แชร์

บทที่ 217

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ความเป็นจริง ผมกลัวมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผมไม่มีประสบการณ์ในการเป็นพ่อเลย สำหรับผมแล้ว การใกล้ชิดเด็ก ๆ ก็ไม่เคยด้วยซ้ำ มันล้นหลามไปหมด แต่ในใจผมก็รู้ดีว่าผมรักลูกคนนี้แล้ว

“เธอต้องการทำแท้งครับ และผมก็ไม่ยอมให้ผมเกิดขึ้นแน่ ดังนั้นผมจะพูดขู่เธอไป” ผมสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกว่าลำคอตีบตันเพราะความรู้สึกกำลังพรั่งพรูออกมา “ผมเลยพาเธอไปอยู่ที่บ้านคุณปู่และหวังว่าหลายสิ่งจะดีขึ้น หวังว่าเธอจะเรียนรู้คำว่ารักจากลูกและผม แต่ก็คิดผิดไป”

“เธอเลวร้ายมากเลยครับ ผมขอพูดตามตรงเลย ตลอดช่วงนั้นเรามีอะไรกันตอนที่เธอมีอารมณ์เสมอ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุดพฤติกรรมที่น่าเกลียดกับผมเลย เธอทั้งด่าผม เรียกผมว่าไอ้นู้นบ้างไอ้นี่บ้าง บางครั้งก็ตบตีผมด้วย เธอเอาแต่พูดว่าผมทำลายชีวิตเธอและก็เกลียดผมและลูกมากขนาดไหน”

ผมจ้องมองพื้นบ้านและพยายามคิดว่าเธอคงผ่านอะไรมามากมาย เธอทั้งตั้งท้อง อกหัก และยังรักผู้ชายคนอื่นอยู่ เพราะฉะนั้นผมจึงปล่อยให้เธอระบายอารมณ์หงุดหงิดใส่ผม

“มันลำบากมากเลยครับ ผมอยากเดินหนีไปหลายครั้ง แต่ก็เห็นแก่ลูกเสมอ บางครั้งผมก็นึกถึงช่วงเวลาที่เธออ่อนหวาน หรือตอนที่เธอร้องไห้อ้อนวอนไม่ให้ผ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 218

    เอวาสมองของฉัน ณ ตอนนี้แทบทนรับเรื่องไม่ไหวฉันนั่งอยู่ตรงนี้นับตั้งแต่คาลวินออกไปเกือบชั่วโมงได้แล้ว ฉันขออนุญาตให้โนอาไปค้างที่บ้านเขาและเขาก็ตอบตกลงฉันยังคงพยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่เปิดเผยออกมาวันนี้ มันเป็นข้อมูลที่มากเกินไป และฉันยังไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้เลยโทรศัพท์ดังขึ้น วินาทีหนึ่งจากนั้น ฉันคิดจะเมินเฉย แต่ก็ตัดสินใจตรงกันข้ามเพราะอาจเป็นเรื่องด่วนก็ได้ฉันปัดหน้าจอโดยที่ไม่เหลือบลงไปมอง มือหยิบหูฟังขึ้นมาใส่หูแต่ยังไม่พูดอะไรออกไป ภายในจิตใจตอนนี้เป็นสีขาวโพลน ทำได้เพียงนั่งรอให้ปลายสายเริ่มบทสนทนาก่อน“เอวา” เธอถอนหายใจ “ขอบคุณพระเจ้า เป็นไรไหมเนี่ย? ทราวิสเล่าเรื่องวันนี้ให้ฉันฟังหมดแล้วนะ”ทันใดนั้นฉันก็จำเสียงของเพื่อนได้ เล็ตตี้นั่นเอง“ไม่มั่นใจเลย เอาจริง” ฉันตอบไปอย่างแผ่วเบายังไม่เข้าใจเลยว่าเอมม่าถึงได้ใจไม้ไส้ระกำกับคาลวินและหนูกันเนอร์ได้อย่างไร ฉันรุ้ว่าเธอต้องการอุ้มท้องลูกของโรแวน ทว่าไม่เคยคิดเลยว่าจะปฏิเสธเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองเพียงเพราะไม่ได้มีสายเลือดของโรแวนไหลเวียนอยู่ ช่างเลวร้ายเสียจริง“ทราวิสบอกว่าเธอเป็นคนที่รู้ความจริงและเป

