Share

เหตุระทึกขวัญ

Author: Midzilee01
last update Last Updated: 2025-01-03 15:33:59

ถนนเทียนหนิง

วันนี้จ้าวเยี่ยนฟางซื้อของมากมายทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ นางรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ซื้อของตามที่ใจตนอยากได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเงินถุงเล็ก ๆ แค่นี้จะซื้อของได้มากมายถึงเพียงนี้

เงินนี่ดีจริง ๆ ข้ารักเงินที่สุดเลย!

"คุณหนู ท่านอยากจะแวะไปที่ไหนก่อนหรือไม่เจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยถามผู้เป็นนาย นาน ๆ ทีคุณหนูจ้าวจะออกจากจวน จะให้กลับไปทั้งอย่างนี้เลยก็เป็นที่เสียดายน่าดู

"อืม..ข้าอยากไปร้านที่มีจิตรกรวาดรูปน่ะ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน" หากชาตินี้นางสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ นางก็อยากจะทำในสิ่งที่นางรัก อย่างเช่นการวาดรูป ในชีวิตก่อนนางต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือและเรียนพิเศษ จึงทำให้ไม่มีเวลาทำในสิ่งที่ตนชื่นชอบ

"คุณหนูอาจจะมิได้สังเกต แต่ที่ถนนเทียนหนิงมีอยู่ที่หนึ่งนะเจ้าคะถึงมันจะเป็นร้านเล็ก ๆ ก็ตาม คุณหนู..ท่านอยากซื้อภาพวาดหรือเจ้าคะ"

"ใช่ และข้าก็อยากซื้อผืนผ้ามาวาดรูปด้วย" นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส ครั้งสุดท้ายที่นางได้จับพู่กันระบายสี มันตอนไหนกันนะ

ถิงถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หากคุณหนูจะแวะไปซื้อภาพวาด นางก็พอเข้าใจได้ แต่คุณหนูบอกว่าจะซื้อผืนผ้ามาวาดรูปด้วย นี่นางหูฝาดอีกแล้วใช่หรือไม่.. คุณหนูของนางวาดภาพเป็นตั้งแต่ตอนไหนกัน

รถม้าเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านของจิตรกรวาดภาพคนหนึ่ง ชายชราเจ้าของร้านเห็นว่ามีรถม้าของลูกค้ามาจอดอยู่หน้าร้าน เขาจึงรีบออกมาต้อนรับและเชิญให้นางเข้าไปชมผลงานต่าง ๆ ภายในร้าน

จ้าวเยี่ยนฟางเดินชมผลงานต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในร้าน โดยมีถิงถิงคอยเดินตามหลังเข้าไปด้วย รูปวาดทั้งหมดที่นี่เป็นลายเส้นจีนแบบสมัยโบราณ และมีเพียงสองสีเท่านั้น คือสีดำจากหมึก และสีแดงจากผงชาด

"ข้าขอซื้อพู่กันทุกขนาดที่ท่านมี แล้วก็ผ้าสำหรับวาดรูปอีกสักหนึ่งร้อยผืน" นางหันกลับไปพูดกับชายชราเจ้าของร้าน

"สักครู่ขอรับ" เมื่อพูดจบเจ้าของร้านก็หันหลังเดินออกไปเตรียมของมาให้นาง

จ้าวเยี่ยนฟางเดินชมผลงานมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ภาพวาดภาพหนึ่ง แม้ภาพจะไม่ได้มีลายเส้นชัดเจนดั่งยุคที่นางจากมา แต่ทว่ากลับให้โครงร่างของใครบางคนที่นางคุ้นเคย ในภาพนั้นปรากฏหน้าตาของชายคนหนึ่งในชุดจีนโบราณ ขณะที่นางจ้องมองภาพนั้น น้ำตาก็เอ่อล้นขอบตาก่อนที่มันจะไหลออกมาเป็นสาย

"คุณหนู!! ท่านเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ" ถิงถิงที่เห็นเจ้านายของตนยืนน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ก็ร้อนรนใจจนทำตัวไม่ถูก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดคุณหนูของนางถึงร้องไห้กัน

