วันต่อมาคุณเหนือพาฉันมาที่โรงพยาบาล และเขาก็อยู่ด้วย ไม่ยอมทิ้งฉันไว้ที่โรงพยาบาลตามลำพัง แถมยังบอกว่าฉันมีเวลาเยี่ยมน้องแค่ครึ่งวัน เพราะเขาต้องไปทำธุระ “เมื่อวานทำไมถึงไม่มาเยี่ยมหนูล่ะคะ” นาลินถามฉันที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่สายตาของเธอจะมองผ่านไปทางด้านหลังของฉันแทน “…คุณเหนือ”“นาลิน” ฉันเรียกชื่อน้องเสียงดุ เพราะสีหน้าของเธอกำลังบ่งบอกว่าดีใจมากขนาดไหนที่ได้เจอคุณเหนืออีกครั้ง “เมื่อวานพี่ติดธุระเลยไม่ได้มาเยี่ยมน่ะ” พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ กับเตียงที่นาลินนอน “พี่รินไม่มาหนูเหงามากเลยรู้ไหมคะ” นาลินทำหน้าออดอ้อน ฉันที่อดเอ็นดูท่าทางของน้องสาวไม่ได้จึงเอามือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ “พี่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน อยากให้เธอกลับไทยพร้อมพี่เลยด้วยซ้ำ”“หมอบอกว่าอีกนานไหมคะกว่าหนูจะหายดี หนูต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่”“คงอีกสักพักน่ะ สู้ๆ นะ พี่รอเธออยู่ ^_^”“หนูรักพี่รินที่สุดเลยค่ะ ^_^”นาลินจับมือของฉันแล้วยิ้มหวานให้ ในที่สุดฉันก็ได้น้องสาวคนเดิมกลับคืนมา สิ่งที่ฉันแลกไปมันคุ้มค่า “กินผลไม้ไหมเดี๋ยวพี่ปอกมาให้”“กินค่ะ ขอแค่ส้มก็พอนะคะ” ส้มคือผลไม้ที่นาลินช
“คุณเหนือให้ฉันมาดูแลพวกผู้หญิงที่นี่” ผู้หญิงข้างกายคุณเหนือพูดขึ้นมาอีกครั้ง เธอเชิดหน้าใส่ฉันราวกับว่าตัวเองมีความสำคัญกับคุณเหนือมากๆ“ฉันรู้ว่าคุณเหนือชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงคุณเหนือชอบท่าไหนมากที่สุด” ฉันถึงกับสตั้นเมื่อเธอพูดเรื่องบนเตียงออกมาอย่างไม่อายปาก ทำเอาคนที่ได้ฟังอย่างฉันถึงกับอายแทน“เธอพูดมาก รู้ตัวหรือเปล่า” คุณเหนือเอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นพร้อมกับสายตาที่มองผู้หญิงข้างกายแบบดุดัน ก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขนแกร่งคุณเหนือเดินนำไป ทิ้งให้ฉันเดินตามหลังกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งดูจากสายตาของเธอก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเธอไม่ชอบฉัน“คุณเหนือรับเธอมาดูแลนานหรือยัง” เธอถามฉัน“ยังค่ะ”“ถึงว่าท่าทางซื่อบื้อ ไม่รู้ว่าคุณเหนือเอาผู้หญิงแบบเธอมาขึ้นเตียงได้ยังไง ดูไม่ใช่เขาเลยสักนิด”“…..” ฉันไม่ได้โต้ตอบอะไร พยายามเดินให้เร็วที่สุดเพื่อหนีคำพูดของผู้หญิงคนนี้ แต่เธอก็ยังอุตส่าห์เร่งฝีเท้าตามมาเดินคู่กับฉันอีก“ฉันน่ะอยู่กับคุณเหนือมาสี่ปี ในบรรดาผู้หญิงของคุณเหนือ ฉันคือที่หนึ่ง เธอควรเคารพฉันนะ ไม่ใช่เดินหนีแล้วก็ทำเมินใส่ฉันแบบนี้”“หากว่าฉันจะต้องเคารพใคร มีคุณเหนือ
ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น หลบสายตาคมกริบตรงหน้า จะไม่ให้คิดได้ยังไงก็คุณเหนือไม่ได้ตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ต้องเข้าใจแบบนี้สิ“เธออยากจะให้ฉันไปนอนกับคนอื่น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมากระซิบถามอีกประโยค “หรือว่าเธอไม่อยากนอนกับฉัน”“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”“แล้วมันยังไง ?”“…รินคิดว่าคุณเหนือคงอยากจะเปลี่ยนไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง”“เธอคิดแบบนั้น ?”คุณเหนือเลิกคิ้วขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องถามกลับตลอดเลยด้วย ฉันคิดคำตอบไม่ทันหรอกนะ ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันน่ะคิดว่าเขาคงจะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น ก็บอกไปแล้วยังจะถามอีก“รินจะไปรู้เหรอคะ”“ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะนอนกับฉันจริงๆ” คุณเหนือผละตัวออกห่างจากฉัน “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะไปนอนกับผู้หญิงอีกคน เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อผู้ชายตรงหน้าคิดเองเออเองทุกอย่าง ใครบอกกันว่าฉันอยากให้เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น“ถ้าคุณเหนืออยากจะไปนอนกับผู้หญิงคนไหน มันก็สิทธิ์ของคุณเหนือนี่คะ” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเป็นจังหวะที่จุกแน่นราวกับกำลังบีบมันเอาไว้แน่น“มากินข้าว” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโต๊ะอ
สายตาของคุณเหนือมันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของฉันเอามากๆ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะสบตากับเขาในเวลานี้เลยจริงๆ“ฉันรอเธอพูดอยู่นะวาริน”ทำไมเขาถึงต้องการแบบนั้น ทำไมต้องให้ฉันต้องการเขา ทั้งที่เขาคือเจ้าของชีวิตของฉันในตอนนี้ฉันรวบรวมความกล้าก่อนจะถามออกไป “รินมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอคะ”“ฉันถามอยู่นี่ไง”“แล้วคุณเหนือต้องการนอนกับรินทุกคืนหรือเปล่าคะ”“หึ!!” เขาไม่ตอบแต่กลับหัวเราะในลำคอ และเสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้นมันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว“เธอยังใหม่สำหรับฉัน แน่นอนว่าของใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่า” พูดจบคุณเหนือก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉัน ก่อนที่เขาจะใช้เขี้ยวฟันงับริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ แล้วปล่อย “จะตอบคำถามของฉันได้หรือยัง ?”“รินไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนไหนของคุณเหนือ…”ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาหนักๆ ก่อนที่คุณเหนือจะดันตัวของฉันให้ลงจากตักของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงอิงเธอเดินมาพอดีคุณเหนือหันมองฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปหาผู้หญิงที่ชื่ออิงอิง“อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม” คุณเหนือถามเธอ ทำให้เธอรีบตอบพร้อมกับฉีกยิ้ม “คุณเหนือน
#ประเทศไทยพอลงเครื่องคุณเหนือก็ให้ลูกน้องมาส่งฉันที่คอนโด ส่วนตัวเขามีงานต้องจัดการต่อ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ฉันเองก็แปลกใจว่าคุณเหนือมีงานอะไรเวลานี้ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปสมองของฉันในตอนนี้มันเอาแต่คิดสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นที่เจออยู่สนามบินเขาเป็นใคร เหมือนคุณเหนือกับเขาจะไม่ถูกชะตากันเท่าไหร่เมื่อกลับมาประเทศไทยแล้วฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าพราวโทรมาหาฉันนับร้อยสาย ข้อความเด้งเข้าเครื่องรัวๆ รวมทั้งเบอร์ของพี่เพชรด้วย ฉันก็ลืมบอกพราวว่าไปต่างประเทศ เธอคงจะเป็นห่วงที่โทรหาไม่ติดถึงได้โทรมาหลายสายขนาดนี้ฉันกดเบอร์พราวแล้วโทรออก รอสายไม่นานเธอก็รับ( วารินแกหายไปไหนมาทำไมเพิ่งโทรกลับ ) พอรับสายพราวก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง( ฉันไปเยี่ยมนาลินที่ต่างประเทศมาน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนนะ ) ( ตะ ต่างประเทศเลยเหรอ หูย! ฉันอิจฉาแกจัง ไปกับใคร )( แกว่างหรือเปล่าพราว ฉันอยากไปหาแก )( ว่างสิ ฉันอยู่บ้านมาได้เลย ) ( โอเคฉันจะไปตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะ ) ฉันกดวางสายจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่จะไปหาพราวก็เพราะว่าฉันอยากจะระบาย ‘เรื่องคุณเหนือ’ ฉันอยากจะพูด
