แชร์

บทที่ 260

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ฉันตื่นขึ้นมานอนเหยียดยาวอยู่บนตัวโรแวน แขนของเขาโอบรอบเอวฉันไว้แน่น และครึ่งตัวของร่างกายฉันอยู่บนตัวของเขา

ฉันค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากอกของเขา นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่สำหรับเรา ตำแหน่งที่สนิทสนมของเราที่แสดงออกมาให้เห็น คุณจะคิดว่าพวกเรากำลังมีความรักแต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ความจริง ใช่ มีความรักในการแต่งงานของเราแต่มันเป็นรักข้างเดียว

ฉันลุกขึ้นช้า ๆ ฉันไม่อยากปลุกให้เขาตื่น ฉันต้องการเวลาให้กับตัวเอง เวลาที่จะพยายามตามให้ทันถึงอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันรู้สึกเหมือนว่าชีวิตของฉันถูกกลับหัวกลับหางตั้งแต่ที่ฉันตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่า

เป็นเวลาสองวันแล้ว แต่สองวันเหล่านั้นเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปมาอย่างฉับพลัน ตอนนี้ฉันกำลังซวนเซจากการเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ใจเลยจริง ๆ ว่าฉันควรจะเชื่อในสายตาของฉันหรือหัวใจของฉันดี

ฉันเห็นขวดนมวางอยู่โต๊ะข้างเตียงของเขา

ไอริสตื่นขึ้นมาประมาณสามครั้งได้ สองครั้งแรก ฉันป้อนนมเธอ ครั้งสุดท้ายฉันจำได้ว่าเขาบอกให้ฉันกลับไปนอนและเขาจะดูแลเธอเอง ฉันเหนื่อยมากดังนั้นฉันจึงไม่โต้แย้งใด ๆ

ฉันเขย่งเท้าออกไปจากห้อง โดยสวมชุดคลุมอาบน้ำ ฉันไปเช็คดูไอริสกับโนอาก่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 261

    ฉันพยายามคิด แต่ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลย เอมม่ากลับมาแล้วใช่ไหม? แล้วนั่นจะเป็นไปได้ยังไง?ตอนเธอจากไป เธอสาบานไว้ว่าเธอจะไม่มีวันกลับมา แม่ พ่อ และทราวิสเคยไปเยี่ยมเธอ แต่เธอไม่เคยกลับมาบ้านเลย ไม่แม้แต่สำหรับวันหยุดด้วยซ้ำความจริงแล้ว ครอบครัวของฉันเคยไปใช้เวลาช่วงวันหยุดคริสต์มาสกับเธอ ฉันไม่เคยได้รับเชิญเลย ก่อนที่โนอาจะโตพอที่จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ฉันมักจะใช้เวลาช่วงคริสต์มาสตามลำพัง ในขณะที่ครอบครัวของฉันไปอยู่กับเอมม่า โรแวนและโนอาจะใช้เวลากับครอบครัวของเขาและฉันไม่ได้รับเชิญเช่นกันการได้เห็นเธอที่นี่ในบ้านของฉันมันน่าตกใจสุด ๆ เขาเคยบอกฉันว่าถ้าเขามีโอกาส เขาจะกลับไปหาเอมม่าในทันที มันทำให้ฉันสับสนมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเธอกลับมาแล้ว แล้วทำไมโรแวนถึงจูบฉันล่ะ? ทำไมเขาถึงยังอยู่กับฉัน?ฉันก้าวถอยออกมาจากเขา เขาสบถออกมา แม้ว่าฉันไม่รู้ก็ตามว่ามันเป็นเพราะฉันก้าวออกไปจากเขาหรือเป็นเพราะเอมม่าเห็นเราจูบกันฉันยังคงจ้องมองเอมม่าอย่างเงียบ ๆ พลางโอบแขนตัวเองไว้ พยายามที่จะต้านความทุกข์และความเจ็บปวดที่ฉันได้ทนไว้ในช่วงระหว่างการแต่งงานของฉันกับโรแวนแน่นอน ฉันอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดตอนท

  • ธุลีใจ   บทที่ 262

    พวกเราไม่แม้แต่จะสังเกตด้วยซ้ำว่าเขาเข้ามาร่วมในห้อง เขาเอนตัวพิงอยู่กับขอบประตูพร้อมกับเอามือกอดอกไว้ ซึ่งทำให้กล้ามของเขานูนขึ้นมา เขาสวมเสื้อยืดคอวีสีขาวและกางเกงยีนส์สีดำ ผมของเขายังคงเปียกอยู่และเขาไม่ได้สวมรองเท้า“พ่อหมายถึงว่าเหมือนกับพวกวัวหรือสัตว์อื่น ๆ เหล่านั้นที่ผมเห็นในฟาร์มใช่ไหมครับ” โนอาถาม สายตาของเขาจับจ้องจากฉันไปที่ไอริสจากนั้นก็ไปที่พ่อของเขาไอริสนอนอยู่ในอ้อมแขนของฉันอย่างพอใจหลังจากการเรอออกมา โดยไม่รู้เลยว่าเรากำลังพูดถึงเธอและวิธีการป้อนนมเธออยู่“ใช้จ้า แบบนั้นแหละ” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มสายตาของเขาเหม่อลอยไปครู่หนึ่งก่อนจะหรี่ลงด้วยความไม่ชอบ“นั่นมันน่าขยะแขยงจริง ๆ” เขาพูด พลางถอยหลังไปจากฉันราวกับว่าฉันน่ารังเกียจ “ผมคิดว่าน้องคงจะอยากดูดจากขวดนมของเธอมากกว่านะครับ”สายตาของเขาขยับเปลี่ยนจากหน้าอกของฉันไปที่ไอริส“แล้วถ้าแม่ไม่อยู่ล่ะครับ? งั้นจะเกิดอะไรขึ้น? พวกเราใช้นมผงเหมือนที่ผมเห็นพยาบาลทำได้ไหม?”“ไม่มีนมผงอีกต่อไป น้ำนมแม่นั้นดีต่อน้องถ้าแม่ไม่อยู่ แม่ก็จะปั๊มน้ำนมไว้ให้น้องดังนั้นใครก็ตามที่อยู่กับน้องก็จะได้ป้อนน้องได้ไงจ๊ะ”ท่าทางที่น่าร

  • ธุลีใจ   บทที่ 263

    “พูดอะไรบ้างสิ เอวา” ทราวิสพูดด้วยโทนเสียงที่เกือบจะอ้อนวอนฉันเพียงจ้องมองเขา ฉันไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าจะรู้สึกยังไง พ่อกับฉันไม่เคยเข้ากันได้ดีเลย โดยเฉพาะหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโรแวน เอมม่าและฉัน ฉันไม่เคยหวังว่าเขาจะตายเลย แต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้จริง ๆ เช่นกันว่าฉันเศร้านั่นจะทำให้ฉันเป็นคนเลวหรือเปล่า? ผู้ชายที่ฉันรู้จักในฐานะพ่อของฉันมาตลอดทั้งชีวิตได้ตายจากไปแล้ว กระนั้นฉันกลับไม่ได้รู้สึกโศกเศร้าอะไรแบบนั้นเลย?“ฉันไม่รู้จะพูดอะไร” ฉันพึมพำ ไม่ได้บอกพวกเขาอะไรเลยนอกจากความจริงโรแวนนำทางฉันและช่วยให้ฉันนั่งลง พวกเรานั่งตรงกันข้ามกับทั้งสามคนที่ควรจะเป็นสมาชิกในครอบครัวของฉันฉันมองพวกเขา จากนั้นก็ส่ายหัวด้วยความสับสน ฉันเคยรู้สึกต่อพวกเขามากมาย แม้จะมีความโหดร้ายของพวกเขา แต่ความรักของฉันสำหรับพวกเขาไม่ใช่บางสิ่งที่ฉันจะสามารถปิดซ่อนได้ แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ที่ซึ่งความรักของฉันเคยมีอยู่ต่อพวกเขากลับว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ไม่มีร่องรอยของความรู้สึกใด ๆต่อพวกเขาเลยทั้งนั้นมันทำให้ฉันสงสัยว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นกัน ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรต่อพวกเขาอีกต่อไป? ฉันมองโร

