แชร์

กลับบ้านกับข้าไหม

ผู้เขียน: Midzilee01
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 15:33:10

"ท่านจงสัญญากับข้าว่า ท่านจะไม่มีวันคิดทำร้ายหรือสังหารข้า นี่คือเรื่องเดียวที่ข้าอยากขอร้องท่าน"

นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและแววตาแฝงไปด้วยความสั่นไหว บอกตามตรงว่านางหวาดกลัวโลกใบใหม่แห่งนี้เหลือเกิน เพราะมันเป็นสถานที่ ที่ชะตาชีวิตของนางถูกกำหนดไว้แล้ว ด้วยปลายปากกาของคนเพียงหนึ่ง

มันเป็นโลกของนิยายที่นักเขียนได้สร้างขึ้นมาให้ จ้าวเยี่ยนฟาง ถูกสามีที่นางรักยิ่งกว่าสิ่งใด ลงมือสังหารนางได้อย่างเลือดเย็น..

หวงตงหยางมองหน้าภรรยาที่เขานั้นแสนจะเกลียดชังด้วยความรู้สึกบางอย่าง ภายในใจของเขารู้สึกสับสนอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน การที่ภรรยามาขอร้องเขาว่าอย่าสังหารนาง สำหรับสามีแล้ว เขาควรรู้สึกอย่างไรดี

นี่เขาชั่วช้าในสายตานางถึงเพียงนั้นเชียวหรือ..

"ได้สิข้าสัญญา"หวงตงหยางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ แววตาของเขาวูบไหวเพียงครู่หนึ่งก่อนจะกลับมานิ่งเฉยดังเดิม 

หรือว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ในวันนั้น.. นางถึงได้แปลกไปจากเดิม

หลังจากวันนั้น แม่ทัพหวงตงหยางก็สั่งยกเลิกการกักบริเวณฮูหยิน เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาสัญญาที่เคยพูดไว้เป็นอย่างดี นอกจากการมาขอให้เขาช่วยตรวจสอบบัญชีการใช้จ่ายภายในจวน เขาก็ไม่เคยเห็นหน้านางในเวลาอื่นอีกเลย

แม้แต่ตอนที่เขากลับมาจากงานหลังออกจากจวนไปเกือบอาทิตย์ นางก็ไม่โผล่หน้ามาต้อนรับหรือทักทาย เรียกได้ว่า จ้าวเยี่ยนฟางและหวงตงหยาง กลายเป็นเพียงคนที่อาศัยร่วมชายคาเดียวกันเท่านั้น มิได้มีความสัมพันธ์ใด ต่อกันเลยแม้แต่น้อย

หนึ่งเดือนก่อน

หวงตวงหยางเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปยังที่พำนักของตน ก่อนจะนั่งลงบนตั่งไม้สักอย่างไม่สบอารมณ์ เขานั้นรู้ดีว่าฮูหยินมิใช่คนที่นิสัยดีอะไรนัก แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้

หลังจากที่สั่งโบยฮูหยินไปด้วยอารมณ์ของคนที่ขาดสติ เขาก็ได้แต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่เรือนของตน โดยที่สั่งให้เจียวมิ่งองครักษ์คนสนิท เป็นคนไปส่งเหรินหลานเฟิงที่จวนสกุลเหริน 

ร่างกายสูงใหญ่กำยำดูองอาจลุกขึ้นและเดินไปมาอยู่ภายในห้อง ด้วยความคิดที่สับสนวุ่นวาย 

ป่านนี้นางจะโดนเฆี่ยนไปแล้วหรือยัง คงไม่หรอกกระมัง.. ใครจะไปกล้าเฆี่ยนตีหลานรักขององค์ฮองเฮากันเล่า เดี๋ยวนางก็คงใช้อำนาจของครอบครัวนาง มาขู่เข็ญคนของข้าเป็นแน่ คนเช่นนางใครจะกล้าลงโทษ 

ในขณะที่หวงตงหยางกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตน เจียวมิ่งก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของผู้เป็นนาย หวงตงหยางที่เห็นเช่นนั้นจึงได้หยุดนิ่งอยู่กลางห้อง ก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก และกระแอมขึ้นมาเบา ๆ

"แม้แต่เจ้าก็ไม่เคาะห้องข้าก่อนเข้ามาแล้วรึ" เสียงทรงอำนาจพูดขึ้นด้วยท่าทีเรียบเฉยดั่งที่เคยเป็น

"ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยยืนเคาะประตูอยู่นานแล้วขอรับ พอเห็นว่าท่านมิได้ตอบ จึงถือวิสาสะเข้ามาเพราะคิดว่าท่านอาจมีปัญหาอันใดอยู่ ข้าน้อยไร้มารยาท ท่านแม่ทัพโปรดลงโทษด้วย" เจียวมิ่งค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม มือทั้งสองข้างประสานกันด้วยความเคารพ

หวงตงหยางที่เห็นเช่นนั้นก็มิได้ต่อว่าอันใดต่อ เพราะเมื่อครู่เขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก จึงไม่ทันได้สังเกตว่าเจียวมิ่งมายืนอยู่หน้าประตูตั้งนานแล้ว

"เจ้าไปส่งแม่นางเหรินแล้วใช่หรือไม่" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

"เรียนนายท่าน ข้าน้อยไปส่งแม่นางเหรินถึงที่เรือนอย่าปลอดภัยแล้วขอรับ"

"แล้ว..ฮูหยินล่ะ นางเป็นอย่างไรบ้าง ข้าเดาว่านางมิได้ถูกเฆี่ยนหรอกใช่หรือไม่ ปกติเวลาข้าจะสั่งลงโทษอะไรนาง นางก็มักจะเอาตำแหน่งหลานของฮองเฮามาขู่ตลอด จนมิมีผู้ใดกล้าลงโทษนาง ครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิมอีกแล้วใช่หรือไม่" หวงตงหยางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายใจ แต่ทว่าสีหน้ากลับแฝงไปด้วยความกังวล หากนางถูกโบยห้าสิบไม้จริง ๆ มีหวังนางคงได้ตายแน่ ๆ ตัวนางเล็กและบอบบางเช่นนั้น ทนได้อย่างมากก็สองไม้นั่นแหละ

เมื่อเจียวมิ่งได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่อึกอักทำตัวไม่ถูก เขาไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะถามถึงฮูหยินหลังสั่งลงโทษไปเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน อีกอย่างตอนนี้ฮูหยินก็ถูกลงโทษเสร็จไปแล้ว แต่นายท่านกลับคิดว่าฮูหยินมิได้ถูกผู้ใดลงโทษ

นายท่านข้าน้อยไม่เข้าใจความคิดของท่านจริง ๆ เลยขอรับ สรุปแล้วท่านอยากลงโทษฮูหยินจริง ๆ หรือไม่..

"ว่าอย่างไรล่ะเจียวมิ่ง สรุปนางเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ ถ้าให้ข้าเดาตอนนี้นางคงกำลังนอนกินขนมกุ้ยฮวาอย่างสบายใจอยู่บนเตียงใช่หรือไม่" หวงตงหยางถามขึ้นอีกครั้ง ทว่าคราวนี้สีหน้าและน้ำเสียงมีความกังวลแปดถึงเก้าส่วน

"เรียนนายท่าน ฮูหยิน..ถูกโบยครบทั้งห้าสิบไม้ขอรับ ตอนนี้ฮูหยินท่านสลบไปแล้ว ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ขึ้นสูงด้วย ตอนนี้สาวใช้ของนางกำลังดูแลอยู่ขอรับ"

หวงตงหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ตนนั้นได้ยิน จ้าวเยี่ยนฟางนางยอมให้ลงโทษจริง ๆ หรือ ขนาดเมื่อก่อนเขาสั่งกักบริเวณนางสองสามวันนางยังไม่สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย เขารู้เช่นนั้นแต่ก็ยอมปล่อยผ่านไปทุกรอบ แต่ไม่คิดว่าคราวนี้นางจะยอมถูกโบยจริง ๆ ..

"ไปตามหมอมา เดี๋ยวนี้เลย!!"  

ปัจจุบัน

"เจียวมิ่ง เจ้าไปที่เรือนจงหยุน ไปดูซิว่าฮูหยินเตรียมตัวเสร็จหรือยัง หากนางพร้อมแล้วให้พาไปที่รถม้าได้เลย ข้าจะรออยู่ที่นั่น"เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ ตัวเขาเองก็นึกสงสัยไม่น้อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปของฮูหยิน

ช่วงนี้บ่าวไพร่ในเรือนก็อยู่กันอย่างสงบ เพราะมีนายหญิงคอยดูแลความเรียบร้อยเป็นอย่างดี แม้ตอนแรกพวกเขาจะสงสัยในการกระทำของฮูหยิน แต่พอเห็นถึงความตั้งใจจริงว่าท่านจะเปลี่ยนแปลงตนเอง เหล่าสาวใช้จึงพากันหันกลับมาเป็นกำลังใจให้กับจ้าวเยี่ยนฟาง

"ขอรับ"

องครักษ์หนุ่มมุ่งหน้าไปยังเรือนจงหยุนตามคำสั่งของแม่ทัพหวง และเมื่อเดินไปถึงบริเวณเรือนของฮูหยิน ก็เห็นว่าฮูหยินกำลังเดินออกมาพอดี

"ฮูหยิน ท่านแม่ทัพรอท่านอยู่ที่รถม้าขอรับ"

ดวงหน้างามพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามองครักษ์ไปยังรถม้า วันนี้เป็นวันที่นางต้องเข้าวัง เพื่อไปงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฮองเฮา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางจะได้เข้าวัง

อาภรณ์สีฟ้าอ่อนปลิวไสวไปตามแรงลม เครื่องประดับเงินและไข่มุกห้อยระย้าพากันสั่นไหวในทุกย่างก้าวที่นางเดิน

จ้าวเยี่ยนฟางมุ่งหน้าตรงเข้าไปยังรถม้า ก่อนจะเห็นว่า หวงตงหยางกำลังนั่งรอนางอยู่ภายในรถม้า นางจำต้องนั่งกับเขาโดยที่รู้ว่า หวงตงหยางเองก็มิได้เต็มใจจะนั่งกับนางเช่นกัน

รถม้าค่อย ๆ เคลื่อนที่ออกจากจวนแม่ทัพ ไปยังพระราชวังอย่างช้า ๆ โดยระหว่างทาง คู่สามีภรรยาก็มิได้เอ่ยปากพูดคุยอะไรกัน จนกระทั่งใกล้ถึงพระราชวัง หวงตงหยางจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน

"วันนี้เราก็ต้องเล่นละครให้ทุกคนเห็นว่าพวกเรารักใคร่กลมเกลียวกันดีใช่หรือไม่"

"มันจำเป็นด้วยหรือเจ้าคะ" จ้าวเยี่ยนฟางถามกลับอย่างไม่เข้าใจ เหตุใดนางต้องแสดงละครเช่นนั้นด้วย

"เจ้าลืมแล้วหรือ ก็เจ้าเคยเป็นคนขอร้องข้าเองนี่" ดวงตาดำขลับจ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ตลอดเวลาสามปีที่แต่งงานกันมา จ้าวเยี่ยนฟางก็จะคอยขอร้องเขาในเรื่องนี้อยู่เสมอ เหตุใดจู่ ๆ นางทำเหมือนกับว่าลืมไปแล้วเสียอย่างนั้น

จ้าวเยี่ยนฟางกะพริบตาปริบ ๆ เมื่อได้ยินเขาตอบกลับเช่นนั้น นางก็จำได้ทันที ในความทรงจำที่นางรู้สึกได้ในจิตใต้สำนึกนั้น จ้าวเยี่ยนฟางมักจะขอร้องให้หวงตงหยางช่วยแสดงละครจริง ๆ

ตงหยางถือว่าข้าขอร้อง ไม่ว่าเจ้าจะโกรธเกลียดข้าอย่างไร ได้โปรดอย่าให้ข้าต้องอับอายต่อหน้าผู้คนเลย ช่วยแกล้งรักข้าหน่อยได้หรือไม่ แค่ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ยังดี..

"อ่อ.. ข้าเคยพูดไว้จริงด้วย แต่ไม่เป็นไร จากนี้ไป ข้าจะไม่บังคับท่าน หากท่านไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ ใครจะคิดเช่นไรก็ปล่อยให้เขาคิดไป ข้ามิใส่ใจหรอก"

หวงตงหยางได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความประหลาดใจ เขารู้ดีว่าตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่คิดว่านางจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ นางเหมือนไม่ใช่ฮูหยินคนเดิมที่เขารู้จักเลยสักนิด

"เจ้าน่ะหรือมิใส่ใจ" สายตาคมยังคงจับจ้องมาที่นางอย่างไม่ลดละ เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่หูของตนได้ยิน จ้าวเยี่ยนฟางผู้นั้นนะหรือ จะพูดกับเขาว่า หากไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ

"ใช่ ข้ามิใส่ใจ"

"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า"

ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ รถม้าก็เคลื่อนตัวมาจอดภายในพระราชวัง หวงตงหยางก้าวเท้าลงมาก่อน ก่อนที่จะยื่นมือไปให้จ้าวเยี่ยนฟางที่กำลังจะลงจากรถม้าจับ ตอนนี้มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่นางและหวงตงหยางอย่างใคร่รู้ ไม่ว่านางจะชอบหรือไม่ชอบ นางก็มิควรปฏิเสธน้ำใจของเขาที่นี่

ดวงตาคู่งามช้อนมองหน้าใบหน้าคมเข้มหวงตงหยางอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจับมือเขาไว้ และก้าวลงจากรถม้าอย่างสง่างาม

"ขอบใจนะ" เสียงหวานเอื้อนเอ่ย พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ ของนาง หวงตงหยางแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนได้เห็น เมื่อยามที่ได้ยลดวงหน้านวลในระยะประชิดเช่นนี้ ลมหายใจพลันสะดุดเต้นตุบไม่เป็นจังหวะ ดวงตาเขาเบิกกว้างเล็กน้อยกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับใจของตน

ปกติแล้ว นางงดงามเช่นนี้หรือ..

เขาสะบัดหัวเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดเช่นนั้นออกไป อย่าได้ไปหลงเปลือกนอกของสตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางเชียว นางเป็นสตรีร้ายกาจเพียงใดเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ

"รีบเข้าไปข้างในกันได้แล้ว ฮองเฮาคงจะรอเจ้าอยู่" หวงตงหยางแสร้งเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ เพื่อกลบเกลื่อนบางสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจตนแม้เพียงเสี้ยววิก็ตาม  ก่อนจะเดินนำหน้าไปโดยที่ไม่หันกลับมามองสตรีข้างหลังอีก ในเมื่อวันนี้นางบอกว่าหากไม่อยากแสดงละครก็ไม่ต้องทำ เช่นนั้นเขาก็จะไม่ฝืนใจตนเองแสดงละครอย่างเช่นทุกครั้ง

จ้าวเยี่ยนฟางมิได้ตอบสิ่งใดกลับไป นางทำเพียงเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ

ด้านในโถงจัดงานนั้นเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางมากมายที่มาร่วมฉลองในวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์ฮองเฮา ภายในงานมีอาหารมากมายหลากหลายอย่างรวมถึงสุราชั้นดีจัดไว้สำหรับต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน

เหนือพระที่นั่งมีองค์ฮ่องเต้และฮองเฮาประทับอยู่ พระพักตร์ของทั้งสองพระองค์รื่นเริงผ่องใส พระโอษฐ์แย้มสรวลมากขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่า แม่ทัพหวงตงหยางพร้อมด้วยฮูหยิน เดินเข้ามาถวายบังคมพร้อมกล่าวถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี

"ไม่ต้องมากพิธี เงยหน้าขึ้นมาเถิด"

"ขอบพระทัยฝ่าบาท" หวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางกล่าวพร้อมกัน

"ฟางเอ๋อร์..เจ้ามานี่สิ" ฮองเฮาเอ่ยเรียกหลานสาวผู้น่ารักของตน เพราะนาน ๆ ทีจะได้เจอหน้าหลานสาวอันเป็นที่รัก จ้าวเยี่ยนฟางจึงเดินเข้าไปนั่งด้านข้างผู้เป็นป้าอย่างนอบน้อม

หวงตงหยางเห็นเช่นนั้น จึงขอตัวออกมาก่อน เพราะไม่อยากโดนฮองเฮาถามว่า เมื่อไหร่เขาและจ้าวเยี่ยนฟางจะมีลูกด้วยกัน หวงตงหยางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งในยามที่องค์ฮองเฮาเอ่ยถามเช่นนี้

แค่จะมองหน้านางเขายังไม่อยากทำ จะให้มีลูกด้วยกันได้อย่างไร เขาทำไม่ได้หรอก

จ้าวเยี่ยนฟางอยู่คุยกับองค์ฮองเฮาพักใหญ่ ก่อนท่านจะยอมปล่อยตัวนางออกมาร่วมงานเลี้ยงต่อ นางเดินไปนั่งข้าง ๆ หวงตงหยางด้วยท่าทีเรียบร้อย จากนั้นทั้งคู่ก็มิได้พูดคุยอะไรกันอีก

ภายในโถงงานเลี้ยงนั้น มีทั้งการแสดงโชว์ศิลปะต่าง ๆ รวมถึงสิ่งที่ขาดมิได้ อย่างการแสดงดนตรีและการร่ายรำ

จ้าวเยี่ยนฟางนั่งชมการแสดงเหล่านั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยแม้นจะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นนั้นอยู่ไม่น้อยก็ตาม อันที่จริงแล้วนางอยากอยู่ที่เรือนจงหยุนของตนเองเสียมากกว่า เพียงแต่ว่านางถูกสามีใจดำผู้นี้ลากตัวมาร่วมงานด้วย แม้ว่านางจะบอกเขาว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่ก็ตาม

ดวงตาคู่งามหันกลับไปมองค้อนใส่คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีนางด้วยความขุ่นเคือง แต่ทว่าเขากลับกำลังอมยิ้มอย่างมีความสุขอย่างมิรู้ร้อนรู้หนาว นางขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันตามไปยังที่ที่สายตาของหวงตงหยางจับจ้องอยู่

ซึ่งนั่นก็คือภาพของสตรีที่สวมอาภรณ์สีชมพูผู้หนึ่ง ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา และหากสังเกตดูดี ๆ จึงเห็นว่า สตรีผู้นั้นก็คือ เหรินหลานเฟิง นางหันกลับมามองหน้าหวงตงหยาง สลับกับเหรินหลานเฟิง ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างอ่อนโยน

มิน่าล่ะ เขาถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสียจนแก้มแทบปริ ทีกับข้าล่ะทำอย่างจะกินเลือดกินเนื้อกัน สองมาตรฐาน!

เมื่อจ้าวเยี่ยนฟางหันกลับไปมองหาสตรีที่ชื่อว่าเหรินหลานเฟิงอีกครั้ง ก็เห็นเพียงแค่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งนางคาดว่าเขาน่าจะเป็นพ่อของเหรินหลานเฟิง

นางหายไปไหนแล้วนะ เมื่อครู่ข้ายังเห็นนั่งส่งสายตาหวานให้หวงตงหยางอยู่เลย..

"ฮูหยิน เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าขอออกไปสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย เดี๋ยวจะรีบกลับมา" หวงตงหยางพูดขึ้น ก่อนจะลุกออกไปในทันที เหลือเพียงจ้าวเยี่ยนฟางที่นั่งอยู่เพียงลำพัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขากำลังจะไปไหน

เขาทำเหมือนกับข้าเป็นคนโง่ และทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่ข้าต้องสนใจอยู่แล้ว

แต่เพราะเหตุใด ข้าถึงได้รู้สึกอยากร้องไห้กันนะ..

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ว้าวุ่นใจ

    จ้าวเยี่ยนฟางนั่งอยู่เพียงลำพังเช่นนั้นราวสองเค่อ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของหวงตงหยางว่าจะกลับมา ถึงเขาจะเกลียดชังนางอย่างไร แต่เขาคงไม่ได้จะทิ้งนางไว้ที่นี่หรอกใช่หรือไม่..บัดนี้นางรู้สึกเวียนหัวมากขึ้นกว่าตอนแรก สงสัยว่านางคงไข้ขึ้นเสียแล้ว หวงตงหยางจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่ตอนนี้นางอยากกลับจวนเต็มทน แต่ก่อนจะกลับ อย่างไรก็ต้องไปตามหาหวงตงหยางเสียก่อน หากเขายังอยากใช้เวลาอยู่กับแม่นางเหริน นางก็จะปล่อยเขาไว้ที่นี่ แล้วกลับจวนสกุลหวงไปคนเดียวจ้าวเยี่ยนฟางตัดสินใจเดินออกมาข้างนอกเพื่อตามหาหวงตงหยาง ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนท้องนภา สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดเอื่อย ๆ พัดพากลิ่นหอมของมวลดอกไม้ลอยล่องมาตามสายลม พระตำหนักแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่หายลได้ยากยิ่ง สมกับเป็นพระที่นั่งขององค์ฮองเฮา"ข้าก็คิดอยู่ว่า ผู้ใดออกมายืนอยู่คนเดียวเช่นนี้ ที่แท้..ก็หวงฮูหยินนี่เอง" น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นจากทางด้านหลัง จ้าวเยี่ยนฟางหันกลับไปยังทางต้นเสียงก็พบกับคุณหนูจากตระกูลขุนนางสามคนในความทรงจำที่ปรากฎ หนึ่งในคุณหนูเหล่านี้มีสตรีคนหนึ่งเคยตามเกี้ยวหวงตงหยาง ตั้งแต่ตอนที่นางและเขายังไม่ได้แต่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เหตุระทึกขวัญ

    ถนนเทียนหนิงวันนี้จ้าวเยี่ยนฟางซื้อของมากมายทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ นางรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ซื้อของตามที่ใจตนอยากได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเงินถุงเล็ก ๆ แค่นี้จะซื้อของได้มากมายถึงเพียงนี้เงินนี่ดีจริง ๆ ข้ารักเงินที่สุดเลย!"คุณหนู ท่านอยากจะแวะไปที่ไหนก่อนหรือไม่เจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยถามผู้เป็นนาย นาน ๆ ทีคุณหนูจ้าวจะออกจากจวน จะให้กลับไปทั้งอย่างนี้เลยก็เป็นที่เสียดายน่าดู"อืม..ข้าอยากไปร้านที่มีจิตรกรวาดรูปน่ะ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน" หากชาตินี้นางสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ นางก็อยากจะทำในสิ่งที่นางรัก อย่างเช่นการวาดรูป ในชีวิตก่อนนางต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือและเรียนพิเศษ จึงทำให้ไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตนชื่นชอบ"คุณหนูอาจจะมิได้สังเกต แต่ที่ถนนเทียนหนิงมีอยู่ที่หนึ่งนะเจ้าคะถึงมันจะเป็นร้านเล็ก ๆ ก็ตาม คุณหนู..ท่านอยากซื้อภาพวาดหรือเจ้าคะ""ใช่ และข้าก็อยากซื้อผืนผ้ามาวาดรูปด้วย" นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส ครั้งสุดท้ายที่นางได้จับพู่กันระบายสี มันตอนไหนกันนะถิงถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หากคุณหนูจะแวะไปซื้อภาพวาด นางก็พอเข้าใจได้ แต่คุณหนูบอกว่าจะซื้อผืนผ้ามาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05

บทล่าสุด

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนเมาก็คงพูดไปเรื่อย

    หวงตงหยางมุ่งหน้าไปยังอาชาสีนิลของตน เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด ทั้งที่เคยเกลียดชังจ้าวเยี่ยนฟางปานนั้น ก็ยังคิดถึงใบหน้าของนางอยู่ได้ ในเมื่อนางไม่หายไปจากสมองสักที เขาก็จะไปหานางเองขณะหวงตงหยางกำลังกุมบังเหียนอาชาคู่ใจมุ่งหน้ากลับไปยังจวนสกุลหวงเพื่อที่จะไปพบกับฮูหยินของตน ในใจก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า จะไปหานางด้วยเรื่องอะไร มีเหตุผลใดเขาจึงต้องไปหานางกัน เขาคิดเช่นนั้นมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าจวนสองเท้ากระโดดลงจากอาชาอย่างมั่นคง ทหารยามที่เข้าเวรอยู่ ณ.ขณะนั้นจึงเป็นคนเอาม้าไปเก็บให้ผู้เป็นนาย หวงตงหยางเดินหน้าแดงก่ำไปยังที่พำนักของฮูหยิน ตอนนี้เขามาหยุดอยู่หน้าเรือนของสตรีที่เขาเคยเกลียดที่สุด ภายในใจสับสนวุ่นวายตีรวนกันไปหมด ทำไมข้าถึงได้ถ่อมาถึงที่นี่กันนะ หากข้าได้เจอหน้านาง ความรู้สึกวุ่นวายในใจนี้จะหายไปหรือไม่"ฮูหยินอยู่ที่ใด" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามบ่าวไพร่คนหนึ่งที่คอยรับใช้อยู่ในเรือนจงหยุน"เรียนท่านแม่ทัพ ฮูหยินกำลังพักผ่อนอยู่ที่ศาลาริมสระบัวเจ้าค่ะ"หวงตงหยางพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังศาลาริมสระบัว ซึ่งตอนนี้มีร่า

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

DMCA.com Protection Status