Share

บทที่ 56

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“เอวา นี่คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้จริง ๆ?” เล็ตตี้เอ่ยถามด้วยความกังวล

ฉันเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนของโนอา วันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีและฉันก็ต้องไปพบโรแวนที่นั่นด้วย

เล็ตตี้โทรมาถามว่าเราจะไปสังสรรค์กันได้ไหมเพราะว่าเราทั้งสองไม่เจอกันสักพักหนึ่งแล้ว ตอนที่ฉันเจอเรื่องเลวร้ายนั่น เล็ตตี้เดินทางไปเจรจาเรื่องธุรกิจกับทราวิสที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เธอเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง

“แน่ใจสิ ฉันคิดว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดใจได้จากโรแวน ที่อยากจะพูดก็คือฉันจะไปรักใครคนอื่นได้ยังไงถ้ายังจมอยู่กับมันแล้วไม่หาใครคนใหม่เสียที?”

ฉันเล่าเรื่องที่ฉันกับอีธานจูบกันให้เล็ตตี้ฟังแล้ว ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราก็จูบกันอีกอยู่บ้าง กระนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ที่เกินเลยไปมากกว่านี้

“ก็จริง แต่ไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยหรือ…นี่คุณรู้จักเขานานแค่ไหนแล้ว?” เล็ตตี้ขัดจังหวะความคิดของฉัน

“ก็ประมาณสามเดือนได้…เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะไม่ชอบเขาแล้วเล่า? เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนยังยุให้ฉันคบกับเขาอยู่เลย แถมยังทำตัวดี๊ด๊าอยากรู้ว่าพวกเราจูบกันตอนเดตแรกหรือเปล่าอีก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 57

    แล้วฉันต้องการสิ่งใดเล่า? ฉันเพียงแค่หลอกใช้หรือต้องการเขาจากใจจริง? ฉันไม่ต้องทำให้เรื่องนี้รวมถึงตัวฉันเองยุ่งยากไปมากกว่านี้แล้ว เรื่องที่จะตัดใจจากโรแวนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่สงสัยว่าฉันกำลังเดินไปถูกทางใช่หรือเปล่า?ฉันอยากให้อีธานเจ็บปวด โดยเฉพาะถ้าเขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับฉันจริง ๆ แต่ฉันกลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับเขามากจนเป็นปัญหาได้ อีธานสามารถทำให้ฉันลืมโรแวนและความรักที่ฉันมีต่อโรแวนไปได้ ฉันกลัวเหลือเกินว่านี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ฉันชอบเขาแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้มันแย่จริงเหรอ? เราเพียงต้องการใครสักคนเพื่อตอบสนองเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แล้วมันผิดหรืออย่างไรหากฉันต้องการอีธานเพราะเขาสามารถทำให้ฉันลืมเลือนความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายไปได้?เสียงแดรจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันจมอยู่ในห้วงความคิดมากเสียจนไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าฉันเดินทางมาถึงโรงเรียนโนอาแล้วฉันขับเข้าไปในที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์และเดินลงมา สายตากวาดมองรถยนต์หรูจอดเรียงรายอยู่ ฉันก้าวเดินตรงไปและสังเกตเห็นได้ว่าผู้ปกครองบางคนส่งสายตาดูถูกมาที่ฉัน แน่นอนรถของฉันไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 58

