ฉันเดินออกมาหน้าห้องแล้วปิดประตู เพราะกลัวว่านาลินจะได้ยินเข้า“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ รินขอร้อง” สีหน้าของคุณเหนือในตอนนี้เหมือนว่าเขากำลังเมินคำขอร้องของฉันอยู่“คุณเหนือ”“ฉันง่วง” เขาตอบมาแค่สั้นๆ“ง่วงแล้วทำไมไม่ไปนอนที่บ้านล่ะคะ จะมาหารินทำไม”“ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ ?”“มะ ไม่ได้ค่ะ รินบอกแล้วไงว่านาลินอยู่ในห้อง”“แต่คอนโดนี้ฉันเป็นคนจ่าย ฉันก็มีสิทธิ์จะนอน”“แต่ไม่ใช่เวลาแบบนี้นะคะ” คุณเหนือเอื้อมมือจะมาเปิดประตูห้อง ฉันจึงรีบผลักมือเขาออก “คุณเหนือไม่เข้าใจรินเลยใช่ไหมคะ”“หรือเธอจะให้ฉันเป็นคนพูดกับน้องสาวของเธอเอง” คุณเหนือหยุดพูดจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมา “…ว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน”“มะ หมายความว่ายังไงคะ”ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณเหนือกระทบลงมาใส่ใบหน้าของฉัน “นี่เธอไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งกันแน่ว่าริน”ฉันกำมือทั้งสองข้างแน่นพร้อมกับเม้มปาก หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเลยตอนนี้“ยะ อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ”“ถ้าไม่อยากให้ฉันพูดก็เปิดประตูห้อง”ตอนนี้ฉันต้องเลือก ไม่ว่าจะเลือกทางไหนมันก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น เฮ้อ…สรุปแล้วฉันก็ต้องเลือกเปิดประตูให้คุณเหนือเข้ามาในห้อง ทางเลือกนี้คงจะดี
หลังจากเลิกงานคุณเหนือก็พาฉันมาที่บ้านของเขา เขากลายเป็นคนเงียบขรึมอีกแล้ว ตั้งแต่ออกจากบริษัทจนกระทั่งถึงบ้านไม่พูดอะไรเลยสักคำ“รินอยู่ได้ถึงหกโมงเย็นนะคะ เดี๋ยวนาลินจะสงสัยเอา” ฉันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของคุณเหนือแล้วคำพูดของฉันทำให้คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่ร่างของฉันจะถูกดันให้มาชนเข้ากับกำแพงห้องคุณเหนือใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นมายันกับกำแพงห้องไว้ ส่วนมืออีกข้างของเขาก็จับปลายคางฉันให้เงยขึ้นฉันมองคุณเหนืออย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร และในตอนนี้สายตาของเขาก็กำลังมองฉันอยู่ เราทั้งคู่ต่างจ้องมองกันอยู่นาน จนในที่สุดคุณเหนือก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน“สักวันน้องสาวของเธอก็ต้องรู้ คิดว่าจะปิดได้ตลอดหรือไง”“แต่ตอนนี้รินยังไม่พร้อมจะบอกนี่คะ”“แค่พูดว่าเป็นแฟนฉันมันยากตรงไหน ?”ตึกตัก! ตึกตัก! คำพูดของคุณเหนือทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงอีกแล้ว“กะ ก็มันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ รินไม่กล้าพูดหรอกค่ะ”“หรือเธออยากจะเป็นแฟนฉันจริงๆ ?”“มะ ไม่ค่ะ รินไม่กล้าคิดแบบนั้น…” ฉันรีบหลบสายตาเมื่อถูกถามแบบนั้นคำตอบของฉันมันขัดจากความรู้สึก ทั้งที่จริงแล้วฉันต้องการ แต่ก็ต้องพูดปฏิเสธออกไป