  • ธุลีใจ   บทที่ 264

    “ก็เหมือนที่ฉันถูกบอกในหลาย ๆ ครั้ง ว่าเธอไม่ใช่ครอบครัวของฉัน ดังนั้นเขาก็ไม่ใช่พ่อของฉัน แม้ว่าความเป็นจริงผู้ชายคนนั้นปฏิบัติต่อฉันเหมือนสิ่งที่น่าขยะแขยงก็ตาม แต่ฉันไม่เคยหวังให้เขามีอันตรายใด ๆ และนอกจากนี้เขาก็น่าจะสืบก่อนจะที่จะทำสัญญากับพวกนั้นสิ”“ดังนั้นเธอจะบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาที่เขาตายงั้นเหรอ?” ทราวิสถามระหว่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันฉันยักไหล่ “นายคาดหวังบ้าอะไรล่ะ นายคงไม่ได้ทรยศองค์กรอาชญากรรมและคาดหวังว่าจะเดินจากไปอย่างมีความสุขหรอกนะ”“แม่ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกจะพูดแบบนั้น” แม่กระซิบ พลางกลั้นน้ำตาไว้“แล้วฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าพวกคุณมาอยู่ที่นี่ คุณมาทำอะไรที่นี่กัน ฉันคงคาดหวังว่าคุณทั้งสามกำลังภาวนาถึงความตายที่เจ็บปวดของฉันมากกว่า” ฉันโต้กลับด้วยความขมขื่นในโทนเสียงของฉันฉันประหลาดใจกับคำพูดที่ออกมาจากปากของฉัน นี่ไม่ใช่ฉันเลยจริง ๆ มันเหมือนกับคนอื่นได้ควบคุมร่างกายของฉันไว้ทั้งหมด ฉันไม่สามารถหยุดคำพูดร้ายกาจที่จะออกมาจากปากของฉันได้เลยเอมม่าลุกขึ้นด้วยความโกรธเล็กน้อย เนื่องจากหงุดหงิดและหาทางออกไม่เจอ “ฉันบอกแล้ว ฉันพยายามเตือนแล้วไง เธอยังคงเป็น

  • ธุลีใจ   บทที่ 265

    เป็นเวลาสองสามชั่วโมงแล้วที่โนอาโกรธเคืองใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามคน ตอนนี้พวกเขาอยู่ข้างนอกในสวนด้านหลัง เพลิดเพลินกับแสงแดด โนอาดูเหมือนจะสงบลงแล้ว แต่ฉันรู้จักเขาดี เขาเฉียบแหลม สายตาของเขายังคงจับจ้องที่พวกเขาอยู่ พลางพินิจพิเคราะห์ ราวกับว่าเขากำลังรอดูว่าพวกเขาจะทำอะไรผิดพลาดอีกตอนนี้ไอริสกำลังหลับอยู่ในห้องของเธอ และฉันอยู่ในห้องครัวพยายามหยุดพักขอหายใจก่อน แม่กับทราวิสพยายามที่จะอุ้มไอริส แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหัวใจของฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้นเลยนั่นไม่ใช่เรื่องหลักที่รบกวนฉันด้วยซ้ำ แต่เป็นการไม่คำนึงถึงของเอมม่าที่มีต่อฉันและความรู้สึกของฉัน การดูหมิ่นโดยสิ้นเชิงของเธอในบ้านของตัวฉันเองฉันเข้าใจนะว่าฉันทำผิดตอนที่ฉันนอนกับโรแวน แต่ตอนนี้โรแวนเป็นสามีของฉัน มันไม่ควรรบกวนฉันที่เธอพยายามเข้าใกล้เขา โดยมอบรอยยิ้มที่เขินอายและยั่วยวนให้เขา กวัดแกว่งสะโพกตอนที่เธอเดินผ่านเขา สัมผัสเขาเบา ๆ ตอนที่เธออยู่ใกล้เขา ฉันไม่อยากหึงหวง แต่ฉันหึงฉันโกรธและโมโหกับพฤติกรรมที่โจ่งแจ้งของเธอมาก แน่นอน โรแวนจ้องเธอเขม็งและเดินจากไปเมื่อเขาสังเกตเห็นพฤติกรรมของเธอ แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าม

