โรแวนผมเอาแต่จ้องมองมือตนเอง แม่ของผมกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “แม่ขอโทษด้วยนะโร แต่โนอาบอกว่าไม่อยากมาคุยกับลูก”ผมไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่เอมม่าบอกเลิกและทิ้งผมไป โนอาโกรธผมเป็นอย่างมากและไม่ยอมรับสายผมเลย เอวาพูดถูก โนอาควรมาก่อนสิ่งใด แต่ผมกลับทำให้เขาต้องผิดหวังผมตัดสินใจพาเอมม่าออกไปเที่ยวพักผ่อนบนเรือยอร์ชเพื่อให้เราทั้งสองได้มีเวลาส่วนตัวพูดคุยกัน เธอไม่มีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าผมทิ้งเธอไปเพราะจะรีบไปหาเอวา นี่เป็นสิ่งที่ผมทำเพื่อชดเชยให้เธอได้ แต่ดันโชคร้ายที่ผมลืมเวลาไปเสียได้แถมโทรศัพท์ก็ยังมาแบตหมดผมไม่เคยเห็นเอวาเดือดดาลเพียงนี้มาก่อน และเมื่อวานนี้เธอกลับทำให้ผมตกตะลึงไม่น้อย สิ่งที่เธอแสดงออกมาว่าเธอยืนหยัดเพื่อโนอาและด่าสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก ในที่สุดเธอก็เข้มแข็งขึ้นมา เป็นเรื่องที่ดีเมื่อเห็นเช่นนั้น“โรแวน?” แม่ของผมเรียกชื่อ “แม่จะวางสายแล้วนะลูก”“อย่างเพิ่งครับ ช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้โนอาหน่อยครับ ผมต้องขอโทษลูกก่อน” โนอาไม่เคยปฏิเสธที่จะคุยกับผมมาก่อนเลย นั่นทำให้ความรู้สึกของผมแตกสลายไป
“เป็นเพราะเอมม่าไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของลูกใช่ไหม?” การที่โนอาตั้งแง่กับเอมม่าอาจเป็นเพราะเธอไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา เขาอาจรู้สึกว่าเธอคนนี้จะเข้ามาแทนที่แม่แท้ ๆ ของตนก็เป็นได้“ผมก็แค่ไม่ชอบ อีกอย่างหนึ่ง เธอเป็นพี่สาวแม่ด้วย มันผิดนะพ่อ” เด็กน้อยเอ่ยความจริงออกมา มันไม่ใช่เหตุบังเอิญไปเสียหน่อยหรือที่โนอาไม่ชอบเอมม่าเช่นเดียวกับเอวา? หรืออาจเป็นเพราะเอวาเป่าหูลูกให้จงเกลียดจงชังเอมม่า? หากเธอทำแบบนั้นผมเองก็ไม่รู้สึกแปลกใจ“ฟังนะ โนอา พ่อกำลังคบกับเอมม่าอยู่จริง และคิดว่าลูกเองก็ควรปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพนะ สักวันพ่ออาจแต่งงานกับเธอ แล้วเธอก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของลูกนะ ลูกต้องชินกับการเห็นเธอไปไหนมาไหนกับพ่อได้แล้วนะ”ผมจำเป็นต้องจัดการสิ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นใจของเด็กน้อย โนอาต้องเข้าใจได้ว่าเอมม่าอยู่ในชีวิตไม่จากไปไหน“ไม่มีวัน” เด็กชายตะโกนใส่โทรศัพท์“โนอา…”“ถ้าพ่อชอบเธอ ก็เชิญชอบไปเลย แต่ขอให้รู้ว่าผมไม่มีวันยอมรับเธอ ผมไม่มีวันชอบเธอ แล้วก็เธอไม่มีวันกลายเป็นแม่ของผมเด็ดขาด” เขาแผดเสียงใส่ก่อนผมจะได้พูดสิ่งใดออกมา เด็กชายกดวางสายไปเสียก่อน ผมจึงกดโทรกลับไปอีกครั้งทันที กระน
เอวาวันนี้ฉันมีความสุขอย่างมาก ไม่เพียงแต่การรับประทานอาหารเย็นกับอีธานจะราบรื่นไปด้วยดี แต่วันพรุ่งนี้ฉันจะได้กลับไปทำงานและวันถัดไปนั่นคือวันเกิดของฉันเองตามที่ฉันคาดการณ์เอาไว้เมื่อวานเสาร์ อีธานนั้นสามารถช่วยให้ฉันลืมได้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเข้าไปในบ้านของเขา ฉันก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเขาทำอาหารได้และไม่ทำให้ผิดหวัง อาหารของเขาอร่อยอย่างไร้ที่ติ ผู้ชายที่ทำอาหารเป็นแถมยังทำให้คุณหัวเราะออกมาได้นั้นแสนพิเศษ ค่ำคืนนั้นกลายเป็นคืนที่มีความสุขและสนุกสนานอย่างมาก สิ่งที่ดีไปยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ฉันยังได้คุยกับโนอาอีกด้วยเด็กน้อยใจเย็นลงเล็กน้อยแล้ว เราพูดคุยกันทุกเรื่องจนไม่มีเรื่องใด ๆ จะคุยกันอีกก่อนลูกชายจะหลับคาโทรศัพท์ไป นี่ถือได้ว่าเป็นฉากสำคัญที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ขณะฉันกำลังอบขนมอยู่นั้น มีใครบางคนเคาะประตูหน้าบ้านอยู่ ฉันอยากรับประทานขนมที่ช่วยให้สบายใจ ดังนั้นคุ๊กกี้และเค้กช็อกโกแลตก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว หลังจากเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือ ฉันเดินไปเปิดประตูเมื่อพบว่ากำลังเผชิญหน้ากับเอมม่าอยู่ ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกตกใจ กระนั้นอีกส่วนหนึ่งก็ไม
“ออกไป!” ฉันลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วไปยังประตูทางเข้าฉันหมดความอดทนกับความไร้สาระของเอมม่าแล้ว วันนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอเข้ามาทำลายความสุขของฉันแน่เธอจึงลุกขึ้นยืนเช่นกัน “อะไร? ไม่ชอบหรือที่ฉันจับไต๋แผนการของเธอทั้งหมด อีกไม่ช้าไม่นานหรอกนะ เดี๋ยวทุกคนก็จะได้รับรู้ว่าเหตุการณ์นั้นมันเป็นเรื่องแหกตา”“นี่โชว์โง่จบหรือยัง?” ฉันเอ่ยถาม “คิดเป็นแต่ว่าฉันเป็นคนจัดฉากเหตุการณ์นั้นขึ้นมา สนใจอยากรู้ว่าฉันคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างไหมเล่า? ฉันคิดว่าเธอนั้นแหละที่คนบงการเรื่องนี้อยู่ ฉันไม่มีศัตรูอยู่ที่ไหนยกเว้นเธอ แล้วใครกันนะที่จะได้ประโยชน์จากการที่ฉันตายไป? อ๋อ เธอไงถ้าไม่มีฉันสักคน ความรักของเธอกับโรแวนก็ไร้ขวากหนาม และไม่ต้องมาทนเห็นหน้าฉันอยู่เรื่อย ๆ เพราะโรแวนจะได้รับสิทธิเลี้ยงดูเพียงผู้เดียว”เอมม่าจ้องมองฉันอย่างตื่นตระหนก ไม่ว่าตื่นตระหนกเพราะฉันล่วงรู้ความจริงนั้นแล้วหรือเพราะฉันกล่าวหาเธอก็ตาม ฉันก็คิดเรื่องราวเหล่านี้มีมูลและทุกเรื่องก็เชื่อมโยงอย่างลงพอดีเอมม่าอาจต้องการให้ฉันตายด้วยสาเหตุสองประการ ประการแรกเพื่อแก้แค้น ประการที่สองคือกำจัดฉันออกจากชีวิตของโรแวนอย่างสิ้นเช
