ดั้งนั้นเธอกับเซียวหวังเหล่ย ต้องเดินทางออกจากเมืองนี้ เพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นอันตราย นั่นเป็นเพราะกังเหรินกำลังจะป้ายสีเซียวหวังเหล่ย ด้วยข้อหาคบคิดพวกลัทธิเก่า เพื่อขับไล่ชาวต่างชาติที่มาเช่าพื้นที่ และทำการค้าโดยการเลี่ยงภาษี อันที่จริงนิยายไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่วิกฤตในครั้งนั้น ทำให้เซียวหวังเหล่ยกลับมายิ่งใหญ่ และร่ำรวย หลังจากที่เขาต้องหลบหนีไปใช้ชีวิตต่างแดน “แล้วตอนนี้มันร้ายแรงแค่ไหนเจ๊หนิง” “ผู้ใหญ่ในตระกูลเซียวกำลังวิ่งเต้นอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม คุณเหรินกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ตัวเธอ ฝ่ายเถ้าแก่เซียว เขาคงไม่ยอมเสียเธอไปแน่ๆ ดังนั้นถึงต้องซ่อนตัวสักพัก จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ” “แล้วฉันต้องไปที่ไหน” เฮยหมิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ แล้วตอบว่า “เจ๊ก็ไม่อยากเชื่อว่า คุณนายโจวกลายเป็นคนที่หูตากวางไกลสุด ตอนนี้แม่ของเธอ ดูที่ทางไว้ให้แล้ว และเจ๊พึ่งรู้ ว่าฝ่ายนั้นหอบเงินไปมากกว่าสองหมื่นหยวน ยิ่งไปแลกเป็นเงินอีกฝั่ง เรียกได้ว่าร่ำรวยกันเลยทีเดียว เธอไปอยู่ที่นั่นสักพักจนทุกอย่างคลี่คลาย จากนั้นค่อยกลับมา และเจ๊เชื่อเหลือเกินว่า ทั้
ชายหนุ่มแย่งปืนจากมือเด็กสาว และสั่งคนของตนจัดการบริเวณนั้นให้เรียบร้อย ห้ามให้มีผู้คนก่อความวุ่นวาย “อาซี รู้ตัวไหมว่าปล่อยให้ผมรอคุณนานเกินไปแล้วนะ อืม คงนับแต่คุณขโมยจูบแรกของผม และยังทำให้ผมรอคอยคุณอยู่นาน” โจวหยางซีวางสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ในหัวก็ปรากฏภาพของเธอกับกังเหรินนัวเนียกัน ให้ตายเถอะ เธอเป็นจูบแรกของเขาจริงๆ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยมีภรรยาหรือคู่นอนมาก่อน พอได้พบกับเธอจึงยกเป็นคนสำคัญ กระทั่งมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อบีบเซียวหวังเหล่ย นั่นจึงเป็นเหตุให้โจวหยางซีจบชีวิตในห้องใต้ดิน อย่างเดียวดาย “อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ ที่สำคัญตอนนี้ ฉันแต่งงานแล้ว” “อาซี อย่าหลอกผมเลย ถ้าไปกับผม ทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาด ผมอภัยให้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะบอบช้ำมาสักแค่ไหน” กังเหรินกล่าวอย่างนั้น ตอนแรกเธอค้านหัวชนฝา หากใช้เวลาคิดนานขึ้นอีกนิด หญิงสาวเริ่มคล้อยตาม อยู่กับเซียวหวังเหล่ยช่วงนี้ เธออาจทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่ถ้าไปกับบุรุษตรงหน้า ยังมีช่วงสุขสบายในชีวิตพักใหญ่ ก่อนจะจบลง และเมื่อเธอรู้เช่นนี้ ย่อมหาทางเอ