    ฉันอยากจะเอื้อมมือไปกอดลูกไว้ แต่เขากลับอยู่ห่างออกไปตั้งหลายพันกิโล“แม่ขอโทษด้วยนะลูก…พ่อเขาอาจติดงานด่วนก็ได้นะ”“แต่พ่อสัญญากับผมแล้วนี่!” เด็กน้อยตะโกนผ่านหน้าจอ “พ่อบอกแล้วว่าพ่อจะไม่ผิดสัญญากับผม แต่พ่อก็ผิดสัญญาแล้ว” โนอาร้องไห้งอแงซึ่งทำให้ฉันเจ็บปวดใจอยู่ไม่น้อยแม่ของฉันและจอยซ์ แม่ของโรแวนรีบเข้ามาปลอบประโลมหลานชาย ฉันปรารถนาจะไปอยู่ตรงนั้นเหลือเกิน แต่ฉันแสนเจ็บปวดที่ทำไม่ได้“เดี๋ยวพ่อเขาต้องหาอะไรมาไถ่โทษเรื่องนี้แน่จ้ะ ลูกรัก…ลูกก็รู้ว่าพ่อรักลูกมากขนาดไหน พ่อเขาไม่มีทางผิดสัญญาแน่จ้ะ” ฉันพยายามปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยเด็กน้อยไม่ได้ตอบโต้สิ่งใดกลับมา เพียงจ้องมองไปยังความว่างเปล่าตรงหน้าด้วยดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมา โนอาเหมือนกับสติหลุดลอยไป เมื่อดูท่าทีที่ไม่ตอบสนองหรือพูดอะไรของเขา จอยซ์จึงบอกว่าพวกเขาจะดูแลหลานชายเอง ก่อนวางสายไปฉันก้าวเดินออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ รถเริ่มบางตาลงไปมากแล้ว ฉันกำลังจะเดินไปเปิดประตูรถ เป็นเวลาเดียวกับที่รถเมอเซเดสสีดำของโรแวนขับเข้ามาในสายตา เขาจอดรถและเดินลงมาด้วยท่าทีรีบร้อนตรงมาหาฉัน“ผมขอโทษด้วยจริง ๆ ที่มาส

  • ธุลีใจ   บทที่ 59

    โรแวนผมเอาแต่จ้องมองมือตนเอง แม่ของผมกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “แม่ขอโทษด้วยนะโร แต่โนอาบอกว่าไม่อยากมาคุยกับลูก”ผมไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่เอมม่าบอกเลิกและทิ้งผมไป โนอาโกรธผมเป็นอย่างมากและไม่ยอมรับสายผมเลย เอวาพูดถูก โนอาควรมาก่อนสิ่งใด แต่ผมกลับทำให้เขาต้องผิดหวังผมตัดสินใจพาเอมม่าออกไปเที่ยวพักผ่อนบนเรือยอร์ชเพื่อให้เราทั้งสองได้มีเวลาส่วนตัวพูดคุยกัน เธอไม่มีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าผมทิ้งเธอไปเพราะจะรีบไปหาเอวา นี่เป็นสิ่งที่ผมทำเพื่อชดเชยให้เธอได้ แต่ดันโชคร้ายที่ผมลืมเวลาไปเสียได้แถมโทรศัพท์ก็ยังมาแบตหมดผมไม่เคยเห็นเอวาเดือดดาลเพียงนี้มาก่อน และเมื่อวานนี้เธอกลับทำให้ผมตกตะลึงไม่น้อย สิ่งที่เธอแสดงออกมาว่าเธอยืนหยัดเพื่อโนอาและด่าสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก ในที่สุดเธอก็เข้มแข็งขึ้นมา เป็นเรื่องที่ดีเมื่อเห็นเช่นนั้น“โรแวน?” แม่ของผมเรียกชื่อ “แม่จะวางสายแล้วนะลูก”“อย่างเพิ่งครับ ช่วยเอาโทรศัพท์ไปให้โนอาหน่อยครับ ผมต้องขอโทษลูกก่อน” โนอาไม่เคยปฏิเสธที่จะคุยกับผมมาก่อนเลย นั่นทำให้ความรู้สึกของผมแตกสลายไป

  • ธุลีใจ   บทที่ 60

    “เป็นเพราะเอมม่าไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของลูกใช่ไหม?” การที่โนอาตั้งแง่กับเอมม่าอาจเป็นเพราะเธอไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา เขาอาจรู้สึกว่าเธอคนนี้จะเข้ามาแทนที่แม่แท้ ๆ ของตนก็เป็นได้“ผมก็แค่ไม่ชอบ อีกอย่างหนึ่ง เธอเป็นพี่สาวแม่ด้วย มันผิดนะพ่อ” เด็กน้อยเอ่ยความจริงออกมา มันไม่ใช่เหตุบังเอิญไปเสียหน่อยหรือที่โนอาไม่ชอบเอมม่าเช่นเดียวกับเอวา? หรืออาจเป็นเพราะเอวาเป่าหูลูกให้จงเกลียดจงชังเอมม่า? หากเธอทำแบบนั้นผมเองก็ไม่รู้สึกแปลกใจ“ฟังนะ โนอา พ่อกำลังคบกับเอมม่าอยู่จริง และคิดว่าลูกเองก็ควรปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพนะ สักวันพ่ออาจแต่งงานกับเธอ แล้วเธอก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของลูกนะ ลูกต้องชินกับการเห็นเธอไปไหนมาไหนกับพ่อได้แล้วนะ”ผมจำเป็นต้องจัดการสิ่งที่กำลังก่อตัวขึ้นใจของเด็กน้อย โนอาต้องเข้าใจได้ว่าเอมม่าอยู่ในชีวิตไม่จากไปไหน“ไม่มีวัน” เด็กชายตะโกนใส่โทรศัพท์“โนอา…”“ถ้าพ่อชอบเธอ ก็เชิญชอบไปเลย แต่ขอให้รู้ว่าผมไม่มีวันยอมรับเธอ ผมไม่มีวันชอบเธอ แล้วก็เธอไม่มีวันกลายเป็นแม่ของผมเด็ดขาด” เขาแผดเสียงใส่ก่อนผมจะได้พูดสิ่งใดออกมา เด็กชายกดวางสายไปเสียก่อน ผมจึงกดโทรกลับไปอีกครั้งทันที กระน

  • ธุลีใจ   บทที่ 61

    เอวาวันนี้ฉันมีความสุขอย่างมาก ไม่เพียงแต่การรับประทานอาหารเย็นกับอีธานจะราบรื่นไปด้วยดี แต่วันพรุ่งนี้ฉันจะได้กลับไปทำงานและวันถัดไปนั่นคือวันเกิดของฉันเองตามที่ฉันคาดการณ์เอาไว้เมื่อวานเสาร์ อีธานนั้นสามารถช่วยให้ฉันลืมได้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากเข้าไปในบ้านของเขา ฉันก็ได้ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นเขาทำอาหารได้และไม่ทำให้ผิดหวัง อาหารของเขาอร่อยอย่างไร้ที่ติ ผู้ชายที่ทำอาหารเป็นแถมยังทำให้คุณหัวเราะออกมาได้นั้นแสนพิเศษ ค่ำคืนนั้นกลายเป็นคืนที่มีความสุขและสนุกสนานอย่างมาก สิ่งที่ดีไปยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน ฉันยังได้คุยกับโนอาอีกด้วยเด็กน้อยใจเย็นลงเล็กน้อยแล้ว เราพูดคุยกันทุกเรื่องจนไม่มีเรื่องใด ๆ จะคุยกันอีกก่อนลูกชายจะหลับคาโทรศัพท์ไป นี่ถือได้ว่าเป็นฉากสำคัญที่สุดของวันเลยก็ว่าได้ขณะฉันกำลังอบขนมอยู่นั้น มีใครบางคนเคาะประตูหน้าบ้านอยู่ ฉันอยากรับประทานขนมที่ช่วยให้สบายใจ ดังนั้นคุ๊กกี้และเค้กช็อกโกแลตก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว หลังจากเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือ ฉันเดินไปเปิดประตูเมื่อพบว่ากำลังเผชิญหน้ากับเอมม่าอยู่ ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกตกใจ กระนั้นอีกส่วนหนึ่งก็ไม

  • ธุลีใจ   บทที่ 62

    “ออกไป!” ฉันลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วไปยังประตูทางเข้าฉันหมดความอดทนกับความไร้สาระของเอมม่าแล้ว วันนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอเข้ามาทำลายความสุขของฉันแน่เธอจึงลุกขึ้นยืนเช่นกัน “อะไร? ไม่ชอบหรือที่ฉันจับไต๋แผนการของเธอทั้งหมด อีกไม่ช้าไม่นานหรอกนะ เดี๋ยวทุกคนก็จะได้รับรู้ว่าเหตุการณ์นั้นมันเป็นเรื่องแหกตา”“นี่โชว์โง่จบหรือยัง?” ฉันเอ่ยถาม “คิดเป็นแต่ว่าฉันเป็นคนจัดฉากเหตุการณ์นั้นขึ้นมา สนใจอยากรู้ว่าฉันคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างไหมเล่า? ฉันคิดว่าเธอนั้นแหละที่คนบงการเรื่องนี้อยู่ ฉันไม่มีศัตรูอยู่ที่ไหนยกเว้นเธอ แล้วใครกันนะที่จะได้ประโยชน์จากการที่ฉันตายไป? อ๋อ เธอไงถ้าไม่มีฉันสักคน ความรักของเธอกับโรแวนก็ไร้ขวากหนาม และไม่ต้องมาทนเห็นหน้าฉันอยู่เรื่อย ๆ เพราะโรแวนจะได้รับสิทธิเลี้ยงดูเพียงผู้เดียว”เอมม่าจ้องมองฉันอย่างตื่นตระหนก ไม่ว่าตื่นตระหนกเพราะฉันล่วงรู้ความจริงนั้นแล้วหรือเพราะฉันกล่าวหาเธอก็ตาม ฉันก็คิดเรื่องราวเหล่านี้มีมูลและทุกเรื่องก็เชื่อมโยงอย่างลงพอดีเอมม่าอาจต้องการให้ฉันตายด้วยสาเหตุสองประการ ประการแรกเพื่อแก้แค้น ประการที่สองคือกำจัดฉันออกจากชีวิตของโรแวนอย่างสิ้นเช

