คุณเหนือมาส่งฉันที่คอนโดท่าทางของเขาดูอิดออดไม่อยากจะกลับ แถมยังไม่ยอมปลดล็อกรถให้ฉันลงอีกต่างหาก“คุณเหนือคะ….”“ฉันอยากนอนกับเธอ”“รินบอกว่าไม่ได้ไง ฟังรินบ้างสิคะ”“เอาแบบนี้ ให้ฉันนอนกับเธอวันเว้นวันก็ได้”ฉันได้แต่ถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วก็รู้สึกแปลกใจที่คุณเหนือมีท่าทางเหมือนจะติดฉันงอมแงมขนาดนี้“เมื่อก่อนคุณเหนือไม่ได้อยากนอนกับรินแบบนี้นี่คะ”“ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันเหมือนกันหรือไง”“รู้ตัวไหมคะว่าคุณเหนือเปลี่ยนไปมากขนาดไหน”“รู้! แล้วฉันติดเมียมันผิดตรงไหน ?” คุณเหนือถามกลับอย่างหาเรื่องใบหน้าของฉันมันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อได้ยินคุณเหนือพูดคำว่าเมีย บ้าจริง! ทำไมฉันถึงใจเต้นแรงทุกครั้งที่เขาพูดคำนี้นะ“วันเว้นวัน เธอโอเค ?”ใครจะไปทนไหว! ฉันคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวกับสายตาออดอ้อนของคุณเหนือแบบนี้ เขามองด้วยสายตาแบบนั้นแล้วฉันจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงเล่า“ก็ได้ค่ะ”“รู้ไหมว่าเธอต้องให้ฉันมานอนที่ห้องบ่อยๆ น้องสาวของเธอจะได้ชิน” คุณเหนือพูดด้วยเหตุผล แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังหาเหตุผลมาอ้างเพื่อได้นอนกับฉันมากกว่า“คืนนี้ห้ามทำอะไรเกินเลยนะคะ รินเหนื่อย”“เหนื่อยอะไร ตอนทำฉันก็เป็นคนทำ” คุ
คุณเหนือกำชับกอดแน่นจากนั้นเขาก็หอมแก้มฉันฟอดใหญ่แล้วถาม “น้องสาวของเธอว่ายังไง”ฉันหมุนตัวมาประจันหน้ากับคุณเหนือแล้วฉีกยิ้มกว้าง “นาลินเปิดใจยอมรับแล้วค่ะ ^_^”เมื่อพูดจบคุณเหนือก็ยกมือขึ้นมาปัดไรผมที่มันหล่นลงมาเกะกะใบหน้าของฉันออก แววตาของเขาที่กำลังมองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ“ดีใจไหม ?”“ดีใจสิคะ ^_^”มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา แต่ฉันเลือกที่จะเบือนหน้าหนีซะก่อน“รินบอกแล้วนะคะว่างดน่ะ”“แค่จูบ” คุณเหนือบอก เขาใช้นิ้วค่อยๆ ลากไล้ไปมาบนริมฝีปากของฉัน“เดี๋ยวค่ะ! จูบตอนนี้ไม่ได้” ฉันดันตัวคุณเหนือออก จากนั้นก็เดินมาหย่อนก้นนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของคุณเหนือตาเขม็ง“อะไร ?” คุณเหนือเห็นท่าทางของฉันเขาก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วตั้งคำถาม“คุณเหนือเลิกเลี้ยงผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ เหรอคะ ?”“อื้ม” คุณเหนือพยักหน้าตอบพร้อมกับส่งเสียงครางรับในลำคอ“แล้วได้พูดจบความสัมพันธ์กับพวกเธอหรือเปล่า”“……” พอฉันถามแบบนั้นคุณเหนือก็ทำท่ากระอึกกระอัก ไม่ตอบแปลว่ายังสินะ!!“นี่สินะคะที่เขาเรียกว่าผู้ชายมักมาก”“ฉันจำ
