Share

เหตุระทึกขวัญ

Author: Midzilee01
last update Last Updated: 2025-01-03 15:33:59

ถนนเทียนหนิง

วันนี้จ้าวเยี่ยนฟางซื้อของมากมายทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ นางรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ซื้อของตามที่ใจตนอยากได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเงินถุงเล็ก ๆ แค่นี้จะซื้อของได้มากมายถึงเพียงนี้

เงินนี่ดีจริง ๆ ข้ารักเงินที่สุดเลย!

"คุณหนู ท่านอยากจะแวะไปที่ไหนก่อนหรือไม่เจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยถามผู้เป็นนาย นาน ๆ ทีคุณหนูจ้าวจะออกจากจวน จะให้กลับไปทั้งอย่างนี้เลยก็เป็นที่เสียดายน่าดู

"อืม..ข้าอยากไปร้านที่มีจิตรกรวาดรูปน่ะ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน" หากชาตินี้นางสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ นางก็อยากจะทำในสิ่งที่นางรัก อย่างเช่นการวาดรูป ในชีวิตก่อนนางต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือและเรียนพิเศษ จึงทำให้ไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตนชื่นชอบ

"คุณหนูอาจจะมิได้สังเกต แต่ที่ถนนเทียนหนิงมีอยู่ที่หนึ่งนะเจ้าคะถึงมันจะเป็นร้านเล็ก ๆ ก็ตาม คุณหนู..ท่านอยากซื้อภาพวาดหรือเจ้าคะ"

"ใช่ และข้าก็อยากซื้อผืนผ้ามาวาดรูปด้วย" นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส ครั้งสุดท้ายที่นางได้จับพู่กันระบายสี มันตอนไหนกันนะ

ถิงถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หากคุณหนูจะแวะไปซื้อภาพวาด นางก็พอเข้าใจได้ แต่คุณหนูบอกว่าจะซื้อผืนผ้ามาวาดรูปด้วย นี่นางหูฝาดอีกแล้วใช่หรือไม่.. คุณหนูของนางวาดภาพเป็นตั้งแต่ตอนไหนกัน

รถม้าเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านของจิตรกรวาดภาพคนหนึ่ง ชายชราเจ้าของร้านเห็นว่ามีรถม้าของลูกค้ามาจอดอยู่หน้าร้าน เขาจึงรีบออกมาต้อนรับและเชิญให้นางเข้าไปชมผลงานต่าง ๆ ภายในร้าน

จ้าวเยี่ยนฟางเดินชมผลงานต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในร้าน โดยมีถิงถิงคอยเดินตามหลังเข้าไปด้วย รูปวาดทั้งหมดที่นี่เป็นลายเส้นจีนแบบสมัยโบราณ และมีเพียงสองสีเท่านั้น คือสีดำจากหมึก และสีแดงจากผงชาด

"ข้าขอซื้อพู่กันทุกขนาดที่ท่านมี แล้วก็ผ้าสำหรับวาดรูปอีกสักหนึ่งร้อยผืน" นางหันกลับไปพูดกับชายชราเจ้าของร้าน

"สักครู่ขอรับ" เมื่อพูดจบเจ้าของร้านก็หันหลังเดินออกไปเตรียมของมาให้นาง

จ้าวเยี่ยนฟางเดินชมผลงานมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ภาพวาดภาพหนึ่ง แม้ภาพจะไม่ได้มีลายเส้นชัดเจนดั่งยุคที่นางจากมา แต่ทว่ากลับให้โครงร่างของใครบางคนที่นางคุ้นเคย ในภาพนั้นปรากฏหน้าตาของชายคนหนึ่งในชุดจีนโบราณ ขณะที่นางจ้องมองภาพนั้น น้ำตาก็เอ่อล้นขอบตาก่อนที่มันจะไหลออกมาเป็นสาย

"คุณหนู!! ท่านเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ" ถิงถิงที่เห็นเจ้านายของตนยืนน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ก็ร้อนรนใจจนทำตัวไม่ถูก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดคุณหนูของนางถึงร้องไห้กัน

ในขณะนั้นชายชราเจ้าของร้านก็เดินกลับมาพอดี เขายื่นอุปกรณ์วาดรูปที่จ้าวเยี่ยนฟางสั่งให้กับถิงถิงสาวใช้ของนาง

