ฉันมองหน้าคุณเหนือ นี่เขาต่อว่าฉันอีกแล้วนะ ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เอาเอกสารมาวาง พี่เอกก็แค่ถามชื่อ ฉันตอบกลับนี่แปลว่าอ่อยอย่างนั้นเหรอ“ออกไป ฉันจะคุยธุระ!!”“คุณเหนือไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลยครับ ดูสิรินกลัวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว”“ขะ ขอตัวก่อนนะคะ”ฉันรีบเดินหนีออกมาเมื่อถูกสายตาเขม็งของคุณเหนือจับจ้องมอง“ริน”“อ้าวพี่เอมสวัสดีค่ะ” ฉันกำลังจะเข้าลิฟต์ เจอกับพี่เอมพอดี“รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอรินหลายวันเลยนะเนี่ย ตั้งแต่รินย้ายแผนกไป”“รินเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมน้องสาวด้วยค่ะ”“แล้วน้องสาวเป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ^_^” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าลิฟต์พร้อมพี่เอม“อย่าไปสนใจปากพวกพนักงานในบริษัทเลยนะ” พี่เอมพูดขึ้นหลังจากที่เราเข้ามาในลิฟต์กันแล้ว แถมยังพูดเหมือนรู้เรื่องของฉันกับคุณเหนือ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ“ไม่ต้องคิดว่าพี่จะเป็นแบบคนพวกนั้นหรอกนะ และพี่ก็จะไม่ถามว่าอะไรเป็นอะไร เพราะมันเรื่องส่วนตัวของริน”“ขอบคุณพี่เอมมากนะคะ ^_^”พี่เอมพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดี ฉันจึงเอ่ยลาพี่เอมแล้วเดินแยกตัวมายังโต๊ะทำงานมันรู้สึกดีใจ ดีใจที่
“ขอตัวนะคะ” ฉันตัดสินใจเดินเลี่ยงมาอีกทาง“แล้วเธอจะเสียใจที่เลือกอยู่กับมัน” เขาพูดตามหลัง ฉันเองพยายามไม่สนใจ รีบเดินเข้าลิฟต์ฉันไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรที่มาพูดแบบนั้น และฉันก็กล้าพูดเลยว่านอกจากคุณเหนือแล้วฉันจะไม่ยอมขายตัวให้ใครอีก ที่ฉันทำเพราะความจำเป็น ไม่ใช่ต้องการขายตัวเพื่อแลกกับเงิน#ภายในห้องฉันล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าอยู่พักใหญ่ก็ไม่เจอ ไม่รู้เอาไปไว้ไหน จึงตัดสินใจลงมาดูที่รถอีกครั้งเผื่อจะลืมไว้ แต่ก็ไม่เจอ จึงกลับมาหาในห้องเผื่อจะวางไว้แล้วลืม“ไปทำหายไว้ที่ไหนนะ”ฉันนั่งคิดอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก ถ้าหาจนทั่วแล้วไม่เจอก็คงจะลืมไว้ที่บริษัทฉันล้มเลิกความคิดที่จะตามหาโทรศัพท์ จากนั้นก็เข้าห้องมาอาบน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็มาทำอาหารกินเสร็จแล้วฉันก็นั่งดูทีวีต่อสักพัก แล้วเข้านอนไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ฉันสะดุ้งตื่นจากแรงกระชากที่แขนอย่างรุนแรง แขนมันแทบจะหลุดออกมาจากบ่าเลยก็ว่าได้ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น ไฟในห้องถูกเปิดสว่าง แต่เห็นว่าคนที่มากระชากแขนฉันจนมันแทบจะหลุดคือคุณเหนือ“คุณเหนือ”“มันอยู่ที่ไหน!!” จู่ๆ คุณเหนือก็ตวาดถามเสียงดัง ทำเอาฉันที่เพิ่งตื่นนอนถึงก