นางร้ายตัวแทน เซียวหวังเหล่ยจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เด็กๆ อยู่ในความคุ้มครองจากผู้ใหญ่ตระกูลเซียว ส่วนสวนและไร่ของเขายังมีคนงานทำงานเช่นเดิม ผิดแต่เข้มงวดในการเข้าออก ยีมนี้เขาต้องการพาโจวหยางซีไปใช้ชีวิตสงบสักพัก และรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะเรียบร้อยลงเป็นอย่างดี ผู้นำใหม่ย่อมมีวิสัยทัศน์มองอนาคตของบ้านเมือง เรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีต ทว่าพอเขาได้รับข่าวจากเฮยหมิงว่า โจวหยางซีต้องเข้าไปซ่อนตัวในตลาด ก่อนถึงจุดหมาย ชายหนุ่มก็อดห่วงเธอไม่ได้ พอเขามาถึงที่ซึ่งควรพบเธอ สายได้รายงานในเรื่องที่พบเห็น “เถ้าแก่เนี้ยไปกับคุณเหรินขอรับ...” เขาพยายามคิดว่าโจวหยางซีต้องไม่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะเธอเป็นคนของเขาแล้ว และยามนั้นความหึงหวง คับแค้นใจปะทุขึ้น เขาคิดอยู่เสมอเธอว่าโจวหยางซีอยากอยู่ข้างกายเขา เหตุใดถึงตามก้นศัตรูหนีไปเช่นนั้น และในขณะที่เขาคิดเรื่อยเปื่อยไปในทางร้ายๆ เถาจื่อผู้เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ก็โผล่มา “เสี่ยวเหมยยกปืนขึ้นขู่อาซี... และคุณเหรินก็เข้ามาข่มขู่ ป้ายืนห่างตั้งหลายเมตร ยังเดาได้เลยว่า อาซีไม
ประตูเหล็กสวนหย่อมถูกผลักเข้ามา และโจวหยางซีที่นั่งพักผ่อนชมต้นไม้ และสวนกุหลาบต้องหันไปมอง พอเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นไป๋อันเหมยก็ประหลาดใจอยู่หลายส่วน “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ” โจวหยางซีบอกอย่างนั้น แต่ไป๋อันเหมยก้าวเข้ามาใกล้ๆ และจู่ๆ ก็ถอดหมวกใบใหญ่ และแว่วดำที่สวมออก โหนกแก้มของเธอมีรอยช้ำ และริมฝีปากแม้จะเคลือบลิปสติกเอาไว้ แต่ก็มองเห็นว่ามีแผลแตกเล็กๆ ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ทำตัวเอง เรื่องนี้โจวหยางซีเตือนแล้ว “ฉันก็ไม่ได้อยากมาที่นี่สักเท่าไหร่ รู้ไหมกว่าจะฝ่าเข้ามาได้ ต้องเสียเงิน และใช้วิธีสกปรกแค่ไหน” โจวหยางซียักไหล่ อยากรู้เหมือนกันว่าไป๋อันเหมยมีความต้องการสิ่งใด “กลับไปหาเถ้าแก่เซียวซะ และบอกให้เขา...ช่วยพ่อฉันด้วย” “เสี่ยวเหมย เธอบอกเองว่าเข้ามาที่นี่ไม่ง่าย แล้วเห็นว่าฉันมีปีกหรือไง ถึงจะได้บินขึ้นฟ้าแล้วหายตัวเข้ากลีบเมฆ” “แน่นอนแกไม่ไม่ปีกหรอก แต่ฉันมีวิธีทำให้ออกไปได้ แต่ต้องให้เถ้าแก่เซียวช่วยพ่อฉัน ไม่อย่างนั้น เขาต้องถูกขังคุกตอนแก่ และไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก” หญิงสาวมองไป๋อันเหมย ตัวละครนี้น่
