณหนูใหญ่หลินซีล้มจนได้รับบาดเจ็บข่าวลือทั่วสำนักศึกษา ยามนี้เซียนหยีพลันนั่งในศาลา พลันมองเหล่าสหายอย่างเมิ่งชีชี เสิ่นอ้ายและเหมยอิง ต่างมองเซียนหยีที่ไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวกับข่าวลือพวกนั้น"อาหยีเจ้าไม่เป็นไรนะ" เมิ่งชีชีถามสหายด้วยความเป็นห่วง"เมื่อวานพวกเจ้าน่าจะเห็นว่านางล้มลงไปเอง ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง" เซียนหยีพลันเอ่ยขึ้น ทั้งสามคนอยู่กลุ่มเดียวกันย่อมต้องเห็นอยู่แล้ว แต่พวกนางพูดไปใครจะเชื่อพวกนาง"พวกเจ้าทั้งสี่คน อาจารย์จ้าวหวันให้ไปล้างคอกม้าทั้งวัน ไม่ต้องเข้าเรียน" บุรุษผู้หนึ่งเดินมาบอกพวกนางในศาลา"ไม่สิ ทั้งอาทิตย์นี้พวกเจ้าจงอยู่แต่คอกม้า" บุรุษผู้นั้นถ่ายทอดคำสั่งของอาจารย์แล้วเดินออกไปทั้งสี่คนพลันมองหน้ากัน "รังแกกันเกินไปแล้วนะ" เมิ่งชีชีพลันหน้าเศร้า"พวกเจ้าเดือดร้อนเพราะข้าแท้ ๆ" เซียนหยีพลันรู้สึกผิด กระนั้นพวกนางทั้งสี่คนพลันมุ่งหน้าไปที่โรงเลี้ยงม้าของสำนักศึกษาหลวงทางด้านหลินซีกับเหล่าสหายของนางพลันมีความสุขยิ่งนักที่ได้ทราบข่าวว่ากลุ่มของเซียนหยีได้ล้างคอกม้าจนถึงวันหยุดเรียน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   8

    เซียนเจิงไร้อารมณ์ที่จะกินข้าวกระนั้นเขาจึงเดินออกไปเสียดื้อ ๆ สองแม่ลูกพลันเดินตามเซียนเจิงไป เซียนหยีพลันแอบสมน้ำหน้าเซียนโหรว หลังจากกินข้าวอิ่มนางก็ขอตัวกลับมาที่เรือน วันนี้มีเรื่องให้นางสำราญใจยิ่งนัก วันพรุ่งนี้มิได้ไปสำนักศึกษานับเป็นการดีทีเดียว นางอยากขายเครื่องประทินโฉมในโลกปัจจุบัน ต้องหาทำเลทองเปิดร้านเสียหน่อย"อาหยี" เซียนฮูหยินกับสาวใช้พลันเดินเข้ามาในเรือนหานาง เพิ่งจะแยกจากกันที่เรือนท่านย่า "ท่านแม่มีอะไรเจ้าคะ" เซียนฮูหยินพลันนึกขึ้นได้ว่าทางวังหลวงส่งเทียบเชิญมาเป็นงานแข่งม้าที่องค์หญิงสาวโอวหยางนานาจัดขึ้นที่นอกเมือง"อาหยีอีกสามวันข้างหน้าเป็นงานแข่งม้าขององค์หญิงสามที่จะจัดขึ้นทุกปี ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องเตรียมตัวแล้วกัน แม่ให้สาวใช้วัดขนาดตัวของเจ้าเพื่อจะไปตัดชุด" อย่าบอกนะจะให้นางแข่ง นางไม่เอาด้วยหรอกนะ"ท่านแม่ข้าไม่อยากไป""มิได้ ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องไป" สาวใช้ทั้งสองคนพลันวัดตัวเซียนหยีเสร็จก็รีบออกไปเพราะต้องไปวัดตัวเซียนโหรว มารดาเดินออกไปแล้วเซียนหยีพลันทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก นางตั้งใจว่าจะเที่ยวสักห้าวัน แต่ที่ไหนได้ต้องไปงานแข่งม้า เรือนของอนุซูเหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   9