คุณเหนือขับรถต่อโดยมีนาลินนั่งเบาะหน้าแทนฉัน แถมเธอก็ยังแอบมองคุณเหนืออยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากเก็บมาคิดให้ฟุ้งซ่าน“นาลิน เรื่องเรียนกลับมาจากเที่ยวเดี๋ยวพี่จะพาไปคุยกับคุณครูที่นั่นนะ” เห็นว่าบรรยากาศภายในรถมันเงียบเกินไป ฉันจึงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนาลินหันหน้ามาตอบ “หนูไม่อยากเรียนแล้วค่ะ อยากหางานทำมากกว่า”“ไม่ได้นะ เธอยังไม่จบมอหกยังไงก็ต้องเรียนให้จบ”“หนูเบื่อนี่นา”“ออกตอนนี้เธอจะทำงานอะไร คิดถึงตรงนี้บ้างสิ”“ค่า! คุณแม่ บ่นเก่งตลอดเลยนะพี่รินน่ะ” นาลินละสายตาจากฉันหันมองคุณเหนือ “เวลาพี่รินอยู่กับคุณเหนือชอบบ่นแบบนี้ไหมคะ”“ฉันไม่คิดว่าที่พี่เธอพูดแปลว่าบ่น การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเด็กวัยรุ่นอย่างเธอยังต้องเรียนหนังสือ”“ค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนนะคะ ^_^”“คำนี้เธอควรบอกพี่สาวของเธอ ไม่ใช่ฉัน” น้ำเสียงที่ฟังดูห่างเหินของคุณเหนือทำให้นาลินถึงกับหุบยิ้ม เธอเงียบไปเลยจากนั้นบรรยากาศภายในรถก็กลับมาเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งคุณเหนือขับรถมาถึงที่ทะเล ตอนนี้เป็นเวลาสิบห้านาฬิกาเรื่องที่พักคุณเหนือได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว เป็นบ้านพักหลังใหญ่ติดชาย
คุณเหนือลุกขึ้น เขาสบถคำหยาบออกมาเบาๆ แต่ฉันที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน นั่นมันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว ยิ่งตอนนี้สถานะของฉันกับคุณเหนือคือคนรัก มันก็ยิ่งทำให้ฉันกลัวว่าเขาจะโกรธเอามากๆฉันลุกขึ้นตามคุณเหนือแล้วรีบเดินไปหาพราวกับพี่เพชร ขืนให้พี่เพชรเดินมาหยุดตรงหน้าคุณเหนือเขาทั้งคู่คงได้มีปากเสียงกันแน่ๆ ต้องรีบไปบอกพี่เพชรว่าคุณเหนือคือแฟนของฉัน“ริน คือฉันไม่รู้ว่าแกจะมากับคุณเหนือ”พราวหน้าเสียรีบบอกเมื่อฉันเดินมาหยุดตรงหน้า“พี่คิดว่าจะมีแค่เราซะอีก” พี่เพชรบอกอย่างผิดหวัง“พี่เพชรคะ ตอนนี้คุณเหนือคือแฟนของริน รินอยากจะขอร้อง พี่เพชรอย่าพูดหรือทำอะไรที่ทำให้เขาโมโหได้ไหมคะ” ฉันรีบพูดเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันการทั้งพี่เพชรและพราวพอได้ยินเรื่องที่ฉันบอกไปทั้งคู่ก็เหมือนตกใจกันพอสมควร“กะ แกไปคบกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไหร่ริน ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“เดี๋ยวเรื่องนั้นฉันจะเล่าให้แกฟัง” ฉันหันมองพี่เพชรอีกครั้ง ในตอนนี้สีหน้าของพี่เพชรกำลังเศร้าหมอง“ทำให้น้องสาวคนนี้ได้ไหมคะพี่เพชร”“อืม! พี่รับปากว่าจะไม่พูดหรือทำอะไรที่ทำให้ผู้ชายที่รินรักโกรธ” พี่เพชรเดินหนีไปหลังจากที่พูดจบ“ฉันสงสารพี่ชายของฉัน
“พะ พี่ริน” นาลินผลักคุณเหนือออก เธอรีบลงจากเตียงมาหาฉัน “หนูห้ามแล้วนะคะ แต่คุณเหนือไม่ยอมฟัง ขะ เขาจะทำเรื่องอย่างว่าอย่างเดียวเลย”“ริน”นาลินเอามือมาจับมือฉันแต่ถูกฉันสะบัดออก ฉันมองคุณเหนือ เขาค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง สิ่งที่ฉันทำคือค่อยๆ เดินไปหยุดตรงหน้าของเขา จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือเล็กๆ ของตัวเองฟาดลงบนใบหน้าของคุณเหนืออย่างแรง“ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นนาลิน ทำไมคุณเหนือถึงเลือกที่จะทรยศริน!!” ฉันถามผู้ชายตรงหน้าออกไปด้วยความเจ็บปวด หัวใจของฉันมันแตกสลายไปหมดแล้ว“ฉะ ฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าเป็นเธอ”“ทะ ทำไมคุณเหนือพูดแบบนี้ล่ะคะ คุณเหนือดึงให้หนูเข้ามาในห้องแท้ๆ แถมยังลากหนูไปบนเตียงด้วย” นาลินพูดแทรกขึ้นมาทันที“จำเมียตัวเองไม่ได้เลยเหรอคะ จำไม่ได้หรือเป็นแค่ข้ออ้างกันแน่ ถ้ารินมาช้ากว่านี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว อึก~”ฉันมองหน้านาลินกับคุณเหนือสลับกัน มันเจ็บปวดจนแทบไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าความเจ็บปวดมันจะมาแทนที่ความสุขได้เร็วมากขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งตกลงจะคบกับเขาแท้ๆฉันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หันหลังให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินมาที่ประตู แต่ก็ถ
พอฉันพูดไปว่าอยากจะจบคุณเหนือก็เงียบ เขาเงียบไปพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แต่กลับก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางของฉันใส่ในรถ“เอากระเป๋ารินมานี่นะ!!” ฉันพยายามจะยื้อแย่งแต่ถูกคุณเหนือกันไว้หลังจากที่จัดการเอากระเป๋าของฉันใส่รถเสร็จแล้ว คุณเหนือก็ลากฉันมาที่ประตูรถ “รินไม่ไป!!”ฉันทั้งดิ้นแล้วก็โวยวายบอกว่าไม่ไป ยังไงก็ไม่ยอมไปกับเขาเด็ดขาด แต่ในที่สุดร่างของฉันก็ถูกคุณเหนือจับยัดเข้ามาในรถจนได้เมื่อคุณเหนือเข้ามานั่งด้านในรถเขาก็สตาร์ทแล้วขับออกไปจากคอนโด ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหน ถ้าให้เดาคงจะเป็นที่บ้านในตอนนี้ฉันเลิกโวยวาย เอาแต่นั่งสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดและทรมาน แผลที่ถูกกรีดลึกในใจมันเป็นแผลสดอยู่ ทำไมคุณเหนือถึงไม่ให้เวลาฉันได้ทำใจบ้าง ในเมื่อฉันพูดไปแล้วว่าอยากจะจบถึงฉันจะเงียบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมทนอยู่ ตอนนี้แค่ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะหนีไปจากผู้ชายคนนี้ได้ ฉันอยากมีเงินมากพอจะเอามาให้เขา เผื่อว่าเขาจะเอาเงินมาอ้างเพื่อให้ฉันอยู่คุณเหนือพาฉันมาที่บ้านจริงๆ เมื่อรถหรูจอดสนิทเขาก็ลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้กับฉัน“ลงมา ฉันต้องเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง”ฉันยอ
รอสายไม่นานเสียงทุ้มเข้มของปลายสายก็เอ่ยขึ้น( กว่าจะโทรมาได้นะ ) คำถามของเขาทำให้ฉันต้องแปลกใจ เขาพูดเหมือนรู้ว่านี่คือเบอร์ของฉัน ไม่สิ! ไม่ใช่เหมือน แต่เขารู้ว่านี่คือเบอร์ของฉันต่างหาก( รู้เบอร์รินด้วยเหรอคะ ) ( มันไม่ยากสำหรับฉันนะ ) ฉันเงียบมือที่เผลอกำแน่นมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อคิดว่าจะหนีไปจากคุณเหนือด้วยวิธีนี้( เธอโทรมาแบบนี้ หวังว่าฉันจะได้ฟังข่าวดี ) ( คะ…คุณติณเคยบอกกับรินว่าถ้าอยากจะออกมาจากชีวิตของคุณเหนือ คุณติณช่วยรินได้ใช่ไหมคะ ) ( หึ! แน่นอนฉันช่วยเธอได้ )( รินต้องการให้คุณติณช่วยพารินหนีจากคุณเหนือค่ะ )เสียงหัวเราะของปลายสายดังขึ้นมา เหมือนกับว่าเขากำลังพอใจมากๆ ที่ฉันบอกแบบนั้น( เธอมั่นใจว่าอยากจะมาอยู่กับฉัน )( คุณติณจะไม่ทำอะไรรินใช่ไหมคะ ) ( ฉันไม่ใช่พวกหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ถ้าเธอไม่ใช่คนสำคัญของไอ้เหนือฉันคงไม่สนใจ ) ฉันเงียบ แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลนั้นมันก็ทำให้ฉันไม่ต้องคิดมากอะไรอีก( ค่ะ รินมั่นใจ ) ( พรุ่งนี้จะให้ฉันไปรับเธอที่ไหนว่ามาสิ )( หน้าบริษัทของคุณเหนือก็ได้ค่ะ รินหาจังหวะแอบหนีออกมาง่ายกว่าที่บ้าน ) ( อื้ม ) สายถูกตัดไปหยดน้
ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์เพื่อไม่ให้คุณเหนือโทรตามได้ ตลอดทางที่คุณติณขับรถไปเขาเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลยสักคำผู้ชายคนนี้ก็เย็นชาไม่ต่างจากคุณเหนือ ฉันอยากจะรู้เหตุผลที่เขามีปัญหากันจัง#คฤหาสน์หลังใหญ่คุณติณพาฉันเข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง ความใหญ่โตคงไม่ต้องพูดถึง“จะให้รินอยู่ที่บ้านหลังนี้เหรอคะ” ฉันถามเมื่อลงจากรถแล้ว“หรือเธออยากจะอยู่คอนโดให้ไอ้เหนือมันมาตาม ?”พอถูกถามแบบนั้นฉันเองก็เงียบ เพราะรู้สึกว่าถ้าได้ไปอยู่ที่คอนโดจริงๆ คงไม่ปลอดภัย“ที่นี่มีเรือนเล็กอีกหลังฉันจะให้เธอไปอยู่ที่เรือนเล็กก็แล้วกัน”“…ค่ะ”“ถ้าไอ้เหนือมันรู้ว่าเธออยู่กับฉันคงจะขาดใจตาย หึ!” เขาเค้นหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุข “ตามฉันมาสิ”คุณติณเดินนำไป ส่วนฉันก็รีบเดินตามเขา ในตอนนี้ฉันได้แต่พูดย้ำๆ กับตัวเองในใจว่าคิดถูกแล้วที่หนีมาแบบนี้ เพราะอยู่ต่อไปมันก็มีแต่เจ็บปวดบ้านหลังนี้จะมีเรือนเล็กที่คุณติณว่า เรือนเล็กแยกออกห่างจากตัวบ้านไม่ได้ไกลมาก“นี่กุญแจ ถ้าต้องการอะไรก็โทรมาบอกฉัน ฉันจะให้ลูกน้องจัดการให้” เขายื่นกุญแจบ้านมาให้เมื่อเดินมาหยุดที่หน้าประตู“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยริน”“ฉ