แชร์

บทที่ 49

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ฉันลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่น มือของฉันถูกมัดไว้กับพนักเก้าอี้

“อ่า ตื่นสักที ฉันกำลังสงสัยพอดีว่าเธอจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะตื่น เพราะยังไงฉันก็อยากให้เหยื่อของฉันมีสติก่อนที่ฉันจะลงมือฆ่า” เสียงของชายคนนั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัว

เขาเดินอ้อมมาและฉันก็ได้เห็นเขา อย่างน้อยก็บางส่วนของเขาเพราะเขาปิดหน้าเอาไว้ เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่และบึกบึน แขนของเขาเพียงข้างเดียวดูเหมือนว่าจะสามารถบดขยี้หัวคนให้แหลกได้ เขาเผยถึงความอันตรายและไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ฉันเป็นเหยื่อของเขา แค่มีบางอย่างที่น่าหวาดกลัวอยู่ในตัวเขา

เขานั่งลงตรงหน้าฉันพร้อมกับถือแก้วไวน์ในมือ แก้วของฉันและไวน์ของฉัน เขาดูสบายใจมากราวกับว่านี่คือบ้านของตน

ฉันพยายามดิ้นรนหนี แต่เชือกก็รัดแน่น

“เธอสามารถพยายามดิ้นได้ตามต้องการเลย แต่คราวนี้เธอจะหนีจากฉันไม่ได้แน่” เขาหัวเราะ “เธอทำให้ฉันมีปัญหามากพอแล้ว และฉันไม่ชอบปัญหา”

“คุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉัน?” ฉันถามเขา

บางทีถ้าฉันทำให้เขาพูดได้ ฉันอาจจะได้อะไรบางอย่างจากเขาและซื้อเวลาให้ตัวเองได้บ้าง ไม่มีทางที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีคนบุกรุกบ้านของฉันใช่ไหม?

“เอาเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 50

    “เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการหนีฉันมันจะง่ายขนาดนั้น?” เขาเยาะเย้ยฉันยกขาทั้งสองข้างขึ้นและยกเข่าอัดลูกอัณฑะของเขา ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมา ฉันวิ่งหนีออกไปอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน ฉันแค่จะหนีไปให้พ้นแค่นั้นเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่นานหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือมาคว้าข้อเท้าไว้ เขากระชากจนฉันล้มลงอย่างแรง คางของฉันกระแทกกับพื้น เขาพุ่งมาถึงตัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ“นางนี่!” เขาร้องตะโกนก่อนจะตบหน้าฉันอย่างแรงชั่วขณะนั้น ฉันมึนงงและสายตาก็พร่ามัว การถูกผู้ชายตบมันเจ็บสาหัสมาก“ยิ่งเธอทำให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันจะยิ่งเล่นสนุกกับเธอให้หนำใจก่อนที่จะฆ่าเธอ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายฉันไม่จำเป็นต้องมีคนมาช่วยแปลเพื่อตีความว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกถึงมือของเขาที่สะโพกของฉันขณะที่เขาพยายามดึงกางเกงนอนของฉันลง ความกลัวเข้าปกคลุมฉัน ฉันจะตายแบบนี้เหรอ? ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในบ้านของตัวเองฉันต่อสู้กับเขาแต่เขาตรึงมือของฉันไว้ที่ด้านข้าง ฉันก็ยังไม่หยุดดิ้นรนต่อสู้“ได้โปรดหยุดเถอะ ถ้าคุณต้องการเงิน ฉันสามารถให้คุณได้” ฉันวิงวอนตอนนี้มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 51

    โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั

  • ธุลีใจ   บทที่ 52

    “โอเค” เธอตอบและลืมตาขึ้นไบรอันพูดแทรก “ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ระหว่างนี้คุณจะว่าอะไรไหมหากผมขอถามคุณสักสองสามคำถาม?”เอวาส่ายหัวแล้วเบ้หน้าบ้าเอ๊ย! ผมลูบผมตัวเอง เธอกำลังเจ็บปวดและมันทำผมแทบบ้า“ครับ คุณช่วยอธิบายให้ผมได้ไหมว่าผู้ชายที่ทำร้ายคุณหน้าตาเป็นยังไง?” ไบรอันถามเธอเธอหายใจเข้าลึก ๆ “เขาใส่หน้ากาก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่เขามีผมสีน้ำตาลรุงรัง ค่อนข้างสูง อาจจะประมาณหกฟุต และเขาก็มีรูปร่างล่ำหนา”“มีอะไรอีกไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ… มีแค่นั้น”“เขาได้พูดอะไรไหม? เช่นทำไมเขาถึงตามล่าคุณ?”“พูดค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งค์ไหน แต่มีคนสัญญาว่าจะจ่ายเงินก้อนโตให้เขาถ้าเขาฆ่าฉันได้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าเขาทำงานให้ใคร” มือของเธอสั่นไปหมดเมื่อเธอพูดจบยิ่งผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ่งกลัวและโกรธมาก ผมไม่อยากนึกภาพว่ามีคนตามล่าเธอ แต่หลักฐานก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว“หมายความว่าผมคิดถูกแล้ว การโจมตีเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำข่มขู่ที่คุกคามทั้งสองครอบครัว ซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นตามล่าเธออยู่” ไบรอันดูจะพูดกับตัวเองมากกว่ากับพวกเรา“แต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 53

    มุมมองของผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนถ้าบอกว่าฉันโกรธมากยังถือว่าน้อยไป ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไรแล้ว ฉันโกรธจนแทบคลั่ง เธอหนีพ้นมือฉันไปได้อีกครั้ง เธอรอดชีวิตมาได้อีกครั้งทั้งที่เธอควรจะตายไปแล้ว“บอกฉันทีว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง?” ฉันถามเบ็น“ผมสาบานว่าครั้งนี้ผมเกือบจัดการได้แล้ว ผมเกือบจะฆ่าเธอได้สำเร็จแต่ไอ้บอดี้การ์ดสารเลวของเธอช่วยเธอไว้ได้” เขาบ่นพึมพำไอ้หมอนี่คิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจากข้อแก้ตัวจากเขาตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการนี้ สามครั้งที่เขาฆ่าเธอไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้เขา ลองนึกดูว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เขาแล้วเขายังจัดการเธอไม่สำเร็จสิเขาจะได้รับเงินห้าล้านบาทถ้าเขาทำงานสำเร็จ เงินจำนวนนั้นน่าจะทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำงานของเขาให้เสร็จภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันจิบวิสกี้ไปหนึ่งอึก ความรู้สึกหงุดหงิดท่วมท้น“จริงเหรอ? คุณเกือบจะจัดการเธอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่คุณเลือดออกเหรอ?” ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกโกรธมากขึ้นทุกนาทีที่คุยกับไอ้โง่นั่น“ผมสัญญาว่าจะจัดการเธอให้ได

  • ธุลีใจ   บทที่ 54

    เอวาฉันยังต้องรักษาตัวจากการถูกทำร้าย ฉันได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ และฉันต้องการให้เรื่องนี้จบลงเสียที มีคนพยายามฆ่าฉันถึงสามครั้งและฉันรอดชีวิตมาได้ทั้งสามครั้ง ฉันไม่รู้ว่าโชคของฉันจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ใครก็ตามที่ต้องการฆ่าฉันดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ได้พบกับโนอาอีกฉันตัวสั่นเมื่อนึกถึงว่าฉันเกือบจะได้พบกับพระเจ้าแล้ว หมอนั่นเข้ามาในบ้านของฉัน เขาตั้งใจจะข่มขืนฉันก่อนที่จะฆ่า ฉันน้ำตาคลอเบ้าและใช้พลังทั้งหมดเพื่ออดกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาฉันร้องไห้มามากพอแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันเบื่อกับมันแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมคนคนหนึ่งถึงอยากให้ฉันตาย? ฉันไม่ได้ทำผิดกับใครเลยยกเว้นเอมม่า แม้แต่กับเธอก็เถอะตอนนี้เธอก็ได้อยู่กับโรแวนแล้ว ดังนั้นบาปที่ฉันทำลงไปก็น่าจะจบไปแล้ว ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันตอนนี้เลยความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือพวกเขาจะทำสำเร็จ นั่นหมายความว่าฉันจะไม่ได้เห็นลูกชายของฉันเติบโต ฉันจะพลาดช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาไปทั้งหมดและมันทำให้ฉันเสียใจ การคิดถึงอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นทำให้หัวใจของฉันแตกสลายเป็นล้า

