Home / รักโบราณ / นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก / ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

Share

ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

Author: Midzilee01
last update Last Updated: 2025-01-04 19:54:38

หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง

"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา

"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 

หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้

เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้น

และสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท่าทีอะไรเลย..

"เอ่อ..ขอบคุณที่ช่วยเหลือเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ" จ้าวเยี่ยนฟางค้อมศีรษะขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิต นางเพียงแค่ตกใจเกินเหตุจึงได้ลืมขอบคุณผู้ที่มาช่วยชีวิตนาง

หวงตงหยางพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังรถม้าอย่างทุลักทุเล จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปประคองเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว อย่างไรตอนนี้เขาก็เป็นผู้มีพระคุณ อีกอย่างเขาก็เจ็บตัวเพราะช่วยนาง แค่ช่วยพยุงคนเจ็บไปที่รถม้า มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอก..

ดวงตาสีนิลมองอีกฝ่ายอย่างค้นคว้า บนใบหน้าหล่อเหลาคล้ายมีคำถาม แต่เขาก็มิได้พูดอะไรออกมา

ระหว่างทาง ถิงถิงนั่งอยู่ข้างคนขับรถม้า ภายในรถม้าจึงมีเพียงหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางนั่งอยู่สองคน บรรยากาศภายในนั้นเต็มไปด้วยความเงียบและความอึดอัด ทั้งสองนั่งเงียบมาตลอดทางโดยไม่มีบทสนทนาใด

"เอ่อ.. เกี่ยวกับแผลของท่าน.."

"อย่าใส่ใจเลย"

"ข้าจะบอกว่า ช่วงนี้พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำ แล้วก็หมั่นทำความสะอาดแผลทุกวันห้ามขาดจนกว่าแผลจะหาย ส่วนยา..เอ่อ..ข้าไม่รู้จะจดกับอะไรให้ท่านดี แต่ท่านความจำดีใช่หรือไม่ กลับจวนไปแล้วบอกให้คนซื้อของพวกนี้มานะ" แล้วนางก็เอื้อนเอ่ยชื่อสมุนไพรที่ช่วยรักษาแผลให้เขาได้อย่างคล่องแคล่ว และถึงแม้นหวงตงหยางจะแปลกใจกับตัวนางเพียงใดเขายังคงนั่งนิ่ง ใบหน้าไม่บ่งบอกหรือสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกใด ๆ ออกมา

"..." ชายหนุ่มยังคงนิ่งเฉย แต่ภายในใจตอนนี้กู่ก้องร้องตะโกนว่า ฮูหยินของเขารู้เรื่องเหล่านี้ได้เยี่ยงไร นางไปร่ำเรียนมาตั้งแต่ตอนไหน เขาพลาดอะไรไปงั้นหรือ!

"ตอบสิเจ้าคะ!" เมื่อเห็นคู่สนทนาเอาแต่นิ่งเงียบ นางจึงใช้น้ำเสียงที่พูดกับเขาเข้มขึ้น

"ได้! เดี๋ยวข้ากลับจวนไป จะบอกให้คนซื้อของตามที่เจ้าสั่ง มีอะไรบ้างล่ะ ไหนบอกกับข้าอีกครั้งซิ" เขาตอบกลับนางอย่างไม่เต็มใจนัก นางพูดเหมือนนางมีความรู้เรื่องยาอย่างนั้นแหละ สตรีที่วัน ๆ เอาแต่วิ่งตามเขาเนี่ยนะ..

"จำนะเจ้าคะ! เหล่งเอี๊ยง,ต่าเต็ก,แบะตง,เต็งซิม นำสี่สิ่งนี้มาต้มรวมกัน และดื่มเป็นยาก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน ระหว่างนี้ท่านต้องงดการกิน ของเปรี้ยว,เผ็ด,ดอง เริ่มกินยานี้ได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าเลย เข้าใจใช่ไหมเจ้าคะ"

"เจ้าทำเหมือนรู้เรื่องหมอดีอย่างนั้นแหละ ยาที่เจ้าสั่งมามันกินได้จริง ๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้" เขาทำหน้าอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยิน จ้าวเยี่ยนฟางมีความรู้เรื่องการรักษาด้วยอย่างนั้นหรือ มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไรกัน

"หากท่านไม่เชื่อ ท่านก็ลองไปถามหมอดูแล้วกันเจ้าค่ะ ว่ายาที่ข้าแนะนำไปมันกินได้มั้ย และที่สำคัญมันไม่มีพิษแน่นอน!"