ฉันร้องไห้อยู่พักใหญ่ จนกระทั่งน้ำตามันค่อยๆ แห้งเหือดหายไป พราวถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูด “คุณเหนือใช่ไหม เขาคงทำให้แกลำบากใจมาก”“เขากดดันฉันหลายอย่าง จนฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง”“แกตัดสินใจไปแล้วคงทำอะไรไม่ได้นอกจากอดทนนะริน”“……”“ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้แกรู้สึกดีขึ้น ในเมื่อหนีไม่พ้นแกก็ต้องยอมจำนนแบบนี้ต่อไป”“ขนาดกับพี่เพชรเขายังสั่งห้ามไม่ให้ฉันยุ่ง”พราวทำหน้าไม่เชื่อ “จริงเหรอริน แล้วแกได้บอกไหมว่าพี่เพชรคือพี่ชายของเพื่อน”“ฉันบอกไปแล้ว แต่เขาไม่ฟัง”“เฮ้อ! ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้”“แล้วที่ฉันทนไม่ไหวจนต้องมาหาแกวันนี้ก็เพราะว่าคุณเหนือโทรหาฉันแล้วมีผู้ชายรับสาย ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าไปทำโทรศัพท์ตกหายไว้ที่ไหน แล้วเขาก็ไม่ฟังอะไรเหมือนเดิม”“โหย! เกินไปแล้วนะ แบบนี้น่ะ”“เพราะแบบนี้ไงฉันถึงอึดอัด ชีวิตฉัน มันไม่ใช่ของฉันตั้งแต่คุณเหนือเข้ามา”“ฟังแกพูดแล้วฉันก็แอบคิดนะว่าคุณเหนือจะชอบแก”“ไม่หรอก แกจะบ้าหรือไงพราว”“เขาดูหวงแกออกนอกหน้ามากไปนะฉันว่า มันเหมือนไม่ใช่แค่ข้อตกลงบ้าๆ ที่แกเล่ามา เหมือนคุณเหนือรู้สึกมากกว่านั้น”ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยของฉันมันเต้นรัวเมื่อได้
คุณเหนือดึงฉันให้เดินตามเขามาที่โซฟา ก่อนจะกดตัวฉันให้นั่งลงแล้วออกคำสั่ง “นั่งตรงนี้ห้ามลุกขึ้นไปไหน”พูดจบแล้วเขาก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานค้นหาอะไรอยู่สักอย่าง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือคิดจะทำอะไร ได้แต่นั่งนิ่งๆ ทำตามคำสั่งของเขาไม่นานคุณเหนือก็เดินกลับมาพร้อมอะไรบางอย่างในมือ มันเป็นหลอดคล้ายยาสีฟันแต่ไม่ใช่คุณเหนือเดินมานั่งลงข้างๆ กับฉันแล้วพูด “เอามือมา”ฉันได้แต่นิ่งไม่ยอมทำตามคำสั่ง ทำให้คนข้างๆ พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะดึงมือฉันไป แถมยังจับตรงที่ฉันถูกน้ำกาแฟลวกอีกต่างหาก การเสียดสีทำให้ฉันเจ็บและร้องอุทานออกมา“โอ๊ย~”“เจ็บแล้วจะเล่นตัวทำไม” คุณเหนือถามเสียงดุ ฉันไม่ได้เล่นตัวสักหน่อยพอดึงมือฉันไปแล้วคุณเหนือก็บีบเจลใสๆ ในหลอดลงบนมือของฉัน จากนั้นเขาก็ถูวนไปมา เจลนี้ทำให้ฉันรู้สึกเย็น และมันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากกว่าตอนแรกฉันมองหน้าคุณเหนือที่กำลังตั้งใจถูเจลบนมือของฉันอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาทำให้แบบนี้ และนี่คือครั้งแรกที่ฉันถูกสายตาที่เหมือนจะเป็นห่วงของเขาจ้องมอง“เรื่องเมื่อวานฉันอารมณ์ร้อนไปหน่อย” เมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุม คุณเหนือก็พูดขึ้นมา“….ค่ะ”
“ใครวะ! เดี๋ยวพี่ไปถามเขาก่อนว่ามาหาใคร” พี่เพชรทำท่าจะลุกขึ้นไปหาคุณเหนือที่กำลังเดินมา เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบห้ามไว้ “ไม่ต้องหรอกค่ะ”“รินรู้จัก ?” พี่เพชรถามอย่างแปลกใจ“…..” ฉันจะตอบยังไงดี จะบอกว่าคุณเหนือคือเจ้านายที่บริษัทพี่เพชรจะสงสัยไหมว่าเขาตามมาที่นี่ทำไม “รู้จักค่ะ”ฉันตอบไปแค่นั้นไม่ได้ขยายความอะไรต่อ และในตอนนี้คุณเหนือก็เดินมาหยุดที่โต๊ะแล้วด้วย สายตาอำมหิตของเขาจ้องหน้าพี่เพชรอย่างหาเรื่อง รวมทั้งฉันด้วย“ริน อย่าบอกนะว่านี่คือ….” พราวมองหน้าคุณเหนือก่อนจะหันมาตั้งคำถามกับฉัน ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบเพราะรู้ว่าพราวหมายถึงอะไร“เขาเป็นใครเหรอริน” พี่เพชรที่ยังงุนงงอยู่ก็ได้เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง“เขาคือ….”“ฉันคือเจ้าของชีวิตของวาริน” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบ เสียงของคุณเหนือก็ดังขึ้นมาซะก่อน และคำว่า ‘เจ้าของชีวิต’ มันก็ทำให้ฉันสะอึกจนพูดอะไรไม่ออก“หมายความว่ายังไงริน”“……” ฉันได้แต่กำมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรกับพี่เพชร ฉันพลาดเอง พลาดที่เลือกจะมาค้างที่บ้านพราวในวันนี้“เธอคงไม่เคยพูดว่าฉันเป็น….”“คุณเหนือคะ!!” ฉันลุกขึ้นยืนทำให้คุณเหนือเงียบไป
คุณเหนือเปิดประตูรถแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะที่พี่เพชรกับพราวนั่งรออยู่โดยไม่รอฉัน จึงทำให้ฉันต้องรีบวิ่งตามเขาไป เพราะกลัวว่าพี่เพชรจะถูกหาเรื่องอีกเมื่อเดินมาถึงทั้งพราวกับพี่เพชรก็มองคุณเหนือโดยไม่ได้พูดอะไร“คือคุณเหนือจะมากินข้าวด้วย” ฉันบอกพราว พราวจึงรีบพยักหน้าตอบ “อะ อื้อๆ ได้สิ คุณเหนือเชิญนั่งเลยค่ะ”ฉันนั่งลงข้างๆ กับพี่เพชรเพราะตอนแรกฉันนั่งตรงนี้อยู่แล้ว แต่พอนั่งลงไม่ทันไรก็ถูกคุณเหนือดึงแขนขึ้น จากนั้นก็กดให้ฉันนั่งลงข้างๆ กับตัวเอง“พราวบอกพี่ว่าคุณเหนือเป็นเจ้านายของริน” พี่เพชรพูดขึ้น ก่อนจะมองฉันกับคุณเหนือสลับกัน “ไม่ยักรู้ว่าเจ้านายใส่ใจเด็กฝึกงานถึงขึ้นตามมา….”“พี่เพชรคะ” พราวเรียกพี่เพชรแล้วส่ายหน้าไปมาสื่อประมาณว่าไม่ต้องพูด ทำให้พี่เพชรยอมเงียบ แต่คุณเหนือกลับพูดต่อ“ถ้าฉันถูกใจพนักงานคนไหน ก็จะดูแลเป็นพิเศษ” พูดจบคุณเหนือก็โอบเอวฉัน และนั่นทำให้ฉันรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เพิ่งจะอ้อนวอนไปไม่ได้ผล เขาตั้งใจทำให้คนอื่นรู้ในตอนนี้คุณเหนือกับพี่เพชรกำลังทำสงครามด้วยการจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตาย“เอ่อ กะ กินข้าวกันดีกว่านะคะ” พราวขัดขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทำให้ทั้งคู่ยอมล
“เหล้ามาแล้วครับนาย”ฉันสะดุ้งก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อมีคนเข้ามา แถมในตอนนี้คุณเหนือกำลังจูบฉันอยู่ด้วย ฉันใช้มือพยายามดันเขาออก จนในที่สุดคุณเหนือก็ยอมปล่อยริมฝีปากของฉันให้เป็นอิสระ“เอาวางไว้แล้วรีบไสหัวไป” คุณเหนือสั่งลูกน้องของเขา แทนที่จะยอมให้ฉันลุกขึ้น แต่เปล่าเลยเขากลับรั้งเอวฉันไว้แน่น ใบหน้าคมคายก้มลงมาซุกไซ้บริเวณเนินหน้าอกทั้งสองเต้าอีกครั้ง คุณเหนือใช้ลิ้นสากตวัดเลียจนเนินหน้าอกเปียกชุ่มฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ลูบไล้ไปมาตามเรือนร่างของฉันช้าๆ มันเป็นสัมผัสที่ทำให้ขนทั้งตัวของฉันลุกซู่ “เหล้า มะ มาแล้วค่ะ” ฉันเตือนสติเขาอีกครั้ง “ฉันรู้แล้ว อื้ม~” คุณเหนือยังคงใช้ลิ้นสากลากเลียบริเวณเนินหน้าอกของฉันไปมาอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจจะดื่มเลยสักนิด “อ๊ะ~”ฉันครางออกมาเบาๆ อย่างห้ามอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ถึงแม้ไม่อยากจะมีอารมณ์ร่วมในตอนนี้ความรู้สึกมันก็เลยเถิดไปแล้ว “เล่นกันกลางบ้านแบบนี้เลยเหรอวะ ?”ฉันสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายท้วงดังขึ้นมา ทำให้คุณเหนือหยุดการกระทำ แล้วมองไปทางด้านหลังของฉัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา คุณเหนือจัดการปิดเม็ดกระดุมเสื้อนักศึกษาให้ฉันก่อนจ
ตึกตัก ตึกตัก! หัวใจของฉันมันเอาแต่เต้นรัวไม่เป็นท่า และยิ่งได้ยินคำพูดที่คุณเหนือเพิ่งจะเอ่ยออกมา ก็ทำเอาหัวใจมันแทบจะหยุดเต้น“จะไม่ตอบคำถามของฉัน ?”“คือริน รินขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ”“ได้! ฉันให้เวลาเธอคิด”คุณเหนือลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะถอดเสื้อออก เผยให้เห็นกล้ามที่แขนและบริเวณแผ่นหลังของเขา และฉันก็ไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้ ร่างกายของเขาทำให้ฉันหลงใหลร่างสูงเดินไปหยิบแก้วแหละขวดเหล้าในตู้ออกมา เชื่อแล้วแหละว่าคุณเหนือกับเหล้าเป็นของคู่กันจริงๆ“รินขอถามอะไรคุณเหนือหน่อยได้ไหมคะ”“อะไร ?” คุณเหนือจ้องมองหน้าฉันเพื่อรอฟังว่าฉันจะถามอะไร แต่สายตาของฉันกลับเอาแต่จ้องมองกล้ามที่แผงอกและหน้าท้องนั้น“วาริน” เสียงของคุณเหนือดึงสติของฉันให้กลับมา รู้ตัวอีกทีใบหน้าของฉันมันก็แดงเถือกแถมยังร้อนผ่าวฉันกำลังคิดบ้าอะไรกับร่างกายของคุณเหนือเนี่ย!“คือรินอยากรู้ว่าคุณเหนือเคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่บ้านบ้างไหมคะ”“ไม่เคย” คุณเหนือตอบแบบไม่คิด ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งลงข้างๆ กับฉันแล้วเทเหล้าลงในแก้ว จากนั้นก็พูดต่อเสียงเย็น “เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ฉันพาเข้าบ้าน”“พูดจริงๆ เหรอ