“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการหนีฉันมันจะง่ายขนาดนั้น?” เขาเยาะเย้ยฉันยกขาทั้งสองข้างขึ้นและยกเข่าอัดลูกอัณฑะของเขา ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมา ฉันวิ่งหนีออกไปอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน ฉันแค่จะหนีไปให้พ้นแค่นั้นเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่นานหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือมาคว้าข้อเท้าไว้ เขากระชากจนฉันล้มลงอย่างแรง คางของฉันกระแทกกับพื้น เขาพุ่งมาถึงตัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ“นางนี่!” เขาร้องตะโกนก่อนจะตบหน้าฉันอย่างแรงชั่วขณะนั้น ฉันมึนงงและสายตาก็พร่ามัว การถูกผู้ชายตบมันเจ็บสาหัสมาก“ยิ่งเธอทำให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันจะยิ่งเล่นสนุกกับเธอให้หนำใจก่อนที่จะฆ่าเธอ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายฉันไม่จำเป็นต้องมีคนมาช่วยแปลเพื่อตีความว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกถึงมือของเขาที่สะโพกของฉันขณะที่เขาพยายามดึงกางเกงนอนของฉันลง ความกลัวเข้าปกคลุมฉัน ฉันจะตายแบบนี้เหรอ? ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในบ้านของตัวเองฉันต่อสู้กับเขาแต่เขาตรึงมือของฉันไว้ที่ด้านข้าง ฉันก็ยังไม่หยุดดิ้นรนต่อสู้“ได้โปรดหยุดเถอะ ถ้าคุณต้องการเงิน ฉันสามารถให้คุณได้” ฉันวิงวอนตอนนี้มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของฉ
โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั
“โอเค” เธอตอบและลืมตาขึ้นไบรอันพูดแทรก “ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ระหว่างนี้คุณจะว่าอะไรไหมหากผมขอถามคุณสักสองสามคำถาม?”เอวาส่ายหัวแล้วเบ้หน้าบ้าเอ๊ย! ผมลูบผมตัวเอง เธอกำลังเจ็บปวดและมันทำผมแทบบ้า“ครับ คุณช่วยอธิบายให้ผมได้ไหมว่าผู้ชายที่ทำร้ายคุณหน้าตาเป็นยังไง?” ไบรอันถามเธอเธอหายใจเข้าลึก ๆ “เขาใส่หน้ากาก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่เขามีผมสีน้ำตาลรุงรัง ค่อนข้างสูง อาจจะประมาณหกฟุต และเขาก็มีรูปร่างล่ำหนา”“มีอะไรอีกไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ… มีแค่นั้น”“เขาได้พูดอะไรไหม? เช่นทำไมเขาถึงตามล่าคุณ?”“พูดค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งค์ไหน แต่มีคนสัญญาว่าจะจ่ายเงินก้อนโตให้เขาถ้าเขาฆ่าฉันได้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าเขาทำงานให้ใคร” มือของเธอสั่นไปหมดเมื่อเธอพูดจบยิ่งผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ่งกลัวและโกรธมาก ผมไม่อยากนึกภาพว่ามีคนตามล่าเธอ แต่หลักฐานก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว“หมายความว่าผมคิดถูกแล้ว การโจมตีเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำข่มขู่ที่คุกคามทั้งสองครอบครัว ซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นตามล่าเธออยู่” ไบรอันดูจะพูดกับตัวเองมากกว่ากับพวกเรา“แต่
มุมมองของผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนถ้าบอกว่าฉันโกรธมากยังถือว่าน้อยไป ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไรแล้ว ฉันโกรธจนแทบคลั่ง เธอหนีพ้นมือฉันไปได้อีกครั้ง เธอรอดชีวิตมาได้อีกครั้งทั้งที่เธอควรจะตายไปแล้ว“บอกฉันทีว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง?” ฉันถามเบ็น“ผมสาบานว่าครั้งนี้ผมเกือบจัดการได้แล้ว ผมเกือบจะฆ่าเธอได้สำเร็จแต่ไอ้บอดี้การ์ดสารเลวของเธอช่วยเธอไว้ได้” เขาบ่นพึมพำไอ้หมอนี่คิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจากข้อแก้ตัวจากเขาตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการนี้ สามครั้งที่เขาฆ่าเธอไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้เขา ลองนึกดูว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เขาแล้วเขายังจัดการเธอไม่สำเร็จสิเขาจะได้รับเงินห้าล้านบาทถ้าเขาทำงานสำเร็จ เงินจำนวนนั้นน่าจะทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำงานของเขาให้เสร็จภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันจิบวิสกี้ไปหนึ่งอึก ความรู้สึกหงุดหงิดท่วมท้น“จริงเหรอ? คุณเกือบจะจัดการเธอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่คุณเลือดออกเหรอ?” ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกโกรธมากขึ้นทุกนาทีที่คุยกับไอ้โง่นั่น“ผมสัญญาว่าจะจัดการเธอให้ได