  • ธุลีใจ   บทที่ 63

    การที่ได้เห็นใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวของโรแวนตอกย้ำว่าฉันไม่ควรเปิดประตูตั้งแต่แรก ก่อนฉันจะทันได้ตอบโต้ ชายหนุ่มผลักฉันเข้ามาด้านในก่อนจะปิดประตู เขาผลักดันฉันไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ตรงบริเวณพื้นที่ระหว่างห้องโถง ห้องครัว และห้องนั่งเล่น“เป็นบ้าไปแล้วหรือไง?” โรแวนระเบิดอารมณ์ ความโกรธเกรี้ยวของเขาทำให้ฉันตัวสั่น“อะไร?”“นี่คิดหรือว่าเอมม่าไม่ได้บอกอะไรผมมาเลย? หรือคิดว่าผมไม่เห็นรอยมือของคุณบนแก้มข้างซ้ายของเอมม่าน่ะ?เขาเริ่มเดินวนไปมา ฉันเริ่มประติดประต่อคำพูดของเขาและเริ่มเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงปรากฎตัวมาที่นี่“คุณไม่เข้าใจหรอก” ฉันพยายามอธิบายเหตุผล กระนั้นเขากลับไม่เปิดโอกาสเลย“เข้าใจอะไร? เข้าใจว่าคุณตบเอมม่าอย่างไม่มีเหตุผล? เข้าใจว่าคุณกล่าวหาว่าเธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานเลย? หรืออยากให้ผมเข้าใจเรื่องเลวทรามที่คุณพูดกับเธอดีเล่า?” เขาเดินก้าวเข้ามาพร้อมดวงตาเกรี้ยวกราดฉันไม่รู้ว่าเอมม่าเล่าอะไรให้โรแวนฟังบ้าง แต่มั่นใจได้เลยว่าเธอต้องโกหกและไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังเป็นแน่“ผมจะไม่ปล่อยให้คุณทำร้ายเอมม่าเด็ดขาด เข้าใจไหม เอวา?

  • ธุลีใจ   บทที่ 64

    วันนี้ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังนับร้อยครั้งได้แล้วโดยมีชื่อของเล็ตตี้เด่นอยู่บนหน้าจอ กระนั้นเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา ฉันเมินเฉยต่อสายเรียกเข้าพวกนั้น เธอพยายามติดต่อฉันตั้งเแต่เมื่อวานสภาพจิตใจของฉันไม่พร้อมที่จะพูดดุยกับเธอตอนนี้ เธอยังติดต่อกับสังคมและผู้คนที่ฉันพยายามหลีกหนีอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ฉันตระหนักได้ว่าอยู่ตรงทางแยกชีวิตที่จำเป็นต้องเลือก“ขออีกแก้ว” ฉันสั่งบาร์เทนเดอร์ทันทีที่เสียงเรียกเข้าเงียบลงวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของฉัน และฉันจึงฉลองให้ตนเองเช่นนี้แหละ ตัวคนเดียวอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง นั่งดื่มเหล้าผสมน้ำผลไม้ และคำพูดของโรแวนยังทิ่มแทงอยู่ไม่จางหายฉันพยายามเป็นอย่างมากที่จะโยนความคิดเหล่านั้นทิ้งไปเสีย พยายามเหลือเกินที่จะลืมทุกคำพูดซึ่งเขาโยนใส่ฉัน แต่นั่นเป็นเรื่องยากลำบากจริง ๆ คำพูดนั้นตามหลอกหลอนฉันเฉกเช่นผีร้ายเราทั้งสองแต่งงานอยู่กินกันมาหลายปี แต่ฉันก็ไม่เคยนึกเอะใจเรื่องที่เขามองฉันเป็นเพียงสิ่งบันเทิงทางกามเท่านั้น อีกทั้งยังหลอกใช้ให้ฉันกลายเป็นตัวแทนเรือนร่างของเอมม่าด้วยซ้ำ หัวใจของฉันแหลกสลายครั้งแล้วครั้งเล่านับตั้งแต่เกิดเหตุวันนั้นที่บ้านฉันที่จริ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