  • ธุลีใจ   บทที่ 219

    ฉันกำลังจะพูดบางสิ่งออกมา ทันใดนั้น กริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น“มีคนมาหาน่ะ เล็ตตี้ เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ”ฉันเหนื่อยและอ่อนล้าเต็มที่ทั้งร่างกายและจิตใจ“ได้สิ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันต่อนะ ฉันรู้ว่าวันนี้มันเหนื่อยมากสำหรับเธอ”เราสองต่างบอกลาและวางสายไป ฉันคิดว่าอยากเมินเฉยต่อคนตรงหน้าประตู อย่างที่บอกไปว่าฉันเหนื่อยเหลือเกิน และไม่ต้องการพบใครในตอนนี้ฉันลุกขึ้นอย่างเชื่องช้าไปเปิดประตูดู “โรแวน คุณมาทำอะไรที่นี่?” ฉันเอ่ยถามด้วยความตกใจฉันประหลาดใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเชา พูดกันตามตรง ฉันคิดว่าเขาจะคอยอยู่ข้างเอมม่าเพื่อปลอบโยนเธอเสียอีก รู้สึกตกใจเหมือนกันที่เขามาอยู่ตรงนี้แทน“เข้าไปได้ไหม?” เขาเอ่ยถามแทนตอบคำถามฉันฉันอาจสติหลุดหรือเป็นอะไรไปแล้วก็ได้เพราะว่าร่างกายเขยิบออกมาด้านข้างและปล่อยให้เขาเข้าไป โรแวนยิ้มเล็กน้อยขณะก้าวเข้าด้านใน“โนอาหลับแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถาม มือก็ถอดเสื้อคลุมด้านนอกออก“ก็น่าใช่นะ แต่ลูกไม่ได้อยู่นี่หรอก วันนี้ลูกไปนอนค้างที่บ้านของคาลวิน”ฉันเห็นความโกรธในดวงตาโรแวนเมื่อเอ่ยชื่อของคาลวินออกมา ตอนนั้นฉันอดคิดไม่ได้ว่าเขาคงจะไปต่อยตีกับคาลอีกครั้งหนึ

  • ธุลีใจ   บทที่ 220

    ฉันมักนึกสงสัยมาตลอดว่าสิ่งที่นักเขียนทั้งหลายมักบอก ‘จูบสามารถขยับโลกทั้งใบได้’ นั่นหมายความว่าอย่างไร นี่สินะความรู้สึกทั้งมวลหลุดลอยออกจากร่างเพราะฉันจับหลังศีรษะโรแวนแน่นและดื่มด่ำกับรสจูบนี้ ราวกับว่านี่ยังตอบสนองฉันไม่พอและปรารถนามากกว่านี้ แม้แต่จูบของอีธานยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ฉันหลงเข้าไปในจูบนี้พร้อมด้วยริมฝีปากเขาที่กำลังกลืนกินฉันอยู่ เป็นฝันที่รอคอยมานานเหลือเกิน ฉันต้องการให้โรแวนจูบฉันและเพรียกหาเช่นนี้ นี้คือสิ่งที่ฉันปราถนามาตลอดทุกครั้งที่เขาออกไปทำงานในทุกเช้า นี่คือสิ่งที่โหยหาทุกครั้งที่เราสอดใส่กัน เราไม่เคยทำเช่นนี้กันเลยไม่ใช่เพราะฉันไม่เคยลอง ทว่าเขากลับไม่เคยต้องการฉันเลย“คุณพยายามทำตัวให้เร่าร้อนแต่ก็ไม่ได้เรื่องเลย ทุกครั้งที่ผมสอดใส่เข้าไปในตัวคุณ คนที่ผมต้องการก็คือเอมม่า ผมจินตนาการว่าใต้ร่างผมคือเอมม่า ทุกครั้งที่ผมเสร็จสม ผมก็เห็นหน้าของเธอ คุณมันไม่ได้พิเศษอะไรเลยแค่ผู้หญิงใจง่าย ผมก็เลยใช้คุณเท่านั้น ผมใช้คุณเป็นเครื่องมือสนองกามเท่านั้น”ประโยคที่โรแวนเคยพูดกระแทกใส่หน้าฉันเมื่อสองสามเดือนก่อนยังสะท้อนอยู่ในหัวฉันราวกับเสียงระฆังดัง ฉันผละออกจ