ในขณะนั้นชายชราเจ้าของร้านก็เดินกลับมาพอดี เขายื่นอุปกรณ์วาดรูปที่จ้าวเยี่ยนฟางสั่งให้กับถิงถิงสาวใช้ของนาง

จ้าวเยี่ยนฟางยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ  ก่อนจะหันไปหาชายชราผู้เป็นคนวาดรูปนี้

"ข้าเอาภาพนี้" นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นเล็กน้อย

"เอ่อ.. ไม่ได้หรอกขอรับคุณหนู รูปนี้เป็นภาพเหมือน ที่มีคนจ้างให้ข้าน้อยวาด เดี๋ยวเขาก็จะเข้ามารับภาพนี้ไปแล้ว อ้าว! นั่นไงเจ้าของภาพนี้มาพอดีเลย" ชายชราเอ่ยขึ้นพลางมองไปทางหน้าร้าน จ้าวเยี่ยนฟางหันกลับไปทางหน้าร้านด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

นางจ้องมองใบหน้าของชายผู้ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างตกตะลึงและแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ขาทั้งสองข้างของนางก้าวเดินเข้าไปหาเขาอย่างลืมตัว เสมือนมีแม่เหล็กขนาดใหญ่กำลังดึงดูดร่างนางให้เดินเข้าไปหาชายผู้นั้น

"พี่.." จ้าวเยี่ยนฟางโถมเข้าไปกอดบุรุษที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยความดีใจ ท่ามกลางสายตาของใครหลาย ๆ คน ถิงถิงเองถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากเพราะตกใจกับสิ่งที่เห็น

"พี่คะ..พี่ใช่มั้ย พี่มาที่นี่ได้ยังไง ฮึก.. พี่คะหนู..ฮืออหนูกลัวมากเลย" จ้าวเยี่ยนฟางร้องไห้สะอึกสะอื้น ลำแขนเรียวโอบกอดบุรุษตรงหน้าแน่นอย่างกับกลัวว่าเขาจะหายจาก บุรุษผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับพี่ชายของนางราวกับพิมพ์เดียวกัน พี่ชายคนเก่งของนาง มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..

หลงโม่โฉวเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุใดจ้าวเยี่ยนฟางถึงเดินเข้ากอดเขาแล้วร้องไห้เช่นนี้ อีกอย่าง..เขากับนางก็ใช่ว่าจะญาติดีต่อกัน ทั้งนี้นางยังเรียกเขาว่า พี่.. นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน

แต่แม้ว่าจะตกใจและไม่เข้าใจเพียงใด เขาก็ทำได้เพียงลูบหัวปลอบคนที่ร้องไห้อย่างอ่อนโยน เขาได้ข่าวมาว่านางถูกหวงตงหยางสั่งโบยไปเมื่อหลายเดือนก่อนเพราะนางทำเรื่องเลวร้าย 

"เอ่อ..หวงฮูหยิน..นี่ข้าเอง หลงโม่โฉว" เขาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน จ้าวเยี่ยนฟางจึงผละกอดจากเขาและตั้งใจมองหน้าเขาอีกที แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาก็คือเซี่ยลู่จื้อพี่ชายของนางในชีวิตก่อน

หรือว่าเขาเป็นเพียงคนที่หน้าเหมือน ไม่ใช่พี่ชายของนางจริง ๆ เมื่อนางหวนคืนสติคิดทบทวน  เขาคือหลงโม่โฉวพระรองของนิยายเรื่องนี้

 จากความทรงจำเก่าของจ้าวเยี่ยนฟางนั้น หลงโม่โฉวเป็นบุตรชายคนรองของสกุลหลง และเป็นเพียงลูกของอนุภรรยา ที่แม้จะเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่กลับมิมีสตรีสูงศักดิ์ใดเหลียวแล จ้าวเยี่ยนฟางก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

หลงโม่โฉวกับพี่เซี่ยลู่จื้อ ช่างเหมือนกันเสียจริง เหมือนเสียจนนางคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน ถึงกับปล่อยโฮวิ่งเข้าไปสวมกอดโดยพลัน แต่นั่นน่ะสินะ.. พี่ชายของนางเป็นถึงคุณหมอคนเก่งของพ่อและแม่ จะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..