การที่ได้เห็นใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวของโรแวนตอกย้ำว่าฉันไม่ควรเปิดประตูตั้งแต่แรก ก่อนฉันจะทันได้ตอบโต้ ชายหนุ่มผลักฉันเข้ามาด้านในก่อนจะปิดประตู เขาผลักดันฉันไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างห้องโถง ห้องครัว และห้องนั่งเล่น“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง?” โรแวนระเบิดอารมณ์ ความโกรธเกรี้ยวของเขาทำให้ฉันตัวสั่น“อะไร?”“นี่คิดหรือว่าเอมม่าไม่ได้บอกอะไรผมมาเลย? หรือคิดว่าผมไม่เห็นรอยมือของคุณบนแก้มข้างซ้ายของเอมม่าน่ะ?เขาเริ่มเดินวนไปมา ฉันเริ่มประติดประต่อคำพูดของเขาและเริ่มเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงปรากฎตัวมาที่นี่“คุณไม่เข้าใจหรอก” ฉันพยายามอธิบายเหตุผล กระนั้นเขากลับไม่เปิดโอกาสเลย“เข้าใจอะไร? เข้าใจว่าคุณตบเอมม่าอย่างไม่มีเหตุผล? เข้าใจว่าคุณกล่าวหาว่าเธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานเลย? หรืออยากให้ผมเข้าใจเรื่องเลวทรามที่คุณพูดกับเธอดีเล่า?” เขาเดินก้าวเข้ามาพร้อมดวงตาเกรี้ยวกราดฉันไม่รู้ว่าเอมม่าเล่าอะไรให้โรแวนฟังบ้าง แต่มั่นใจได้เลยว่าเธอต้องโกหกและไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังเป็นแน่“ผมจะไม่ปล่อยให้คุณทำร้ายเอมม่าเด็ดขาด เข้าใจไหม เอวา?
วันนี้ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังนับร้อยครั้งได้แล้วโดยมีชื่อของเล็ตตี้เด่นอยู่บนหน้าจอ กระนั้นเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา ฉันเมินเฉยต่อสายเรียกเข้าพวกนั้น เธอพยายามติดต่อฉันตั้งเแต่เมื่อวานสภาพจิตใจของฉันไม่พร้อมที่จะพูดดุยกับเธอตอนนี้ เธอยังติดต่อกับสังคมและผู้คนที่ฉันพยายามหลีกหนีอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ฉันตระหนักได้ว่าอยู่ตรงทางแยกชีวิตที่จำเป็นต้องเลือก“ขออีกแก้ว” ฉันสั่งบาร์เทนเดอร์ทันทีที่เสียงเรียกเข้าเงียบลงวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของฉัน และฉันจึงฉลองให้ตนเองเช่นนี้แหละ ตัวคนเดียวอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง นั่งดื่มเหล้าผสมน้ำผลไม้ และคำพูดของโรแวนยังทิ่มแทงอยู่ไม่จางหายฉันพยายามเป็นอย่างมากที่จะโยนความคิดเหล่านั้นทิ้งไปเสีย พยายามเหลือเกินที่จะลืมทุกคำพูดซึ่งเขาโยนใส่ฉัน แต่นั่นเป็นเรื่องยากลำบากจริง ๆ คำพูดนั้นตามหลอกหลอนฉันเฉกเช่นผีร้ายเราทั้งสองแต่งงานอยู่กินกันมาหลายปี แต่ฉันก็ไม่เคยนึกเอะใจเรื่องที่เขามองฉันเป็นเพียงสิ่งบันเทิงทางกามเท่านั้น อีกทั้งยังหลอกใช้ให้ฉันกลายเป็นตัวแทนเรือนร่างของเอมม่าด้วยซ้ำ หัวใจของฉันแหลกสลายครั้งแล้วครั้งเล่านับตั้งแต่เกิดเหตุวันนั้นที่บ้านฉันที่จริ
“ฉันสบายดีค่ะ…แค่ไม่อยากคุยกับเธอในตอนนี้” ฉันเปล่งเสียงดังขึ้นเสียงดนตรีไม่ดังมาก แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตคำว่าดังอยู่“นี่คุณอยู่ร้านเหล้าหรือ?” เขาเอ่ยถามเนื่องจากได้ยินเสียงคนรอบข้างร้องเพลงที่พวกเขาชื่นชอบกันเสียงดัง“ก็ประมาณนั้นค่ะ”“เมาหรือเปล่า?”“แค่มึน ๆ” ฉันตอบคำถาม ที่จริงฉันตั้งใจจะดื่มให้ภาพตัดไปเลย“แล้วมีคนขับรถที่ไว้ใจได้แล้วหรือยังครับ?ฉันแอบหัวเราะให้กับมุกนั้น เขาสวมบทบาทคุณตำรวจแสนดีอยู่ และฉันชื่นชอบเป็นอย่างมาก ฉันชอบที่เขาใส่ไว้ว่าฉันจะกลับบ้านอย่างไรด้วย“ยังเลยค่ะ คิดว่าจะนั่งแท็กซี่กลับ” ฉันตอบกลับ“ไม่ได้ ห้ามนั่ง ขอผมสิบนาที” เขาเอ่ยก่อนกดวางสายไปฉันขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ตนเองพลางสงสัยว่าทำไมอีธานถึงบอกเช่นนั้นออกมา เมื่อคิดได้ว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดนั้น ฉันจึงปล่อยเรื่องนั้นไป วันนี้สิ่งที่ฉันต้องทำคือลืมทุกเรื่องและสนุกให้สุดเหวี่ยงฉันไม่รู้เลยว่าผ่านไปนานเท่าใดแล้วเมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ข้างฉัน ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองและรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าสายตาสีฟ้าคู่งามของอีธานกำลังจ้องมองฉันอยู่“อีธาน คุณมาได้ไงเนี่ย?” ฉันเอ่ยถามด้วยความรู้สึกงุน
เมื่อเก้าปีก่อนเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแสดงว่ามีการแจ้งเตือนใหม่ ซึ่งทำให้ฉันลืมตาตื่นจากการนอนหลับอย่างไม่เต็มตื่น ฉันไม่สามารถนอนหลับได้เต็มตามาสองปีด้วยเหตุผลบางประการส่วนหนึ่งของฉันบอกว่าสาเหตุนั้นมาจากโรแวน หัวใจและสมองไม่ได้รู้สึกสงบเลยเพราะเขาไม่ได้อยู่ข้างกายอีกแล้ว การที่ฉันไม่ได้พักผ่อนอย่างดีนั้นเริ่มต้นมาจากช่วงที่เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อสองปีก่อน ช่วงที่เขาต้องเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้น ฉันแทบจะนอนไม่หลับเลย แต่ในช่วงวันหยุดที่เขากลับมาบ้าน ฉันหลับได้อย่างกับเด็กน้อยฉันส่งเสียงโอดครวญออกมาเพราะนี่ก็เป็นอีกคืนที่นอนไม่หลับ จากนั้นลุกขึ้นดูโทรศัพท์ ฉันรู้สึกแปลกใจ แต่เพียงแวบเดียวความสุขก็เข้ามาแทนที่เมื่อเห็นว่าการแจ้งเตือนนั้นคืออะไรฉันจ่ายเงินจ้างให้คนช่วยติดตั้งแอปพลิเคชันที่ช่วยติดตามโรแวนไปด้วยตลอดทุกหนทุกหน ตอนนี้มันแจ้งเตือนว่าเขาอยู่บ้านฉันกระโดดลงจากเตียงและรีบแต่งตัว เขาอาจกลับมาพร้อมกับเอมม่า หรือทราวิสหรืออาจเป็นเกเบรียลก็เป็นได้ แต่ใครสนกันเล่า ฉันเพียงต้องการพบหน้าเขาแม้ว่าจะแค่มองอยู่ห่าง ๆ ก็ตามทันทีที่ฉันแต่งตัวเสร็จ สายตาก็แอบเหลือบมองออ