หนึ่งเดือนต่อมา เกือบสิบวันแล้วที่มีการส่งผัก มันฝรั่ง และไข่ไก่ออกไปจากสวนของสกุลเซียว และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามความต้องการของเซียวหวังเหล่ย เขาอยากช่วยผู้ประสบภัยแล้ง ทางแผ่นดินใหญ่ และยังมีคนที่อดยากไร้งานทำในอีกฝั่งหนึ่งเมืองเมืองไห่ซานด้วย เนื่องจากผลกระทบของบ้านเมือง ที่อดีตผู้นำเป็นคนที่กักตุนสินค้า เพื่อขึ้นราคาภายหลัง และทำการทุจริตหลายเรื่อง “เถ้าแก่เนี้ย... ยืนตากแดดอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวก็เป็นลมจนได้” เฮยหนิงถือร่มมากางบังแดดให้หญิงสาว และเซียวก้งเยว่ก็เอาขวดน้ำดื่มมาด้วน ส่วนเซียวตี้หลุนกำลังง่วงนอนอย่างเต็มที่ แต่ไม่วายดึงชายเสื้อของโจวหยางซีไว้ “มามี้... น้องแข็งแรงนะ น้องหลุนช่วยงานตลอด” เขาบอกเธอ แต่ตาก็ปรือเต็มที่ กระทั่งช่วงบ่ายแก่ๆ ใกล้เดินทางกลับเรือนหลัก ร่างสูงก็ขี่รถจักรยานยนตร์คันใหญ่มาที่ไร่มันฝรั่ง เด็กชายตื่นจากการนอนกลางวันพอดี เขาชูสองแขนให้บิดากอด “น้องหลุนฝันว่า มามี้ท้องป่องฮะ” หลายวันที่ผ่านมา เซียวหลุนทำหน้าที่กามเทพตัวน้อยได้ดีเหลือเกิน เรียกได้ว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากได้น้องคนให
โจวหยางซี หายใจไม่ทัน แต่มีความสุขเหลือเกินหูเธอได้ยินเขาพูดไม่ขาดปาก ชมว่าเธอสวย เธอเป็นผู้หญิงแสนวิเศษที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือ “เสี่ยวซี ถ้าคืนนี้อั๊วตายคาอก ก็อย่าลืม... เผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้เยอะๆ นะ อ่อ พวกของกินก็ทำให้บ้าง จุดธูปเรียกบ่อยๆ อั๊วก็ไม่อดตายแล้ว” เธอแปลกใจที่เขาพูดเป็นลางไม่ดี ทว่าพอชายหนุ่มตัวสั่นรุนแรง และภายในร่างกายหญิงสาวก็รับรู้ถึง...XXX ***********************แนะนำตัวละครคนบ้านเซียวเซียวหวังเหล่ย พ่อหม้ายลูกสาว ชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆ มีคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับบิดาว่าต้องแต่งงานกับคนตระกูลโจว เพื่อตอบแทนน้ำใจที่โจวเหวินเคยช่วยชีวิตเซียวหวังเหล่ยไว้เมื่อครั้งเกิดไฟไหม้บ้านเซียวเซียวก้งเยว่ วัยสิบสี่ย่างสิบห้าปี เป็นเด็กสาวที่เงียบ มีโลกส่วนตัวสูง ภายหน้าเธอ ได้ใช้ความรู้ในการบริหารกิจการของตระกูลเซียว แต่กว่าจะมีวันนั้น เซียวก้งเยว่ ก็หนีออกจากบ้านอยู่หลายครั้งหลายหนเซียวอู๋ทง เขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่หก ร่าเริง กินเก่ง และชอบด้านศิลปะ เมื่อเขาโตขึ้น ได้เป็นเทพบุตรหน้าหยกของเมืองไห่ซาน ดังระดับซุปเปอร์สตาร์ทั่วทั้งเอเชียเลยที