แกร็ก! เสียงเปิดประตูห้องเข้ามา ทำให้ฉันหันไปมองและได้เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องคือคุณเหนือ “ขะ เข้ามาทำไมคะ ออกไปนะ” ฉันออกปากไล่ เมื่อคุณเหนือเดินมาหยุดข้างๆ กับฉัน “คิดถึงเมีย” พูดจบคุณเหนือก็ดึงฉันเข้าไปสวมกอดแน่น นี่เขาดูไม่ออกเลยหรือไงว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปกติน่ะ “เธอบอกน้องสาวหรือยัง ว่าเธอเป็นแฟนของฉัน”“คุณเหนือ” ฉันเบิกตากว้างเมื่อเขาพูดมาแบบนั้น ฉันไปตกลงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาพูดเองทั้งนั้น พอเห็นคุณเหนือกอดแล้วพูดกับฉันแบบนั้นนาลินก็แสดงสีหน้าออกมาว่าไม่พอใจเอามากๆ ทำให้ฉันต้องรีบผลักคุณเหนือให้ออกห่าง เมื่อฉันผลักคุณเหนือออกไปแล้วนาลินเธอก็เดินมาหยุดข้างๆ กับคุณเหนือแล้วพูด “หนูรู้ว่าพี่รินไม่ใช่แฟนของคุณเหนือ พี่รินขายตัวให้คุณเหนือ”คุณเหนือเงียบ เขามองหน้านาลินแต่ไม่ได้พูดอะไร นาลินจึงพูดต่อ “หนูยังเด็กกว่า และก็สดกว่าพี่รินนะคะ”ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองว่าจะได้ยินนาลินพูดแบบนั้นออกมา ตั้งแต่เด็กจนโตฉันมักจะตามใจน้องสาวตลอด ของเล่นทุกชิ้นของฉันถ้านาลินอยากได้ฉันก็จะยกให้ ถึงนาลินจะเป็นเด็กเอาแต่ใจในบางครั้ง แต่ไม่ใช่แบบตอนนี้ “แล้วยังไง ?” คุณเหนือถามกั
คุณเหนือลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาฉัน แต่สิ่งที่ฉันทำคือถอยหนี ฉันรู้ใจตัวเอง รู้ดีว่าต้องการเขา และมันก็ดีใจมากที่ได้ยินความในใจแบบนั้น แต่ก็อย่างที่ฉันพูดไปว่าในตอนนี้อะไรๆ มันก็ยังไม่ลงตัว“แค่จะกอดก็ไม่ได้ ?” คุณเหนือเลิกคิ้วถาม พอฉันไม่ตอบหัวคิ้วของเขาก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันเป็นปม “จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่”“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ ถ้าคุณเหนืออยู่ที่นี่นาลินคงจะยิ่งโกรธ”“ฉันรู้ว่าเธอรักน้องสาว แต่การที่เธอไล่ฉันแบบนี้มันเหมือนเธอไม่ได้รักฉัน” พูดจบคุณเหนือก็ทำหน้าเย็นชาใส่เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ริมระเบียง แล้วจุดบุหรี่มวนสูบฉันไม่รู้จะต้องอธิบายยังไงให้คุณเหนือเข้าใจ ฉันอยากให้เขาเข้าใจโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยท่าทางของคุณเหนือและสายตาของเขา บ่งบอกว่าเขากำลังตัดพ้อฉันอยู่ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่ริมระเบียงห้อง“มาทำไมกลับเข้าห้องไป” คุณเหนือไล่ฉันทันที เขาใช้มือที่คีบบุหรี่อยู่ไพล่ไปด้านหลังของตัวเอง“รินรอกลับเข้าห้องพร้อมคุณเหนือค่ะ”“ฉันสูบบุหรี่ จะมายืนเฝ้าทำไม”“ก็สูบต่อสิคะ”คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขา
#บริษัท คำพูดของนาลินทำให้ฉันเครียดแทบไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน เพราะสมองมันเอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนแทบจะระเบิด ฉันไม่ตอบอะไรกับนาลินทั้งนั้น และฉันก็ไม่สามารถเลือกได้ จะว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ ฉันไม่ต้องการที่จะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง ฉันอยากจะทำตามที่นาลินขอ แต่ฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางปฏิเสธคุณเหนือได้ ฉันรักเขา….“ดอกไม้ครับ” ฉันที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ก็ต้องสะดุ้งเพราะ จู่ๆ ก็มีคนเอาช่อกุหลาบมายื่นให้ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงจะเป็นพนักงานที่ร้าน “ขะ ของฉันเหรอคะ” ฉันถามกลับผู้ชายที่ยื่นช่อกุหลาบมาให้“ใช่ครับ”เมื่อฉันรับช่อกุหลาบมาผู้ชายคนส่งก็รีบออกไป กุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นเฉพาะตัวของมัน ฉันพยายามมองหาโน้ตเผื่อจะมีแนบมาด้วยแต่ก็ไม่มี หลังจากที่มีคนมาส่งดอกไม้ให้ฉันไม่นานคุณเหนือก็เดินมา ฉันจึงรีบเอาช่อกุหลาบแอบไว้เพราะกลัวว่าจะถูกเขาใจผิด คุณเหนือเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของฉัน จากนั้นเขาก็ถาม “ชอบไหม ?”“…คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปม มาถึงก็ถามว่าชอบไหมเลย ฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง “กุหลาบช่อนั้น ทำไมวางไว้แบบนั้น”“อะ เอ่อคือ รินไม่รู้ว่าของใคร ไม่รู้ว่าใครส่งให้จริงๆ นะคะ” ฉันต้องรีบปฏิเสธอ
ฉันเงียบเมื่อถูกคุณเหนือถามแบบนั้น ที่เงียบไม่ใช่เพราะคิดจะทำตามคำขอของนาลิน ที่เงียบแบบนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน“วาริน!!” คุณเหนือตวาดเรียกชื่อฉันเบาๆ ทำให้ฉันที่กำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่สะดุ้งโหยงคุณเหนือเบือนหน้าหนี เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกจากห้างสรรพสินค้าไปด้วยความเร็ววารินเอ้ย! ทำไมเธอถึงไม่ตอบออกไปว่าไม่คิดจะทำตามที่นาลินขอ ทำไมถึงปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดแบบนี้ฉันได้แต่บ่นตัวเองในใจ รอให้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยพูดก็แล้วกันความเงียบเข้ามาปกคลุมไปทั่วคันรถ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกเร่งครั้งแล้วครั้งเล่า คิดดูสิว่าคุณเหนือขับเร็วขนาดไหน“คะ…คุณเหนือคะรินว่า”“หุบปากของเธอซะ!!”ฉันกำลังจะท้วงว่าเขาไม่ควรขับรถเร็วขนาดนี้เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคก็ถูกคุณเหนือหันหน้ามาออกคำสั่งอย่างไม่ชอบใจ แถมยังเหยียบคันเร่งเร็วกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่บ้าน หลังจากที่จอดรถแล้วคุณเหนือก็เปิดประตูออกไปจากรถ เขาเปิดท้ายรถเพื่อหยิบของที่ซื้อมา แล้วก็เดินดุ่มๆ เข้าบ้านไปโดยไม่รอฉันเลยอะไรกัน! ฉันผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรือยังไงเขาถึงได้ทำเหมือนฉันเป็นแค่อากาศรอบๆ ตัว
ปลายคางของฉันถูกเชยให้เงยขึ้น จากนั้นคุณเหนือก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาจนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่จรดกัน เขาบดขยี้ริมฝีปากของฉันเบาๆ ดูดเม้มอย่างทะนุถนอม ก่อนจะสอดลิ้นสากเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากฉันไม่สามารถปฏิเสธการกระทำของคุณเหนือได้ เพราะตอนนี้มันเคลิบเคลิ้มตามเขาไปอย่างว่าง่าย หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเพราะนี่คือครั้งแรกที่ฉันกับเขาจะทำเรื่องอย่างว่าด้วยกันกลางสระน้ำแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมหากมีคนมาเห็น แต่ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ เพราะฉันเองก็ต้องการ….