  • ธุลีใจ   บทที่ 55

    “คริสติน เธอทำทุกอย่างเพื่อเขี่ยฉันให้พ้นทางเพราะคิดว่าโรแวนจะสนใจเธอ แม้แต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะล่อลวงเขา แต่เขาไม่เคยตอบสนองเลย ใช่ เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็เป็นภรรยาของเขา ในขณะที่เธอเป็นแค่เลขานุการที่เขาไม่สนใจ ดังนั้นฉันขอถามกลับหน่อย รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันเป็นผู้หญิงของเขา? เขาจะไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเลขานุการของเขา รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเขาไม่มีวันจะมองเธอเป็นผู้หญิง? รู้สึกอย่างไรที่เขาชอบมีเซ็กส์กับฉันแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน มากกว่าที่จะรับเธอเป็นเมียน้อยของเขา? และรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วเพราะเอมม่ากลับมาแล้ว” ฉันยิ้มเยาะพลางรู้สึกมีความสุขที่ในที่สุดก็ได้พูดมันออกมา“นังอัปลักษณ์!” เธอตวาดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฉันฉันหลบเธอได้ทันเวลาและเธอก็สะดุดรองเท้าส้นสูงที่แพงมากของตัวเอง เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉันใหม่ ฉันไม่คิดมากตอนที่หยิบกล่องนมในรถเข็นมาขว้างใส่เธอฉันมองดูชุดเธอที่เปียกโชก เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกใจ เรื่องจากนั้นฉันคงอธิบายได้แค่ว่าเราตีกันจ้าละหวั่น เธอพุ่งเข้าใส

  • ธุลีใจ   บทที่ 56

    “เอวา นี่คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้จริง ๆ?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความกังวลฉันเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนของโนอา วันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีและฉันก็ต้องไปพบโรแวนที่นั่นด้วยเล็ตตี้โทรมาถามว่าเราจะไปสังสรรค์กันได้ไหมเพราะว่าเราทั้งสองไม่เจอกันสักพักหนึ่งแล้ว ตอนที่ฉันเจอเรื่องเลวร้ายนั่น เล็ตตี้เดินทางไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับทราวิสที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เธอเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง“แน่ใจสิ ฉันคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดใจได้จากโรแวน ที่อยากจะพูดก็คือฉันจะไปรักใครคนอื่นได้ยังไงถ้ายังจมอยู่กับมันแล้วไม่หาใครคนใหม่เสียที?”ฉันเล่าเรื่องที่ฉันกับอีธานจูบกันให้เล็ตตี้ฟังแล้ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราก็จูบกันอีกอยู่บ้าง กระนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่เกินเลยไปมากกว่านี้“ก็จริง แต่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรือ…นี่คุณรู้จักเขานานแค่ไหนแล้ว?” เล็ตตี้ขัดจังหวะความคิดของฉัน“ก็ประมาณสามเดือนได้…เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะไม่ชอบเขาแล้วเล่า? เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนยังยุให้ฉันคบกับเขาอยู่เลย แถมยังทำตัวดี๊ด๊าอยากรู้ว่าพวกเราจูบกันตอนเดตแรกหรือเปล่าอีก

  • ธุลีใจ   บทที่ 57

    แล้วฉันต้องการสิ่งใดเล่า? ฉันเพียงแค่หลอกใช้หรือต้องการเขาจากใจจริง? ฉันไม่ต้องทำให้เรื่องนี้รวมถึงตัวฉันเองยุ่งยากไปมากกว่านี้แล้ว เรื่องที่จะตัดใจจากโรแวนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าฉันกำลังเดินไปถูกทางใช่หรือเปล่า?ฉันอยากให้อีธานเจ็บปวด โดยเฉพาะถ้าเขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับฉันจริง ๆ แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเป็นปัญหาได้ อีธานสามารถทำให้ฉันลืมโรแวนและความรักที่ฉันมีต่อโรแวนไปได้ ฉันกลัวเหลือเกินว่านี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฉันชอบเขาแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันแย่จริงเหรอ? เราเพียงต้องการใครสักคนเพื่อตอบสนองเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แล้วมันผิดหรืออย่างไรหากฉันต้องการอีธานเพราะเขาสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายไปได้?เสียงแดรจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันจมอยู่ในห้วงความคิดมากเสียจนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนโนอาแล้วฉันขับเข้าไปในที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์และเดินลงมา สายตากวาดมองรถยนต์หรูจอดเรียงรายอยู่ ฉันก้าวเดินตรงไปและสังเกตเห็นได้ว่าผู้ปกครองบางคนส่งสายตาดูถูกมาที่ฉัน แน่นอนรถของฉันไ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

