โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั
“โอเค” เธอตอบและลืมตาขึ้นไบรอันพูดแทรก “ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ระหว่างนี้คุณจะว่าอะไรไหมหากผมขอถามคุณสักสองสามคำถาม?”เอวาส่ายหัวแล้วเบ้หน้าบ้าเอ๊ย! ผมลูบผมตัวเอง เธอกำลังเจ็บปวดและมันทำผมแทบบ้า“ครับ คุณช่วยอธิบายให้ผมได้ไหมว่าผู้ชายที่ทำร้ายคุณหน้าตาเป็นยังไง?” ไบรอันถามเธอเธอหายใจเข้าลึก ๆ “เขาใส่หน้ากาก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่เขามีผมสีน้ำตาลรุงรัง ค่อนข้างสูง อาจจะประมาณหกฟุต และเขาก็มีรูปร่างล่ำหนา”“มีอะไรอีกไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ… มีแค่นั้น”“เขาได้พูดอะไรไหม? เช่นทำไมเขาถึงตามล่าคุณ?”“พูดค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งค์ไหน แต่มีคนสัญญาว่าจะจ่ายเงินก้อนโตให้เขาถ้าเขาฆ่าฉันได้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าเขาทำงานให้ใคร” มือของเธอสั่นไปหมดเมื่อเธอพูดจบยิ่งผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ่งกลัวและโกรธมาก ผมไม่อยากนึกภาพว่ามีคนตามล่าเธอ แต่หลักฐานก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว“หมายความว่าผมคิดถูกแล้ว การโจมตีเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำข่มขู่ที่คุกคามทั้งสองครอบครัว ซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นตามล่าเธออยู่” ไบรอันดูจะพูดกับตัวเองมากกว่ากับพวกเรา“แต่
มุมมองของผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนถ้าบอกว่าฉันโกรธมากยังถือว่าน้อยไป ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไรแล้ว ฉันโกรธจนแทบคลั่ง เธอหนีพ้นมือฉันไปได้อีกครั้ง เธอรอดชีวิตมาได้อีกครั้งทั้งที่เธอควรจะตายไปแล้ว“บอกฉันทีว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง?” ฉันถามเบ็น“ผมสาบานว่าครั้งนี้ผมเกือบจัดการได้แล้ว ผมเกือบจะฆ่าเธอได้สำเร็จแต่ไอ้บอดี้การ์ดสารเลวของเธอช่วยเธอไว้ได้” เขาบ่นพึมพำไอ้หมอนี่คิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจากข้อแก้ตัวจากเขาตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการนี้ สามครั้งที่เขาฆ่าเธอไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้เขา ลองนึกดูว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เขาแล้วเขายังจัดการเธอไม่สำเร็จสิเขาจะได้รับเงินห้าล้านบาทถ้าเขาทำงานสำเร็จ เงินจำนวนนั้นน่าจะทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำงานของเขาให้เสร็จภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันจิบวิสกี้ไปหนึ่งอึก ความรู้สึกหงุดหงิดท่วมท้น“จริงเหรอ? คุณเกือบจะจัดการเธอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่คุณเลือดออกเหรอ?” ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกโกรธมากขึ้นทุกนาทีที่คุยกับไอ้โง่นั่น“ผมสัญญาว่าจะจัดการเธอให้ได