  • ธุลีใจ   บทที่ 221

    แสงสว่างจ้าที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ฉันลืมตาตื่นขึ้น แทนที่จะลุกขึ้นในทันที ฉันแค่นอนอยู่บนเตียงสักพักหนึ่งขณะที่ลูบไล้หน้าท้องตัวเองและรู้สึกได้ถึงลูกน้อยกำลังขยับอยู่ในตัวฉันฉันมองไปที่ปฏิทินบนโต๊ะข้างเตียงและตระหนักได้ว่าวันนี้เพิ่งครบหกเดือนของระยะสำคัญแล้ว มันน่ากลัวที่จะมีลูก หนทางทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ฉันมักจะขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอในแต่ละครั้งที่ฉันผ่านระยะสำคัญกับลูกน้อยของฉันเพราะรู้ว่าไม่ใช่เด็กทารกทุกคนที่จะเกิดมาได้ปลอดภัยหลังจากกล่าวคำอธิษฐานขอบคุณเล็ก ๆ น้อยเสร็จ ฉันก็ลุกขึ้นและลงไปชั้นล่าง ฉันสามารถอาบน้ำในภายหลังได้แต่ตอนนี้รู้สึกหิว เพราะด้วยเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันจึงลืมกินอาหารไปเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวานก็ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับโรแวน ฉันยังคงไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะปล่อยเขาจูบฉันแล้วฉันกลับเพลิดเพลินไปกับมันเสียได้มันทำให้ฉันรำคาญมากที่ฉันต้องการมากกว่านี้ ฉันต้องการให้เขาจูบดื่มด่ำยิ่งขึ้น ฉันอยากให้เขาทำมากกว่านี้ ฉันสามารถโทษว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมนได้ แต่รู้ดีว่าฉันกำลังโกหกตัวเองอยู่โรแวนทำฉันเจ็บปวดมามาก แต่ความเป

  • ธุลีใจ   บทที่ 222

    เอมม่า“ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง มอลลี่” ฉันบอกเธอ เกือบจะร้องไห้ออกมา “พวกเขาโกรธฉันมากตอนนี้”แม่กับทราวิสไม่ยอมรับสายหรือแม้แต่จะพูดคุยกับฉัน หลังจากความหายนะที่งานเลี้ยงนั่น ฉันก็ยังไม่ได้เจอหรือคุยกับพวกเขาเลยทราวิสเมินเฉยต่อฉัน และแม่ก็ไล่ฉันออกจากบ้านทันทีที่งานเล็ก ๆ นั่นจบลง มันน่าอึดอัดเป็นบ้า ไม่มีใครยอมพูดคุยกับฉันเลยจริง ๆ มันเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตน นี่คือสิ่งที่เอวารู้สึกในอดีตใช่ไหม? มันยุ่งเหยิงเป็นบ้า“ฉันบอกเธอแล้วว่าให้บอกความจริงกับพวกเขา แต่เธอไม่ฟังเลย” เสียงของมอลลี่นำฉันกลับมาสู่ปัจจุบันเธอพูดถูก ทุกครั้งที่เธอเอ่ยถึงเรื่องนั้น ฉันจะจบมันลงก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ทันทีที่ฉันรู้ถึงการตั้งครรภ์ของตน เธอขอร้องให้ฉันบอกพวกเขาแต่ฉันปฏิเสธ เธอพยายามมาโดยตลอดแปดปีที่ผ่านมานี้ มันไม่เคยได้ผลเพราะฉันไม่เคยฟังเธอเลย บางครั้งฉันจะโกรธเสียด้วยซ้ำ พวกเราจะโต้เถียงกันและจากนั้นก็ลงเอยด้วยการไม่ได้พูดคุยกันอยู่หลายวัน“ฉันรู้” ฉันกระซิบอย่างเหนื่อยล้าฉันนอนไม่หลับเลย เพราะมีเรื่องให้คิดในหัวมากมายจนมันยากสำหรับฉันที่จะพบความสงบสุขและนอนหลับได้“ไม่ เธอไม่เลย

