ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น หลบสายตาคมกริบตรงหน้า จะไม่ให้คิดได้ยังไงก็คุณเหนือไม่ได้ตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ต้องเข้าใจแบบนี้สิ“เธออยากจะให้ฉันไปนอนกับคนอื่น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมากระซิบถามอีกประโยค “หรือว่าเธอไม่อยากนอนกับฉัน”“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”“แล้วมันยังไง ?”“…รินคิดว่าคุณเหนือคงอยากจะเปลี่ยนไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง”“เธอคิดแบบนั้น ?”คุณเหนือเลิกคิ้วขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องถามกลับตลอดเลยด้วย ฉันคิดคำตอบไม่ทันหรอกนะ ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันน่ะคิดว่าเขาคงจะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น ก็บอกไปแล้วยังจะถามอีก“รินจะไปรู้เหรอคะ”“ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะนอนกับฉันจริงๆ” คุณเหนือผละตัวออกห่างจากฉัน “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะไปนอนกับผู้หญิงอีกคน เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อผู้ชายตรงหน้าคิดเองเออเองทุกอย่าง ใครบอกกันว่าฉันอยากให้เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น“ถ้าคุณเหนืออยากจะไปนอนกับผู้หญิงคนไหน มันก็สิทธิ์ของคุณเหนือนี่คะ” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเป็นจังหวะที่จุกแน่นราวกับกำลังบีบมันเอาไว้แน่น“มากินข้าว” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโต๊ะอ
สายตาของคุณเหนือมันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของฉันเอามากๆ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะสบตากับเขาในเวลานี้เลยจริงๆ“ฉันรอเธอพูดอยู่นะวาริน”ทำไมเขาถึงต้องการแบบนั้น ทำไมต้องให้ฉันต้องการเขา ทั้งที่เขาคือเจ้าของชีวิตของฉันในตอนนี้ฉันรวบรวมความกล้าก่อนจะถามออกไป “รินมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอคะ”“ฉันถามอยู่นี่ไง”“แล้วคุณเหนือต้องการนอนกับรินทุกคืนหรือเปล่าคะ”“หึ!!” เขาไม่ตอบแต่กลับหัวเราะในลำคอ และเสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้นมันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว“เธอยังใหม่สำหรับฉัน แน่นอนว่าของใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่า” พูดจบคุณเหนือก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉัน ก่อนที่เขาจะใช้เขี้ยวฟันงับริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ แล้วปล่อย “จะตอบคำถามของฉันได้หรือยัง ?”“รินไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนไหนของคุณเหนือ…”ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาหนักๆ ก่อนที่คุณเหนือจะดันตัวของฉันให้ลงจากตักของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงอิงเธอเดินมาพอดีคุณเหนือหันมองฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปหาผู้หญิงที่ชื่ออิงอิง“อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม” คุณเหนือถามเธอ ทำให้เธอรีบตอบพร้อมกับฉีกยิ้ม “คุณเหนือน
#ประเทศไทยพอลงเครื่องคุณเหนือก็ให้ลูกน้องมาส่งฉันที่คอนโด ส่วนตัวเขามีงานต้องจัดการต่อ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ฉันเองก็แปลกใจว่าคุณเหนือมีงานอะไรเวลานี้ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปสมองของฉันในตอนนี้มันเอาแต่คิดสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นที่เจออยู่สนามบินเขาเป็นใคร เหมือนคุณเหนือกับเขาจะไม่ถูกชะตากันเท่าไหร่เมื่อกลับมาประเทศไทยแล้วฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าพราวโทรมาหาฉันนับร้อยสาย ข้อความเด้งเข้าเครื่องรัวๆ รวมทั้งเบอร์ของพี่เพชรด้วย ฉันก็ลืมบอกพราวว่าไปต่างประเทศ เธอคงจะเป็นห่วงที่โทรหาไม่ติดถึงได้โทรมาหลายสายขนาดนี้ฉันกดเบอร์พราวแล้วโทรออก