"ฮูหยิน ข้าถามเจ้าจริง ๆ เจ้ากำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่" เขายังคงมีท่าทีไม่ไว้วางใจนางอย่างเห็นได้ชัด

แต่เอาเถอะ นางก็ช่วยเท่าที่จะช่วยได้ไปแล้ว จากนี้ก็คงไม่มีเรื่องให้ข้องเกี่ยวกันอีก หากเขาฟังที่นางแนะนำแผลก็หายไว แต่หากไม่ฟังก็สุดแล้วแต่เขาละกัน เพราะนางก็พยายามเท่าที่จะทำได้ไปแล้ว

"ข้าไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น ถึงจวนแล้ว ข้าขอลาตรงนี้เลยแล้วกันนะเจ้าคะ ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยข้า" จ้าวเยี่ยนฟางเอ่ยขึ้น ก่อนจะก้าวลงจากรถม้าทันทีที่ล้อมาหยุดอยู่หน้าจวนสกุลหวง

วันนี้มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น เขาตั้งใจสะกดรอยตามจ้าวเยี่ยนฟางมาตั้งแต่นางเดินออกมาจากโรงน้ำชา เพราะกำลังสงสัยว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่ก็ไม่คาดคิดว่านางจะถูกดักปล้นกลางทาง ทำให้เขาจำเป็นต้องเผยตัวต่อหน้านางอย่างเลี่ยงไม่ได้

ข้ารู้ว่าเจ้าเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้

หลายวันผ่านไป

แสงจากเชิงเทียนพลิ้วไหวในเรือนจงหยุน วันนี้จ้าวเยี่ยนฟางรีบตื่นตั้งแต่ยามเหม่า เพื่อลุกขึ้นมาทำข้าวต้มทรงเครื่องสูตรเด็ด ทำเอาถิงถิงแทบจะลมจับ เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนตื่นมาเข้าครัวตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่

ในตอนแรกนางตั้งใจว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับหวงตงหยางอีกแล้ว แต่จิตสำนึกมันตะโกนบอกว่าให้นางต้องไปเยี่ยมเขาบ้าง

อย่างไรซะ เขาก็เป็นผู้มีพระคุณ อีกทั้งนางก็บอกเขาไปแล้วว่าจะทำตัวเป็นฮูหยินที่ดี

ช่วงนี้หวงตงหยางบาดเจ็บ นางจะทำของอร่อย ๆ ไปเยี่ยม หากเขาเห็นว่านางก็เป็นคนดีอยู่บ้าง ตอนจบเผื่อเขาอาจจะมีความปราณีกับนางบ้าง เปลี่ยนใจไม่ลงมือสังหารนางเหมือนในต้นฉบับ

"คุณหนู..แต่ไหนแต่ไรมาท่านมิเคยเข้าครัวเลยนะเจ้าคะ ให้บ่าวทำดีกว่านะเจ้าคะ.." อย่าว่าแต่ถิงถิงที่มาขอร้องฮูหยินเลย บ่าวไพร่คนอื่น ๆ ต่างก็เข้ามาพากัน กอดขาฮูหยินเพื่อขอร้องให้นางออกไปจากครัว

"ฮูหยิน บ่าวทำสำรับมิถูกปากท่านหรือเจ้าคะ ท่านจึงมาลงครัวเองเช่นนี้"

"ฮูหยินเจ้าขา ออกไปพักผ่อนเถิดนะเจ้าคะ เดี๋ยวมีดบาดมือสวย ๆ ของท่านขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะเจ้าคะ"

สารพัดคำขอร้องอ้อนวอนให้นางยอมวางมือและเดินออกจากครัว แต่มีหรือที่นางจะฟัง วันนี้นางตั้งใจตื่นมาทำข้าวต้มทรงเครื่องไปเยี่ยมคนไข้อย่างหวงตงหยาง

หวงตงหยางหลังจากที่ท่านได้ชิมอาหารที่ข้าทำให้ท่านแล้ว ท่านจะต้องรู้สึกขอบคุณข้าเป็นแน่!  นางหมายหมาดในใจ

"ข้าเพียงแค่อยากทำอาหารไปเยี่ยมไข้สามีของข้าก็เท่านั้น ข้าจะระวังมิให้ไฟไหม้ครัวก็แล้วกัน" นางพูดขึ้นอยากติดตลก แต่ทว่าเหล่าบ่าวไพร่กลับมิได้ตลกกับนางเลยสักนิด เพราะจ้าวเยี่ยนฟางตัวจริง ตั้งแต่เล็กจนโตมิเคยถือมีดเข้าครัว ฉะนั้นเหตุการณ์ไฟไหม้ครัวอาจจะเกิดขึ้นจริงก็เป็นได้

"ข้าล้อเล่น ข้าจะตั้งใจทำอย่างระมัดระวัง มิให้บาดเจ็บและมิให้ไฟไหม้ครัว พวกเจ้าพอใจหรือยัง" หลังจากที่นางพูดอย่างชัดเจนเช่นนั้น บรรดาบ่าวไพร่ต่างก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานของตน ในห้องครัวจึงเหลือเพียงบ่าวที่ทำหน้าที่หุงหาอาหาร และถิงถิงที่มาช่วยเป็นลูกมือให้นาง

"พวกเจ้าที่เหลือทำงานของตนเองไป มิต้องห่วงข้า ข้ามีถิงถิงช่วยแล้ว พวกเจ้าวางใจเถิด" เมื่อพูดจบ จ้าวเยี่ยนฟางก็ออกคำสั่งให้ถิงถิงช่วยเตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการทำเมนูข้าวต้มทรงเครื่องสูตรพิเศษของนาง

บรรดาบ่าวไพร่ที่คอยดูแลห้องครัวต่างพากันกระซิบซิบกระซาบด้วยความประหลาดใจ ถึงท่านจะเปลี่ยนไปอย่างไร จู่ ๆ ท่านจะเข้าครัวเนี่ยนะ

อย่างฮูหยินเนี่ยนะ จะเข้าครัวเพื่อทำอาหาร..

จ้าวเยี่ยนฟางใช้เวลาอยู่ในห้องครัว เป็นเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป กลิ่นอาหารตลบอบอวลลอยออกจากห้องครัว ทำเอาคนที่ได้กลิ่นถึงกับน้ำลายสอ ในที่สุดข้าวต้มทรงเครื่องสูตรพิเศษของนางก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย จ้าวเยี่ยนฟางวานให้ถิงถิงช่วยจัดอาหารและอื่น ๆ ที่นางเตรียมไว้ใส่สำรับ และมุ่งหน้าไปยังเรือนใหญ่ ซึ่งเป็นที่พำนักของแม่ทัพหวง

ระหว่างทางที่เดินไปเรือนของหวงตงหยาง จ้าวเยี่ยนฟางก็ได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า นางทำเช่นนี้ดีแล้วหรือไม่ เพราะนางรู้ดีว่าหวงตงหยางเกลียดนางเพียงใดหากนางโผล่หน้าไปให้เขาเห็น เขาอาจจะกินข้าวไม่ลงก็ได้

แต่ว่าเมื่อหลายวันก่อนเขาต้องเจ็บตัวเพราะช่วยเหลือนาง หากนางมิไปเยี่ยมเขาเลยสักครั้ง เขาคงมองนางเป็นพวกข้ามแม่น้ำรื้อสะพานเป็นแน่

เมื่อนางเดินมาถึงบริเวณเรือนของหวงตงหยาง นางก็บังเอิญเจอเข้ากับองครักษ์ของเขา ที่กำลังเดินออกมาจากเรือนด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล เมื่อองครักษ์หนุ่มคนนั้นเห็นจ้าวเยี่ยนฟาง เขาก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินตรงเข้ามาหานาง

"ฮูหยิน.." เจียวมิ่งโค้งคำนับนายหญิงของจวนอย่างนอบน้อม

"ยินดีที่ได้พบท่าน ท่านองครักษ์" นางเอ่ยทักทายกลับไปอย่างเป็นมิตร ก่อนจะสังเกตเห็นได้ว่าเขามีสีหน้ากังวลอะไรบางอย่าง

"ท่านกำลังกังวลสิ่งใดอยู่หรือ"

"ฮูหยิน..ท่านช่วยไปดูท่านแม่ทัพหน่อยได้หรือไม่ขอรับ" องครักษ์หนุ่มต้องเอ่ยขอความช่วยเหลือสตรีที่เจ้านายของตนเคยบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาอย่างจนใจ

เพราะอย่างไรนางก็มีศักดิ์เป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ อีกทั้งฮูหยินก็แสดงท่าทีชัดเจนมาโดยตลอดว่ารักเจ้านายของเขาเพียงใด เวลานี้จึงมีเพียงฮูหยินที่จะช่วยเขาได้

"ได้สิ ข้าตั้งใจจะมาเยี่ยมเขาอยู่แล้ว"

จ้าวเยี่ยนฟางถือสำรับ เดินเข้าไปในเรือนของหวงตงหยางเพียงลำพัง เมื่อนางเดินมาถึงห้องนอนของเขา ก็เห็นว่า หวงตงหยางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง สีหน้าของเขาดูซีดเซียว อีกทั้งยังดูเหมือนคนหายใจหอบถี่

จ้าวเยี่ยนฟางวางสำรับลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะรีบเข้าไปดูอาการของเขา นางใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบา ๆ ก็พบว่าเขามีไข้ขึ้นสูง คาดว่าน่าจะมาจากพิษของบาดแผล

ไม่ได้การล่ะ นางต้องรีบตามคนมาช่วยเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นอาการของแม่ทัพหวงอาจจะแย่ไปกว่านี้ หากเป็นเช่นนั้นมันก็อาจจะอันตรายถึงชีวิต ในขณะที่จ้าวเยี่ยนฟางกำลังจะลุกขึ้นไปตามคนมาช่วย ข้อมือนางก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยฝ่ามือหนาของคนที่คิดว่ากำลังหลับอยู่ นางหันกลับไปดูด้วยความตกใจก็พบว่า หวงตงหยางกำลังจับข้อมือของนางอยู่

"ท่าน..ท่านเป็นอย่างไรบ้าง"

"เจ้ากำลังจะไปไหน" หวงตงหยางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง เขารู้สึกปวดบาดแผลมากเสียจนแทบทนไม่ไหว

"ข้ากำลังจะไปตามคนมาช่วยท่าน ท่านไข้สูงมาก ไยท่านจึงไม่รีบบอกให้องครักษ์ของท่านไปตามหมอมาดูอาการ" นางเผลอบ่นออกไปด้วยความเป็นห่วง

ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว นางไม่สามารถปล่อยให้เขานอนซมเพราะพิษไข้อย่างนี้ได้

"ช่างเถิด..เมื่อหลายวันก่อนข้าได้สมุนไพรมาทาแผลแล้ว ไม่นานก็คงหาย" เขายังคงพยายามที่จะสื่อสารกับนาง แม้ว่าตัวเขาแทบจะไม่มีแรงเปล่งเสียงออกมาแล้วก็ตาม

"หากได้รับการรักษาแล้วอาการต้องดีขึ้นสิ ท่านมิรู้บ้างเลยหรือว่าตอนนี้อาการท่านย่ำแย่มาก" นางมองเขาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

"เขาเป็นหมอที่เก่งที่สุดที่ข้ารู้จักแล้ว.. หากเขารักษาไม่ได้ ข้าก็จนปัญญา" หวงตงหยางพยายามเค้นเสียงตอบ

นางไม่รู้ว่าการแพทย์สมัยนี้เป็นอย่างไร แต่การเอาใบไม้มาโปะลงบนแผล ใช่ว่าแผลจะหายดีไปเสียทุกราย

"หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!"

Related chapters

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

    Last Updated : 2025-01-04
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

    Last Updated : 2025-01-05
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

    Last Updated : 2025-01-06
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนเมาก็คงพูดไปเรื่อย

    หวงตงหยางมุ่งหน้าไปยังอาชาสีนิลของตน เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด ทั้งที่เคยเกลียดชังจ้าวเยี่ยนฟางปานนั้น ก็ยังคิดถึงใบหน้าของนางอยู่ได้ ในเมื่อนางไม่หายไปจากสมองสักที เขาก็จะไปหานางเองขณะหวงตงหยางกำลังกุมบังเหียนอาชาคู่ใจมุ่งหน้ากลับไปยังจวนสกุลหวงเพื่อที่จะไปพบกับฮูหยินของตน ในใจก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า จะไปหานางด้วยเรื่องอะไร มีเหตุผลใดเขาจึงต้องไปหานางกัน เขาคิดเช่นนั้นมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าจวนสองเท้ากระโดดลงจากอาชาอย่างมั่นคง ทหารยามที่เข้าเวรอยู่ ณ.ขณะนั้นจึงเป็นคนเอาม้าไปเก็บให้ผู้เป็นนาย หวงตงหยางเดินหน้าแดงก่ำไปยังที่พำนักของฮูหยิน ตอนนี้เขามาหยุดอยู่หน้าเรือนของสตรีที่เขาเคยเกลียดที่สุด ภายในใจสับสนวุ่นวายตีรวนกันไปหมด ทำไมข้าถึงได้ถ่อมาถึงที่นี่กันนะ หากข้าได้เจอหน้านาง ความรู้สึกวุ่นวายในใจนี้จะหายไปหรือไม่"ฮูหยินอยู่ที่ใด" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามบ่าวไพร่คนหนึ่งที่คอยรับใช้อยู่ในเรือนจงหยุน"เรียนท่านแม่ทัพ ฮูหยินกำลังพักผ่อนอยู่ที่ศาลาริมสระบัวเจ้าค่ะ"หวงตงหยางพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังศาลาริมสระบัว ซึ่งตอนนี้มีร่า

    Last Updated : 2025-01-06
  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินผู้ร้ายกาจ

    ร่างกายที่รู้สึกหนักอึ้ง ค่อย ๆ จมดิ่งลงไปท่ามกลางกระแสน้ำเย็น ภาพที่เห็นก็เริ่มเลือนราง หูทั้งสองข้างอื้อเสียจนไม่สามารถได้ยินเสียงอะไร มือซีดเซียวที่พยายามตะเกียกตะกายกายขอความช่วยเหลือก็เริ่มหมดแรงลงอย่างช้า ๆ นางจมดิ่งลงไปในความมืดมิดโดยมีกระแสน้ำโอบอุ้มร่างกาย มันทั้งมืดมิดและน่ากลัว เคว้งคว้างและว่างเปล่า อึก..หายใจไม่ออก ใครก็ได้..ช่วยด้วยค่ะหญิงสาวไม่มีแม้แต่แรงที่จะเค้นเสียงออกมาด้วยซ้ำ คำเหล่านี้นางจึงทำได้แค่เพียงตะโกนอยู่ในใจ สติสุดท้ายที่เหลืออยู่เริ่มเลือนราง หากมีใครสักคนมาช่วยนางก็คงดี..นี่..เราต้องตายไปทั้งอย่างนี้จริง ๆ หรือ.. ช่างเป็นชีวิตที่ไร้ค่าเสียจริง.. ใบหน้าที่ว่างเปล่าหลับตาลงอย่างช้า ๆ และโอบกอดความตายไว้แต่โดยดี ขัดขืนไปก็มีแต่จะทำให้เหนื่อยเปล่า อย่างไรชีวิตนางมันก็ไร้ค่าอยู่แล้ว หากตายไปเป็นอาหารให้ปลา ชีวิตนางอาจจะมีคุณค่ามากกว่านี้.."ช่วยด้วยย ช่วยฮูหยินด้วยเจ้าค่ะ ใครก็ได้ช่วยฮูหยินด้วย" เสียงสาวใช้คนหนึ่ง ตะโกนหวีดร้องขอความช่วยเหลืออย่างขาดสติ นางร้องไห้ฟูมฟายเสียจนใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกหวงตงหยางที่นั่งทำงานอยู่ในห้องได้ยินเสีย

    Last Updated : 2024-12-28

Latest chapter

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คนเมาก็คงพูดไปเรื่อย

    หวงตงหยางมุ่งหน้าไปยังอาชาสีนิลของตน เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวายไปหมด ทั้งที่เคยเกลียดชังจ้าวเยี่ยนฟางปานนั้น ก็ยังคิดถึงใบหน้าของนางอยู่ได้ ในเมื่อนางไม่หายไปจากสมองสักที เขาก็จะไปหานางเองขณะหวงตงหยางกำลังกุมบังเหียนอาชาคู่ใจมุ่งหน้ากลับไปยังจวนสกุลหวงเพื่อที่จะไปพบกับฮูหยินของตน ในใจก็พลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า จะไปหานางด้วยเรื่องอะไร มีเหตุผลใดเขาจึงต้องไปหานางกัน เขาคิดเช่นนั้นมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าจวนสองเท้ากระโดดลงจากอาชาอย่างมั่นคง ทหารยามที่เข้าเวรอยู่ ณ.ขณะนั้นจึงเป็นคนเอาม้าไปเก็บให้ผู้เป็นนาย หวงตงหยางเดินหน้าแดงก่ำไปยังที่พำนักของฮูหยิน ตอนนี้เขามาหยุดอยู่หน้าเรือนของสตรีที่เขาเคยเกลียดที่สุด ภายในใจสับสนวุ่นวายตีรวนกันไปหมด ทำไมข้าถึงได้ถ่อมาถึงที่นี่กันนะ หากข้าได้เจอหน้านาง ความรู้สึกวุ่นวายในใจนี้จะหายไปหรือไม่"ฮูหยินอยู่ที่ใด" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามบ่าวไพร่คนหนึ่งที่คอยรับใช้อยู่ในเรือนจงหยุน"เรียนท่านแม่ทัพ ฮูหยินกำลังพักผ่อนอยู่ที่ศาลาริมสระบัวเจ้าค่ะ"หวงตงหยางพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังศาลาริมสระบัว ซึ่งตอนนี้มีร่า

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   สับสน

    "ไหน ๆ ฮูหยินที่เจ้าจงเกลียดจงชัง ก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว เจ้าควรมีสีหน้าที่ดีกว่านี้สิ หรือว่า..เจ้าคิดถึงนาง!""แค่กๆๆ นี่เจ้า! จะพูดอะไรก็ช่วยคิดก่อนพูดได้หรือไม่ ข้าเนี่ยนะ จะไปคิดถึงนาง เหอะ! สตรีร้ายกาจเช่นนั้น ข้าไม่..คิดถึงนางหรอก หายไปได้ก็ดีแล้ว" หวงตงหยางถึงกับสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่สหายของตนพูดออกมาเขาคิดถึงนางอย่างนั้นหรือ.. เป็นไปไม่ได้หรอก เขาเพียงแค่เคยชินที่นางคอยมาทำแผลให้ก็เท่านั้น"งั้นหรือ..แต่ข้ารู้สึกคิดถึงนางนะ" หลงโม่โฉวพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ พลางยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม ครั้งล่าสุดที่เขาพบกับจ้าวเยี่ยนฟาง ก็ตั้งแต่ในร้านขายภาพวาด อีกทั้งตอนนั้นนางยังวิ่งมาสวมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนเขาเองยังรู้สึกสงสารต้องยอมรับว่านางงดงามแม้กระทั่งตอนที่ร้องไห้ น้ำตาไหลอาบหน้า เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดหวงตงหยางจึงจงเกลียดจงชังนางนัก"เจ้ากำลังคิดถึงภรรยาของข้าอยู่นะโม่โฉว" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังมีศักดิ์เป็นฮูหยินของเขา ถึงจะรู้ว่าหลงโม่โฉวเพียงพูดเล่น แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่"เจ้ากินน้ำส้มสายชูอย่างนั้นหรือ..ก่อนหน้านี้เ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   กลับไปเป็นเช่นเดิม

    จ้าวเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าเรือนของหวงตงหยางเหมือนในทุก ๆ วัน แต่ทว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ที่นางจะมารักษาให้เขา เพราะบาดแผลของเขานั้นเกือบหายดีแล้ว ตัวนางเองก็คงหมดหน้าที่แล้วเช่นกันอาจเป็นเพราะว่าหวงตงหยางเป็นคนฝึกยุทธ์ บาดแผลจึงสมานได้ไวกว่าคนปกติ นางนึกหัวเราะอยู่ในใจ คนที่มีวิทยายุทธ์อย่างนั้นหรือ.. ความคิดนี้มาจากคนที่เคยเรียนแพทย์อย่างนางได้อย่างไรกัน นางคงจะคุ้นชินกับโลกใบนี้เสียแล้วล่ะ"ข้าคิดว่าแผลของท่านเกือบจะหายดีแล้ว พักดื่มยาอีกสองสามวันคงหาย" นางพูดขึ้นในขณะที่กำลังก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลเช่นเดิมแต่ขณะที่นางจะลุกขึ้นเพื่อเอาของไปเก็บ เขากลับเรียกนางเอาไว้ หวงตงหยางจมอยู่ในห้วงความคิดของตนอยู่นาน เหตุใดเขาถึงรู้สึกวูบโหวง ใจหายแปลก ๆ เพียงแค่คิดว่านางจะไม่มาหาอีก มันเป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เขาเคยเกลียดชังนางถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับเฝ้ารอให้นางมาหา และรู้สึกใจหายทุกครั้งเมื่อนางกลับไป"เจ้าหมายความว่า หากข้าหายดีแล้ว เจ้าก็จะไม่มาที่นี่อีกใช่หรือไม่" น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงความนัยลึกซึ้ง สายตาที่ทอดมองนางก็ยิ่งลึกล้ำจ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   นี่น่ะหรือ..นางเอก

    อันที่จริงใช่ว่านางจะหลงใหลหวงตงหยางเหมือนจ้าวเยี่ยนฟางคนเก่า แต่นางเพียงไม่ชอบให้ใครมาพูดจาถากถางใส่เช่นนี้ หากไม่ชอบนาง ก็แค่เดินผ่านไปตั้งแต่แรกเสียก็จบ ไม่รู้ว่าจะมาทำตัวปากยื่นปากยาวใส่นางไปทำไมกัน"ข้าน่ะรู้สึกสงสารฮูหยินจับใจเลยนะเจ้าคะ" แม้ว่าเหรินหลานเฟิงจะทำเป็นตีหน้าเศร้า แต่แววตาของนางหาได้เป็นเช่นนั้นไม่นางคงจะเก่งในการพูดให้ผู้อื่นโมโหมากเลยสิท่า ถึงว่าล่ะจ้าวเยี่ยนฟางคนก่อนถึงได้ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตี เจ็บตัวเล็กน้อยแต่ได้หัวใจของพระเอกมาครอง หึ ช่างน่าขันยิ่งนักเจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนี่แม่นางเหรินแต่วิธีของเจ้าใช้ไม่ได้กับจ้าวเยี่ยนฟางคนนี้หรอกนะ ถ้าเหงาปากนักละก็ นางจะอยู่คุยเป็นเพื่อนให้ก็ได้"ตัวข้านี้ มีเรื่องอะไรให้คุณหนูจากสกุลเหรินมาสงสารกันล่ะ" เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้ว ตัวของจ้าวเยี่ยนฟางเองก็นับว่าเหนือกว่าเหรินหลานเฟิงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งฐานะทางสังคม ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งรูปร่างหน้าตา จ้าวเยี่ยนฟางนั้น มิมีสิ่งใดที่ด้อยกว่าคุณหนูจากสกุลเหรินเลยแม้แต่น้อยเหรินหลานเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น ก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมา แววตามีความสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ไม่น้อย นิ้ว

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    ตอนนี้นางช่างเป็นคนที่รับมือได้ยากเสียจริงหวงตงหยางคิดอยู่ในใจพลางยกยิ้มมุมปากอย่างพึงใจ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าเขาสนใจเรื่องของนาง แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้จ้าวเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่น่าสนใจจริง ๆหลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งหวงตงหยางและจ้าวเยี่ยนฟางต่างก็มีเรื่องต่าง ๆ มาพูดคุยกัน เพื่อแก้เบื่อ หวงตงหยางเริ่มพูดกับนางมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาเจียวมิ่งองครักษ์ส่วนตัวของเขาถึงกับอมยิ้มเวลามองมาที่เขาและนางจ้าวเยี่ยนฟางมักจะถามเขาถึงเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยไปออกรบว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งแรกที่เขาจับดาบตอนอายุเท่าไหร่ หรือกระทั่งเรื่องการฝึกยุทธ์ วิชาตัวเบาต่าง ๆ นางล้วนนั่งฟังอย่างตั้งใจหวงตงหยางเหลือบเห็นสายตาของนางที่มองมาที่เขาด้วยความชื่นชมตลอดเวลาที่เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง"เจ้าถูกใจเรื่องที่ข้าเล่าหรือ" เขาเอ่ยถามออกไปด้วยความแปลกใจ เรื่องของทหาร เรื่องของดาบ น้อยนักที่สตรีใต้หล้านี้จะใคร่รู้และอยากฟังเรื่องราว แต่ว่านางกลับนั่งฟังอย่างตั้งใจ อีกทั้งท่าทีก็ดูตื่นเต้นและสนุกสนานกับเรื่องเล่าของเขาการได้พูดคุยกับสตรีที่ชื่

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ใครว่าข้าสนใจเจ้า

    "ช่วงนี้ข้าจะมาทำแผลให้ท่านทุกวันจนกว่าจะหายดี ถึงท่านจะไม่อยากเห็นหน้าข้าก็ช่วยอดทนหน่อยนะเจ้าคะ ขอเพียงข้ารักษาท่านเสร็จ ข้าจะไม่มารบกวนท่านอีก""ได้" เขาตอบกลับเสียงเรียบ สีหน้าและแววตาไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใด ๆ จ้าวเยี่ยนฟางได้แต่ฝืนยิ้มให้กับเขา เหตุใดนางถึงรู้สึกเศร้าเช่นนี้ ทั้งที่นางไม่ได้คิดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ"วันนี้ข้าทำข้าวต้มทรงเครื่องมาให้ท่านด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะให้เจียวมิ่งนำไปอุ่นมาให้ท่านนะเจ้าคะ"หวงตงหยางไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับไป เขาทำเพียงแค่มองดูนางทำนั่นทำนี่ก็เท่านั้น นางเก็บอุปกรณ์ทำแผลเสร็จเรียบร้อย ก็ลุกขึ้นและยกสำรับที่เย็นชืดแล้วไปให้เจียวมิ่ง ก่อนจะกลับมาพร้อมกลับกะละมังใส่น้ำ และผ้าสะอาดผืนหนึ่ง"เจ้าจะทำอะไร""เช็ดตัวให้ท่านไงเจ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านจะมีไข้ด้วย ถึงแม้ว่าข้าจะทำแผลให้ท่านเสร็จแล้ว ก็ใช่ว่าไข้จะลดลงไปด้วย ท่านต้องเช็ดตัวเพื่อลดไข้ด้วยนะเจ้าคะ" นางตอบเขาไปอย่างไม่คิดอะไร แต่ทว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลับคิดไปไกล เช็ดตัวให้ก็ต้องเปลื้องผ้า หรือที่จริงแล้ว จ้าวเยี่ยนฟางอยากถือโอกาสที่เขาป่วยเพื่อหลอกกินเต้าหู้เขากันเมื่อเห็นว่าเขาทำสีหน้าไม่ไว้วางใจ นางก็ถึ

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   คุณหมอจำเป็นกับคนไข้แสนหยิ่งทนง

    "หากหมอที่เก่งที่สุดรักษาได้เพียงเท่านี้ เช่นนั้นข้าจะเป็นคนรักษาให้ท่านเอง!" วิชาแพทย์ที่นางเคยร่ำเรียนมาในชาติก่อน กำลังจะได้ใช้จริงในชาตินี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อาชีพที่นางชอบ แต่นางก็ต้องทำเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"อย่างเจ้าน่ะหรือจะรักษาข้า แค่กๆ" เสียงพูดกระท่อนกระแท่นและไอโขกตามมาหลังจากบุรุษผู้องอาจพูดจบ หวงตงหยางพยายามสูดเอาอากาศเข้าปอด และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะมาสู้รบตบมือกับนางแล้วหากหมอที่เก่งที่สุดยังรักษาเขาไม่ได้ สตรีที่ชื่อว่าจ้าวเยี่ยนฟางจะรักษาเขาได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถิด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว..จ้าวเยี่ยนฟางถือวิสาสะถอดเสื้อของเขาออกตามอำเภอใจ หวงตงหยางก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน นางเคยทำแผลให้เขามาแล้วครั้งหนึ่ง มิรู้ว่าครั้งนี้จะสามารถไว้ใจนางได้หรือไม่ เขาได้แต่ทำใจและยอมให้นางรักษาแต่โดยดีนางสำรวจบาดแผลของเขา ก่อนจะหันกลับมาบ่นเขาตามประสาคนที่เคยเรียนหมอมาก่อน ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงบ่นนางในตอนที่นางป่วยเพราะนางเองก็เป็นคนประเภทที่ หากไม่ได้เป็นอะไรหนักหนา นางจะไม่มีทางไป

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   ฮูหยินอย่างข้าก็มีดีเหมือนกัน

    หวงตงหยาง..ตอนนี้เขาควรอยู่กับเหรินหลานเฟิงที่โรงน้ำชาสิ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน หวงตงหยางผู้นั้นเนี่ยนะ จะมาช่วยข้า เห็นทีปีนี้หิมะคงไม่ตกแล้วล่ะ เขาเกลียดจ้าวเยี่ยนฟางอย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะตามมาเพื่อปกป้องนาง"ท่าน! ท่านมาทำอะไรที่นี่" แม้นางจะคิดว่าบุรุษผู้นี้มีส่วนคล้ายกับหวงตงหยาง แต่นางก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาจริง ๆ เพราะจากนิยายที่นางเคยอ่านมันไม่มีฉากนี้นี่นา"นี่คือสิ่งแรกที่เจ้าพูดกับผู้มีพระคุณของเจ้าหรือ" หวงตงหยางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจบงานเลี้ยงที่วัง เขาก็แทบไม่ได้เห็นหน้าจ้าวเยี่ยนฟางอีกเลย ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอหน้าฮูหยินของตนข้างนอกจวน แถมยังเป็นสถานการณ์เช่นนี้เพราะปกตินางจะต้องมาตามรังควานเขาเสียทุกที แต่คราวนี้นางกลับทำเหมือนไม่เห็นเขา และเดินออกไปทั้งอย่างนั้น อันที่จริงเขาเห็นนางตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงน้ำชาแล้วล่ะ เพียงแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นนางก็เท่านั้นและสิ่งที่แปลกขึ้นไปอีกคือ การที่จ้าวเยี่ยนฟางเห็นเขานั่งอยู่กับเหรินหลานเฟิง หากเป็นปกตินางคงเข้ามาโวยวาย ทำร้ายร่างกายเหรินหลานเฟิง ไม่ก็ทำลายขว้างปาข้าวของ แต่นางกลับไม่มีท

  • นางร้ายผู้นี้ มิขอหลงรักพระเอก   บุรุษผู้กล้ากับสตรีใจเด็ด

    เขาเสี่ยงชีวิตมาช่วยพวกนางแท้ ๆ นางจะทิ้งเขาลงอย่างนั้นหรือ นั่นมันไร้หัวใจเกินไปแล้ว พวกโจรมันมีกันตั้งหลายคน ลำพังแค่เขาผู้เดียว จะไปสู้พวกมันได้อย่างไร..อีกใจหนึ่งของนางก็คิดว่าหากเขาไม่มั่นใจในฝีมือของตนเอง ก็คงจะมิกล้ากระโดดเข้ามาช่วยนางหรอก! นางกลับไปแล้วจะช่วยอะไรเขาได้โอ๊ย เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!"ถิงถิงเจ้ารีบกลับไปตามคนมาช่วยบุรุษผู้นั้นเร็ว คนนับสิบรุมคนเพียงหนึ่งอันตรายเกินไป ข้าจะกลับไปดูเขา เผื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง""คุณหนู ท่านไปมิได้นะเจ้าคะมันอันตราย""นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ข้าเป็นอันตราย เจ้าจงรีบไปตามคนมา!!" บัดนี้ในใจของนางว้าวุ่น เรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้จะมัวรอช้ามิได้ นางรู้สึกผิดที่ตอนแรกคิดหนีเขาออกมา"เจ้าค่ะข้าจะรีบไปตามคนมาเดี๋ยวนี้" ถิงถิงไม่รอช้ารีบวิ่งไปตามทางรถม้า ในใจก็นึกให้ใครก็ได้ช่วยคุณหนูกับผู้มีพระคุณคนนั้นด้วย!เจ้าเยี่ยนฟางวิ่งกลับมาที่เดิม บุรุษผู้มีพระคุณของนางกำลังต่อสู้อยู่กับพวกโจรอย่างดุเดือด บัดนี้พวกมันนอนหมอบกับพื้นไปเกือบหมดแล้ว บุรุษผู้นี้ช่างไร้เทียมทานยิ่งนักนางหลบอยู่หลังต้นไม้คอยสังเกตการณ์ จะมีสิ่งใดที่นางพอจะช่วยเขาได้บ้าง น

DMCA.com Protection Status