  • ธุลีใจ   บทที่ 223

    ความคิดนั้นทำให้เกิดความตื่นตระหนกบางอย่างในตัวฉัน ฉันไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันไม่อยากละทิ้งความฝันของฉันที่จะได้อยู่กับโรแวน ฉันเอาแต่นิ่งเงียบราวกับว่ากำลังต่อสู้กับคำพูดของเธอในหัวของตัวเอง“เอมม่า?” เธอเรียกฉันรู้จักมอลลี่ดี เธออยากให้ฉันเห็นด้วย เธออยากให้ฉันบอกว่าฉันจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันไม่ต้องการฉันหลุดจากการต้องตอบเธอมาได้เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา“ฉันต้องไปแล้ว มอลลี่ มีคนอยู่ที่ประตู” ฉันบอกเธอด้วยความรีบร้อนขณะที่ฉันเดินไปยังประตู“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เอม นี่…”ฉันวางสายก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบประโยคเมื่อเปิดประตู ฉันก็ประหลาดใจที่เจอแม่ของฉันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เธอไม่ได้ยิ้มแต่ความหวังยังคงพองฟูอยู่ภายในตัวฉันแม่ไม่ได้รอคำเชิญ เธอเพียงแค่เดินเข้ามา“แม่จะพูดสั้น ๆ นะ” เธอเอ่ยขึ้น และความหวังทั้งหมดที่ฉันมีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้หดตัวและตายไปฉันปิดประตูและเผชิญหน้ากับแม่ เมื่อมองไปที่เธอ ฉันกลั้นน้ำตาไว้เมื่อฉันสังเกตเห็นความเกรี้ยวกราดที่กำลังลุกเต้นอยู่ภายในแววตาของแม่“แม่อยากพบหลานชายของแม่ แม่หวังว่าลูกจะแนะนำเขา

  • ธุลีใจ   บทที่ 224

    โรแวนเป็นเวลาสองวันแล้วตั้งแต่ความจริงได้เปิดเผยออกมา ผมยังคงตัดใจจากจูบนั้นไม่ได้ ตอนที่ผมก้มหน้าลงเพื่อจูบเอวา ผมคาดไว้ว่าเธอจะผลักผมออกไป หรือเลวร้ายกว่านั้นอาจตบหน้าผม ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอปล่อยให้ผมจูบเธอ แต่ความประหลาดใจนั้นกลายเป็นความสุขและความปิติยินดีในไม่ช้าไม่อยากเชื่อเลยว่าผมอยู่มานานขนาดนี้โดยไม่จูบเธอได้ยังไง ริมฝีปากของเธอนุ่มนวลและปากของเธอก็น่าเสพติด ผมสามารถใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการจูบเธอ และผมคงจะมีความสุขมาก อีกครั้งแล้วที่ผมพูดแบบนี้ ผมโคตรจะโง่เง่าเลย ทุกครั้งที่ผมปฏิเสธจูบของเอวาตอนที่พวกเรายังแต่งงานกัน ผมคิดว่าผมกำลังทำโทษเธออยู่ แต่ผมไม่รู้เลยว่าผมกำลังพลาดโอกาสที่จะทำบางอย่างไป ผมมักจะเสียใจเรื่องนี้อยู่เสมอเพราะผมพลาดโอกาสไปมากมายตอนนี้ผมอยู่ในออฟฟิศของตัวเองและไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องไร้สาระได้ ผมมีการประชุมทางธุรกิจในอีกสองสามวันข้างหน้า แต่กระนั้นสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของผมก็คือจูบนั้นผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง การจูบเธอแล้วเธอตอบสนองด้วยนั้นคล้ายกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของการได้รับจูบครั้งแรกจากผู้หญิงคนหนึ่ง