  • ธุลีใจ   บทที่ 266

    “แล้วไงล่ะ?”เขาคว้าแขนเธอไว้แน่นแล้วเขย่าเบา ๆ “แล้วไงเหรอ?” เขาคำรามด้วยความโกรธ “เอวาเป็นภรรยาผมไง ภรรยาของผม และตอนนี้คุณก็เอาแต่ทำตัวหยาบคายไร้มารยาทใส่เธอมาตลอด”“โรแวน” ทราวิสพยายามเข้ามาขัด แต่แม่ก็เข้ามาขวางเอาไว้ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแม่ทำแบบนั้นด้วยเหตุใด เพราะโดยปกติแม่มักเข้าข้างเอมม่าอยู่เสมอ ความรู้สึกของฉันจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เอมม่ามาก่อนสิ่งอื่นใด ไม่ว่าเธอต้องการอะไรก็ต้องหามาให้“ภรรยาคุณเหรอ?” เอมม่าเย้ยหยัน “มันก็แค่ผู้หญิงไร้ค่าทำตัวอ้อนวอนแย่งคุณไปจากฉันก็เท่านั้น แต่เหมือนว่ามันยังเลวร้ายไม่สาแก่ใจ มันยังหลอกล่อคุณตอนที่ตั้งท้องด้วย คุณเป็นของฉันนะคะ โรแวน ฉันเป็นคนที่คุณรักไม่ใช่เหรอคะ?”ฉันไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไรต่อ เพราะฉันเดินออกจากครัวเสียก่อน ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว และฉันก็ไม่อยากได้ยินอะไรอีกต่อไป โดยเฉพาะะหากคำพูดนั้นเป็นประโยคที่บอกว่าเขารักเธอราวกับว่าไม่มีใครรู้ว่าเขารักเธออย่างนั้น แน่นอนตอนนี้เขาดูใส่ใจฉัน เขายังจูบฉันสองสามครั้ง แต่หัวใจยังคงเป็นของเอมม่าอยู่ดี เธอพูดถูก โรแวนเป็นของเธอทั้งใจ ทั้งความคิด และจิตวิญญาณเมื่อมาถึงห้องนอนใหญ่ ฉั

  • ธุลีใจ   บทที่ 267

    เอมม่าฉันเกลียดทุกวินาทีที่ต้องอยู่ในบ้านของโรแวน ฉันเกลียดที่เห็นเอวาทำตัวราวกับโรแวนยังเป็นสามีตนเองเอาจริงสิ ความจำเสื่อมเนี่ยนะ? ตลกกันไปใหญ่แล้วแต่สิ่งที่น่าเดือดดาลที่สุดคือการที่โรแวนดูแลเอาใจใส่เอวา เขาเป็นของฉันและยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ ฉันจะไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาดโรแวนตะคอกใส่หลังจากที่ฉันจูบเขา นั่นทำให้ฉันตกใจจนแทบล้ม โรแวนไม่เคยขึ้นเสียงใส่ฉันมาก่อน มันทำให้ฉันสงสัยว่าเขาตัดใจจากฉันไปแล้วจริง ๆ หรือเปล่า และทำให้ฉันเริ่มคิดว่าเขาอาจตกหลุมรักเอวาเข้าแล้วฉันส่ายหน้าเพื่อปัดความคิดนั้นออกไป มันไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกคนต่างบอกฉันว่าเขาเกลียดเธอ ตลอดเก้าปีที่ผ่านมา เขาเอาแต่ทำร้ายเธอเพราะเธอทำให้เราต้องแยกจากกัน แล้วจู่ ๆ เขาจะไปรักเธอได้อย่างไร? มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย“คุณครับ?” คนขับรถเอ่ยถามฉันเงยหน้ามองเขาแล้วเพิ่งรู้ตัวว่ามาถึงบ้านแล้ว ทั้งแม่กับทราวิสก็ลงจากรถไปนานแล้วไม่อยากสาธยายเลยว่าฉันนั้นรู้สึกโกรธทั้งสองคนมากขนาดไหน…ทั้งแม่และทราวิสทำตัวเหมือนลูกหมาที่ขาดความรักเมื่ออยู่ต่อหน้าเอวา พวกเขาเอาแต่โอ๋เธอ ไม่พอยังอยากอุ้มนังเด็กเหลือขอนั่นอีก อย่าให้พูด