    หลินซีก็พลันแข่งม้าในครั้งนี้ด้วย ทั่วทั้งเมืองหลวงต้าโจวต่างก็รู้ว่าคุณหนูใหญ่หลินซีพลันเก่งด้านการแข่งม้าเป็นที่หนึ่ง ในเมืองหลวงผู้ใดจะสู้นางได้ทุกสายตาต่างมองไปที่สตรีนับสิบคนที่ลงสนามแข่งม้า ผู้เข้าแข่งขันทุกคนเหยียบที่พักเท้าม้า เซียนหยีรูปร่างอวบกว่าจะขึ้นได้นั้นลำบากนั้น ทุกคนหัวเราะเยาะนางในสนามแข่ง ราวกับนางเป็นตัวตลกเซียวอ๋องพลันนั่งดื่มสุรามองไปที่สนามแข่งม้า โอวหยางลหลีพลันมองญาติผู้พี่ของเขา ช่างมีชะตาที่อาภัพนักได้หญิงอ้วนงามเมืองเป็นพระชายาช่างขายหน้าโดยแท้"ข้าพนันข้าคุณหนูหลินร้อยตำลึง" ซื่อจื่อพลันเอ่ยขึ้น บรรดาชายหนุ่มที่นั่งในละแวกนั้นต่างลงขันกับคุณหนูหลินหนึ่งร้อยตำลึง หนานอ๋องในฐานะคู่หมั้นของหลินซีลงขันพันตำลึง ทุกคนต่างมองหน้าเซียวอ๋อง"ท่านพี่จะไม่ลงขันข้างคู่หมั้นท่านหน่อยรึ" หนานอ๋องพลันชอบใบหน้าที่เกี้ยวกราดของเซียวอ๋องมากทุกคนต่างสร้างความอึดอัดให้เซียวอ๋องอย่างมาก"ข้าลงข้างเซียนหยีหนึ่งพันตำลึงทอง" เหล่าบุรุษตกใจ แน่นอนว่าหากเขาไม่ลงข้างนาง หยางฮองเฮาได้ต่อว่าเขาแน่นอนทางด้านฝั่งสตรีหยางฮองเฮาพลันมองผู้เข้าแข่งขันนับสิบคนควบม้ามุ่งไปข้างหน้า หยางฮ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   10

    เซียนหยีพลันมอบปิ่นหยกงามล้ำให้ท่านย่าและมารดาได้ชมเป็นขวัญตา ที่หยางฮองเฮามอบให้แก่นางด้วยตนเอง"ช่างเป็นบุญวาสนาของเซียนหยีนักที่ฮองเฮาเมตตาเจ้า" เซียนฮูหยินพลันภูมิใจในตัวบุตรสาวอย่างมาก"นั่นสิอาหยีของข้าช่างเป็นดาวนำโชคจริง ๆ" แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนยังเอ็นดูหลานสาวคนรองอย่างมาก...เรือนของอนุซูในยามนี้ เซียวโหรวกรีดร้องไม่คิดว่านังสารเลวมันจะชนะหลินซียอดหญิงอันดับหนึ่งของต้าโจวได้ การแข่งม้าผู้ใดก็รู้ว่าหลินซีเชี่ยวชาญมากที่สุด เหตุใดนังสารเลวเซียนหยีถึงได้ทำได้เล่า"ลูกแม่เจ้ามิต้องกังวล รอก่อนอีกไม่นานนังอ้วนมันไม่สามารถเฉิดฉายได้" อนุซูปลอบใจบุตรสาว เซียนโหรวไม่เคยเกลียดใครเท่านี้มาก่อน"ท่านแม่ข้าเกลียดมัน" เซียนโหรวช่างเป็นสตรีที่โมโหร้ายจริง ๆ ซูเหนียงไม่มีวันให้เซียนหยีได้ดีกว่าบุตรสาวของนาง นางต้องหาทางกำจัดเซียนหยี...วันเปิดเรียนก็มาถึงเซียนหยีพลันมองใบหน้าของนางแผลเป็นก็เริ่มหายไปแล้ว อีกทั้งรู้สึกว่าน้ำหนักตัวลดลงน่าจะหลายกิโลเลยแหละ หญิงสาวพลันสวมผ้าขาวบางปิดหน้าอีกทั้งแต่งกายเรียบร้อยนางขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปสำนักศึกษาหลวง พอมาถึงสำนักศึกษาหลวงก็ต้องตกใจกับป้ายประ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   11

    ก็ถึงยามทำวัตรเย็นเซียนหยีในอาภรณ์สีขาวไร้เครื่องประทินโฉม นางเดินมาพร้อมกับสาวใช้ และคุณหนูคนอื่น ๆ นางยังไม่เห็นเมิ่งชีชีเลย "อาหยี" พลันนึกถึงพอดีก็โผล่มาทันที ช่างตายอยากเสียจริง เมิ่งชีชีในชุดสีขาวเดินมากับสาวใช้"ชีชี" เซียนหยีพลันมองสหายรัก สงสัยนางเพิ่งจะมาถึงวัดหยงหนิงเป็นแน่แท้"แม่นางทั้งสองช้าก่อน แม่นางช่วยถือองค์พระพุทธรูปไปที่อารามหลวงได้รึไม่" แม่ชีน้อยสองคนพลันปวดท้องหนักอยากเข้าห้องเวจกระนั้นจึงได้ฝากเซียนหยีกับเมิ่งชีชีเซียนหยีพลันขมวดคิ้ว "ชีชีข้าคิดว่าองค์พระพุทธรูปมีปัญหา" "อาหยีเจ้าคิดมากไปรึไม่ แม่ชีท่านปวดท้อง กระนั้นจึงฝากพวกเรานำไปไว้ที่อารามเท่านั้น" ความเห็นของเมิ่งชีชี สหายของนางช่างมองโลกในแง่ดีเสียจริง เซียนหยีพลันมองหน้าเมิ่งชีชี"ไปหาเจ้าอาวาสกัน อย่าเพิ่งไปที่อารามหลวง" ทุกคนในอารามหลวงต่างมากันครบเรียบร้อยแล้วอาจารย์จ้าวหวันกับนักพรตเต๋าเซียงเมียง พลันมองลูกศิษย์ของสำนักศึกษาหลวงที่นั่งในอารามหลวง"ขาดอีกสองคนเหตุใดยังไม่มา" อาจารย์จ้าวหวันพลันเอ่ยขึ้น "พี่หญิงรองของข้ากับสหายของนางเจ้าค่ะ" เซียนโหรวสอดปากขึ้น "พวกนางมาแล้ว" หลีหลานพลันยิ้มเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03

บทล่าสุด

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   30

    ในค่ำคืนนั้นท่ามกลางหิมะตกหนักลงมา หลินซีพลันมองถาดน้ำแกง นางทราบข่าวว่าเขาอยู่ในห้องหนังสือ หลินซีรีบตุ๋นน้ำแกงรังนกมาให้โอวหยางเสียนโอวหยางเสียนพลันมองหลินซีที่เดินเข้ามาพร้อมกับชามน้ำแกง ใบหน้างามพลันระบายไปด้วยรอยยิ้ม หากแผนการนี้สำเร็จ เซียวอ๋องจะกลายเป็นคนสารเลวที่แย่งคู่หมั้นน้องชาย อีกทั้งโดนขุนนางยื่นฟ้องมิให้มีสิทธิ์ในบัลลังก์อีกต่อไป"น้ำแกงอะไร" เซียวอ๋องแกล้งถาม ไม่คิดเลยว่าเพื่อให้ได้ในสิ่งที่นางต้องการ นางถึงกับต้องทำคุณไสย์ใส่เขา อีกทั้งวางแผนอย่างชั่วร้าย"น้ำแกงรังนกเจ้าค่ะ" ใบหน้างามส่งสายตาออดอ้อนให้เขาเซียวอ๋องยกขึ้นมาดื่ม ภาพสุดท้ายวูบดับลงกับพื้นทันทีอีกด้านหนึ่งหน้าจวนเซียวอ๋องยามนี้ หนานอ๋องพาทหารเข้ามาบุกจวนเซียวอ๋องยามพลบค่ำ "ท่านอ๋องเหตุใด ท่านพาทหารมามากมายเช่นนี้" อาเสิ่นพลันมองหนานอ๋องนำทหารบุกเข้ามา"หุบปากของเจ้าเสีย วันนี้ข้าจะพาคู่หมั้นของข้ากลับจวน" หนานอ๋องไม่ฟังคำของอาเสิ่น เขาพาทหารมุ่งหน้าไปที่ห้องหนังสือ เพราะสาวใช้รายงานว่า เซียวอ๋องกับหลินซีอยู่ห้องหนังสือ"ท่านเข้าไปมิได้นะ ท่านอ๋อง" อาเสิ่นขวางทาง บ่าวเยี่ยงเขาต้องเล่นตามบทละคร"หลีกไป

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   29

    เมิ่งชีชีพลันอยู่ที่โรงหมอของเซียนหยี เมิ่งชีชีตัดสินใจที่จะเรียนหมอ "อาหยีหลายวันมานี้เจ้าเป็นอันใดไป" แน่นอนว่าเมิ่งชีชีพลันสังเกตสหายรักของนาง "ท่านอ๋องโดนมนต์ดำเข้าให้แล้ว""อะไรนะ" เมิ่งชีชีตกใจไม่น้อยหลังได้ยินสหายรักเอ่ยเช่นนี้ "ข้าสั่งให้คนในจวนค้นเรือนหาสิ่งของนั้นอยู่ เจ้ามิต้องกังวลไป" "คุณหนูเมิ่งซื่อจื่อมาหาท่าน" เซียนหยีพลันมองเสี่ยวอิงเข้ามารายงายแล้วมองเมิ่งชีชี"นี่เจ้าเหตุใดซื่อจื่อจึงมาหาเจ้า" เซียนหยีมองสหายรัก"ข้ากับครอบครัวของเขาตกลงหมั่นหมายกันแล้ว""ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย" เมิ่งชีชีพลันยิ้มแล้วเดินออกไปหาซื่อจื่อน้อย"พระชายาอาเสิ่นมาเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงวิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อย อาเสิ่นพลันรีบร้อนเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเหมือนคนไม่ได้นอนมาหลายวัน"พระชายาข้าน้อยไปเจอหุ่นตัวนี้ใต้หมอนของเซียวอ๋อง ข้าสั่งให้สาวใช้ทุกคนค้นหาในตอนทำความสะอาดเรือน" เซียนหยีพลันมองหุ่นไม้ตัวนี้ เขียนอักษรวันเดือนปีเกิดของเซียวอ๋องชัดเจน"ข้าจะพยายามให้เขากลับมาเป็นปกติให้ได้ ภายในวันนี้ ส่วนเจ้ารีบนำหุ้นตัวปลอมไปใส่ไว้ใต้หมอนเหมือนเดิมอย่าให้หลินซีสงสัยเป็นอันขาด" พูดง่าย ๆ อย่าแหว

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   28

    เซียนหยีคิดว่านางจะต้องรีบไปหาหยางฮองเฮาโดยด่วน วันถัดมาเซียนหยีเข้าวังอย่างลับ ๆ ไปเข้าเฝ้าฮองเฮา ทางประตูหลังวัง หวงกงกงรีบพาเซียนหยีเข้ามาในตำหนักพระนาง"ถวายพระพรเสด็จแม่" เซียนหยีพลันมองหยางฮองเฮากับองค์หญิงสามที่กำลังดื่มชา"อาหยีเจ้ามาแล้ว" "หม่อมฉันมีเรื่องด่วนกราบทูลเพคะ ยามนี้เซียวอ๋องให้หลินซีเข้ามาในจวน""เจ้าว่าอะไรนะ" องค์หญิงสามกับฮองเฮาตกใจจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน"หม่อมฉันเกรงว่า เซียวอ๋องจะโดนคุณไสย์เข้าแล้ว""แล้วพวกเราจะทำอย่างไร""หม่อมฉันให้อาเสิ่นค้นหาอย่างลับ ๆ ในเรือนท่านอ๋อง หากหาเจอมีทางแก้ไข""เจ้ารู้รึไม่ ใครอยู่เบื้องหลัง""เซี่ยไทเฮา""เราก็คิดเหมือนกันกับเจ้า เพราะนางเคยวางพิษกู่ อีกทั้งส่งคนวางยาพิษทำลายร่างกายเซียวอ๋อง ทุกอย่างรอดมาได้เพราะเจ้าช่วยเขา ครั้งนี้เราหวังว่าเจ้าจะช่วยเซียวอ๋องสำเร็จ"องค์หญิงสามไม่คิดเซียนหยีจะช่วยพี่ใหญ่ของนางหลายครั้ง นางตาบอดที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว"พี่สะใภ้ที่ผ่านมาข้าขอโทษ""ไม่เป็นไร""เสด็จแม่ เรื่องนี้เราจะกราบทูลเสด็จพ่อเช่นไร" เซียนหยีพลันเอ่ยถาม"ฝ่าบาทไม่ทรงเชื่อใครง่าย ๆ หากไม่มีหลักฐาน ข้าจะให้คนจับตาดูไทเฮา นางอ

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   27

    คืนนั้นเซียนหยีนอนหลับสนิทโดยมีเซียวอ๋องคอยดูแลนอนกอดนางทั้งคืน เซียนหยีพลันลืมตาขึ้นมาพบว่าเซียวอ๋องหายไปแล้ว ช่างเถอะเขาคงไปค่ายทหารตามเคยเซียนหยีมาเปิดโรงหมอหยีแต่เช้า นางขายครีมหน้าเด้งด้วย ลูกค้าของนางเป็นเหล่าสตรีชนชั้นสูงไปหาชนชั้นล่างสุด"พระชายาแย่แล้วบัดนี้ เซียวอ๋องเชิญคุณหนูหลินมาที่จวนให้นางดีดเพลงพิณให้ฟัง" อาซานเป็นคนเข้ามาแจ้งข่าวเจ้านายเซียนหยีให้เสี่ยวอิงเฝ้าร้านเนื่องจากเสี่ยวอิงสามารถขายครีมได้ กระนั้นนางจึงรุดมาที่จวนเซียวอ๋องตึ่ง ตึ้ง ตึ่ง เสียงคนงามพลันดีดเพลงพิณในศาลาสระบัว หลินซีไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เซียวอ๋องเชิญนางมาที่จวนแบ้วให้นางมาดีดเพลงพิณให้เขาฟังใบหน้างามพลันระบายไปด้วยรอยยิ้ม เซียวอ๋องพลันมองหลินซีไปด้วยความรักความเสน่หา"พี่เสียน ข้ารักท่านแม้ท่านจะแต่งงานกับผู้อื่นไปแล้ว" นี่คือความในใจของหลินซี นางหน้าแดงก่ำ "พวกเจ้านี่มันหญิงร้ายชายเลวจริง ๆ คนหนึ่งแต่งงานแล้ว คนหนึ่งเป็นคู่หมั้นน้องชาย" เซียนหยีในชุดสีขาวพลันเดินเข้ามามองสองคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำหลินซีพลันมองเซียนหยีที่ด่านางฉอด ๆ "ท่านอ๋องพระชายาของท่านเหตุใดถึงได้ใช้คำพูด

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   26

    "ข้าก็ดีกับเจ้าไม่น้อย" เซียนฮูหยินเสียใจ นางรักเซียนอ้ายมาก"ข้าเกลียดพวกท่าน""ข้าคิดว่าจะให้เจ้าแต่งงานกับบุตรชายขุนนางหลังจากเจ้ากลับมาถึงเมืองหลวง จึงได้ให้แม่สื่อเสาะหาคุณชายตระกูลใหญ่ให้เจ้า" ภาพวาดนับสิบถูกนำมากองต่อหน้าเซียนอ้าย นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนปรึกษากัน แต่ไม่คิดว่าเซียนอ้ายจะตอบแทนเช่นนี้มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นที่หัวเซียนหยีเมื่อหลายเดือนก่อน งานคล้ายวันเกิดท่านพ่อ พี่หญิงใหญ่ให้นางดื่มสุราจากนั้นพานางมาไว้ห้องรับรองบุรุษ"เป็นพี่หญิงที่วางยาข้า ส่งข้าไปหาเซียวอ๋อง ข้าจำได้แล้ว" "เป็นเจ้าที่ทำร้ายน้องสาวของเจ้าเองรึ" เซียเจิงเสียใจมาก"จะส่งข้าให้ทางการก็ว่ามา" เซียนอ้ายพลันยอมแพ้แล้ว"นายท่านพบเงินใต้เรือนคุณหนูใหญ่หลายหีบเลยขอรับ" เซียนหยีสั่งให้คนไปสำรวจเรือนเพราะคิดว่าเซียนอ้ายต้องซ่อนเงินไว้ และแล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ"พี่หญิงใหญ่ที่ผ่านมาข้าจะไม่เอาความกับท่าน" เซียนหยีมักให้โอกาสคนเสมอ"วันพรุ่งเจ้าจงไปใช้ชีวิตที่วัดนอกเมือง วัดเล้ง" เซียนอ้ายทำผิดโดยไม่น่าให้อภัย"ไม่นะท่านพ่อ" เซียนอ้ายไม่อยากไปอยู่วัด"เจ้าก็เลือกเอาว่าจะแต่งงานออกไปหรือจะไปอยู่วัด" เซียนเ

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   25

    เซียนหยีพลันนึกถึงเรื่องในถ้ำเมื่อครั้งก่อน นางยังหน้าแดงไม่หาย เจ้าอ๋องบ้าซุกหน้าอกนาง ส่วนนางจับแท่งหยกของเขา ช่างไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบและเสียเปรียบทุกคนเสมอกัน ตอนนั้นทั้งสองยังไม่แต่งงานกัน แต่ทว่ายามนี้ทั้งสองคนพลันแต่งงานกันแล้ว เซียนหยีพลันมิได้ตอบอันใดปล่อยให้เจ้าอ๋องบ้ากอดนางจนถึงเช้าพอเซียวอ๋องลืมตาขึ้นมาพบว่าเซียนหยีพลันกอดเขาแน่น"อาหยี"เซียนหยีลืมตาขึ้นมารีบปล่อยเซียวอ๋องทันที นางรีบดีดตัวออกจากเขา เซียวอ๋องพลันอมยิ้ม เซียนหยีหน้าแดง นางนอนกอดเขาทั้งคืน"ท่านฉวยโอกาสกับข้า" ท่าทางของนางช่างเหมือนแมวน้อยที่เกรี้ยวกราดน่ารักยิ่งนัก"ข้ามิได้ฉวยโอกาส แต่เจ้าต่างหากที่บอกว่าให้ข้ากอดเจ้าได้" เซียวอ๋องยิ้มแก้มปริเลยล่ะ เซียวหยีพลันลืมไปเลยเรื่องเมื่อคืน นางให้เขากอดนางได้ทั้งสองแต่งตัวเรียบร้อย จากนั้นลาท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่กลับมาที่จวนอ๋องเซียวอ๋องมุ่งหน้าไปที่ค่ายทหาร ส่วนเซียนหยีพลันนึกถึงร้านข้าวมรกตของนาง กระนั้นนางจึงปลอมตัวเป็นบุรุษไปเดินตลาดกับเสี่ยวอิง"คุณหนูเหตุใดต้องปลอมตัวเป็นบุรุษด้วยเล่า" เสี่ยวอิงช่างน่ารำคาญเสียจริง "ข้าอยากจะรู้ว่าเซียนอ้ายนางโก่งเงินสก

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   24

    เซียนโหรวพลันมองสถานที่แปลกใหม่ เซียนฮูหยินกับฮูหยินผู้เฒ่าเซียนต้องตกใจเมื่อเห็นเซียนโหรวกลายเป็นคนบ้า"ท่านแม่ ท่านย่า ความแค้นของข้ากับซูเหนียงได้จบลงตั้งแต่ที่นางตายไปแล้ว ยามนี้เซียนโหรวเหมือนไม่มีมารดา ถึงอย่างไรนางก็บุตรสาวของท่านพ่อคนหนึ่ง ให้อภัยนางเถอะเจ้าค่ะ" เซียนหยีมองดูเซียนโหรวพลันกอดตุ๊กตาผ้าเก่า ๆ เซียนฮูหยินเห็นแก่หน้าบุตรสาว อีกทั้งไม่คิดเอาความกับเซียนโหรวในอดีตฮูหยินผู้เฒ่าเซียนนั้นนางแก่ชราแล้ว ได้แต่สงสารหลานสาวคนที่สามมีสภาพเช่นนี้ หากเซียนโหรวไม่คิดทำร้ายเซียนหยี จนแผนร้ายมันตกที่ตัวนาง เซียนโหรวอาจจะได้แต่งงานกับคนดี ๆ ก็ได้"ข้าขอตัวลาเจ้าค่ะ อีกสามวันข้าจะกลับมาเจ้าค่ะ" นางยอบกายคำนับท่านแม่กับท่านย่าของนางเซียนหยีกลับมาถึงจวนอ๋องพลันนึกถึงเรื่องของเซียนโหรวหวังว่าท่านพ่อจะไปที่จวนเจียงเพื่อขอหนังสือหย่าให้เซียนโหรว ถึงอย่างไรก็มีบิดาคนเดียวกันจะให้นางใจดำกับเซียนโหรวคงมิได้ สามวันผ่านไปรถม้าสัญญาลักษณ์จวนเซียวอ๋องจอดที่จวนเซียน เซียวอ๋องพลันลงมาก่อนนาง จากนั้นยื่นมือมาให้นางจับเซียนหยีพลันไม่จับมือเขา ทำให้เขายกมือเก้อน่าขายหน้าเสียจริงทั้งสองคนเดินเ

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   23

    เซียนหยีในยามนี้นางกับเซียวอ๋องสวมชุดแต่งงานสีแดงเพลิงกำลังเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปท้องพระโรงทีละก้าว แขกเหรื่อในงานล้วนแต่เป็นขุนนางในราชสำนักต่างมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวค่อย ๆ สาวเท้าขึ้นบันไดเซียวอ๋องพลันถือผ้าแพรแดงไว้เขาชำเลืองเจ้าสาวของเขาพบว่านางพลันผอมลงยิ่งนัก เมื่อทั้งคู่มาที่ท้องพระโรง แต่ยังมิได้เข้าไปด้านใน เพราะทั้งสองต้องเคารพป้ายบรรพชรรางวงศ์โองหยางหยางฮองเฮากับฮ่องเต้โอวหยางตี้นั่งอยู่ด้านหน้าท้องพระโรงพลันมองเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่หยุดด้านหน้าทั้งสองพระองค์"หนึ่งคำนับฟ้าดิน" แม่สื่อพลันเอ่ยขึ้น ทั้งสองคำนับฟ้าดิน"สองคำนับบิดามารดา" ทั้งสองหันไปทางฮ่องเต้และฮองเฮา" สามคำนับซึ่งกันและกัน" เซียนหยีและเซียวอ๋องต่างคำนับซึ่งกันและกัน"ส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ" แม่สื่อพลันเอ่ยขึ้น เหล่าข้ารับใช้พลันยืนเรียงแถวให้เจ้านาย เซียวอ๋องกับเซียนหยีค่อย ๆ เดินลงบันไดไปทีละขั้น "โอ๊ย !!!" จู่ ๆ มีคนยื่นเท้าออกมาทำให้เซียนหยีพลันสะดุดล้มลงหน้าคะมำ ผ้าคลุมหน้าพลันปลิวออกจากศีรษะของนาง เซียนอ๋องคว้าตัวนางไว้ได้ทันก่อนที่นางจะลงไปนอนกับพื้น นางก็อยู่ในอ้อมกอดของสามีของนางแล้วทุกสายตาพลันมองไ

  • นางเอกอย่างข้าไม่ต้องการพระเอกหน้าโง่อย่างเจ้า   22

    "นางนี่แหละที่จ้างคนมาทำร้ายข้า หากมิใช่เพราะนางข้าจะตกในสภาพเช่นนี้รึท่านพ่อ โชคดีที่เซียวอ๋องมาช่วยข้าได้ทันเวลา" เซียนหยีพลันเล่าความทั้งหมดให้ ท่านย่า ท่านแม่ และบิดาฟัง"นังสารเลวกล้าทำกับหลานข้าได้เช่นไรกัน" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนพลันโกรธจัด ตบหน้าซูเหนียงจนฟันหลุดหนึ่งซี่"เจ้ามันคนไร้สามัญสำนึกจริง ๆ "เซียนฮูหยินอยากจะตบนางมาก"เหตุใดเจ้าถึงทำร้ายเซียนหยี" เซียนเจิงถามอนุภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ"นายท่าน ข้าผิดไปแล้ว" ซูเหนียงที่กอดขาของเซียนเจิงไว้"ข้าไม่ดีกับเจ้าแม่ลูกตรงไหน นางทำผิดข้ายังไม่ทำโทษนาง เหตุใดเจ้าถึงทำร้ายผู้อื่น" เซียนเจิงผิดหวังในตัวซูเหนียงอย่างมาก"ท่านดีต่อข้างั้นรึ ท่านบอกว่าท่านจะมอบตำแหน่งฮูหยินให้ข้าสุดท้าย ข้าก็ได้เป็นแค่อนุ ท่านมันโกหกหลอกลวง ข้าทำให้เซียนหยีอ้วนเพราะข้าใส่ยาพิษให้นางกิน ใบหน้านางเป็นแผลนั้น ที่ยังข้าตั้งใจจะให้นางตาย ข้าเป็นคนผลักนางเอง แต่นางไม่ตาย" ซูเหนียงเหมือนคนเป็นบ้าไปแล้ว เซียนเจิงได้ยินเรื่องชั่วของนางเขารับไม่ได้จริง ๆ"นังหญิงบ้า เหตุใดทำร้ายเจ้านาย วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนโกรธจัด"ข้าดีกับเจ้าตลอด แต่เจ้าก็

DMCA.com Protection Status