  • ธุลีใจ   บทที่ 225

    ความหวังทั้งหมดที่ผมมีได้เหี่ยวแห้งตายไป บ้าเอ้ย ผมจะมีโอกาสทำทุกอย่างให้ถูกต้องบ้างไหม? จะเป็นไปได้ไหมที่นะเอาชนะใจเธอคืนมา? “ฉันไม่คิดว่านั่นคือสิ่งเดียวหรอก พวกเราทั้งคู่รู้จักเอวาดี ถ้าเธอไม่ต้องการ เธอจะไม่ยอมให้นายจูบหรอก ฮอร์โมนบ้าบออะไรกัน” เขาพยายามให้กำลังใจผม แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกคล้อยตามเลยจริง ๆประตูถูกเปิดออกและทราวิสก็เดินเข้ามา เขาดูย่ำแย่มาก เขาเดินมาหาและนั่งลงข้างเกบ“นายดูแย่มาก” เกบบอกให้เขารู้ทราวิสเพียงถอนหายใจ “ฉันรู้ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”เรื่องต่าง ๆ ยุ่งเหยิงไปหมดหลังจากรู้ว่าน้องสาวสุดที่รักของเขามีลูกซึ่งเธอเก็บไว้เป็นความลับถึงแปดปี“เป็นไงบ้างล่ะ?” ผมถาม“แย่น่ะสิ ฉันทนไม่ได้ที่จะอยู่ในห้องเดียวกับเอมม่าตอนนี้ แม่ก็เหมือนกัน อันที่จริงแม่ยื่นคำขาดให้เอมม่า ถ้าเธอสร้างไม่ความสัมพันธ์กับกันเนอร์แม่ก็จะตัดขาดเธอออกจากชีวิต”ทั้งเกบและผมจ้องมองเขาด้วยความตกใจ ผมไม่เคยคิดเลยว่าเคทขู่ที่จะตัดขาดกับเอมม่าได้แม้แต่ตอนที่เอวากับผมยุ่งพัวพันกัน เธอไม่เคยตัดขาดกับเอวา แน่นอนเธอกับเจมส์เมินเฉยต่อเธอ แต่พวกเขาไม่ได้ตัดเธอออกไป“นายพูดจริงหรือเปล

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 428

    เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจพวกเขา ผมลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าเสื้อโค้ทแล้วออกจากห้องทำงาน ผมรู้ดีว่าคงไม่มีสมาธิทำงานได้ แล้วจะเสียเวลาไปทำไมกันล่ะ?ผมส่งข้อความหาคนขับรถเพื่อให้เตรียมรถไว้ก่อนจะก้าวขึ้นลิฟต์ ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็อยู่ในลานจอดรถใต้ดิน“คุณวู้ดครับ” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยขณะเปิดประตูรถให้ผมผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในรถ เขาก็ขึ้นรถและเริ่มขับออกไปผมตัดสินใจเปิดดูข่าวซุบซิบต่าง ๆ เป็นการฆ่าเวลาเกเบรียล วู้ดเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ประกาศลั่นอย่างเป็นทางการ ข่าวจากวงในวู้ด คอร์เปอร์เรชั่นเกเบรียล วู้ด หนุ่มเนื้อหอมตัวท๊อปของเมืองสละโสดขวัญใจมหาชน เกเบรียล วู้ดลั่นระฆังวิวาห์ปิดประมูลความโสดของหนุ่มฮอต เกเบรียล วู้ดสาวคนไหนกันที่เกเบรียล วู้ด สวมแหวนแต่งงานให้กันนะ?เรื่องแล้วเรื่องเล่า บทความพวกนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ บางอันก็ดูโง่เง่า บางอันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเมื่อเดินทางถึงบ้าน ผมปิดโทรศัพท์ก่อนลงจากรถ หลังจากกล่าวลาคนขับแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบ้านของตัวเองผมแปลกใจที่เจอฮาร์เปอร์นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น“กลับมาบ้านได้สักทีนะคะ” เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เห็นข่าวซุบซิบพว

  • ธุลีใจ   บทที่ 427

    เกเบรียลผมนั่งมองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ยังคงเดือดพล่าน โกรธจัด โกรธจนแทบบ้า มิลลี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายใส่ฮาร์เปอร์แบบนั้น?เพราะสมาธิที่เตลิดไปจนหมด ผมลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินวนไปมา สมองผมทำงานเร็วราวกับกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วพันไมล์ต่อวินาที ผมพยายามคิดหาวิธีที่แตกต่างไปซึ่งจะทำให้ชีวิตของมิลลี่เป็นนรกบนดินนายโกรธอะไรนักหนา? ตอนที่แต่งงานกับฮาร์เปอร์เมื่อหลายปีก่อน นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ามิลลี่เลยเสียงในหัวเยาะหยันผม แต่ผมไม่อยากฟัง เพราะมันพูดถูกจนน่าหงุดหงิด ตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย ผมทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป?ตอนที่ผมลากฮาร์เปอร์มายืนกลางห้องและขู่ทุกคนที่กล้าทำร้ายเธอ ผมเห็นความตกใจและประหลาดใจในดวงตาเธอตอนอยู่ในห้องทำงานของผม เธอมองผมเหมือนกับว่าไม่รู้จักผมอีกต่อไป เหมือนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกอยู่ข้างเธอ มันชัดเจนว่าเธอคิดไม่ออกว่าจะคิดกับผมหรือการกระทำของผมอย่างไรผมยกมือลูบหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ผมจะโทษเธอได้อย่างไรล่ะกับปฏิกิริยานั้น ในเมื่ออดีตผมเคยปฏิบัติกับเธออย่างเลว

  • ธุลีใจ   บทที่ 426

    จากนั้น เขาจับมือฉันพาเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันมองเห็นความหวาดกลัวในตาของมิลลี่ ความกลัวนั้นบอกทุกอย่างที่ฉันต้องการรู้ และแน่นอนว่าผลการสอบสวนของเธอคงไม่พูดถึงเธอในทางดีแน่เราขึ้นลิฟต์ไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เกเบรียลพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา"คุณเป็นอะไรไหม?" เขาถามเมื่อเราเข้าไปในห้อง "ผมส่งเรื่องให้ทีมสื่อข่าวสารประกาศเรื่องการแต่งงานของเราแล้ว ผมอยากลงไปหาเพื่อบอกคุณเรื่องนี้ แต่กลับไม่เจอคุณที่ห้องทำงานตัวเอง ผมก็เลยได้เห็นฉากน่ารังเกียจนั้นกับตา"ฉันดึงมือออกจากมือของเขาแล้วจ้องมองกลับไป "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง""แน่ใจนะ?""แน่ใจค่ะ"เรานั่งอยู่ในความเงียบงันสักพัก ฉันเห็นว่าเขาคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ยับยั้งเขาเอาไว้ สายตาที่เขาจ้องมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงกลับบ้านก่อนนะคะ ฉันรู้สึกกังวลมาตลอดทั้งวันเพราะเรื่องลิลลี่" ฉันพูดเบา ๆ ไม่กล้ามองตาเขา"ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน"ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้ แต่การกระทำของเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 425

    "ภรรยาเหรอ?" มิลลี่ทวนคำพูดราวกับว่าเธอไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้"ผมพูดไม่ชัดหรือไง?" เกเบรียลถามเสียงเรียบแต่แฝงความคมกริบทั้งห้องเงียบกริบทันที คนที่เคยพึมพำและชี้นิ้วมาที่ฉันตอนนี้ต่างก้มหน้าลงไม่กล้ามองขึ้นมาฉันไม่ได้ต้องการให้เกเบรียลมาสู้แทนฉันเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้กลัวและไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฉันเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฉันชอบที่เขาออกมาปกป้องฉันมิลลี่ตัวสั่นเทิ้ม เธอทั้งตัวแข็งทื่อและความกลัวปรากฏชัดบนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่งที่ฉันคุ้นเคยด้วยท่าทางของเธอ คุณอาจคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เธอชอบสั่งคนอื่น ทั้งหยาบคายและร้ายกาจ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนพวกเขาต่ำต้อยกว่าฉันแทบไม่เคยลงไปที่ชั้นอื่น ๆ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องไป มิลลี่จะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อพูดจาไร้สาระและปฏิบัติต่อฉันเหมือนขยะ"ดิฉันขอโทษค่ะเกเบรียล ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ" เธอกระซิบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการขอร้องความกดดันรอบตัวเกเบรียลยิ่งหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก ผู้ห