ฉันนี่แหละโจวหยางซีคนใหม่ เมืองไห่ซาน เขตปกครองตนเอง อยู่ฝั่งตรงข้ามพื้นที่เช่าของชาวต่างชาติ สถานการณ์ยามนี้ อยู่ในการควบคุมของทหาร เพราะเกิดการจับกุมตัวผู้นำคนเก่าไปเข้าสู่กระบวนการไต่สวนความผิด และกำลังจะมีการแต่งตั้งผู้นำใหม่ขึ้นมาดูแลบ้านเมือง ส่วนตอนนี้ สิ่งที่โจวหยางซีต้องตระหนักให้มาก หญิงสาวจะพลาดอีกหนไม่ได้ รถยนต์ของพวกแก๊งขวานลำพองขับวนไปวนมาที่หน้าตรอกถนนสายสี่อยู่เป็นชั่วโมง และเธอเข้ามาหลบซ่อนที่ห้องสมุด ซึ่งแทบจะร้างผู้คน เนื่องจากส่วนมากนิยมไปใช้บริการที่ฝั่งพื้นที่เช่าซึ่งหรูหรา มีแต่พวกปัญญาชนขลุกตัวอยู่ ส่วนโจวหยางซีคนนี้ เรียนหนังสือไม่เอาไหน หัวทึบสักหน่อย ให้ดีคือกินเก่ง หน้าตาจัดว่างดงาม นั่นจึงทำให้ชะตาชีวิตหญิงสาวพุ่งขึ้นไปเจิดจรัสเหมือนดอกไม้ไฟ ก่อนจะดับวูบลง และไม่มีใครจดจำได้ โจวหยางซีเลือกที่จะมาที่นี่ เธอได้ข้อมูลจากเด็กๆ ของมารดาที่จ้างไว้ให้ดูลาดเลา ทราบว่าคนตัวสูงๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายนั้น หมู่นี่มักมาขลุกในห้องสมุด ช่วงยามสายไปจนถึงบ่ายแก่ๆ เขามาที่นี่อาทิตย์ละสามวัน การที่เธอดักมาพบเขาเป็นการชี้เป็นชี้ตายของเธอ ถึงแม้ว่าในเ
ถึงเวลานางร้ายพลิกบท ตอนแรกโจวหยางซีตั้งใจกลับบ้าน อันที่จริงเรียกว่าห้องพักถึงจะถูก ครอบครัวเธออยู่ตึกสูงสามชั้นสีเขียว มีพื้นที่แออัดสักหน่อย แต่ยามนี้ คุณนายหลี่ หรือ หลี่ฉู่กำลังสร้างเรื่องอย่างหนัก นั่นเป็นเพราะติดหนี้หลายทางโดยเฉพาะกับแก๊งขวานลำพอง และนั่นเป็นอีกเหตุที่เธอต้องรีบหาเงิน นอกจากนั้นตัวละครนี้ยังมีแรงปรารถนาอันแรงกล้าจะเป็นคุณนายมาเฟียตระกูลกัง อีกฝ่ายคือกังเหริน ภายภาคหน้าคือผู้ทรงอิทธิพลไม่น้อย และยังไม่กินเส้นกับเซียวหวังเหล่ยด้วย หญิงสาวคุ้นๆ ว่าพวกเขามีรสนิยมชอบผู้หญิงคล้ายๆ กัน นั่นจึงทำให้ มีเหตุการณ์ช่วงกลางเรื่อง ถึงขั้นเกือบมีศึกชิงนางก็ว่าได้ หากน่าเสียดายผู้หญิงที่พวกเขาแย่งไม่ใช่ โจวหยางซี กลับเป็นนางเอกของเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่ปรากฏตัว ครึ่งชั่งโมงต่อมา หลังจากโจวหยางซีมั่นใจว่า เซียวหวังเหล่ยหนีหน้าเธออย่างแน่นอน ร่างทรงเสน่ห์จึงก้าวออกจากห้องสมุด เธอใช้ความคิดอย่างหนักแล้วต้องทำอย่างไรที่จะมัดใจอีกฝ่าย เมื่อเซียวหวังเหล่ยปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย ถึงอย่างนั้น เธอเชื่ออยู่ลึก ๆ ว่าเขาชอบเธอ เป็นเพราะนิยายถูกเขียนไว้อย่างนั้น ตอนนี้
ใครว่าพระเอกขี่ม้าขาว ชีวิตโจวหยางซีในโลกที่จากมาเป็นเพียงพนักงานร้านสะดวกซื้อ แต่ทำอยู่หลายปีและที่ไม่ยอมเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการร้าน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการมีเงินใช้ ได้อยู่ห้องแอร์เย็นๆ ทำงานใกล้บ้าน เพียงเท่านี้ชีวิตก็สมบูรณ์ เธอเรียนจนระดับปริญญาตรี การเรียนไม่ได้ใช่ไก่แลกเกรด อีกอย่างวันๆ พบคนหลายประเภท และยังชอบศึกษาเรื่องต่างๆ เป็นนักอ่านตัวยง เหนืออื่นใด อายุเธอไม่น้อยแล้วเฉียดสามสิบกว่า ประสบการณ์ชีวิตจึงมีพอตัว ส่วนการมาอยู่ในร่างหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปี นับว่าเป็นกำไรมากโข ซึ่งเธอจะใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตอนนี้คือการสั่งสอน เด็กที่บังอาจปีนเกลียวกับเธอ “ฮึ พ่อแกคงมัวแต่ประจบพวกนักการเมือง เลยไม่มีเวลาได้สั่งสอน ส่วนแม่นั้น...” โจวหยางซีมองไปที่อีกฝ่าย ใช้สายตาอย่างพินิจ ช่วงเวลานั้น เรื่องราวของไป๋อันเหมยปรากฏในหัว อีกฝ่ายกำพร้ามารดา เนื่องจากหล่อนทนความอดดันในสกุลไป๋ไม่ไหว สามีเย็นชาและบ้างาน ส่วนแม่สามีเป็นพวกไม่อยากเห็นลูกสะใภ้ได้ดี มารดาไป๋อันเหมยจึงตัดสินใจผูกคอตายลาโลก ทิ้งเธอให้อยู
มามี้สุดหล่อ เหตุการณ์ก่อนหน้า ในขณะที่เซียวหวังเหล่ยจะไปรับลูกชายคนเล็กที่ชื่อหลุนหลุน หรือ เซียวตี้หลุนกับพี่เลี้ยงที่ดูแล เขาได้ยินเสียงรถของแก๊งขวานลำพองดังอย่างน่ารำคาญ ฝ่ายพวกแม่ค้าในละแวกนั้นบอกว่า กุ๊ยพวกนี้ ตั้งใจมาก่อกวนชุมชนตลาดเก่าเนื่องจากกังเหรินอยากได้พื้นที่บริเวณนั้นสร้างผับและคาสิโน ฝ่ายเขาไม่ค่อยสนใจ ด้วยตระกูลเซียวเป็นพวกชนชั้นสูงเก่า อีกทั้งมุ่งเน้นการค้าเป็นหลัก หากมีเรื่องใดๆ ก็จะมีหน่วยทหารจากแผ่นดินใหญ่ กับพรรคพวกของปู่ให้ความช่วยเหลือ นอกจากนั้นเขาอยากรีบพาลูกชายกลับบ้าน ตั้งใจจะทำแพนเค้กกินกับน้ำผึ้งเป็นอาหารเย็น และสิ่งที่ตั้งใจทำก่อนหน้านั้นก็สำเร็จไปด้วยดี รอเพียงปลาตัวโตๆ แสนสวยกินเหยื่อจากนั้นทุกอย่างคงเรียบร้อย ทว่าเป็นช่วงเวลานั้นที่พบลูกสาวคนโตที่วิ่งหน้าตื่นมา เขาให้คนรอรับเธอแท้ๆ แต่เซียวก้งเยว่คือขาลุย เรียกได้ว่าเป็นเด็กแสบคนหนึ่ง แน่นอนเธอไม่ต่างจากเขาตอนที่อายุน้อย “ป่าป๊า...เอ่อๆ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ ถูกรุ่นพี่ที่โรงเรียนหนูจับตัวไว้ ขอโทษจริงๆ นะคะ ไม่นึกว่ามันจะมีเรื่องร้ายแรงจนได้” “เสี่ยวเยว่ หมายถึงใค