จ้าวเยี่ยนฟางยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ  ก่อนจะหันไปหาชายชราผู้เป็นคนวาดรูปนี้

"ข้าเอาภาพนี้" นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นเล็กน้อย

"เอ่อ.. ไม่ได้หรอกขอรับคุณหนู รูปนี้เป็นภาพเหมือน ที่มีคนจ้างให้ข้าน้อยวาด เดี๋ยวเขาก็จะเข้ามารับภาพนี้ไปแล้ว อ้าว! นั่นไงเจ้าของภาพนี้มาพอดีเลย" ชายชราเอ่ยขึ้นพลางมองไปทางหน้าร้าน จ้าวเยี่ยนฟางหันกลับไปทางหน้าร้านด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

นางจ้องมองใบหน้าของชายผู้ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างตกตะลึงและแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ขาทั้งสองข้างของนางก้าวเดินเข้าไปหาเขาอย่างลืมตัว เสมือนมีแม่เหล็กขนาดใหญ่กำลังดึงดูดร่างนางให้เดินเข้าไปหาชายผู้นั้น

"พี่.." จ้าวเยี่ยนฟางโถมเข้าไปกอดบุรุษที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของใครหลาย ๆ คน ถิงถิงเองถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากเพราะตกใจกับสิ่งที่เห็น

"พี่คะ..พี่ใช่มั้ย พี่มาที่นี่ได้ยังไง ฮึก.. พี่คะหนู..ฮืออหนูกลัวมากเลย" จ้าวเยี่ยนฟางร้องไห้สะอึกสะอื้น ลำแขนเรียวโอบกอดบุรุษตรงหน้าแน่นอย่างกับกลัวว่าเขาจะหายจาก บุรุษผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับพี่ชายของนางราวกับพิมพ์เดียวกัน พี่ชายคนเก่งของนาง มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..

หลงโม่โฉวเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุใดจ้าวเยี่ยนฟางถึงเดินเข้ากอดเขาแล้วร้องไห้เช่นนี้ อีกอย่าง..เขากับนางก็ใช่ว่าจะญาติดีต่อกัน ทั้งนี้นางยังเรียกเขาว่า พี่.. นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน

แต่แม้ว่าจะตกใจและไม่เข้าใจเพียงใด เขาก็ทำได้เพียงลูบหัวปลอบคนที่ร้องไห้อย่างอ่อนโยน เขาได้ข่าวมาว่านางถูกหวงตงหยางสั่งโบยไปเมื่อหลายเดือนก่อนเพราะนางทำเรื่องเลวร้าย 

"เอ่อ..หวงฮูหยิน..นี่ข้าเอง หลงโม่โฉว" เขาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน จ้าวเยี่ยนฟางจึงผละกอดจากเขาและตั้งใจมองหน้าเขาอีกที แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาก็คือเซี่ยลู่จื้อพี่ชายของนางในชีวิตก่อน

หรือว่าเขาเป็นเพียงคนที่หน้าเหมือน ไม่ใช่พี่ชายของนางจริง ๆ เมื่อนางหวนคืนสติคิดทบทวน  เขาคือหลงโม่โฉวพระรองของนิยายเรื่องนี้

 จากความทรงจำเก่าของจ้าวเยี่ยนฟางนั้น หลงโม่โฉวเป็นบุตรชายคนรองของสกุลหลง และเป็นเพียงลูกของอนุภรรยา ที่แม้จะเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่กลับมิมีสตรีสูงศักดิ์ใดเหลียวแล จ้าวเยี่ยนฟางก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

หลงโม่โฉวกับพี่เซี่ยลู่จื้อ ช่างเหมือนกันเสียจริง เหมือนเสียจนนางคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน ถึงกับปล่อยโฮวิ่งเข้าไปสวมกอดโดยพลัน แต่นั่นน่ะสินะ.. พี่ชายของนางเป็นถึงคุณหมอคนเก่งของพ่อและแม่ จะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..