  • ธุลีใจ   บทที่ 453

    คุณเคยโดนคำพูดของใครบางคนทำให้สมองหยุดทำงานไปเลยไหม? แบบที่ทำให้คุณทั้งพูดไม่ออกและตื้อไปเลย? นั่นคือสิ่งที่คำพูดของเขาทำกับฉันฉันตกตะลึงกับคำพูดของเขา คำพูดที่ทำให้ร่างกายฉันสั่นสะท้าน ฉันเห็นได้จากแววตาของเขาและได้ยินมันจากน้ำเสียงของเขา เขาจริงจังอย่างถึงที่สุดและเขากำลังให้คำสัญญา คำสัญญาที่เขามุ่งมั่นว่าจะทำให้เป็นจริงให้ได้เจอแบบนี้แล้วเราจะพูดอะไรได้? จะตอบกลับอย่างไร? จะตอบอะไรได้บ้าง?ด้านนี้ของเขาเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับฉันโดยสิ้นเชิง ช่วยเอาเกเบรียลที่หยาบคายและทำร้ายจิตใจคนนั้นกลับมาเถอะ อย่างน้อยฉันรู้ว่าควรจัดการกับเขาอย่างไร แต่แบบนี้น่ะเหรอ? ฉันไปไม่ถูกเลยเมื่อต้องเผชิญกับเขา ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าจะรับมือหรือจัดการกับเขายังไงดีฉันเข้ามาในชีวิตแต่งงานนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ฉันรู้ว่ากำลังก้าวเข้าสู่อะไร ฉันเตรียมตัวมาดีแล้ว... แต่ตอนนี้ เขากลับเปลี่ยนกฎทุกอย่างและทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติดฉันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย และมันจะต้องจบลงด้วยหายนะอย่างแน่นอน เพราะฉันไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้เลยความคิดฉันสับสนวุ่นวายเมื่อสายตาของเขาจ้องลึกซึ้งกว่าเด

  • ธุลีใจ   บทที่ 452

    เขาก้าวไปที่บาร์เล็ก ๆ มุมห้อง แล้วหยิบถุงน้ำแข็งขนาดเล็กออกมาพร้อมห่อด้วยผ้าขนหนู ก่อนจะกลับมาหาฉัน เขาจับมือฉันเบา ๆ แล้ววางถุงน้ำแข็งไว้บนมือ“เจ็บมากไหม?” เขาเอ่ยถามด้วยความอ่อนโยนมากเสียงจนฉันได้ยินไม่ถนัดหู“นิดหน่อย”“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าคุณจะกล้าต่อยคนอื่นแบบนี้”ฉันหัวเราะเพราะฉันเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะทำแบบนี้เหมือนกัน “มันเหลืออดเลยไม่ทันได้คิดอะไรให้ดีก่อนน่ะค่ะ ฉันขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้ ฉันไม่ควรไปต่อยเธอแบบนั้นเลย จบกันแล้วภาพลักษณ์แสนดีในฐานะภรรยาประธาน”เขาเอนตัวเข้ามาใกล้และจ้องตาฉัน“คุณไม่ต้องขอโทษเวลาที่ทำอะไรเพื่อป้องกันตัวหรือยืนหยัดเพื่อตัวเองนะ ฮาร์เปอร์ แล้วคุณก็เป็นภรรยาผม พวกเขาต้องรู้เอาไว้ว่าไม่ควรมาล้ำเส้นคุณ”“ฉันแค่ไม่เข้าใจ คุณเคยนอนกับเธอมาก่อนไหม?” ฉันโพล่งคำถามออกไป“ไม่เคย!” เขาคำราม“แล้วทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับคุณขนาดนั้นล่ะ? ตลอดเวลาที่มีเรื่องกันเธอเอาแต่บอกให้ฉันอยู่ห่างจากคุณทั้งนั้น เธอทำตัวเหมือนว่าคุณเป็นของเธออะไรแบบนั้นเลย”เขาแค่นเสียงดังจนทำให้ฉันหันหน้าไปมอง คิ้วขมวดเป็นปมด้วยความรังเกียจราวกับว่าเพิ่งจะได้ยินเรื่องที่น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status