คุณเหนือลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาฉัน แต่สิ่งที่ฉันทำคือถอยหนี ฉันรู้ใจตัวเอง รู้ดีว่าต้องการเขา และมันก็ดีใจมากที่ได้ยินความในใจแบบนั้น แต่ก็อย่างที่ฉันพูดไปว่าในตอนนี้อะไรๆ มันก็ยังไม่ลงตัว“แค่จะกอดก็ไม่ได้ ?” คุณเหนือเลิกคิ้วถาม พอฉันไม่ตอบหัวคิ้วของเขาก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันเป็นปม “จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่”“คุณเหนือกลับไปก่อนนะคะ ถ้าคุณเหนืออยู่ที่นี่นาลินคงจะยิ่งโกรธ”“ฉันรู้ว่าเธอรักน้องสาว แต่การที่เธอไล่ฉันแบบนี้มันเหมือนเธอไม่ได้รักฉัน” พูดจบคุณเหนือก็ทำหน้าเย็นชาใส่เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ริมระเบียง แล้วจุดบุหรี่มวนสูบฉันไม่รู้จะต้องอธิบายยังไงให้คุณเหนือเข้าใจ ฉันอยากให้เขาเข้าใจโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยท่าทางของคุณเหนือและสายตาของเขา บ่งบอกว่าเขากำลังตัดพ้อฉันอยู่ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปที่ริมระเบียงห้อง“มาทำไมกลับเข้าห้องไป” คุณเหนือไล่ฉันทันที เขาใช้มือที่คีบบุหรี่อยู่ไพล่ไปด้านหลังของตัวเอง“รินรอกลับเข้าห้องพร้อมคุณเหนือค่ะ”“ฉันสูบบุหรี่ จะมายืนเฝ้าทำไม”“ก็สูบต่อสิคะ”คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เขา
#บริษัท คำพูดของนาลินทำให้ฉันเครียดแทบไม่มีกระจิตกระใจจะทำงาน เพราะสมองมันเอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนแทบจะระเบิด ฉันไม่ตอบอะไรกับนาลินทั้งนั้น และฉันก็ไม่สามารถเลือกได้ จะว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ ฉันไม่ต้องการที่จะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง ฉันอยากจะทำตามที่นาลินขอ แต่ฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางปฏิเสธคุณเหนือได้ ฉันรักเขา….“ดอกไม้ครับ” ฉันที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ก็ต้องสะดุ้งเพราะ จู่ๆ ก็มีคนเอาช่อกุหลาบมายื่นให้ ดูจากการแต่งตัวแล้วคงจะเป็นพนักงานที่ร้าน “ขะ ของฉันเหรอคะ” ฉันถามกลับผู้ชายที่ยื่นช่อกุหลาบมาให้“ใช่ครับ”เมื่อฉันรับช่อกุหลาบมาผู้ชายคนส่งก็รีบออกไป กุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นเฉพาะตัวของมัน ฉันพยายามมองหาโน้ตเผื่อจะมีแนบมาด้วยแต่ก็ไม่มี หลังจากที่มีคนมาส่งดอกไม้ให้ฉันไม่นานคุณเหนือก็เดินมา ฉันจึงรีบเอาช่อกุหลาบแอบไว้เพราะกลัวว่าจะถูกเขาใจผิด คุณเหนือเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของฉัน จากนั้นเขาก็ถาม “ชอบไหม ?”“…คะ ?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปม มาถึงก็ถามว่าชอบไหมเลย ฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง “กุหลาบช่อนั้น ทำไมวางไว้แบบนั้น”“อะ เอ่อคือ รินไม่รู้ว่าของใคร ไม่รู้ว่าใครส่งให้จริงๆ นะคะ” ฉันต้องรีบปฏิเสธอ
ฉันเงียบเมื่อถูกคุณเหนือถามแบบนั้น ที่เงียบไม่ใช่เพราะคิดจะทำตามคำขอของนาลิน ที่เงียบแบบนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน“วาริน!!” คุณเหนือตวาดเรียกชื่อฉันเบาๆ ทำให้ฉันที่กำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่สะดุ้งโหยงคุณเหนือเบือนหน้าหนี เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกจากห้างสรรพสินค้าไปด้วยความเร็ววารินเอ้ย! ทำไมเธอถึงไม่ตอบออกไปว่าไม่คิดจะทำตามที่นาลินขอ ทำไมถึงปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดแบบนี้ฉันได้แต่บ่นตัวเองในใจ รอให้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยพูดก็แล้วกันความเงียบเข้ามาปกคลุมไปทั่วคันรถ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกเร่งครั้งแล้วครั้งเล่า คิดดูสิว่าคุณเหนือขับเร็วขนาดไหน“คะ…คุณเหนือคะรินว่า”“หุบปากของเธอซะ!!”ฉันกำลังจะท้วงว่าเขาไม่ควรขับรถเร็วขนาดนี้เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคก็ถูกคุณเหนือหันหน้ามาออกคำสั่งอย่างไม่ชอบใจ แถมยังเหยียบคันเร่งเร็วกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่บ้าน หลังจากที่จอดรถแล้วคุณเหนือก็เปิดประตูออกไปจากรถ เขาเปิดท้ายรถเพื่อหยิบของที่ซื้อมา แล้วก็เดินดุ่มๆ เข้าบ้านไปโดยไม่รอฉันเลยอะไรกัน! ฉันผิดมากมายขนาดนั้นเลยหรือยังไงเขาถึงได้ทำเหมือนฉันเป็นแค่อากาศรอบๆ ตัว
ปลายคางของฉันถูกเชยให้เงยขึ้น จากนั้นคุณเหนือก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาจนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่จรดกัน เขาบดขยี้ริมฝีปากของฉันเบาๆ ดูดเม้มอย่างทะนุถนอม ก่อนจะสอดลิ้นสากเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากฉันไม่สามารถปฏิเสธการกระทำของคุณเหนือได้ เพราะตอนนี้มันเคลิบเคลิ้มตามเขาไปอย่างว่าง่าย หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเพราะนี่คือครั้งแรกที่ฉันกับเขาจะทำเรื่องอย่างว่าด้วยกันกลางสระน้ำแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมหากมีคนมาเห็น แต่ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ เพราะฉันเองก็ต้องการ….ผ่านไปเนิ่นนาน ริมฝีปากของฉันกับคุณเหนือค่อยๆ ผละออกจากกัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีชุดชั้นในของฉันก็ถูกเขาถอดออกไปจากตัวทุกชิ้นแล้วนี่ฉันเคลิ้มถึงขนาดไม่รู้ตัวเองเลยเหรอว่าชุดชั้นในถูกถอดออกไปน่ะคุณเหนือปลดกางเกงของตัวเองออก จากนั้นเขาก็เอามันขึ้นมาวางไว้บนสระมือหนาซุกซนเริ่มไต่ไปมาบนผิวเนื้อของฉันอีกครั้ง เราทั้งคู่จ้องตากันด้วยแววความปรารถนา“จะทำตรงนี้จริงๆ เหรอคะ” ฉันถามย้ำอีกครั้ง ถึงจะมีความต้องการแต่ก็อดระแวงไม่ได้“กลัวหรือไง หื้ม”“ถะ ถ้ามีคนมาเห็น”“ฉันก็จะฆ่ามัน”“จะบ้าเหรอคะ ทำในที่แจ้งแบบนี้มีคนมาเห็นคงไม่แปลก คุณเหน
