“คริสติน เธอทำทุกอย่างเพื่อเขี่ยฉันให้พ้นทางเพราะคิดว่าโรแวนจะสนใจเธอ แม้แต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะล่อลวงเขา แต่เขาไม่เคยตอบสนองเลย ใช่ เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็เป็นภรรยาของเขา ในขณะที่เธอเป็นแค่เลขานุการที่เขาไม่สนใจ ดังนั้นฉันขอถามกลับหน่อย รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันเป็นผู้หญิงของเขา? เขาจะไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเลขานุการของเขา รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเขาไม่มีวันจะมองเธอเป็นผู้หญิง? รู้สึกอย่างไรที่เขาชอบมีเซ็กส์กับฉันแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน มากกว่าที่จะรับเธอเป็นเมียน้อยของเขา? และรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วเพราะเอมม่ากลับมาแล้ว” ฉันยิ้มเยาะพลางรู้สึกมีความสุขที่ในที่สุดก็ได้พูดมันออกมา“นังอัปลักษณ์!” เธอตวาดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฉันฉันหลบเธอได้ทันเวลาและเธอก็สะดุดรองเท้าส้นสูงที่แพงมากของตัวเอง เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉันใหม่ ฉันไม่คิดมากตอนที่หยิบกล่องนมในรถเข็นมาขว้างใส่เธอฉันมองดูชุดเธอที่เปียกโชก เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกใจ เรื่องจากนั้นฉันคงอธิบายได้แค่ว่าเราตีกันจ้าละหวั่น เธอพุ่งเข้าใส
“เอวา นี่คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้จริง ๆ?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความกังวลฉันเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนของโนอา วันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีและฉันก็ต้องไปพบโรแวนที่นั่นด้วยเล็ตตี้โทรมาถามว่าเราจะไปสังสรรค์กันได้ไหมเพราะว่าเราทั้งสองไม่เจอกันสักพักหนึ่งแล้ว ตอนที่ฉันเจอเรื่องเลวร้ายนั่น เล็ตตี้เดินทางไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับทราวิสที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เธอเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง“แน่ใจสิ ฉันคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดใจได้จากโรแวน ที่อยากจะพูดก็คือฉันจะไปรักใครคนอื่นได้ยังไงถ้ายังจมอยู่กับมันแล้วไม่หาใครคนใหม่เสียที?”ฉันเล่าเรื่องที่ฉันกับอีธานจูบกันให้เล็ตตี้ฟังแล้ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราก็จูบกันอีกอยู่บ้าง กระนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่เกินเลยไปมากกว่านี้“ก็จริง แต่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรือ…นี่คุณรู้จักเขานานแค่ไหนแล้ว?” เล็ตตี้ขัดจังหวะความคิดของฉัน“ก็ประมาณสามเดือนได้…เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะไม่ชอบเขาแล้วเล่า? เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนยังยุให้ฉันคบกับเขาอยู่เลย แถมยังทำตัวดี๊ด๊าอยากรู้ว่าพวกเราจูบกันตอนเดตแรกหรือเปล่าอีก
แล้วฉันต้องการสิ่งใดเล่า? ฉันเพียงแค่หลอกใช้หรือต้องการเขาจากใจจริง? ฉันไม่ต้องทำให้เรื่องนี้รวมถึงตัวฉันเองยุ่งยากไปมากกว่านี้แล้ว เรื่องที่จะตัดใจจากโรแวนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าฉันกำลังเดินไปถูกทางใช่หรือเปล่า?ฉันอยากให้อีธานเจ็บปวด โดยเฉพาะถ้าเขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับฉันจริง ๆ แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเป็นปัญหาได้ อีธานสามารถทำให้ฉันลืมโรแวนและความรักที่ฉันมีต่อโรแวนไปได้ ฉันกลัวเหลือเกินว่านี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฉันชอบเขาแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันแย่จริงเหรอ? เราเพียงต้องการใครสักคนเพื่อตอบสนองเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แล้วมันผิดหรืออย่างไรหากฉันต้องการอีธานเพราะเขาสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายไปได้?เสียงแดรจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันจมอยู่ในห้วงความคิดมากเสียจนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนโนอาแล้วฉันขับเข้าไปในที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์และเดินลงมา สายตากวาดมองรถยนต์หรูจอดเรียงรายอยู่ ฉันก้าวเดินตรงไปและสังเกตเห็นได้ว่าผู้ปกครองบางคนส่งสายตาดูถูกมาที่ฉัน แน่นอนรถของฉันไ
ฉันอยากจะเอื้อมมือไปกอดลูกไว้ แต่เขากลับอยู่ห่างออกไปตั้งหลายพันกิโล“แม่ขอโทษด้วยนะลูก…พ่อเขาอาจติดงานด่วนก็ได้นะ”“แต่พ่อสัญญากับผมแล้วนี่!” เด็กน้อยตะโกนผ่านหน้าจอ “พ่อบอกแล้วว่าพ่อจะไม่ผิดสัญญากับผม แต่พ่อก็ผิดสัญญาแล้ว” โนอาร้องไห้งอแงซึ่งทำให้ฉันเจ็บปวดใจอยู่ไม่น้อยแม่ของฉันและจอยซ์ แม่ของโรแวนรีบเข้ามาปลอบประโลมหลานชาย ฉันปรารถนาจะไปอยู่ตรงนั้นเหลือเกิน แต่ฉันแสนเจ็บปวดที่ทำไม่ได้“เดี๋ยวพ่อเขาต้องหาอะไรมาไถ่โทษเรื่องนี้แน่จ้ะ ลูกรัก…ลูกก็รู้ว่าพ่อรักลูกมากขนาดไหน พ่อเขาไม่มีทางผิดสัญญาแน่จ้ะ” ฉันพยายามปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยเด็กน้อยไม่ได้ตอบโต้สิ่งใดกลับมา เพียงจ้องมองไปยังความว่างเปล่าตรงหน้าด้วยดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมา โนอาเหมือนกับสติหลุดลอยไป เมื่อดูท่าทีที่ไม่ตอบสนองหรือพูดอะไรของเขา จอยซ์จึงบอกว่าพวกเขาจะดูแลหลานชายเอง ก่อนวางสายไปฉันก้าวเดินออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ รถเริ่มบางตาลงไปมากแล้ว ฉันกำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ เป็นเวลาเดียวกับที่รถเมอเซเดสสีดำของโรแวนขับเข้ามาในสายตา เขาจอดรถและเดินลงมาด้วยท่าทีรีบร้อนตรงมาหาฉัน“ผมขอโทษด้วยจริง ๆ ที่มาส
โรแวนผมเอาแต่จ้องมองมือตนเอง แม่ของผมกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “แม่ขอโทษด้วยนะโร แต่โนอาบอกว่าไม่อยากมาคุยกับลูก”ผมไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่เอมม่าบอกเลิกและทิ้งผมไป โนอาโกรธผมเป็นอย่างมากและไม่ยอมรับสายผมเลย เอวาพูดถูก โนอาควรมาก่อนสิ่งใด แต่ผมกลับทำให้เขาต้องผิดหวังผมตัดสินใจพาเอมม่าออกไปเที่ยวพักผ่อนบนเรือยอร์ชเพื่อให้เราทั้งสองได้มีเวลาส่วนตัวพูดคุยกัน เธอไม่มีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าผมทิ้งเธอไปเพราะจะรีบไปหาเอวา นี่เป็นสิ่งที่ผมทำเพื่อชดเชยให้เธอได้ แต่ดันโชคร้ายที่ผมลืมเวลาไปเสียได้แถมโทรศัพท์ก็ยังมาแบตหมดผมไม่เคยเห็นเอวาเดือดดาลเพียงนี้มาก่อน และเมื่อวานนี้เธอกลับทำให้ผมตกตะลึงไม่น้อย สิ่งที่เธอแสดงออกมาว่าเธอยืนหยัดเพื่อโนอาและด่าสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก ในที่สุดเธอก็เข้มแข็งขึ้นมา เป็นเรื่องที่ดีเมื่อเห็นเช่นนั้น“โรแวน?” แม่ของผมเรียกชื่อ “แม่จะวางสายแล้วนะลูก”“อย่างเพิ่งครับ ช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้โนอาหน่อยครับ ผมต้องขอโทษลูกก่อน” โนอาไม่เคยปฏิเสธที่จะคุยกับผมมาก่อนเลย นั่นทำให้ความรู้สึกของผมแตกสลายไป
