แชร์

บทที่ 230

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ฉันหมกมุ่นอยู่กับกระดาษโน้ตมาเป็นเวลาสองสามวันแล้ว ฉันแค่อยากจะหาตัวให้ได้ว่าคน ๆ นี้เป็นใครเพื่อที่ฉันจะได้เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุข

ฉันเกลียดตอนนี้ฉันขวัญอ่อนและหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา โนอายังสังเกตเห็นว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เขาถาม ฉันเพียงบอกเขาว่าฉันโอเคดีทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่โอเค

ชีวิตของฉันนั้นเรียบง่ายมากย้อนกลับไปตอนที่ฉันแต่งงานกับโรแวนเมื่อเทียบกับตอนนี้ สิ่งเดียวที่ฉันกังวลคือเขาจะกลับมาทานมื้อเย็นไหม หรือเขาจะรักฉันบ้างไหม ฉันรู้ว่าฉันเคยเจ็บปวดตลอดเวลา แต่ฉันจะเลือกสิ่งนั้นมากกว่าการตายแบบใดก็ตามในเร็ว ๆ นี้

ฉันไม่มีช่วงเวลาแห่งความสุขเลยตั้งแต่ที่ฉันหย่ากับโรแวน ความพยายามในการเอาชีวิตของฉันเกิดขึ้นถึงสามครั้ง รถของฉันถูกวางระเบิด บ้านของฉันถูกวางเพลิง และฉันถูกลักพาตัวสองครั้ง หลังจากฉันเห็นด้วยที่จะให้รีเปอร์อยู่ในชีวิตของฉัน ฉันคิดว่าเรื่องต่าง ๆ คงจะเข้าที่เข้าทาง แต่ไม่เลย…ตอนนี้บางคนกำลังตามล่าฉันอยู่ อีกครั้งแล้ว

“แม่ครับ ผมไปบ้านกันเนอร์ได้ไหมครับ?” โนอาถามขึ้นมา ทำให้ฉันตกใจกลัวแทบแย่

ฉันพยายามใจเย็นไว้ นี่แหละคือที่ฉันบอกว่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 231

    เขาถลึงตามองฉัน แต่ภายในไม่กี่วินาทีสีหน้าของเขาก็อ่อนลง เขาคว้ามือฉัน พลิกมันขึ้น และจูบลงบนฝ่ามือฉันอย่างนุ่มนวล“ผมไม่รู้ว่าผมตกหลุมรักคุณเมื่อไหร่หรือตอนไหน ทั้งหมดที่ผมรู้คือผมรักคุณ เอวา ผมไม่เห็นมันในตอนนั้น ผมถูกครอบงำด้วยความขมขื่นและความโกรธจนไม่รู้ว่าผมได้แต่งงานกับคนที่พิเศษอะไรเช่นนี้ ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา มันยากที่จะอยู่โดยไม่มีคุณ เมื่อเห็นคุณเจ็บปวดหรือถูกทำร้ายมันทำลายผมทุกครั้ง ผมต้องใช้เวลากว่าจะตระหนักได้ว่าผมตกหลุมรักคุณ แต่ผมอยู่ที่นี่ขอร้องให้คุณให้โอกาสผมได้แสดงให้คุณเห็นถึงความรักที่คุณสมควรได้รับจากผมแต่ไม่เคยได้เลย”ฉันดูตกตะลึงไปอย่างแท้จริง ขณะที่เขาลุกจากที่นั่งและคุกเข่าตรงหน้าฉัน ทั้งหมดนี้เหมือนราวกับฝัน มันเหมือนกับว่าฉันอยู่ในโลกที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง“โอ้ โรแวน” ฉันเริ่มพูด โดยพยายามที่จะทำให้สมองทำงาน “คุณไม่ได้รักฉัน คุณไม่เคยรักฉันเลย เอมม่าคือคนที่คุณรักและเป็นรักเดียวเท่านั้น เธอคือคนที่กุมหัวใจคุณไว้ จำได้ไหม? ”ความเจ็บปวดและความเสียใจฉายแวบในดวงตาของเขา ฉันรู้สึกแย่สำหรับเขา แต่ฉันรู้ว่าบางทีเขาเพียงแค่สับสนเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ มันแค

  • ธุลีใจ   บทที่ 232

    ”สามครั้งแล้วและเธอก็จะจบ เอวา”ฉันอ่านและอ่านโน้ตนั้นซ้ำ หัวใจของฉันเต้นแรงมากจนฉันคิดว่ามันจะเจาะเป็นรูทะลุอกออกมา ฉันกลัวจนขึ้นสมองและฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง นี่เป็นโน้ตที่สามที่ฉันได้รับฉันเพิ่งกลับมาจากการส่งโนอาที่โรงเรียนตอนที่ฉันพบมันอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน ตอนฉันเห็นกล่องที่ถูกผูกด้วยโบว์สีแดงครั้งแรก ฉันคิดว่ามันคือของขวัญ จนกระทั่งฉันเปิดมันดูและพบซากหนูที่ตายแล้วพร้อมกับกระดาษโน้ตข้างในตอนนี้ฉันตื่นตระหนกมากเพราะการคุกคามนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายลงฉันทิ้งกล่องพร้อมกับหนูลงในถังขยะก่อนที่ฉันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหารีเปอร์ ฉันภาวนาขอให้เขาจะมีคำตอบให้ฉัน ให้เขาพบว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้เขารับสายหลังจากไม่กี่วินาทีและฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก“เอวา” เขารับสายลวก ๆ ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังสูบบุหรี่“โปรดบอกฉันทีว่าคุณมีบางอย่างให้ฉัน” ฉันอ้อนวอนอย่างสิ้นหวังฉันรู้ว่ามันหยาบคายที่ไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ แต่ฉันกลัว ฉันเป็นกังวลและคอยเหลียวหลังมองตลอด ฉันกลายเป็นหวาดระแวงมากจนใครก็ตามที่ฉันบังเอิญพบบนถนนหรือร้านค้า จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันทีฉันไม่ได้บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 233

    ส่วนที่สองโรแวน “คุณผู้ชาย? มีอะไรที่คุณอยากให้ฉันสั่งจากร้านอาหารไหมคะ” เลขาของผมถามขึ้นมา แต่ผมยังคงจ้องมองนอกหน้าต่างห้องทำงานของผมต่อไปวิวที่นี่ดีมากจริง ๆ มันคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมผมถึงเลือก แต่วันนี้มันไม่ได้ให้ความเงียบสงบกับผมตามปกติ “ไม่ล่ะ ไม่ใช่วันนี้” ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองเธอ“โอเคค่ะถ้างั้น ฉันจะกลับมาในอีกครึ่งชั่วโมง”ผมไม่ได้ตอบเธอและหลังจากไม่กี่นาทีที่ผมได้ยินเสียงประตูปิด ผมถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ลางสังหรณ์บางอย่างเกาะยึดติดกับผม มันล้อมรอบผมราวคลื่น วันนี้ยิ่งรู้สึกมากกว่าวันก่อนเสียอีกผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หัวใจของผมเป็นกังวล ผมไม่สามารถสงบสติอารมณ์และไม่สามารถจดจ่อได้ มันเหมือนว่าจิตวิญญาณของผมกำลังพยายามบอกผมบางอย่าง แต่ผมคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรผมพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง ผมนึกถึงเอวาและการพูดคุยของเรา ผมเข้าใจเธอ โธ่เว้ยผมทำให้เธอลังเลหรือเปล่า ผมใช้เวลามากกว่าสิบปีในการตอกย้ำเธอว่าเอมม่าคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรักผมทำทุกอย่างด้วยอำนาจของผมเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าผมใส่ใจเธอน้อยนิดแค่ไหน ผมใช้เวลาเก้าปีในการลงโทษเธอสำหรับบางสิ่

  • ธุลีใจ   บทที่ 234

    ผมเห็นเขาข่มความรู้สึกไว้ ก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ่อมาที่ผม“เป็นเอวา” เขาพูดออกมาในที่สุดผมกำลังจะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอวาก็ตอนที่เสียงที่ได้ยินในทีวีเอ่ยชื่อของเธอขึ้นมา ผมเริ่มหันไปมองยังทิศทางของทีวี“ได้โปรด โรแวน…อย่าดูเลย มองฉัน” น้องชายของผมอ้อนวอนผม แต่ผมไม่ได้สนใจเขาผมต้องการรู้ว่านักข่าวจะพูดอะไรเกี่ยวกับเอวากันแน่ข่าวด่วนพาดหัวข้อข่าวเขียนด้วยตัวอักษรใหญ่และหนา“มีข่าวด่วนเพิ่งเข้ามาค่ะ สมาชิกของตระกูลชาร์พและผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮปถูกยิงโดยบุคคลนิรนามในวันนี้ เรายังไม่รู้ว่าเธอตกอยู่ในสภาวะใด แต่มือปืนได้เปิดฉากยิงดูเหมือนว่าจะเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังเธอ วิดีโอที่คุณกำลังจะได้รับชมนี้อาจจะรบกวนใจบางคน”ผมรู้สึกว่าหัวเข่าอ่อนแรงลง แต่ไม่มีอะไรที่จะเตรียมพร้อมผมในการเฝ้ามองผู้หญิงที่ผมรักกำลังถูกยิงหลายครั้งวิดีโอแสดงให้เห็นในขณะที่เอวากำลังเดินออกมาจากร้านไอศครีม สายตาของเธอดูละห้อยและเธอมีการขมวดคิ้วเล็กน้อยบนใบหน้า ใครก็ตามที่ถ่ายวิดีโอจับภาพรถตู้สีดำที่มีกระจกป้องกันแสงแดดเร่งความเร็วไปยังทิศทางของเธอ เพียงก่อนที่เขาจะขับผ่านเธอไป คนที่สวมหน้ากากได้ลดกร

  • ธุลีใจ   บทที่ 235

    ให้ตาย ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธอ? ทำไมถึงมีคนทำแบบนี้กับเธอ? มีร่องรอยที่ผมเพิกเฉยไปใช่ไหม? เธอตกอยู่ในอันตราย แล้วผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยหรือ?คำถามยังคงโจมตีอยู่ในหัวของผมขณะที่เกบขับรถออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินไป ผมจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายและผมไม่ได้สังเกตเห็นมัน หรือแม้แต่จะทำอะไรสักอย่างด้วยซ้ำ“เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” ผมถามในขณะที่หวาดกลัวในคำตอบของเขาจนทำให้ผมหายใจไม่ออกเธอต้องมีชีวิตอยู่ เกบเหลือบหันมามองผม “ฉันไม่รู้มากนัก แต่ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่”‘ฉิวเฉียด’ คำพูดไม่ได้เอ่ยออกมา แต่บอกเป็นนัยผมเห็นวิดีโอนั้น ใครก็ตามที่ตามล่าเธออยู่ต้องการให้แน่ใจว่าเอวาตายไม่มีโอกาสรอด ผมไม่รู้การประเมินบาดแผลของเธอ แต่ผมรู้ว่าอย่างน้อยลูกกระสุนสองนัดได้โดนตัวเธอ“นายรู้ไหมว่าเธออยู่โรงพยาบาลไหน?” ผมถาม เสียงของผมฟังดูกระด้างแม้กระทั่งฟังด้วยหูของตัวเองผมจดจ่ออยู่กับการที่จะไปหาเธอมากจนผมไม่แม้แต่จะสนใจถามด้วยซ้ำว่าเธอถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลไหน ผมเพียงอยากจะไปอยู่ที่นั่นเพื่อเธอ“อืม ไม่ต้องห่วง ฉันโทรถามและได้ข้อมูลมาแล้ว พวกเขาบอกฉันว่าพวกเขาพาเธอไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 236

    “เอวา ชาร์พครับ” ผมเกือบตะโกนเมื่อมาถึงเคาน์เตอร์พยาบาลพยาบาลคนหนึ่งพยักหน้าและโบกมือเรียกผม “ทางนี้ค่ะ คนไข้ถูกพามาที่นี่เมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้ว ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน”“เธอเป็นยังไงบ้างครับ? แล้วเด็กล่ะ?”“ดิฉันขอโทษค่ะ คุณโรแวน ดิฉันไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ คุณหมอกำลังรักษาเธออยู่ และฉันได้รับคำสั่งให้พาครอบครัวของเธอไปที่ห้องพักรอเมื่อมาถึง”ผมอยากจะร้องตะโกน อยากจะระบายความโกรธใส่เธอ แต่ก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยเธอพาผมไปที่ห้องพักรอ จากนั้นก็รีบร้อนเดินออกไปในไม่กี่วินาทีต่อมา ทิ้งให้ผมอยู่กับความคิดที่วิ่งพล่านและความกังวลที่อัดแน่น เมื่อคิดว่าคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงแขนเล็ก ๆ ที่โอบรอบตัวผมผมหันไปมองสัมผัสอันฉับไวนี้ แล้วก็พบว่าเป็นแม่ของผมที่จ้องกลับมา“แม่” ผมเอ่ยอย่างแผ่วเบา น้ำตาคลออยู่ที่ขอบตา แต่กลับกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาผมไม่เคยรู้สึกไร้พลังขนาดนี้มาก่อน อ่อนแอเหลือเกิน“เอวาจะไม่เป็นไรนะลูก แต่ลูกต้องเชื่อมั่นก่อนนะ”ผมพยักหน้าเพราะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้“หมอว่ายังไงบ้าง?” เสียงของเล็ตตี้ทำให้ผมรู้ว่าทุกคนอยู่ท

  • ธุลีใจ   บทที่ 237

    ผมจ้องหมอราวกับคนโง่ที่ไม่เข้าใจภาษามนุษย์ ในความเป็นจริง คำพูดของเขายังไม่ได้ซึมซับเข้ามาในหัวผมทั้งหมด นี่กำลังขอให้ผมเลือกระหว่างเอวากับลูกในท้อง รู้บ้างหรือเปล่าว่ามันยากเย็นขนาดไหน?“คุณโรแวนครับ ทุกวินาทีมีค่า เราจำเป็นต้องทราบการตัดสินใจของคุณโดยไว้ครับ” หมอพูดแทบเป็นเหมือนการอ้อนวอนผมอ้าปากจะพูด แต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ผมพยายามอีกครั้งและก็เหมือนเดิม“คุณโรแวนคะ?” พยาบาลเรียกด้วยน้ำเสียงเจือความกังวล“เด็กค่ะ” เสียงอ่อนโยนของเล็ตตี้ดังขึ้น ทำลายความเงียบ “ถ้าต้องเลือก ก็ต้องช่วยเด็กค่ะ”หมอและพยาบาลพยักหน้าก่อนจะรีบกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมหันไปหาเล็ตตี้ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปั่นป่วนอยู่ภายในท่าทางของผมคงสื่ออะไรบางอย่าง เพราะเธอจ้องกลับมาด้วยสายตาแข็งกร้าวก่อนจะพูด“ไม่ต้องมองฉันแบบนั้นเลย โรแวน นี่คือสิ่งที่เอวาต้องการนะ” เธอพูดพร้อมกัดฟันกรอดโครินออกมาปกป้องเพื่อนตน“เล็ตตี้พูดถูก เอวาเลือกลูกก่อนเสมอไม่ว่าจะเวลาไหน ถ้าเราตัดสินใจเลือกช่วยชีวิตเธอแทนลูกในท้อง มีหวังโดนเกลียดไปตลอดแน่”ผมรู้สึกเหมือนพลังชีวิตถูกดึงออกไปหลังจากที่เธอพูดในสิ่งที่ผมคิดเมื่อไม่ก

  • ธุลีใจ   บทที่ 238

    ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ ขณะที่คำพูดนั้นยังคงสะท้อนอยู่ในโสตประสาทเอวาได้ลูกสาว เธอมีลูกสาวตัวเล็ก โนอาคงจะดีใจมาก เจ้าลูกชายสวดภาวนาให้ตนเองมีน้องสาว และคำอธิษฐานก็ได้รับการตอบรับแล้ว“ขอเห็นหน้าลูกสาวหน่อยได้ไหมครับ?”“เข้าใจครับว่าคุณคงอยากเจอลูกสาวมาก แต่อาจต้องรออีกสักหน่อยจนกว่าเราจะตรวจเสร็จเรียบร้อยนะครับ” หมอบอก ตอนแรกผมก็ไม่สามารถเข้าใจได้ในทันที แต่ในที่สุดผมก็รู้ว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นพ่อของเด็ก ผมไม่ได้ว่าอะไร เพราะผมกำลังตกตะลึงอยู่เช่นนั้น“เด็กคลอดก่อนกำหนดครับ อายุครรภ์เพียงยี่สิบหกสัปดาห์เท่านั้น และเมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณเอวา เด็กต้องถูกนำไปไว้ในตู้อบ เธอจะอยู่ในห้องที่แผนกบำบัดพิเศษทารกแรกเกิดจนกว่าเราจะมั่นใจว่าสุขภาพดีพอที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวครับ”ผมสังเกตว่าหมอไม่ได้พูดถึงเอวาเลย นั่นหมายความว่าเขาไม่มีหวังว่าเธอจะรอดใช่ไหม?หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อความคิดนั้นแล่นเข้ามา เอวาต้องรอดสิ ต้องรอดให้ได้สิ มิฉะนั้นเราจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไรหากไม่มีเธอ?“เตรียมใจเอาไว้ก่อนก็ดีนะครับ แต่เราจะพยายามอย่างเต็มที่ให้เด็กน้อยมีชีวิตรอด แต่อาจต้องท

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 414

    โรแวนดูมีความสุขในตอนนี้ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าเขาคงกลับไปคบกับเอมม่าอีกครั้ง นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ จากที่เกเบรียลเคยเล่าให้ฟัง โรแวนเคยเกลียดเอวาแบบสุดใจ เช่นเดียวกับที่เกเบรียลเคยเกลียดฉันสายตาของฉันเลื่อนไปที่เด็กผู้หญิงตัวน้อย เธอดูคุ้น ๆ แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน บางทีเธออาจเป็นลูกสาวของโรแวนกับเอมม่าก็ได้ ถึงแม้เธอจะดูไม่เหมือนเอมม่าที่ฉันจำได้เลยก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะพันธุกรรมที่แปลกประหลาด“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะ?” ฉันถาม“ชื่อไอริส” เกเบรียลตอบ พร้อมกับยืนใกล้ฉันจนทำให้รู้สึกแปลก ๆฉันขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างฉันมองไอริสต่อ เธอเหมือนพลังงานน้อย ๆ ที่สดใส ดวงตาสีฟ้าสวยส่องประกายจนฉันมองเห็นได้ชัดเจนแม้จากที่ที่ฉันยืนอยู่ เธอไม่เหมือนเอมม่าเลย แต่ถ้าจำไม่ผิด เอมม่ามีดวงตาสีฟ้า ดังนั้นไอริสน่าจะได้มาจากแม่“งั้นโรแวนก็กลับไปคบกับเอมม่าแล้วใช่ไหม” ฉันพูดเบา ๆ “พวกเขากลับไปคบกันตอนไหน แล้วเอวารับมือกับมันยังไง?”ฉันไม่เคยคิดว่าเอมม่าจะเป็นคนไม่ดี เราทุกคนเคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เธออายุมากกว่า ในขณะที่เอวากับฉันรุ่นเดียวกันเอมม่าต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 413

    ฉันไม่สามารถหยุดขยับตัวอย่างกระวนกระวายได้เลย ขณะที่ฉันและเกเบรียลเดินตามพ่อแม่ของเขาเข้าไปข้างใน หากพูดตรง ๆ การพูดคุยในออฟฟิศนั้นดีกว่าที่ฉันคาดไว้มาก ฉันไม่แน่ใจว่าฉันคาดหวังอะไร แต่ฉันไม่ได้คาดว่าจะเจอความสงบแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพียงความสงบก่อนพายุจะมา?ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกเบรียลไม่บอกพวกเขาว่าเราเคยแต่งงานกันมาก่อน แม้การแต่งงานของเราจะจบลงอย่างเลวร้าย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด ฉันไม่ชอบที่เขาปิดบังเรื่องนี้“ไหวไหม?” เสียงของเขาดึงฉันกลับมาสู่ปัจจุบันฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา และพบว่าสายตาเขาจ้องมาที่ฉันอย่างแน่วแน่ มันช่างลึกซึ้งเหมือนว่าเขากำลังอ่านฉันจนถึงจิตวิญญาณ ฉันดึงสายตาจากเขาแล้วมองไปข้างหน้าแทน“ไหว แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ฉันตอบตามตรงส่วนที่ยากที่สุดผ่านไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ฉันต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่กับครอบครัวของเขา บางทีอาจเป็นเพราะฉันยังคงรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบนผิวของฉันเมื่อตอนที่เขาเกือบจะจูบฉัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขายอมรับความผิดทั้งหมดในความล้มเหลวของความสัม