รอสายไม่นานเธอก็รับ( วารินแกหายไปไหนมาทำไมเพิ่งโทรกลับ ) พอรับสายพราวก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง( ฉันไปเยี่ยมนาลินที่ต่างประเทศมาน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนนะ ) ( ตะ ต่างประเทศเลยเหรอ หูย! ฉันอิจฉาแกจัง ไปกับใคร )( แกว่างหรือเปล่าพราว ฉันอยากไปหาแก )( ว่างสิ ฉันอยู่บ้านมาได้เลย ) ( โอเคฉันจะไปตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะ ) ฉันกดวางสายจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่จะไปหาพราวก็เพราะว่าฉันอยากจะระบาย ‘เรื่องคุณเหนือ’ ฉันอยากจะพูด
อะไรกัน ฉันคิดว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วซะอีกเรื่องพี่เพชร เพราะในตอนนั้นฉันยืนยันน้ำเสียงหนักแน่นว่ามันไม่มีอะไร คุณเหนือก็ทำเหมือนเชื่อ แล้วทำไมตอนนี้คุณเหนือถึงได้พูดแบบนี้ออกมาอีก“พี่เพชรไม่อยู่บ้านค่ะ รินไปหาพราวคุยกันไม่นานรินก็กลับ”“ไม่เถียงแปลว่าเธอยอมรับว่าแอบคบชู้กับมัน”“เปล่านะคะ รินไม่ได้ยอมรับ” สายตาของคุณเหนือจ้องเขม็งมายังใบหน้าของฉันอย่างคาดคั้น “รินก็แค่อธิบายให้ฟัง”พอพูดจบฉันก็ซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งเพื่อออดอ้อนหวังว่าเขาจะใจเย็นลง และมันก็ได้ผล“ถ้าเธอจะไปไหนต่อไปนี้ให้รายงานฉัน ฉันจะให้ลูกน้องพาเธอไป”“ค่ะ ต่อไปนี้รินจะรายงานคุณเหนือทุกอย่าง”คุณเหนือดันตัวฉันออก เขาจับปลายคางของฉันให้เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องลึกเข้ามา ก่อนจะถาม “อ้อนฉันขนาดนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ ?”“รินไม่อยากได้อะไรเลยค่ะ รินแค่ไม่อยากถูกคุณเหนือดุ”“ถ้าเธอทำตัวดีกับฉัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะถูกดุ”“รินก็ทำตัวดีทุกครั้งนี่คะ…”“แต่ท่าทางไร้เดียงสาของเธอมันขัดใจฉัน”“เหตุผลนี้เหรอคะที่ทำให้คุณเหนือชอบไม่พอใจริน”“อยากให้ฉันพอใจในตัวเธอมากขนาดนั้น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ มันทำให้ฉันเริ่มทำอะไรไม่ถูก“
คุณเหนือเงียบเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน คิ้วหนาขมวดชนกันและเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉันอยู่อย่างนั้น“ระ รินจะไปล้างตัวค่ะ” ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง แต่คุณเหนือกลับไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน“ฉันไม่ได้บอกผิดคน ฉันก็แค่ลืมว่ายังไม่ได้ซื้อให้เธอ”“ไม่เห็นต้องแก้ตัวเลยนี่คะ”“แก้ตัว ?”ฉันเบือนหน้าหนี ก่อนจะพูด “คุณเหนือมีผู้หญิงหลายคน ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะจำผิดคน”ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดลงมาบนพวงแก้มของฉัน ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยขึ้น “ฉันไม่เคยสดกับผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอ” มันยากที่จะเชื่อคำพูดที่เพิ่งออกมาจากปากของเขา จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง เพราะกับฉันเขาแทบจะไม่ป้องกันเลย“ทำหน้าแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อที่ฉันพูด ?” ไม่ถามเปล่า คุณเหนือใช้มือจับปลายคางของฉันให้หันหน้ามาหาตัวเอง“ไม่เห็นต้องอธิบายเลยค่ะ รินเป็นแค่นางบำเรอ”“อื้ม! นั่นสิฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย” แววตาของคุณเหนือเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดริมฝีปากหนากดทับลงมาบนริมฝีปากของฉันพร้อมกับบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกถึงความชาหนึบบนริมฝีปาก“อื้อ” ฉันร้องประท้วงในลำคอเมื่อคนด้านบนป่าเถื่อนจนเกินไปไม่เพียงแต่ทำรุนแรงขึ้น คุณเหนือยังเริ่มขยับเอวส
