“พะ พี่ริน” นาลินผลักคุณเหนือออก เธอรีบลงจากเตียงมาหาฉัน “หนูห้ามแล้วนะคะ แต่คุณเหนือไม่ยอมฟัง ขะ เขาจะทำเรื่องอย่างว่าอย่างเดียวเลย”“ริน”นาลินเอามือมาจับมือฉันแต่ถูกฉันสะบัดออก ฉันมองคุณเหนือ เขาค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง สิ่งที่ฉันทำคือค่อยๆ เดินไปหยุดตรงหน้าของเขา จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือเล็กๆ ของตัวเองฟาดลงบนใบหน้าของคุณเหนืออย่างแรง“ทำไมคะ ทำไมต้องเป็นนาลิน ทำไมคุณเหนือถึงเลือกที่จะทรยศริน!!” ฉันถามผู้ชายตรงหน้าออกไปด้วยความเจ็บปวด หัวใจของฉันมันแตกสลายไปหมดแล้ว“ฉะ ฉันไม่รู้ ฉันคิดว่าเป็นเธอ”“ทะ ทำไมคุณเหนือพูดแบบนี้ล่ะคะ คุณเหนือดึงให้หนูเข้ามาในห้องแท้ๆ แถมยังลากหนูไปบนเตียงด้วย” นาลินพูดแทรกขึ้นมาทันที“จำเมียตัวเองไม่ได้เลยเหรอคะ จำไม่ได้หรือเป็นแค่ข้ออ้างกันแน่ ถ้ารินมาช้ากว่านี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว อึก~”ฉันมองหน้านาลินกับคุณเหนือสลับกัน มันเจ็บปวดจนแทบไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าความเจ็บปวดมันจะมาแทนที่ความสุขได้เร็วมากขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งตกลงจะคบกับเขาแท้ๆฉันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็หันหลังให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินมาที่ประตู แต่ก็ถ
พอฉันพูดไปว่าอยากจะจบคุณเหนือก็เงียบ เขาเงียบไปพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แต่กลับก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางของฉันใส่ในรถ“เอากระเป๋ารินมานี่นะ!!” ฉันพยายามจะยื้อแย่งแต่ถูกคุณเหนือกันไว้หลังจากที่จัดการเอากระเป๋าของฉันใส่รถเสร็จแล้ว คุณเหนือก็ลากฉันมาที่ประตูรถ “รินไม่ไป!!”ฉันทั้งดิ้นแล้วก็โวยวายบอกว่าไม่ไป ยังไงก็ไม่ยอมไปกับเขาเด็ดขาด แต่ในที่สุดร่างของฉันก็ถูกคุณเหนือจับยัดเข้ามาในรถจนได้เมื่อคุณเหนือเข้ามานั่งด้านในรถเขาก็สตาร์ทแล้วขับออกไปจากคอนโด ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะพาไปที่ไหน ถ้าให้เดาคงจะเป็นที่บ้านในตอนนี้ฉันเลิกโวยวาย เอาแต่นั่งสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวดและทรมาน แผลที่ถูกกรีดลึกในใจมันเป็นแผลสดอยู่ ทำไมคุณเหนือถึงไม่ให้เวลาฉันได้ทำใจบ้าง ในเมื่อฉันพูดไปแล้วว่าอยากจะจบถึงฉันจะเงียบแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมทนอยู่ ตอนนี้แค่ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะหนีไปจากผู้ชายคนนี้ได้ ฉันอยากมีเงินมากพอจะเอามาให้เขา เผื่อว่าเขาจะเอาเงินมาอ้างเพื่อให้ฉันอยู่คุณเหนือพาฉันมาที่บ้านจริงๆ เมื่อรถหรูจอดสนิทเขาก็ลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้กับฉัน“ลงมา ฉันต้องเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง”ฉันยอ
รอสายไม่นานเสียงทุ้มเข้มของปลายสายก็เอ่ยขึ้น( กว่าจะโทรมาได้นะ ) คำถามของเขาทำให้ฉันต้องแปลกใจ เขาพูดเหมือนรู้ว่านี่คือเบอร์ของฉัน ไม่สิ! ไม่ใช่เหมือน แต่เขารู้ว่านี่คือเบอร์ของฉันต่างหาก( รู้เบอร์รินด้วยเหรอคะ ) ( มันไม่ยากสำหรับฉันนะ ) ฉันเงียบมือที่เผลอกำแน่นมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อคิดว่าจะหนีไปจากคุณเหนือด้วยวิธีนี้( เธอโทรมาแบบนี้ หวังว่าฉันจะได้ฟังข่าวดี ) ( คะ…คุณติณเคยบอกกับรินว่าถ้าอยากจะออกมาจากชีวิตของคุณเหนือ คุณติณช่วยรินได้ใช่ไหมคะ ) ( หึ! แน่นอนฉันช่วยเธอได้ )( รินต้องการให้คุณติณช่วยพารินหนีจากคุณเหนือค่ะ )เสียงหัวเราะของปลายสายดังขึ้นมา เหมือนกับว่าเขากำลังพอใจมากๆ ที่ฉันบอกแบบนั้น( เธอมั่นใจว่าอยากจะมาอยู่กับฉัน )( คุณติณจะไม่ทำอะไรรินใช่ไหมคะ ) ( ฉันไม่ใช่พวกหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ถ้าเธอไม่ใช่คนสำคัญของไอ้เหนือฉันคงไม่สนใจ ) ฉันเงียบ แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลนั้นมันก็ทำให้ฉันไม่ต้องคิดมากอะไรอีก( ค่ะ รินมั่นใจ ) ( พรุ่งนี้จะให้ฉันไปรับเธอที่ไหนว่ามาสิ )( หน้าบริษัทของคุณเหนือก็ได้ค่ะ รินหาจังหวะแอบหนีออกมาง่ายกว่าที่บ้าน ) ( อื้ม ) สายถูกตัดไปหยดน้
ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์เพื่อไม่ให้คุณเหนือโทรตามได้ ตลอดทางที่คุณติณขับรถไปเขาเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลยสักคำผู้ชายคนนี้ก็เย็นชาไม่ต่างจากคุณเหนือ ฉันอยากจะรู้เหตุผลที่เขามีปัญหากันจัง#คฤหาสน์หลังใหญ่คุณติณพาฉันเข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง ความใหญ่โตคงไม่ต้องพูดถึง“จะให้รินอยู่ที่บ้านหลังนี้เหรอคะ” ฉันถามเมื่อลงจากรถแล้ว“หรือเธออยากจะอยู่คอนโดให้ไอ้เหนือมันมาตาม ?”พอถูกถามแบบนั้นฉันเองก็เงียบ เพราะรู้สึกว่าถ้าได้ไปอยู่ที่คอนโดจริงๆ คงไม่ปลอดภัย“ที่นี่มีเรือนเล็กอีกหลังฉันจะให้เธอไปอยู่ที่เรือนเล็กก็แล้วกัน”“…ค่ะ”“ถ้าไอ้เหนือมันรู้ว่าเธออยู่กับฉันคงจะขาดใจตาย หึ!” เขาเค้นหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีความสุข “ตามฉันมาสิ”คุณติณเดินนำไป ส่วนฉันก็รีบเดินตามเขา ในตอนนี้ฉันได้แต่พูดย้ำๆ กับตัวเองในใจว่าคิดถูกแล้วที่หนีมาแบบนี้ เพราะอยู่ต่อไปมันก็มีแต่เจ็บปวดบ้านหลังนี้จะมีเรือนเล็กที่คุณติณว่า เรือนเล็กแยกออกห่างจากตัวบ้านไม่ได้ไกลมาก“นี่กุญแจ ถ้าต้องการอะไรก็โทรมาบอกฉัน ฉันจะให้ลูกน้องจัดการให้” เขายื่นกุญแจบ้านมาให้เมื่อเดินมาหยุดที่หน้าประตู“ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยริน”“ฉ
“นี่คุณเหนือไม่รู้อะไรเลยเหรอคะ ?”ผมพุ่งปรี่เข้ามาประชิดตัวเธอแล้วใช้มือบีบปลายคางของเธอไว้แน่น พร้อมกับจ้องเขม็ง“อื้อ คะ คุณเหนือ”“ใครคือคนรักของริน ถ้าเธอคิดจะโกหกฉัน ฉันไม่เอาเธอไว้แน่”“…….”“ฉันไม่ได้ขู่ ไม่เชื่อเธอก็โกหกฉันดูสิ ชีวิตของเธอจะได้พังเพราะปาก ฉันช่วยเธอได้ ฉันก็ทำลายเธอได้เหมือนกัน ถ้าเธอไม่ใช่น้องสาวของวารินเมียของฉัน คิดหรือไงว่าฉันจะปล่อยเธอให้มายืนหายใจอยู่แบบนี้!!”“มะ ไม่มีค่ะ พะ พี่รินไม่มีใครทั้งนั้นค่ะ” นาลินเธอบอกผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ตัวของเธอสั่นระริกๆ เหมือนว่ากำลังกลัวที่ผมพูดเอามากๆ“แล้วทำไมเธอถึงบอกแบบนั้น ?”“……”“ฉันถาม!!”“หนูอยากให้คุณเหนือหันมาสนใจหนูบ้างนี่คะ”“ฉันไม่เคยสนใจเธอ ไม่คิดจะสนใจ เธอไม่มีอะไรที่เทียบกับรินได้สักอย่าง หยุดความคิดของเธอแล้วไปบอกรินซะว่าคืนนั้นเธอตั้งใจทำให้รินเข้าใจผิด”“……”“เธอไม่ควรทำร้ายพี่สาวมากขนาดนั้น ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ารินพยายามช่วยเธอทุกอย่าง แต่กลับเนรคุณ”“…….”เธอไม่ได้ตอบอะไร ผมจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกจากปลายคาง จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์ลงมาที่ลานจอดรถผมขับรถมาที่บ้านของพราวซึ่งเป็นเพื่อน
ไอ้หิรัญมองหน้าผมพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าผมขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปแบบนั้น“มีเรื่องอะไร ?” ไอ้หิรัญถามผมพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วกัดฟันตอบ “เมียกูอยู่กับไอ้ติณ”“มันลักพาตัวเมียมึงไป ?”ผมส่ายหน้า ไอ้หิรัญจึงมองอย่างสงสัยแล้วถามต่อ “ถ้าไม่ได้ลักพาตัวไป แล้วเมียมึงจะไปอยู่กับมันได้ยังไง ?”“เมียกูเต็มใจไปกับมัน”“เชี้ย! ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”ที่ไอ้หิรัญพูดมาแบบนี้ก็เพราะว่าก่อนหน้าที่จะเจอริน ผมมีผู้หญิงคนหนึ่งที่รัก แต่เธอก็ทรยศผมด้วยการไปกับไอ้ติณผมเคยพูดและถามรินแล้วว่าเธอจะไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม เธอพูดพร้อมสัญญา แต่สุดท้ายเธอก็เลือกหนีผมไปอยู่กับมันการที่เธอหนีไปมันไม่เสียใจเท่ากับการที่ได้รู้ว่าเธออยู่กับใคร“เมื่อไหร่มันจะเลิกจองเวรมึงสักที เรื่องนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ”“ถ้ามันเชื่อกูว่าทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ มันคงไม่จองเวรกูถึงทุกวันนี้”เมื่อหลายปีก่อน พ่อของผมกับพ่อของน้ำมนต์และพ่อของไอ้ติณเป็นเพื่อนรักกัน ผม น้ำมนต์ แล้วก็ไอ้ติณโตมาพร้อมกัน เราสามคนสนิทกันมากจนกระทั่งวันที่พ่อของผมกับพ่อของน้ำมนต์และไอ้ติณไปคุยธุรกิจด้วยกันแล้วถูกลอบยิง วันนั้นพ่อของไอ้ติณเสียชีวิตเพราะรถพลิกคว
ฉันมองตามแผ่นหลังของคุณเหนือแล้วเฝ้าถามตัวเองว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันดีกับตัวเองแล้วจริงๆ หรือเปล่า ที่หนีออกมาโดยไม่ฟังเหตุผลอะไรของเขามันคือสิ่งที่ฉันต้องการใช่ไหมจู่ๆ หยดน้ำตามันก็ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เขาไม่ควรตามฉันมาที่นี่ เขาไม่ควรมาทำให้ฉันรู้สึกสับสนและเจ็บปวดแบบนี้อีก“เธอร้องไห้ ?”คุณติณหันมามองฉันพร้อมกับปล่อยมือที่โอบเอวฉันออก“ฉันไม่ได้เลือดเย็นแบบคุณ” นี่คือคำตอบที่ฉันบอกเขา“หยุดร้องแล้วกลับไปที่ของเธอซะ”“คุณเหนือรู้แล้วว่าฉันอยู่กับคุณ เขาคงไม่มายุ่งอีก ฉันต้องการไปอยู่ที่อื่น”“ที่อื่น ? เธอหมายถึงที่ไหน หื้ม” ใบหน้าคมคายโน้มลงมา ฉันจึงรีบถอยห่าง“ฉัน….”“ถ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ไปอยู่ที่คอนโด ฉันให้เธอเลือกแค่สองอย่าง”“ฉันไม่อยากอยู่กับคุณ”“จุ๊ๆ” เขาใช้นิ้ววางลงมาบนริมฝีปากของฉัน “เธอยังมีประโยชน์กับฉัน คิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระตอนนี้หรือไงเด็กโง่”“แต่คุณทำเขาขนาดนั้นแล้วนะ คุณยิงเขา ยังไม่สะใจอีกหรือไง”“อย่าพูดเหมือนฉันผิดแบบนั้นสิ ไม่ใช่เพราะเธอเลือกมาอยู่กับฉันหรือไง มันถึงกระเสือกกระสนรนมาหาถึงที่”“……” ใช่! มันเป็นเพราะฉันเอง คำพูดของคุณติณมันยิ่งตอ
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังลังเลว่าจะไปหานาลินดีหรือเปล่า ทำให้ฉันหลุดออกจากวังวนความคิดของตัวเองแล้วก้มมองที่เบอร์โทรศัพท์ เป็นเบอร์ของพราวที่โทรเข้ามา ฉันจึงรีบกดรับ( ยัยริน แกหายไปไหนมาแล้วทำไมต้องปิดเครื่อง แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหนรีบบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ )พอรับสายพราวก็ยิงคำถามกับฉันยาวเหยียด จนไม่รู้ว่าจะตอบข้อไหนก่อนดี( ฉันแค่อยากพักใจน่ะ ตอนนี้โอเคขึ้นมากแล้วขอโทษด้วยนะที่หายไปแบบนั้น )( แกรู้ไหมว่าคุณเหนือมาตามหาแกที่บ้านของฉันด้วยนะ แต่แปลกเมื่อสามวันก่อนฉันบังเอิญเจอเขาที่xx พอถามว่าเจอแกหรือยังเพราะฉันติดต่อไม่ได้ เขาก็เงียบแล้วรีบเดินหนีไปเลย )คำพูดของพราวมันทำให้ลมหายใจของฉันขาดหายไปบางช่วง ตอนนี้คุณเหนือตัดฉันออกไปแล้วจริงๆ อย่างที่ฉันตัดเขา( ฉันจบกับคุณเหนือแล้วพราว เราจบกันแล้ว )( ริน แกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม )( นาลินส่งข้อความมาบอกฉัน เธอบอกว่าอยากเจอฉันแกว่าฉันควรจะไปเจอดีไหมพราว )( ทำไมถึงอยากเจอล่ะ ที่ทำกับแกมันยังไม่พอใจอีกหรือไง ไม่คิดเลยว่านาลินจะร้ายกับแกขนาดนั้น )( ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน )( แล้วนี่แกจะทำยังไง จะตัดพี่ตัดน้องกับนาลินไปเลยใช่