Share

บทที่ 221

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
แสงสว่างจ้าที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ฉันลืมตาตื่นขึ้น แทนที่จะลุกขึ้นในทันที ฉันแค่นอนอยู่บนเตียงสักพักหนึ่งขณะที่ลูบไล้หน้าท้องตัวเองและรู้สึกได้ถึงลูกน้อยกำลังขยับอยู่ในตัวฉัน

ฉันมองไปที่ปฏิทินบนโต๊ะข้างเตียงและตระหนักได้ว่าวันนี้เพิ่งครบหกเดือนของระยะสำคัญแล้ว มันน่ากลัวที่จะมีลูก หนทางทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ฉันมักจะขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอในแต่ละครั้งที่ฉันผ่านระยะสำคัญกับลูกน้อยของฉันเพราะรู้ว่าไม่ใช่เด็กทารกทุกคนที่จะเกิดมาได้ปลอดภัย

หลังจากกล่าวคำอธิษฐานขอบคุณเล็ก ๆ น้อยเสร็จ ฉันก็ลุกขึ้นและลงไปชั้นล่าง ฉันสามารถอาบน้ำในภายหลังได้แต่ตอนนี้รู้สึกหิว เพราะด้วยเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันจึงลืมกินอาหารไป

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวานก็ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับโรแวน ฉันยังคงไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะปล่อยเขาจูบฉันแล้วฉันกลับเพลิดเพลินไปกับมันเสียได้

มันทำให้ฉันรำคาญมากที่ฉันต้องการมากกว่านี้ ฉันต้องการให้เขาจูบดื่มด่ำยิ่งขึ้น ฉันอยากให้เขาทำมากกว่านี้ ฉันสามารถโทษว่ามันเป็นเพราะฮอร์โมนได้ แต่รู้ดีว่าฉันกำลังโกหกตัวเองอยู่

โรแวนทำฉันเจ็บปวดมามาก แต่ความเป
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 222

    เอมม่า“ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง มอลลี่” ฉันบอกเธอ เกือบจะร้องไห้ออกมา “พวกเขาโกรธฉันมากตอนนี้”แม่กับทราวิสไม่ยอมรับสายหรือแม้แต่จะพูดคุยกับฉัน หลังจากความหายนะที่งานเลี้ยงนั่น ฉันก็ยังไม่ได้เจอหรือคุยกับพวกเขาเลยทราวิสเมินเฉยต่อฉัน และแม่ก็ไล่ฉันออกจากบ้านทันทีที่งานเล็ก ๆ นั่นจบลง มันน่าอึดอัดเป็นบ้า ไม่มีใครยอมพูดคุยกับฉันเลยจริง ๆ มันเหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตน นี่คือสิ่งที่เอวารู้สึกในอดีตใช่ไหม? มันยุ่งเหยิงเป็นบ้า“ฉันบอกเธอแล้วว่าให้บอกความจริงกับพวกเขา แต่เธอไม่ฟังเลย” เสียงของมอลลี่นำฉันกลับมาสู่ปัจจุบันเธอพูดถูก ทุกครั้งที่เธอเอ่ยถึงเรื่องนั้น ฉันจะจบมันลงก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ทันทีที่ฉันรู้ถึงการตั้งครรภ์ของตน เธอขอร้องให้ฉันบอกพวกเขาแต่ฉันปฏิเสธ เธอพยายามมาโดยตลอดแปดปีที่ผ่านมานี้ มันไม่เคยได้ผลเพราะฉันไม่เคยฟังเธอเลย บางครั้งฉันจะโกรธเสียด้วยซ้ำ พวกเราจะโต้เถียงกันและจากนั้นก็ลงเอยด้วยการไม่ได้พูดคุยกันอยู่หลายวัน“ฉันรู้” ฉันกระซิบอย่างเหนื่อยล้าฉันนอนไม่หลับเลย เพราะมีเรื่องให้คิดในหัวมากมายจนมันยากสำหรับฉันที่จะพบความสงบสุขและนอนหลับได้“ไม่ เธอไม่เลย