ฟันแล้วทิ้ง ประตูรถปิดดังปัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโจวหยางซี แน่ล่ะ เพราะเธอยังเล่นบทสลบไม่ได้สติ และยังหลับตาปี๋อย่างสมจริง ฝ่ายคนแซ่เซียวเลยอุ้ม และพาขึ้นมายังชั้นสองของตึกเขียว มันเป็นอาคารสี่เหลี่ยมที่ห้องเรียงกันเป็นแถว บรรยากาศไม่เจริญหูเจริญตา และตอนนี้เขาใช้เท้าเตะประตูห้องพักเธอ เสียงดังปังๆ อย่างคนไร้มารยาท ความเกรงใจคนอื่น สำหรับเซียวหวังเหล่ยคงไม่มี หรือไม่อย่างนั้น เขาก็ต้องการทำบางสิ่งให้บรรลุเป้าหมาย เลยเล่นใหญ่แบบจัดเต็ม “คุณนายโจว ออกมารับลูกสาวเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นผมจะทุ่มลงไปชั้นล่าง บอกไว้ก่อน ไม่พิการ ก็คงนอนซมหยอดน้ำข้าวต้มเป็นเดือนๆ” ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ยังจะสามารถเป็นตัวเอกของนิยายเรื่องนี้ได้หรือ คิดไปคิดมาโจวหยางซีก็หวาดหวั่น หรือว่าเธอควรเดินตามบทเดิม คือกลับไปหากังเหริน แล้วค่อยๆ ปลอกลอกเขา พอได้เงินมาสักก้อน จึงหายตัวเข้ากลีบเมฆ จากนั้นก็ตัดหางปล่อยวัดผู้ชายเฮงซวยทุกคนในนิยายเรื่องนี้ไปเสีย แต่ความคิดของเธอต้องหายแวบไปเมื่อเสียงชายหนุ่มดังอย่างน่ารำคาญขึ้นอีก “คุณนายโจว!” ทั้งเสีย
นางร้ายตกสวรรค์ ส่วนเถาจื่อนั้นแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี หล่อนอับอายแทนหลานสาวคนนี้ เลี้ยงอีกฝ่ายช่วยหลี่ฉู่มาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย แม้จะรู้ว่าเธอแสบ ก๋ากั๋น แต่ใครเล่าจะกล้าคิดว่า วันนี้ ถึงขั้นอยากเป็นเมียของเซียวหวังเหล่ยจนตัวสั่น เถาจื่อเลยต้องสะกิดแขนหญิงสาวหวังให้เธอลดคำพูดคำจาลง ผู้ชายดีๆ ที่ไหนจะทนฟังเสียงนางงิ้ว ที่รับบทสตรีร่านราคะได้ ฝ่ายโจวหยางซีกลับทำเหมือนไม่รู้ตัว เธอยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้อีกฝ่าย ขนตาที่งอนดำเงางามไหวไปมา จริตเช่นนั้น ผู้ชายได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ทว่าแทนที่เขาจะสั่งให้หยุดทำ กลับพูดว่า “ฮึ เอาไว้ เธอได้นอนกับฉันบนเตียงเมื่อไหร่ แล้วฉันจะให้เธอใช้คำว่าเมีย พร้อมทำหน้าที่นั้นอย่างเหนื่อยยากที่เดียวเลยล่ะ ” โจวหยางซีมองชายหนุ่ม มองและทำตาหวานเยิ้มกว่าเดิม ผู้ชายคนนี้ ปากร้าย พูดจาไม่เข้าหู แต่ลึกๆ ก็เซี้ยวจัด และทำให้เธอมันเขี้ยว แน่นอนหากคาดการณ์ไม่ผิด เขามีใจให้หญิงสาวอย่างไม่ต้องสงสัย ฮิๆ ๆ จับผู้ชายที่ขี้เก๊ก ชอบวางมาด ง่ายแค่นี้เอง “ตกลงค่ะ ถ้าเหล่ยต้าเกอยังเตะปี๊บดังปังๆ ๆ ซีซีก็จะนอนทั้งบ
หนึ่งเดือนต่อมา เกือบสิบวันแล้วที่มีการส่งผัก มันฝรั่ง และไข่ไก่ออกไปจากสวนของสกุลเซียว และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามความต้องการของเซียวหวังเหล่ย เขาอยากช่วยผู้ประสบภัยแล้ง ทางแผ่นดินใหญ่ และยังมีคนที่อดยากไร้งานทำในอีกฝั่งหนึ่งเมืองเมืองไห่ซานด้วย เนื่องจากผลกระทบของบ้านเมือง ที่อดีตผู้นำเป็นคนที่กักตุนสินค้า เพื่อขึ้นราคาภายหลัง