"ข้า...ข้าขอโทษท่านด้วย ข้าเพียงแค่ตาพร่ามัว เลยจำท่านสลับกับคนรู้จัก ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ"  นางรีบผละห่าง ถอยออกมาจากหลงโม่โฉวทันทีที่รู้ว่าเขาไม่ใช่พี่ชายของนาง

ทางด้านหลงโม่โฉวเองก็ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ยิ่งเห็นนางร้องไห้อย่างเจ็บปวดเช่นนั้น เขาก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก ครั้นจะให้หาเรื่องทะเลาะกับนางดั่งเช่นทุกทีเขาก็ทำไม่ลง

หลงโม่โฉวเผลอยื่นผ้าเช็ดหน้าของเขาให้กับนางอย่างที่ตัวเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเช่นนั้นจึงรับผ้าเช็ดหน้ามาจากเขาแต่โดยดี วันนี้นางทำเรื่องเสียมารยาทใส่เขาไปแล้ว นางก็คงจะไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจที่เขายื่นให้นางเช่นกัน

"เอ่อ..เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ขอโทษอีกครั้งที่ทำเรื่องเสียมารยาทกับท่าน" เมื่อพูดจบ จ้าวเยี่ยนฟางก็จ่ายเงินให้กับชายชราเจ้าของร้าน ก่อนจะเดินออกมาในทันที

"จะกลับจวนเลยไหมเจ้าคะคุณหนู" ถิงถิงถามผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง เหตุการณ์เมื่อครู่แม้นางจะไม่เข้าใจ แต่นางก็ไม่คิดเอ่ยถามอะไร เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้คุณหนูของนางร้องไห้ได้ เกรงว่ามันคงเป็นเรื่องที่นางไม่สมควรต้องรู้

"แวะที่โรงน้ำชาก่อนก็แล้วกัน ข้าอยากผ่อนคลายสักหน่อย" เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำเอานางรู้สึกเหนื่อยล้าจริง ๆ

ณ โรงน้ำชา

รถม้ามาจอดอยู่หน้าโรงน้ำชา จ้าวเยี่ยนฟางก้าวขาพบลงจากรถม้าอย่างสง่างาม ใบหน้างามของนางตอนนี้ไร้ซึ่งหยาดน้ำตาเช่นเมื่อครู่ เมื่อนางลงจากรถม้า เสี่ยวเอ้อร์ก็รีบพากันมาต้อนรับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ทันที

"เชิญด้านในเลยขอรับคุณหนู"

เสี่ยวเอ้อร์ได้นำทางจ้าวเยี่ยนฟางมายังโต๊ะนั่งชั้นที่สองริมระเบียง เมื่อนางเดินมาหยุดที่โต๊ะก็พบกับภาพและเหตุการณ์ที่คุ้นตา หวงตงหยางกำลังนั่งหัวร่อต่อกระซิกกับเหรินหลานเฟิงอีกแล้ว..

นางถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย วันนี้นางเจอเรื่องที่ทำให้ตกใจจนร้องไห้มาแล้ว นางไม่อยากมีเรื่องทะเลาะกับหวงตงหยางอีก เพราะไม่ว่านางจะทำสิ่งใดก็ล้วนดูไม่ดีในสายตาของเขา ต่อให้นางนั่งจิบชาอยู่เฉย ๆ เขาก็ต้องคิดว่านางจงใจมานั่งกดดัน หรือ หาเรื่องสตรีของเขาแน่นอน

หากเป็นเช่นนั้นนางหลีกเลี่ยงปัญหาคงจะดีเสียกว่า จ้าวเยี่ยนฟางล้วงถุงเงินและหยิบตำลึงทองมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้านน้ำชาโดยที่ยังไม่ทันได้นั่งเลยแม้แต่วินาทีเดียว