"ข้า...ข้าขอโทษท่านด้วย ข้าเพียงแค่ตาพร่ามัว เลยจำท่านสลับกับคนรู้จัก ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ"  นางรีบผละห่าง ถอยออกมาจากหลงโม่โฉวทันทีที่รู้ว่าเขาไม่ใช่พี่ชายของนาง

ทางด้านหลงโม่โฉวเองก็ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ยิ่งเห็นนางร้องไห้อย่างเจ็บปวดเช่นนั้น เขาก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก ครั้นจะให้หาเรื่องทะเลาะกับนางดั่งเช่นทุกทีเขาก็ทำไม่ลง

หลงโม่โฉวเผลอยื่นผ้าเช็ดหน้าของเขาให้กับนางอย่างที่ตัวเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเช่นนั้นจึงรับผ้าเช็ดหน้ามาจากเขาแต่โดยดี วันนี้นางทำเรื่องเสียมารยาทใส่เขาไปแล้ว นางก็คงจะไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจที่เขายื่นให้นางเช่นกัน

"เอ่อ..เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ขอโทษอีกครั้งที่ทำเรื่องเสียมารยาทกับท่าน" เมื่อพูดจบ จ้าวเยี่ยนฟางก็จ่ายเงินให้กับชายชราเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินออกมาในทันที

"จะกลับจวนเลยไหมเจ้าคะคุณหนู" ถิงถิงถามผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง เหตุการณ์เมื่อครู่แม้นางจะไม่เข้าใจ แต่นางก็ไม่คิดเอ่ยถามอะไร เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้คุณหนูของนางร้องไห้ได้ เกรงว่ามันคงเป็นเรื่องที่นางไม่สมควรต้องรู้

"แวะที่โรงน้ำชาก่อนก็แล้วกัน ข้าอยากผ่อนคลายสักหน่อย" เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำเอานางรู้สึกเหนื่อยล้าจริง ๆ

ณ โรงน้ำชา

รถม้ามาจอดอยู่หน้าโรงน้ำชา จ้าวเยี่ยนฟางก้าวขาพบลงจากรถม้าอย่างสง่างาม ใบหน้างามของนางตอนนี้ไร้ซึ่งหยาดน้ำตาเช่นเมื่อครู่ เมื่อนางลงจากรถม้า เสี่ยวเอ้อร์ก็รีบพากันมาต้อนรับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ทันที

"เชิญด้านในเลยขอรับคุณหนู"

เสี่ยวเอ้อร์ได้นำทางจ้าวเยี่ยนฟางมายังโต๊ะนั่งชั้นที่สองริมระเบียง เมื่อนางเดินมาหยุดที่โต๊ะก็พบกับภาพและเหตุการณ์ที่คุ้นตา หวงตงหยางกำลังนั่งหัวร่อต่อกระซิกกับเหรินหลานเฟิงอีกแล้ว..

นางถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย วันนี้นางเจอเรื่องที่ทำให้ตกใจจนร้องไห้มาแล้ว นางไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกับหวงตงหยางอีก เพราะไม่ว่านางจะทำสิ่งใดก็ล้วนดูไม่ดีในสายตาของเขา ต่อให้นางนั่งจิบชาอยู่เฉย ๆ เขาก็ต้องคิดว่านางจงใจมานั่งกดดัน หรือ หาเรื่องสตรีของเขาแน่นอน

หากเป็นเช่นนั้นนางหลีกเลี่ยงปัญหาคงจะดีเสียกว่า จ้าวเยี่ยนฟางล้วงถุงเงินและหยิบตำลึงทองมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านน้ำชาโดยที่ยังไม่ทันได้นั่งเลยแม้แต่วินาทีเดียว

"กลับกันเถอะถิงถิง ข้าอยากกลับจวนแล้ว" นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปในทันที

ระหว่างทางที่นางกำลังเดินทางกลับจวนจู่ ๆ รถม้าก็หยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหัน พร้อมกับเสียงเอะอะจากข้างนอก จ้าวเยี่ยนฟางแง้มผ้าม่านดูเล็กน้อย ก็พบกับเหล่าชายที่ใส่ชุดดำอำพรางหน้าประมาณสิบกว่าคนยืนล้อมรถม้าอยู่ด้านนอก นี่นางโดนลอบสังหารอย่างนั้นหรือ!