  • ธุลีใจ   บทที่ 268

    “เผื่อแกจะไม่แหกตาดูอะไรเลยนะ โรแวนไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนแกเลย” แม่พูด “แกไม่มีวันเข้าไปขัดขวางแผนการเอาชนะใจเอวาได้หรอก และนี่ก็ถือว่าเป็นการเตือนนะ เราน่ะเอาแต่โอ๋แกจนไม่รู้เลยว่าได้เลี้ยงดูแกจนเสียผู้เสียคนขนาดนี้ แต่วันนี้ก็พอกันซะที แกสามสิบแล้วนะช่วยรู้จักโตบ้างเถอะ”ทั้งทราวิสและฉันต่างมองแม่อย่างตกตะลึง แม่ไม่เคยพูดจาไม่ดีใส่มาก่อนเลยไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อพูดจบ เธอก็เดินออกจากห้อง เราได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอขณะขึ้นบันได ก่อนจะมีเสียงปิดประตูดังลั่นจากระยะไกลฉันหันหน้าไปหาทราวิส เขาเป็นพี่ชายคนโปรด และคอยสนับสนุนฉันในการขัดขวางเอวามาโดยตลอด“บอกฉันมาหน่อยสิว่าไม่ได้คิดเหมือนกันกับแม่น่ะ” ฉันอ้อนวอนด้วยน้ำตาเขาไม่อาจหันหลังให้ฉันได้ ทราวิสเป็นเหมือนเสาหลักใหญ่คอยค้ำจุนความเข้มแข็งของฉันเสมอ ฉันไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรหากเขาหันไปอยู่ฝั่งตรงข้าม“ขอโทษด้วยเอมม่า แต่แม่พูดถูก เธอน่ะโตแล้วนะ มีลูกแล้วก็มีความรับผิดชอบมากมายที่ต้องค่อยแบกรับ แต่ตอนนี้กลับเอาแต่วิ่งไล่ตามผู้ชายที่เขาไม่ได้ต้องการอีกต่อไปแล้ว เธอยังจมปลักอยู่กับอดีต ไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองว่าคนอื่นเขาเดินหน้า

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 474

    อย่างที่ฉันบอก ฉันให้อภัยเกเบรียลแล้ว แต่ทำไมฉันยังคงยึดติดกับอดีตอีก? ทำไมฉันยังคงเปรียบเทียบเขากับตัวตนที่เขาเคยเป็น? เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่สมองยังคงสงสัยเขาคุณรู้จักคำกล่าวที่ว่า 'ถ้าเขาอยากทำ เขาคงทำไปแล้ว?' นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกเบรียลในตอนนี้ ในตอนนั้นเขาไม่อยากทำ เขาไม่อยากรักฉัน เขาไม่อยากสนใจฉัน ให้ตายสิ เขาแค่ไม่อยากได้ฉันด้วยซ้ำ... และเพราะเขาไม่อยากได้ฉัน เขาเลยปฏิบัติกับฉันเหมือนไม่สำคัญอะไรลึกลงไปฉันเข้าใจเขาดี ถ้าฉันคิดไม่ผิด เขาแต่งงานกับฉันหนึ่งปีครึ่งหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นหักอกเขา หากพี่แอนดรูว์รู้ พี่คงจะแบล็กเมล์เขาหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้เกเบรียลแต่งงานกับฉันแน่ฉันไม่ได้คิดถึงมันตอนที่เราแต่งงานกัน อันที่จริงฉันไม่อยากคิดถึงมันเพราะมันจะทำลายภาพลวงตาที่ฉันสร้างว่าเขาแต่งงานกับฉันเพราะเขารู้สึกอะไรบางอย่างกับฉัน หลายปีต่อมาฉันยอมรับว่าเกเบรียลแต่งงานกับฉันเพราะเขาถูกบังคับให้ทำ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการฉันทำได้แค่จินตนาการว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาอาจจะยังไม่หายอกหักจากแฟนเก่า เขาโกรธและขมขื่น และอาจจะคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน จากนั้นเขาถูกบังค