เอวาฉันยังต้องรักษาตัวจากการถูกทำร้าย ฉันได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ และฉันต้องการให้เรื่องนี้จบลงเสียที มีคนพยายามฆ่าฉันถึงสามครั้งและฉันรอดชีวิตมาได้ทั้งสามครั้ง ฉันไม่รู้ว่าโชคของฉันจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ใครก็ตามที่ต้องการฆ่าฉันดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ได้พบกับโนอาอีกฉันตัวสั่นเมื่อนึกถึงว่าฉันเกือบจะได้พบกับพระเจ้าแล้ว หมอนั่นเข้ามาในบ้านของฉัน เขาตั้งใจจะข่มขืนฉันก่อนที่จะฆ่า ฉันน้ำตาคลอเบ้าและใช้พลังทั้งหมดเพื่ออดกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาฉันร้องไห้มามากพอแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันเบื่อกับมันแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมคนคนหนึ่งถึงอยากให้ฉันตาย? ฉันไม่ได้ทำผิดกับใครเลยยกเว้นเอมม่า แม้แต่กับเธอก็เถอะตอนนี้เธอก็ได้อยู่กับโรแวนแล้ว ดังนั้นบาปที่ฉันทำลงไปก็น่าจะจบไปแล้ว ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันตอนนี้เลยความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือพวกเขาจะทำสำเร็จ นั่นหมายความว่าฉันจะไม่ได้เห็นลูกชายของฉันเติบโต ฉันจะพลาดช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาไปทั้งหมดและมันทำให้ฉันเสียใจ การคิดถึงอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นทำให้หัวใจของฉันแตกสลายเป็นล้า
“คริสติน เธอทำทุกอย่างเพื่อเขี่ยฉันให้พ้นทางเพราะคิดว่าโรแวนจะสนใจเธอ แม้แต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะล่อลวงเขา แต่เขาไม่เคยตอบสนองเลย ใช่ เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็เป็นภรรยาของเขา ในขณะที่เธอเป็นแค่เลขานุการที่เขาไม่สนใจ ดังนั้นฉันขอถามกลับหน่อย รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันเป็นผู้หญิงของเขา? เขาจะไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเลขานุการของเขา รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเขาไม่มีวันจะมองเธอเป็นผู้หญิง? รู้สึกอย่างไรที่เขาชอบมีเซ็กส์กับฉันแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน มากกว่าที่จะรับเธอเป็นเมียน้อยของเขา? และรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วเพราะเอมม่ากลับมาแล้ว” ฉันยิ้มเยาะพลางรู้สึกมีความสุขที่ในที่สุดก็ได้พูดมันออกมา“นังอัปลักษณ์!” เธอตวาดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฉันฉันหลบเธอได้ทันเวลาและเธอก็สะดุดรองเท้าส้นสูงที่แพงมากของตัวเอง เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉันใหม่ ฉันไม่คิดมากตอนที่หยิบกล่องนมในรถเข็นมาขว้างใส่เธอฉันมองดูชุดเธอที่เปียกโชก เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกใจ เรื่องจากนั้นฉันคงอธิบายได้แค่ว่าเราตีกันจ้าละหวั่น เธอพุ่งเข้าใส
“เอวา นี่คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้จริง ๆ?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความกังวลฉันเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนของโนอา วันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีและฉันก็ต้องไปพบโรแวนที่นั่นด้วยเล็ตตี้โทรมาถามว่าเราจะไปสังสรรค์กันได้ไหมเพราะว่าเราทั้งสองไม่เจอกันสักพักหนึ่งแล้ว ตอนที่ฉันเจอเรื่องเลวร้ายนั่น เล็ตตี้เดินทางไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับทราวิสที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เธอเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง“แน่ใจสิ ฉันคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดใจได้จากโรแวน ที่อยากจะพูดก็คือฉันจะไปรักใครคนอื่นได้ยังไงถ้ายังจมอยู่กับมันแล้วไม่หาใครคนใหม่เสียที?”ฉันเล่าเรื่องที่ฉันกับอีธานจูบกันให้เล็ตตี้ฟังแล้ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราก็จูบกันอีกอยู่บ้าง กระนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่เกินเลยไปมากกว่านี้“ก็จริง แต่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรือ…นี่คุณรู้จักเขานานแค่ไหนแล้ว?” เล็ตตี้ขัดจังหวะความคิดของฉัน“ก็ประมาณสามเดือนได้…เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะไม่ชอบเขาแล้วเล่า? เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนยังยุให้ฉันคบกับเขาอยู่เลย แถมยังทำตัวดี๊ด๊าอยากรู้ว่าพวกเราจูบกันตอนเดตแรกหรือเปล่าอีก
แล้วฉันต้องการสิ่งใดเล่า? ฉันเพียงแค่หลอกใช้หรือต้องการเขาจากใจจริง? ฉันไม่ต้องทำให้เรื่องนี้รวมถึงตัวฉันเองยุ่งยากไปมากกว่านี้แล้ว เรื่องที่จะตัดใจจากโรแวนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าฉันกำลังเดินไปถูกทางใช่หรือเปล่า?ฉันอยากให้อีธานเจ็บปวด โดยเฉพาะถ้าเขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับฉันจริง ๆ แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเป็นปัญหาได้ อีธานสามารถทำให้ฉันลืมโรแวนและความรักที่ฉันมีต่อโรแวนไปได้ ฉันกลัวเหลือเกินว่านี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฉันชอบเขาแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันแย่จริงเหรอ? เราเพียงต้องการใครสักคนเพื่อตอบสนองเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แล้วมันผิดหรืออย่างไรหากฉันต้องการอีธานเพราะเขาสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายไปได้?เสียงแดรจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันจมอยู่ในห้วงความคิดมากเสียจนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนโนอาแล้วฉันขับเข้าไปในที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์และเดินลงมา สายตากวาดมองรถยนต์หรูจอดเรียงรายอยู่ ฉันก้าวเดินตรงไปและสังเกตเห็นได้ว่าผู้ปกครองบางคนส่งสายตาดูถูกมาที่ฉัน แน่นอนรถของฉันไ
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร