แชร์

บทที่ 227

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“มีอะไรคะ? คุณตะโกนเรียกชื่อฉันเหมือนกับว่าโลกจะแตกเลย” ฉันบอกเขาเมื่อฉันตระหนักได้ว่าเขายังคงไม่ได้พูดอะไรสักคำ

สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้นราวกับว่าเขาเพิ่งค้นพบบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ฉันจ้องมองเขา เขาสวมเสื้อกีฬาแขนยาวกับกางเกงวอร์ม ตอนแรกฉันรู้สึกงงว่าทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่ทำงาน แต่จากนั้นฉันก็จำได้ว่าวันนี้เป็นวันหยุด

“คาลวิน?” ฉันเรียก

เขาส่ายหัว “โอ้ โทษทีครับ ผมไม่รู้ว่านี่เร็วเกินไปหรือเปล่า แต่ผมอยากถามคุณบางอย่าง”

อย่างแรกโรแวนอยากจะพูดเกี่ยวกับบางอย่าง และตอนนี้คาลวินก็อยากถามฉันบางอย่าง ด้วยการที่เขาแสดงอาการลอกแลก ฉันแค่รู้ว่าฉันอาจไม่ชอบในสิ่งที่เขาพูด

“โอเค ว่ามาสิคะ”

เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึก

“ผมอยากชวนคุณออกเดตน่ะครับ”

“ว่าไงนะคะ?” ฉันพูดอึกอัก จ้องมองเขาด้วยตาเบิกกว้าง

ฉันได้ยินเขาถูกหรือเปล่า? มันไม่สามารถเป็นไปได้ ไม่มีทางที่เขาจะขอฉันแบบนั้น พวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน

“คุณจะไปออกเดตกับผมได้ไหมครับ?” เขาถาม ครั้งนี้ด้วยเสียงที่ชัดเจนกว่าเดิม “ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไป แต่ผมคิดว่านี่ดีที่สุดแล้ว พวกเราสามารถช่วยกันและกันให้ผ่านพ้นความเจ็บปวดในอดีตได้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 228

    “เป็นไง เอวา?”พวกเราไม่ค่อยคุยกัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงข้อความครั้งคราว ทั้งหมดนั่นประกอบด้วยการที่เขาแจ้งให้รู้ว่ามีพัสดุที่เขาส่งมาและฉันขอบคุณเขาสำหรับมันฉันรู้มันอันตราย แต่เขาคือคนเดียวที่ฉันสามารถนึกถึงที่จะช่วยเหลือฉันในตอนนี้ ฉันจะไม่โกหก โน้ตที่สองทำให้ฉันตกใจกลัวโดยสิ้นเชิง“ฉันต้องการความช่วยเหลือของคุณ รีเปอร์” ฉันเพียงบอกกล่าว ไม่มีความจำเป็นต้องพูดไร้สาระ เพราะเขาก็ไม่ชอบให้พูดจาอ้อมค้อมใช้เวลาสักพักก่อนที่ในที่สุดฉันจะมีความกล้าที่จะโทรหาเขา ฉันได้พิจารณาว่าฉันควรจะไปหาตำรวจหรือเขาดี สุดท้ายแล้ว เหตุผลก็ชนะ ครั้งสุดท้ายที่ฉันตกอยู่ในอันตราย ตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่รีเปอร์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตลอดเวลาฉันให้เหตุผลว่าบางทีเขาอาจจะสามารถช่วยฉันจับใครก็ตามที่ตามล่าฉันได้“โอเค มีอะไรเหรอ” เขาถามอย่างสงสัย บางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่เคยขออะไรเขาเลย“ดูเหมือนว่ามีคนตามฉันน่ะ”“โอ้ มันเกี่ยวกับโน้ตที่เธอได้ใช่ไหม?”ฉันตกใจมาก แต่ในเวลาเดียวกัน เห็นไหมล่ะ? นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนที่ดีที่สุดที่จะช่วยฉันได้ เขาล้ำหน้าฉันไปหนึ่งก้าว“ใช่” ฉันตอบ “คุณรู

  • ธุลีใจ   บทที่ 229

    “อย่ากังวลไปเอวา พวกเราจะจับไอ้บ้าคนนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้เขาหรือเธอทำร้ายเธอหรือหลานสาวฉันได้หรอก” เขาให้ความมั่นใจกับฉัน น้ำเสียงของเขาใช้โทนที่นุ่มนวล“ขอบคุณนะ”พวกเราพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะวางสายฉันยังไม่ได้ลุกจากจุดที่ฉันนั่งอยู่บนโซฟา มีสิ่งที่ต้องทำเป็นล้านในบ้าน แต่กระนั้นฉันไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ เหลือในตัวฉันเลย อีกอย่างด้วยความคิดและความหวาดกลัวทั้งหมด ฉันไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อได้แม้ว่าจะอยากก็ตามฉันไม่รู้เลยว่านานแค่ไหนที่ฉันอยู่ตรงนั้นก่อนที่จะได้ยินเสียงกุญแจไข จากนั้นประตูหน้าบ้านของฉันก็เปิดออก ฉันหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า แม่กับพ่อเดินจับมือกันเข้ามาฉันยิ้มให้พวกเขา สองคนนั้นรักกันมากจนพวกเขาตัวติดกันตลอดเวลาเป็นส่วนใหญ่ มันน่ารักจริง ๆ“สวัสดีค่ะ” ฉันทักทายพวกเขาขณะที่ฉันลุกขึ้นนั่งแม่นั่งลงข้างฉันในขณะที่พ่อนั่งลงฝั่งตรงข้าม“เช่นกัน ลูก” พ่อพูดขึ้น“สวัสดี ลูกรัก” แม่ทักทายกลับฉันจะไม่มีทางคุ้นชินกับความรักในสายตาของพวกเขาได้เลย มันคือทุกอย่างสำหรับฉัน กับพวกเขา ฉันไม่ต้องสงสัยหรือคาดเดา สีหน้าของพวกเขาบ่งบอกออกมาหมดแล้ว“มีอะไรให้

  • ธุลีใจ   บทที่ 230

    ฉันหมกมุ่นอยู่กับกระดาษโน้ตมาเป็นเวลาสองสามวันแล้ว ฉันแค่อยากจะหาตัวให้ได้ว่าคน ๆ นี้เป็นใครเพื่อที่ฉันจะได้เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุขฉันเกลียดตอนนี้ฉันขวัญอ่อนและหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา โนอายังสังเกตเห็นว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เขาถาม ฉันเพียงบอกเขาว่าฉันโอเคดีทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่โอเคชีวิตของฉันนั้นเรียบง่ายมากย้อนกลับไปตอนที่ฉันแต่งงานกับโรแวนเมื่อเทียบกับตอนนี้ สิ่งเดียวที่ฉันกังวลคือเขาจะกลับมาทานมื้อเย็นไหม หรือเขาจะรักฉันบ้างไหม ฉันรู้ว่าฉันเคยเจ็บปวดตลอดเวลา แต่ฉันจะเลือกสิ่งนั้นมากกว่าการตายแบบใดก็ตามในเร็ว ๆ นี้ฉันไม่มีช่วงเวลาแห่งความสุขเลยตั้งแต่ที่ฉันหย่ากับโรแวน ความพยายามในการเอาชีวิตของฉันเกิดขึ้นถึงสามครั้ง รถของฉันถูกวางระเบิด บ้านของฉันถูกวางเพลิง และฉันถูกลักพาตัวสองครั้ง หลังจากฉันเห็นด้วยที่จะให้รีเปอร์อยู่ในชีวิตของฉัน ฉันคิดว่าเรื่องต่าง ๆ คงจะเข้าที่เข้าทาง แต่ไม่เลย…ตอนนี้บางคนกำลังตามล่าฉันอยู่ อีกครั้งแล้ว“แม่ครับ ผมไปบ้านกันเนอร์ได้ไหมครับ?” โนอาถามขึ้นมา ทำให้ฉันตกใจกลัวแทบแย่ ฉันพยายามใจเย็นไว้ นี่แหละคือที่ฉันบอกว่

  • ธุลีใจ   บทที่ 231

    เขาถลึงตามองฉัน แต่ภายในไม่กี่วินาทีสีหน้าของเขาก็อ่อนลง เขาคว้ามือฉัน พลิกมันขึ้น และจูบลงบนฝ่ามือฉันอย่างนุ่มนวล“ผมไม่รู้ว่าผมตกหลุมรักคุณเมื่อไหร่หรือตอนไหน ทั้งหมดที่ผมรู้คือผมรักคุณ เอวา ผมไม่เห็นมันในตอนนั้น ผมถูกครอบงำด้วยความขมขื่นและความโกรธจนไม่รู้ว่าผมได้แต่งงานกับคนที่พิเศษอะไรเช่นนี้ ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา มันยากที่จะอยู่โดยไม่มีคุณ เมื่อเห็นคุณเจ็บปวดหรือถูกทำร้ายมันทำลายผมทุกครั้ง ผมต้องใช้เวลากว่าจะตระหนักได้ว่าผมตกหลุมรักคุณ แต่ผมอยู่ที่นี่ขอร้องให้คุณให้โอกาสผมได้แสดงให้คุณเห็นถึงความรักที่คุณสมควรได้รับจากผมแต่ไม่เคยได้เลย”ฉันดูตกตะลึงไปอย่างแท้จริง ขณะที่เขาลุกจากที่นั่งและคุกเข่าตรงหน้าฉัน ทั้งหมดนี้เหมือนราวกับฝัน มันเหมือนกับว่าฉันอยู่ในโลกที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง“โอ้ โรแวน” ฉันเริ่มพูด โดยพยายามที่จะทำให้สมองทำงาน “คุณไม่ได้รักฉัน คุณไม่เคยรักฉันเลย เอมม่าคือคนที่คุณรักและเป็นรักเดียวเท่านั้น เธอคือคนที่กุมหัวใจคุณไว้ จำได้ไหม? ”ความเจ็บปวดและความเสียใจฉายแวบในดวงตาของเขา ฉันรู้สึกแย่สำหรับเขา แต่ฉันรู้ว่าบางทีเขาเพียงแค่สับสนเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ มันแค

  • ธุลีใจ   บทที่ 232

    ”สามครั้งแล้วและเธอก็จะจบ เอวา”ฉันอ่านและอ่านโน้ตนั้นซ้ำ หัวใจของฉันเต้นแรงมากจนฉันคิดว่ามันจะเจาะเป็นรูทะลุอกออกมา ฉันกลัวจนขึ้นสมองและฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง นี่เป็นโน้ตที่สามที่ฉันได้รับฉันเพิ่งกลับมาจากการส่งโนอาที่โรงเรียนตอนที่ฉันพบมันอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน ตอนฉันเห็นกล่องที่ถูกผูกด้วยโบว์สีแดงครั้งแรก ฉันคิดว่ามันคือของขวัญ จนกระทั่งฉันเปิดมันดูและพบซากหนูที่ตายแล้วพร้อมกับกระดาษโน้ตข้างในตอนนี้ฉันตื่นตระหนกมากเพราะการคุกคามนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายลงฉันทิ้งกล่องพร้อมกับหนูลงในถังขยะก่อนที่ฉันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหารีเปอร์ ฉันภาวนาขอให้เขาจะมีคำตอบให้ฉัน ให้เขาพบว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้เขารับสายหลังจากไม่กี่วินาทีและฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก“เอวา” เขารับสายลวก ๆ ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังสูบบุหรี่“โปรดบอกฉันทีว่าคุณมีบางอย่างให้ฉัน” ฉันอ้อนวอนอย่างสิ้นหวังฉันรู้ว่ามันหยาบคายที่ไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ แต่ฉันกลัว ฉันเป็นกังวลและคอยเหลียวหลังมองตลอด ฉันกลายเป็นหวาดระแวงมากจนใครก็ตามที่ฉันบังเอิญพบบนถนนหรือร้านค้า จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันทีฉันไม่ได้บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 233

    ส่วนที่สองโรแวน “คุณผู้ชาย? มีอะไรที่คุณอยากให้ฉันสั่งจากร้านอาหารไหมคะ” เลขาของผมถามขึ้นมา แต่ผมยังคงจ้องมองนอกหน้าต่างห้องทำงานของผมต่อไปวิวที่นี่ดีมากจริง ๆ มันคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมผมถึงเลือก แต่วันนี้มันไม่ได้ให้ความเงียบสงบกับผมตามปกติ “ไม่ล่ะ ไม่ใช่วันนี้” ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองเธอ“โอเคค่ะถ้างั้น ฉันจะกลับมาในอีกครึ่งชั่วโมง”ผมไม่ได้ตอบเธอและหลังจากไม่กี่นาทีที่ผมได้ยินเสียงประตูปิด ผมถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ลางสังหรณ์บางอย่างเกาะยึดติดกับผม มันล้อมรอบผมราวคลื่น วันนี้ยิ่งรู้สึกมากกว่าวันก่อนเสียอีกผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หัวใจของผมเป็นกังวล ผมไม่สามารถสงบสติอารมณ์และไม่สามารถจดจ่อได้ มันเหมือนว่าจิตวิญญาณของผมกำลังพยายามบอกผมบางอย่าง แต่ผมคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรผมพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง ผมนึกถึงเอวาและการพูดคุยของเรา ผมเข้าใจเธอ โธ่เว้ยผมทำให้เธอลังเลหรือเปล่า ผมใช้เวลามากกว่าสิบปีในการตอกย้ำเธอว่าเอมม่าคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรักผมทำทุกอย่างด้วยอำนาจของผมเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าผมใส่ใจเธอน้อยนิดแค่ไหน ผมใช้เวลาเก้าปีในการลงโทษเธอสำหรับบางสิ่

  • ธุลีใจ   บทที่ 234

    ผมเห็นเขาข่มความรู้สึกไว้ ก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ่อมาที่ผม“เป็นเอวา” เขาพูดออกมาในที่สุดผมกำลังจะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอวาก็ตอนที่เสียงที่ได้ยินในทีวีเอ่ยชื่อของเธอขึ้นมา ผมเริ่มหันไปมองยังทิศทางของทีวี“ได้โปรด โรแวน…อย่าดูเลย มองฉัน” น้องชายของผมอ้อนวอนผม แต่ผมไม่ได้สนใจเขาผมต้องการรู้ว่านักข่าวจะพูดอะไรเกี่ยวกับเอวากันแน่ข่าวด่วนพาดหัวข้อข่าวเขียนด้วยตัวอักษรใหญ่และหนา“มีข่าวด่วนเพิ่งเข้ามาค่ะ สมาชิกของตระกูลชาร์พและผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮปถูกยิงโดยบุคคลนิรนามในวันนี้ เรายังไม่รู้ว่าเธอตกอยู่ในสภาวะใด แต่มือปืนได้เปิดฉากยิงดูเหมือนว่าจะเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังเธอ วิดีโอที่คุณกำลังจะได้รับชมนี้อาจจะรบกวนใจบางคน”ผมรู้สึกว่าหัวเข่าอ่อนแรงลง แต่ไม่มีอะไรที่จะเตรียมพร้อมผมในการเฝ้ามองผู้หญิงที่ผมรักกำลังถูกยิงหลายครั้งวิดีโอแสดงให้เห็นในขณะที่เอวากำลังเดินออกมาจากร้านไอศครีม สายตาของเธอดูละห้อยและเธอมีการขมวดคิ้วเล็กน้อยบนใบหน้า ใครก็ตามที่ถ่ายวิดีโอจับภาพรถตู้สีดำที่มีกระจกป้องกันแสงแดดเร่งความเร็วไปยังทิศทางของเธอ เพียงก่อนที่เขาจะขับผ่านเธอไป คนที่สวมหน้ากากได้ลดกร

  • ธุลีใจ   บทที่ 235

    ให้ตาย ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธอ? ทำไมถึงมีคนทำแบบนี้กับเธอ? มีร่องรอยที่ผมเพิกเฉยไปใช่ไหม? เธอตกอยู่ในอันตราย แล้วผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยหรือ?คำถามยังคงโจมตีอยู่ในหัวของผมขณะที่เกบขับรถออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินไป ผมจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายและผมไม่ได้สังเกตเห็นมัน หรือแม้แต่จะทำอะไรสักอย่างด้วยซ้ำ“เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” ผมถามในขณะที่หวาดกลัวในคำตอบของเขาจนทำให้ผมหายใจไม่ออกเธอต้องมีชีวิตอยู่ เกบเหลือบหันมามองผม “ฉันไม่รู้มากนัก แต่ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่”‘ฉิวเฉียด’ คำพูดไม่ได้เอ่ยออกมา แต่บอกเป็นนัยผมเห็นวิดีโอนั้น ใครก็ตามที่ตามล่าเธออยู่ต้องการให้แน่ใจว่าเอวาตายไม่มีโอกาสรอด ผมไม่รู้การประเมินบาดแผลของเธอ แต่ผมรู้ว่าอย่างน้อยลูกกระสุนสองนัดได้โดนตัวเธอ“นายรู้ไหมว่าเธออยู่โรงพยาบาลไหน?” ผมถาม เสียงของผมฟังดูกระด้างแม้กระทั่งฟังด้วยหูของตัวเองผมจดจ่ออยู่กับการที่จะไปหาเธอมากจนผมไม่แม้แต่จะสนใจถามด้วยซ้ำว่าเธอถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลไหน ผมเพียงอยากจะไปอยู่ที่นั่นเพื่อเธอ“อืม ไม่ต้องห่วง ฉันโทรถามและได้ข้อมูลมาแล้ว พวกเขาบอกฉันว่าพวกเขาพาเธอไ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 430

    “ช่วยอะไรหน่อย” คริสโตเฟอร์ตอบ “ช่วยไปเก็บรายงานประจำสัปดาห์จากแต่ละแผนกหน่อยได้ไหม? เพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานทำให้ผมไม่ได้จัดการเรื่องนี้เลย”“ได้เลย ไม่มีปัญหาค่ะ ขอเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องทำงานก่อน แล้วฉันจะไปจัดการให้”หลังจากเขาพยักหน้า ฉันก็เดินตรงไปที่ห้องทำงาน รีบวางของให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปที่แผนกอื่น ๆเมื่อฉันไปถึงแผนกแรก บรรยากาศตึงเครียดทันทีที่ฉันก้าวเข้าไป ทุกคน และฉันหมายถึงทุกคนจริง ๆ หันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันเกลียดความสนใจแบบนี้และอยากให้พวกเขาสนใจงานของตัวเองแทน ฉันพยายามเมินเฉยและจัดการสิ่งที่ฉันต้องทำให้เสร็จ ก่อนจะรีบออกมาฉันไม่เคยมีโอกาสได้สร้างมิตรภาพกับใคร เพราะมิลลี่เคยปล่อยข่าวลือว่าฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่นอนกับเกเบรียล แค่นั้นก็เพียงพอให้คนอื่นตัดสินและตีตัวออกห่างจากฉันฉันถอนหายใจโล่งอกเมื่อมาถึงแผนกสุดท้าย บางคนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ข่าวเรื่องฉันกับเกเบรียลแพร่ออกไปแล้ว พวกเขาเลยพยายามทำดีด้วย ฉันรู้ดีว่ามีคนที่เข้าหาคุณเพียงเพราะหวังจะได้ประโยชน์จากคุณ“ไง ฮาร์เปอร์” เสียงของรีเบคก้า หนึ่งในลิ่วล้อของมิลลี่ดังข

  • ธุลีใจ   บทที่ 429

    ฮาร์เปอร์เช้าวันรุ่งขึ้น เกเบรียลไม่อยู่ให้เห็นเลยตอนที่ฉันทานอาหารเช้าและเตรียมตัวออกไปทำงาน จนกระทั่งตอนที่ขึ้นรถและถามคนขับว่าเกเบรียลอยู่ที่ไหน ถึงได้รู้ว่าเขาออกไปทำงานก่อนแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เราต่างคนต่างไปทำงานตั้งแต่ฉันเริ่มทำงานให้เขา ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารู้สึกโล่งใจหรือไม่ในเมื่อเขาไม่อยู่ ฉันเลยตัดสินใจไปส่งลิลลี่ที่โรงเรียนก่อน ความตื่นเต้นของเธอยังไม่จางหาย ตลอดทางเธอพูดถึงแต่เซียร่า ฉันรู้จักลูกสาวของตัวเองดี และรู้ว่าเธอไม่เคยตื่นเต้นหรือมีความสุขกับเด็กผู้หญิงคนไหนมาก่อนแบบนี้แน่นอนว่าเธอมีเพื่อนที่บ้านเก่าที่เราเคยอยู่ แต่ก็ไม่มีใครที่เธอพูดถึงมากขนาดนี้ ฉันคิดว่าเด็กพวกนั้นน่าจะเป็นแค่คนรู้จักมากกว่าเพื่อนของลูกสาวฉันเธอไม่เคยชวนใครมาค้างบ้าน และถ้าใครเชิญเธอไป เธอก็มักจะหาข้ออ้างว่าไปไม่ได้ เธอไม่เคยพูดถึงเพื่อนพวกนั้นมากมายเหมือนที่พูดถึงซีเอร์รา ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวแต่ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย ถ้าเซียร่าทำให้ลิลลี่กลายเป็นเด็กหญิงที่กรี๊ดกร๊าดและหัวเราะคิกคักได้ แล้วฉันจะมีเหตุผลอะไรไปขัดขวาง?ครั้งแรกเลยที่ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 428

    เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจพวกเขา ผมลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าเสื้อโค้ทแล้วออกจากห้องทำงาน ผมรู้ดีว่าคงไม่มีสมาธิทำงานได้ แล้วจะเสียเวลาไปทำไมกันล่ะ?ผมส่งข้อความหาคนขับรถเพื่อให้เตรียมรถไว้ก่อนจะก้าวขึ้นลิฟต์ ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็อยู่ในลานจอดรถใต้ดิน“คุณวู้ดครับ” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยขณะเปิดประตูรถให้ผมผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในรถ เขาก็ขึ้นรถและเริ่มขับออกไปผมตัดสินใจเปิดดูข่าวซุบซิบต่าง ๆ เป็นการฆ่าเวลาเกเบรียล วู้ดเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ประกาศลั่นอย่างเป็นทางการ ข่าวจากวงในวู้ด คอร์เปอร์เรชั่นเกเบรียล วู้ด หนุ่มเนื้อหอมตัวท๊อปของเมืองสละโสดขวัญใจมหาชน เกเบรียล วู้ดลั่นระฆังวิวาห์ปิดประมูลความโสดของหนุ่มฮอต เกเบรียล วู้ดสาวคนไหนกันที่เกเบรียล วู้ด สวมแหวนแต่งงานให้กันนะ?เรื่องแล้วเรื่องเล่า บทความพวกนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ บางอันก็ดูโง่เง่า บางอันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเมื่อเดินทางถึงบ้าน ผมปิดโทรศัพท์ก่อนลงจากรถ หลังจากกล่าวลาคนขับแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบ้านของตัวเองผมแปลกใจที่เจอฮาร์เปอร์นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น“กลับมาบ้านได้สักทีนะคะ” เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เห็นข่าวซุบซิบพว

  • ธุลีใจ   บทที่ 427

    เกเบรียลผมนั่งมองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ยังคงเดือดพล่าน โกรธจัด โกรธจนแทบบ้า มิลลี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายใส่ฮาร์เปอร์แบบนั้น?เพราะสมาธิที่เตลิดไปจนหมด ผมลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินวนไปมา สมองผมทำงานเร็วราวกับกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วพันไมล์ต่อวินาที ผมพยายามคิดหาวิธีที่แตกต่างไปซึ่งจะทำให้ชีวิตของมิลลี่เป็นนรกบนดินนายโกรธอะไรนักหนา? ตอนที่แต่งงานกับฮาร์เปอร์เมื่อหลายปีก่อน นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ามิลลี่เลยเสียงในหัวเยาะหยันผม แต่ผมไม่อยากฟัง เพราะมันพูดถูกจนน่าหงุดหงิด ตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย ผมทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป?ตอนที่ผมลากฮาร์เปอร์มายืนกลางห้องและขู่ทุกคนที่กล้าทำร้ายเธอ ผมเห็นความตกใจและประหลาดใจในดวงตาเธอตอนอยู่ในห้องทำงานของผม เธอมองผมเหมือนกับว่าไม่รู้จักผมอีกต่อไป เหมือนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกอยู่ข้างเธอ มันชัดเจนว่าเธอคิดไม่ออกว่าจะคิดกับผมหรือการกระทำของผมอย่างไรผมยกมือลูบหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ผมจะโทษเธอได้อย่างไรล่ะกับปฏิกิริยานั้น ในเมื่ออดีตผมเคยปฏิบัติกับเธออย่างเลว

  • ธุลีใจ   บทที่ 426

    จากนั้น เขาจับมือฉันพาเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันมองเห็นความหวาดกลัวในตาของมิลลี่ ความกลัวนั้นบอกทุกอย่างที่ฉันต้องการรู้ และแน่นอนว่าผลการสอบสวนของเธอคงไม่พูดถึงเธอในทางดีแน่เราขึ้นลิฟต์ไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เกเบรียลพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา"คุณเป็นอะไรไหม?" เขาถามเมื่อเราเข้าไปในห้อง "ผมส่งเรื่องให้ทีมสื่อข่าวสารประกาศเรื่องการแต่งงานของเราแล้ว ผมอยากลงไปหาเพื่อบอกคุณเรื่องนี้ แต่กลับไม่เจอคุณที่ห้องทำงานตัวเอง ผมก็เลยได้เห็นฉากน่ารังเกียจนั้นกับตา"ฉันดึงมือออกจากมือของเขาแล้วจ้องมองกลับไป "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง""แน่ใจนะ?""แน่ใจค่ะ"เรานั่งอยู่ในความเงียบงันสักพัก ฉันเห็นว่าเขาคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ยับยั้งเขาเอาไว้ สายตาที่เขาจ้องมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงกลับบ้านก่อนนะคะ ฉันรู้สึกกังวลมาตลอดทั้งวันเพราะเรื่องลิลลี่" ฉันพูดเบา ๆ ไม่กล้ามองตาเขา"ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน"ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้ แต่การกระทำของเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 425

    "ภรรยาเหรอ?" มิลลี่ทวนคำพูดราวกับว่าเธอไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้"ผมพูดไม่ชัดหรือไง?" เกเบรียลถามเสียงเรียบแต่แฝงความคมกริบทั้งห้องเงียบกริบทันที คนที่เคยพึมพำและชี้นิ้วมาที่ฉันตอนนี้ต่างก้มหน้าลงไม่กล้ามองขึ้นมาฉันไม่ได้ต้องการให้เกเบรียลมาสู้แทนฉันเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้กลัวและไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฉันเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฉันชอบที่เขาออกมาปกป้องฉันมิลลี่ตัวสั่นเทิ้ม เธอทั้งตัวแข็งทื่อและความกลัวปรากฏชัดบนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่งที่ฉันคุ้นเคยด้วยท่าทางของเธอ คุณอาจคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เธอชอบสั่งคนอื่น ทั้งหยาบคายและร้ายกาจ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนพวกเขาต่ำต้อยกว่าฉันแทบไม่เคยลงไปที่ชั้นอื่น ๆ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องไป มิลลี่จะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อพูดจาไร้สาระและปฏิบัติต่อฉันเหมือนขยะ"ดิฉันขอโทษค่ะเกเบรียล ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ" เธอกระซิบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการขอร้องความกดดันรอบตัวเกเบรียลยิ่งหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก ผู้ห

  • ธุลีใจ   บทที่ 424

    ฉันเพิ่งจะก้าวลงจากรถ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็คว้ามือฉันไว้และกระชากมันอย่างแรง ฉันตกใจกับการกระทำนั้น จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน แล้วก็เจอสายตาที่ลุกวาวของเขา“แหวนอยู่ไหน?” เขาพ่นคำถามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาจ้องมองฉันเขม็งให้ตายเถอะ! อะไรกันเนี่ย?ฉันค่อย ๆ ละสายตาจากเขาไปที่นิ้วมือว่างเปล่าของตัวเอง คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนไหม? แบบที่คุณรู้ว่าคนถามอะไร คุณรู้คำตอบ แต่ก็ยังสับสนอยู่ดี? นั่นแหละ ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้“ฮาร์เปอร์ แหวนคุณอยู่ที่ไหน?” เขาเค้นเสียงถามขณะที่ก้าวลงจากรถฉันมองร่างของเขาที่ลุกออกจากรถ แล้วตอนนี้เขาก็ยืนตระหง่านค้ำหัวฉัน ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเขาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยดึงฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันพึมพำออกมา ยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้สีหน้าของเขามืดครึ้มขึ้นไปอีก เหมือนคำตอบของฉันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขาเข้า“เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือคุณไม่ได้ใส่แหวนที่ผมเป็นคนให้ และผมก็อยากรู้ด้วยว่าทำไม” เขาคำรามออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดฉันตอบกลับไปแบบโง

  • ธุลีใจ   บทที่ 423

    ฉันพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจับมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่จับแน่นจนเจ็บ แต่แน่นพอที่ฉันจะดึงมือออกไม่ได้"ฮาร์เปอร์" เขากระซิบเตือนเมื่อฉันพยายามดึงมือออกอีกครั้งทำไมเขาต้องทำให้มันยากขนาดนี้? ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้เลยเหรอ?"ไม่มีอะไรให้พูดทั้งนั้น" ฉันขู่ฟ่อ ขมวดคิ้วมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาความจริงที่ว่าฉันอ่อนระทวยต่อสัมผัสของเขาก็น่าอายพอแล้ว ตอนนี้เขายังอยากจะทำให้ฉันอายมากขึ้นด้วยการพูดเรื่องนี้ระหว่างทางไปทำงานอีก"ตรงนี้แหละที่คุณคิดผิด" เขาจับเอวฉันแล้วดึงเข้าใกล้ตัว "เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะ"เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เสียสติไปแล้วเหรอ? ตอนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเกเบรียล เพราะเขากำลังทำอะไรที่ดูไม่ใช่เขาเลยเขากำลังปั่นหัวฉันเล่นเหรอ? เป็นแบบนี้ใช่ไหม? เกมสำหรับเขาสินะ"ปล่อยฉันนะ เกเบรียล" ฉันกระซิบอย่างโกรธจัดในใจ ขณะที่ความคิดที่ไม่สบายใจเริ่มจมลึกลงในหัวโธ่! มันยังเจ็บอยู่เลย เจ็บที่เมื่อก่อนเขาไม่ต้องการฉัน แล้วตอนนี้เขากำลังทำเหมือนฉันเป็นของเล่น"ทำไมล่ะ?" เขาถาม ขณะริมฝีปากของเขาใกล้หูฉัน "ผมทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า? ทำให้คุณเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 422

    ตอนที่เรากำลังจะออกจากบ้าน ฉันควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้วฉันไม่อยากยอมรับ แต่ความรู้สึกดึงดูดที่ฉันมีต่อเกเบรียลยังคงอยู่ มันผ่านมาหลายปีแล้ว เกือบสิบปี แต่เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเร้าอารมณ์ฉันฉันเกลียดมัน เกลียดเพราะตอนที่ฉันแต่งงานกับเลียม มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าฉันจะรู้สึกตื่นเต้นพอสำหรับเรื่องบนเตียง อย่าเข้าใจผิดนะ เลียมไม่ได้เป็นคู่รักที่แย่ เขาไม่ได้แย่เรื่องเซ็กซ์ แต่ความรู้สึกมีอารมณ์ของฉันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ตอนที่เขาอยากจะนอนด้วยแต่กับเกเบรียล มันไม่ได้ยากเลย แค่สายตาที่ร้อนแรงแวบเดียวพร้อมมือที่หยาบกร้านของเขาแตะผิวกาย ฉันก็เปียกชุ่มเพราะเขา พร้อมให้เขาครอบครอง มันบอกอะไรเกี่ยวกับตัวฉันเหรอ? การที่อดีตสามีไม่ได้สัมผัสด้านนี้ของฉันในขณะที่ผู้ชายที่ทำลายฉันกลับทำได้?หลังจากอาบน้ำเย็นเร็ว ๆ เพื่อล้างความเร่าร้อนและความอับอายออกไป ฉันแต่งตัวและลงไปที่โต๊ะอาหาร ระหว่างที่เรากำลังกินข้าว ฉันพยายามหลีกเลี่ยงสายตาที่เหมือนรู้อะไรของเกเบรียล“พร้อมหรือยังลูก?” ฉันถามลิลลี่ในขณะที่เธอหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เกเบรียลประกาศว่าเขาจะไปส่งลิลลี่ไปโรง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status