เอวาฉันยังต้องรักษาตัวจากการถูกทำร้าย ฉันได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ และฉันต้องการให้เรื่องนี้จบลงเสียที มีคนพยายามฆ่าฉันถึงสามครั้งและฉันรอดชีวิตมาได้ทั้งสามครั้ง ฉันไม่รู้ว่าโชคของฉันจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ใครก็ตามที่ต้องการฆ่าฉันดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ได้พบกับโนอาอีกฉันตัวสั่นเมื่อนึกถึงว่าฉันเกือบจะได้พบกับพระเจ้าแล้ว หมอนั่นเข้ามาในบ้านของฉัน เขาตั้งใจจะข่มขืนฉันก่อนที่จะฆ่า ฉันน้ำตาคลอเบ้าและใช้พลังทั้งหมดเพื่ออดกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาฉันร้องไห้มามากพอแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันเบื่อกับมันแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมคนคนหนึ่งถึงอยากให้ฉันตาย? ฉันไม่ได้ทำผิดกับใครเลยยกเว้นเอมม่า แม้แต่กับเธอก็เถอะตอนนี้เธอก็ได้อยู่กับโรแวนแล้ว ดังนั้นบาปที่ฉันทำลงไปก็น่าจะจบไปแล้ว ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันตอนนี้เลยความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือพวกเขาจะทำสำเร็จ นั่นหมายความว่าฉันจะไม่ได้เห็นลูกชายของฉันเติบโต ฉันจะพลาดช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาไปทั้งหมดและมันทำให้ฉันเสียใจ การคิดถึงอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นทำให้หัวใจของฉันแตกสลายเป็นล้า
“คริสติน เธอทำทุกอย่างเพื่อเขี่ยฉันให้พ้นทางเพราะคิดว่าโรแวนจะสนใจเธอ แม้แต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะล่อลวงเขา แต่เขาไม่เคยตอบสนองเลย ใช่ เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็เป็นภรรยาของเขา ในขณะที่เธอเป็นแค่เลขานุการที่เขาไม่สนใจ ดังนั้นฉันขอถามกลับหน่อย รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันเป็นผู้หญิงของเขา? เขาจะไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเลขานุการของเขา รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเขาไม่มีวันจะมองเธอเป็นผู้หญิง? รู้สึกอย่างไรที่เขาชอบมีเซ็กส์กับฉันแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน มากกว่าที่จะรับเธอเป็นเมียน้อยของเขา? และรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วเพราะเอมม่ากลับมาแล้ว” ฉันยิ้มเยาะพลางรู้สึกมีความสุขที่ในที่สุดก็ได้พูดมันออกมา“นังอัปลักษณ์!” เธอตวาดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฉันฉันหลบเธอได้ทันเวลาและเธอก็สะดุดรองเท้าส้นสูงที่แพงมากของตัวเอง เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉันใหม่ ฉันไม่คิดมากตอนที่หยิบกล่องนมในรถเข็นมาขว้างใส่เธอฉันมองดูชุดเธอที่เปียกโชก เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกใจ เรื่องจากนั้นฉันคงอธิบายได้แค่ว่าเราตีกันจ้าละหวั่น เธอพุ่งเข้าใส
“เอวา นี่คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้จริง ๆ?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความกังวลฉันเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนของโนอา วันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีและฉันก็ต้องไปพบโรแวนที่นั่นด้วยเล็ตตี้โทรมาถามว่าเราจะไปสังสรรค์กันได้ไหมเพราะว่าเราทั้งสองไม่เจอกันสักพักหนึ่งแล้ว ตอนที่ฉันเจอเรื่องเลวร้ายนั่น เล็ตตี้เดินทางไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับทราวิสที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เธอเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง“แน่ใจสิ ฉันคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดใจได้จากโรแวน ที่อยากจะพูดก็คือฉันจะไปรักใครคนอื่นได้ยังไงถ้ายังจมอยู่กับมันแล้วไม่หาใครคนใหม่เสียที?”ฉันเล่าเรื่องที่ฉันกับอีธานจูบกันให้เล็ตตี้ฟังแล้ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราก็จูบกันอีกอยู่บ้าง กระนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่เกินเลยไปมากกว่านี้“ก็จริง แต่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรือ…นี่คุณรู้จักเขานานแค่ไหนแล้ว?” เล็ตตี้ขัดจังหวะความคิดของฉัน“ก็ประมาณสามเดือนได้…เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะไม่ชอบเขาแล้วเล่า? เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนยังยุให้ฉันคบกับเขาอยู่เลย แถมยังทำตัวดี๊ด๊าอยากรู้ว่าพวกเราจูบกันตอนเดตแรกหรือเปล่าอีก
แล้วฉันต้องการสิ่งใดเล่า? ฉันเพียงแค่หลอกใช้หรือต้องการเขาจากใจจริง? ฉันไม่ต้องทำให้เรื่องนี้รวมถึงตัวฉันเองยุ่งยากไปมากกว่านี้แล้ว เรื่องที่จะตัดใจจากโรแวนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าฉันกำลังเดินไปถูกทางใช่หรือเปล่า?ฉันอยากให้อีธานเจ็บปวด โดยเฉพาะถ้าเขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับฉันจริง ๆ แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเป็นปัญหาได้ อีธานสามารถทำให้ฉันลืมโรแวนและความรักที่ฉันมีต่อโรแวนไปได้ ฉันกลัวเหลือเกินว่านี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฉันชอบเขาแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันแย่จริงเหรอ? เราเพียงต้องการใครสักคนเพื่อตอบสนองเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แล้วมันผิดหรืออย่างไรหากฉันต้องการอีธานเพราะเขาสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายไปได้?เสียงแดรจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันจมอยู่ในห้วงความคิดมากเสียจนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนโนอาแล้วฉันขับเข้าไปในที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์และเดินลงมา สายตากวาดมองรถยนต์หรูจอดเรียงรายอยู่ ฉันก้าวเดินตรงไปและสังเกตเห็นได้ว่าผู้ปกครองบางคนส่งสายตาดูถูกมาที่ฉัน แน่นอนรถของฉันไ
ฉันอยากจะเอื้อมมือไปกอดลูกไว้ แต่เขากลับอยู่ห่างออกไปตั้งหลายพันกิโล“แม่ขอโทษด้วยนะลูก…พ่อเขาอาจติดงานด่วนก็ได้นะ”“แต่พ่อสัญญากับผมแล้วนี่!” เด็กน้อยตะโกนผ่านหน้าจอ “พ่อบอกแล้วว่าพ่อจะไม่ผิดสัญญากับผม แต่พ่อก็ผิดสัญญาแล้ว” โนอาร้องไห้งอแงซึ่งทำให้ฉันเจ็บปวดใจอยู่ไม่น้อยแม่ของฉันและจอยซ์ แม่ของโรแวนรีบเข้ามาปลอบประโลมหลานชาย ฉันปรารถนาจะไปอยู่ตรงนั้นเหลือเกิน แต่ฉันแสนเจ็บปวดที่ทำไม่ได้“เดี๋ยวพ่อเขาต้องหาอะไรมาไถ่โทษเรื่องนี้แน่จ้ะ ลูกรัก…ลูกก็รู้ว่าพ่อรักลูกมากขนาดไหน พ่อเขาไม่มีทางผิดสัญญาแน่จ้ะ” ฉันพยายามปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยเด็กน้อยไม่ได้ตอบโต้สิ่งใดกลับมา เพียงจ้องมองไปยังความว่างเปล่าตรงหน้าด้วยดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมา โนอาเหมือนกับสติหลุดลอยไป เมื่อดูท่าทีที่ไม่ตอบสนองหรือพูดอะไรของเขา จอยซ์จึงบอกว่าพวกเขาจะดูแลหลานชายเอง ก่อนวางสายไปฉันก้าวเดินออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ รถเริ่มบางตาลงไปมากแล้ว ฉันกำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ เป็นเวลาเดียวกับที่รถเมอเซเดสสีดำของโรแวนขับเข้ามาในสายตา เขาจอดรถและเดินลงมาด้วยท่าทีรีบร้อนตรงมาหาฉัน“ผมขอโทษด้วยจริง ๆ ที่มาส
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร
“เอานี่ไปสิ” เขาสั่งพลางยื่นแบล็คการ์ดของเขาให้ฉันฉันมองบัตรนั้นอย่างลังเล “โรแวน…”“เอาไปเถอะ เอวา ตอนนี้คุณเป็นของผมแล้ว หมายความว่าทุกอย่างที่ผมมีก็เป็นของคุณ คุณอาจจะมีเงิน แต่ตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน คุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน”ฉันขมวดคิ้วด้วยความสับสน สายตาของฉันเลื่อนไปที่เขา ฉันไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรที่บอกว่า ‘ฉันมีเงิน’ ฉันไม่มีเวลาซักถามเขา และฉันจะไม่เถียง เพราะจากแววตาที่เขามองมาที่ฉัน ฉันรู้ว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจ “โอเค” ฉันพึมพำพลางรับบัตร “ขอบคุณนะ”ฉันไม่ได้คิดจะใช้บัตรใบนั้นหรอก แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องรู้ หลังจากบอกลากัน ฉันก็ออกจากบ้าน เราตัดสินใจใช้รถหนึ่งคัน บอดี้การ์ดคนหนึ่งจึงขับรถพาเราไปที่ห้างสรรพสินค้าฉันตื่นเต้นมากจนแทบจะห้ามใจไม่อยู่ ไม่นานเราก็มาถึง และหลังจากจอดรถเราก็ตรงไปที่ร้านค้าทันที โดยมีบอริสเดินตามอยู่ข้างหลัง“ว่าแต่เธอกำลังมองหาอะไรอยู่เหรอ” เล็ตตี้ถามขณะเราเข้าไปในร้านแบรนด์หรูแห่งหนึ่งฉันมองร้านด้วยความกังวล รู้สึกตกตะลึงกับป้ายราคา“เล็ตตี้ ฉันไม่คิดว่าจะซื้ออะไรที่นี่ได้หรอก” ฉันเอ่ยขึ้นเสียงแหลม “ราคาที่นี่ทำฉันหัวใจวายได้เลย”พว
“ได้สิ แน่นอน”หลังจากนั้นเขาก็วางสาย ฉันถอนหายใจ รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เขาไม่ได้หาทางออกให้ ในตอนนี้ฉันคิดว่าจะรับข้อเสนอของโครินหรือไม่ก็พาไอริสไปด้วยแทน ซึ่งคงปวดหัวไม่น้อย การไปช้อปปิ้งกับลูกมักจะเป็นแบบนั้นฉันถือโทรศัพท์แล้วเดินลงไปชั้นล่าง ไอริสยังหลับอยู่ ส่วนโครินกับเล็ตตี้กำลังคุยกัน ขนมที่เทเรซาเอามาให้ก็เกือบจะหมดแล้ว“แล้วเขาว่าไงบ้าง” เล็ตตี้ถามหลังจากกลืนคุกกี้ลงคอฉันตอบพร้อมยักไหล่ “ไม่มีอะไรมาก เขาแค่บอกให้ฉันรอให้เขาคิดหาวิธีแก้ปัญหาก่อน” ฉันนั่งลงและหยิบคุกกี้ขึ้นมา ฉันเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อยจนเกือบร้องครางออกมา เทเรซาบอกฉันว่าเธอใช้สูตรลับที่สืบทอดมาจากคุณย่าทวดของเธอ ฉันเองยังพยายามโน้มน้าวให้เธอแบ่งปันสูตรที่ว่านั้นให้เลย“บ้าจริง เทเรซาสร้างความฟินด้วยอาหารเก่งชะมัด... นี่มันอร่อยสุด ๆ เลย” โครินชมขณะที่หยิบคุกกี้ขึ้นมาอีกชิ้นฉันได้แต่ยิ้มเพราะรู้ว่าเธอพูดถูก โนอาหลงใหลคุ้กกี้ของเธอมาก ฉันก็เช่นกัน โรแวนไม่ชอบของหวานเท่าไร แต่เขาเคยลองกินครั้งหนึ่งและก็ต้องยอมรับว่ามันอร่อย ถ้าเทเรซาคิดจะทำธุรกิจคุกกี้ เธอต้องขายได้แน่นอน เธอทำได้อร่อยถึงขั้นนั้นเชียวล