  • ธุลีใจ   บทที่ 412

    ขอบคุณพี่ชายของเธอที่ทำให้ผมรู้ว่าเธอต้องการผม และมันก็กลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านเธอ ผมอยากทำร้ายเธอ อยากทำลายเธอและทำให้เธอเจ็บปวดเพราะเธอพรากอิสระไปจากผม ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ได้ทันทีว่าการนอกใจจะทำให้เธอเจ็บปวด ผมเลยทำ และผมก็ทำให้เธอรู้ด้วย ผมอยากให้เธอเสียใจที่คิดจะวางกับดักผมและมันได้ผล ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอ ผมเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ผมรู้ว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว แต่การเห็นความเจ็บปวดในตาเธอมันทำให้ผมพอใจ“เวลาผ่านไปก็นานแล้วนะ แล้วลูกไปเจอเธออีกครั้งได้ยังไง?” แม่ถามต่อเมื่อผมไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับข้อสังเกตของพ่อ“ผมออกตามหาเธอครับ” ผมยักไหล่ “พวกกรรมการบริหารนั่นอยากให้ผมแต่งงานเป็นหลักเป็นแหล่งสักที ผมเลยทำแบบนี้”สายตาของแม่หันไปทางฮาร์เปอร์ “แล้วเธอยอมแต่งงานกับเขา ทั้งที่เขาปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายขนาดนั้นเหรอ?”ผมสะดุ้งกับคำพูดของแม่ ผมเกลียดที่ทำให้แม่ผิดหวัง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกับผม ฮาร์เปอร์ยักไหล่ตอบ “เขามีสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็เลยตอบตกลงค่ะ”พ่อกับแม่หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันกลับมาทางเรา“หมายถึงอะไร?” พ่อถามด้วยสายตาที่จ้องจับผิด“บริษั

  • ธุลีใจ   บทที่ 411

    ผมรู้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะต้องรุนแรงแน่ ๆ ใครล่ะจะไม่ตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกบอกว่ามีลูกสะใภ้กับหลานสาวที่ไม่เคยรู้มาก่อนพ่อเริ่มเดินไปเดินมา และผมก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร พ่อพร่ำสอนผมกับโรแวนเสมอ เรารู้เสมอว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะเราเองก็คิดแบบเดียวกันเขาน่าจะกำลังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สงสัยว่าผมตรวจดีเอ็นเอแล้วหรือยังว่าลิลลี่เป็นลูกสาวของผมจริง หรือเปล่า และเขาคงสงสัยด้วยว่าฮาร์เปอร์หลอกล่อหรือวางกับดักอะไรผมหรือเปล่า เขากำลังพยายามคิดถึงทุกแง่มุม“แล้ว…มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ไปมีเมียมีลูกตอนไหนยังไง?” แม่เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกักใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเลื่อนจากผมไปที่ฮาร์เปอร์ ซึ่งกำลังก้มหน้ามองพื้นอย่างเงียบ ๆ เธอดูประหม่าและตื่นตระหนกน ผมรู้สึกอยากจะโอบกอดเธอ อยากปลอบโยนเธอด้วยสัมผัสของผมความรู้สึกที่รุนแรงต่อเธอนั้นทำให้ผมงุนงง มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนตอนที่เรายังแต่งงานกัน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ ผมถึงอยากทำในสิ่งที่ผมไม่เคยอยากทำมาก่อน?“ตอบแม่สิ เกบ” เสียงเข้มของพ่อทำให้ผมหลุดจากความคิด“เราเคยมีความสัมพันธ์กันเมื่อหลายปีก่อน” ผมเริ่มพู

  • ธุลีใจ   บทที่ 410

    เกเบรียล“แม่ครับ!” ผมตะโกนเรียกพลางรีบวิ่งไปหาเธอแม่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ต้องมีใครบอก ผมก็รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะช็อกตอนเห็นลิลลี่ เหมือนตอนที่ผมเจอครั้งแรก เธอแค่เห็นตาสีเทาคู่นั้นครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่าลิลลี่เป็นหนึ่งในสายเลือดของตระกูลวู้ดผมค่อย ๆ ตบแก้มของแม่เบา ๆ แต่เธอก็ยังไม่ฟื้น ผมจึงค่อย ๆ สอดแขนข้างหนึ่งใต้บ่า และอีกข้างหนึ่งใต้หัวเข่าของแม่ แล้วยกเธอขึ้นมาวางบนโซฟาที่ใกล้ที่สุด“พ่อ! โรแวน!” ผมตะโกนเรียกอย่างร้อนรน เพราะไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว“คุณย่าจะเป็นอะไรไหมคะ?” ลิลลี่ถามเสียงแผ่วเบาและเปราะบาง “หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า? หรือที่คุณย่าเป็นแบบนี้เพราะหนูใช่ไหมคะ?”น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาของเธอทำให้ผมใจอ่อน ในเวลาไม่นาน ลิลลี่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม การเห็นเธอร้องไห้ทำให้ผมเจ็บปวด ผมคิดว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยรักใครมากเท่าที่ผมรักลิลลี่ แม้แต่โรแวน ฝาแฝดของผมเอง ก็ยังไม่อาจเทียบได้ก่อนที่ผมจะตอบคำถามของเธอ ฮาร์เปอร์ก็พูดแทรกขึ้นมา“ไม่หรอกจ้ะ ลูกรัก” ฮาร์เปอร์ตอบพร้อมวางผ้าชุบน้ำเย็นลงบนหน้าผากแม่ ผมไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอไปเอาผ้ามาเมื่อไหร่“