ฉันมองหน้าคุณเหนือ นี่เขาต่อว่าฉันอีกแล้วนะ ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เอาเอกสารมาวาง พี่เอกก็แค่ถามชื่อ ฉันตอบกลับนี่แปลว่าอ่อยอย่างนั้นเหรอ“ออกไป ฉันจะคุยธุระ!!”“คุณเหนือไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลยครับ ดูสิรินกลัวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว”“ขะ ขอตัวก่อนนะคะ”ฉันรีบเดินหนีออกมาเมื่อถูกสายตาเขม็งของคุณเหนือจับจ้องมอง“ริน”“อ้าวพี่เอมสวัสดีค่ะ” ฉันกำลังจะเข้าลิฟต์ เจอกับพี่เอมพอดี“รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอรินหลายวันเลยนะเนี่ย ตั้งแต่รินย้ายแผนกไป”“รินเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมน้องสาวด้วยค่ะ”“แล้วน้องสาวเป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ^_^” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าลิฟต์พร้อมพี่เอม“อย่าไปสนใจปากพวกพนักงานในบริษัทเลยนะ” พี่เอมพูดขึ้นหลังจากที่เราเข้ามาในลิฟต์กันแล้ว แถมยังพูดเหมือนรู้เรื่องของฉันกับคุณเหนือ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ“ไม่ต้องคิดว่าพี่จะเป็นแบบคนพวกนั้นหรอกนะ และพี่ก็จะไม่ถามว่าอะไรเป็นอะไร เพราะมันเรื่องส่วนตัวของริน”“ขอบคุณพี่เอมมากนะคะ ^_^”พี่เอมพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดี ฉันจึงเอ่ยลาพี่เอมแล้วเดินแยกตัวมายังโต๊ะทำงานมันรู้สึกดีใจ ดีใจที่
“ขอตัวนะคะ” ฉันตัดสินใจเดินเลี่ยงมาอีกทาง“แล้วเธอจะเสียใจที่เลือกอยู่กับมัน” เขาพูดตามหลัง ฉันเองพยายามไม่สนใจ รีบเดินเข้าลิฟต์ฉันไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรที่มาพูดแบบนั้น และฉันก็กล้าพูดเลยว่านอกจากคุณเหนือแล้วฉันจะไม่ยอมขายตัวให้ใครอีก ที่ฉันทำเพราะความจำเป็น ไม่ใช่ต้องการขายตัวเพื่อแลกกับเงิน#ภายในห้องฉันล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าอยู่พักใหญ่ก็ไม่เจอ ไม่รู้เอาไปไว้ไหน จึงตัดสินใจลงมาดูที่รถอีกครั้งเผื่อจะลืมไว้ แต่ก็ไม่เจอ จึงกลับมาหาในห้องเผื่อจะวางไว้แล้วลืม“ไปทำหายไว้ที่ไหนนะ”ฉันนั่งคิดอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก ถ้าหาจนทั่วแล้วไม่เจอก็คงจะลืมไว้ที่บริษัทฉันล้มเลิกความคิดที่จะตามหาโทรศัพท์ จากนั้นก็เข้าห้องมาอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็มาทำอาหารกินเสร็จแล้วฉันก็นั่งดูทีวีต่อสักพัก แล้วเข้านอนไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ฉันสะดุ้งตื่นจากแรงกระชากที่แขนอย่างรุนแรง แขนมันแทบจะหลุดออกมาจากบ่าเลยก็ว่าได้ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น ไฟในห้องถูกเปิดสว่าง แต่เห็นว่าคนที่มากระชากแขนฉันจนมันแทบจะหลุดคือคุณเหนือ“คุณเหนือ”“มันอยู่ที่ไหน!!” จู่ๆ คุณเหนือก็ตวาดถามเสียงดัง ทำเอาฉันที่เพิ่งตื่นนอนถึงก
ฉันร้องไห้อยู่พักใหญ่ จนกระทั่งน้ำตามันค่อยๆ แห้งเหือดหายไป พราวถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูด “คุณเหนือใช่ไหม เขาคงทำให้แกลำบากใจมาก”“เขากดดันฉันหลายอย่าง จนฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง”“แกตัดสินใจไปแล้วคงทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนนะริน”“……”“ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้แกรู้สึกดีขึ้น ในเมื่อหนีไม่พ้นแกก็ต้องยอมจำนนแบบนี้ต่อไป”“ขนาดกับพี่เพชรเขายังสั่งห้ามไม่ให้ฉันยุ่ง”พราวทำหน้าไม่เชื่อ “จริงเหรอริน แล้วแกได้บอกไหมว่าพี่เพชรคือพี่ชายของเพื่อน”“ฉันบอกไปแล้ว แต่เขาไม่ฟัง”“เฮ้อ! ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้”“แล้วที่ฉันทนไม่ไหวจนต้องมาหาแกวันนี้ก็เพราะว่าคุณเหนือโทรหาฉันแล้วมีผู้ชายรับสาย ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าไปทำโทรศัพท์ตกหายไว้ที่ไหน แล้วเขาก็ไม่ฟังอะไรเหมือนเดิม”“โหย! เกินไปแล้วนะ แบบนี้น่ะ”“เพราะแบบนี้ไงฉันถึงอึดอัด ชีวิตฉัน มันไม่ใช่ของฉันตั้งแต่คุณเหนือเข้ามา”“ฟังแกพูดแล้วฉันก็แอบคิดนะว่าคุณเหนือจะชอบแก”“ไม่หรอก แกจะบ้าหรือไงพราว”“เขาดูหวงแกออกนอกหน้ามากไปนะฉันว่า มันเหมือนไม่ใช่แค่ข้อตกลงบ้าๆ ที่แกเล่ามา เหมือนคุณเหนือรู้สึกมากกว่านั้น”ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยของฉันมันเต้นรัวเมื่อได้