  • ธุลีใจ   บทที่ 453

    คุณเคยโดนคำพูดของใครบางคนทำให้สมองหยุดทำงานไปเลยไหม? แบบที่ทำให้คุณทั้งพูดไม่ออกและตื้อไปเลย? นั่นคือสิ่งที่คำพูดของเขาทำกับฉันฉันตกตะลึงกับคำพูดของเขา คำพูดที่ทำให้ร่างกายฉันสั่นสะท้าน ฉันเห็นได้จากแววตาของเขาและได้ยินมันจากน้ำเสียงของเขา เขาจริงจังอย่างถึงที่สุดและเขากำลังให้คำสัญญา คำสัญญาที่เขามุ่งมั่นว่าจะทำให้เป็นจริงให้ได้เจอแบบนี้แล้วเราจะพูดอะไรได้? จะตอบกลับอย่างไร? จะตอบอะไรได้บ้าง?ด้านนี้ของเขาเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับฉันโดยสิ้นเชิง ช่วยเอาเกเบรียลที่หยาบคายและทำร้ายจิตใจคนนั้นกลับมาเถอะ อย่างน้อยฉันรู้ว่าควรจัดการกับเขาอย่างไร แต่แบบนี้น่ะเหรอ? ฉันไปไม่ถูกเลยเมื่อต้องเผชิญกับเขา ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าจะรับมือหรือจัดการกับเขายังไงดีฉันเข้ามาในชีวิตแต่งงานนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ฉันรู้ว่ากำลังก้าวเข้าสู่อะไร ฉันเตรียมตัวมาดีแล้ว... แต่ตอนนี้ เขากลับเปลี่ยนกฎทุกอย่างและทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติดฉันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย และมันจะต้องจบลงด้วยหายนะอย่างแน่นอน เพราะฉันไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้เลยความคิดฉันสับสนวุ่นวายเมื่อสายตาของเขาจ้องลึกซึ้งกว่าเด

  • ธุลีใจ   บทที่ 452

    เขาก้าวไปที่บาร์เล็ก ๆ มุมห้อง แล้วหยิบถุงน้ำแข็งขนาดเล็กออกมาพร้อมห่อด้วยผ้าขนหนู ก่อนจะกลับมาหาฉัน เขาจับมือฉันเบา ๆ แล้ววางถุงน้ำแข็งไว้บนมือ“เจ็บมากไหม?” เขาเอ่ยถามด้วยความอ่อนโยนมากเสียงจนฉันได้ยินไม่ถนัดหู“นิดหน่อย”“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าคุณจะกล้าต่อยคนอื่นแบบนี้”ฉันหัวเราะเพราะฉันเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะทำแบบนี้เหมือนกัน “มันเหลืออดเลยไม่ทันได้คิดอะไรให้ดีก่อนน่ะค่ะ ฉันขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้ ฉันไม่ควรไปต่อยเธอแบบนั้นเลย จบกันแล้วภาพลักษณ์แสนดีในฐานะภรรยาประธาน”เขาเอนตัวเข้ามาใกล้และจ้องตาฉัน“คุณไม่ต้องขอโทษเวลาที่ทำอะไรเพื่อป้องกันตัวหรือยืนหยัดเพื่อตัวเองนะ ฮาร์เปอร์ แล้วคุณก็เป็นภรรยาผม พวกเขาต้องรู้เอาไว้ว่าไม่ควรมาล้ำเส้นคุณ”“ฉันแค่ไม่เข้าใจ คุณเคยนอนกับเธอมาก่อนไหม?” ฉันโพล่งคำถามออกไป“ไม่เคย!” เขาคำราม“แล้วทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับคุณขนาดนั้นล่ะ? ตลอดเวลาที่มีเรื่องกันเธอเอาแต่บอกให้ฉันอยู่ห่างจากคุณทั้งนั้น เธอทำตัวเหมือนว่าคุณเป็นของเธออะไรแบบนั้นเลย”เขาแค่นเสียงดังจนทำให้ฉันหันหน้าไปมอง คิ้วขมวดเป็นปมด้วยความรังเกียจราวกับว่าเพิ่งจะได้ยินเรื่องที่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status