ฉันตื่นขึ้นมานอนเหยียดยาวอยู่บนตัวโรแวน แขนของเขาโอบรอบเอวฉันไว้แน่น และครึ่งตัวของร่างกายฉันอยู่บนตัวของเขาฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากอกของเขา นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่สำหรับเรา ตำแหน่งที่สนิทสนมของเราที่แสดงออกมาให้เห็น คุณจะคิดว่าพวกเรากำลังมีความรักแต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ความจริง ใช่ มีความรักในการแต่งงานของเราแต่มันเป็นรักข้างเดียวฉันลุกขึ้นช้า ๆ ฉันไม่อยากปลุกให้เขาตื่น ฉันต้องการเวลาให้กับตัวเอง เวลาที่จะพยายามตามให้ทันถึงอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันรู้สึกเหมือนว่าชีวิตของฉันถูกกลับหัวกลับหางตั้งแต่ที่ฉันตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่าเป็นเวลาสองวันแล้ว แต่สองวันเหล่านั้นเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปมาอย่างฉับพลัน ตอนนี้ฉันกำลังซวนเซจากการเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ใจเลยจริง ๆ ว่าฉันควรจะเชื่อในสายตาของฉันหรือหัวใจของฉันดีฉันเห็นขวดนมวางอยู่โต๊ะข้างเตียงของเขาไอริสตื่นขึ้นมาประมาณสามครั้งได้ สองครั้งแรก ฉันป้อนนมเธอ ครั้งสุดท้ายฉันจำได้ว่าเขาบอกให้ฉันกลับไปนอนและเขาจะดูแลเธอเอง ฉันเหนื่อยมากดังนั้นฉันจึงไม่โต้แย้งใด ๆฉันเขย่งเท้าออกไปจากห้อง โดยสวมชุดคลุมอาบน้ำ ฉันไปเช็คดูไอริสกับโนอาก่
ฉันพยายามคิด แต่ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลย เอมม่ากลับมาแล้วใช่ไหม? แล้วนั่นจะเป็นไปได้ยังไง?ตอนเธอจากไป เธอสาบานไว้ว่าเธอจะไม่มีวันกลับมา แม่ พ่อ และทราวิสเคยไปเยี่ยมเธอ แต่เธอไม่เคยกลับมาบ้านเลย ไม่แม้แต่สำหรับวันหยุดด้วยซ้ำความจริงแล้ว ครอบครัวของฉันเคยไปใช้เวลาช่วงวันหยุดคริสต์มาสกับเธอ ฉันไม่เคยได้รับเชิญเลย ก่อนที่โนอาจะโตพอที่จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ฉันมักจะใช้เวลาช่วงคริสต์มาสตามลำพัง ในขณะที่ครอบครัวของฉันไปอยู่กับเอมม่า โรแวนและโนอาจะใช้เวลากับครอบครัวของเขาและฉันไม่ได้รับเชิญเช่นกันการได้เห็นเธอที่นี่ในบ้านของฉันมันน่าตกใจสุด ๆ เขาเคยบอกฉันว่าถ้าเขามีโอกาส เขาจะกลับไปหาเอมม่าในทันที มันทำให้ฉันสับสนมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเธอกลับมาแล้ว แล้วทำไมโรแวนถึงจูบฉันล่ะ? ทำไมเขาถึงยังอยู่กับฉัน?ฉันก้าวถอยออกมาจากเขา เขาสบถออกมา แม้ว่าฉันไม่รู้ก็ตามว่ามันเป็นเพราะฉันก้าวออกไปจากเขาหรือเป็นเพราะเอมม่าเห็นเราจูบกันฉันยังคงจ้องมองเอมม่าอย่างเงียบ ๆ พลางโอบแขนตัวเองไว้ พยายามที่จะต้านความทุกข์และความเจ็บปวดที่ฉันได้ทนไว้ในช่วงระหว่างการแต่งงานของฉันกับโรแวนแน่นอน ฉันอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดตอนท
พวกเราไม่แม้แต่จะสังเกตด้วยซ้ำว่าเขาเข้ามาร่วมในห้อง เขาเอนตัวพิงอยู่กับขอบประตูพร้อมกับเอามือกอดอกไว้ ซึ่งทำให้กล้ามของเขานูนขึ้นมา เขาสวมเสื้อยืดคอวีสีขาวและกางเกงยีนส์สีดำ ผมของเขายังคงเปียกอยู่และเขาไม่ได้สวมรองเท้า“พ่อหมายถึงว่าเหมือนกับพวกวัวหรือสัตว์อื่น ๆ เหล่านั้นที่ผมเห็นในฟาร์มใช่ไหมครับ” โนอาถาม สายตาของเขาจับจ้องจากฉันไปที่ไอริสจากนั้นก็ไปที่พ่อของเขาไอริสนอนอยู่ในอ้อมแขนของฉันอย่างพอใจหลังจากการเรอออกมา โดยไม่รู้เลยว่าเรากำลังพูดถึงเธอและวิธีการป้อนนมเธออยู่“ใช้จ้า แบบนั้นแหละ” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มสายตาของเขาเหม่อลอยไปครู่หนึ่งก่อนจะหรี่ลงด้วยความไม่ชอบ“นั่นมันน่าขยะแขยงจริง ๆ” เขาพูด พลางถอยหลังไปจากฉันราวกับว่าฉันน่ารังเกียจ “ผมคิดว่าน้องคงจะอยากดูดจากขวดนมของเธอมากกว่านะครับ”สายตาของเขาขยับเปลี่ยนจากหน้าอกของฉันไปที่ไอริส“แล้วถ้าแม่ไม่อยู่ล่ะครับ? งั้นจะเกิดอะไรขึ้น? พวกเราใช้นมผงเหมือนที่ผมเห็นพยาบาลทำได้ไหม?”“ไม่มีนมผงอีกต่อไป น้ำนมแม่นั้นดีต่อน้องถ้าแม่ไม่อยู่ แม่ก็จะปั๊มน้ำนมไว้ให้น้องดังนั้นใครก็ตามที่อยู่กับน้องก็จะได้ป้อนน้องได้ไงจ๊ะ”ท่าทางที่น่าร
“พูดอะไรบ้างสิ เอวา” ทราวิสพูดด้วยโทนเสียงที่เกือบจะอ้อนวอนฉันเพียงจ้องมองเขา ฉันไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าจะรู้สึกยังไง พ่อกับฉันไม่เคยเข้ากันได้ดีเลย โดยเฉพาะหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโรแวน เอมม่าและฉัน ฉันไม่เคยหวังว่าเขาจะตายเลย แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้จริง ๆ เช่นกันว่าฉันเศร้านั่นจะทำให้ฉันเป็นคนเลวหรือเปล่า? ผู้ชายที่ฉันรู้จักในฐานะพ่อของฉันมาตลอดทั้งชีวิตได้ตายจากไปแล้ว กระนั้นฉันกลับไม่ได้รู้สึกโศกเศร้าอะไรแบบนั้นเลย?“ฉันไม่รู้จะพูดอะไร” ฉันพึมพำ ไม่ได้บอกพวกเขาอะไรเลยนอกจากความจริงโรแวนนำทางฉันและช่วยให้ฉันนั่งลง พวกเรานั่งตรงกันข้ามกับทั้งสามคนที่ควรจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของฉันฉันมองพวกเขา จากนั้นก็ส่ายหัวด้วยความสับสน ฉันเคยรู้สึกต่อพวกเขามากมาย แม้จะมีความโหดร้ายของพวกเขา แต่ความรักของฉันสำหรับพวกเขาไม่ใช่บางสิ่งที่ฉันจะสามารถปิดซ่อนได้ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ที่ซึ่งความรักของฉันเคยมีอยู่ต่อพวกเขากลับว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ไม่มีร่องรอยของความรู้สึกใด ๆต่อพวกเขาเลยทั้งนั้นมันทำให้ฉันสงสัยว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรต่อพวกเขาอีกต่อไป? ฉันมองโร