ขอให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี ขณะที่รถกำลังขับไปเพื่อทุกจุดหมายที่เซียวหวังเหล่ยจะมารับหญิงสาว เพื่อไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย กลับกลายเป็นว่า คนของกังเหรินรู้ทัน ฝ่ายนั้นจึงขับรถหลายคันไล่ตามอย่างน่ากลัว พร้อมมีการใช้ปืนไล่ยิง เซียวเฉิงรุ่ยนิ่งมาก โชคดีที่เขาสามารถประคองรถได้ และกำลังจะพ้นเขตของตระกูลกังเข้าสู่ถนนสายาสี่ แต่เป็นตอนนั้นที่มีรถบรรทุกหกล้อเล็กขับมาแล้วขวางทางไว้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบ แม้จะพ้นแต่ก็มีรถอีกคนขับมาชนท้ายอย่างแรง รถหมุนคว้างเกือบเสียหลักตกลงข้างทางแต่โจวหยางซีมีสติพอ เธอช่วยเซียวเฉิงรุ่ยบังคับพวงมาลัย อึดใจต่อมา จึงเห็นว่าศีรษะเขามีเลือดไหล สาเหตุเป็นเพราะกระแทกกับคอนโซลรถอย่างแรง “พี่สะใภ้...มือเย็น มะ มันชา และแข็งไปหมด ตาพร่าด้วย ผะ ผมขับต่อไม่ไหว” “อดทนอีกนิด ฉันจะช่วยจับพวงมาลัย นายเหยียบคันเร่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพอพ้นหัวมุมตรงนี้ ฉันจำได้ว่ามีตลาดสด และเราค่อยจอดรถ จากนั้นก็วิ่งให้เร็วที่สุด” โจวหยางซีกลัว ใจหล่นไปอยู่ปลายเท้า แต่เธอผ่านเหตุการณ์ในโลกที่จากมามิน้อย ดังนั้นตอนนี้จึงพยายามใช้ประสบการณ์แก้ไ
บทส่งท้าย หญิงสาวสลบไปหลังจากที่เซียวหวังเหล่ยขึ้นรถทหารคันใหญ่ เธอไม่ได้อ่อนแอทว่าสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เนื่องจากพักผ่อนน้อยมาหลายวัน อาหารกินแทบไม่ลง และพอตื่นขึ้นในวันที่สองหลังจากเซียวหวังเหล่ยถูกคุมตัวในพื้นที่ทหาร เธอก็ผวาจนตัวสั่น และได้เถาจื่อมาดูแลอย่างใกล้ชิด “เหล่ยต้าเกอ ไม่ได้มีความผิด จับฉัน... จับฉันไปแทนเขา ป้าจื่อ...อย่าให้ใครพาเขาไปที่ไหน” เธอร้องขึ้นอย่างนั้น ก่อนที่พบว่าตนอยู่ในบ้านเซียว และเป็นห้องนอนของชายหนุ่มที่กว้างขวาง “อาซี... โอ๊ยป้าเป็นห่วงมาก ฟื้นกลับมาเสียทีนะลูกนะ” โจวหยางซีกอดอีกฝ่าย ทั้งคู่เลยต้องเสียน้ำตาอยู่หลายอึดใจ กระทั่งประตูห้องมีเสียงเคาะ หญิงสาวจคงต้องรีบเช็ดน้ำตา “มามี้สุดหล่อฮะ น้องหลุนคนสวยอยู่นี่ ผมจะปกป้องมามี้เอง” เด็กชายไม่ฟังใครเขาพุ่งมาหาโจวหยางซีที่เตียง แล้วเป่าลมออกจากริมฝีปากสีชมพูน่ารัก ลมเย็นๆ และกลิ่นขนมหวานที่เขากินลอยเข้าจมูกเธอ “น้องหลุนจะเป็นลมแทนมามี้ ต่อไปไม่เป็นลมแล้วหลับนานๆ อีกนะ น้องหลุนกลัวไม่มีคนเลี้ยง ไม่มีใครให้กอด” เขาบอกแล้วก็จับมือเธอมาหอม และ
#นายท่านเจ้าขา ภรรยาไม่เคยผิด เจ้าหยวนอีย้อนเวลามาแต่งงานสายฟ้าแล่บกับเจ้าพ่อคนใหม่ยุค 70’s ซึ่งชาติก่อนเธอต้องจบชีวิตแบบเฮงซวย โดยต้นสายปลายเหตุมาจากอดีตคนเคยรัก ที่หน้าซื่อแต่ใจคด !? ในชาติใหม่ เธอจะไม่มีวันเล่นบทคนเจ้าน้ำตา ปล่อยให้ผู้อื่น โขกสับ หรือข่มเหงจิตใจและร่างกาย เรื่องพรรคนั้นลืมมันไปได้เลย และนับแต่นี้ ทุกย่างก้าวของหญิงสาวจะเฉิดฉายอยู่เคียงข้างสามีแสนประเสริฐ ที่ยืนยันเสียงหนักแน่นว่า ‘คนสวย ทำอะไรก็ถูกเสมอ!’หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น จึงบรรยายกระชับ และเน้นความสุขนิยม มีดร่ามาเสริมอรรถสเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อหากลมกล่อม********************นิยายเรื่องนี้แด่ ผัวที่ดี คือผัวที่บอกว่า ‘เมียรัก’ ทำอะไรก็ถูกเสมอ!นายท่านเจ้าขา ภรรยาไม่เคยผิด ปลายปี ค.ศ.1969 เมือง ฉางเผิง เขตปกครองตนเอง เรื่องที่กำลังเกิดขึ้น เจ้าหยวนอี มั่นใจว่า เธอไม่ได้เดินเข้าห้องผิด อีกทั้งเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดก่อนหน้า แจ้งชัดว่าเป็นคนตัวโตที่ฉีกมันออกอย่างไม่เหลือชิ้นดี ก่อนเขาจะเขวี้ยงให้ไปมุมห้องด้วยความรำคาญ เขาป่าเถื่อนหรือ ไม่หรอก คำนั
จวบจนเธอได้จูบกับซ่งฮ่าวตง และสัมผัสร่างกายกัน หญิงสาวให้คะแนนเขาเต็มสิบ ทว่าพอเริ่มคุยอีกนิด เธอคะเนได้ว่า อันธพาลตระกูลซ่งผู้นี้ อย่างไรก็เป็นพยัคฆ์ร้าย ไฉนจะเป็นลูกแมวเชื่องๆ ให้เธอจับจูงจมูกได้ง่ายๆ เจ้าหยวนอีสูดหายใจลึก คิดอยู่ประเดี๋ยวเดียว ก่อนแจ้งใจว่า อย่างไรผู้ชายก็ชอบสตรีที่อ่อนนอกแข็งใน ก่อนที่จะร้ายกับเขา หรือปั่นหัวให้ประสาทเสีย หญิงสาวย่อมต้องใช้น้ำตา และหยาดน้ำหวานฉ่ำเยิ้มในกลีบอวบอูมสร้างความรัก ความหลง ให้เขาสยบเสียก่อน “ฉัน...กลัว...” จู่ๆ เธอก็เลือกโพล่งคำนั้นออกไป และนี่คือการแสดงอย่ามสมบทบาทจากเจ้าของร่าง สตรีไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก ทั้งชีวิตนี้ต้องการบุรุษที่แข็งแกร่งปกป้อง “เธอกลัว...” เขาทวนคำหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ค่ะ นับแต่รู้ว่าต้องแต่งงานกับท่านเก้า ทำให้ฉันคิดมาก จนนอนไม่หลับ บางครั้งก็ฝันร้าย ว่าถูกคุณฆ่าตาย” เจ้าหยวนอีน้ำตาคลอหน่วย และร้องไห้ออกมาจริงๆ จึงทำให้ชายหนุ่ม รั้วเอวบางมากอดไว้ “การเป็นผู้หญิงของฉัน มีเรื่องเดียวที่เธอต้องกลัวคือ การคิดไม่ซื่อและพยายามสวมเขาให้บุ
เจ้าหยวนอี เกิดความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ เธอกลายเป็นของเขาแล้ว ทั้งที่ในความจริง หาได้มีการแทรกแก่นกายเข้าไปในร่างกาย หากยามนี้หัวใจบอกว่า เธอไม่อาจตอบรับใครได้อีก บุรุษผู้นี้มอบความสุขอันล้ำเหลือแก่เธอ อาจเป็นทั้งร่างเดิมในโลกปัจจุบัน และโลกคู่ขนานนี้ ซึ่งเจ้าหยวนอี ย่อมแน่ใจว่า เธอคงไม่อาจเป็นของผู้ใดได้อีก! “เกลียดมากไหม” เขาคงต้องการให้เธอด่าทอ ต่อว่าแรงๆ อย่างหยาบคาย บัดซบ เหตุใดถึงถามเซ้าซี้เช่นนี้ “อี้ ๆ ๆ อ๊า... ท่านเก้า ช่างไร้ยางอาย ท่านเป็นลูกหมาเยี่ยงนั้นหรือ ถึงได้ทั้งเลีย แล้วก็ดูด... อุ๊ย กัดข้าด้วย!” “โถ แม่นักแสดงไร้เดียงสา หมาที่ไหน จะรูปหล่อเท่าฉันฮึ” ยามนี้ทั้งคู่ละลายพฤติกรรมออกทีละนิด ความเกร็ง ความไม่ค้นเคย และขัดเขินที่มีต่อกัน ค่อยๆ สลายไป พวกเขากำลังส่งเสริมความสุขแก่กัน เมื่อคนหนึ่งจูบ อีกคนก็สั่นสะท้านร่างตอบรักความสุข คนหนึ่งแทรกลิ้นเข้าไปในกลีบเนื้องาม อีกฝ่ายก็ส่งความหวานชุ่มฉ่ำให้ลิ้มรสชาติไม่หยุด “น้ำหวานเธอชุ่มชื่นมากนะ แบบนี้ คงพร้อมรับความสุขจากฉันแล้วใช่ไห
เจ้าหยวนอี...รับรู้ได้ถึงพลังแห่งบุรุษ เขาต้องการเธอ กระหายในไฟราคะ ดังนั้นการดูดดุนตวัดลิ้นเร่าร้อน จึงทำให้หญิงสาวผวา ทั้งรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ทว่าเป็นความรู้สึกเดียวกันนี้ ที่เธอปรารถนาอยากให้บุรุษสักคนกระทำด้วยตลอดมา เธอไม่เคยสัมผัสถึง มันซ่านสยิว ร้อนแรง... เสมือนการโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา เขาจูบหนัก เธอก็เรียนรู้การตอบรับอย่างไม่รอช้า “อืม... ดี... พวกเขาสอนให้เธอ รับใช้ผู้ชายเก่งเหมือนกัน” หัวสมองเจ้าหยวนอีขาวโพลนชั่วขณะ เธอปล่อยใจให้ล่องลอย พยายามไม่คิดเรื่องอื่นใด เพื่อที่จะรองรับความปรารถนาที่กำลังจะเกิดขึ้น กระโปรงเธอถูกสลัดทิ้ง กางเกงในลูกไม้ตัวบางถูกรั้งลง แล้วมือใหญ่ที่หยาบกร้านสักหน่อยก็แตะบนเนื้ออวบอูมซึมฉ่ำเยิ้มรออยู่แล้ว ร่างกายของเธอ สะท้าน... และตื่นกลัวนิดๆ “ใช่ น้ำหวานพวกนี้ ฉันต้องการให้เธอ ปล่อยมันออกมา ยิ่งเยอะยิ่งดี และมันเป็นสิ่งเดียว ที่ฉันอยากเห็น เร็วสิ หลั่ง... ให้ฉันดู เหมือนพวกผู้หญิงร่านๆ ในผับ หรืออาบอบนวดได้ไหม” ถ้อยคำของเขาหยาบคายเกินไป และสะเทือน
จวบจนเธอได้จูบกับซ่งฮ่าวตง และสัมผัสร่างกายกัน หญิงสาวให้คะแนนเขาเต็มสิบ ทว่าพอเริ่มคุยอีกนิด เธอคะเนได้ว่า อันธพาลตระกูลซ่งผู้นี้ อย่างไรก็เป็นพยัคฆ์ร้าย ไฉนจะเป็นลูกแมวเชื่องๆ ให้เธอจับจูงจมูกได้ง่ายๆ เจ้าหยวนอีสูดหายใจลึก คิดอยู่ประเดี๋ยวเดียว ก่อนแจ้งใจว่า อย่างไรผู้ชายก็ชอบสตรีที่อ่อนนอกแข็งใน ก่อนที่จะร้ายกับเขา หรือปั่นหัวให้ประสาทเสีย หญิงสาวย่อมต้องใช้น้ำตา และหยาดน้ำหวานฉ่ำเยิ้มในกลีบอวบอูมสร้างความรัก ความหลง ให้เขาสยบเสียก่อน “ฉัน...กลัว...” จู่ๆ เธอก็เลือกโพล่งคำนั้นออกไป และนี่คือการแสดงอย่ามสมบทบาทจากเจ้าของร่าง สตรีไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก ทั้งชีวิตนี้ต้องการบุรุษที่แข็งแกร่งปกป้อง “เธอกลัว...” เขาทวนคำหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “ค่ะ นับแต่รู้ว่าต้องแต่งงานกับท่านเก้า ทำให้ฉันคิดมาก จนนอนไม่หลับ บางครั้งก็ฝันร้าย ว่าถูกคุณฆ่าตาย” เจ้าหยวนอีน้ำตาคลอหน่วย และร้องไห้ออกมาจริงๆ จึงทำให้ชายหนุ่ม รั้วเอวบางมากอดไว้ “การเป็นผู้หญิงของฉัน มีเรื่องเดียวที่เธอต้องกลัวคือ การคิดไม่ซื่อและพยายามสวมเขาให้บุ
#นายท่านเจ้าขา ภรรยาไม่เคยผิด เจ้าหยวนอีย้อนเวลามาแต่งงานสายฟ้าแล่บกับเจ้าพ่อคนใหม่ยุค 70’s ซึ่งชาติก่อนเธอต้องจบชีวิตแบบเฮงซวย โดยต้นสายปลายเหตุมาจากอดีตคนเคยรัก ที่หน้าซื่อแต่ใจคด !? ในชาติใหม่ เธอจะไม่มีวันเล่นบทคนเจ้าน้ำตา ปล่อยให้ผู้อื่น โขกสับ หรือข่มเหงจิตใจและร่างกาย เรื่องพรรคนั้นลืมมันไปได้เลย และนับแต่นี้ ทุกย่างก้าวของหญิงสาวจะเฉิดฉายอยู่เคียงข้างสามีแสนประเสริฐ ที่ยืนยันเสียงหนักแน่นว่า ‘คนสวย ทำอะไรก็ถูกเสมอ!’หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น จึงบรรยายกระชับ และเน้นความสุขนิยม มีดร่ามาเสริมอรรถสเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อหากลมกล่อม********************นิยายเรื่องนี้แด่ ผัวที่ดี คือผัวที่บอกว่า ‘เมียรัก’ ทำอะไรก็ถูกเสมอ!นายท่านเจ้าขา ภรรยาไม่เคยผิด ปลายปี ค.ศ.1969 เมือง ฉางเผิง เขตปกครองตนเอง เรื่องที่กำลังเกิดขึ้น เจ้าหยวนอี มั่นใจว่า เธอไม่ได้เดินเข้าห้องผิด อีกทั้งเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดก่อนหน้า แจ้งชัดว่าเป็นคนตัวโตที่ฉีกมันออกอย่างไม่เหลือชิ้นดี ก่อนเขาจะเขวี้ยงให้ไปมุมห้องด้วยความรำคาญ เขาป่าเถื่อนหรือ ไม่หรอก คำนั
บทส่งท้าย หญิงสาวสลบไปหลังจากที่เซียวหวังเหล่ยขึ้นรถทหารคันใหญ่ เธอไม่ได้อ่อนแอทว่าสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เนื่องจากพักผ่อนน้อยมาหลายวัน อาหารกินแทบไม่ลง และพอตื่นขึ้นในวันที่สองหลังจากเซียวหวังเหล่ยถูกคุมตัวในพื้นที่ทหาร เธอก็ผวาจนตัวสั่น และได้เถาจื่อมาดูแลอย่างใกล้ชิด “เหล่ยต้าเกอ ไม่ได้มีความผิด จับฉัน... จับฉันไปแทนเขา ป้าจื่อ...อย่าให้ใครพาเขาไปที่ไหน” เธอร้องขึ้นอย่างนั้น ก่อนที่พบว่าตนอยู่ในบ้านเซียว และเป็นห้องนอนของชายหนุ่มที่กว้างขวาง “อาซี... โอ๊ยป้าเป็นห่วงมาก ฟื้นกลับมาเสียทีนะลูกนะ” โจวหยางซีกอดอีกฝ่าย ทั้งคู่เลยต้องเสียน้ำตาอยู่หลายอึดใจ กระทั่งประตูห้องมีเสียงเคาะ หญิงสาวจคงต้องรีบเช็ดน้ำตา “มามี้สุดหล่อฮะ น้องหลุนคนสวยอยู่นี่ ผมจะปกป้องมามี้เอง” เด็กชายไม่ฟังใครเขาพุ่งมาหาโจวหยางซีที่เตียง แล้วเป่าลมออกจากริมฝีปากสีชมพูน่ารัก ลมเย็นๆ และกลิ่นขนมหวานที่เขากินลอยเข้าจมูกเธอ “น้องหลุนจะเป็นลมแทนมามี้ ต่อไปไม่เป็นลมแล้วหลับนานๆ อีกนะ น้องหลุนกลัวไม่มีคนเลี้ยง ไม่มีใครให้กอด” เขาบอกแล้วก็จับมือเธอมาหอม และ
ขอให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี ขณะที่รถกำลังขับไปเพื่อทุกจุดหมายที่เซียวหวังเหล่ยจะมารับหญิงสาว เพื่อไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย กลับกลายเป็นว่า คนของกังเหรินรู้ทัน ฝ่ายนั้นจึงขับรถหลายคันไล่ตามอย่างน่ากลัว พร้อมมีการใช้ปืนไล่ยิง เซียวเฉิงรุ่ยนิ่งมาก โชคดีที่เขาสามารถประคองรถได้ และกำลังจะพ้นเขตของตระกูลกังเข้าสู่ถนนสายาสี่ แต่เป็นตอนนั้นที่มีรถบรรทุกหกล้อเล็กขับมาแล้วขวางทางไว้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจหักพวงมาลัยหลบ แม้จะพ้นแต่ก็มีรถอีกคนขับมาชนท้ายอย่างแรง รถหมุนคว้างเกือบเสียหลักตกลงข้างทางแต่โจวหยางซีมีสติพอ เธอช่วยเซียวเฉิงรุ่ยบังคับพวงมาลัย อึดใจต่อมา จึงเห็นว่าศีรษะเขามีเลือดไหล สาเหตุเป็นเพราะกระแทกกับคอนโซลรถอย่างแรง “พี่สะใภ้...มือเย็น มะ มันชา และแข็งไปหมด ตาพร่าด้วย ผะ ผมขับต่อไม่ไหว” “อดทนอีกนิด ฉันจะช่วยจับพวงมาลัย นายเหยียบคันเร่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยวพอพ้นหัวมุมตรงนี้ ฉันจำได้ว่ามีตลาดสด และเราค่อยจอดรถ จากนั้นก็วิ่งให้เร็วที่สุด” โจวหยางซีกลัว ใจหล่นไปอยู่ปลายเท้า แต่เธอผ่านเหตุการณ์ในโลกที่จากมามิน้อย ดังนั้นตอนนี้จึงพยายามใช้ประสบการณ์แก้ไ
ประตูเหล็กสวนหย่อมถูกผลักเข้ามา และโจวหยางซีที่นั่งพักผ่อนชมต้นไม้ และสวนกุหลาบต้องหันไปมอง พอเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นไป๋อันเหมยก็ประหลาดใจอยู่หลายส่วน “ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ” โจวหยางซีบอกอย่างนั้น แต่ไป๋อันเหมยก้าวเข้ามาใกล้ๆ และจู่ๆ ก็ถอดหมวกใบใหญ่ และแว่วดำที่สวมออก โหนกแก้มของเธอมีรอยช้ำ และริมฝีปากแม้จะเคลือบลิปสติกเอาไว้ แต่ก็มองเห็นว่ามีแผลแตกเล็กๆ ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ทำตัวเอง เรื่องนี้โจวหยางซีเตือนแล้ว “ฉันก็ไม่ได้อยากมาที่นี่สักเท่าไหร่ รู้ไหมกว่าจะฝ่าเข้ามาได้ ต้องเสียเงิน และใช้วิธีสกปรกแค่ไหน” โจวหยางซียักไหล่ อยากรู้เหมือนกันว่าไป๋อันเหมยมีความต้องการสิ่งใด “กลับไปหาเถ้าแก่เซียวซะ และบอกให้เขา...ช่วยพ่อฉันด้วย” “เสี่ยวเหมย เธอบอกเองว่าเข้ามาที่นี่ไม่ง่าย แล้วเห็นว่าฉันมีปีกหรือไง ถึงจะได้บินขึ้นฟ้าแล้วหายตัวเข้ากลีบเมฆ” “แน่นอนแกไม่ไม่ปีกหรอก แต่ฉันมีวิธีทำให้ออกไปได้ แต่ต้องให้เถ้าแก่เซียวช่วยพ่อฉัน ไม่อย่างนั้น เขาต้องถูกขังคุกตอนแก่ และไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก” หญิงสาวมองไป๋อันเหมย ตัวละครนี้น่
นางร้ายตัวแทน เซียวหวังเหล่ยจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เด็กๆ อยู่ในความคุ้มครองจากผู้ใหญ่ตระกูลเซียว ส่วนสวนและไร่ของเขายังมีคนงานทำงานเช่นเดิม ผิดแต่เข้มงวดในการเข้าออก ยีมนี้เขาต้องการพาโจวหยางซีไปใช้ชีวิตสงบสักพัก และรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะเรียบร้อยลงเป็นอย่างดี ผู้นำใหม่ย่อมมีวิสัยทัศน์มองอนาคตของบ้านเมือง เรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีต ทว่าพอเขาได้รับข่าวจากเฮยหมิงว่า โจวหยางซีต้องเข้าไปซ่อนตัวในตลาด ก่อนถึงจุดหมาย ชายหนุ่มก็อดห่วงเธอไม่ได้ พอเขามาถึงที่ซึ่งควรพบเธอ สายได้รายงานในเรื่องที่พบเห็น “เถ้าแก่เนี้ยไปกับคุณเหรินขอรับ...” เขาพยายามคิดว่าโจวหยางซีต้องไม่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะเธอเป็นคนของเขาแล้ว และยามนั้นความหึงหวง คับแค้นใจปะทุขึ้น เขาคิดอยู่เสมอเธอว่าโจวหยางซีอยากอยู่ข้างกายเขา เหตุใดถึงตามก้นศัตรูหนีไปเช่นนั้น และในขณะที่เขาคิดเรื่อยเปื่อยไปในทางร้ายๆ เถาจื่อผู้เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ก็โผล่มา “เสี่ยวเหมยยกปืนขึ้นขู่อาซี... และคุณเหรินก็เข้ามาข่มขู่ ป้ายืนห่างตั้งหลายเมตร ยังเดาได้เลยว่า อาซีไม
ชายหนุ่มแย่งปืนจากมือเด็กสาว และสั่งคนของตนจัดการบริเวณนั้นให้เรียบร้อย ห้ามให้มีผู้คนก่อความวุ่นวาย “อาซี รู้ตัวไหมว่าปล่อยให้ผมรอคุณนานเกินไปแล้วนะ อืม คงนับแต่คุณขโมยจูบแรกของผม และยังทำให้ผมรอคอยคุณอยู่นาน” โจวหยางซีวางสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ในหัวก็ปรากฏภาพของเธอกับกังเหรินนัวเนียกัน ให้ตายเถอะ เธอเป็นจูบแรกของเขาจริงๆ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยมีภรรยาหรือคู่นอนมาก่อน พอได้พบกับเธอจึงยกเป็นคนสำคัญ กระทั่งมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อบีบเซียวหวังเหล่ย นั่นจึงเป็นเหตุให้โจวหยางซีจบชีวิตในห้องใต้ดิน อย่างเดียวดาย “อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ ที่สำคัญตอนนี้ ฉันแต่งงานแล้ว” “อาซี อย่าหลอกผมเลย ถ้าไปกับผม ทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาด ผมอภัยให้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะบอบช้ำมาสักแค่ไหน” กังเหรินกล่าวอย่างนั้น ตอนแรกเธอค้านหัวชนฝา หากใช้เวลาคิดนานขึ้นอีกนิด หญิงสาวเริ่มคล้อยตาม อยู่กับเซียวหวังเหล่ยช่วงนี้ เธออาจทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่ถ้าไปกับบุรุษตรงหน้า ยังมีช่วงสุขสบายในชีวิตพักใหญ่ ก่อนจะจบลง และเมื่อเธอรู้เช่นนี้ ย่อมหาทางเอ