  • ธุลีใจ   บทที่ 223

    ความคิดนั้นทำให้เกิดความตื่นตระหนกบางอย่างในตัวฉัน ฉันไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันไม่อยากละทิ้งความฝันของฉันที่จะได้อยู่กับโรแวน ฉันเอาแต่นิ่งเงียบราวกับว่ากำลังต่อสู้กับคำพูดของเธอในหัวของตัวเอง“เอมม่า?” เธอเรียกฉันรู้จักมอลลี่ดี เธออยากให้ฉันเห็นด้วย เธออยากให้ฉันบอกว่าฉันจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันไม่ต้องการฉันหลุดจากการต้องตอบเธอมาได้เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา“ฉันต้องไปแล้ว มอลลี่ มีคนอยู่ที่ประตู” ฉันบอกเธอด้วยความรีบร้อนขณะที่ฉันเดินไปยังประตู“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เอม นี่…”ฉันวางสายก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบประโยคเมื่อเปิดประตู ฉันก็ประหลาดใจที่เจอแม่ของฉันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เธอไม่ได้ยิ้มแต่ความหวังยังคงพองฟูอยู่ภายในตัวฉันแม่ไม่ได้รอคำเชิญ เธอเพียงแค่เดินเข้ามา“แม่จะพูดสั้น ๆ นะ” เธอเอ่ยขึ้น และความหวังทั้งหมดที่ฉันมีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาได้หดตัวและตายไปฉันปิดประตูและเผชิญหน้ากับแม่ เมื่อมองไปที่เธอ ฉันกลั้นน้ำตาไว้เมื่อฉันสังเกตเห็นความเกรี้ยวกราดที่กำลังลุกเต้นอยู่ภายในแววตาของแม่“แม่อยากพบหลานชายของแม่ แม่หวังว่าลูกจะแนะนำเขา

  • ธุลีใจ   บทที่ 224

    โรแวนเป็นเวลาสองวันแล้วตั้งแต่ความจริงได้เปิดเผยออกมา ผมยังคงตัดใจจากจูบนั้นไม่ได้ ตอนที่ผมก้มหน้าลงเพื่อจูบเอวา ผมคาดไว้ว่าเธอจะผลักผมออกไป หรือเลวร้ายกว่านั้นอาจตบหน้าผม ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอปล่อยให้ผมจูบเธอ แต่ความประหลาดใจนั้นกลายเป็นความสุขและความปิติยินดีในไม่ช้าไม่อยากเชื่อเลยว่าผมอยู่มานานขนาดนี้โดยไม่จูบเธอได้ยังไง ริมฝีปากของเธอนุ่มนวลและปากของเธอก็น่าเสพติด ผมสามารถใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการจูบเธอ และผมคงจะมีความสุขมาก อีกครั้งแล้วที่ผมพูดแบบนี้ ผมโคตรจะโง่เง่าเลย ทุกครั้งที่ผมปฏิเสธจูบของเอวาตอนที่พวกเรายังแต่งงานกัน ผมคิดว่าผมกำลังทำโทษเธออยู่ แต่ผมไม่รู้เลยว่าผมกำลังพลาดโอกาสที่จะทำบางอย่างไป ผมมักจะเสียใจเรื่องนี้อยู่เสมอเพราะผมพลาดโอกาสไปมากมายตอนนี้ผมอยู่ในออฟฟิศของตัวเองและไม่สามารถจดจ่อกับเรื่องไร้สาระได้ ผมมีการประชุมทางธุรกิจในอีกสองสามวันข้างหน้า แต่กระนั้นสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของผมก็คือจูบนั้นผมรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง การจูบเธอแล้วเธอตอบสนองด้วยนั้นคล้ายกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของการได้รับจูบครั้งแรกจากผู้หญิงคนหนึ่ง

  • ธุลีใจ   บทที่ 225

    ความหวังทั้งหมดที่ผมมีได้เหี่ยวแห้งตายไป บ้าเอ้ย ผมจะมีโอกาสทำทุกอย่างให้ถูกต้องบ้างไหม? จะเป็นไปได้ไหมที่นะเอาชนะใจเธอคืนมา? “ฉันไม่คิดว่านั่นคือสิ่งเดียวหรอก พวกเราทั้งคู่รู้จักเอวาดี ถ้าเธอไม่ต้องการ เธอจะไม่ยอมให้นายจูบหรอก ฮอร์โมนบ้าบออะไรกัน” เขาพยายามให้กำลังใจผม แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกคล้อยตามเลยจริง ๆประตูถูกเปิดออกและทราวิสก็เดินเข้ามา เขาดูย่ำแย่มาก เขาเดินมาหาและนั่งลงข้างเกบ“นายดูแย่มาก” เกบบอกให้เขารู้ทราวิสเพียงถอนหายใจ “ฉันรู้ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน”เรื่องต่าง ๆ ยุ่งเหยิงไปหมดหลังจากรู้ว่าน้องสาวสุดที่รักของเขามีลูกซึ่งเธอเก็บไว้เป็นความลับถึงแปดปี“เป็นไงบ้างล่ะ?” ผมถาม“แย่น่ะสิ ฉันทนไม่ได้ที่จะอยู่ในห้องเดียวกับเอมม่าตอนนี้ แม่ก็เหมือนกัน อันที่จริงแม่ยื่นคำขาดให้เอมม่า ถ้าเธอสร้างไม่ความสัมพันธ์กับกันเนอร์แม่ก็จะตัดขาดเธอออกจากชีวิต”ทั้งเกบและผมจ้องมองเขาด้วยความตกใจ ผมไม่เคยคิดเลยว่าเคทขู่ที่จะตัดขาดกับเอมม่าได้แม้แต่ตอนที่เอวากับผมยุ่งพัวพันกัน เธอไม่เคยตัดขาดกับเอวา แน่นอนเธอกับเจมส์เมินเฉยต่อเธอ แต่พวกเขาไม่ได้ตัดเธอออกไป“นายพูดจริงหรือเปล

  • ธุลีใจ   บทที่ 226

    เอวาฉันไม่สามารถเอาโน้ตบ้า ๆ นั่นออกจากหัวได้เลย ฉันเอาแต่คิดเรื่องนี้ฉันอยากจะเชื่อนะว่ามันไม่มีอะไรเลยนอกจากการเล่นพิเรนทร์ แต่ฉันไม่มั่นใจมากนักเพราะรู้สึกแย่ทุกครั้งที่อ่านมันฉันเคยคิดที่จะแจ้งความแต่ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ มันก็แค่กระดาษโน้ตแผ่นหนึ่ง ถ้าหากว่าคาลพูดถูกว่ามันก็แค่เป็นการเล่นพิเรนทร์โง่ ๆ ล่ะ? โทรศัพท์ของดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว ฉันวางไม้ถูพื้นลงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นชื่อโรแวนกะพริบอยู่ ฉันเกือบจะวางสายแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำ“สวัสดี” ฉันบังคับเสียงตัวเองให้ดูไร้อารมณ์“คุณเป็นไงบ้าง?” เขาถาม ฟังดูไม่มั่นใจเล็กน้อยฉันสาบานเลยว่าไม่มีทางคุ้นชินกับโรแวนเวอร์ชั่นนี้ มันไม่เหมือนเขาเลย มันเหมือนว่าเขาตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งและกลายเป็นอีกคน แต่ถ้าเขาได้เปลี่ยนไปอย่างแท้จริงคงจะใช้เวลาสักพักที่จะคุ้นชินกับเขาได้“คุณต้องการอะไรหรือเปล่า?”“อืม ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าผมจะเดินทางไปทำธุรกิจสักสองสามวันน่ะครับ” เขาแจ้งให้ฉันทราบ ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกงุนงงเล็กน้อย“โอเคค่ะ งั้นคุณอยากให้ฉันแจ้งให้โนอาทราบใช่ไหม?”โนอาอยู่โรงเรียน เขาจะผิดหวังเพราะเขาไม่ชอบให้

  • ธุลีใจ   บทที่ 227

    “มีอะไรคะ? คุณตะโกนเรียกชื่อฉันเหมือนกับว่าโลกจะแตกเลย” ฉันบอกเขาเมื่อฉันตระหนักได้ว่าเขายังคงไม่ได้พูดอะไรสักคำ สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้นราวกับว่าเขาเพิ่งค้นพบบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ฉันจ้องมองเขา เขาสวมเสื้อกีฬาแขนยาวกับกางเกงวอร์ม ตอนแรกฉันรู้สึกงงว่าทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่ทำงาน แต่จากนั้นฉันก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุด“คาลวิน?” ฉันเรียกเขาส่ายหัว “โอ้ โทษทีครับ ผมไม่รู้ว่านี่เร็วเกินไปหรือเปล่า แต่ผมอยากถามคุณบางอย่าง”อย่างแรกโรแวนอยากจะพูดเกี่ยวกับบางอย่าง และตอนนี้คาลวินก็อยากถามฉันบางอย่าง ด้วยการที่เขาแสดงอาการลอกแลก ฉันแค่รู้ว่าฉันอาจไม่ชอบในสิ่งที่เขาพูด“โอเค ว่ามาสิคะ”เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึก“ผมอยากชวนคุณออกเดตน่ะครับ”“ว่าไงนะคะ?” ฉันพูดอึกอัก จ้องมองเขาด้วยตาเบิกกว้างฉันได้ยินเขาถูกหรือเปล่า? มันไม่สามารถเป็นไปได้ ไม่มีทางที่เขาจะขอฉันแบบนั้น พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน“คุณจะไปออกเดตกับผมได้ไหมครับ?” เขาถาม ครั้งนี้ด้วยเสียงที่ชัดเจนกว่าเดิม “ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไป แต่ผมคิดว่านี่ดีที่สุดแล้ว พวกเราสามารถช่วยกันและกันให้ผ่านพ้นความเจ็บปวดในอดีตได้

  • ธุลีใจ   บทที่ 228

    “เป็นไง เอวา?”พวกเราไม่ค่อยคุยกัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงข้อความครั้งคราว ทั้งหมดนั่นประกอบด้วยการที่เขาแจ้งให้รู้ว่ามีพัสดุที่เขาส่งมาและฉันขอบคุณเขาสำหรับมันฉันรู้มันอันตราย แต่เขาคือคนเดียวที่ฉันสามารถนึกถึงที่จะช่วยเหลือฉันในตอนนี้ ฉันจะไม่โกหก โน้ตที่สองทำให้ฉันตกใจกลัวโดยสิ้นเชิง“ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณ รีเปอร์” ฉันเพียงบอกกล่าว ไม่มีความจำเป็นต้องพูดไร้สาระ เพราะเขาก็ไม่ชอบให้พูดจาอ้อมค้อมใช้เวลาสักพักก่อนที่ในที่สุดฉันจะมีความกล้าที่จะโทรหาเขา ฉันได้พิจารณาว่าฉันควรจะไปหาตำรวจหรือเขาดี สุดท้ายแล้ว เหตุผลก็ชนะ ครั้งสุดท้ายที่ฉันตกอยู่ในอันตราย ตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่รีเปอร์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตลอดเวลาฉันให้เหตุผลว่าบางทีเขาอาจจะสามารถช่วยฉันจับใครก็ตามที่ตามล่าฉันได้“โอเค มีอะไรเหรอ” เขาถามอย่างสงสัย บางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่เคยขออะไรเขาเลย“ดูเหมือนว่ามีคนตามฉันน่ะ”“โอ้ มันเกี่ยวกับโน้ตที่เธอได้ใช่ไหม?”ฉันตกใจมาก แต่ในเวลาเดียวกัน เห็นไหมล่ะ? นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนที่ดีที่สุดที่จะช่วยฉันได้ เขาล้ำหน้าฉันไปหนึ่งก้าว“ใช่” ฉันตอบ “คุณรู

  • ธุลีใจ   บทที่ 229

    “อย่ากังวลไปเอวา พวกเราจะจับไอ้บ้าคนนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้เขาหรือเธอทำร้ายเธอหรือหลานสาวฉันได้หรอก” เขาให้ความมั่นใจกับฉัน น้ำเสียงของเขาใช้โทนที่นุ่มนวล“ขอบคุณนะ”พวกเราพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะวางสายฉันยังไม่ได้ลุกจากจุดที่ฉันนั่งอยู่บนโซฟา มีสิ่งที่ต้องทำเป็นล้านในบ้าน แต่กระนั้นฉันไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ เหลือในตัวฉันเลย อีกอย่างด้วยความคิดและความหวาดกลัวทั้งหมด ฉันไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อได้แม้ว่าจะอยากก็ตามฉันไม่รู้เลยว่านานแค่ไหนที่ฉันอยู่ตรงนั้นก่อนที่จะได้ยินเสียงกุญแจไข จากนั้นประตูหน้าบ้านของฉันก็เปิดออก ฉันหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า แม่กับพ่อเดินจับมือกันเข้ามาฉันยิ้มให้พวกเขา สองคนนั้นรักกันมากจนพวกเขาตัวติดกันตลอดเวลาเป็นส่วนใหญ่ มันน่ารักจริง ๆ“สวัสดีค่ะ” ฉันทักทายพวกเขาขณะที่ฉันลุกขึ้นนั่งแม่นั่งลงข้างฉันในขณะที่พ่อนั่งลงฝั่งตรงข้าม“เช่นกัน ลูก” พ่อพูดขึ้น“สวัสดี ลูกรัก” แม่ทักทายกลับฉันจะไม่มีทางคุ้นชินกับความรักในสายตาของพวกเขาได้เลย มันคือทุกอย่างสำหรับฉัน กับพวกเขา ฉันไม่ต้องสงสัยหรือคาดเดา สีหน้าของพวกเขาบ่งบอกออกมาหมดแล้ว“มีอะไรให้

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 430

    “ช่วยอะไรหน่อย” คริสโตเฟอร์ตอบ “ช่วยไปเก็บรายงานประจำสัปดาห์จากแต่ละแผนกหน่อยได้ไหม? เพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานทำให้ผมไม่ได้จัดการเรื่องนี้เลย”“ได้เลย ไม่มีปัญหาค่ะ ขอเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องทำงานก่อน แล้วฉันจะไปจัดการให้”หลังจากเขาพยักหน้า ฉันก็เดินตรงไปที่ห้องทำงาน รีบวางของให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปที่แผนกอื่น ๆเมื่อฉันไปถึงแผนกแรก บรรยากาศตึงเครียดทันทีที่ฉันก้าวเข้าไป ทุกคน และฉันหมายถึงทุกคนจริง ๆ หันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันเกลียดความสนใจแบบนี้และอยากให้พวกเขาสนใจงานของตัวเองแทน ฉันพยายามเมินเฉยและจัดการสิ่งที่ฉันต้องทำให้เสร็จ ก่อนจะรีบออกมาฉันไม่เคยมีโอกาสได้สร้างมิตรภาพกับใคร เพราะมิลลี่เคยปล่อยข่าวลือว่าฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่นอนกับเกเบรียล แค่นั้นก็เพียงพอให้คนอื่นตัดสินและตีตัวออกห่างจากฉันฉันถอนหายใจโล่งอกเมื่อมาถึงแผนกสุดท้าย บางคนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ข่าวเรื่องฉันกับเกเบรียลแพร่ออกไปแล้ว พวกเขาเลยพยายามทำดีด้วย ฉันรู้ดีว่ามีคนที่เข้าหาคุณเพียงเพราะหวังจะได้ประโยชน์จากคุณ“ไง ฮาร์เปอร์” เสียงของรีเบคก้า หนึ่งในลิ่วล้อของมิลลี่ดังข

  • ธุลีใจ   บทที่ 429

    ฮาร์เปอร์เช้าวันรุ่งขึ้น เกเบรียลไม่อยู่ให้เห็นเลยตอนที่ฉันทานอาหารเช้าและเตรียมตัวออกไปทำงาน จนกระทั่งตอนที่ขึ้นรถและถามคนขับว่าเกเบรียลอยู่ที่ไหน ถึงได้รู้ว่าเขาออกไปทำงานก่อนแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เราต่างคนต่างไปทำงานตั้งแต่ฉันเริ่มทำงานให้เขา ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารู้สึกโล่งใจหรือไม่ในเมื่อเขาไม่อยู่ ฉันเลยตัดสินใจไปส่งลิลลี่ที่โรงเรียนก่อน ความตื่นเต้นของเธอยังไม่จางหาย ตลอดทางเธอพูดถึงแต่เซียร่า ฉันรู้จักลูกสาวของตัวเองดี และรู้ว่าเธอไม่เคยตื่นเต้นหรือมีความสุขกับเด็กผู้หญิงคนไหนมาก่อนแบบนี้แน่นอนว่าเธอมีเพื่อนที่บ้านเก่าที่เราเคยอยู่ แต่ก็ไม่มีใครที่เธอพูดถึงมากขนาดนี้ ฉันคิดว่าเด็กพวกนั้นน่าจะเป็นแค่คนรู้จักมากกว่าเพื่อนของลูกสาวฉันเธอไม่เคยชวนใครมาค้างบ้าน และถ้าใครเชิญเธอไป เธอก็มักจะหาข้ออ้างว่าไปไม่ได้ เธอไม่เคยพูดถึงเพื่อนพวกนั้นมากมายเหมือนที่พูดถึงซีเอร์รา ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวแต่ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย ถ้าเซียร่าทำให้ลิลลี่กลายเป็นเด็กหญิงที่กรี๊ดกร๊าดและหัวเราะคิกคักได้ แล้วฉันจะมีเหตุผลอะไรไปขัดขวาง?ครั้งแรกเลยที่ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 428

    เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจพวกเขา ผมลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าเสื้อโค้ทแล้วออกจากห้องทำงาน ผมรู้ดีว่าคงไม่มีสมาธิทำงานได้ แล้วจะเสียเวลาไปทำไมกันล่ะ?ผมส่งข้อความหาคนขับรถเพื่อให้เตรียมรถไว้ก่อนจะก้าวขึ้นลิฟต์ ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็อยู่ในลานจอดรถใต้ดิน“คุณวู้ดครับ” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยขณะเปิดประตูรถให้ผมผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในรถ เขาก็ขึ้นรถและเริ่มขับออกไปผมตัดสินใจเปิดดูข่าวซุบซิบต่าง ๆ เป็นการฆ่าเวลาเกเบรียล วู้ดเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ประกาศลั่นอย่างเป็นทางการ ข่าวจากวงในวู้ด คอร์เปอร์เรชั่นเกเบรียล วู้ด หนุ่มเนื้อหอมตัวท๊อปของเมืองสละโสดขวัญใจมหาชน เกเบรียล วู้ดลั่นระฆังวิวาห์ปิดประมูลความโสดของหนุ่มฮอต เกเบรียล วู้ดสาวคนไหนกันที่เกเบรียล วู้ด สวมแหวนแต่งงานให้กันนะ?เรื่องแล้วเรื่องเล่า บทความพวกนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ บางอันก็ดูโง่เง่า บางอันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเมื่อเดินทางถึงบ้าน ผมปิดโทรศัพท์ก่อนลงจากรถ หลังจากกล่าวลาคนขับแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบ้านของตัวเองผมแปลกใจที่เจอฮาร์เปอร์นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น“กลับมาบ้านได้สักทีนะคะ” เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เห็นข่าวซุบซิบพว

  • ธุลีใจ   บทที่ 427

    เกเบรียลผมนั่งมองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ยังคงเดือดพล่าน โกรธจัด โกรธจนแทบบ้า มิลลี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายใส่ฮาร์เปอร์แบบนั้น?เพราะสมาธิที่เตลิดไปจนหมด ผมลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินวนไปมา สมองผมทำงานเร็วราวกับกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วพันไมล์ต่อวินาที ผมพยายามคิดหาวิธีที่แตกต่างไปซึ่งจะทำให้ชีวิตของมิลลี่เป็นนรกบนดินนายโกรธอะไรนักหนา? ตอนที่แต่งงานกับฮาร์เปอร์เมื่อหลายปีก่อน นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ามิลลี่เลยเสียงในหัวเยาะหยันผม แต่ผมไม่อยากฟัง เพราะมันพูดถูกจนน่าหงุดหงิด ตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย ผมทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป?ตอนที่ผมลากฮาร์เปอร์มายืนกลางห้องและขู่ทุกคนที่กล้าทำร้ายเธอ ผมเห็นความตกใจและประหลาดใจในดวงตาเธอตอนอยู่ในห้องทำงานของผม เธอมองผมเหมือนกับว่าไม่รู้จักผมอีกต่อไป เหมือนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกอยู่ข้างเธอ มันชัดเจนว่าเธอคิดไม่ออกว่าจะคิดกับผมหรือการกระทำของผมอย่างไรผมยกมือลูบหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ผมจะโทษเธอได้อย่างไรล่ะกับปฏิกิริยานั้น ในเมื่ออดีตผมเคยปฏิบัติกับเธออย่างเลว