  • ธุลีใจ   บทที่ 424

    ฉันเพิ่งจะก้าวลงจากรถ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็คว้ามือฉันไว้และกระชากมันอย่างแรง ฉันตกใจกับการกระทำนั้น จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน แล้วก็เจอสายตาที่ลุกวาวของเขา“แหวนอยู่ไหน?” เขาพ่นคำถามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาจ้องมองฉันเขม็งให้ตายเถอะ! อะไรกันเนี่ย?ฉันค่อย ๆ ละสายตาจากเขาไปที่นิ้วมือว่างเปล่าของตัวเอง คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนไหม? แบบที่คุณรู้ว่าคนถามอะไร คุณรู้คำตอบ แต่ก็ยังสับสนอยู่ดี? นั่นแหละ ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้“ฮาร์เปอร์ แหวนคุณอยู่ที่ไหน?” เขาเค้นเสียงถามขณะที่ก้าวลงจากรถฉันมองร่างของเขาที่ลุกออกจากรถ แล้วตอนนี้เขาก็ยืนตระหง่านค้ำหัวฉัน ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเขาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยดึงฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันพึมพำออกมา ยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้สีหน้าของเขามืดครึ้มขึ้นไปอีก เหมือนคำตอบของฉันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขาเข้า“เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือคุณไม่ได้ใส่แหวนที่ผมเป็นคนให้ และผมก็อยากรู้ด้วยว่าทำไม” เขาคำรามออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดฉันตอบกลับไปแบบโง

  • ธุลีใจ   บทที่ 423

    ฉันพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจับมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่จับแน่นจนเจ็บ แต่แน่นพอที่ฉันจะดึงมือออกไม่ได้"ฮาร์เปอร์" เขากระซิบเตือนเมื่อฉันพยายามดึงมือออกอีกครั้งทำไมเขาต้องทำให้มันยากขนาดนี้? ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้เลยเหรอ?"ไม่มีอะไรให้พูดทั้งนั้น" ฉันขู่ฟ่อ ขมวดคิ้วมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาความจริงที่ว่าฉันอ่อนระทวยต่อสัมผัสของเขาก็น่าอายพอแล้ว ตอนนี้เขายังอยากจะทำให้ฉันอายมากขึ้นด้วยการพูดเรื่องนี้ระหว่างทางไปทำงานอีก"ตรงนี้แหละที่คุณคิดผิด" เขาจับเอวฉันแล้วดึงเข้าใกล้ตัว "เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะ"เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เสียสติไปแล้วเหรอ? ตอนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเกเบรียล เพราะเขากำลังทำอะไรที่ดูไม่ใช่เขาเลยเขากำลังปั่นหัวฉันเล่นเหรอ? เป็นแบบนี้ใช่ไหม? เกมสำหรับเขาสินะ"ปล่อยฉันนะ เกเบรียล" ฉันกระซิบอย่างโกรธจัดในใจ ขณะที่ความคิดที่ไม่สบายใจเริ่มจมลึกลงในหัวโธ่! มันยังเจ็บอยู่เลย เจ็บที่เมื่อก่อนเขาไม่ต้องการฉัน แล้วตอนนี้เขากำลังทำเหมือนฉันเป็นของเล่น"ทำไมล่ะ?" เขาถาม ขณะริมฝีปากของเขาใกล้หูฉัน "ผมทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า? ทำให้คุณเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 422

    ตอนที่เรากำลังจะออกจากบ้าน ฉันควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้วฉันไม่อยากยอมรับ แต่ความรู้สึกดึงดูดที่ฉันมีต่อเกเบรียลยังคงอยู่ มันผ่านมาหลายปีแล้ว เกือบสิบปี แต่เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเร้าอารมณ์ฉันฉันเกลียดมัน เกลียดเพราะตอนที่ฉันแต่งงานกับเลียม มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าฉันจะรู้สึกตื่นเต้นพอสำหรับเรื่องบนเตียง อย่าเข้าใจผิดนะ เลียมไม่ได้เป็นคู่รักที่แย่ เขาไม่ได้แย่เรื่องเซ็กซ์ แต่ความรู้สึกมีอารมณ์ของฉันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ตอนที่เขาอยากจะนอนด้วยแต่กับเกเบรียล มันไม่ได้ยากเลย แค่สายตาที่ร้อนแรงแวบเดียวพร้อมมือที่หยาบกร้านของเขาแตะผิวกาย ฉันก็เปียกชุ่มเพราะเขา พร้อมให้เขาครอบครอง มันบอกอะไรเกี่ยวกับตัวฉันเหรอ? การที่อดีตสามีไม่ได้สัมผัสด้านนี้ของฉันในขณะที่ผู้ชายที่ทำลายฉันกลับทำได้?หลังจากอาบน้ำเย็นเร็ว ๆ เพื่อล้างความเร่าร้อนและความอับอายออกไป ฉันแต่งตัวและลงไปที่โต๊ะอาหาร ระหว่างที่เรากำลังกินข้าว ฉันพยายามหลีกเลี่ยงสายตาที่เหมือนรู้อะไรของเกเบรียล“พร้อมหรือยังลูก?” ฉันถามลิลลี่ในขณะที่เธอหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เกเบรียลประกาศว่าเขาจะไปส่งลิลลี่ไปโรง