“นี่เอาจริงเหรอ” เล็ตตี้ถามด้วยความตกตะลึง“ใช่” ฉันตอบ “วันนี้ฉันค้นตู้เสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัว แต่ไม่มีอะไรที่เหมาะจะใส่ออกเดตเลย แม้แต่เดรสสั้นสีดำเล็ก ๆ สักตัวก็ยังไม่มี” พูดตามตรงว่าเรื่องนี้ค่อนข้างน่าแปลกใจ ฉันจำความทรงจำครั้งหนึ่งกับอีธานได้ เราไปเดตกันและฉันมีชุดเดรสสีแดงรัดรูปตัวหนึ่ง ไม่ใช่ว่าฉันคิดจะใส่มันหรอก แต่ตอนนี้มันหายไปจากตู้เสื้อผ้า ฉันมีแค่กางเกงยีนส์กับเดรสฤดูร้อนไม่กี่ตัวเท่านั้น“ไม่ต้องกังวลหรอก เพื่อนรัก เราจะช่วยเธอเอง... จริง ๆ แล้ว ฉันคิดว่าเราควรไปช้อปปิ้งกัน” โครินพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงฟังดูน่าสนุก แต่ฉันอดกังวลเกี่ยวกับไอริสไม่ได้ ฉันไม่อยากพาเธอไปด้วยเพราะเรารู้กันดีว่าการช้อปปิ้งมันทั้งยาวนานและเหนื่อยล้า แต่ฉันก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้ที่นี่เช่นกัน“ไม่รู้สิ” ฉันพึมพำพลางกัดริมฝีปากไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจเทเรซา แต่ฉันแค่รู้สึกไม่สบายใจที่จะทิ้งเธอไว้กับหล่อน มันคงไม่เป็นไรถ้าโนอาหรือโรแวนอยู่แถวนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่“เกี่ยวกับเรื่องไอริสงั้นเหรอ?” เล็ตตี้ถามขณะมองลึกเข้ามาในดวงตาฉันแทนที่จะตอบ ฉันแค่พยักหน้า ฉันอยากไปช้อปปิ้งจริง ๆ ฉันถูกขังอย
“แล้วเธอคิดว่าฉันควรทำยังไง” โครินถามพร้อมมองพวกเราอย่างต้องการคำตอบ“ก่อนอื่นเลย เธอต้องการเขาไหม” ฉันถามด้วยความอยากรู้นั่นคือคำถามแรกที่เธอต้องถามตัวเอง เราทำอะไรต่อไม่ได้เลยจนกว่าเธอจะตอบคำถามนั้น “ฉันหลงใหลเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้น แต่ฉันไม่รู้ว่าควรยุ่งเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า ตำรวจยังคงตามล่าเขาอยู่ และฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์ที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในภายหลังและทำลายทุกอย่างที่ฉันทุ่มเทมา” ครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยตอบฉันเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร รีเปอร์ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นอาชญากร ซึ่งหมายความว่าการยุ่งเกี่ยวกับเขาจะมีผลร้ายแรง ซึ่งทำให้ฉันสงสัยว่าฉันคิดอะไรอยู่ถึงได้เป็นเพื่อนกับผู้ชายคนนั้น ฉันเข้าใจว่าเขาเป็นลุงของไอริส แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นอันตรายและตำรวจก็กำลังต้องการตัวเขา“ฉันคิดว่าเธอควรลองดูนะ ฟันเขาสักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจ” เล็ตตี้บอกเธอ ฉันกำลังจะขัดจังหวะเธอเพราะคิดว่าเธอเสียสติ แต่เธอตัดบทฉันเสียก่อน “ฟังฉันก่อนน่า เราทั้งคู่รู้ว่าเอวาไม่ใช่คนที่เชื่อใจใครโดยไม่ลืมหูลืมหา ยกเว้นอีธานล่ะนะ เธอเป็นคนที่ดูคนเก่งทีเดียว”“แม้แต่กับอีธาน เราก็ยอมรับว่าเขาเป็นคนดี เขาแค่ยอมให้คว