ผ่านไปเนิ่นนาน ริมฝีปากของฉันกับคุณเหนือค่อยๆ ผละออกจากกัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีชุดชั้นในของฉันก็ถูกเขาถอดออกไปจากตัวทุกชิ้นแล้วนี่ฉันเคลิ้มถึงขนาดไม่รู้ตัวเองเลยเหรอว่าชุดชั้นในถูกถอดออกไปน่ะคุณเหนือปลดกางเกงของตัวเองออก จากนั้นเขาก็เอามันขึ้นมาวางไว้บนสระมือหนาซุกซนเริ่มไต่ไปมาบนผิวเนื้อของฉันอีกครั้ง เราทั้งคู่จ้องตากันด้วยแววความปรารถนา“จะทำตรงนี้จริงๆ เหรอคะ” ฉันถามย้ำอีกครั้ง ถึงจะมีความต้องการแต่ก็อดระแวงไม่ได้“กลัวหรือไง หื้ม”“ถะ ถ้ามีคนมาเห็น”“ฉันก็จะฆ่ามัน”“จะบ้าเหรอคะ ทำในที่แจ้งแบบนี้มีคนมาเห็นคงไม่แปลก คุณเหน
คุณเหนือมาส่งฉันที่คอนโดท่าทางของเขาดูอิดออดไม่อยากจะกลับ แถมยังไม่ยอมปลดล็อกรถให้ฉันลงอีกต่างหาก“คุณเหนือคะ….”“ฉันอยากนอนกับเธอ”“รินบอกว่าไม่ได้ไง ฟังรินบ้างสิคะ”“เอาแบบนี้ ให้ฉันนอนกับเธอวันเว้นวันก็ได้”ฉันได้แต่ถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วก็รู้สึกแปลกใจที่คุณเหนือมีท่าทางเหมือนจะติดฉันงอมแงมขนาดนี้“เมื่อก่อนคุณเหนือไม่ได้อยากนอนกับรินแบบนี้นี่คะ”“ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันเหมือนกันหรือไง”“รู้ตัวไหมคะว่าคุณเหนือเปลี่ยนไปมากขนาดไหน”“รู้! แล้วฉันติดเมียมันผิดตรงไหน ?” คุณเหนือถามกลับอย่างหาเรื่องใบหน้าของฉันมันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อได้ยินคุณเหนือพูดคำว่าเมีย บ้าจริง! ทำไมฉันถึงใจเต้นแรงทุกครั้งที่เขาพูดคำนี้นะ“วันเว้นวัน เธอโอเค ?”ใครจะไปทนไหว! ฉันคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวกับสายตาออดอ้อนของคุณเหนือแบบนี้ เขามองด้วยสายตาแบบนั้นแล้วฉันจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงเล่า“ก็ได้ค่ะ”“รู้ไหมว่าเธอต้องให้ฉันมานอนที่ห้องบ่อยๆ น้องสาวของเธอจะได้ชิน” คุณเหนือพูดด้วยเหตุผล แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังหาเหตุผลมาอ้างเพื่อได้นอนกับฉันมากกว่า“คืนนี้ห้ามทำอะไรเกินเลยนะคะ รินเหนื่อย”“เหนื่อยอะไร ตอนทำฉันก็เป็นคนทำ” คุ
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
เช้าวันต่อมา….ฉันแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนถูกทำโทษ กล่องถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมันถูกทิ้งไว้เกลื่อนห้องไปหมดเลยตอนนี้โชคดีที่คุณเหนือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหมดทั้งแพ็กเพราะเขาเห็นใจฉัน แต่ก็หมดไปหลายกล่องเลย“ลุกขึ้นแต่งตัวสิ” คุณเหนือเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกฉัน คิดว่าไปทำงานแล้วซะอีก“ไปไหนคะ รินลุกไม่ไหวหรอก”“ไปพัทยา”“หื้อ ไปทำไมคะ คุณเหนือมีงานที่นั่นเหรอคะ”“เปล่า ฉันจะพาเธอไปพักผ่อน”“ว่างเหรอคะ”“ฉันมีเวลาว่างให้เธอทั้งชีวิต” คุณเหนือบอกเสียงหวานจากนั้นก็เดินมาที่เตียงแล้วอุ้มฉันขึ้น“อื้อ อุ้มรินทำไมคะ”“จะพาไปอาบน้ำ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือไง”ฉันถามคุณเหนือเพราะมันรู้สึกเขิน ส่วนคุณเหนือเขาก็อุ้มฉันมาในห้องน้ำ แถมยังทำตัวน่ารักหวังจะถอดเสื้อออกให้ด้วย ฉันจึงรีบเบรกไว้ เพราะการให้คุณเหนือเห็นเรือนร่างมันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“เดี๋ยวรินถอดเองค่ะ คุณเหนือไปรอข้างนอกนะคะ”“แต่ฉันอยากถอดให้เธอ” คุณเหนือบอกจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาจูบที่ต้นคอของฉันนี่อย่าบอกนะว่ากำลังจะเริ่มอีกแล้วน่ะ“หยุดนะคะ รินหมดแรงแล้ว”คุณเหนือหยุดชะงักพร้อมกับค่อยๆ ผละใบหน้าออก “
คุณเหนือแบกตัวของฉันมาที่ห้องนอน เขาไม่ยอมวางฉันลงไม่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนตุบ! ร่างของฉันถูกโยนลงบนเตียง ย้ำนะคะว่าโยน ถึงเตียงมันจะนิ่มแต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี“ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะคะ” บอกตามตรงว่ามันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณเหนือจะวางฉันลงดีๆ ก็ได้นิ ไม่เห็นจำเป็นต้องโยนกันรุนแรงแบบนี้เลย“เธอพูดไม่ฟังเอง”“ก็คุณเหนือนั่นแหละงี่เง่า”“ฉันงี่เง่า ? งี่เง่าตรงไหน”“ก็ตรงที่ขี้น้อยใจเหมือนผู้หญิงไงล่ะคะ”โอเคฉันรู้แหละว่าการทะเลาะกันมันคือปัญหาปกติของชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเหลืออดจริงๆคุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหอะ! เขาคิดว่าตัวเองหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง“เธอก็เลยประชดฉันด้วยวิธีนี้ว่างั้น ?”“ทำไมไม่ปล่อยให้รินเดินออกไปนอกบ้านล่ะคะ จะได้รู้ว่าประชดหรือเปล่า”“เสื้อชั้นในก็ไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในแบบนี้มั่นใจว่าเธอจะเดินออกไปที่สนามหญ้า”“ค่ะ รินจะไป”“วาริน!!”“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มขู่รินหรอกค่ะ คุณเหนือจะไปไหนก็ไม่บอกรินสักคำ แถมโทรไปไม่รับด้วย”“แต่เธอก็ไม่ควรทำแบบน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์กดโทรออกไปหาคุณเหนือ ไม่ได้จะโทรไปขอบคุณแต่จะโทรไปต่อว่าที่เขาใช้เงินมากมายซื้อของพวกนี้มา( ชอบของที่ฉันซื้อให้หรือเปล่า )พอฉันกดรับสายคุณเหนือก็ถามคำนี้ออกมา เขาดูจะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนที่เสียเงินไปมากมายมหาศาลเลยสักนิด เป็นฉันคนเดียวที่นึกเสียดาย( ไม่ชอบค่ะ )( ถ้าอย่างนั้นเธอชอบแบบไหน เดี๋ยวประชุมเสร็จฉันจะพาไปเลือกใหม่ )แทนที่จะหงุดหงิดหรือโกรธที่ฉันไม่ชอบ แต่คุณเหนือกลับอารมณ์ดีแถมจะพาฉันไม่เลือกใหม่อีกต่างหาก( รินไม่ชอบให้คุณเหนือใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ )( ฟุ่มเฟือยที่ไหนกัน เงินแค่ไม่กี่สิบล้าน )( สะ สิบล้านเลยเหรอคะ )( ห้าสิบกว่าล้าน ) คุณเหนือตอบกลับมาทำให้ฉันแทบจะเป็นลมจนต้องจับขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองเขาพูดออกมาง่ายๆ คำว่าห้าสิบล้าน ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือไง( ต่อไปนี้ห้ามใช้เงินแบบนี้อีกนะคะ รินอยากให้คุณเหนือเก็บเงินไว้ )( เดือนๆ หนึ่งบริษัทฉันได้กำไรร้อยกว่าล้าน ของพวกนั้นฉันตั้งใจอยากจะซื้อให้ แต่ถ้าเธอไม่ชอบจะเอาไปทิ้งในถังขยะฉันก็ไม่ว่าอะไร )( อย่ามาประชดกันแบบนี้นะคะคุณเหนือ )( ในเมื่อฉันตั้งใจจะให้แต่เธอไม่รับ จ