คุณเหนือมาส่งฉันที่คอนโดท่าทางของเขาดูอิดออดไม่อยากจะกลับ แถมยังไม่ยอมปลดล็อกรถให้ฉันลงอีกต่างหาก“คุณเหนือคะ….”“ฉันอยากนอนกับเธอ”“รินบอกว่าไม่ได้ไง ฟังรินบ้างสิคะ”“เอาแบบนี้ ให้ฉันนอนกับเธอวันเว้นวันก็ได้”ฉันได้แต่ถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วก็รู้สึกแปลกใจที่คุณเหนือมีท่าทางเหมือนจะติดฉันงอมแงมขนาดนี้“เมื่อก่อนคุณเหนือไม่ได้อยากนอนกับรินแบบนี้นี่คะ”“ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันเหมือนกันหรือไง”“รู้ตัวไหมคะว่าคุณเหนือเปลี่ยนไปมากขนาดไหน”“รู้! แล้วฉันติดเมียมันผิดตรงไหน ?” คุณเหนือถามกลับอย่างหาเรื่องใบหน้าของฉันมันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อได้ยินคุณเหนือพูดคำว่าเมีย บ้าจริง! ทำไมฉันถึงใจเต้นแรงทุกครั้งที่เขาพูดคำนี้นะ“วันเว้นวัน เธอโอเค ?”ใครจะไปทนไหว! ฉันคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวกับสายตาออดอ้อนของคุณเหนือแบบนี้ เขามองด้วยสายตาแบบนั้นแล้วฉันจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงเล่า“ก็ได้ค่ะ”“รู้ไหมว่าเธอต้องให้ฉันมานอนที่ห้องบ่อยๆ น้องสาวของเธอจะได้ชิน” คุณเหนือพูดด้วยเหตุผล แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังหาเหตุผลมาอ้างเพื่อได้นอนกับฉันมากกว่า“คืนนี้ห้ามทำอะไรเกินเลยนะคะ รินเหนื่อย”“เหนื่อยอะไร ตอนทำฉันก็เป็นคนทำ” คุ
คุณเหนือกำชับกอดแน่นจากนั้นเขาก็หอมแก้มฉันฟอดใหญ่แล้วถาม “น้องสาวของเธอว่ายังไง”ฉันหมุนตัวมาประจันหน้ากับคุณเหนือแล้วฉีกยิ้มกว้าง “นาลินเปิดใจยอมรับแล้วค่ะ ^_^”เมื่อพูดจบคุณเหนือก็ยกมือขึ้นมาปัดไรผมที่มันหล่นลงมาเกะกะใบหน้าของฉันออก แววตาของเขาที่กำลังมองอยู่มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเอามากๆ“ดีใจไหม ?”“ดีใจสิคะ ^_^”มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา แต่ฉันเลือกที่จะเบือนหน้าหนีซะก่อน“รินบอกแล้วนะคะว่างดน่ะ”“แค่จูบ” คุณเหนือบอก เขาใช้นิ้วค่อยๆ ลากไล้ไปมาบนริมฝีปากของฉัน“เดี๋ยวค่ะ! จูบตอนนี้ไม่ได้” ฉันดันตัวคุณเหนือออก จากนั้นก็เดินมาหย่อนก้นนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอกแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของคุณเหนือตาเขม็ง“อะไร ?” คุณเหนือเห็นท่าทางของฉันเขาก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วตั้งคำถาม“คุณเหนือเลิกเลี้ยงผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ เหรอคะ ?”“อื้ม” คุณเหนือพยักหน้าตอบพร้อมกับส่งเสียงครางรับในลำคอ“แล้วได้พูดจบความสัมพันธ์กับพวกเธอหรือเปล่า”“……” พอฉันถามแบบนั้นคุณเหนือก็ทำท่ากระอึกกระอัก ไม่ตอบแปลว่ายังสินะ!!“นี่สินะคะที่เขาเรียกว่าผู้ชายมักมาก”“ฉันจำ
คุณเหนือขับรถต่อโดยมีนาลินนั่งเบาะหน้าแทนฉัน แถมเธอก็ยังแอบมองคุณเหนืออยู่บ่อยครั้ง มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากเก็บมาคิดให้ฟุ้งซ่าน“นาลิน เรื่องเรียนกลับมาจากเที่ยวเดี๋ยวพี่จะพาไปคุยกับคุณครูที่นั่นนะ” เห็นว่าบรรยากาศภายในรถมันเงียบเกินไป ฉันจึงพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบนาลินหันหน้ามาตอบ “หนูไม่อยากเรียนแล้วค่ะ อยากหางานทำมากกว่า”“ไม่ได้นะ เธอยังไม่จบมอหกยังไงก็ต้องเรียนให้จบ”“หนูเบื่อนี่นา”“ออกตอนนี้เธอจะทำงานอะไร คิดถึงตรงนี้บ้างสิ”“ค่า! คุณแม่ บ่นเก่งตลอดเลยนะพี่รินน่ะ” นาลินละสายตาจากฉันหันมองคุณเหนือ “เวลาพี่รินอยู่กับคุณเหนือชอบบ่นแบบนี้ไหมคะ”“ฉันไม่คิดว่าที่พี่เธอพูดแปลว่าบ่น การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญเด็กวัยรุ่นอย่างเธอยังต้องเรียนหนังสือ”“ค่ะ หนูจะตั้งใจเรียนนะคะ ^_^”“คำนี้เธอควรบอกพี่สาวของเธอ ไม่ใช่ฉัน” น้ำเสียงที่ฟังดูห่างเหินของคุณเหนือทำให้นาลินถึงกับหุบยิ้ม เธอเงียบไปเลยจากนั้นบรรยากาศภายในรถก็กลับมาเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งคุณเหนือขับรถมาถึงที่ทะเล ตอนนี้เป็นเวลาสิบห้านาฬิกาเรื่องที่พักคุณเหนือได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว เป็นบ้านพักหลังใหญ่ติดชาย
คุณเหนือลุกขึ้น เขาสบถคำหยาบออกมาเบาๆ แต่ฉันที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน นั่นมันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว ยิ่งตอนนี้สถานะของฉันกับคุณเหนือคือคนรัก มันก็ยิ่งทำให้ฉันกลัวว่าเขาจะโกรธเอามากๆฉันลุกขึ้นตามคุณเหนือแล้วรีบเดินไปหาพราวกับพี่เพชร ขืนให้พี่เพชรเดินมาหยุดตรงหน้าคุณเหนือเขาทั้งคู่คงได้มีปากเสียงกันแน่ๆ ต้องรีบไปบอกพี่เพชรว่าคุณเหนือคือแฟนของฉัน“ริน คือฉันไม่รู้ว่าแกจะมากับคุณเหนือ”พราวหน้าเสียรีบบอกเมื่อฉันเดินมาหยุดตรงหน้า“พี่คิดว่าจะมีแค่เราซะอีก” พี่เพชรบอกอย่างผิดหวัง“พี่เพชรคะ ตอนนี้คุณเหนือคือแฟนของริน รินอยากจะขอร้อง พี่เพชรอย่าพูดหรือทำอะไรที่ทำให้เขาโมโหได้ไหมคะ” ฉันรีบพูดเพราะเดี๋ยวจะไม่ทันการทั้งพี่เพชรและพราวพอได้ยินเรื่องที่ฉันบอกไปทั้งคู่ก็เหมือนตกใจกันพอสมควร“กะ แกไปคบกับคุณเหนือตั้งแต่เมื่อไหร่ริน ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“เดี๋ยวเรื่องนั้นฉันจะเล่าให้แกฟัง” ฉันหันมองพี่เพชรอีกครั้ง ในตอนนี้สีหน้าของพี่เพชรกำลังเศร้าหมอง“ทำให้น้องสาวคนนี้ได้ไหมคะพี่เพชร”“อืม! พี่รับปากว่าจะไม่พูดหรือทำอะไรที่ทำให้ผู้ชายที่รินรักโกรธ” พี่เพชรเดินหนีไปหลังจากที่พูดจบ“ฉันสงสารพี่ชายของฉัน