"รถม้าแบบนี้ต้องเป็นคนร่ำรวยแน่นอน ไปพาตัวมันออกมา!" เสียงหนึ่งในชายชุดดำพูดขึ้น เพียงชั่วพริบตาคนขับรถม้าก็ถูกสังหารด้วยน้ำมือของคนกลุ่มนั้นอย่างเหี้ยมเกรียม

ถิงถิงถูกกระชากออกไปจากรถม้าอย่างไร้ซึ่งความปรานี จากนั้นจ้าวเยี่ยนฟางก็ถูกกระชากออกไปเช่นกัน ทั้งคู่ถูกจับมือไพล่หลังและพันธนาการด้วยเชือก  ส่วนพวกโจรที่เหลือจึงรีบขึ้นไปค้นดูภายในรถม้า เพื่อหาของมีค่า

ไม่นานนัก หนึ่งในพวกมันก็ออกมาพร้อมกับเงินและเครื่องประดับที่นางซื้อมาในวันนี้ เท่านั้นยังไม่พอพวกมันถอดเครื่องประดับบนศีรษะของจ้าวเยี่ยนฟางออกทีละชิ้นอีกด้วย

"ของพวกนี้คงขายได้ราคาดี พวกเราสบายแล้วลูกพี่" ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น

"ฮ่าๆๆๆ ลาภปากพวกเราเสียจริง แถมแม่นางสองคนนี้ก็ดูยังสาวยังสวยเสียด้วยสิ หึหึหึ" 

"อย่าทำอะไรพวกเราเลย หากพวกท่านอยากได้สิ่งใดก็เอาไปให้หมด ทิ้งข้ากับนางไว้ที่นี่ก็พอ" จ้าวเยี่ยนฟางพยายามทำใจดีสู้เสือ เผื่อพวกมันจะยังมีความเมตตาเหลืออยู่บ้าง

"แม่นางไม่มีสิทธิ์มาต่อรองรู้ใช่หรือไม่.. พวกข้าจะเล่นกับแม่นางจนสมใจ จากนั้นก็จะเอาพวกเจ้าไปขาย เจ้างดงามเช่นนี้ คงขายได้ราคาดีไม่น้อย ฮ่าๆๆ" ชายที่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรพูดขึ้น พลางหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

"ชีวิตของพวกเจ้า มันก็ทำได้เท่านี้สินะ มีกำลังมีฝีมือเสียเปล่า กลับมาใช้ในทางที่เลวทรามต่ำตม หากคนเป็นลูกเมียเจ้ารู้คงจะผิดหวังไม่น้อย เหอะ! ไอ้พวกเลวระยำเช่นนี้ ควรไปตายให้หนอนกินซะให้มันพ้น ๆ "

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว หากจะโดนโจรสารเลวพวกนี้ขืนใจและนำไปขาย นั่นก็มิต่างจากการตายทั้งเป็น นางยอมให้พวกมันฆ่าตั้งแต่ตอนนี้เลยเสียยังดีกว่า

"ปากดีนักนะนังนี่" หัวหน้าของพวกมันเงื้อมือขึ้นหมายจะตบสตรีปากร้ายผู้นี้ จ้าวเยี่ยนฟางหลับตาปี๋ด้วยความหวาดหวั่น ขณะนั้นเองนางก็ได้ยินเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดของพวกโจร นางจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดูว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่

เบื้องหน้าปรากฏภาพบุรุษผู้หนึ่งที่นางรู้สึกคุ้นตา เขาใส่อาภรณ์สีดำนิลสวมผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ ไอสังหารรอบตัวดูน่าเกรงขาม เขาใช้ดาบเชือดเฉือนเข้าที่ข้อมือของหัวหน้าโจรที่กำลังจะทำร้ายนาง หัวหน้าโจรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว

"ฆ่ามัน!!" หัวหน้าโจรสั่งให้ลูกน้องที่เหลือลงมือจัดการกับคนที่มันมาขัดขวางเสียงกร้าว

เมื่อตั้งสติได้จ้าวเยี่ยนฟางก็รีบหันหลังชนกับถิงถิงและบอกให้ถิงถิงแก้มัดเชือกที่ข้อมือของนางออก

ถิงถิงพยายามอยู่หลายอึดใจถึงปลดเชือกที่พันธนาการออกได้และเมื่อข้อมือจ้าวเยี่ยนฟางได้รับอิสระ  นางจึงรีบแก้มัดให้ถิงถิงด้วยใจร้อนรนและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ตรงหน้า

จ้าวเยี่ยนฟางรีบฉวยโอกาสหนีทันที พวกโจรกำลังให้ความสนใจบุรุษผู้นั้นอยู่ หากนางหนีไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งนางและถิงถิงจะได้ปลอดภัย แต่ขณะที่จ้าวเยี่ยนฟางกำลังจะวิ่งหนีออกมาพร้อมกับถิงถิงเพียงไม่กี่ก้าว นางกลับหยุดชะงักเมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า คนผู้เดียว จะสู้กลุ่มคนนับสิบได้อย่างไร 

เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้

โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!

Related chapters

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

    Last Updated : 2025-01-03
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

    Last Updated : 2025-01-06

Latest chapter

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตอนพิเศษ

    "หยางหยาง เธอคนนั้นสวยเนอะนายว่ามั้ย" ลู่ฉือเฉิงใช้ศอกสะกิดเพื่อนรักของตัวเองด้วยความตื่นเต้น พลางใช้นิ้วชี้ไปยังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ เธอสวมมินิเดรสสีครีม พร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดัง ผมสีน้ำตาลอ่อนเหยียดตรงยาวจนถึงกลางหลัง ยิ่งมองดูยิ่งรู้สึกหลงใหล"อืม" เขาตอบกลับเพียงสั้น ๆ ทำเอาลูู่ฉือเฉิงถึงกับหน้ายู่ด้วยความผิดหวัง ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ทำตัวเหมือนกับก้อนหินแบบนี้ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ กันแล้ว แต่เขายังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทคนนี้มีแฟนกับเขาเลยสักคน"นี่หยางหยาง ฉันถามนายจริง ๆ นาย..คงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกใช่มั้ย" ลู่ฉือเฉิงเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก"ฉันชอบผู้หญิงเหมือนกับนายนั่นแหละน่า" หวงตงหยางหรือที่เพื่อนสนิทเรียกว่าหยางหยางตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับศิลปะเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าที่ยอมมาหอศิลป์เป็นเพื่อนเจ้าลู่ฉือเฉิง เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับศิลปินท่านหนึ่งที่เขาจะต้องรู้ให้ได้..ชื่อของศิลปินคนนี้ เหมือนกับนางในฝันของเขา .."หยางหยางนายยังฝันแปลก ๆ อยู่ใช่มั้ย เพราะเธอคนนั้นหรือเปล่านายถึงไม่ยอมมีแฟนสักที" คำถาม

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความทรงจำในม่านหมอก

    แสงไฟจากโคมระย้าคริสตัลส่องประกายระยิบระยับไปทั่วห้องโถงคอนโดหรู ผนังห้องสีครีมอ่อนประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันฝีมือประณีตที่บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูของเจ้าของห้อง เรือนร่างระหงยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ เธอมองลงไปยังถนนด้านล่างที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและยานพาหนะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายที่รอให้เธอเปิดอ่านวางรออยู่บนโต๊ะแขนเรียวเอื้อมมือไปหยิบซองจดหมายสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างตัวออกมาเปิดอ่าน เนื้อหาภายในจดหมายแจ้งว่าเธอได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงภาพวาดที่หอศิลป์แห่งหนึ่ง ริมฝีปากบางเผยอเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปยังมุมหนึ่งของห้องภาพวาดขนาดใหญ่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนหนึ่ง เรียวแขนเล็กค่อย ๆ ดึงผ้าคลุมออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นภาพวาดสีน้ำมันที่วิจิตรงดงาม สิ่งที่ปรากฏบนผืนผ้าใบก็คือรูปของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดจีนโบราณสีเปลือกไข่ เธอจ้องมองภาพนั้นด้วยสีหน้าราบเรียบ แต่ทว่ามิอาจซ่อนความโศกเศร้าในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนได้ แพขนตางอนหลุบต่ำลงเล็กน้อย นิ้วมือเรียวลูบดวงหน้าคนในภาพอย่างทะนุถนอม ราวกับกำลังสัมผัสใบหน้าของผู้เป็นที่รัก..เสียงริงโทนเรียกเข้าดังขึ้น ทำให้เจ้าของดว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ตำราหน้าสุดท้าย

    หวงตงหยางนอนกอดหมอนที่ฮูหยินเคยหนุนนอน ด้วยความโศกเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลอาบแก้มของเขา หมอนใบนั้นยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของนาง กลิ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือนไปได้ตลอดชีวิตหวงตงหยางโอบกอดหมอนแน่นยิ่งขึ้น ราวกับว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ยังเชื่อมโยงเขากับนางได้ นัยน์ตาเศร้าสร้อยหลับตาลงและปล่อยให้ความทรงจำอันแสนหวานไหลเวียนอยู่ในหัวใจ ภาพของนางที่ยิ้มแย้ม หัวเราะ และร้องไห้ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ภาพเหล่านั้นชัดเจนราวกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้แต่ความจริงแล้ว นางได้จากเขาไปแล้ว..หลังจากที่จ้าวเยี่ยนฟางสิ้นลมหายใจ หวงตงหยางก็รู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งของตัวเขาได้ตายไปพร้อมกับนาง ความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดทรมานหัวใจ ภาพที่นางโผเข้ามารับคมกระบี่แทนเขายังคงตามหลอกหลอนเป็นดั่งเงา ทำให้เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแต่กระนั้นเขาก็ยังตายไม่ได้ เพราะนางได้ยอมสละชีวิตเพื่อช่วยเขาเอาไว้ เขาจำต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปกับความรู้สึกผิดที่กดทับหัวใจตลอดเวลาคำพูดที่จ้าวเยี่ยนฟางพูดไว้วันนั้นก็เป็นดั่งคำสาป "โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุขนะเจ้าคะ" นางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มชี

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

    "หลานเฟิง เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร" หวงตงหยางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนัก"ข้าเคยบอกท่านแล้วว่า ข้าจะมิยอมตกนรกอยู่คนเดียว ในเมื่อข้ามิสามารถครอบครองท่านได้ จะใครหน้าไหนก็มิคู่ควรทั้งนั้น!!" บัดนี้ดวงหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวาน ถูกไฟริษยาแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ความรักทำให้นางตาบอดงมงาย ชายที่นางหลงรักกลับเห็นนางเป็นเพียงแค่ของเล่น สตรีที่นางชิงชังที่สุดกลับมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของนาง!!"ปล่อยเยี่ยนฟางไป นางมิได้เกี่ยวอะไรด้วย หากเจ้าโกรธแค้นนักก็มาลงที่ข้า ข้าขอรับความโกรธแค้นของเจ้าไว้แต่เพียงผู้เดียว""ฮ่าๆๆๆ จนป่านนี้ท่านก็ยังปกป้องมัน ในวันที่ข้าจมน้ำ ข้ารู้ว่าท่านแสร้งทำเป็นลงโทษนาง เพื่อที่จะได้มิต้องส่งตัวนางให้ทางการใช่หรือไม่ ท่านมิเคยคิดเข้าข้างข้าอยู่แล้ว แล้วที่ผ่านมาท่านจะมาให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับข้าทำไม""..." หวงตงหยางนิ่งเงียบมิยอมตอบกลับอะไร จริงอย่างที่เหรินหลานเฟิงพูด เขารู้ดีว่าจ้าวเยี่ยนฟางร้ายกาจเพียงใด แต่อย่างไรนางก็เป็นภรรยาที่รักและซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงคนเดียว เหรินหลานเฟิงเองก็มิใช่สามัญชนคนธรรมดา หากบิดานางล่วงรู้ว่า ฮูหยินจงใจผลักลูกสาวของเข

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   เทศกาลฉงหยาง

    แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้สลัก มากระทบลงบนใบหน้าเนียนผ่องที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของผู้เป็นสามี เซี่ยซินหยานลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ด้วยความงัวเงีย ดวงตาคู่งามจับจ้องไปยังใบหน้าคมคายที่บัดนี้กำลังหลับไหลอยู่ด้วยความรู้สึกรักใคร่ ฝ่ามือเล็กสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา เรียวนิ้วลูบไล้สันจมูกโด่งด้วยความหลงใหล"ฮูหยินเจ้าหลอกกินเต้าหู้ข้าหรือ" เสียงนุ่มทุ้มของเขาเอ่ยขึ้น ก่อนจะจับข้อมือของภรรยาตัวน้อยเอาไว้มิยอมปล่อย อันที่จริงเขาตื่นมาสักพักแล้ว เพียงแต่ว่าแสร้งทำเป็นนอนต่อก็เท่านั้น ผู้ใดจะรู้เล่าว่าฮูหยินจะมีมุมเช่นนี้อยู่ด้วย "ข้ามิได้คิดเช่นนั้นเสียหน่อย" เซี่ยซินหยานขมวดคิ้ว ประท้วงคำพูดของเขาด้วยเสียงแผ่ว นางมิได้มีความคิดเช่นนั้นเสียหน่อย นางเพียงแค่คิดว่าหวงตงหยางเป็นบุรุษที่รูปงามมากก็เท่านั้น มิได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดแอบแฝงอย่างที่เขากล่าวหาเลยแม้แต่น้อย"หากมิได้คิดเช่นนั้น..แล้วเจ้าคิดเช่นไรกันล่ะ" สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์จับจ้องไปยังริมฝีปากของนางพร้อมซักถาม "ข้าคิดว่าท่านรูปงามมากก็เท่านั้นเอง..พอใจหรือยังเจ้าคะ" เซี่ยซินหยานตัดสินใจตอบกลับไปตามตรง หวงต

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนหลอกลวง!

    อาทิตย์อัสดงสาดส่อง ย้อมให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นสีแสด กระทั่งเงาของต้นหลิวที่สะท้อนอยู่ในน้ำก็ยังมองเห็นเป็นสีแสดด้วยเช่นกัน จ้าวเยี่ยนฟางนั่งยังคงชะเง้อมองหาร่างของผู้เป็นสามี ด้วยความกระวนกระวายใจ"อากาศเย็นลงแล้วนะเจ้าคะฮูหยิน เข้าไปพักผ่อนด้านในเรือนเถิดเจ้าค่ะ" สาวใช้คนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง วันนี้ฮูหยินของนางนั่งรอท่านแม่ทัพอยู่ที่ศาลาริมน้ำมาทั้งวันแล้ว ไม่ว่านางจะพูดเช่นไรก็ดูเหมือนว่าฮูหยินท่านจะไม่ยอมฟังเลยแม้แต่น้อย"ข้าขอรอเขาอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อยนะ.." เสียงผู้เป็นนายตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ถิงถิงจึงทำได้เพียงปล่อยให้ท่านนั่งรออยู่เช่นนี้ต่อไป สิ่งที่นางพอจะทำให้ฮูหยินได้ในเวลานี้ก็คือนำเสื้อคลุมหนา ๆ มาให้ท่านสินะ.."เช่นนั้นบ่าวจะไปนำเสื้อคลุมอุ่น ๆ มาให้นะเจ้าคะ" "อื้อ" จ้าวเยี่ยนฟางพยักหน้าตอบกลับเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังซุ้มประตูทางเข้าของเรือนจงหยุนไม่นานนักถิงถิงก็เดินกลับมาพร้อมกับเสื้อคลุมสีฟ้า มืออีกข้างหนึ่งของนางถือตะเกียงไม้มาด้วย นางช่วยใส่เสื้อคลุมให้กับฮูหยินและจัดแจงวางตะเกียงไว้ด้านข้าง เพราะนางรู้ดีว่าฮูหยินคงจะนั่งอยู่ต่อไปเช่นนี้ต่อไป หาก

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ไว้พบกันใหม่

    ยามอู่ ของวันที่ห้าในป่าลึกเจียวมิ่งควบอาชาสีนิลมาหยุดอยู่ลานกว้างหน้ากระท่อมหลังเล็ก ร่างกำยำกระโดดลงจากหลังม้า ก่อนจะมุ่งหน้าเดินไปผลักประตูไม้บานเก่า ๆ ออก จนเกิดเสียงดังเอี๊ยด ภาพที่เห็นนั้นยิ่งทำให้องครักษ์หนุ่มนั้นประหลาดใจก็คือภาพที่ เจ้านายของเขาพูดคุยกับตาเฒ่าเจ้าเลห์อย่างสนิทสนมราวกับว่ารู้จักกันมานานหรือตอนนี้ท่านแม่ทัพกำลังถูกสะกดจิต.. เขาคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ แต่กลับต้องหลุดออกจากภวังค์เพราะเสียงของผู้เป็นนาย"อ้าว เจ้ามาแล้วรึ" หวงตงหยางเอ่ยทักทายองครักษ์คนสนิท หลังจากที่มิได้เจอหน้ากันนานถึงสี่วัน"นายท่าน.. ท่านผู้เฒ่า" เจียวมิ่งประสานมือทำความเคารพก่อนจะค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม แม้ว่าในใจจะมิไว้ใจตาเฒ่าเจ้าเลห์ผู้นั้น แต่ทว่าตอนนั้นตาเฒ่านั่นก็มีศักดิ์เป็นถึงอาจารย์ของท่านแม่ทัพ มิว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เขาก็ต้องทำความเคารพ"ว่าแต่เจ้าหอบอะไรมาล่ะนั่น พะรุงพะรังเชียว"สายคมกริบจ้องมองห่อผ้าด้วยความสงสัย อันที่จริงเขากำลังรอให้เจียวมิ่งกลับมา เพราะจะได้ถามว่าฮูหยินได้ฝากจดหมายมาบ้างหรือเปล่า"อ่อ..ของพวกนี้ฮูหยินเป็นคนเตรียมมาให้ท่านน่ะขอรับ" เจียวมิ่งตอบกลับ ก่อนจะยื