“ก็เหมือนที่ฉันถูกบอกในหลาย ๆ ครั้ง ว่าเธอไม่ใช่ครอบครัวของฉัน ดังนั้นเขาก็ไม่ใช่พ่อของฉัน แม้ว่าความเป็นจริงผู้ชายคนนั้นปฏิบัติต่อฉันเหมือนสิ่งที่น่าขยะแขยงก็ตาม แต่ฉันไม่เคยหวังให้เขามีอันตรายใด ๆ และนอกจากนี้เขาก็น่าจะสืบก่อนจะที่จะทำสัญญากับพวกนั้นสิ”“ดังนั้นเธอจะบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาที่เขาตายงั้นเหรอ?” ทราวิสถามระหว่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันฉันยักไหล่ “นายคาดหวังบ้าอะไรล่ะ นายคงไม่ได้ทรยศองค์กรอาชญากรรมและคาดหวังว่าจะเดินจากไปอย่างมีความสุขหรอกนะ”“แม่ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกจะพูดแบบนั้น” แม่กระซิบ พลางกลั้นน้ำตาไว้“แล้วฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าพวกคุณมาอยู่ที่นี่ คุณมาทำอะไรที่นี่กัน ฉันคงคาดหวังว่าคุณทั้งสามกำลังภาวนาถึงความตายที่เจ็บปวดของฉันมากกว่า” ฉันโต้กลับด้วยความขมขื่นในโทนเสียงของฉันฉันประหลาดใจกับคำพูดที่ออกมาจากปากของฉัน นี่ไม่ใช่ฉันเลยจริง ๆ มันเหมือนกับคนอื่นได้ควบคุมร่างกายของฉันไว้ทั้งหมด ฉันไม่สามารถหยุดคำพูดร้ายกาจที่จะออกมาจากปากของฉันได้เลยเอมม่าลุกขึ้นด้วยความโกรธเล็กน้อย เนื่องจากหงุดหงิดและหาทางออกไม่เจอ “ฉันบอกแล้ว ฉันพยายามเตือนแล้วไง เธอยังคงเป็น
เป็นเวลาสองสามชั่วโมงแล้วที่โนอาโกรธเคืองใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามคน ตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างนอกในสวนด้านหลัง เพลิดเพลินกับแสงแดด โนอาดูเหมือนจะสงบลงแล้ว แต่ฉันรู้จักเขาดี เขาเฉียบแหลม สายตาของเขายังคงจับจ้องที่พวกเขาอยู่ พลางพินิจพิเคราะห์ ราวกับว่าเขากำลังรอดูว่าพวกเขาจะทำอะไรผิดพลาดอีกตอนนี้ไอริสกำลังหลับอยู่ในห้องของเธอ และฉันอยู่ในห้องครัวพยายามหยุดพักขอหายใจก่อน แม่กับทราวิสพยายามที่จะอุ้มไอริส แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหัวใจของฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้นเลยนั่นไม่ใช่เรื่องหลักที่รบกวนฉันด้วยซ้ำ แต่เป็นการไม่คำนึงถึงของเอมม่าที่มีต่อฉันและความรู้สึกของฉัน การดูหมิ่นโดยสิ้นเชิงของเธอในบ้านของตัวฉันเองฉันเข้าใจนะว่าฉันทำผิดตอนที่ฉันนอนกับโรแวน แต่ตอนนี้โรแวนเป็นสามีของฉัน มันไม่ควรรบกวนฉันที่เธอพยายามเข้าใกล้เขา โดยมอบรอยยิ้มที่เขินอายและยั่วยวนให้เขา กวัดแกว่งสะโพกตอนที่เธอเดินผ่านเขา สัมผัสเขาเบา ๆ ตอนที่เธออยู่ใกล้เขา ฉันไม่อยากหึงหวง แต่ฉันหึงฉันโกรธและโมโหกับพฤติกรรมที่โจ่งแจ้งของเธอมาก แน่นอน โรแวนจ้องเธอเขม็งและเดินจากไปเมื่อเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมของเธอ แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าม
“แล้วไงล่ะ?”เขาคว้าแขนเธอไว้แน่นแล้วเขย่าเบา ๆ “แล้วไงเหรอ?” เขาคำรามด้วยความโกรธ “เอวาเป็นภรรยาผมไง ภรรยาของผม และตอนนี้คุณก็เอาแต่ทำตัวหยาบคายไร้มารยาทใส่เธอมาตลอด”“โรแวน” ทราวิสพยายามเข้ามาขัด แต่แม่ก็เข้ามาขวางเอาไว้ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแม่ทำแบบนั้นด้วยเหตุใด เพราะโดยปกติแม่มักเข้าข้างเอมม่าอยู่เสมอ ความรู้สึกของฉันจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เอมม่ามาก่อนสิ่งอื่นใด ไม่ว่าเธอต้องการอะไรก็ต้องหามาให้“ภรรยาคุณเหรอ?” เอมม่าเย้ยหยัน “มันก็แค่ผู้หญิงไร้ค่าทำตัวอ้อนวอนแย่งคุณไปจากฉันก็เท่านั้น แต่เหมือนว่ามันยังเลวร้ายไม่สาแก่ใจ มันยังหลอกล่อคุณตอนที่ตั้งท้องด้วย คุณเป็นของฉันนะคะ โรแวน ฉันเป็นคนที่คุณรักไม่ใช่เหรอคะ?”ฉันไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรต่อ เพราะฉันเดินออกจากครัวเสียก่อน ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว และฉันก็ไม่อยากได้ยินอะไรอีกต่อไป โดยเฉพาะะหากคำพูดนั้นเป็นประโยคที่บอกว่าเขารักเธอราวกับว่าไม่มีใครรู้ว่าเขารักเธออย่างนั้น แน่นอนตอนนี้เขาดูใส่ใจฉัน เขายังจูบฉันสองสามครั้ง แต่หัวใจยังคงเป็นของเอมม่าอยู่ดี เธอพูดถูก โรแวนเป็นของเธอทั้งใจ ทั้งความคิด และจิตวิญญาณเมื่อมาถึงห้องนอนใหญ่ ฉั
เอมม่าฉันเกลียดทุกวินาทีที่ต้องอยู่ในบ้านของโรแวน ฉันเกลียดที่เห็นเอวาทำตัวราวกับโรแวนยังเป็นสามีตนเองเอาจริงสิ ความจำเสื่อมเนี่ยนะ? ตลกกันไปใหญ่แล้วแต่สิ่งที่น่าเดือดดาลที่สุดคือการที่โรแวนดูแลเอาใจใส่เอวา เขาเป็นของฉันและยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาดโรแวนตะคอกใส่หลังจากที่ฉันจูบเขา นั่นทำให้ฉันตกใจจนแทบล้ม โรแวนไม่เคยขึ้นเสียงใส่ฉันมาก่อน มันทำให้ฉันสงสัยว่าเขาตัดใจจากฉันไปแล้วจริง ๆ หรือเปล่า และทำให้ฉันเริ่มคิดว่าเขาอาจตกหลุมรักเอวาเข้าแล้วฉันส่ายหน้าเพื่อปัดความคิดนั้นออกไป มันไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกคนต่างบอกฉันว่าเขาเกลียดเธอ ตลอดเก้าปีที่ผ่านมา เขาเอาแต่ทำร้ายเธอเพราะเธอทำให้เราต้องแยกจากกัน แล้วจู่ ๆ เขาจะไปรักเธอได้อย่างไร? มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย“คุณครับ?” คนขับรถเอ่ยถามฉันเงยหน้ามองเขาแล้วเพิ่งรู้ตัวว่ามาถึงบ้านแล้ว ทั้งแม่กับทราวิสก็ลงจากรถไปนานแล้วไม่อยากสาธยายเลยว่าฉันนั้นรู้สึกโกรธทั้งสองคนมากขนาดไหน…ทั้งแม่และทราวิสทำตัวเหมือนลูกหมาที่ขาดความรักเมื่ออยู่ต่อหน้าเอวา พวกเขาเอาแต่โอ๋เธอ ไม่พอยังอยากอุ้มนังเด็กเหลือขอนั่นอีก อย่าให้พูด
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร