“คุณเหนือให้ฉันมาดูแลพวกผู้หญิงที่นี่” ผู้หญิงข้างกายคุณเหนือพูดขึ้นมาอีกครั้ง เธอเชิดหน้าใส่ฉันราวกับว่าตัวเองมีความสำคัญกับคุณเหนือมากๆ“ฉันรู้ว่าคุณเหนือชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงคุณเหนือชอบท่าไหนมากที่สุด” ฉันถึงกับสตั้นเมื่อเธอพูดเรื่องบนเตียงออกมาอย่างไม่อายปาก ทำเอาคนที่ได้ฟังอย่างฉันถึงกับอายแทน“เธอพูดมาก รู้ตัวหรือเปล่า” คุณเหนือเอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นพร้อมกับสายตาที่มองผู้หญิงข้างกายแบบดุดัน ก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขนแกร่งคุณเหนือเดินนำไป ทิ้งให้ฉันเดินตามหลังกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งดูจากสายตาของเธอก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเธอไม่ชอบฉัน“คุณเหนือรับเธอมาดูแลนานหรือยัง” เธอถามฉัน“ยังค่ะ”“ถึงว่าท่าทางซื่อบื้อ ไม่รู้ว่าคุณเหนือเอาผู้หญิงแบบเธอมาขึ้นเตียงได้ยังไง ดูไม่ใช่เขาเลยสักนิด”“…..” ฉันไม่ได้โต้ตอบอะไร พยายามเดินให้เร็วที่สุดเพื่อหนีคำพูดของผู้หญิงคนนี้ แต่เธอก็ยังอุตส่าห์เร่งฝีเท้าตามมาเดินคู่กับฉันอีก“ฉันน่ะอยู่กับคุณเหนือมาสี่ปี ในบรรดาผู้หญิงของคุณเหนือ ฉันคือที่หนึ่ง เธอควรเคารพฉันนะ ไม่ใช่เดินหนีแล้วก็ทำเมินใส่ฉันแบบนี้”“หากว่าฉันจะต้องเคารพใคร มีคุณเหนือ
ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น หลบสายตาคมกริบตรงหน้า จะไม่ให้คิดได้ยังไงก็คุณเหนือไม่ได้ตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ต้องเข้าใจแบบนี้สิ“เธออยากจะให้ฉันไปนอนกับคนอื่น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมากระซิบถามอีกประโยค “หรือว่าเธอไม่อยากนอนกับฉัน”“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”“แล้วมันยังไง ?”“…รินคิดว่าคุณเหนือคงอยากจะเปลี่ยนไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง”“เธอคิดแบบนั้น ?”คุณเหนือเลิกคิ้วขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องถามกลับตลอดเลยด้วย ฉันคิดคำตอบไม่ทันหรอกนะ ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันน่ะคิดว่าเขาคงจะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น ก็บอกไปแล้วยังจะถามอีก“รินจะไปรู้เหรอคะ”“ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะนอนกับฉันจริงๆ” คุณเหนือผละตัวออกห่างจากฉัน “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะไปนอนกับผู้หญิงอีกคน เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อผู้ชายตรงหน้าคิดเองเออเองทุกอย่าง ใครบอกกันว่าฉันอยากให้เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น“ถ้าคุณเหนืออยากจะไปนอนกับผู้หญิงคนไหน มันก็สิทธิ์ของคุณเหนือนี่คะ” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเป็นจังหวะที่จุกแน่นราวกับกำลังบีบมันเอาไว้แน่น“มากินข้าว” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโต๊ะอ
สายตาของคุณเหนือมันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของฉันเอามากๆ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะสบตากับเขาในเวลานี้เลยจริงๆ“ฉันรอเธอพูดอยู่นะวาริน”ทำไมเขาถึงต้องการแบบนั้น ทำไมต้องให้ฉันต้องการเขา ทั้งที่เขาคือเจ้าของชีวิตของฉันในตอนนี้ฉันรวบรวมความกล้าก่อนจะถามออกไป “รินมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอคะ”“ฉันถามอยู่นี่ไง”“แล้วคุณเหนือต้องการนอนกับรินทุกคืนหรือเปล่าคะ”“หึ!!” เขาไม่ตอบแต่กลับหัวเราะในลำคอ และเสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้นมันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว“เธอยังใหม่สำหรับฉัน แน่นอนว่าของใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่า” พูดจบคุณเหนือก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉัน ก่อนที่เขาจะใช้เขี้ยวฟันงับริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ แล้วปล่อย “จะตอบคำถามของฉันได้หรือยัง ?”“รินไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนไหนของคุณเหนือ…”ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาหนักๆ ก่อนที่คุณเหนือจะดันตัวของฉันให้ลงจากตักของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงอิงเธอเดินมาพอดีคุณเหนือหันมองฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปหาผู้หญิงที่ชื่ออิงอิง“อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม” คุณเหนือถามเธอ ทำให้เธอรีบตอบพร้อมกับฉีกยิ้ม “คุณเหนือน
#ประเทศไทยพอลงเครื่องคุณเหนือก็ให้ลูกน้องมาส่งฉันที่คอนโด ส่วนตัวเขามีงานต้องจัดการต่อ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ฉันเองก็แปลกใจว่าคุณเหนือมีงานอะไรเวลานี้ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปสมองของฉันในตอนนี้มันเอาแต่คิดสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นที่เจออยู่สนามบินเขาเป็นใคร เหมือนคุณเหนือกับเขาจะไม่ถูกชะตากันเท่าไหร่เมื่อกลับมาประเทศไทยแล้วฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าพราวโทรมาหาฉันนับร้อยสาย ข้อความเด้งเข้าเครื่องรัวๆ รวมทั้งเบอร์ของพี่เพชรด้วย ฉันก็ลืมบอกพราวว่าไปต่างประเทศ เธอคงจะเป็นห่วงที่โทรหาไม่ติดถึงได้โทรมาหลายสายขนาดนี้ฉันกดเบอร์พราวแล้วโทรออก รอสายไม่นานเธอก็รับ( วารินแกหายไปไหนมาทำไมเพิ่งโทรกลับ ) พอรับสายพราวก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง( ฉันไปเยี่ยมนาลินที่ต่างประเทศมาน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนนะ ) ( ตะ ต่างประเทศเลยเหรอ หูย! ฉันอิจฉาแกจัง ไปกับใคร )( แกว่างหรือเปล่าพราว ฉันอยากไปหาแก )( ว่างสิ ฉันอยู่บ้านมาได้เลย ) ( โอเคฉันจะไปตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะ ) ฉันกดวางสายจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่จะไปหาพราวก็เพราะว่าฉันอยากจะระบาย ‘เรื่องคุณเหนือ’ ฉันอยากจะพูด
