คุณเหนือกำชับกอดแน่นจากนั้นเขาก็หอมแก้มฉันฟอดใหญ่แล้วถาม “น้องสาวของเธอว่ายังไง”ฉันหมุนตัวมาประจันหน้ากับคุณเหนือแล้วฉีกยิ้มกว้าง “นาลินเปิดใจยอมรับแล้วค่ะ ^_^”เมื่อพูดจบคุณเหนือก็ยกมือขึ้นมาปัดไรผมที่มันหล่นลงมาเกะกะใบหน้าของฉันออก แววตาของเขาที่กำลังมองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ“ดีใจไหม ?”“ดีใจสิคะ ^_^”มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา แต่ฉันเลือกที่จะเบือนหน้าหนีซะก่อน“รินบอกแล้วนะคะว่างดน่ะ”“แค่จูบ” คุณเหนือบอก เขาใช้นิ้วค่อยๆ ลากไล้ไปมาบนริมฝีปากของฉัน“เดี๋ยวค่ะ! จูบตอนนี้ไม่ได้” ฉันดันตัวคุณเหนือออก จากนั้นก็เดินมาหย่อนก้นนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของคุณเหนือตาเขม็ง“อะไร ?” คุณเหนือเห็นท่าทางของฉันเขาก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วตั้งคำถาม“คุณเหนือเลิกเลี้ยงผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ เหรอคะ ?”“อื้ม” คุณเหนือพยักหน้าตอบพร้อมกับส่งเสียงครางรับในลำคอ“แล้วได้พูดจบความสัมพันธ์กับพวกเธอหรือเปล่า”“……” พอฉันถามแบบนั้นคุณเหนือก็ทำท่ากระอึกกระอัก ไม่ตอบแปลว่ายังสินะ!!“นี่สินะคะที่เขาเรียกว่าผู้ชายมักมาก”“ฉันจำ
คุณเหนือขับรถต่อโดยมีนาลินนั่งเบาะหน้าแทนฉัน แถมเธอก็ยังแอบมองคุณเหนืออยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากเก็บมาคิดให้ฟุ้งซ่าน“นาลิน เรื่องเรียนกลับมาจากเที่ยวเดี๋ยวพี่จะพาไปคุยกับคุณครูที่นั่นนะ” เห็นว่าบรรยากาศภายในรถมันเงียบเกินไป ฉันจึงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนาลินหันหน้ามาตอบ “หนูไม่อยากเรียนแล้วค่ะ อยากหางานทำมากกว่า”“ไม่ได้นะ เธอยังไม่จบมอหกยังไงก็ต้องเรียนให้จบ”“หนูเบื่อนี่นา”“ออกตอนนี้เธอจะทำงานอะไร คิดถึงตรงนี้บ้างสิ”“ค่า! คุณแม่ บ่นเก่งตลอดเลยนะพี่รินน่ะ” นาลินละสายตาจากฉันหันมองคุณเหนือ “เวลาพี่รินอยู่กับคุณเหนือชอบบ่นแบบนี้ไหมคะ”“ฉันไม่คิดว่าที่พี่เธอพูดแปลว่าบ่น การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเด็กวัยรุ่นอย่างเธอยังต้องเรียนหนังสือ”“ค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนนะคะ ^_^”“คำนี้เธอควรบอกพี่สาวของเธอ ไม่ใช่ฉัน” น้ำเสียงที่ฟังดูห่างเหินของคุณเหนือทำให้นาลินถึงกับหุบยิ้ม เธอเงียบไปเลยจากนั้นบรรยากาศภายในรถก็กลับมาเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งคุณเหนือขับรถมาถึงที่ทะเล ตอนนี้เป็นเวลาสิบห้านาฬิกาเรื่องที่พักคุณเหนือได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว เป็นบ้านพักหลังใหญ่ติดชาย