"กลับกันเถอะถิงถิง ข้าอยากกลับจวนแล้ว" นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปในทันที

ระหว่างทางที่นางกำลังเดินทางกลับจวนจู่ ๆ รถม้าก็หยุดเคลื่อนที่อย่างกะทันหัน พร้อมกับเสียงเอะอะจากข้างนอก จ้าวเยี่ยนฟางแง้มผ้าม่านดูเล็กน้อย ก็พบกับเหล่าชายที่ใส่ชุดดำอำพรางหน้าประมาณสิบกว่าคนยืนล้อมรถม้าอยู่ด้านนอก นี่นางโดนลอบสังหารอย่างนั้นหรือ!

"รถม้าแบบนี้ต้องเป็นคนร่ำรวยแน่นอน ไปพาตัวมันออกมา!" เสียงหนึ่งในชายชุดดำพูดขึ้น เพียงชั่วพริบตาคนขับรถม้าก็ถูกสังหารด้วยน้ำมือของคนกลุ่มนั้นอย่างเหี้ยมเกรียม

ถิงถิงถูกกระชากออกไปจากรถม้าอย่างไร้ซึ่งความปรานี จากนั้นจ้าวเยี่ยนฟางก็ถูกกระชากออกไปเช่นกัน ทั้งคู่ถูกจับมือไพล่หลังและพันธนาการด้วยเชือก  ส่วนพวกโจรที่เหลือจึงรีบขึ้นไปค้นดูภายในรถม้า เพื่อหาของมีค่า

ไม่นานนัก หนึ่งในพวกมันก็ออกมาพร้อมกับเงินและเครื่องประดับที่นางซื้อมาในวันนี้ เท่านั้นยังไม่พอพวกมันถอดเครื่องประดับบนศีรษะของจ้าวเยี่ยนฟางออกทีละชิ้นอีกด้วย

"ของพวกนี้คงขายได้ราคาดี พวกเราสบายแล้วลูกพี่" ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น

"ฮ่าๆๆๆ ลาภปากพวกเราเสียจริง แถมแม่นางสองคนนี้ก็ดูยังสาวยังสวยเสียด้วยสิ หึหึหึ" 

"อย่าทำอะไรพวกเราเลย หากพวกท่านอยากได้สิ่งใดก็เอาไปให้หมด ทิ้งข้ากับนางไว้ที่นี่ก็พอ" จ้าวเยี่ยนฟางพยายามทำใจดีสู้เสือ เผื่อพวกมันจะยังมีความเมตตาเหลืออยู่บ้าง

"แม่นางไม่มีสิทธิ์มาต่อรองรู้ใช่หรือไม่.. พวกข้าจะเล่นกับแม่นางจนสมใจ จากนั้นก็จะเอาพวกเจ้าไปขาย เจ้างดงามเช่นนี้ คงขายได้ราคาดีไม่น้อย ฮ่าๆๆ" ชายที่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรพูดขึ้น พลางหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย

"ชีวิตของพวกเจ้า มันก็ทำได้เท่านี้สินะ มีกำลังมีฝีมือเสียเปล่า กลับมาใช้ในทางที่เลวทรามต่ำตม หากคนเป็นลูกเมียเจ้ารู้คงจะผิดหวังไม่น้อย เหอะ! ไอ้พวกเลวระยำเช่นนี้ ควรไปตายให้หนอนกินซะให้มันพ้น ๆ "

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว หากจะโดนโจรสารเลวพวกนี้ขืนใจและนำไปขาย นั่นก็มิต่างจากการตายทั้งเป็น นางยอมให้พวกมันฆ่าตั้งแต่ตอนนี้เลยเสียยังดีกว่า

"ปากดีนักนะนังนี่" หัวหน้าของพวกมันเงื้อมือขึ้นหมายจะตบสตรีปากร้ายผู้นี้ จ้าวเยี่ยนฟางหลับตาปี๋ด้วยความหวาดหวั่น ขณะนั้นเองนางก็ได้ยินเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดของพวกโจร นางจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดูว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่

เบื้องหน้าปรากฏภาพบุรุษผู้หนึ่งที่นางรู้สึกคุ้นตา เขาใส่อาภรณ์สีดำนิลสวมผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ ไอสังหารรอบตัวดูน่าเกรงขาม เขาใช้ดาบเชือดเฉือนเข้าที่ข้อมือของหัวหน้าโจรที่กำลังจะทำร้ายนาง หัวหน้าโจรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว

"ฆ่ามัน!!" หัวหน้าโจรสั่งให้ลูกน้องที่เหลือลงมือจัดการกับคนที่มันมาขัดขวางเสียงกร้าว

เมื่อตั้งสติได้จ้าวเยี่ยนฟางก็รีบหันหลังชนกับถิงถิงและบอกให้ถิงถิงแก้มัดเชือกที่ข้อมือของนางออก

ถิงถิงพยายามอยู่หลายอึดใจถึงปลดเชือกที่พันธนาการออกได้และเมื่อข้อมือจ้าวเยี่ยนฟางได้รับอิสระ  นางจึงรีบแก้มัดให้ถิงถิงด้วยใจร้อนรนและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ตรงหน้า

จ้าวเยี่ยนฟางรีบฉวยโอกาสหนีทันที พวกโจรกำลังให้ความสนใจบุรุษผู้นั้นอยู่ หากนางหนีไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งนางและถิงถิงจะได้ปลอดภัย แต่ขณะที่จ้าวเยี่ยนฟางกำลังจะวิ่งหนีออกมาพร้อมกับถิงถิงเพียงไม่กี่ก้าว นางกลับหยุดชะงักเมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า คนผู้เดียว จะสู้กลุ่มคนนับสิบได้อย่างไร 

เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้

โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!

Related chapters

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

    Last Updated : 2025-01-03
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

    Last Updated : 2025-01-06

Latest chapter

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนเมาก็คงพูดไปเรื่อย

    หวงตงหยางมุ่งหน้าไปยังอาชาสีนิลของตน เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด ทั้งที่เคยเกลียดชังจ้าวเยี่ยนฟางปานนั้น ก็ยังคิดถึงใบหน้าของนางอยู่ได้ ในเมื่อนางไม่หายไปจากสมองสักที เขาก็จะไปหานางเองขณะหวงตงหยางกำลังกุมบังเหียนอาชาคู่ใจมุ่งหน้ากลับไปยังจวนสกุลหวงเพื่อที่จะไปพบกับฮูหยินของตน ในใจก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า จะไปหานางด้วยเรื่องอะไร มีเหตุผลใดเขาจึงต้องไปหานางกัน เขาคิดเช่นนั้นมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าจวนสองเท้ากระโดดลงจากอาชาอย่างมั่นคง ทหารยามที่เข้าเวรอยู่ ณ.ขณะนั้นจึงเป็นคนเอาม้าไปเก็บให้ผู้เป็นนาย หวงตงหยางเดินหน้าแดงก่ำไปยังที่พำนักของฮูหยิน ตอนนี้เขามาหยุดอยู่หน้าเรือนของสตรีที่เขาเคยเกลียดที่สุด ภายในใจสับสนวุ่นวายตีรวนกันไปหมด ทำไมข้าถึงได้ถ่อมาถึงที่นี่กันนะ หากข้าได้เจอหน้านาง ความรู้สึกวุ่นวายในใจนี้จะหายไปหรือไม่"ฮูหยินอยู่ที่ใด" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามบ่าวไพร่คนหนึ่งที่คอยรับใช้อยู่ในเรือนจงหยุน"เรียนท่านแม่ทัพ ฮูหยินกำลังพักผ่อนอยู่ที่ศาลาริมสระบัวเจ้าค่ะ"หวงตงหยางพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังศาลาริมสระบัว ซึ่งตอนนี้มีร่า

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

DMCA.com Protection Status