  • ธุลีใจ   บทที่ 426

    จากนั้น เขาจับมือฉันพาเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันมองเห็นความหวาดกลัวในตาของมิลลี่ ความกลัวนั้นบอกทุกอย่างที่ฉันต้องการรู้ และแน่นอนว่าผลการสอบสวนของเธอคงไม่พูดถึงเธอในทางดีแน่เราขึ้นลิฟต์ไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เกเบรียลพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา"คุณเป็นอะไรไหม?" เขาถามเมื่อเราเข้าไปในห้อง "ผมส่งเรื่องให้ทีมสื่อข่าวสารประกาศเรื่องการแต่งงานของเราแล้ว ผมอยากลงไปหาเพื่อบอกคุณเรื่องนี้ แต่กลับไม่เจอคุณที่ห้องทำงานตัวเอง ผมก็เลยได้เห็นฉากน่ารังเกียจนั้นกับตา"ฉันดึงมือออกจากมือของเขาแล้วจ้องมองกลับไป "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง""แน่ใจนะ?""แน่ใจค่ะ"เรานั่งอยู่ในความเงียบงันสักพัก ฉันเห็นว่าเขาคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ยับยั้งเขาเอาไว้ สายตาที่เขาจ้องมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงกลับบ้านก่อนนะคะ ฉันรู้สึกกังวลมาตลอดทั้งวันเพราะเรื่องลิลลี่" ฉันพูดเบา ๆ ไม่กล้ามองตาเขา"ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน"ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้ แต่การกระทำของเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 425

    "ภรรยาเหรอ?" มิลลี่ทวนคำพูดราวกับว่าเธอไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้"ผมพูดไม่ชัดหรือไง?" เกเบรียลถามเสียงเรียบแต่แฝงความคมกริบทั้งห้องเงียบกริบทันที คนที่เคยพึมพำและชี้นิ้วมาที่ฉันตอนนี้ต่างก้มหน้าลงไม่กล้ามองขึ้นมาฉันไม่ได้ต้องการให้เกเบรียลมาสู้แทนฉันเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้กลัวและไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฉันเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฉันชอบที่เขาออกมาปกป้องฉันมิลลี่ตัวสั่นเทิ้ม เธอทั้งตัวแข็งทื่อและความกลัวปรากฏชัดบนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่งที่ฉันคุ้นเคยด้วยท่าทางของเธอ คุณอาจคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เธอชอบสั่งคนอื่น ทั้งหยาบคายและร้ายกาจ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนพวกเขาต่ำต้อยกว่าฉันแทบไม่เคยลงไปที่ชั้นอื่น ๆ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องไป มิลลี่จะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อพูดจาไร้สาระและปฏิบัติต่อฉันเหมือนขยะ"ดิฉันขอโทษค่ะเกเบรียล ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ" เธอกระซิบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการขอร้องความกดดันรอบตัวเกเบรียลยิ่งหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก ผู้ห

  • ธุลีใจ   บทที่ 424

    ฉันเพิ่งจะก้าวลงจากรถ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็คว้ามือฉันไว้และกระชากมันอย่างแรง ฉันตกใจกับการกระทำนั้น จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน แล้วก็เจอสายตาที่ลุกวาวของเขา“แหวนอยู่ไหน?” เขาพ่นคำถามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาจ้องมองฉันเขม็งให้ตายเถอะ! อะไรกันเนี่ย?ฉันค่อย ๆ ละสายตาจากเขาไปที่นิ้วมือว่างเปล่าของตัวเอง คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนไหม? แบบที่คุณรู้ว่าคนถามอะไร คุณรู้คำตอบ แต่ก็ยังสับสนอยู่ดี? นั่นแหละ ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้“ฮาร์เปอร์ แหวนคุณอยู่ที่ไหน?” เขาเค้นเสียงถามขณะที่ก้าวลงจากรถฉันมองร่างของเขาที่ลุกออกจากรถ แล้วตอนนี้เขาก็ยืนตระหง่านค้ำหัวฉัน ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเขาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยดึงฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันพึมพำออกมา ยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้สีหน้าของเขามืดครึ้มขึ้นไปอีก เหมือนคำตอบของฉันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขาเข้า“เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือคุณไม่ได้ใส่แหวนที่ผมเป็นคนให้ และผมก็อยากรู้ด้วยว่าทำไม” เขาคำรามออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดฉันตอบกลับไปแบบโง

  • ธุลีใจ   บทที่ 423

    ฉันพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจับมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่จับแน่นจนเจ็บ แต่แน่นพอที่ฉันจะดึงมือออกไม่ได้"ฮาร์เปอร์" เขากระซิบเตือนเมื่อฉันพยายามดึงมือออกอีกครั้งทำไมเขาต้องทำให้มันยากขนาดนี้? ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้เลยเหรอ?"ไม่มีอะไรให้พูดทั้งนั้น" ฉันขู่ฟ่อ ขมวดคิ้วมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาความจริงที่ว่าฉันอ่อนระทวยต่อสัมผัสของเขาก็น่าอายพอแล้ว ตอนนี้เขายังอยากจะทำให้ฉันอายมากขึ้นด้วยการพูดเรื่องนี้ระหว่างทางไปทำงานอีก"ตรงนี้แหละที่คุณคิดผิด" เขาจับเอวฉันแล้วดึงเข้าใกล้ตัว "เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะ"เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เสียสติไปแล้วเหรอ? ตอนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเกเบรียล เพราะเขากำลังทำอะไรที่ดูไม่ใช่เขาเลยเขากำลังปั่นหัวฉันเล่นเหรอ? เป็นแบบนี้ใช่ไหม? เกมสำหรับเขาสินะ"ปล่อยฉันนะ เกเบรียล" ฉันกระซิบอย่างโกรธจัดในใจ ขณะที่ความคิดที่ไม่สบายใจเริ่มจมลึกลงในหัวโธ่! มันยังเจ็บอยู่เลย เจ็บที่เมื่อก่อนเขาไม่ต้องการฉัน แล้วตอนนี้เขากำลังทำเหมือนฉันเป็นของเล่น"ทำไมล่ะ?" เขาถาม ขณะริมฝีปากของเขาใกล้หูฉัน "ผมทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า? ทำให้คุณเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 422

    ตอนที่เรากำลังจะออกจากบ้าน ฉันควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้วฉันไม่อยากยอมรับ แต่ความรู้สึกดึงดูดที่ฉันมีต่อเกเบรียลยังคงอยู่ มันผ่านมาหลายปีแล้ว เกือบสิบปี แต่เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเร้าอารมณ์ฉันฉันเกลียดมัน เกลียดเพราะตอนที่ฉันแต่งงานกับเลียม มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าฉันจะรู้สึกตื่นเต้นพอสำหรับเรื่องบนเตียง อย่าเข้าใจผิดนะ เลียมไม่ได้เป็นคู่รักที่แย่ เขาไม่ได้แย่เรื่องเซ็กซ์ แต่ความรู้สึกมีอารมณ์ของฉันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ตอนที่เขาอยากจะนอนด้วยแต่กับเกเบรียล มันไม่ได้ยากเลย แค่สายตาที่ร้อนแรงแวบเดียวพร้อมมือที่หยาบกร้านของเขาแตะผิวกาย ฉันก็เปียกชุ่มเพราะเขา พร้อมให้เขาครอบครอง มันบอกอะไรเกี่ยวกับตัวฉันเหรอ? การที่อดีตสามีไม่ได้สัมผัสด้านนี้ของฉันในขณะที่ผู้ชายที่ทำลายฉันกลับทำได้?หลังจากอาบน้ำเย็นเร็ว ๆ เพื่อล้างความเร่าร้อนและความอับอายออกไป ฉันแต่งตัวและลงไปที่โต๊ะอาหาร ระหว่างที่เรากำลังกินข้าว ฉันพยายามหลีกเลี่ยงสายตาที่เหมือนรู้อะไรของเกเบรียล“พร้อมหรือยังลูก?” ฉันถามลิลลี่ในขณะที่เธอหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เกเบรียลประกาศว่าเขาจะไปส่งลิลลี่ไปโรง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status