  • ธุลีใจ   บทที่ 473

    "ใช่เลย! เขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว" เธอเปล่งประกายความสุขและความตื่นเต้นแพร่กระจายไปทั่ว "เขาถึงกับขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วด้วยนะ""หมายความว่ายังไงก่อนเรื่องขอแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ?" ฉันถามด้วยความงงงวยเมื่อมองจากท่าทีของคนอื่น พวกเธอก็สับสนเช่นกัน ปกติก็มีแค่ขอกับไม่ได้ขอแต่งงาน ถูกขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมันคืออะไรกัน"คืองี้ตอนที่ฉันบอกเขาว่าท้องน่ะ เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะขอแต่งงาน แต่ด้วยเจ้าตัวน้อยนี่มาเซอร์ไพรส์เราก่อน เขาเลยจะเลื่อนการขอแต่งงานขึ้นมาเพื่อให้เราแต่งงานกันก่อนที่ลูกจะเกิดไง" เธอตอบ ดวงตายังคงเปล่งประกายด้วยความปิติและความสุขอย่างแท้จริงนั่นสมเหตุสมผล ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเรียกคำพูดนั้นว่าเป็นการขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมีเสียงกรีดร้องด้วยความยินดีดังขึ้นขณะที่เรากอดเธอและแสดงความยินดีอีกครั้ง การที่ผู้ชายของเธอกลับมามีผลกระทบอย่างมาก ตอนนี้เธอดูเหมือนเป็นอิสระ ภาระที่เธอแบกไว้เมื่อครั้งที่เราเจอกันไม่มีอีกต่อไป เธอเปล่งประกายหลังจากที่รีเปอร์กลับมาอยู่กับเธอ"แล้วเธอล่ะ เล็ตตี้?" ฉันหันไปหาเธอ "เธอคบกับทราวิสมานานแล้วนะ ทำไมเขายังไม่ขอแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 472

    ฉันถอนหายใจและพยายามควบคุมลมหัวใจ นี่คือบทสนทนาหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับลิลลี่ในวัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกขอบคุณคือเธอไม่ได้ถามว่าเด็กทารกมาจากที่ไหนกันแน่ นั่นคงจะเป็นบทสนทนาที่ยากมาก“เดี๋ยวแม่ขอกลับไปห้องก่อนแล้วค่อยออกไปนะ” ฉันบอกพวกเขาและเพิกเฉยต่อการพูดคุยเกี่ยวกับเด็กทารกไปเลย“ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจะไปไหน” เกเบรียลถามย้ำฉันคงจะบอกเขาไปแล้วถ้าไม่ได้มัวแต่นึกปัดป้องตนเองอยู่ แต่เขาทำให้ฉันไขว้เขวไปหมด“ฉันจะออกไปกินข้าวกลางวันกับพวกเอวาค่ะ”ฉันรู้สึกอยากจะยกเลิกนัดกับพวกเธอแล้วนอนพักผ่อน แต่ฉันตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น เอวาโทรมาสองสามวันก่อนที่เราจะออกจากโตเกียว เธอเอ่ยถามว่าฉันจะไปร่วมทานอาหารกลางวันกับพวกเธอในวันเสาร์ได้ไหม ฉันตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิดว่าฉันจะเหนื่อยแค่ไหนหลังจากเที่ยวบินสิบสามชั่วโมงรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเขา "ดีใจจริง ๆ ที่เห็นว่าคุณมีเพื่อน"“ค่ะพวกเธอเจ๋งมากเลย”"พูดถึงเพื่อน" ลิลลี่พูดแทรก "คืนนี้เซียร่ามานอนค้างที่บ้านเรานะคะ"“แม่จำได้จ้ะ ลูกรัก” ฉันเอ่ยตอบ “หนูมีอะไรฝากมาแม่ซื้อเตรียมตัวสำหรับคืนนี้บ้างไหมลูก?”เธอส่ายหัว “หนูขอขนมกับน

  • ธุลีใจ   บทที่ 471

    ฮาร์เปอร์ฉันมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ฉันสวมกางเกงยีนส์เอวสูงและเสื้อผ้าไหม ผมมวยขึ้นเป็นมวยยุ่ง ๆ และนอกจากมาสคาร่าและคอนซีลเลอร์ ฉันไม่ได้แต่งหน้ามากนักเรากลับถึงบ้านประมาณสามทุ่มได้ ลิลลี่หลับไปแล้ว ดังนั้นเราจึงเข้านอนทันทีที่ถึงบ้านฉันหยิบกระเป๋าออกมาจากห้องขณะมองดูเวลา ฉันมีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฉันจะต้องไปที่ร้านอาหาร"จะไปไหนครับ?" เกเบรียลถามทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในห้องครัวให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้ดูดีมากฉันรักเกเบรียลที่สวมใส่ชุดสูท เขาดูร้อนแรงมากในชุดสูทเสมอ แต่มันก็มีบางอย่างเวลาที่เขาแค่เท้าเปล่าพร้อมสวมเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์ม แล้วก็เวลาที่เขาไม่ได้ใส่เสื้อแต่ใส่แค่กางเกงวอร์มเอวหลวม ๆ ด้วยไม่ว่าจะภาพลักษณ์แบบไหน ฉันก็เห็นมาทั้งหมดแล้ว และฉันยังตัดสินใจไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ไหนที่ฉันชอบที่สุด ไม่แน่อาจเป็นตอนที่เขาไม่ใส่อะไรเลยก็ได้นะ "ฮาร์เปอร์?" เสียงขบขันของเขาดังขึ้น "น้ำลายไหลเยิ้มหมดแล้ว"ฉันหัวเราะเบา ๆ พยายามซ่อนความเขินอายไว้ "เยิ้มที่ไหนล่ะ"วันนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์มตัวหนึ่งและเขาดูน่าอร่อยมาก ฉันอยากจะใช้ลิ้นตนเองทดสอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 470