“เป็นเพราะเอมม่าไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของลูกใช่ไหม?” การที่โนอาตั้งแง่กับเอมม่าอาจเป็นเพราะเธอไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา เขาอาจรู้สึกว่าเธอคนนี้จะเข้ามาแทนที่แม่แท้ ๆ ของตนก็เป็นได้“ผมก็แค่ไม่ชอบ อีกอย่างหนึ่ง เธอเป็นพี่สาวแม่ด้วย มันผิดนะพ่อ” เด็กน้อยเอ่ยความจริงออกมา มันไม่ใช่เหตุบังเอิญไปเสียหน่อยหรือที่โนอาไม่ชอบเอมม่าเช่นเดียวกับเอวา? หรืออาจเป็นเพราะเอวาเป่าหูลูกให้จงเกลียดจงชังเอมม่า? หากเธอทำแบบนั้นผมเองก็ไม่รู้สึกแปลกใจ“ฟังนะ โนอา พ่อกำลังคบกับเอมม่าอยู่จริง และคิดว่าลูกเองก็ควรปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพนะ สักวันพ่ออาจแต่งงานกับเธอ แล้วเธอก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของลูกนะ ลูกต้องชินกับการเห็นเธอไปไหนมาไหนกับพ่อได้แล้วนะ”ผมจำเป็นต้องจัดการสิ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นใจของเด็กน้อย โนอาต้องเข้าใจได้ว่าเอมม่าอยู่ในชีวิตไม่จากไปไหน“ไม่มีวัน” เด็กชายตะโกนใส่โทรศัพท์“โนอา…”“ถ้าพ่อชอบเธอ ก็เชิญชอบไปเลย แต่ขอให้รู้ว่าผมไม่มีวันยอมรับเธอ ผมไม่มีวันชอบเธอ แล้วก็เธอไม่มีวันกลายเป็นแม่ของผมเด็ดขาด” เขาแผดเสียงใส่ก่อนผมจะได้พูดสิ่งใดออกมา เด็กชายกดวางสายไปเสียก่อน ผมจึงกดโทรกลับไปอีกครั้งทันที กระน
เอวาวันนี้ฉันมีความสุขอย่างมาก ไม่เพียงแต่การรับประทานอาหารเย็นกับอีธานจะราบรื่นไปด้วยดี แต่วันพรุ่งนี้ฉันจะได้กลับไปทำงานและวันถัดไปนั่นคือวันเกิดของฉันเองตามที่ฉันคาดการณ์เอาไว้เมื่อวานเสาร์ อีธานนั้นสามารถช่วยให้ฉันลืมได้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเข้าไปในบ้านของเขา ฉันก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเขาทำอาหารได้และไม่ทำให้ผิดหวัง อาหารของเขาอร่อยอย่างไร้ที่ติ ผู้ชายที่ทำอาหารเป็นแถมยังทำให้คุณหัวเราะออกมาได้นั้นแสนพิเศษ ค่ำคืนนั้นกลายเป็นคืนที่มีความสุขและสนุกสนานอย่างมาก สิ่งที่ดีไปยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ฉันยังได้คุยกับโนอาอีกด้วยเด็กน้อยใจเย็นลงเล็กน้อยแล้ว เราพูดคุยกันทุกเรื่องจนไม่มีเรื่องใด ๆ จะคุยกันอีกก่อนลูกชายจะหลับคาโทรศัพท์ไป นี่ถือได้ว่าเป็นฉากสำคัญที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ขณะฉันกำลังอบขนมอยู่นั้น มีใครบางคนเคาะประตูหน้าบ้านอยู่ ฉันอยากรับประทานขนมที่ช่วยให้สบายใจ ดังนั้นคุ๊กกี้และเค้กช็อกโกแลตก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว หลังจากเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือ ฉันเดินไปเปิดประตูเมื่อพบว่ากำลังเผชิญหน้ากับเอมม่าอยู่ ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกตกใจ กระนั้นอีกส่วนหนึ่งก็ไม
“ออกไป!” ฉันลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วไปยังประตูทางเข้าฉันหมดความอดทนกับความไร้สาระของเอมม่าแล้ว วันนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอเข้ามาทำลายความสุขของฉันแน่เธอจึงลุกขึ้นยืนเช่นกัน “อะไร? ไม่ชอบหรือที่ฉันจับไต๋แผนการของเธอทั้งหมด อีกไม่ช้าไม่นานหรอกนะ เดี๋ยวทุกคนก็จะได้รับรู้ว่าเหตุการณ์นั้นมันเป็นเรื่องแหกตา”“นี่โชว์โง่จบหรือยัง?” ฉันเอ่ยถาม “คิดเป็นแต่ว่าฉันเป็นคนจัดฉากเหตุการณ์นั้นขึ้นมา สนใจอยากรู้ว่าฉันคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างไหมเล่า? ฉันคิดว่าเธอนั้นแหละที่คนบงการเรื่องนี้อยู่ ฉันไม่มีศัตรูอยู่ที่ไหนยกเว้นเธอ แล้วใครกันนะที่จะได้ประโยชน์จากการที่ฉันตายไป? อ๋อ เธอไงถ้าไม่มีฉันสักคน ความรักของเธอกับโรแวนก็ไร้ขวากหนาม และไม่ต้องมาทนเห็นหน้าฉันอยู่เรื่อย ๆ เพราะโรแวนจะได้รับสิทธิเลี้ยงดูเพียงผู้เดียว”เอมม่าจ้องมองฉันอย่างตื่นตระหนก ไม่ว่าตื่นตระหนกเพราะฉันล่วงรู้ความจริงนั้นแล้วหรือเพราะฉันกล่าวหาเธอก็ตาม ฉันก็คิดเรื่องราวเหล่านี้มีมูลและทุกเรื่องก็เชื่อมโยงอย่างลงพอดีเอมม่าอาจต้องการให้ฉันตายด้วยสาเหตุสองประการ ประการแรกเพื่อแก้แค้น ประการที่สองคือกำจัดฉันออกจากชีวิตของโรแวนอย่างสิ้นเช