อะไรกัน ฉันคิดว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วซะอีกเรื่องพี่เพชร เพราะในตอนนั้นฉันยืนยันน้ำเสียงหนักแน่นว่ามันไม่มีอะไร คุณเหนือก็ทำเหมือนเชื่อ แล้วทำไมตอนนี้คุณเหนือถึงได้พูดแบบนี้ออกมาอีก“พี่เพชรไม่อยู่บ้านค่ะ รินไปหาพราวคุยกันไม่นานรินก็กลับ”“ไม่เถียงแปลว่าเธอยอมรับว่าแอบคบชู้กับมัน”“เปล่านะคะ รินไม่ได้ยอมรับ” สายตาของคุณเหนือจ้องเขม็งมายังใบหน้าของฉันอย่างคาดคั้น “รินก็แค่อธิบายให้ฟัง”พอพูดจบฉันก็ซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งเพื่อออดอ้อนหวังว่าเขาจะใจเย็นลง และมันก็ได้ผล“ถ้าเธอจะไปไหนต่อไปนี้ให้รายงานฉัน ฉันจะให้ลูกน้องพาเธอไป”“ค่ะ ต่อไปนี้รินจะรายงานคุณเหนือทุกอย่าง”คุณเหนือดันตัวฉันออก เขาจับปลายคางของฉันให้เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องลึกเข้ามา ก่อนจะถาม “อ้อนฉันขนาดนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ ?”“รินไม่อยากได้อะไรเลยค่ะ รินแค่ไม่อยากถูกคุณเหนือดุ”“ถ้าเธอทำตัวดีกับฉัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะถูกดุ”“รินก็ทำตัวดีทุกครั้งนี่คะ…”“แต่ท่าทางไร้เดียงสาของเธอมันขัดใจฉัน”“เหตุผลนี้เหรอคะที่ทำให้คุณเหนือชอบไม่พอใจริน”“อยากให้ฉันพอใจในตัวเธอมากขนาดนั้น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ มันทำให้ฉันเริ่มทำอะไรไม่ถูก“
คุณเหนือเงียบเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน คิ้วหนาขมวดชนกันและเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉันอยู่อย่างนั้น“ระ รินจะไปล้างตัวค่ะ” ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง แต่คุณเหนือกลับไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน“ฉันไม่ได้บอกผิดคน ฉันก็แค่ลืมว่ายังไม่ได้ซื้อให้เธอ”“ไม่เห็นต้องแก้ตัวเลยนี่คะ”“แก้ตัว ?”ฉันเบือนหน้าหนี ก่อนจะพูด “คุณเหนือมีผู้หญิงหลายคน ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะจำผิดคน”ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดลงมาบนพวงแก้มของฉัน ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยขึ้น “ฉันไม่เคยสดกับผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอ” มันยากที่จะเชื่อคำพูดที่เพิ่งออกมาจากปากของเขา จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง เพราะกับฉันเขาแทบจะไม่ป้องกันเลย“ทำหน้าแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อที่ฉันพูด ?” ไม่ถามเปล่า คุณเหนือใช้มือจับปลายคางของฉันให้หันหน้ามาหาตัวเอง“ไม่เห็นต้องอธิบายเลยค่ะ รินเป็นแค่นางบำเรอ”“อื้ม! นั่นสิฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย” แววตาของคุณเหนือเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดริมฝีปากหนากดทับลงมาบนริมฝีปากของฉันพร้อมกับบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกถึงความชาหนึบบนริมฝีปาก“อื้อ” ฉันร้องประท้วงในลำคอเมื่อคนด้านบนป่าเถื่อนจนเกินไปไม่เพียงแต่ทำรุนแรงขึ้น คุณเหนือยังเริ่มขยับเอวส
ฉันมองหน้าคุณเหนือ นี่เขาต่อว่าฉันอีกแล้วนะ ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เอาเอกสารมาวาง พี่เอกก็แค่ถามชื่อ ฉันตอบกลับนี่แปลว่าอ่อยอย่างนั้นเหรอ“ออกไป ฉันจะคุยธุระ!!”“คุณเหนือไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลยครับ ดูสิรินกลัวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว”“ขะ ขอตัวก่อนนะคะ”ฉันรีบเดินหนีออกมาเมื่อถูกสายตาเขม็งของคุณเหนือจับจ้องมอง“ริน”“อ้าวพี่เอมสวัสดีค่ะ” ฉันกำลังจะเข้าลิฟต์ เจอกับพี่เอมพอดี“รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอรินหลายวันเลยนะเนี่ย ตั้งแต่รินย้ายแผนกไป”“รินเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมน้องสาวด้วยค่ะ”“แล้วน้องสาวเป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ^_^” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าลิฟต์พร้อมพี่เอม“อย่าไปสนใจปากพวกพนักงานในบริษัทเลยนะ” พี่เอมพูดขึ้นหลังจากที่เราเข้ามาในลิฟต์กันแล้ว แถมยังพูดเหมือนรู้เรื่องของฉันกับคุณเหนือ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ“ไม่ต้องคิดว่าพี่จะเป็นแบบคนพวกนั้นหรอกนะ และพี่ก็จะไม่ถามว่าอะไรเป็นอะไร เพราะมันเรื่องส่วนตัวของริน”“ขอบคุณพี่เอมมากนะคะ ^_^”พี่เอมพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดี ฉันจึงเอ่ยลาพี่เอมแล้วเดินแยกตัวมายังโต๊ะทำงานมันรู้สึกดีใจ ดีใจที่
“ขอตัวนะคะ” ฉันตัดสินใจเดินเลี่ยงมาอีกทาง“แล้วเธอจะเสียใจที่เลือกอยู่กับมัน” เขาพูดตามหลัง ฉันเองพยายามไม่สนใจ รีบเดินเข้าลิฟต์ฉันไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรที่มาพูดแบบนั้น และฉันก็กล้าพูดเลยว่านอกจากคุณเหนือแล้วฉันจะไม่ยอมขายตัวให้ใครอีก ที่ฉันทำเพราะความจำเป็น ไม่ใช่ต้องการขายตัวเพื่อแลกกับเงิน#ภายในห้องฉันล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าอยู่พักใหญ่ก็ไม่เจอ ไม่รู้เอาไปไว้ไหน จึงตัดสินใจลงมาดูที่รถอีกครั้งเผื่อจะลืมไว้ แต่ก็ไม่เจอ จึงกลับมาหาในห้องเผื่อจะวางไว้แล้วลืม“ไปทำหายไว้ที่ไหนนะ”ฉันนั่งคิดอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก ถ้าหาจนทั่วแล้วไม่เจอก็คงจะลืมไว้ที่บริษัทฉันล้มเลิกความคิดที่จะตามหาโทรศัพท์ จากนั้นก็เข้าห้องมาอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็มาทำอาหารกินเสร็จแล้วฉันก็นั่งดูทีวีต่อสักพัก แล้วเข้านอนไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ฉันสะดุ้งตื่นจากแรงกระชากที่แขนอย่างรุนแรง แขนมันแทบจะหลุดออกมาจากบ่าเลยก็ว่าได้ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น ไฟในห้องถูกเปิดสว่าง แต่เห็นว่าคนที่มากระชากแขนฉันจนมันแทบจะหลุดคือคุณเหนือ“คุณเหนือ”“มันอยู่ที่ไหน!!” จู่ๆ คุณเหนือก็ตวาดถามเสียงดัง ทำเอาฉันที่เพิ่งตื่นนอนถึงก
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
เช้าวันต่อมา….ฉันแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนถูกทำโทษ กล่องถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมันถูกทิ้งไว้เกลื่อนห้องไปหมดเลยตอนนี้โชคดีที่คุณเหนือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหมดทั้งแพ็กเพราะเขาเห็นใจฉัน แต่ก็หมดไปหลายกล่องเลย“ลุกขึ้นแต่งตัวสิ” คุณเหนือเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกฉัน คิดว่าไปทำงานแล้วซะอีก“ไปไหนคะ รินลุกไม่ไหวหรอก”“ไปพัทยา”“หื้อ ไปทำไมคะ คุณเหนือมีงานที่นั่นเหรอคะ”“เปล่า ฉันจะพาเธอไปพักผ่อน”“ว่างเหรอคะ”“ฉันมีเวลาว่างให้เธอทั้งชีวิต” คุณเหนือบอกเสียงหวานจากนั้นก็เดินมาที่เตียงแล้วอุ้มฉันขึ้น“อื้อ อุ้มรินทำไมคะ”“จะพาไปอาบน้ำ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือไง”ฉันถามคุณเหนือเพราะมันรู้สึกเขิน ส่วนคุณเหนือเขาก็อุ้มฉันมาในห้องน้ำ แถมยังทำตัวน่ารักหวังจะถอดเสื้อออกให้ด้วย ฉันจึงรีบเบรกไว้ เพราะการให้คุณเหนือเห็นเรือนร่างมันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“เดี๋ยวรินถอดเองค่ะ คุณเหนือไปรอข้างนอกนะคะ”“แต่ฉันอยากถอดให้เธอ” คุณเหนือบอกจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาจูบที่ต้นคอของฉันนี่อย่าบอกนะว่ากำลังจะเริ่มอีกแล้วน่ะ“หยุดนะคะ รินหมดแรงแล้ว”คุณเหนือหยุดชะงักพร้อมกับค่อยๆ ผละใบหน้าออก “
คุณเหนือแบกตัวของฉันมาที่ห้องนอน เขาไม่ยอมวางฉันลงไม่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนตุบ! ร่างของฉันถูกโยนลงบนเตียง ย้ำนะคะว่าโยน ถึงเตียงมันจะนิ่มแต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี“ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะคะ” บอกตามตรงว่ามันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณเหนือจะวางฉันลงดีๆ ก็ได้นิ ไม่เห็นจำเป็นต้องโยนกันรุนแรงแบบนี้เลย“เธอพูดไม่ฟังเอง”“ก็คุณเหนือนั่นแหละงี่เง่า”“ฉันงี่เง่า ? งี่เง่าตรงไหน”“ก็ตรงที่ขี้น้อยใจเหมือนผู้หญิงไงล่ะคะ”โอเคฉันรู้แหละว่าการทะเลาะกันมันคือปัญหาปกติของชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเหลืออดจริงๆคุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหอะ! เขาคิดว่าตัวเองหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง“เธอก็เลยประชดฉันด้วยวิธีนี้ว่างั้น ?”“ทำไมไม่ปล่อยให้รินเดินออกไปนอกบ้านล่ะคะ จะได้รู้ว่าประชดหรือเปล่า”“เสื้อชั้นในก็ไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในแบบนี้มั่นใจว่าเธอจะเดินออกไปที่สนามหญ้า”“ค่ะ รินจะไป”“วาริน!!”“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มขู่รินหรอกค่ะ คุณเหนือจะไปไหนก็ไม่บอกรินสักคำ แถมโทรไปไม่รับด้วย”“แต่เธอก็ไม่ควรทำแบบน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์กดโทรออกไปหาคุณเหนือ ไม่ได้จะโทรไปขอบคุณแต่จะโทรไปต่อว่าที่เขาใช้เงินมากมายซื้อของพวกนี้มา( ชอบของที่ฉันซื้อให้หรือเปล่า )พอฉันกดรับสายคุณเหนือก็ถามคำนี้ออกมา เขาดูจะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนที่เสียเงินไปมากมายมหาศาลเลยสักนิด เป็นฉันคนเดียวที่นึกเสียดาย( ไม่ชอบค่ะ )( ถ้าอย่างนั้นเธอชอบแบบไหน เดี๋ยวประชุมเสร็จฉันจะพาไปเลือกใหม่ )แทนที่จะหงุดหงิดหรือโกรธที่ฉันไม่ชอบ แต่คุณเหนือกลับอารมณ์ดีแถมจะพาฉันไม่เลือกใหม่อีกต่างหาก( รินไม่ชอบให้คุณเหนือใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ )( ฟุ่มเฟือยที่ไหนกัน เงินแค่ไม่กี่สิบล้าน )( สะ สิบล้านเลยเหรอคะ )( ห้าสิบกว่าล้าน ) คุณเหนือตอบกลับมาทำให้ฉันแทบจะเป็นลมจนต้องจับขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองเขาพูดออกมาง่ายๆ คำว่าห้าสิบล้าน ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือไง( ต่อไปนี้ห้ามใช้เงินแบบนี้อีกนะคะ รินอยากให้คุณเหนือเก็บเงินไว้ )( เดือนๆ หนึ่งบริษัทฉันได้กำไรร้อยกว่าล้าน ของพวกนั้นฉันตั้งใจอยากจะซื้อให้ แต่ถ้าเธอไม่ชอบจะเอาไปทิ้งในถังขยะฉันก็ไม่ว่าอะไร )( อย่ามาประชดกันแบบนี้นะคะคุณเหนือ )( ในเมื่อฉันตั้งใจจะให้แต่เธอไม่รับ จ