    คอนนี่ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่าฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไปถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตายฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่งฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้

  • ธุลีใจ   บทที่ 469

    “เกเบรียล”เมื่อเห็นแล้วว่าช่องทางขยายมากขึ้นและแน่ใจว่าฉันพร้อมดีแล้ว เขาก็เพิ่มนิ้วอีกนิ้ว ทั้งสองนิ้วกระแทกเข้าออกฉัน ชนและขูดกับจุดตรงนั้นของฉัน ไม่นานก็สัมผัสได้ว่าฉันใกล้ถึงจุดสุดยอดสายตาของเกเบรียลที่หรี่ลงสบกับสายตาของฉัน ริมฝีปากของเราอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย ขณะที่เราหายใจร่วมกันเป็นฟองอากาศเล็ก ๆ สิ่งที่เขาเห็นบนใบหน้าของฉันทำให้เขายิ้มและนิ้วอีกนิ้วหมุนวนแน่นอยู่เหนือจุดนั้นของฉันฉันบดขยี้เขา ไล่ตามความรู้สึกจนทั่วร่างสั่นสะเทือนอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขายังคงกระแทก ดันฝ่ามือของเขากับจุดนั้นของฉัน ดึงมันออกมาจนกระทั่งฉันเสร็จอีกครั้ง เสียงหอบและร้องไห้ออกมาดังไปทั่วห้องเมื่อต้นขาหยุดสั่นและประกายแวววาวหายไปจากดวงตา ในที่สุดฉันก็เงยหน้าขึ้นไปหาเขา ขากรรไกรของเกเบรียลขบกันแน่น และเขายังคงมีความร้อนแรงในสายตามันทำให้ฉันรู้สึกดี และฉันคิดที่จะขออีกรอบ แต่ตัดสินใจว่าฉันต้องการดูแลเขาแทน ฉันต้องการมันฉันอยากลิ้มรสเขาเหลือเกินฉันดันหน้าอกของเขาและเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว ฉันเลื่อนลงไปตามร่างกายของเขาจนกระทั่งฉันคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเพียงเสี้

  • ธุลีใจ   บทที่ 468

    เหมือนกับเช้าวันก่อน ๆ ที่ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับมือของเกเบรียลวางอยู่บนหน้าอกของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแต่เขามักทำแบบนี้เสมอวันนี้เราจะเดินทางกลับบ้านและฉันไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เมื่อวานนี้ฉันข้ามเส้นตอนที่เปิดทางให้เขาทำแบบนั้นด้วย ฉันรู้สึกว่าไม่มีทางย้อนกลับไปได้แล้วอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันรักทุกนาทีที่เราร่วมกิจกรรมกัน ฉันรักทุกวินาทีที่ใช้เวลากับเขาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา... ทว่า ความกลัวว่าสิ่งเหล่านี้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงมันเกิดขึ้น กลัวว่าฉันจะตื่นขึ้นในไม่ช้าและรู้ว่ามันไม่มีอะไรนอกจากเป็นความฝันเท่านั้นใจหนึ่งต้องการสิ่งนี้มากจนฉันเจ็บปวด แต่อีกใจหนึ่งก็นึกสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราราวกับเขารับรู้ได้ถึงความคิดของฉัน มือของเกเบรียลซึ่งอยู่รอบหน้าอกของฉันลดลงและโอบรอบเอวแทน เขาดึงฉันเข้ามาใกล้ จนฉันรู้สึกถึงความต้องการบนผิวกาย มันเหมือนกับว่าเขากำลังพยายามขจัดความสงสัยที่เริ่มแทรกซึมเข้ามาในความคิดของฉันออกไปฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกว่าความกังวลและความสงสัยทั้งหมดหายไป การอยู่ในอ้อมแขนของเกเบรียล ได้นอนหลับและตื่นขึ้นข้าง