  • ธุลีใจ   บทที่ 409

    เสียงโทรศัพท์ของเกเบรียลทำให้ฉันลุกขึ้นจากที่เดิมที่ลิลลี่ทิ้งฉันไว้ ฉันยังไม่อยากเชื่อว่าเธอจะพูดแบบนั้นกับฉันได้ ตอนที่เลียมยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่เคยกังวลที่ไม่มีพี่น้อง เธอไม่เคยขอมีพี่น้องด้วยซ้ำ ฉันเลยสงสัยว่าอะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปแบบนี้กะทันหันฉันรู้ว่าตอนนี้คุณอาจสงสัยว่าทำไมฉันกับเลียมถึงไม่มีลูก ทั้งที่แต่งงานกันมานานขนาดนั้น เรื่องจริงก็คือ เราพยายามแล้ว เลียมอยากมีครอบครัว อยากมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง ฉันรู้ว่าเขารักลิลลี่เหมือนลูกแท้ ๆ ของเขา แต่เขาก็อยากมีลูกที่เป็นสายเลือดของตัวเองด้วยฉันเองก็อยากจะให้เขามีสิ่งนั้น ฉันอยากขอบคุณเขาที่อยู่เคียงข้างฉันในตอนที่ฉันไม่มีใคร ที่แต่งงานกับฉันและมอบครอบครัวให้กับลิลลี่ การมีลูกให้เขาสักคนไม่ได้เป็นสิ่งที่มากเกินไป และฉันก็ไม่เห็นปัญหาอะไรอย่างที่บอก เราพยายามแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งหนึ่งปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาถึงยอมไปตรวจสุขภาพ ผลปรากฏว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจสลาย เราได้รู้ว่าเขาไม่สามารถมีลูกได้ วันที่เราอยู่ที่คลินิก ฉันเห็นแสงบางอย่างในตัวเขาดับลงไป การรู้ว่าเขาไม่สามารถเป็นพ่อได้เหมือนทำลา

  • ธุลีใจ   บทที่ 408

    ลิลลี่มองพวกเราสลับไปมาระหว่างฉันกับพ่อเธอ ฉันเห็นคำถามมากมายในสายตาเธอ ความสงสัยเกี่ยวกับฉันและเกเบรียลอย่างที่ฉันพูดไปแล้วว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ฉันไม่ควรจะรู้สึกดึงดูดใจต่อเกเบรียลอีกหลังจากที่ห่างกันไปหลายปี ฉันเคยคิดว่าความรู้สึกที่มีต่อเขาจะจบลงไปแล้ว การปฏิบัติที่เขาเคยทำกับฉันเมื่อหลายปีก่อนควรจะฆ่าความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันเคยมีต่อเขาแต่ฉันคิดผิด เพราะตอนนี้ฉันกลับมายืนอยู่ตรงนี้ เกือบจะจูบเขา ฉันรู้สึกแย่มากที่ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอเพียงชั่วขณะ และปล่อยให้ร่างกายพาฉันหลงใหลในตัวเขา“สองคนจะจูบกันเหรอคะ?” ลิลลี่ถามอย่างไร้เดียงสา ฉันอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกจิตใจฉันวุ่นวาย ฉันไม่รู้จะตอบเธออย่างไร ควรจะบอกความจริงเธอไหม? แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็โกหกไม่ได้เมื่อเธอเห็นเต็มสองตา“เอ่อ…เอ่อ...” ฉันพยายามหาคำพูดที่เหมาะสมจะตอบในหัวของฉันยังคิดถึงเรื่องเลียม เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ลิลลี่เคยเห็นฉันจูบ ผู้ชายคนเดียวที่เคยอยู่ในชีวิตของเรา ฉันกลัวว่าถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ เธอจะเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเกเบรียลพยายามสร้างความสัมพันธ์กับเธอ แต่ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา เลียมคือพ่อของเธอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 407

    ฉันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ขณะที่ยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก แต่ทุกอย่างพังทลายทันทีเมื่อรสชาติของมันกระแทกลิ้น ฉันถึงกับพ่นมันออกมา.“รสชาติสุดจะทนมาก กระเดือกลงได้ไงคะเนี่ย?” ฉันถามพลางเช็ดปากครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้ยินเกเบรียลหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาทุ้มลึกและเย้ายวนจนทำให้ร่างกายฉันสั่นไหว เสียงหัวเราะแบบที่ทำให้คุณลืมแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง ฉันคนเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกว่าเสียงหัวเราะของคนอื่นมีเสน่ห์?เขายักไหล่ “มันเป็นรสชาติที่ต้องค่อย ๆ ฝึกถึงจะชอบได้ มันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนหรอก”ฉันทำได้แค่พยักหน้าเหมือนเสียงหายไป ฉันยังคงตกใจอยู่ที่เกเบรียลหัวเราะ เสียงหัวเราะกลายเป็นรอยยิ้มที่แท้จริง เป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มันชวนให้หลงใหลจนฉันเกลียดตัวเองที่เผลอหลงเสน่ห์เขา“เป็นอะไรไหม?” เขาเข้ามาใกล้มากขึ้น “เหมือนตะลึงอะไรอยู่เลย”“คุณยิ้มสวย เสียงหัวเราะก็เพราะ”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดจากปาก ฉันรู้สึกอยากต่อยตัวเอง ฉันพูดอะไรออกไป? ทำไมฉันถึงปล่อยคำเหล่านั้นหลุดออกมา? สิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการคือให้เขาคิดว่าฉันยังมีใจให้เขา“อะไรนะ?”“เปล่า” ฉันรีบตอบก่อนจะหมุนตัวและ

  • ธุลีใจ   บทที่ 406

    เมื่อเกเบรียลบอกฉันว่าเราจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาในงานบาร์บีคิวประจำสัปดาห์ ฉันไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้เมื่อวานนี้ที่ออฟฟิศวุ่นวายมาก มันชัดเจนเลยว่าเกเบรียลมีพนักงานผู้หญิงหลายคนที่อยากได้เขาไปครอบครอง พูดตามตรงฉันไม่ถือหรอก ช่วยไม่ได้ที่เขาหล่อและเซ็กซี่ขนาดนั้น สิ่งที่ฉันไม่ชอบคือสายตาอิจฉาและเกลียดชังที่ฉันได้รับจากผู้หญิงพวกนั้นบางคนฉันเคยคิดว่ามิลลี่เป็นคนเดียวที่อยากครองเขาไว้ ฉันคิดผิดแน่นอน นับไม่ถ้วนเลยว่าฉันถูกผู้หญิงหยุดไว้กี่ครั้งตอนที่คริสโตเฟอร์ส่งฉันไปทำงานบางอย่างดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนที่เกเบรียลเคยต่อว่าคือคนที่แพร่ข่าวว่าฉันคือผู้หญิงคนใหม่ของเกเบรียล ฉันเดาว่ามือของเขาที่แตะแผ่นหลังของฉันคงบอกชัดเจนแล้ว ข่าวดีคือพวกเขาทุกคนคิดว่าฉันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคราวและเขาจะเบื่อฉันในไม่ช้าพวกเธอรู้สึกว่าควรเตือนฉันว่าอย่าทำตัวสบายเกินไปที่นี่ เพราะเกเบรียลจะเบื่อฉันในไม่กี่สัปดาห์ ฉันสงสัยจังว่าพวกเธอจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อรู้ว่าฉันเป็นภรรยาของเขาตอนห้าโมงเย็น เกเบรียลทำให้ฉันประหลาดใจด้วยการกลับบ้านมาพร้อมฉัน ตอนนั้นเองที่เขาบอกเรื่องบาร์บีคิวประจำสัปดาห์ที่บ้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status