อะไรกัน ฉันคิดว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วซะอีกเรื่องพี่เพชร เพราะในตอนนั้นฉันยืนยันน้ำเสียงหนักแน่นว่ามันไม่มีอะไร คุณเหนือก็ทำเหมือนเชื่อ แล้วทำไมตอนนี้คุณเหนือถึงได้พูดแบบนี้ออกมาอีก“พี่เพชรไม่อยู่บ้านค่ะ รินไปหาพราวคุยกันไม่นานรินก็กลับ”“ไม่เถียงแปลว่าเธอยอมรับว่าแอบคบชู้กับมัน”“เปล่านะคะ รินไม่ได้ยอมรับ” สายตาของคุณเหนือจ้องเขม็งมายังใบหน้าของฉันอย่างคาดคั้น “รินก็แค่อธิบายให้ฟัง”พอพูดจบฉันก็ซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งเพื่อออดอ้อนหวังว่าเขาจะใจเย็นลง และมันก็ได้ผล“ถ้าเธอจะไปไหนต่อไปนี้ให้รายงานฉัน ฉันจะให้ลูกน้องพาเธอไป”“ค่ะ ต่อไปนี้รินจะรายงานคุณเหนือทุกอย่าง”คุณเหนือดันตัวฉันออก เขาจับปลายคางของฉันให้เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องลึกเข้ามา ก่อนจะถาม “อ้อนฉันขนาดนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ ?”“รินไม่อยากได้อะไรเลยค่ะ รินแค่ไม่อยากถูกคุณเหนือดุ”“ถ้าเธอทำตัวดีกับฉัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะถูกดุ”“รินก็ทำตัวดีทุกครั้งนี่คะ…”“แต่ท่าทางไร้เดียงสาของเธอมันขัดใจฉัน”“เหตุผลนี้เหรอคะที่ทำให้คุณเหนือชอบไม่พอใจริน”“อยากให้ฉันพอใจในตัวเธอมากขนาดนั้น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ มันทำให้ฉันเริ่มทำอะไรไม่ถูก“
คุณเหนือเงียบเมื่อได้ยินคำพูดของฉัน คิ้วหนาขมวดชนกันและเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉันอยู่อย่างนั้น“ระ รินจะไปล้างตัวค่ะ” ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง แต่คุณเหนือกลับไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน“ฉันไม่ได้บอกผิดคน ฉันก็แค่ลืมว่ายังไม่ได้ซื้อให้เธอ”“ไม่เห็นต้องแก้ตัวเลยนี่คะ”“แก้ตัว ?”ฉันเบือนหน้าหนี ก่อนจะพูด “คุณเหนือมีผู้หญิงหลายคน ไม่แปลกหรอกค่ะที่จะจำผิดคน”ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดลงมาบนพวงแก้มของฉัน ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยขึ้น “ฉันไม่เคยสดกับผู้หญิงคนไหน นอกจากเธอ” มันยากที่จะเชื่อคำพูดที่เพิ่งออกมาจากปากของเขา จะให้ฉันเชื่อได้ยังไง เพราะกับฉันเขาแทบจะไม่ป้องกันเลย“ทำหน้าแบบนี้แปลว่าไม่เชื่อที่ฉันพูด ?” ไม่ถามเปล่า คุณเหนือใช้มือจับปลายคางของฉันให้หันหน้ามาหาตัวเอง“ไม่เห็นต้องอธิบายเลยค่ะ รินเป็นแค่นางบำเรอ”“อื้ม! นั่นสิฉันไม่จำเป็นต้องอธิบาย” แววตาของคุณเหนือเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดริมฝีปากหนากดทับลงมาบนริมฝีปากของฉันพร้อมกับบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกถึงความชาหนึบบนริมฝีปาก“อื้อ” ฉันร้องประท้วงในลำคอเมื่อคนด้านบนป่าเถื่อนจนเกินไปไม่เพียงแต่ทำรุนแรงขึ้น คุณเหนือยังเริ่มขยับเอวส
ฉันมองหน้าคุณเหนือ นี่เขาต่อว่าฉันอีกแล้วนะ ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่เอาเอกสารมาวาง พี่เอกก็แค่ถามชื่อ ฉันตอบกลับนี่แปลว่าอ่อยอย่างนั้นเหรอ“ออกไป ฉันจะคุยธุระ!!”“คุณเหนือไม่เห็นต้องดุขนาดนี้เลยครับ ดูสิรินกลัวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว”“ขะ ขอตัวก่อนนะคะ”ฉันรีบเดินหนีออกมาเมื่อถูกสายตาเขม็งของคุณเหนือจับจ้องมอง“ริน”“อ้าวพี่เอมสวัสดีค่ะ” ฉันกำลังจะเข้าลิฟต์ เจอกับพี่เอมพอดี“รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอรินหลายวันเลยนะเนี่ย ตั้งแต่รินย้ายแผนกไป”“รินเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมน้องสาวด้วยค่ะ”“แล้วน้องสาวเป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง”“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ^_^” ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าลิฟต์พร้อมพี่เอม“อย่าไปสนใจปากพวกพนักงานในบริษัทเลยนะ” พี่เอมพูดขึ้นหลังจากที่เราเข้ามาในลิฟต์กันแล้ว แถมยังพูดเหมือนรู้เรื่องของฉันกับคุณเหนือ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะถามอะไรต่อ“ไม่ต้องคิดว่าพี่จะเป็นแบบคนพวกนั้นหรอกนะ และพี่ก็จะไม่ถามว่าอะไรเป็นอะไร เพราะมันเรื่องส่วนตัวของริน”“ขอบคุณพี่เอมมากนะคะ ^_^”พี่เอมพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกพอดี ฉันจึงเอ่ยลาพี่เอมแล้วเดินแยกตัวมายังโต๊ะทำงานมันรู้สึกดีใจ ดีใจที่