  • ธุลีใจ   บทที่ 421

    ฮาร์เปอร์ฉันลุกออกจากเตียงด้วยความรู้สึกเหมือนโดนรถบรรทุกเหยียบ ฉันแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืนซึ่งบอกได้จากความเฉื่อยชาและเชื่องช้าในเช้านี้เมื่อมองไปที่โทรศัพท์ ฉันเห็นว่ามันเลยตีห้ามาเล็กน้อย ฉันรู้ว่าคงกลับไปนอนต่อไม่ได้ เลยลุกขึ้นมาแทน เกเบรียลเคยบอกว่าเขามีห้องยิม ฉันเลยหยิบกางเกงเลกกิ้งกับสปอร์ตบราใส่ แล้วออกจากห้องวันนี้เป็นวันที่ยาวนานแน่นอน เพราะวันนี้วันจันทร์และเป็นวันแรกที่ลิลลี่จะไปโรงเรียน ฉันอยากจะเป็นคนพาเธอไปเอง เธอดูประหม่าเล็กน้อยตอนเข้านอน แต่พยายามทำเหมือนไม่เป็นอะไรสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจคือการรู้ว่าโนอาจะอยู่กับเธอ เธอบอกฉันว่าโนอาสัญญาว่าจะพาเธอไปรู้จักเพื่อน ๆ ของเขา มัโนอาน่ารักและใจดีมาก เห็นชัดเลยว่าโนอาถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี และจากความอ่อนโยนของเอวาที่มีต่อฉัน ฉันก็ไม่แปลกใจเลยฉันเดินผ่านทางเดินที่ยังมืดพยายามหาทางไปยิม ฉันจำได้ว่าเกเบรียลบอกว่ายิมอยู่ชั้นบนสุด ฉันจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นระหว่างทาง ฉันเดินผ่านห้องของเกเบรียล และหยุดอยู่ตรงนั้นชั่วครู่ อย่าเพิ่งมองฉันแบบนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงหยุด มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

  • ธุลีใจ   บทที่ 420

    คาลวิน"มาทำบ้าอะไรที่บ้านผม เอมม่า!" ผมพูดผ่านไรฟันกันเนอร์กับผมกำลังวุ่นวายกับการทาสีห้องลูกชายอยู่ ก่อนที่เสียงกริ่งประตูจะดังขึ้น สิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดคือให้เขาได้ยินเสียงผมตะโกนแล้ววิ่งลงมาดูเห็นผู้หญิงสารเลวคนนี้ผมจ้องมองเธออย่างเคืองขุ่น ขณะที่ความโกรธเริ่มคุกรุ่นขึ้นในตัว ผมกำหมัดแน่น และกรามก็ขบกันแน่นเพื่อพยายามหยุดตัวเองไม่ให้ระเบิดออกไป"ฉัน... ฉัน..." เธอพูดไม่จบประโยคและมันยิ่งทำให้ผมโกรธมากขึ้นให้ตายเถอะ! ผมเดินออกจากบ้านและปิดประตูตามหลังตัวเอง ผมต้องไล่เธอออกไป"ผมถามอยู่ไม่ได้ยินเหรอไง เอมม่า!" ผมตะคอกพร้อมจับลูกบิดประตูแน่นเหมือนคีมเพื่อทำให้ตัวเองสงบลงหลังจากทุกอย่างที่เธอทำกับผมและกันเนอร์ ตอนนี้เธอยังมีหน้ามาอยู่ที่ประตูบ้านผมได้อีกเหรอ?ความเจ็บปวดและการโดนทรมานเกือบสิบปี เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าผมจะลืมมันง่าย ๆ? ผมจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้ขยี้หัวใจผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกเหรอ? ทำเป็นเหมือนเธอไม่ได้เอาจิตวิญญาณของผมใส่เครื่องบดเนื้อแล้วบดมันจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างนั้นเหรอ?มันเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บจนถึงตอนนี้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status