คุณเหนือลุกขึ้น เขาสบถคำหยาบออกมาเบาๆ แต่ฉันที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน นั่นมันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว ยิ่งตอนนี้สถานะของฉันกับคุณเหนือคือคนรัก มันก็ยิ่งทำให้ฉันกลัวว่าเขาจะโกรธเอามากๆฉันลุกขึ้นตามคุณเหนือแล้วรีบเดินไปหาพราวกับพี่เพชร ขืนให้พี่เพชรเดินมาหยุดตรงหน้าคุณเหนือเขาทั้งคู่คงได้มีปากเสียงกันแน่ๆ ต้องรีบไปบอกพี่เพชรว่าคุณเหนือคือแฟนของฉัน“ริน คือฉันไม่รู้ว่าแกจะมากับคุณเหนือ”พราวหน้าเสียรีบบอกเมื่อฉันเดินมาหยุดตรงหน้า“พี่คิดว่าจะมีแค่เราซะอีก” พี่เพชรบอกอย่างผิดหวัง“พี่เพชรคะ ตอนนี้คุณเหนือคือแฟนของริน รินอยากจะขอร้อง พี่เพชรอย่าพูดหรือทำอะไรที่ทำให้เขาโมโหได้ไหมคะ” ฉันรีบพูดเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันการทั้งพี่เพชรและพราวพอได้ยินเรื่องที่ฉันบอกไปทั้งคู่ก็เหมือนตกใจกันพอสมควร“กะ แกไปคบกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไหร่ริน ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“เดี๋ยวเรื่องนั้นฉันจะเล่าให้แกฟัง” ฉันหันมองพี่เพชรอีกครั้ง ในตอนนี้สีหน้าของพี่เพชรกำลังเศร้าหมอง“ทำให้น้องสาวคนนี้ได้ไหมคะพี่เพชร”“อืม! พี่รับปากว่าจะไม่พูดหรือทำอะไรที่ทำให้ผู้ชายที่รินรักโกรธ” พี่เพชรเดินหนีไปหลังจากที่พูดจบ“ฉันสงสารพี่ชายของฉัน
“พะ พี่ริน” นาลินผลักคุณเหนือออก เธอรีบลงจากเตียงมาหาฉัน “หนูห้ามแล้วนะคะ แต่คุณเหนือไม่ยอมฟัง ขะ เขาจะทำเรื่องอย่างว่าอย่างเดียวเลย”“ริน”นาลินเอามือมาจับมือฉันแต่ถูกฉันสะบัดออก ฉันมองคุณเหนือ เขาค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง สิ่งที่ฉันทำคือค่อยๆ เดินไปหยุดตรงหน้าของเขา จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือเล็กๆ ของตัวเองฟาดลงบนใบหน้าของคุณเหนืออย่างแรง“ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นนาลิน ทำไมคุณเหนือถึงเลือกที่จะทรยศริน!!” ฉันถามผู้ชายตรงหน้าออกไปด้วยความเจ็บปวด หัวใจของฉันมันแตกสลายไปหมดแล้ว“ฉะ ฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าเป็นเธอ”“ทะ ทำไมคุณเหนือพูดแบบนี้ล่ะคะ คุณเหนือดึงให้หนูเข้ามาในห้องแท้ๆ แถมยังลากหนูไปบนเตียงด้วย” นาลินพูดแทรกขึ้นมาทันที“จำเมียตัวเองไม่ได้เลยเหรอคะ จำไม่ได้หรือเป็นแค่ข้ออ้างกันแน่ ถ้ารินมาช้ากว่านี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว อึก~”ฉันมองหน้านาลินกับคุณเหนือสลับกัน มันเจ็บปวดจนแทบไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าความเจ็บปวดมันจะมาแทนที่ความสุขได้เร็วมากขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งตกลงจะคบกับเขาแท้ๆฉันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หันหลังให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินมาที่ประตู แต่ก็ถ
พอฉันพูดไปว่าอยากจะจบคุณเหนือก็เงียบ เขาเงียบไปพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แต่กลับก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางของฉันใส่ในรถ“เอากระเป๋ารินมานี่นะ!!” ฉันพยายามจะยื้อแย่งแต่ถูกคุณเหนือกันไว้หลังจากที่จัดการเอากระเป๋าของฉันใส่รถเสร็จแล้ว คุณเหนือก็ลากฉันมาที่ประตูรถ “รินไม่ไป!!”ฉันทั้งดิ้นแล้วก็โวยวายบอกว่าไม่ไป ยังไงก็ไม่ยอมไปกับเขาเด็ดขาด แต่ในที่สุดร่างของฉันก็ถูกคุณเหนือจับยัดเข้ามาในรถจนได้เมื่อคุณเหนือเข้ามานั่งด้านในรถเขาก็สตาร์ทแล้วขับออกไปจากคอนโด ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหน ถ้าให้เดาคงจะเป็นที่บ้านในตอนนี้ฉันเลิกโวยวาย เอาแต่นั่งสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดและทรมาน แผลที่ถูกกรีดลึกในใจมันเป็นแผลสดอยู่ ทำไมคุณเหนือถึงไม่ให้เวลาฉันได้ทำใจบ้าง ในเมื่อฉันพูดไปแล้วว่าอยากจะจบถึงฉันจะเงียบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมทนอยู่ ตอนนี้แค่ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะหนีไปจากผู้ชายคนนี้ได้ ฉันอยากมีเงินมากพอจะเอามาให้เขา เผื่อว่าเขาจะเอาเงินมาอ้างเพื่อให้ฉันอยู่คุณเหนือพาฉันมาที่บ้านจริงๆ เมื่อรถหรูจอดสนิทเขาก็ลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้กับฉัน“ลงมา ฉันต้องเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง”ฉันยอ
รอสายไม่นานเสียงทุ้มเข้มของปลายสายก็เอ่ยขึ้น( กว่าจะโทรมาได้นะ ) คำถามของเขาทำให้ฉันต้องแปลกใจ เขาพูดเหมือนรู้ว่านี่คือเบอร์ของฉัน ไม่สิ! ไม่ใช่เหมือน แต่เขารู้ว่านี่คือเบอร์ของฉันต่างหาก( รู้เบอร์รินด้วยเหรอคะ ) ( มันไม่ยากสำหรับฉันนะ ) ฉันเงียบมือที่เผลอกำแน่นมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อคิดว่าจะหนีไปจากคุณเหนือด้วยวิธีนี้( เธอโทรมาแบบนี้ หวังว่าฉันจะได้ฟังข่าวดี ) ( คะ…คุณติณเคยบอกกับรินว่าถ้าอยากจะออกมาจากชีวิตของคุณเหนือ คุณติณช่วยรินได้ใช่ไหมคะ ) ( หึ! แน่นอนฉันช่วยเธอได้ )( รินต้องการให้คุณติณช่วยพารินหนีจากคุณเหนือค่ะ )เสียงหัวเราะของปลายสายดังขึ้นมา เหมือนกับว่าเขากำลังพอใจมากๆ ที่ฉันบอกแบบนั้น( เธอมั่นใจว่าอยากจะมาอยู่กับฉัน )( คุณติณจะไม่ทำอะไรรินใช่ไหมคะ ) ( ฉันไม่ใช่พวกหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ถ้าเธอไม่ใช่คนสำคัญของไอ้เหนือฉันคงไม่สนใจ ) ฉันเงียบ แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลนั้นมันก็ทำให้ฉันไม่ต้องคิดมากอะไรอีก( ค่ะ รินมั่นใจ ) ( พรุ่งนี้จะให้ฉันไปรับเธอที่ไหนว่ามาสิ )( หน้าบริษัทของคุณเหนือก็ได้ค่ะ รินหาจังหวะแอบหนีออกมาง่ายกว่าที่บ้าน ) ( อื้ม ) สายถูกตัดไปหยดน้
ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์เพื่อไม่ให้คุณเหนือโทรตามได้ ตลอดทางที่คุณติณขับรถไปเขาเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลยสักคำผู้ชายคนนี้ก็เย็นชาไม่ต่างจากคุณเหนือ ฉันอยากจะรู้เหตุผลที่เขามีปัญหากันจัง#คฤหาสน์หลังใหญ่คุณติณพาฉันเข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง ความใหญ่โตคงไม่ต้องพูดถึง“จะให้รินอยู่ที่บ้านหลังนี้เหรอคะ” ฉันถามเมื่อลงจากรถแล้ว“หรือเธออยากจะอยู่คอนโดให้ไอ้เหนือมันมาตาม ?”พอถูกถามแบบนั้นฉันเองก็เงียบ เพราะรู้สึกว่าถ้าได้ไปอยู่ที่คอนโดจริงๆ คงไม่ปลอดภัย“ที่นี่มีเรือนเล็กอีกหลังฉันจะให้เธอไปอยู่ที่เรือนเล็กก็แล้วกัน”“…ค่ะ”“ถ้าไอ้เหนือมันรู้ว่าเธออยู่กับฉันคงจะขาดใจตาย หึ!” เขาเค้นหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุข “ตามฉันมาสิ”คุณติณเดินนำไป ส่วนฉันก็รีบเดินตามเขา ในตอนนี้ฉันได้แต่พูดย้ำๆ กับตัวเองในใจว่าคิดถูกแล้วที่หนีมาแบบนี้ เพราะอยู่ต่อไปมันก็มีแต่เจ็บปวดบ้านหลังนี้จะมีเรือนเล็กที่คุณติณว่า เรือนเล็กแยกออกห่างจากตัวบ้านไม่ได้ไกลมาก“นี่กุญแจ ถ้าต้องการอะไรก็โทรมาบอกฉัน ฉันจะให้ลูกน้องจัดการให้” เขายื่นกุญแจบ้านมาให้เมื่อเดินมาหยุดที่หน้าประตู“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยริน”“ฉ
“นี่คุณเหนือไม่รู้อะไรเลยเหรอคะ ?”ผมพุ่งปรี่เข้ามาประชิดตัวเธอแล้วใช้มือบีบปลายคางของเธอไว้แน่น พร้อมกับจ้องเขม็ง“อื้อ คะ คุณเหนือ”“ใครคือคนรักของริน ถ้าเธอคิดจะโกหกฉัน ฉันไม่เอาเธอไว้แน่”“…….”“ฉันไม่ได้ขู่ ไม่เชื่อเธอก็โกหกฉันดูสิ ชีวิตของเธอจะได้พังเพราะปาก ฉันช่วยเธอได้ ฉันก็ทำลายเธอได้เหมือนกัน ถ้าเธอไม่ใช่น้องสาวของวารินเมียของฉัน คิดหรือไงว่าฉันจะปล่อยเธอให้มายืนหายใจอยู่แบบนี้!!”“มะ ไม่มีค่ะ พะ พี่รินไม่มีใครทั้งนั้นค่ะ” นาลินเธอบอกผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ตัวของเธอสั่นระริกๆ เหมือนว่ากำลังกลัวที่ผมพูดเอามากๆ“แล้วทำไมเธอถึงบอกแบบนั้น ?”“……”“ฉันถาม!!”“หนูอยากให้คุณเหนือหันมาสนใจหนูบ้างนี่คะ”“ฉันไม่เคยสนใจเธอ ไม่คิดจะสนใจ เธอไม่มีอะไรที่เทียบกับรินได้สักอย่าง หยุดความคิดของเธอแล้วไปบอกรินซะว่าคืนนั้นเธอตั้งใจทำให้รินเข้าใจผิด”“……”“เธอไม่ควรทำร้ายพี่สาวมากขนาดนั้น ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ารินพยายามช่วยเธอทุกอย่าง แต่กลับเนรคุณ”“…….”เธอไม่ได้ตอบอะไร ผมจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปลายคาง จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์ลงมาที่ลานจอดรถผมขับรถมาที่บ้านของพราวซึ่งเป็นเพื่อน
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
เช้าวันต่อมา….ฉันแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนถูกทำโทษ กล่องถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมันถูกทิ้งไว้เกลื่อนห้องไปหมดเลยตอนนี้โชคดีที่คุณเหนือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหมดทั้งแพ็กเพราะเขาเห็นใจฉัน แต่ก็หมดไปหลายกล่องเลย“ลุกขึ้นแต่งตัวสิ” คุณเหนือเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกฉัน คิดว่าไปทำงานแล้วซะอีก“ไปไหนคะ รินลุกไม่ไหวหรอก”“ไปพัทยา”“หื้อ ไปทำไมคะ คุณเหนือมีงานที่นั่นเหรอคะ”“เปล่า ฉันจะพาเธอไปพักผ่อน”“ว่างเหรอคะ”“ฉันมีเวลาว่างให้เธอทั้งชีวิต” คุณเหนือบอกเสียงหวานจากนั้นก็เดินมาที่เตียงแล้วอุ้มฉันขึ้น“อื้อ อุ้มรินทำไมคะ”“จะพาไปอาบน้ำ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือไง”ฉันถามคุณเหนือเพราะมันรู้สึกเขิน ส่วนคุณเหนือเขาก็อุ้มฉันมาในห้องน้ำ แถมยังทำตัวน่ารักหวังจะถอดเสื้อออกให้ด้วย ฉันจึงรีบเบรกไว้ เพราะการให้คุณเหนือเห็นเรือนร่างมันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“เดี๋ยวรินถอดเองค่ะ คุณเหนือไปรอข้างนอกนะคะ”“แต่ฉันอยากถอดให้เธอ” คุณเหนือบอกจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาจูบที่ต้นคอของฉันนี่อย่าบอกนะว่ากำลังจะเริ่มอีกแล้วน่ะ“หยุดนะคะ รินหมดแรงแล้ว”คุณเหนือหยุดชะงักพร้อมกับค่อยๆ ผละใบหน้าออก “
คุณเหนือแบกตัวของฉันมาที่ห้องนอน เขาไม่ยอมวางฉันลงไม่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนตุบ! ร่างของฉันถูกโยนลงบนเตียง ย้ำนะคะว่าโยน ถึงเตียงมันจะนิ่มแต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี“ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะคะ” บอกตามตรงว่ามันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณเหนือจะวางฉันลงดีๆ ก็ได้นิ ไม่เห็นจำเป็นต้องโยนกันรุนแรงแบบนี้เลย“เธอพูดไม่ฟังเอง”“ก็คุณเหนือนั่นแหละงี่เง่า”“ฉันงี่เง่า ? งี่เง่าตรงไหน”“ก็ตรงที่ขี้น้อยใจเหมือนผู้หญิงไงล่ะคะ”โอเคฉันรู้แหละว่าการทะเลาะกันมันคือปัญหาปกติของชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเหลืออดจริงๆคุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหอะ! เขาคิดว่าตัวเองหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง“เธอก็เลยประชดฉันด้วยวิธีนี้ว่างั้น ?”“ทำไมไม่ปล่อยให้รินเดินออกไปนอกบ้านล่ะคะ จะได้รู้ว่าประชดหรือเปล่า”“เสื้อชั้นในก็ไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในแบบนี้มั่นใจว่าเธอจะเดินออกไปที่สนามหญ้า”“ค่ะ รินจะไป”“วาริน!!”“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มขู่รินหรอกค่ะ คุณเหนือจะไปไหนก็ไม่บอกรินสักคำ แถมโทรไปไม่รับด้วย”“แต่เธอก็ไม่ควรทำแบบน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์กดโทรออกไปหาคุณเหนือ ไม่ได้จะโทรไปขอบคุณแต่จะโทรไปต่อว่าที่เขาใช้เงินมากมายซื้อของพวกนี้มา( ชอบของที่ฉันซื้อให้หรือเปล่า )พอฉันกดรับสายคุณเหนือก็ถามคำนี้ออกมา เขาดูจะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนที่เสียเงินไปมากมายมหาศาลเลยสักนิด เป็นฉันคนเดียวที่นึกเสียดาย( ไม่ชอบค่ะ )( ถ้าอย่างนั้นเธอชอบแบบไหน เดี๋ยวประชุมเสร็จฉันจะพาไปเลือกใหม่ )แทนที่จะหงุดหงิดหรือโกรธที่ฉันไม่ชอบ แต่คุณเหนือกลับอารมณ์ดีแถมจะพาฉันไม่เลือกใหม่อีกต่างหาก( รินไม่ชอบให้คุณเหนือใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ )( ฟุ่มเฟือยที่ไหนกัน เงินแค่ไม่กี่สิบล้าน )( สะ สิบล้านเลยเหรอคะ )( ห้าสิบกว่าล้าน ) คุณเหนือตอบกลับมาทำให้ฉันแทบจะเป็นลมจนต้องจับขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองเขาพูดออกมาง่ายๆ คำว่าห้าสิบล้าน ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือไง( ต่อไปนี้ห้ามใช้เงินแบบนี้อีกนะคะ รินอยากให้คุณเหนือเก็บเงินไว้ )( เดือนๆ หนึ่งบริษัทฉันได้กำไรร้อยกว่าล้าน ของพวกนั้นฉันตั้งใจอยากจะซื้อให้ แต่ถ้าเธอไม่ชอบจะเอาไปทิ้งในถังขยะฉันก็ไม่ว่าอะไร )( อย่ามาประชดกันแบบนี้นะคะคุณเหนือ )( ในเมื่อฉันตั้งใจจะให้แต่เธอไม่รับ จ