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความหวัง

    บริเวณลานกว้างในป่าลึก หวงตงหยางฝึกฝนวิชาโดยการนั่งสมาธิเพื่อตามหาจุดที่มีแก่นของวิญญาณอยู่ โดยที่มีอาจารย์เฉิงคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง และเมื่อเพ่งสมาธิถึงจุดหนึ่ง เสียงของเหล่าวิหกรวมถึงเสียงของสายลมนั้นได้ดับเงียบลงหวงตงหยางจ่มดิ่งสู่ห้วงแห่งสมาธิ และมุ่งหน้าตามหาแสงแห่งชีวิต จนกระทั่งพบเข้ากับดวงไฟสีขาวที่ลุกโชน เขาได้เอื้อมมือไปแตะกับดวงไฟดวงนั้น และเมื่อมือของเขาสัมผัสเข้ากับดวงไฟ ความรู้สึกมากมายก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ราวกับคลื่นทะเลที่คอยซัดเข้าหาชายฝั่งเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นทั่วร่างของหวงตงหยาง จนอาภรณ์ของเขานั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อผู้เป็นอาจารย์เห็นเช่นนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่า ลูกศิษย์ของเขาได้พบเจอเข้ากับแก่นของวิญญาณแล้วแก่นของวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์อันมากมายของมนุษย์ทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง หวงตงหยางจะต้องเห็นภาพที่เขานั้นได้ใช้มาทั้งชีวิต รวมถึงได้เห็นอดีตทั้งดีและร้าย ต่อให้เป็นเรื่องที่เขานั้นลืมเลือนไปแล้ว มันก็จะกลับมาฉายซ้ำให้ได้เห็นหากเขาได้พบเข้ากับภาพแห่งความสุข เขาอาจจะไม่อยากกลับออกมายังโลกความเป็นจริงอีก ถ้าหากได้พบกับสิ่งที่เขาเกลียดหรือห

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   จดหมายถึงเจ้า

    จ้าวเยี่ยนฟางลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเฉิน ก็ไม่พบกับหวงตงหยางเสียแล้ว ในตอนแรกนางคิดว่าเขาคงจะไปที่ค่ายทหาร หรือไม่ก็คงจะเข้าวังตามปกติ นางจึงไม่คิดติดใจหรือสงสัยอะไรและใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการเขียนตำราและปักเย็บผ้า"เหตุใดฮูหยินจึงปักผ้าเช็ดหน้าหลายผืนนักล่ะเจ้าคะ" ถิงถิงที่เงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เจ้านายของนางจะเปิดร้านขายผ้าเช็ดหน้าหรืออย่างไรกัน นี่ก็ปาไปผืนที่สามแล้ว ท่านก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดปัก"ข้าตั้งใจปักไว้ให้ตงหยางน่ะ" ดวงหน้างามเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน บอกตามตรงว่านางก็มิได้มีฝีมืออันใด เพียงแต่ว่าอยากทำให้เขาก็เท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าหวงตงหยางจะชอบผ้าเช็ดหน้าที่นางปักให้หรือไม่ เพราะว่ามันก็มิได้วิจิตรและมิใช่ลวดลายที่ทำยากอะไร"หากท่านแม่ทัพรู้ ท่านจะต้องดีใจมากแน่เจ้าค่ะ" "งั้นหรือ.. หากเขาชอบนั่นก็คงจะดี"ณ กระท่อมกลางป่าหวงตงหยางอยู่ในสภาวะอ่อนแรงหลังจากที่สูญเสียอายุไขให้กับเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นั้นไปสิบปี เขามองเห็นทุกการกระทำที่ชายคนผู้นั้นทำ แต่กระนั้นก็ยังไม่เข้าใจว่า มนุษย์คนหนึ่งจะดึงเอาอายุไขผู้อื่นไปได้อย่างไร"วันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status