  • ธุลีใจ   บทที่ 467

    เกเบรียลถอดกางเกงในของฉันออก และฉันรู้สึกว่ามือข้างหนึ่งลูบไล้ลงมาตามหน้าท้องของฉันและเลื่อนอยู่ระหว่างขา หัวใจแทบเต้นผิดจังหวะ แต่ฉันยังคงต้องการสัมผัสของเขาอย่างมาก ปากเริ่มเปิดรับจูบของเขา เสียงครางออกจากริมฝีปากของเขา ขณะที่ฉันยกสะโพกเข้าหาสัมผัสตรงนั้น อ้อนวอนให้เขาอย่าหยุด นิ้วลูบไล้บนผิวที่ลื่น บรรจงคลึงจุดนั้นของฉันและปั่นทุกสัมผัสประสาทไปหมดฉันกำลังจะเสร็จอยู่แล้ว ขาเริ่มสั่นอยู่บนเตียง ศีรษะเอนไปข้างหลังบนที่นอน เกเบรียลร้องครางกับผิวของฉันด้วยความพอใจ ขาแยกออกกว้าง เผยทุกมุมมองให้เขาเล้าโลมลงไปทั่วร่างกายของฉัน ดวงตาลืมขึ้น สายตาแสนร้อนแรงของเขาอยู่ตรงหน้าใบหน้านี้“โคตรยั่วเลย” เขาขยับจากจุดนั้นของฉันไปสอดใส่ภายในพร้อมกับถูไถตรงนั้นไปทั่วร่างกายกระตุก เสียงครางหลุดออกจากลำคอของฉัน เกเบรียลส่งยิ้มลงมาที่ฉัน กระแทกนิ้วเข้าไปในตัวฉันก่อนเพิ่มนิ้วที่สองและร้องครางให้กับความแน่นตรงนั้น ร่างกายสั่นสะท้านและสะโพกกระแทกกับมือของเขา พยายามคว้าจุดสุดยอดที่รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อมในที่สุดเขาก็ให้ฉันปลดปล่อยออกมา ขยับไปถูจุดนั้นของฉันอีกครั้งเป็นวงกลมแน่น เพิ่มแรงกดที่เหมาะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 466

    ริมฝีปากของเกเบรียลทาบลงมาทันทีที่ประตูห้องปิดลงข้างหลังเรา จูบช่างหนักแน่นราวกับการลงทัณฑ์"ไม่มีใครแตะต้องของของผมได้ และจำไว้ให้ดีว่าคุณคือของของผม ฮาร์เปอร์" เขาคำราม เสียงเต็มไปด้วยความโกรธ"ฉันแค่เต้นอยู่ดี ๆ เขาก็เข้ามา" ฉันแก้ตัว "ฉันพยายามหนีแล้วนะ แต่เขาก็จับฉันเอาไว้น่ะสิ"ความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเกเบรียลตึงเครียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่ตึงเครียดนั้นไม่ใช่เพราะว่าเพราะสิ่งต่าง ๆ เลวร้าย แต่เพราะว่ามันดีมากเลยต่างหาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหลังจากอาหารเย็นคืนนั้น เรารับประทาน ดื่ม และพูดคุยกัน แต่จูบนั้นเป็นไฮไลท์ของค่ำคืนรอยจูบอีกมากมายเกิดขึ้นระหว่างเราตั้งแต่นั้นมา จูบที่ทำให้ฉันต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ จูบของเขากลายเป็นเหมือนยาเสพติด มันบ้ามากฉันรู้ แตฉันอดไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาสัมผัสริมฝีปากของฉัน ฉันก็แทบละลายเป็นเวลาสี่วันแล้วตั้งแต่มื้อค่ำวันนั้น ฉันเลิกวางหมอนกั้นระหว่างเราในคืนที่สาม มันไร้ประโยชน์เพราะสุดท้ายฉันก็อยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่ดี"ไม่สำคัญหรอก" เสียงของเขาดึงฉันกลับสู่ความเป็นจริง "ไม่มีผู้ชายคนไหนได้รับอนุญาตให้แตะต้องคุณทั้งนั้น""อย่างนั้นเหร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status