และทำการทุจริตหลายเรื่อง “เถ้าแก่เนี้ย... ยืนตากแดดอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวก็เป็นลมจนได้” เฮยหนิงถือร่มมากางบังแดดให้หญิงสาว และเซียวก้งเยว่ก็เอาขวดน้ำดื่มมาด้วน ส่วนเซียวตี้หลุนกำลังง่วงนอนอย่างเต็มที่ แต่ไม่วายดึงชายเสื้อของโจวหยางซีไว้ “มามี้... น้องแข็งแรงนะ น้องหลุนช่วยงานตลอด” เขาบอกเธอ แต่ตาก็ปรือเต็มที่ กระทั่งช่วงบ่ายแก่ๆ ใกล้เดินทางกลับเรือนหลัก ร่างสูงก็ขี่รถจักรยานยนตร์คันใหญ่มาที่ไร่มันฝรั่ง เด็กชายตื่นจากการนอนกลางวันพอดี เขาชูสองแขนให้บิดากอด “น้องหลุนฝันว่า มามี้ท้องป่องฮะ” หลายวันที่ผ่านมา เซียวหลุนทำหน้าที่กามเทพตัวน้อยได้ดีเหลือเกิน เรียกได้ว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากได้น้องคนให
หัวสมองหญิงสาวโล่งไปหมด เมื่อเขาถอนจูบแล้ว ก็ถามด้วยเสียงแหบพร่าชวนให้หวั่นไหวว่า “เอาล่ะ...อั๊วอยากเป็นผู้ชายของซีซี... คืนนี้พร้อมไหม” ในหัวของหญิงสาวต้องใช้ความคิดอย่างเร็วจี๋ หากปฏิเสธเขาจะมีสิ่งใดร้ายแรงตามมาหรือไม่ และไม่ทันได้ตอบอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นว่า “อั๊วชอบซีซี จริงๆ นะ ก่อนหน้านั้นเกเรไปบ้าง แต่งูยักษ์ยังใช้การได้ดี พอมันพบเจ้าของใหม่ ก็รับรองว่าจะไม่วอแวกับใครอีก ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น” บอกเธอจบ มือใหญ่ๆ ก็จับมือเรียวให้ไปสัมผัสแก่นกายของตน โจวหยางซีตัวสั่น ร่างกายอ่อนระทวย “ซีซีไม่ชอบคนเอาเปรียบ และถ้าเหล่ยต้าเกอ อยากมีความสุข เราก็จะมีไปด้วยกัน” พอเธอพูดจบ มีหรือที่คืนนี้ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวนอนหลับง่ายๆ และนี่คงเป็นครั้งแรก ที่เธอรู้สึกว่าตนช่างกล้าหาญเหลือเกิน หลายครั้งถูกเขาคำรามดุ แต่โจวหยางซียังฝืนเดินหน้าต่อ แก่นกายเขาอยู่ในโพรงปากเธอ ฝ่ายเธอก็พยายามปรนเปรอความสุขให้เขา พอช้าเงอะงะ บางครั้งฟันกระทบเนื้อ ชายหนุ่มก็แก้เผ็ดทันที มือเขานั้นแทรกเข้าไปในกลีบอุ่นจัดของหญิงสาว ปากก็ดูดรุนแรงอย่างเอาเ
เดี๋ยวอาบน้ำ เดี๋ยวเล่นจ้ำจี้ ดวงตากลมโตหลับลง ใครจะไปอยากดูงูดำๆ ของคนตัวโตกันเล่า โจวหยางซีบ้าผู้ชายอยู่บ้าง แต่เธอย่อมรู้ดี ตอนนี้อีกฝ่ายเมา ทั้งยังทำตัวเผด็จการ ความสาว ความสวย และความบริสุทธิ์ของเธอ จะรักษาไว้ได้อย่างไรหากอยู่กับเขาตามลำพัง อีกทั้งกลัวเขาจะลงมือรุนแรงเกินไป แต่เธอคงมัวแต่คิดอยู่อย่างนั้นนานไปหน่อย อึดใจต่อมา มือเขาก็จับจูงมือเธอแล้วลากตัวไปเข้าห้องน้ำด้านใน “อย่าดิ้น ดิ้นแรงกว่านี้ อั๊วจะจับแก้ผ้าแล้วให้อาบน้ำด้วยกันไปเสียเลย ชอบแบบนั้นไหม ลองดูกันสักรอบสองรอบได้นะ” ได้ยินอย่างสิ่งที่เขาพูด ขนหลังต้นคอก็ลุกซู่ เธอจึงเลือกที่จะไม่ขัดขืน ปล่อยตัวตามสบาย ทว่ายังไม่ยอมลืมตา ศีรษะเลยชนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย ก่อนที่คนเมาที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ในตัวจะพาเซเสียหลัก จากนั้นทั้งคู่ก็ลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำ “อร๊าย เหล่ยต้าเกอ” เธอร้องเสียงหลงได้เท่านั้น มือใหญ่ๆ ก็เอื้อมไปหมุนฝักบัว น้ำที่นี่ไหลแรง ไม่ได้มีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งยุคสมัยนั้นเรียกว่าหาได้ยากอยู่สักหน่อย อีกทั้งชายหนุ่มนิยมอาบน้ำอุณหภูมิปกติ ยกเว้นหน้าหนาวที่เขาจะต
พ่อกับลูก ก็เหมือนกัน โจวหยางซีตกใจ แต่นับว่าเธอมีสติที่ไม่ร้องโวยวาย คนที่รวบเอวเธอไว้ และยกนิ้วทำท่าจุ๊ปากห้ามไม่ให้ส่งเสียงคือเซียวก้งเยว่ ลูกสาวคนโตของเซียวหวังเหล่ยนั่นเอง “พี่ซีซี... ถอยออกมาตรงนี้เร็วๆ” เด็กสาวทำเสียงกระซิบกระซาบ พลางบุ้ยใบ้ให้เธอเห็นว่าสถานการณ์ในเรือนใหญ่ไม่ปกติ ยามนี้ฝนซาเม็ดแล้วก็จริง แต่ยังมีตกเปาะแปะอยู่บ้าง ดังนั้นเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงชัดเจน “ใครก็ไม่รู้ เดินวนไปวนมา หน้าห้องนอนหนู ดีที่หนูปีนหน้าต่างออกมาเสียก่อน และพี่หนิงไปเปิดประตูด้านข้าง พาเสี่ยวหลุนหลบข้างนอกแล้ว” เซียวก้งเยว่ว่า ในมือเด็กหญิงมีไม้กวาดถือไว้มั่น ดูเหมือนคงใช้เป็นอาวุธไม่ได้ ทว่ายามนี้สิ่งใดใกล้ตัวก็ควรถือไว้ก่อนเป็นดีที่สุด “เอ่อ มีที่ไหนหลบได้บ้าง” “ตามหนูมา และระวังอย่าให้มันเห็น” เด็กหญิงรีบพาเธอไปอีกทาง ในตอนนั้นเฮยหนิงโผล่มาร่วมอีกแรง “เสี่ยวหลุนล่ะพี่หนิง” “หลับปุ๋ยเลย ฉันให้คนพาไปซ่อนแล้ว” เฮยหนิงว่าเสียงเรียบ เธอผ่านหลากหลายเหตุการณ์มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และได้รับความไว้วาง
ขอเป็นนางเอกสักครั้ง ให้ชื่นใจ เป็นเวลาเกือบสามวันที่โจวหยางซีพักใกล้ๆ เรือนหลัก กลางวันเธอก็สอนหนังสือเซียวตี้หลุน ฝ่ายเด็กชายติดเธอแจ เขาชอบเล่าเรื่องตลกให้ฟัง อีกทั้งพวกเขามีเวลารถน้ำดอกกุหลาบ พรวนดินแปลงผักเล็กๆ ที่ปลูกไว้กินที่เรือนหลัก ความรู้สึกที่ได้อยู่กับคนเจ้าเนื้อทำให้เธอสบายใจ ไม่คิดฟุ้งซ่าน ถึงอย่างนั้นก็มีหวาดระแวงเรื่องของนายหญิงเล็กบ้านนี้ ทว่าเธอคิดมากไป ด้วยหม่าลั่วเซียงไม่ได้มาวุ่นวายกับเธอเลย ถึงอย่างนั้นโจวหยางซีอดระแวงไม่ได้ ฝ่ายเซียวหวังเหล่ยไม่ได้กลับบ้านเซียว เขาไปที่ไหนเธอก็ไม่อาจทราบได้ เธอถามเฮยหนิง ได้คำตอบว่าตอนนี้นอกจากเรื่องหลี่ฉู่ โจวเยี่ยนฟาง ชายหนุ่มยังต้องเจรจากับทางการด้วย มีภัยแล้งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ทั้งยังมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายก่อความไม่สงบ นั่นจึงทำให้เขาหายหน้าไป ซึ่งตั้งแต่ต้นเรื่องเหตุการณ์ของบ้านเมืองนั้น กำลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ สิ่งนี้จึงน่าหวาดหวั่นมิน้อย และบ่ายวันนี้ที่เถาจื่อ มาพบหญิงสาว ซึ่งแน่นอนว่าเซียวหวังเหล่ยอนุญาติเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้า “ป้าเถา...” ด้วยตัวละครเดิมสน
รับบทนางร้าย ยากยิ่งนัก ประตูห้องเปิดเข้ามาในอีกห้านาทีต่อมา เฮยหมิงได้รับคำสั่งให้คอยจับตาหญิงสาวไว้ และยังมีน้ำดื่ม ของกินเล่น และผลไม้ด้วย “เอา ยังไม่รีบกินอีก หิวอยู่ไม่ใช่เหรอ นี่ตั้งแต่มาถึง ฉันก็รีบเข้าครัว หาของกินมาให้เลย ได้มันฝรั่งผัดมาด้วยนะ ยังมีถัวทอดอีก” โจวหยางซีบุ้ยใบ้ไปข้างหลัง บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอถูกคนเผด็จการใช้เข็มขัดรัดข้อมือไว้ด้วยกัน “อาซี... เถ้าแก่เซียวเข้มงวดมาก ดุอยู่สักหน่อย แต่ทั้งหมดเขาก็แค่หลอกให้กลัว เพื่อจะไม่หาทางออกไปข้างนอกเท่านั้น และเข็มขัดนั้นก็หมัดไว้รวมๆ สลัดมือสองสามหนก็หลุดแล้ว” เฮยหมิงบอก พอหญิงสาวลองทำตามก็ปรากฏว่ามันเป็นปมหลอกๆ ที่ชายหนุ่มทำไว้ คราวนี้โจวหยางซีเลยรู้สึกเสียหน้ามาก “อยู่ที่นี่แล้ว อย่ากลัวสิ่งใดไป อีกอย่างจำเอาไว้เถ้าแก่เซียว อยากให้เธอรับใช่จริงๆ แต่ตอนนี้ คุณเหรินก็พยายามเหลือเกินที่จะหาเรื่องเอาตัวเธอไปอยู่ด้วย...ทั้งข่มขู่คุณนายโจว และน้องของเธอยังหายตัวไปอีก เรื่องมันวุ่นวายชวนปวดหัวเช่นนี้ ถ้าเถ้าแก่เซียวไม่หัวเสีย ก็แปลกแล้วล่ะ” พอเฮยหมิงว่าอย่างนี้ สิ่งที่ไ
นางร้ายที่ผู้ชายล้วนหมายปอง เขากวาดลิ้นรุกไล้ ไล่ต้อนเธอไม่หยุด ลิ้นเรียวเล็กก็หาทางหลบหนี ทว่ากลับจนแต้ม เลยต้องยอมให้เขานำพาไปสู่ความซาบซ่าน ซึ่งชวนให้หวามไหวอย่างที่สุด โจวหยางซีไม่เคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน หัวสมองเธอว่างเปล่า และร่างกายเหมือนจะตอบสนองเขา กระทั่งดึงสติตนกลับคืนได้ จึงส่งเสียงขึ้น “อี้... อะ อ๋าส์... คะ คน ละ เลว” เธอร้องอื้ออ้าประท้วง และมันยิ่งทำให้เขารุกหนัก อึดใจต่อมา มือใหญ่จึงล้วงเข้าไปในเสื้อของหญิงสาว แล้วสัมผัสหน้าอกภายในชั้นในที่ปกปิดสองเต้าอวบอัดที่สะท้านไหว เพราะเธอกำลังพยายามดิ้นรนขัดขืนเขา ปลายนิ้วสากๆ แตะเนื้อนิ่ม แล้วเกี่ยวสายชั้นในดึงรั้ง คล้ายกับพยายามจะทำให้มันขาดจนไม่อาจโอบอุ้มสองเต้าอวบๆ ของเธอไว้ได้ ยอดหน้าอกหญิงสาวชูชัน ความหวานฉ่ำในร่มผ้าก็ค่อยๆ หลั่งออกมา อาการของเธอมันฟ้องว่าต้องการเรื่องอย่างว่าไม่ต่างจากเขา ยามนี้เขายิ่งได้ใจ นิ้วมือนั้นก็ชำนาญในเรื่องอย่างว่ายิ่งนัก เสื้อตัวนอกถูกเลิกขึ้น แล้วอึดใจต่อมา ริมฝีปากบางของเขาก็จูบและเม้มที่เนินหน้าอกเธอ
บทรักแสนเฮงซวย โจวหยางซีถูกพาตัวไปโรงเก็บอุปกรณ์การเกษตร และด้านหน้ามีออฟฟิศ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเรือนหลัก เซียวหวังเหล่ยมากับเธอ ตั้งใจสอบถามหลายสิ่ง พร้อมกันนั้นคือเขาไม่อยากให้คนอื่นวุ่นวายกับหญิงสาว จึงไล่คนงาน และคนติดตามออกไปให้หมด เมื่อไม่มีใครอยู่ขวางหูขวางตา โจวหยางซีก็เพิ่งตระหนักได้ว่า ผู้ชายคนนี้แอบน่ากลัว และดูโรคจิตนิดๆ “ซีซี เมื่อเธออยากมาที่นี่ ต้องรับมือทุกเรื่องให้ได้ ฝ่ายอั๊วรู้ว่า เธอไม่ค่อยได้เรื่อง ในหัวมีแต่เรื่องเดียว คืออยากเป็นเมียอั๊ว” เขาหยาบคายมาก แรกๆ เธอก็ชื่นชมอยู่หรอก ตอนนี้ไม่อยากจะยกหางเขาแล้ว หากมีมีดคมๆ เธอก็จะตัดหางอีกฝ่ายทิ้งเสีย “หลงตัวเอง ซีซีก็แค่อยากเอาตัวรอด ไม่ได้พิศวาสคุณ อีกอย่างไม่มีรสนิยมกินเนื้อโคแก่” ทั้งหมดนั้น เธอพูดในใจ แต่สายตาที่สื่อถึงเขา มันเต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น “อืม และอั๊วเชื่อว่า เธอคงไม่เก่งกล้า หรือมีความรู้มากพอที่จะทำเรื่องอัปมงคลพวกนั้น” “แน่นอน ซีซี...จะทำไปเพื่อเหตุผลอะไร ในเมื่อสุดท้ายเหล่ยต้าเกอก็เรียกหา และอยากให้ขึ้นเตียงอยู่ดี” โจวหยางซีพยายาม
ด้ายแดงร้อยใจ “เหล่ยต้าเกอ คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไงเสี่ยวหลุนอยู่ตรงนี้” “เฮอะ บ้าแน่นอน ถ้ายังได้ยินเสียงเธอหัวเราะเยาะเรื่องของอั๊ว” ยามนั้น เซียวตี้หลุนทำตัวสั่นน้อยๆ ไม่ได้กลัว หรือตกใจ เขาแค่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น อีกอย่างเด็กชายรู้ว่า บิดามาที่นี่เพราะจะพาหญิงสาวกลับเรือนหลักด้วยกัน และนั่นคือสิ่งที่เขาร้องขอมาหลายวัน “น้องแค่อยากให้พี่ซีซี ไปนอนเล่นด้วย ปะ ป๊า อย่าโกรธเลยนะ เกี่ยวก้อยกันเถอะ ครอบครัวเดียวกัน ต้องรักกันไว้ฮะ” ชายหนุ่มลดความฉุนเฉียวลง ก่อนกวักมือเรียกพี่เลี้ยงของลูกชายให้มารับตัวเขาไป “เสี่ยวหลุนเด็กดี กลับบ้านไปกินขนมกับคุณย่าใหญ่ก่อนนะครับ เดี๋ยวป่าป๊า จะพามามี้ เอ๊ย พี่ซีซี ไปหาช่วงบ่าย ตอนนี้ต้องทำธุระของผู้ใหญ่ให้เสร็จเสียก่อน” “ได้ฮะ แต่ห้ามตีก้นเพียะๆ แต่นอนบนเตียงเล่นกันได้ น้องอนุญาตแล้ว จะไม่งองแง และร้องไห้สักแอะ ให้ป่าป๊าปวดหัว” ความไร้เดียงสาทำให้ทั้งชายหนุ่ม และหญิงสาวเงียบไปเกือบหนึ่งอึดใจใหญ่ๆ ก่อนที่เขาจะพูดเจื้อยแจ้วต่อ “ถ้าไม่ชอบ จะนอนกันสามคนก็ได้ น้องหลุนจะเป็นลูกให้ป่าป๊า